ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO x YOU] :::: Overdose 중독

    ลำดับตอนที่ #4 : 02 --100%--

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 57




    ตอนที่ ๒



    Your love , Your love

    ได้รับถึงรู้ว่าต้องการ และต้องการความรักเธอซึมซับมาอีก

    จินตนาการ Fantasy  เธอทำให้เข้าใจมันเป็นอย่างนี้...










     

     

     

                    ร่างบางค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างเหนื่อยหน่าย ใบหน้าสวยฉายแววความอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะถอนหายใจเสียงดัง ในหัวพลางคิดไม่ตกเรื่องที่เพิ่งเจอเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ทำลายความคิดฟุ้งซ่านที่มีอยู่ในหัวออกไป มือเรียวคว้าสะเปะสะปะไปมาบนที่นอนข้างตัว เพื่อหาโทรศัพท์เครื่องหรู เมื่อรู้ว่าคนปลายสายคือใคร จึงทำได้เพียงถอนหายใจยาวๆ อีกครั้ง

                    ‘‘ค่ะพ่อ’’

                    (ทำงานวันแรกเป็นไงบ้างลูก โอเคมั้ย)  เสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความห่วงใยถูกส่งมาจากผู้เป็นพ่อ

                    ‘‘.....โอเคมั้งคะ’’  ตอบไปงั้นๆ ทั้งที่ในใจอยากจะกรีดร้อง และระบายถึงความแสบของพวกเขาให้ผู้เป็นพ่อฟังเหลือเกิน แต่ก็อย่างที่บอก การโวยวายเสียงดังมันไม่ใช่นิสัย

                    (ทำเสียงงอแงแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาดื้อมากละซิ) แต่ผู้เป็นพ่อมักจะจับได้เสมอ  ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกสาวตนเองเป็นยังไง ถึงจะเหนื่อยหรือลำบากแค่ไหนเธอก็ไม่คิดจะปริปากพูดหรอก เขารู้ดี

                    ‘‘นิดหน่อยค่ะ แต่เบบี้คิดว่า.....’’ 

                    (หื้ม ว่าไงลูก?) เมื่อเห็นลูกสาวละไว้นาน ด้วยความเป็นห่วงจึงถามไถ่ออกไป

                    ‘‘ไม่มีอะไรหรอกค่ะพ่อ  แค่นี้นะ เบบี้อยากพักผ่อน’’

                    (เดี๋ยวๆ เบบี้)

                    ‘‘คะ?’’

                    (ดูแลตัวเองด้วยนะลูก ว่างๆ พ่อจะไปเยี่ยม)

                    ‘‘อย่าลำบากเลยค่ะ’’

                    (หึ พ่อลืมบอกไป คุณซองวูจะส่งหมออีกคนไปช่วยลูกทำงานนะ สัปดาห์หน้าน่าจะได้เจอกัน ท่านกลัวลูกเอาพวกเขาไม่อยู่น่ะ)

                    ‘‘ทำไม.....’’

                    (เถอะน่า มันก็ดีแล้ว ลูกจะได้เหนื่อยน้อยลงไง แค่นี้นะลูก)  พูดจบผู้เป็นพ่อก็วางสายไป ทิ้งให้หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความไม่เข้าใจ  ไม่ใช่ว่าเธอทะนงตัวเองว่าเก่งจนไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร แต่เธอไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับงานที่เธอทำเสียมากกว่า แล้วอีกอย่าง คือเธอไม่ชอบที่จะพบปะกับใครมากนัก การที่ต้องอยู่คนเดียวมันทำให้เธอรู้สึกดีและมีความสุข แต่ถ้าเลี่ยงที่จะอยู่คนเดียวไม่ได้ หรือจำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมกับใครสักคน มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากนัก

     

     

     

     

     

     

     

     








     

     

     

