ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 สายลมที่ทำให้มีความสุข
โรงเรียนฝึกทักษะผู้ใช้เทพที่ตั้งอยู่ในเกาะแห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่ใช้ฝึกทักษะผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 สายพลังหลักคือ
1.ผู้ใช้เทพ คือบุคคลที่ได้รับเลือกจากเทพก่อนจะลงมาสถิตร่างตั้งแต่ทารก ความสามารถของคนกลุ่มนี้จะไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับเทพที่สถิตร่างของบุคคลนั้นๆว่าเป็นเทพอะไร มีความสามารถแบบไหน การใช้พลังของเทพผ่านร่างมนุษย์จะต้องถูกจำกัดลงเหลือแค่ 10% เท่านั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้พลัง ซึ่งจะพูดได้เลยว่าถ้าผู้ใช้เทพสามารถใช้พลังของเทพได้ 100% จะทรงอำนาจและแข็งแกร่งกว่าสายอื่นที่เหลือก็ว่าได้
2.ผู้ใช้พลังธรรมชาติ เป็นบุคคลที่มีพลังธาตุกล้าแข็งมาตั้งแต่เกิดจนสามารถสร้างและควบคุมพลังธาตุสายนั้นๆได้อย่างอิสระ ถ้าควบคุมได้มากกว่า 1 ธาตุ ก็จะทำให้พลังธรรมชาติของคนนั้นๆแข็งแกร่งมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ผู้ใช้พลังธรรมชาติจะสนใจโรงเรียนแห่งนี้ เพราะพวกเขาได้พบปะผู้ใช้พลังธรรมชาติสายอื่นๆและยังได้คอยศึกษาวิธีใช้พลังของสายนั้นๆ
3.เอสเปอร์ คือบุคคลที่มีสมาธิและจิตใจสูงส่ง ลักษณะของพลังเป็นนามธรรมแต่ผลเป็นของมันรูปธรรม มันจึงเป็นพลังที่รับมือได้ยากที่สุดใน 3 สายพลังหลัก ถ้าหากตัดเรื่องความอ่อนด้อยในเรื่องพลังทำลายออกไปล่ะก็ พลังสายนี้จะแข็งแกร่งที่สุด
ส่วนชั้นเรียนของโรงเรียนจะแบ่งตามความแข็งแกร่งและอายุ ก็เปรียบเหมือนโรงเรียนธรรมดาที่แบ่งชั้นเรียนและห้อง
ตามอายุและความฉลาดนั่นเอง
ชั้นเรียนมี 5 ช่วงชั้นคือ
1- อายุ 11-12
2-... 13-14
3-... 15-16
4-... 17-18
5-... 19-20
ห้องเรียนแบ่งเป็น 7 ห้องตามความเก่งกาจของพลัง
แบ่งออกเป็น
ห้อง F คือนักเรียนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษใดๆเลย มาฝึกฝน
ห้อง D คือนักเรียนที่มีพลังแฝงอยู่น้อย ไม่สามารถควบคุมได้ดั่งใจ
ห้อง C เป็นเรียนที่มีพลังพิเศษปกติ สามาควบคุมได้
ห้อง B เป็นผู้ควบคุมหนึ่งในพลังสายหลักได้แข็งแกร่งถึงขีดสุด ส่วนมากนักเรียนห้องนี้จะรับพลังพิเศษผ่านสายเลือดโดยตรง
ห้อง A เป็นนักเรียนที่สามารถใช้พลังได้มากกว่าหนึ่งสายหลักขึ้นไปและยังสามารถใช้พลังทั้งสองสายได้อย่างอิสระจนถึงขีดสุด
ห้อง SS นักเรียนห้องนี้จะคล้ายๆกับห้อง A คือใช้พลังได้มากกว่าหนึ่งสาย แต่บุคคลประเภทนี้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดโดยการนำพลังทั้งสองสายมารวมกันจนกลายเป็นพลังมหาศาลที่ต้านทานได้ยาก
ห้อง SSพิเศษ คือนักเรียนที่แหกกฏการใช้พลังทั้งสามสายหลัก ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนผู้ใช้เทพที่สามารถใช้พลังของเทพได้ 100% อย่างไร้เงื่อนไขการจำกัดพลัง
เอสเปอร์สามารถใช้พลังทำลายสิ่งของต่างๆอย่างอิสระ พลังทำลายไม่ด้อยไปกว่าสายอื่นๆ
