ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอน...ก็ตอนที่สี่ไง 555
            “นี่ซินถามหน่อยเหอะ เธอมากินทุกวันรึไง พี่เขาถึงจำได้ขนาดนี้เนี่ย”
            “ก็แค่อาทิตย์ละครั้ง” ...ระหว่างที่ทานเขาก็ทานซะเรียบร้อยเหลือเกิน และก็เป็นเธอเองที่เบ๊อะตักเค้กไปให้จมูกกิน
            นายนั่นหัวเราะร่วนเชียว หนอย...
          “เอ้า ยื่นหน้ามาเดี๋ยวเราเช็ดให้ หึหึหึ” แล้วเขาก็หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดที่จมูกให้อย่างแผ่วเบา
          ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมาตลอดเห็น ...เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเพื่อนเราความรู้สึกช้า ไม่ได้ช้าธรรมดานะ ช้ามากกกกด้วย...
        และจนกระทั่งเที่ยวจนหมด คุณเพื่อนที่รักก็ยังคงใสซื่อบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเช่นเคย...ป่านนี้
          สงสัยว่า ยัยดาวคณะคงแค้นจนกระอักเลือดแล้วมั้ง คิก คิก คิก (หัวเราะเสียงดังเดี๋ยวไม่สวย)
        “ขอบคุณนะที่วันนี้อุตส่าห์ไปเที่ยวกับซินทั้งวัน” หญิงสาวยิ้มหวานให้พร้อมทำหน้าใสซื่อน่ารัก
        ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตีความเป็นอื่น ไม่ติดใจสงสัยอะไรแม้ซักกะติ๊ดดดดดดเดียว
        “ไม่เป็นไร วันนี้เราก็สนุก แล้วก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าซินใช้จมูกกินเค้ก หึหึหึ” สราริลส่งค้อนไปให้...ด้วยอารมณ์หมั่นไส้อย่างสุดซึ้ง
        ซึ่งก็ทำอะไรอีกฝ่ายที่กำลังหัวเราะเอาเป็นเอาตายไม่ได้ระคายซักนิด! เชอะ...
      “บ๊ายบาย กลับไปเลยไป๊”
      “อุ๊บ! หึหึ ...จะ...จ้า” เสียงทุ้มพยายามกลั้นหัวเราะไว้อย่างกระท่อนกระแท่นเต็มที ไม่แปลกหรอก
        ที่เธอจะไล่เขาอย่างอารมณ์เสีย แต่หน้าเธอตอนนั้นมันตลกจริงๆนี่...เอ๋อ ไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะรีบเช็ดๆ
        ลงบนจมูกตัวเองแรงๆจนแดงเป็นปื้น อุ๊บ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอหน่อยเหอะ อดไม่ไหวจริงๆ...
                    ทั้งๆที่คิดจะแก้แค้นเอาคืนเท่านั้น แต่ทำไมวันนี้ทั้งวันเธอถึงรู้สึกสนุกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
      และที่น่าแปลกที่สุดก็คือ คืนนี้เป็นคืนแรกที่หญิงสาวได้นอนหลับโดยที่ไม่ต้องใช้ยานอนหลับและยิ้มนิดๆอย่างมีความสุข
 
      ชายหนุ่มร่างสูงหันมามองหญิงสาวที่วิ่งมาอย่างสง่างาม(แบบถึงจะวิ่งก็ยังรักษาภาพพจน์ได้)
      ตามด้วยเสียงหวานที่เรียกเขาเสียดังลั่น แล้วดูเหมือนว่า ร่างบางที่วิ่งมาสุดแรงเกิดคงเบรกไม่ทันแน่ๆ
      ก็เลยอ้าแขนรับมันซะเลย ซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่คาด และแรงที่เธอวิ่งมาก็ถึงกับทำให้เขาต้องถอยหลังไปหลายก้าว
      (แต่ไม่ล้มเฟ่ย) ร่างบางในอ้อมกอด กอดเขาพร้อมทั้งหลับตาปี๋ดูท่าคงกลัวล้มเอาอยู่เหมือนกัน...และการยืนในท่านั้น
      ก็ทำให้เพื่อนร่วมคณะเป่าปากล้อเลียนดังไม่ขาดระยะทั้งวัน
      “จะรีบไปไหนฮึ ซิน”
 
      “ก็วิ่งตามมานี่แหละ เรียกแล้วก็ไม่ยอมหยุดเดิน” ดวงตาคมสวยเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาด้วยแววตาประชดประชัน
      พร้อมยักคิ้วให้กวนๆตามนิสัย(ที่แท้จริง)ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นยกเว้นตอนที่เธออยู่กับเขา
 
