คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : เนียน 100%
กองถุงขนมเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายในเวลาอันรวดเร็ว คนที่มีสมญษนามว่าโลมายังคงส่งชิ้นขนมมากมายเข้าปากอย่างไม่คิดจะหยุด แถมดูท่าวาจะกินต่อไปได้อีกเยอะโดยไม่ต้องหยุดพักให้เสียเวลา
"ขนมจะหมดบ้านแล้วนะจุนซู" ฮยอคแจเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนคนสำคัญ
"ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงโบอานะ แต่นายก็ต้องเป็นห่วงตัวเองด้วย" แต่เจ้าโลมากลับเพียงเหล่ตามองฮยอคแจแล้วก็หันไปให้ความสนใจขนมต่อ
"ตอนนี้อย่าเพิ่งเข้าไปกวนใจจุนซูจะดีกว่านะ..." คุณหัวหน้าวงเอสเจพูดพร้อมกับรั้งไหล่ของเพื่อนสนิทโลมาเข้าหาตัว
"เฮ้! เฮีย...ไม่เนียนไปหน่อยเหรอไงฮะ" คิบอมพูดพร้อมฉุดตัวฮยอคแจให้พ้นจากทึกกี้
"...ฉันพนันข้างเฮียทึก..แล้วนายล่ะเย่" ซีวอนที่มองดูเหตุการณ์มาตลอดเสนอขึ้นเสียงเบากับเยซอง
"อืม... งั้นฉันเลือกคิบอมแล้วกัน" เยซองตอบกลับมาพลางทำท่าครุ่นคิด
"แต่ฉันว่าเฮียซินได้ไปแหงๆ" ชองมินเอ่ยแทรกขึ้น ทำเอาเยซองหันไปมองหน้าตาย
"ฉันเห็นด้วยกับชองมินล่ะ..." คยูน้อยพูดเสริมแทรกเข้ามาด้วยอีกคน
"ดีมากคยูน้อย" ชองมินพูดพร้อมกับโอบไหล่หมายเลขที่ 13 อย่างพออกพอใจ
"เรื่องเนียนเนี่ย...ท่าจะไม่ใช่แค่บอมกับเฮียทึกแล้วมั้ง" คังอินที่หายไปนานกลับมามีบทบาทอีกครั้งทั้งยังช่วยแงะมือของชองมินออกจากไหล่คยน้อยให้อีกด้วย
"เหอะๆ... ^=^ แล้วนายล่ะคังอินจะช่วยหรือจะเนียน" ชองมินหัวเราะเสียงแปลกพลางมองหมียักษ์อย่างจับผิด
"แล้วนายจะอยากรู้ไปทำไมกัน..." ถามกลับหน้าซึมกระทือ
"ก็ไม่ทำไมร๊อก -0- " ตอบกลับเสียงสูง คังอินเหลือบหันไปมองทางชินดงปรากฏว่าคนที่นั่งหน้าเครียดมานานตอนนี้หลับไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีสองหนุ่มจากแก๊งฟิวชั่นไปร่วมด้วยช่วยกันหลับอยู่ข้างๆ อีกต่างหาก
"พระอินทร์เรียกเฝ้ากันไปหมดซะแล้วเหรอเนี่ย" คังอินมองดูคนที่นอนเคียงกันอยู่อย่างระอาใจ
"ฉันจะทำยังไงดีล่ะคิบอม ไม่อยากเห็นจุนซูในสภาพแบบนี้เลย" ฮยอคแจเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางเนือย ไม่สดใสเหมือนอย่างเช่นทุกครั้ง
"เอาน่า...จุนซูไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก ฉันว่านายน่ะห่วงตัวเองก่อนดีกว่า ตอนเนี้ยควรระวังตัวจากพวกเหยี่ยวพวกกาที่หวังจ้องตะครุบเหยื่อ" คิบอมบอกพลางแตะไหล่เพื่อนเบาๆ พร้อมกับส่องสายตาไปรอบบริเวณบ้าน ฮยอคแจเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับมีเครื่องหมายคำถามอยู่ตรงหน้า
"นายพูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลยคิบอม" ฮยอคน้อยเอียงคออย่างไม่เข้าใจ พอดีกับมีเสียงเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วค่อนข้างมากเข้ามาเทียบจอดหน้าบ้านพัก ก่นอจะตามมาด้วยเสียงเคาะประตูรัวดังอย่างต่อเนื่อง ชองมินหน่วยกล้าตาย(?)รีบวิ่งไปเปิดประตูดูอย่างรวดเร็ว