                    ก๊อก ก๊อก ก๊อกกกกกกกก

                    ระหว่างที่ฉันกำลังจะถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ต้องใส่มันกลับไปอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้เรียบร้อยมากนัก เพราะฉันไม่อยากให้แขกรอนาน ถ้าให้เดาคิดว่าคงเป็นฮานึลที่ขึ้นมาตามไปทานข้าว 

                    ฉันรีบสาวเท้ายาวๆ เพื่อไปเปิดประตูต้อนรับคนด้านนอกโดยไม่ได้คิดระวังตัวมากนัก มือค่อยๆ บิดลูกบิดอย่างไม่รีบร้อน ในวินาทีที่ประตูถูกเปิดออก ภาพร่างสูงตางหน้าทำให้ฉันชะงักเล็กน้อย ในหัวเกิดการตีรวน

     











     

     

     

     

     

                    Shit! มาได้ไงวะ..

     

     








     

     

                    ร่างสูงเอียงคอมองหนาฉันเล็กน้อย ก่อนจะถือวิสาสะผลักฉันไปให้พ้นทางและพาร่างสูงๆ ของตนเข้าในห้อง

                    ‘‘...นะ..นาย’’

                    ‘‘ลูกชายผมเขาบ่นว่าอยากอาบน้ำ ขอยืมห้องน้ำหน่อยได้มั้ยครับ’’

                    ‘‘.................’’

                    ‘‘ได้มั้ยครับ....คุณหมอ’’ มือหนาเอื้อมมาบีบต้นแขนฉันแรงๆ นัยน์ตาสีเข้มจ้องเขม่งมาเพื่อต้องการกดดัน และมันก็ได้ผลมากเสียด้วย...

                    ‘‘อะ......เอาสิ..ตะ..ตามสบายเลย’’ เมื่อคิดว่ายังไงก็ไม่สามารถขัดเขาได้อยู่แล้ว จึงทำได้แค่อนุญาตไปเท่านั้น

                    ‘‘ดูเหมือนคุณหมอกลัวผมนะครับ....’’ 

                    ‘‘ไม่นี่...’’  หึ โกหกน่ะสิ บอกเลยว่าสายตาแบบนี้ทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะขยับ

                   ‘‘ก็ดี’’ พูดจบเขาก็วางสิ่งที่เขาเรียกมันว่าลูกชายลงบนเตียงนอนของฉัน ร่างสูงค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้ออกทีละเม็ดจนในที่สุดมันก็ถูกปลดออกจนหมด พร้อมๆ กับถูกโยนไปไว้บนพื้น

     








     

     

     

                    แม่งเอ้ย  ไหนบอกว่าพาลูกชายมาอาบน้ำไง

     

     

     







     

                    ‘‘นี่....เดี๋ยว...’’  การกระทำของเขาทำให้ฉันค่อนข้างงง จริงๆ แล้วก็ตั้งแต่ที่เขามาที่นี่แล้วล่ะ

                    ‘‘อะไร?’’

                    ‘‘มาที่นี่ได้ยังไง’’

                    ‘‘ขึ้นบันไดมาน่ะสิ’’

                    ‘‘โอเค ฉันรู้ แต่....นายออกมาจากห้องนั้นได้ยังไง....’’

                    ‘‘มันไม่ได้ล็อกนี่...’’ เขายิ้มยียวนก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ

                    ‘‘จะ....จะทำอะไร’’ ฉันรีบถอยกรูทันทีเมื่อรู้ว่าร่างสูงกำลังย่างเท้าเข้ามาใกล้

                    ‘‘หึ...’’ ใบหน้าหล่อแสยะยิ้ม พร้อมกับจ้องด้วยสายตาแข็งกร้าน ฉันที่ถอยหลังกรูต้องชะงักอีกครั้งเพราะรู้สึกเหมือนแผ่นหลังกำลังชนกับกำแพงห้อง ฉันพยายามจะหลีกหนีเขาแต่ก็ไม่สำเร็จ แขนแกร่งยันกำแพงเหมือนเป็นการกักขังกรายๆ ก่อนใบหน้าหล่อจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ ลมหายใจร้อน พร้อมจังหวะการหายใจที่รวดเร็วทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ

