ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Battle Royale Thailand เกมหฤโหด (Fic)

    ลำดับตอนที่ #4 : บทเรียนที่ 3 Battle Royale Thailand

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 57


    BATTLE ROYALE THAILAND

    เกมหฤโหด

    บทเรียนที่ 3 Battle Royale Thailand

    ---------------------------------------------------

    ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว เปลือกตาที่หนักอึ้งพยายามปรือขึ้นอย่างช้า ๆ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเพดานและแสงไฟนีออนสีขาว ธันย์รีบปรับดวงตาให้เข้ากับแสงสว่างมากที่สุดในตอนนี้ เสียงน้ำทะเลซัดเข้ากับโขดหินจนเขาสามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน เท่าที่เริ่มสังเกตดู เขาและคนอื่น ๆ อยู่ในห้องเรียนเก่า ๆ ของที่ไหนสักแห่ง ภายในห้องมีโต๊ะนักเรียนวางเรียงรายอยู่ ตรงหน้ามีเพียงกระดานดำที่ว่างเปล่า ไม่มีตัวอักษรใด ๆ ปรากฏอยู่เลยสักตัว เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ ข้าง ๆ มีเพื่อนสนิทคอยอยู่ไม่ห่าง

    “รู้สึกตัวแล้วเหรอวะ!” โยจิที่คอยนั่งข้าง ๆ ตบบ่าของเพื่อนเพื่อพยายามเรียกสติ ในตอนนั้นเองที่ธันย์มองเห็นอะไรบางอย่างที่คอของโยจิ

    ปลอก...ปลอกคอ!?

    ตามสัญชาตญาณ เขาจับเข้าที่คอของตัวเอง และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิด ตอนนี้เขาและคนอื่น ๆ ถูกใครบางคนสวมปลอกคอแปลก ๆ เอาไว้ เขาพยายามที่จะหาทางแกะมันออก แต่ไร้ประโยชน์ ไม่มีกลไกอะไรที่พอจะแกะมันออกได้เลย

    เสียงร้องไห้จากสาว ๆ เริ่มดังขึ้น บางคนนั่งกอดกันแน่น บางคนรวมกันอยู่ตรงหน้าต่างพยายามมองออกไปว่าพวกเราอยู่ที่ไหนกันแน่

    “ไลลา พวกเราอยู่ที่ไหน!? ฮือ ... ฮือ ...” ทับทิมร้องไห้โฮ เธอหวาดกลัวอย่างมาก ตอนนี้เธอและเพื่อน ๆ กำลังอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีใครในห้องนี้รู้จักเลยแม้แต่คนเดียว

    “ฉัน ... ฉันไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนจะเป็นเกาะหรืออะไรสักอย่าง” ไลลาตอบตามความจริง

    “พวกเราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ได้แน่ ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว” ปอพยายามปลอบประโลมแคนดี้เอาไว้ในอ้อมกอด เธอเองก็เสียขวัญอยู่ไม่น้อย

    ทางด้านของธันย์เอง ความจำครั้งสุดท้ายคือเสียงเรียกของรินทร์ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง เมื่อสายตาเริ่มเข้าที่ สิ่งแรกที่ทำคือการมองหาเจ้าของเสียงสุดท้ายที่เขาได้ยิน นั่นไง .... เด็กสาวนั่งอยู่กับเพื่อนตรงมุมห้องทำให้เขาพอจะโล่งใจอยู่บ้าง เด็กหนุ่มลุกขึ้นเดินเข้าไปหาทันที

    “รินทร์ เป็นยังไงบ้าง”

    “อะ..อื้ม” เธอเสียงสั่น มองดูก็รู้ว่าความกลัวเริ่มเข้ามากัดกินจิตใจของเธอเป็นแน่ “รู้ไหมว่าพวกเราคือเหยื่อ ... เหยื่อของเกมหฤโหด Battle Royale” รินทร์สารภาพสิ่งที่ได้ยินครั้งสุดท้ายให้ธันย์ได้ฟัง

    “ไม่จริงใช่ไหมธันย์ ... อาจารย์กำลังโกหกเราเล่นแน่ ๆ” จนถึงตอนนี้หล่อนก็ยังพยายามหลอกตัวเองและคนอื่น ๆ อยู่ดี

    “ไร้สาระ!! พวกเราไม่มีทางมาติดกับเกมปัญญาอ่อนแบบนี้แน่” คราวนี้เป็นพาส จอมปากเสียประจำห้องที่โวยวายบ้าง 

    สถานการณ์กำลังย่ำแย่ พวกเขาเริ่มสับสน ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายนั้น เสียงบางอย่างดังขึ้น ... พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปยังเสียงนั้นในทิศทางเดียวกัน เสียงนั้น ... เสียงนั้น

    อยู่ที่ทางเดินหน้าห้อง!!!