ผู้ใช้พลังธรรมชาติสามารถเรียนเทพประจำธาตุหลักออกมาได้ราวกับผู้ใช้เทพ ผู้ใช้พลังบางคนยังสามารถเรียกเทพประจำธาตุออกมาได้ถึง 2 องค์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุม
และแน่นอนว่าพลังและความอันตรายของนักเรียนห้องนี้ก็อยู่ในระดับสูงสุดเช่นกัน การจะเอาชนะนักเรียนห้อง -SSพิเศษ
1 คน ต้องใช้นักเรียนห้อง -SS ถึง 5 คนในการสู้ แต่ด้วยความรักสันโดษของนักเรียนพวกนี้ จึงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นัก
สำหรับคิลที่มาใหม่ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโรงเรัยนแห่งนี้เลยสักนิด เขาจึงตัดสินใจเดินสำรวจโรงเรียนไปเรื่อยๆ การเดินเที่ยวสำรวจโรงเรียนที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งเกาะในวันเดียวคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาจึงปฏิเสธการขึ้นรถเมย์สายนรกแล้วมาเดินสำรวจอย่างสบายใจดีกว่า
บริเวณตึกรอบๆที่คิลเดินผ่านส่วนมากจะเป็นย่านชุมชนที่มีทั้งร้านอาหารและร้านบริการอยู่เนืองแน่น โดยมีนักเรียนและอาจารย์เป็นผู้บริการ
คิลเดินสำรวจไปเรื่อยจนออกจากเขตชุมชนก็พบกับวิวทิวทัศของธรรมชาติมากมาย ที่เขาสะดุดตาที่สุดก็เป็นทุ่งดอกไม้หลากหลายชนิด พวกมันเอนกายไปตามสายลมอ่อนๆและส่งกลิ่นยั่วยวนบุคคลที่ผ่านไปมา สำหรับคนอื่นมันคงไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่สำหรับเขามันเป็นที่ผ่อนคลายความเครียดอย่างดี
เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปที่แห่งนั้นอย่างอารมณ์ดี สายลมอ่อนๆและกลิ่นหอมของมันทำให้เขารู้สึกสงบ เขาเดินเข้าไปลึกเรื่อยๆก็พบกับเนินเขาเล็กๆที่ถูกปกคลุมด้วยหญ้าเขียวขจีและที่แห่งนั้นเองจะทำให้การใช้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
ที่แห่งนั้นมีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังร่ายรำท่วงท่าต่างๆท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้และสายลมอ่อนๆ มันช่างงดงามราวกับนางสวรรค์ร่างรำท่ามกลางหมู่ดาวบนฟ้าก็ว่าได้
เป็นดั่งมนต์สะกดให้คิลมองเด็กสาวร่ายรำอย่างลืมตัว เป็นจังหวะเดียวกับที่เธอหันมาสบตากับเขาพอดี ทั้งคู่นิ่งเงียบไปสักพัก คิลจึงเริ่มทักทายก่อน
" เอ่ออ สวัสดี ผมมารบกวนเธอหรือเปล่า "
" ม..ไม่หรอก ถ..ถูกเห็นซะแล้วสิ " เธอพูดพร้อมเบือนหน้าหนี ก่อนจะพูดอย่างตะกุกตะกัก " น..น่าอายจัง "
ลักษณะเธอเป็นคนผิวขาว ผมดำเงางามถูกปล่อยลงมาถึงกลางหลัง ใบหน้าเรียวออกสีชมพูอ่อนๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนชวนให้น่าหลงใหล เธอใส่ชุดมิโกะแขนยาวสีขาวที่ถูกออกแบบอย่างประณีต
" ถ้าเธอกังวนก็ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่บอกใครหรอก "
" ไม่เป็นไรค่ะ " เธอหันมายิ้มให้ สายลมอ่อนๆที่พัดผ่านใบหน้าเธอทำให้ติลรู้สึกว่ารอยยิ้มเธอช่างสดใสยิ่งนัก " ฉันชื่อฮินะ อยู่ห้อง 2-B สายลมที่พัดรอบๆบริเวณนี้เกิดจากพลังของฉันเองแหละ "
" เป็นพลังที่ยอดไปเลยนะ ผมอยากมีพลังแบบนี้มั้งจัง " คิลพูดชื่นชมจนเกือบลืมบอกชื่อ " อ้อ ผมชื่อคิล "