                    ‘‘อย่าเข้ามาใกล้’’ ฉันกัดฟันพูด พยายามรวบรวมสติของตัวเองให้อยู่กับเนื้อกับตัว

                    ‘‘....ใกล้ไม่ได้หรอครับ’’ จมูกโด่งเป็นสันเลื่อนมาคลอเคลียแก้มฉันเบาๆ

                    ‘‘นี่ อี้ฟาน ถอยไป!’’










                         ---------------25%---------------
















                   ‘‘ผมไม่ได้จะทำอะไรซะหน่อย....ก็แค่......’’ ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลง เขาซุกใบหน้าลงที่กดจูบเบาๆ มือหนาค่อยๆ เลื่อนลงมือสัมผัสมือฉันเบาๆ ก่อนที่จะชูมันขึ้น ใบหน้าหล่อละจากซอกคอมามองหน้าพร้อมกับยกยิ้มล้อเลียน...

                    ‘‘............’’

                    ‘‘ทำแผลเถอะ..’’ เขาพูดพร้อมกับจูงมือมานั่งที่เตียง เกือบลืมไปว่ามือฉันเจ็บ แต่ตัวต้นเหตุก็ไม่ใช่ใคร ก็เพราะเขานั่นแหละ

                    ‘‘เดี๋ยวทำเอง ฉันเป็นหมอ’’

                    ‘‘อย่าอวดเก่งได้มั้ย’’

                    ‘‘นายนั่นแหละอย่ามาอวดเก่ง...’’

                    ‘‘หุบปากเถอะ’’

                    ‘‘เฮ้ออออ.....’’ ฉันถอนหายใจยาวๆ กับความดื้อด้านเอาแต่ใจของอี้ฟาน จะทำอะไรได้นอกจากไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาให้เขาทำแผลให้

                    ‘‘เสร็จแล้วล่ะ... ’’

                    ‘‘ขอบคุณ...’’

                    ‘‘มีอะไรที่คุณหมอสามารถให้ผมได้มากกว่าคำขอบคุณมั้ยครับ?’’

                    ‘‘......มะ....’’

                    ‘‘ไม่เอานะไม่เอา อย่าตอบว่าไม่มีสิครับ...’’ อี้ฟานใช้นิ้วเรียวแตะริมฝีปากฉันเบาๆ

                    ‘‘...............’’

                    ‘‘ว่าไงครับ มีอะไรที่ให้ผมได้มากกว่าคำขอบคุณมั้ย’’

                    ‘‘อยากได้อะไรก็ว่ามาเถอะ...’’

                    ‘‘หึ....ตอนนี้หรอ.....’’ อี้ฟานลากสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า

                    ‘‘อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น!!!’’

                    ‘‘ฮ่าๆ ผมมองด้วยสายตายังไงหรือครับ หื้ม?’’

                    ‘‘ก็....’’

                    ‘‘.....?’’

                    ‘‘สายตาโรคจิต...’’

                    ‘‘อ่า...นั่นสิ ผมคงโรคจิตจริงๆ ละมั้ง...คุณหมออยากรู้มั้ยล่ะว่าผมโรคจิตจริงหรือเปล่า’’  อี้ฟานยิ้มกริ่ม สายตาเจ้าเล่ห์แบบนี้สาบานเหอะว่าถ้าไม่ได้อยู่ในห้องสองต่อสองฉันกระโดดถีบยอดหน้าไปละ

                    ‘‘สาบานว่าไม่ได้กวนประสาทฉันอยู่!’’

                    ‘‘แน่นอนสิครับ...’’

                    ‘‘Damn!’’