    “ใครน่ะ...เสียงใครกัน!!” ซูกัส เด็กสาวผมแดงจากการกัดสีอุทานลั่น สายตาจ้องมองไปที่หน้าประตูแบบไม่กระพริบตา คนอื่น ๆ เองก็เช่นกัน ตอนนี้พวกเขากำลังมองการมาเยือนของอะไรบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวและมาหยุดหน้าประตูห้องเรียน

    ครืด!!!

    ประตูห้องถูกเลื่อนออกพร้อมกับบรรดาทหารในชุดสีเขียว พวกเขาหลายต่อหลายคนเดินเข้ามาในห้องและหยุดอยู่ตรงหน้าห้องเรียนพร้อมกับเจ้าของฝีเท้าที่พวกเขาได้ยินเมื่อครู่

    “อะ...อาจารย์มนัส!” โยจิไม่อยากจะเชื่อ ทำไมอาจารย์ประจำชั้นของพวกเขาถึงไปอยู่กับพวกทหารปริศนากลุ่มนี้ได้

    “ตื่นกันหมดแล้วก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาปลุก” เขาหันหลังให้พวกเขาพร้อมกับเขียนบางอย่างลงบนกระดานดำด้วยชอล์คสีแดง

    ‘Battle Royale Thailand’

    “ฉันเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินกฎกติกาของเกมหฤโหดนี่ดีแล้ว เกมนี้เริ่มเข้ามาในประเทศไทยเมื่อสองปีที่แล้ว สองโรงเรียนแรกที่ได้รับการสุ่มคัดเลือกคือโรงเรียนรัฐบาล ปีนี้เป็นปีแรกที่โรงเรียนเอกชนได้รับเลือกให้เข้ามาเล่นเกมแห่งความตายครั้งนี้ ....” มนัสยังคงพล่ามต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่สนใจสีหน้าอันแสนหวาดกลัวของเด็ก ๆ เลยสักนิด

    “เกม...Battle Royale อะไรนี่มันเล่นยังไงครับ ... อะ ... อาจารย์” ป๊อปยกมือถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ มนัสส่งยิ้มยะเยือกมาให้ก่อนจะเริ่มตอบ “เกมนี้ได้ต้นแบบมาจากคอมมิคชื่อดังของทางญี่ปุ่น มันดังมากจนประเทศด้อยพัฒนาอย่างพวกเราขอซื้อลิขสิทธิ์ต่อเพื่อเอามาใช้งานจริง! กฎกติกาง่าย ๆ ก็แค่ฆ่ากันให้เหลือผู้ชนะแค่คนเดียว ถ้านายเคยได้ยินเรื่องพรรคนี้น่าจะไม่ยากที่จะทำความเข้าใจ แต่เอาเถอะ ฉันจะเริ่มอธิบายให้แล้วกัน เกมนี้ไม่มีกฎ กติกาที่ตายตัว นับจากนี้สามวัน พวกเธอทั้ง 40 คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนรักกัน จะต้องเข่นฆ่ากันให้หนำใจจนกว่าจะเหลือคนรอดแค่คนเดียวเท่านั้น พื้นที่ทั้งหมดในเกาะจะกลายเป็นสุสานของพวกเธออีก 39 คนที่เหลือต่อจากนี้ เราได้อพยพคนออกไปหมดแล้ว เกาะนี้เลยว่างไม่มีใครเหลืออยู่ ฆ่ากันให้เต็มที่ไปเลย” เขาเว้นวรรคก่อนจะบรรจงเปิดขวดน้ำในมือกระดกอย่างกระหาย