"ยูชอน!..อ่ะ!" ชายหนุ่มร่างสูงตะโกนเรียกหาร่างบางทันทีที่ประตูเปิดแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าภายในบ้านมีคนอยู่มากกว่าปกติ
"ยูชอนไม่อยู่หรอก ถูกจับตัวไปพร้อมกับยุนโฮแล้วก็โบอา" เจ้าฟักทองรีบแจ้งแถลงไขให้ฟังจนเสร็จโดยไม่ได้คิดถึงเลยว่าคนฟังจะรู้สึกตกใจแค่ไหน และแน่นอนผู้รับฟังจะต้องอึ้งระคนงงเอามากๆ กว่าจะกู้สติได้เวลาก็ปาเข้าไปเกือบ 10 นาที
"วะ...ว่าไงนะ!!!" หลังจากหายจากอาการมึนงงเสียงตะโกนก็ดังขึ้นลั่นบ้าน
"นึกว่าจะต้องให้รอยันพรุ่งนี้ซะอีก" เจ้าฟังทองชองมินแอบบ่นเบาๆ
"เรื่องมันก็เป็นอย่างที่พูดน่ะแหละ เลิกตกใจได้แล้ว" บอกเสร็จก็เดินเข้าบ้านไปทันที
"ทุกคนมีแขกเพิ่มมาอีกหนึ่งแหละ! " ชองมินตะโกนบอกกับทุกคนในบ้าน
"ใครอ่ะ..ใช่คุณจุนกี้อ๊ะเปล่า" ซีวอนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากรู้อยากเห็น
"คงไม่ใช่หรอกมั้ง ถ้าจุนกี้มาเจสก็ต้องมาด้วยสิ" ทึกกี้หันไปบอกกับซีวอน
"คุณอิรุน่ะ" พูดจบชองมินก็ไปนั่งข้างๆ แจจุงที่ยังคงนั่งเหม่อลอยไม่เลิก
"ถูกจับตัวไปตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย!!" แต่ดูท่าทางว่าคนมาใหม่ยังไม่เลิกโวยวายเสียงดัง
"เลิกโวยวายสักที! หัดมีมารยาทซะบ้าง" ฮีชอลนึกรำคาญจึงโวยกลับเสียบ้างพลางจ้องหน้าอิรุอยางไม่พอใจในการกระทำ
"แล้วคุณเป็นใครไม่ทราบครับถึงได้มาสั่งผม" อิรุจ้องตอบด้วยสายตาไม่พอใจเช่นเดียวกัน
"คิมฮีชอลแห่งวงซุปเปอร์จูเนียร์ ได้ยินชัดยัง - - " ฮีชอลตอบกลับหน้าตาย
"งั้นก็ขอโทษทีเถอะนะครับ...ถ้าคุณไม่ได้เป็นผู้มีอุปการะคุณอะไรกับผมก็อย่าสะเออะมาสั่งจะได้ไหมครับ" ร่างสูงพูดตอบอย่างไม่ไว้หน้าเลยเหมือนกัน
"โอ้โห! อย่างงี้จี๊ดเลย...จี๊ดขึ้นมาเลยสิครับพี่ท่าน" เยซองกล่าวสอดแทรกขึ้นมา ก่อนจะเงียบลงเมื่อเจอกับสายตาพิซาตจากฮีชอล
"ให้เป็นผู้มีอุปการะคุณกับนายสู้ไปเลี้ยงดูเจ้าพวกหมาแมวขี้เลื้อนยังดูจะมีความสุขซะกว่าอีกนะ" ฮีชอลพยายามข่มอารมณ์ให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากจะทำให้ต้องมีเรื่องวุ่นวายมากไปกว่านี้อีก
"อ๋อ!! อยากเป็นเทศบาลสินะครับ" แต่คนอย่าอิรุเรอะจะไม่กวนต่อ
"ทำไม เป็นเทศบาลแล้วมันหนักหัวนายหรือไง... ระวังเหอะวันดีคืนดีฉันจะจับนายเข้าไปอยู่กับเจ้าพวกเหมียวๆ ซะบ้างหรอก" ฮีชอลว่ากลับไปหน้าตาย
"งานนี้นายว่ามีมวยป่ะทึกกี้" ฮันกยองเอ่ยถามกับลีดเดอร์
"มีสิทธิเหมือนกันนะ" เฮียทึกทำหน้ามั่นอกมั่นใจไม่น้อย
"...แต่ก่อนอื่นน่าจะจับพวกเหมียวๆ ในปากคุณไปขังก่อนดีกว่ามั้งครับ" อิรุกระแทกแดกดันใส่เต็มๆ
"โฮ่! แต่ของฉันมันคงจะน้อยกว่าของนายแหละ แถมยังมีพวกคุณหมารวมอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ" ฮีชอลแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย
"ของผมก็แค่หมาบ้านธรรมดา คงจะเก่งสู้ไฮยีน่าของคุณไม่ได้หรอกมั้งครับ" อิรุเองก็ยิ้มเย็นไม่แพ้กันเลย
"โอ้! ขอบใจนะที่อุตส่าห์ถ่อมตัวให้ ก็บอกมาเถอะว่านายเองมันก็ร้ายใช่ย่อยอยู่" อีกฝ่ายตอบกลับมาเสียงสูง