                    ‘‘ฮ่าๆๆ ผมไปอาบน้ำดีกว่า ท่าทางคุณหมอจะเริ่มอารมณ์ไม่ดีละ..’’

                   ฉันเบ้ปากเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ จนร่างสูงของอี้ฟานหายลับเข้าไปหลังประตูห้องน้ำ  ฉันทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างเหนื่อยหน่าย พยายามหายใจช้าๆ เพื่อให้ใจเย็นลง แต่สายตากลับไปสะดุดกับวัตถุนุ่มนิ่มสีขาวสะอาดตาที่ถูกวางอยู่ข้างๆ ตัว

                    ‘‘หึ...ประสาท จะมีใครที่ไหนเรียกตุ๊กตาว่าลูกชาย...’’ ฉันหยิบมันขึ้นมาชูกางอากาศ แล้วเพ่งสายตามองอย่างพิจารณา พลางนึกถึงคนไข้ที่กำลังอาบน้ำอยู่

     

     








     

                    แกร๊กกกกกกก

                    ในระหว่างที่ฉันกำลังคิดเรื่องเรื่อยเปื่อยโดยที่ในมือยังถือเจ้าตุ๊กตาอัลปาก้าอยู่ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ทำให้รู้ว่าอีกคนกำลังจะออกมาจากห้องน้ำ  แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจมากนัก

                    ‘‘คุณทำอะไร!!!!’’ เสียงตะคอกของอี้ฟานทำให้สะดุ้งตัวขึ้น  เพ่งมองหน้าเขาด้วยอาการงงงวย...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    ตะโกนทำซากอะไรห๊ะ

     

     

     

     

     

     

     

                    ‘‘......ก็..’’

                    ‘‘เอามานี่’’ อี้ฟานตรงเข้ามาหาพร้อมกับดึงตุ๊กตาที่อยู่ในมือออกอย่างแรง

     






     

                    แคว้กกกกกกกกกกก

     

     

     

     

                    แต่อาจเป็นเพราะเขาดึงแรงเกินไป  มันเลยขาด......

     

     

     

                   

     

                    ‘‘.........’’ อี้ฟานได้แต่ส่งสายตานิ่งๆ มองไปที่ตุ๊กตาของเขา ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนสายตามามองที่ฉันที่กำลังตกใจอยู่ สาบานได้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้มันขาด...





                    ‘‘อี้ฟาน...คือฉัน..’’

                    ‘‘มึงทำเหี้ยอะไร!!!’’ เสียงตะคอกของเขาทำให้ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจ นัยน์ตาสีแดงก่ำจ้องเขม่งมาที่ฉันด้วยความดุดัน

                    ‘‘อี้ฟาน...ขะ..ขอโทด..ฉันไม่ได้...’’

                    ‘‘อย่ามาแก้ตัว!!!’’  อี้ฟานตรงเข้ามาประชิดตัวฉันอย่างรวดเร็ว มือหนากระชากผมฉันด้วยแรงที่มากจนทำให้ต้องเอนหัวไปตามแรงที่กระชาก ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเป็นปม สายตาดุดันนั่นทำให้ฉันหวั่นใจไม่น้อย

     

     

     

     









     

                    เป็นอะไรกับผมกูนักหนา ดึงกันเข้าไปสิไอ้เหี้ย!!!

     

     

     








     

     

     

                    ‘‘นี่ เจ็บนะ ปล่อยสิวะ’’

                    ‘‘หึ....กูไม่เคยบอกหรอว่าห้ามมายุ่งกับของๆกู’’

                    ‘‘ก็กูขอโทษแล้วป่ะวะ’’ ฉันจ้องหน้าอี้ฟานอย่างเอาเรื่อง ถึงฉันจะกลัวเขา แต่ฉันก็ไม่ยอมให้เขามากล่าวหาฉันฝ่ายเดียวหรอก มันไม่ใช่ความผิดฉันด้วยซ้ำ มันเป็นเพราะเขา เขาตางหากที่ผิด