" แต่สำหรับฉันตอนนี้ยังถือว่าใช้ไม่ได้หรอก ยังห่างกับพี่ชายของฉันเยอะ "
" พี่ชายเธอเก่งมากเลยหรอ "
" อื้มม เก่งมากๆ ในตระกูลฉัน พี่ชายฉันเป็นผู้ใช้สายลมเก่งที่สุด
แถมยังสามารถอัญเชิญวิหกแห่งสายลมได้ด้วยนะ " เธอพูดอย่างสดใส " แถมยังสามารถใช้พลังปกป้องคนอื่นได้ด้วย ตรงข้ามกับฉัน " เธอหยุดพูดน้ำเสียงเศร้าลงเล็กน้อย " ที่ทำอะไรไม่ได้เลย "
คิลได้ฟังก็เอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ช่อหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหาฮินะ ก่อนจะพูด
" จริงอยู่ที่ดอกไม้พวกนี้ถึงจะไม่แข็งแรง แต่มันก็สามารถทำให้เรารู้สึกมีความสุขเมื่อได้พบพวกมัน " คิลส่งช่อดอกไม้ให้ฮินะก่อนจะพูดต่อ " ต่อให้สายลมแข็งเกร่งสักเท่าไหร่ก็ไม่ทำให้คนอื่นมีความสุขได้หรอก ต้องสายลมที่สัมผัสถึงความอ่อนโยนได้ต่างหาก ถึงสายลมของเธอจะปกป้องใครไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่ามันสามารถทำให้ทุกคนมีความสุขได้เมื่อสัมผัสมัน และผมก็ชอบสายลมของเธอมากกว่านะ "
" ขอบคุณนะ " ฮินะเงยหน้ามายิ้มให้ เขาก็ลูบหัวเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
" เด็กน้อย มีเรื่องอะไรก็มาปรึกษาได้นะ เพราะยังไงผมก็รุ่นพี่ "
เด็กสาวพยายามเอามือคิลที่ขยี้หัวเธออย่างสนุกสนานออกก่อนจะยิ้มหวานอละตอบกลับสั้นๆ
" อื้มมม "
หลังจากเล่นกับเด็กสาวอย่างสนุกสนานคิลก็เพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก
" เอ๊ะ ผมลืมกระเป๋าไว้ที่ห้อง ไว้เจอกันคราวหน้าละกัน "
" อื้มมม บ๊ายบาย "
พูดจบคิลก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเด็กสาวที่เพิ่งรู้จักกันไว้ข้างหลัง
. ................................................................
หลังจากนั้นไม่นานก็มีชายคนหนึ่งลักษณะค่องข้างสูง ผมสีน้ำเงินประกายสะท้อนแสงตะวัน มีใบหน้าและดวงตาอ่อนโยน พกดาบคาตานะเป็นอาวุธ บนใหล่เขามีวิหกแห่งสายลมสุซาคุเกาะอยู่ เดินมาหาฮินะและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
" พี่ปล่อยให้ฮินะรอนานหรือเปล่า โทษทีบังเอินเจอไอ้พวกไม่รู้จักตายมาท้าพี่สู้นะ "
" ไม่หรอกค่ะ พอดีหนูมีรุ่นพี่คุยเป็นเพื่อน "
" แล้วไอ้หมอนั่นทำอะไรน้องหรือเปล่า "
" เปล่าค่ะ เขานิสัยดีมากๆ "
" แต่น้องหน้าแดงมากเลยนะ "
" ม..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ "
เธอพยายามโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่มีหรือที่พี่ชายแท้ๆอย่างเขาจะไม่รู้ บวกกับช่อดอกไม้ปริศนาอีก
' อืมมม ตึ๊ก ตึ๊ก ตา ลิ ติ๊ (เพลงโคนันขึ้น) ' เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วหลอกถามน้องสาวแสนซื่อของตน
" ว่าแต่คนนั้นชื่ออะไร "
" ชื่อคิลค่ะ "
" โฮ่ งั้นหรอ งั้นเรากลับหอพักกันได้ละ "
เขาแกล้งพูดอย่างไม่สนใจ แต่ในสมองหลักเขาบันทึกชื่อคิลไว้เรียบร้อย เขาเดินจูงมือน้องสาวพร้อมกับหัวเราะในใจ
' คิลสินะ เหอ เหอ เหอ '
**************************************************
ตอนนี้กะป๋มพยายามเพิ่มคำบรรยาย+ความยาวของตอน