      “อ้าว! มาโทษอะไรเราเนี่ยซิน ตกลงเราผิดใช่มั้ยเนี่ย” เขาถามประชดแต่เธอดั๊นพยักหน้าหงึกๆ
      “ช่ายยยยย” เมฆินทร์เกาหัวแกรกๆ ...อะไรวะ... เขาผิดตรงไหนกันเนี่ย
      “เออ ผิดก็ผิด ว่าแต่มีอะไรถึงได้วิ่งมาซะขนาดนั้น” แค่เขาถามเท่านั้นแหละ ดวงตาวาวๆเมื่อกี๊ก็แปรเปลี่ยนเป็นความดีใจ
    “รู้มั้ยๆ เราได้เล่นละครเวทีด้วยแหละ” ที่เธอตื่นเต้นซะขนาดนี้ก็เพราะเรื่องนี้เองหรอกรึ ก็ดี เพราะถึงเธอจะสวย
      แต่ความสัมพันธ์กับเพื่อนๆนี่ถือได้ว่าอยู่ในระดับไม่ดีมากนัก เพราะหลายๆคนมักคิดว่าเธอหยิ่ง
    แต่ก็ไม่เห็นเป็นแบบนั้นซะหน่อย ออกจะบ้า ร่าเริงซะ...“บทอะไร ดีมั้ย” เขาถามยิ้มๆด้วยคาดว่าถ้าบทไม่ดี
      เธอก็คงจะไม่ยอมเล่นหรอก ซึ่งก็เป็นดังคาด
      “บทเหรอ...จะว่าดีก็ไม่ใช่ไม่ดีก็ไม่เชิง”
 
    “แล้วบทอะไรล่ะ” ร่างสูงถามเร่ง เนื่องจากอีกฝ่ายนิ่งไปนาน
    “รินลดา นางร้ายที่ตอนหลังกลับใจยอมจากพระเอกไป เราชอบบทนี้ล่ะ เพราะซึ้งดี”
    “แต่จะเล่นได้รึเปล่าเนี่ย มันยากน๊าาา” ชายหนุ่มทำเสียงล้อเธอ เพื่อเตือนย้ำให้นึกถึงความเป็นจริงว่าเธอจะแสดงได้รึเปล่า
    “ปากเสีย! คอยดูละกันน่า อีก4เดือนข้างหน้า หึหึหึ” ...หัวเราะน่ากลัวแฮะ...นี่คือสิ่งที่เขาคิดแบบหวาดๆ
      แต่ก็ส่งเสียงหัวเราะไล่หลังร่างบอบบางที่วิ่งเข้าห้องเรียนไป พลางส่ายหัวยิ้มๆ...
            “ก็แค่อาทิตย์ละครั้ง” ...ระหว่างที่ทานเขาก็ทานซะเรียบร้อยเหลือเกิน และก็เป็นเธอเองที่เบ๊อะตักเค้กไปให้จมูกกิน
            นายนั่นหัวเราะร่วนเชียว หนอย...
          “เอ้า ยื่นหน้ามาเดี๋ยวเราเช็ดให้ หึหึหึ” แล้วเขาก็หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดที่จมูกให้อย่างแผ่วเบา
          ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมาตลอดเห็น ...เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเพื่อนเราความรู้สึกช้า ไม่ได้ช้าธรรมดานะ ช้ามากกกกด้วย...
        และจนกระทั่งเที่ยวจนหมด คุณเพื่อนที่รักก็ยังคงใสซื่อบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเช่นเคย...ป่านนี้
          สงสัยว่า ยัยดาวคณะคงแค้นจนกระอักเลือดแล้วมั้ง คิก คิก คิก (หัวเราะเสียงดังเดี๋ยวไม่สวย)
        “ขอบคุณนะที่วันนี้อุตส่าห์ไปเที่ยวกับซินทั้งวัน” หญิงสาวยิ้มหวานให้พร้อมทำหน้าใสซื่อน่ารัก
        ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตีความเป็นอื่น ไม่ติดใจสงสัยอะไรแม้ซักกะติ๊ดดดดดดเดียว
        “ไม่เป็นไร วันนี้เราก็สนุก แล้วก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าซินใช้จมูกกินเค้ก หึหึหึ” สราริลส่งค้อนไปให้...ด้วยอารมณ์หมั่นไส้อย่างสุดซึ้ง
        ซึ่งก็ทำอะไรอีกฝ่ายที่กำลังหัวเราะเอาเป็นเอาตายไม่ได้ระคายซักนิด! เชอะ...
      “บ๊ายบาย กลับไปเลยไป๊”
      “อุ๊บ! หึหึ ...จะ...จ้า” เสียงทุ้มพยายามกลั้นหัวเราะไว้อย่างกระท่อนกระแท่นเต็มที ไม่แปลกหรอก
        ที่เธอจะไล่เขาอย่างอารมณ์เสีย แต่หน้าเธอตอนนั้นมันตลกจริงๆนี่...เอ๋อ ไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะรีบเช็ดๆ
        ลงบนจมูกตัวเองแรงๆจนแดงเป็นปื้น อุ๊บ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอหน่อยเหอะ อดไม่ไหวจริงๆ...
                    ทั้งๆที่คิดจะแก้แค้นเอาคืนเท่านั้น แต่ทำไมวันนี้ทั้งวันเธอถึงรู้สึกสนุกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
      และที่น่าแปลกที่สุดก็คือ คืนนี้เป็นคืนแรกที่หญิงสาวได้นอนหลับโดยที่ไม่ต้องใช้ยานอนหลับและยิ้มนิดๆอย่างมีความสุข
 