                    ‘‘อยากตายนักใช่มั้ย!!!’’ ตะคอกเสียงดังจนมันให้สะดุ้ง นัยน์ตาสีเข้มกลับค่อยๆกลายเป็นสีแดงจนน่ากลัว แรงกระชากที่เส้นผมกลับเพิ่มมากขึ้น เขาดึงแรงจนฉันรู้สึกเหมือนเส้นผมกำลังจะหลุดออกไปทั้งหัว ฉันได้แต่กัดฟันกรอดและจ้องหน้าเขาด้วยความโกรธเคือง

                    ‘‘...........’’

                    ‘‘จะสงเคราะห์ให้’’ พูดจบร่างสูงก็อุ้มฉันพาดไหล่ และพาไปยังมุมหนึ่งของห้อง เขาโยนฉันลงบนพื้นแข็งอย่างไม่ปราณี ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาใส่เต็มประดา แต่มันไม่ได้ทำให้ฉันนั่งอยู่เฉยๆ เพื่อรอหายนะที่คนตรงหน้ากำลังจะมอบให้ ฉันพยายามพยุงตัวขึ้นเพื่อลุกหนี แต่มันก็ยากเหลือเกินเพราะความบอบช้ำที่สะโพก และความเจ็บปวดที่พวกเขาได้ทำไว้ก่อนหน้านี้มันทำให้ฉันแทบหมดแรง อี้ฟานค่อยย่างกรายเข้ามาใกล้พร้อมกับสายตาที่ดุดัน

                    ‘‘ยะ...อย่า อย่าเข้ามา’’´ฉันได้แต่ร้องขอเขาอย่างหมาจนตรอก ใช่ไง ตอนนี้ฉันมันก็เหมือนหมาตัวหนึ่งที่หาทางรอดไม่เจอ

                    ‘‘หึ....ไม่ต้องกลัว มันไม่เจ็บหรอก... เพราะเธอคงหยุดหายใจก่อนจะรู้สึกเจ็บ’’ อี้ฟานเริ่มใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ฉันเพิ่งจะสั่งเกตเห็นกรรไกรปลายแหลมที่อยู่ในมือ

     

     

     

     





     

     

     

                    แม่งเอ้ยย คิดจะฆ่ากูจริงๆ ใช่มั้ย!

     

     









     

     

     

                    ‘‘ถอยไป...’’ ฉันพยายามร่นตัวถอยหลังอย่างร้อนรน ถ้าไม่กลัวก็ไม่ใช่คนแล้วว่ะค่ะ

                    ‘‘โอเค...ถอยก็ถอย’’ อี้ฟานยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะหันหลังกลับไป รู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่ความกลัวต้องการเอาตัวรอดกลับมีมากกว่า ฉันใช้จังหวะที่เขาหันหลังพยายามออกตัววิ่งไปที่ประตู แต่มันก็ช้าเกินไป....

     





     

     

                    ในขณะที่ฉันกำลังจะออกตัววิ่ง อี้ฟานกลับหันหลังกลับมา พร้อมกับกระชากตัวฉันไว้ มือใหญ่ดึงฉันด้วยความรุนแรง ร่างสูงเหวี่ยงฉันลงเตียงด้วยความป่าเถื่อน ใบหน้าหล่อกลับแสดงถึงความโกรธเคืองได้อย่างชัดเจน

                    ‘‘หึ....คิดว่าจะปล่อยไปง่ายๆรึไง....คนเหี้ยๆ แบบคุณต้องโดนซะบ้างถึงจะรู้สึก’’ ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้สติ... แต่กูไม่เข้าใจ

     

     

     





     

     

     

     

     

     