ขอโทษเรื่องคำผิดล่วงหน้า เพราะจอโทรศัพท์มันค่อนค่างจำกัด
แถมยังกะความยาวไม่ค่อยถูก TT (อยากได้คอมเฟร้ยยย)
1.ผู้ใช้เทพ คือบุคคลที่ได้รับเลือกจากเทพก่อนจะลงมาสถิตร่างตั้งแต่ทารก ความสามารถของคนกลุ่มนี้จะไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับเทพที่สถิตร่างของบุคคลนั้นๆว่าเป็นเทพอะไร มีความสามารถแบบไหน การใช้พลังของเทพผ่านร่างมนุษย์จะต้องถูกจำกัดลงเหลือแค่ 10% เท่านั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้พลัง ซึ่งจะพูดได้เลยว่าถ้าผู้ใช้เทพสามารถใช้พลังของเทพได้ 100% จะทรงอำนาจและแข็งแกร่งกว่าสายอื่นที่เหลือก็ว่าได้
2.ผู้ใช้พลังธรรมชาติ เป็นบุคคลที่มีพลังธาตุกล้าแข็งมาตั้งแต่เกิดจนสามารถสร้างและควบคุมพลังธาตุสายนั้นๆได้อย่างอิสระ ถ้าควบคุมได้มากกว่า 1 ธาตุ ก็จะทำให้พลังธรรมชาติของคนนั้นๆแข็งแกร่งมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ผู้ใช้พลังธรรมชาติจะสนใจโรงเรียนแห่งนี้ เพราะพวกเขาได้พบปะผู้ใช้พลังธรรมชาติสายอื่นๆและยังได้คอยศึกษาวิธีใช้พลังของสายนั้นๆ
3.เอสเปอร์ คือบุคคลที่มีสมาธิและจิตใจสูงส่ง ลักษณะของพลังเป็นนามธรรมแต่ผลเป็นของมันรูปธรรม มันจึงเป็นพลังที่รับมือได้ยากที่สุดใน 3 สายพลังหลัก ถ้าหากตัดเรื่องความอ่อนด้อยในเรื่องพลังทำลายออกไปล่ะก็ พลังสายนี้จะแข็งแกร่งที่สุด
ส่วนชั้นเรียนของโรงเรียนจะแบ่งตามความแข็งแกร่งและอายุ ก็เปรียบเหมือนโรงเรียนธรรมดาที่แบ่งชั้นเรียนและห้อง
ตามอายุและความฉลาดนั่นเอง
ชั้นเรียนมี 5 ช่วงชั้นคือ
1- อายุ 11-12
2-... 13-14
3-... 15-16
4-... 17-18
5-... 19-20
ห้องเรียนแบ่งเป็น 7 ห้องตามความเก่งกาจของพลัง
แบ่งออกเป็น
ห้อง F คือนักเรียนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษใดๆเลย มาฝึกฝน
ห้อง D คือนักเรียนที่มีพลังแฝงอยู่น้อย ไม่สามารถควบคุมได้ดั่งใจ
ห้อง C เป็นเรียนที่มีพลังพิเศษปกติ สามาควบคุมได้
ห้อง B เป็นผู้ควบคุมหนึ่งในพลังสายหลักได้แข็งแกร่งถึงขีดสุด ส่วนมากนักเรียนห้องนี้จะรับพลังพิเศษผ่านสายเลือดโดยตรง
ห้อง A เป็นนักเรียนที่สามารถใช้พลังได้มากกว่าหนึ่งสายหลักขึ้นไปและยังสามารถใช้พลังทั้งสองสายได้อย่างอิสระจนถึงขีดสุด
ห้อง SS นักเรียนห้องนี้จะคล้ายๆกับห้อง A คือใช้พลังได้มากกว่าหนึ่งสาย แต่บุคคลประเภทนี้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดโดยการนำพลังทั้งสองสายมารวมกันจนกลายเป็นพลังมหาศาลที่ต้านทานได้ยาก
ห้อง SSพิเศษ คือนักเรียนที่แหกกฏการใช้พลังทั้งสามสายหลัก ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนผู้ใช้เทพที่สามารถใช้พลังของเทพได้ 100% อย่างไร้เงื่อนไขการจำกัดพลัง
เอสเปอร์สามารถใช้พลังทำลายสิ่งของต่างๆอย่างอิสระ พลังทำลายไม่ด้อยไปกว่าสายอื่นๆ
ผู้ใช้พลังธรรมชาติสามารถเรียนเทพประจำธาตุหลักออกมาได้ราวกับผู้ใช้เทพ ผู้ใช้พลังบางคนยังสามารถเรียกเทพประจำธาตุออกมาได้ถึง 2 องค์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุม
และแน่นอนว่าพลังและความอันตรายของนักเรียนห้องนี้ก็อยู่ในระดับสูงสุดเช่นกัน การจะเอาชนะนักเรียนห้อง -SSพิเศษ
1 คน ต้องใช้นักเรียนห้อง -SS ถึง 5 คนในการสู้ แต่ด้วยความรักสันโดษของนักเรียนพวกนี้ จึงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นัก
สำหรับคิลที่มาใหม่ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโรงเรัยนแห่งนี้เลยสักนิด เขาจึงตัดสินใจเดินสำรวจโรงเรียนไปเรื่อยๆ การเดินเที่ยวสำรวจโรงเรียนที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้งเกาะในวันเดียวคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาจึงปฏิเสธการขึ้นรถเมย์สายนรกแล้วมาเดินสำรวจอย่างสบายใจดีกว่า
บริเวณตึกรอบๆที่คิลเดินผ่านส่วนมากจะเป็นย่านชุมชนที่มีทั้งร้านอาหารและร้านบริการอยู่เนืองแน่น โดยมีนักเรียนและอาจารย์เป็นผู้บริการ
คิลเดินสำรวจไปเรื่อยจนออกจากเขตชุมชนก็พบกับวิวทิวทัศของธรรมชาติมากมาย ที่เขาสะดุดตาที่สุดก็เป็นทุ่งดอกไม้หลากหลายชนิด พวกมันเอนกายไปตามสายลมอ่อนๆและส่งกลิ่นยั่วยวนบุคคลที่ผ่านไปมา สำหรับคนอื่นมันคงไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่สำหรับเขามันเป็นที่ผ่อนคลายความเครียดอย่างดี
เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปที่แห่งนั้นอย่างอารมณ์ดี สายลมอ่อนๆและกลิ่นหอมของมันทำให้เขารู้สึกสงบ เขาเดินเข้าไปลึกเรื่อยๆก็พบกับเนินเขาเล็กๆที่ถูกปกคลุมด้วยหญ้าเขียวขจีและที่แห่งนั้นเองจะทำให้การใช้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
ที่แห่งนั้นมีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังร่ายรำท่วงท่าต่างๆท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้และสายลมอ่อนๆ มันช่างงดงามราวกับนางสวรรค์ร่างรำท่ามกลางหมู่ดาวบนฟ้าก็ว่าได้
เป็นดั่งมนต์สะกดให้คิลมองเด็กสาวร่ายรำอย่างลืมตัว เป็นจังหวะเดียวกับที่เธอหันมาสบตากับเขาพอดี ทั้งคู่นิ่งเงียบไปสักพัก คิลจึงเริ่มทักทายก่อน
" เอ่ออ สวัสดี ผมมารบกวนเธอหรือเปล่า "
" ม..ไม่หรอก ถ..ถูกเห็นซะแล้วสิ " เธอพูดพร้อมเบือนหน้าหนี ก่อนจะพูดอย่างตะกุกตะกัก " น..น่าอายจัง "
ลักษณะเธอเป็นคนผิวขาว ผมดำเงางามถูกปล่อยลงมาถึงกลางหลัง ใบหน้าเรียวออกสีชมพูอ่อนๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนชวนให้น่าหลงใหล เธอใส่ชุดมิโกะแขนยาวสีขาวที่ถูกออกแบบอย่างประณีต
" ถ้าเธอกังวนก็ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่บอกใครหรอก "
" ไม่เป็นไรค่ะ " เธอหันมายิ้มให้ สายลมอ่อนๆที่พัดผ่านใบหน้าเธอทำให้ติลรู้สึกว่ารอยยิ้มเธอช่างสดใสยิ่งนัก " ฉันชื่อฮินะ อยู่ห้อง 2-B สายลมที่พัดรอบๆบริเวณนี้เกิดจากพลังของฉันเองแหละ "
" เป็นพลังที่ยอดไปเลยนะ ผมอยากมีพลังแบบนี้มั้งจัง " คิลพูดชื่นชมจนเกือบลืมบอกชื่อ " อ้อ ผมชื่อคิล "
" แต่สำหรับฉันตอนนี้ยังถือว่าใช้ไม่ได้หรอก ยังห่างกับพี่ชายของฉันเยอะ "
" พี่ชายเธอเก่งมากเลยหรอ "
" อื้มม เก่งมากๆ ในตระกูลฉัน พี่ชายฉันเป็นผู้ใช้สายลมเก่งที่สุด