      ชายหนุ่มร่างสูงหันมามองหญิงสาวที่วิ่งมาอย่างสง่างาม(แบบถึงจะวิ่งก็ยังรักษาภาพพจน์ได้)
      ตามด้วยเสียงหวานที่เรียกเขาเสียดังลั่น แล้วดูเหมือนว่า ร่างบางที่วิ่งมาสุดแรงเกิดคงเบรกไม่ทันแน่ๆ
      ก็เลยอ้าแขนรับมันซะเลย ซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่คาด และแรงที่เธอวิ่งมาก็ถึงกับทำให้เขาต้องถอยหลังไปหลายก้าว
      (แต่ไม่ล้มเฟ่ย) ร่างบางในอ้อมกอด กอดเขาพร้อมทั้งหลับตาปี๋ดูท่าคงกลัวล้มเอาอยู่เหมือนกัน...และการยืนในท่านั้น
      ก็ทำให้เพื่อนร่วมคณะเป่าปากล้อเลียนดังไม่ขาดระยะทั้งวัน
      “จะรีบไปไหนฮึ ซิน”
 
      “ก็วิ่งตามมานี่แหละ เรียกแล้วก็ไม่ยอมหยุดเดิน” ดวงตาคมสวยเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาด้วยแววตาประชดประชัน
      พร้อมยักคิ้วให้กวนๆตามนิสัย(ที่แท้จริง)ที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นยกเว้นตอนที่เธออยู่กับเขา
 
      “อ้าว! มาโทษอะไรเราเนี่ยซิน ตกลงเราผิดใช่มั้ยเนี่ย” เขาถามประชดแต่เธอดั๊นพยักหน้าหงึกๆ
      “ช่ายยยยย” เมฆินทร์เกาหัวแกรกๆ ...อะไรวะ... เขาผิดตรงไหนกันเนี่ย
      “เออ ผิดก็ผิด ว่าแต่มีอะไรถึงได้วิ่งมาซะขนาดนั้น” แค่เขาถามเท่านั้นแหละ ดวงตาวาวๆเมื่อกี๊ก็แปรเปลี่ยนเป็นความดีใจ
    “รู้มั้ยๆ เราได้เล่นละครเวทีด้วยแหละ” ที่เธอตื่นเต้นซะขนาดนี้ก็เพราะเรื่องนี้เองหรอกรึ ก็ดี เพราะถึงเธอจะสวย
      แต่ความสัมพันธ์กับเพื่อนๆนี่ถือได้ว่าอยู่ในระดับไม่ดีมากนัก เพราะหลายๆคนมักคิดว่าเธอหยิ่ง
    แต่ก็ไม่เห็นเป็นแบบนั้นซะหน่อย ออกจะบ้า ร่าเริงซะ...“บทอะไร ดีมั้ย” เขาถามยิ้มๆด้วยคาดว่าถ้าบทไม่ดี
      เธอก็คงจะไม่ยอมเล่นหรอก ซึ่งก็เป็นดังคาด
      “บทเหรอ...จะว่าดีก็ไม่ใช่ไม่ดีก็ไม่เชิง”
 
    “แล้วบทอะไรล่ะ” ร่างสูงถามเร่ง เนื่องจากอีกฝ่ายนิ่งไปนาน
    “รินลดา นางร้ายที่ตอนหลังกลับใจยอมจากพระเอกไป เราชอบบทนี้ล่ะ เพราะซึ้งดี”
    “แต่จะเล่นได้รึเปล่าเนี่ย มันยากน๊าาา” ชายหนุ่มทำเสียงล้อเธอ เพื่อเตือนย้ำให้นึกถึงความเป็นจริงว่าเธอจะแสดงได้รึเปล่า
    “ปากเสีย! คอยดูละกันน่า อีก4เดือนข้างหน้า หึหึหึ” ...หัวเราะน่ากลัวแฮะ...นี่คือสิ่งที่เขาคิดแบบหวาดๆ
      แต่ก็ส่งเสียงหัวเราะไล่หลังร่างบอบบางที่วิ่งเข้าห้องเรียนไป พลางส่ายหัวยิ้มๆ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น