                    แค่ทำตุ๊กตางี่เง่านี่ขาดกูถึงกับดูเป็นคนเหี้ยๆ เลยหรอวะ






    -----------------75%---------------------











    อี้ฟานรวบข้อมือฉันไปไว้เหนือหัวพร้อมกับกระชากเสื้อที่ฉันสวมอยู่มามัดข้อมือไว้กับหัวเตียง ย้ำนะว่ากระชากเสื้อกู!!  ง่ายๆ เลยคือตัวกูตอนนี้เหลือแค่บราเซียกับกางเกงขาสั้นซึ่งแม่งก็ไม่ได้ช่วยให้กูโป๊น้อยลงเลยไง

                    ‘‘แม่งเอ้ยยย ตั้งสติหน่อยสิวะ’’ ฉันพยายามขืนตัวสุดชีวิตเพื่อให้หลุดจากการพันธนาการของอี้ฟาน แต่แรงผู้ชายมันมากเหลือเกิน

                    ‘‘ หุบปาก!!! จะตายอยู่แล้วยังจะปากดี’’ เสียงทรงพลังแทบทำให้ฉันไม่กล้าขยับตัว

                    ‘‘..............’’ ฉันจ้องหน้าเขาด้วยนัยน์ตาที่แดงก่ำ ความกลัวเริ่มทวีคูณ เพียงเพราะนัยน์ตาสีเข้มที่กวาดมองทั่วเรือนร่างพร้อมกระตุกยิ้มร้ายที่ดูยังไงมันก็โรคจิต!!!

                    ‘‘หึ กลัวไง?’’

                    ‘‘.............’’

                    ‘‘ไม่ต้องกลัว มันไม่เจ็บหรอก....เชื่อสิ มันไม่เจ็บ มันไม่เจ็บ ได้ยินมั้ยว่าไม่เจ็บ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ’’´อี้ฟานบ่นพึมพำกับตัวเองพร้อมกับกุมมือบริเวณขมับ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ท่าทางของเขาทำให้ฉันหวั่นอยู่ไม่น้อย ใช่ไง กูกลัว แม่งเอ้ย ทำไมน้ำต้องไหลด้วยวะ

                    ‘‘ฮึก.....’’ ฉันพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเพื่อไม่ให้คนตรงหน้าหันมาสนใจ ฉันรู้ว่าอี้ฟานกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ และตอนนี้ยอมรับเลยว่ากูก็กำลังจะบ้าไปตามมันเหมือนกันนี่แหละ

                    ‘‘ร้องไห้ทำไม.....’’ อี้ฟานเลื่อนมือมาเช็ดน้ำตาให้ แต่เพียงไม่นานมือหนาที่เคยสัมผัสอยู่ที่แก้มกลับเปลี่ยนมาขย้ำเส้นผมแทน

     

     

     

     

     

                    จะดึงผมกูอีกแล้วใช่มั้ย

     

     

     

     

     

     

                     ปั๊กกกก ปั๊กกกกกกกกกกก

                    ‘‘อะ...โอ้ยยยยย  ปะ..ปล่อยยยย’’ สงสัยมั้ยว่าเสียงอะไร?  สงสัยมั้ยว่าฉันร้องโอดครวญทำไม?

                    เลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลปริ่มออกมาตามแนวคิ้วเรียว กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งลอยแตะจมูกทำให้แทบจะอาเจียนเอาอาหารในท้องออกมาเสียให้หมด

                    ‘‘ฮึก....ปล่อย’’ ฉันในเมื่อมันกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ไหวฉันก็ทำได้แต่บอกเขาให้เขาปล่อยไป ทั้งๆ ที่มันไม่ง่ายเลย อี้ฟานไม่ยอมหยุดจับหัวกูโขกหัวเตียงเลยไง

     

                    ปั๊ก ปั๊กกกกกกกกกกกกกกก

                    ‘‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด’’

     

     

     

                    ปั๊ก ปั๊กก ปั๊กกกกกกกกกกกกก

                    ‘‘เจ็บบบบ อี้ฟาน ปล่อยย ฮึก..’’