แถมยังสามารถอัญเชิญวิหกแห่งสายลมได้ด้วยนะ " เธอพูดอย่างสดใส " แถมยังสามารถใช้พลังปกป้องคนอื่นได้ด้วย ตรงข้ามกับฉัน " เธอหยุดพูดน้ำเสียงเศร้าลงเล็กน้อย " ที่ทำอะไรไม่ได้เลย "
คิลได้ฟังก็เอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ช่อหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหาฮินะ ก่อนจะพูด
" จริงอยู่ที่ดอกไม้พวกนี้ถึงจะไม่แข็งแรง แต่มันก็สามารถทำให้เรารู้สึกมีความสุขเมื่อได้พบพวกมัน " คิลส่งช่อดอกไม้ให้ฮินะก่อนจะพูดต่อ " ต่อให้สายลมแข็งเกร่งสักเท่าไหร่ก็ไม่ทำให้คนอื่นมีความสุขได้หรอก ต้องสายลมที่สัมผัสถึงความอ่อนโยนได้ต่างหาก ถึงสายลมของเธอจะปกป้องใครไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่ามันสามารถทำให้ทุกคนมีความสุขได้เมื่อสัมผัสมัน และผมก็ชอบสายลมของเธอมากกว่านะ "
" ขอบคุณนะ " ฮินะเงยหน้ามายิ้มให้ เขาก็ลูบหัวเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
" เด็กน้อย มีเรื่องอะไรก็มาปรึกษาได้นะ เพราะยังไงผมก็รุ่นพี่ "
เด็กสาวพยายามเอามือคิลที่ขยี้หัวเธออย่างสนุกสนานออกก่อนจะยิ้มหวานอละตอบกลับสั้นๆ
" อื้มมม "
หลังจากเล่นกับเด็กสาวอย่างสนุกสนานคิลก็เพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก
" เอ๊ะ ผมลืมกระเป๋าไว้ที่ห้อง ไว้เจอกันคราวหน้าละกัน "
" อื้มมม บ๊ายบาย "
พูดจบคิลก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเด็กสาวที่เพิ่งรู้จักกันไว้ข้างหลัง
. ................................................................
หลังจากนั้นไม่นานก็มีชายคนหนึ่งลักษณะค่องข้างสูง ผมสีน้ำเงินประกายสะท้อนแสงตะวัน มีใบหน้าและดวงตาอ่อนโยน พกดาบคาตานะเป็นอาวุธ บนใหล่เขามีวิหกแห่งสายลมสุซาคุเกาะอยู่ เดินมาหาฮินะและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
" พี่ปล่อยให้ฮินะรอนานหรือเปล่า โทษทีบังเอินเจอไอ้พวกไม่รู้จักตายมาท้าพี่สู้นะ "
" ไม่หรอกค่ะ พอดีหนูมีรุ่นพี่คุยเป็นเพื่อน "
" แล้วไอ้หมอนั่นทำอะไรน้องหรือเปล่า "
" เปล่าค่ะ เขานิสัยดีมากๆ "
" แต่น้องหน้าแดงมากเลยนะ "
" ม..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ "
เธอพยายามโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่มีหรือที่พี่ชายแท้ๆอย่างเขาจะไม่รู้ บวกกับช่อดอกไม้ปริศนาอีก
' อืมมม ตึ๊ก ตึ๊ก ตา ลิ ติ๊ (เพลงโคนันขึ้น) ' เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วหลอกถามน้องสาวแสนซื่อของตน
" ว่าแต่คนนั้นชื่ออะไร "
" ชื่อคิลค่ะ "
" โฮ่ งั้นหรอ งั้นเรากลับหอพักกันได้ละ "
เขาแกล้งพูดอย่างไม่สนใจ แต่ในสมองหลักเขาบันทึกชื่อคิลไว้เรียบร้อย เขาเดินจูงมือน้องสาวพร้อมกับหัวเราะในใจ
' คิลสินะ เหอ เหอ เหอ '
**************************************************
ตอนนี้กะป๋มพยายามเพิ่มคำบรรยาย+ความยาวของตอน
ขอโทษเรื่องคำผิดล่วงหน้า เพราะจอโทรศัพท์มันค่อนค่างจำกัด
แถมยังกะความยาวไม่ค่อยถูก TT (อยากได้คอมเฟร้ยยย)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น