    “สำหรับพวกที่อยากซ่อนตัวเราก็ให้ซ่อน....แต่จะซ่อนได้ถึงเมื่อไรเราบอกไม่ได้ เพราะพื้นที่อันตรายจะถูกแบ่งขึ้นทุกหกชั่วโมง เมื่อใดก็ตามที่พวกเธอซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่อันตราย ปลอกคอที่เชื่อมต่อกับชีพจรของเธอจะส่งสัญญาณร้องขึ้น ถ้ายังไม่รีบออกมาจากจุดอันตรายภายในห้านาที ปลอกคอก็จะเริ่มทำงานด้วยการระเบิดคอหอยพวกเธอทิ้งซะ แม้แต่จะพยายามแกะมันออกหรือพยายามจะหนีไปไกลกว่าระบบสัญญาณ มันก็จะระเบิดเช่นกัน จะให้ข้ามฝั่งว่ายน้ำไปก็ได้นะตามสบาย แต่พวกเธออาจจะกลายเป็นอาหารพวกฉลามหรือพวกทหารที่คอยซุ่มยิงเธออยู่ในกรณีที่คิดจะหนี ถ้าอยากจะรอดจนถึงวันสุดท้าย ก็ฆ่าพวกที่เหลือซะ จะเป็นคนฆ่า หรือคนถูกฆ่า ก็เลือกเอา” สิ้นเสียงของอาจารย์ กระเป๋ามากมายถูกลากออกมาหลังประตู มนัสดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก่อนจะเริ่มอธิบายต่อ

    “พวกเธอจะได้รับกระเป๋าคนละใบ ข้างในจะมีน้ำ ขนมปัง แผนที่ ปากกาเมจิค เข็มทิศ  ไฟฉาย และอาวุธประจำตัวซึ่งความแรงของมันจะมีตั้งแต่มีดไปจนถึงปืน อยู่ที่ดวงของแต่ละคนเพื่อป้องกันการได้เปรียบเสียเปรียบกัน ใครมีอะไรจะถามไหม?”

    “อาจารย์ทำแบบนี้กับพวกเราทำไม?” ทรายยกมือถาม นี่เป็นคำถามที่ทุกคนก็อยากรู้เหมือนกัน

    “ที่เป็นแบบนี้เพราะสันดารเลว ๆ ของพวกเธอเองไม่ใช่หรือยังไง พวกชอบท้าทายผู้ใหญ่ ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายต่าง ๆ นา ๆ มันก็สมควรแล้วนี่นา เด็กเลว ๆ อย่างพวกเธอจะหมดไปจากโลกใบนี้เสียที”

    “ถ้าพ่อแม่ของพวกเรารู้เข้า พวกท่านต้องมาช่วยพวกเราแน่ ๆ” เด็กหญิงคนหนึ่งในห้องพูดขึ้นอย่างมีความหวัง

    “พ่อแม่พวกเธอน่ะรู้เรื่องนี้ดีว่าลูกเลว ๆ ของพวกเขามาเล่นเกม น่าแปลกที่พวกเขาเองก็กลับสนับสนุนด้วยซ้ำที่จะได้เห็นเด็กเลว ๆ อย่างพวกแกมาฆ่าฟันกันเอง ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย พวกเราก็แค่ขู่ไปว่า ถ้าไม่ส่งตัวลูกของพวกเขาเข้าร่วมก็จะฆ่าลูกของพวกเขาทิ้งซะก่อนเกมจะจบ ก็แค่นั้น” มนัสระเบิดหัวเราะออกมาราวกับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องสนุกสนาน

    ธันย์หูอื้อไปหมด เขาไม่อยากรับรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นคือเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาและพวกเพื่อน ๆ ที่เหลือ เขาเคยได้ยินเรื่องการเข้าร่วมเกม Battle Royale เพราะเขาติดตามทุกปีที่มีการเข้าร่วม นึกสมน้ำหน้าเด็กพวกนั้นที่ต้องโง่มาฆ่ากันเอง ตอนนี้เขาเข้าใจความรู้สึกทุกอย่างแล้วว่าเด็ก ๆ พวกนั้นรู้สึกยังไง ตอนนี้เขาคิดเพียงอย่างเดียว

    ภายใน 7 วัน จะทำยังไงให้ตัวเองมีชีวิตรอดออกไปจากเกมแห่งความตายนี้....