                    อี้ฟานยังคงจับหัวฉันโขลกกับหัวเตียงไม่ยั้งมือ ไม่มีการออมแรง ความรู้สึกเจ็บโลดแล่นเข้ามาไม่หยุด มันเหมือนกับหัวจะแตกเป็นเสียงๆ กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งทำให้รู้สึกตาลายเอาซะง่ายๆ

                    ‘‘ฮึกกกกกกก ปะ..ปล่อยยยย’’ เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆจะปิดลงช้าๆ กลิ่นคาวเลือดนั่นทำให้สติฉันเลือดสลอยไปได้ง่ายๆ จนถึงตอนนี้อี้ฟานก็ยังไม่ยอมหยุด

     

     

     

     

     

     




     

     

     

     

     

     


     

                     ฉันคงจะต้องตายเพราฝีมือเขาสินะ...

     

     

     








     

     

     

     

     

     

                    ‘‘ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ’’ เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของชายหนุ่มผู้ไร้ซึ่งการควบคุมดังอย่างบ้าคลั่ง มือหนาที่กอบกุมกลุ่มผมนุ่มค่อยๆ คลายออกเมื่อเห็นว่าร่างบางได้หมดสติลงไปแล้ว ร่างสูงค่อยๆ ยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่กระเด็นมาติดใบหน้าหล่อเบาๆ พลางพลิกตัวร่างบางขึ้น ของเหลวสีแดงเข้มที่ไหลออกมาจากแผลที่หน้าผากไหลลงมาเปื้อนใบหน้าสวย อี้ฟานมองหน้าร่างบางพร้อมกับยิ้มกริ่ม ใบหน้าหล่อค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ ก่อนจะสูดดมกลิ่นคาวเลือดที่ถ้าเป็นคนปกติคงจะอาเจียนเอาอาหารที่อยู่ในกระเพาะออกมาจนหมดแล้ว แต่นี่คืออี้ฟาน และอี้ฟานไม่ใช่คนปกติ เขาถึงได้คิดว่าสิ่งนี้มันช่างหอมยั่วยวนเสียเหลือเกิน..

                 





                        ‘‘หึหึ.....’’ ครางเสียงต่ำในลำคอก่อนจะค่อยๆ ส่งลิ้นไปโลมเลียของเหลวสีแดงบนใบหน้าสวย รสชาติที่หอมหวานของมันทำให้อี้ฟานยกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกสะใจ และผละออกมา เลือดสดๆ ที่ติดอยู่ที่มุมปากทำให้เขาต้องเอื้อมมือไปเช็ดมันออก ก่อนจะหันมาสนใจ ‘ลูกชาย’ ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงด้วยสภาพแขนที่หลุดหลุ่ยแต่ไม่ถึงกับขาด...

                    ‘‘น้องเอซ...ไม่เจ็บนะลูก ป๊าแก้แค้นให้หนูแล้วนะ’’  พูดพลางลูบหัวเจ้าตุ๊กตาไปมา...

     

     

     

     

     

     

                    ‘‘ว้ายยยยยยยยยยยย’’  เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นหน้าประตูมาพร้อมกับร่างหญิงสาวผู้เป็นคนรับใช้ เธอถลึงตามองด้วยความตกใจ พร้อมกับค่อยๆ ถอยหลังอย่างระแวง ภาพตรงหน้าทำให้เธอกลัว..

                    อี้ฟานหันไปจ้องเธอตาเขียว แต่เพียงไม่นาน เขาก็กลับไปสนใจตุ๊กตาในมือต่อ  

     

     

     

     

                    ฮานึลที่เห็นภาพของคุณหมอคนสวยนอนจมกองเลือดหมดสติอยู่ในห้องรีบวิ่งลงมาด้วยความลนลาน ในใจได้แต่ภาวนาให้เบบี้ไม่เป็นอะไร สองขารีบสาวเท้ายาวๆ มุ่งตรงไปที่ห้องผู้เป็นเจ้านายทันที

                    ‘‘คุณท่านนน ฮึกกก คุณท่านคะ ช่วยคุณเบบี้ด้วย ฮึก’’ วิ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องอย่างไม่เกรงใจคนเป็นเจ้านาย ซองวูและซูฮยอนมองไปที่สาวใช้ด้วยความสงสัย ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติเขาคงตักเตือนเธอเรื่องมารยาทไปแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ สีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล น้ำตาที่ไหลเอ่ออออกมาบวกกับชื่อหญิงสาวที่แสนจะคุ้นเคยทำให้เขาต้องถามกลับด้วยความร้อนใจ

                    ‘‘ฮานึล เบบี้...เบบี้เป็นอะไร’’  ชินซองวูถามเสียงดังจนสาวใช้อย่างฮานึลสะดุ้งตัวโยน เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฮานึล ซูฮยอนจึงเข้าไปปลอบเธอด้วยความเป็นห่วง พลางปรามสามีให้ใจเย็นลง

                    ‘‘ฮึกกก คุณเบบี้แย่แล้วค่ะ ฮึกกก คุณท่านช่วยคุณเบบี้ด้วยนะคะ ฮือออ’’  ฮานึลปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย เธอทั้งตกใจ ทั้งเสียขวัญกลับภาพที่เพิ่งเห็น ชินซองวูเด้งตัวขึ้นจากโซฟา พร้อมกับใบหน้าที่ตึงเครียด  แน่นอนว่าไม่ต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ....




                    ‘‘บอกฉันมา เบบี้เป็นอะไร!!!’’ ตะคอกเสียงดังพร้อมกับคิ้วเข้มที่ค่อยๆ ขมวดเป็นปม

                    ‘‘คุณเบบี้ถูกคุณอี้ฟานทำร้ายค่ะ ฮึกกก คุณท่านช่วยคุณเบบี้ด้วยนะคะ ฮืออ’’

                    ‘‘อี้ฟาน.....’’ ชินซองวูพึมพำชื่อลูกชยของตน ก่อนจะออกตัววิ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความเป็นห่วงแพทย์สาวที่เขารักเหมือนลูกหลาน  พร้อมกับร่างภรรยาที่ตามไปติดๆ ในใจได้แต่ภาวนาให้เบบี้ปลอดภัย

     

     

     

     

                    อย่าเป็นอะไรเลยนะเบบี้...


                   ----------100%------------

    _______________________________________________________________

    17/08/2014
    100% เเล้ววววววว  พี่ฝานทำไมโหดร้ายกับนางเอก? 
    น่ากลัวจริงๆ ผู้ชายคนนี้

    คึคึ  ตืดตามต่อด้วยน๊าาาา
    มาลงช้าเพราะไรต์เพิ่งจะสอบเสร็จวันนี้ คือโรงเรียนไรต์มีสอบวันอาทิตย์ด้วยค่ะ เพลีย
    ตอนนี้ไรต์ค่อนข้างจะไม่สบาย งือออ ปวดหัวที่สุด เเต่ไรต์จะพยายามเเต่งเเละวมาอัพให้น๊าา




    05/08/2014
    พี่ฟานนนนนนนนนนนน เอามากรรไกรมาจ้วงไส้นางเอกชิมิ??? ฮ่าๆๆๆๆๆ
    ความจริงไรต์กะจะเเต่งให้ครบ 100% เเต่ไรต์ต้องทำการบ้านต่อ -..-
    อย่าโกรธเค้าน๊าา จุ๊บๆ




    02/08/201
    เเค่นี้ก่อนเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
    ไรต์ไม่ค่อยมีเวลาเลยย ขอโทษด้วยน๊าา ที่ให้รอนานขนาดนี้อ่า







    จุ๊บๆ

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×