    “แล้วถ้าพวกเราไม่เล่นเกมนี้ล่ะครับ?” คราวนี้เป็นทีของชายหนุ่มสุภาพบุรุษอย่างนาวายกมือถามขึ้นบ้าง

    “เป็นคำถามที่ดีมาก หลายคนเองก็คงอยากจะคัดค้านการเล่นเกมพรรคนี้ แต่...ถ้าพวกเธอคนไหนไม่เล่นด้วย ฉันจะก็กดรีโมทในกระเป๋าเสื้อตรงไปที่ปลอกคอของพวกเธอแล้วจัดการซะก็แค่นั้น ...มีใครไม่อยากจะเล่นหรือเปล่าล่ะ?” มนัสถามกลับบ้าน ทุกคนหลบหน้าไม่กล้ามองรีโมทในมือของซาตานที่อยู่หน้าห้อง ตอนนี้ทุกคนจำต้องเข้าเล่นเกม Battle Royale Thailand อย่างเลี่ยงไม่ได้ และต่อจากนี้ทุกอย่างที่ดำเนินขึ้นภายในสามวันนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล

    “ถ้าไม่มีคำถามอะไรแล้ว ฉันจะเรียกชื่อของพวกเธอเรียงตามหมายเลขออกมารับสัมภาระไปนะ ฉันให้เวลาพวกเธอคนละ 3 นาทีเพื่อหาที่ซ่อนก่อนที่จะปล่อยคนต่อไปสู่สนามรบ เริ่มเลยล่ะนะ ชายหมายเลข 1 บอย!” เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก เขาขานรับก่อนจะมองหน้าเด็กสาวคนหนึ่งพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ และวิ่งออกไปรับกระเป๋า

    “หญิงหมายเลข 1 พลอย!” เด็กสาวผมดำร้องไห้โฮเมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง เธอกำลังจะวิ่งออกไปเพื่อรับสัมภาระแต่เพื่อนคนหนึ่งกลับรั้งเอาไว้เสียก่อน

    “เราเพื่อนกันนะพลอย เราเพื่อนกัน” วิวกอดเพื่อนรักของตนไว้แน่น

    “จ้ะ...เราเพื่อนกัน ...เราเป็นเพื่อนกัน!” หญิงสาวสวมกอดเพื่อนกลับก่อนจะคลายกอดนั้นแล้ววิ่งไปรับของและหายลับตาไปทิ้งไว้เพียงคราบน้ำตาบนเสื้อนักเรียนของวิว

    “ต่อไป ชายหมายเลข 2 เจมส์ .....”

    การขานชื่อยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงตาของธันย์ “ชายหมายเลข 7 ธันย์!” ชายหนุ่มเจ้าของชื่อมองหน้าของเพื่อนที่เหลืออยู่ในห้องพร้อมกับเดินออกไปรับกระเป๋า

    “ไว้เจอกันข้างนอกนะโยจิ” เพื่อนรักของเขาพยักหน้าตอบ ธันย์ยิ้มทั้งน้ำตาก่อนที่จะวิ่งออกมาข้างนอก ทางเดินเต็มไปด้วยทหารล้อมรอบ เขากึ่งเดินกึ่งวิ่งจนกระทั่งพ้นออกไปนอกโรงเรียน

    เขายอมรับว่าตอนนี้เขากลัวมากจนถึงขั้นฉี่ราดได้ มองไปทางไหนก็มีเพียงความมืดสลัวของความมืดในยามนี้ ตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่า อีกสามวันเกมก็จะจบ เขาพยายามหาจุดเหมาะ ๆ ไว้รอโยจิออกมาและวิ่งไปด้วยกัน ตอนนี้เขาคิดไว้อย่างเดียวคือต้องซ่อนตัวและหาทางยุติเกมนี้ให้ได้ เขาเดินไปตามลู่วิ่งของสนามหญ้าโรงเรียนเรื่อย ๆ จนกระทั่งมองเห็นใครคนหนึ่งนั่งพิงต้นไม้อยู่ในความมืดมิดนั้น

    เปิดเกม BATTLE ROYALE THAILAND ครั้งที่ 3 เวลา 02.10 น.
    -ยังไม่มีผู้เสียชีวิต-
    เหลือผู้เล่น 40 คน

     

    TO BE CONTINUED….
    จบตอนแล้ว ความจริงตอนนี้มียาวกว่านั้น แต่ตัดออกเป็นสองตอน จะได้ดูเยอะ 555+
    อย่าลืมคอมเม้นให้เค้าด้วยนะ รีดเดอร์ผู้น่ารักทุกคน
    ^/\^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×