"คงไม่ได้เศษหนึ่งส่วนสี่ของคุณหรอก..." ก็ยังไม่ยอมลดละง่ายๆ ที่จะพูดตอกกลับ
"อย่างนั้นเหรอ นายน่ะ..." ไม่ทันที่ฮีชอลจะได้เถียงกลับให้หนำใจก็รับรู้ได้ถึงแรงดึงที่แขน จึงหันไปมองก็พบว่าเป็นฮยอคแจนั่นเองที่รั้งแขนตัวเองเอาไว้พร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงขอร้องไม่อยากให้มีเรื่อง
"ผมว่าอย่าทะเลาะกันเลยนะครับ แค่นี้ก็วุ่นวายจะแย่อยู่แล้ว" คังอินและซีวอนที่กำลังลุ้นตัวโก่งทำหน้าขัดใจขึ้นมาทันทีที่ถูกฮยอคแจขัดจังหวะสงครามฝีปาก
"สรุปว่าอดเห็นมวยเลย" ฮันกยองเอ่ยขึ้นอย่างเสียดาย
"นั่นสิ..." ทึกกี้พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของฮันกยอง
"เฮอะ! ถ้าไม่เห็นแก่น้องชายฉันไม่จบแค่นี้แน่ๆ" พูดจบฮีชอลก็เดินหนีไปทางอื่นทันที
"ผมขอโทษแทนพี่ฮีชอลด้วยนะครับ ตอนนี้พี่ฮีชอลเองก็เครียดไปไม่แพ้กว่าคุณเลย" ฮยอคแจรีบไกล่เกลี่ยขึ้นทันที หวังจะให้คนตรงหน้านี้ไม่ไปหาเรื่องพี่รองของวงเอสเจอีก
"เรื่องนั้นช่างมันก่อนก็ได้ ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอครับ" ชายหนุ่มเปลี่ยนอารมณ์ยอ่างกระทันหันเมื่อเห็นฮยอคแจชัดเจนเต็มสายตา
"เจ้าตัวเล็กนี่ชื่อฮยอคแจครับ ส่วนผมก็คิบอม" คิบอมรีบบอกขึ้นจากด้านหลังฮยอคแจพลางเกาะไหล่เอาไว้อย่างออกหน้าออกตาเต็มที่
"ฉันชื่อซีวอน ส่วนคนที่นั่งทำหน้าต๊องๆ อยู่ตรงโน้นชื่อเฮียทึกหัวหน้าวงซูจู" หนุ่มวอนเองก็เสนอหน้าแนะนำตัวเองด้วยเช่นกันแถมยังแอบกัดหัวหน้าวงตัวเองอีกต่างหาก
"โห! พูดอย่างนี้ขอพ่อเตะซักป้าปเหอะ! " ลีดเดอร์ซูจูลุกขึ้นถลกแขนเสื้ออย่างเอาเรื่อง
"จัดการเลยทึกกี้ ฉันจะได้ดูมวยสมใจสักที!" ฮันกยองตะโกนขึ้นพลางทำท่าชูไม้ชูมือประกอบด้วย
"ฉันอิรุ ยินดีที่ได้รู้จักนะฮยอคแจ" ขณะที่อยู่ในช่วงชุลมุนนั้นอิรุก็ถือโอกาสจับมือหนูฮยอคหน้าตาเฉยพร้อมกับยิ้มพราย
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ!!!" สามเสียงประสานขึ้นพร้อมกับการจู่โจมเข้าใส่อิรุอย่างรวดเร็ว
"องครักษ์คิบอมปกป้องเจ้าชายฮยอคแจให้ได้!" ชองมินตะโกนขึ้น คิบอมรับคำสั่งอย่างรวดเร็วด้วยการพาฮยอคแจไปไว้ในที่ปลอดภัยจากเหล่าตัวอันตราย
"น่าเสียดายแฮะที่ไม่ได้เอากล้องออกมา" จุนซูที่นั่งเงียบกินขนมมานานบ่นอุบอิบคนเดียวแล้วก็หยิบขนมตรงหน้าเข้าปากต่อ คังอินที่เผอิญได้ยินมองหน้าโลมาด้วยสายตาแปลกๆ
"ตกลงที่เรียกพวกเอสเจมาน่ะมันดีแล้วจริงๆ น่ะเหรอครับพี่แจ" ร่างสูงหันไปมองคนที่ยังคงไม่หยุดปากกับการช่วยโลมากิน
"เอาน่า..บ้านเราจะได้ไม่เครียดไงล่ะ" ดูเหมือนว่าแจจุงเองก็จะลืมประเด็นหลักสำคัญของการตามตัวพวกเอสเจมาเสียแล้ว ชางมินจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ กับบุคคลที่อยู่ภายในบ้าน
"ด๊อง ชอง เรียว พวกพี่ทำอะไรหัดนึกถึงวงบ้างสิ" คยูน้อยที่ทนเห็นสภาพไม่ไหวบ่นว่าสามฟิวชั่น
"พูดอย่างนั้นได้ไงคยูน้อย เพราะเจ้าสามสหายมันนึกถึงหรอกถึงได้ต้องทำแบบนี้" เยซองทำท่าโอบไหล่คยูฮยอนเหมือนกับจะช่วยไกล่เกลี่ย ส่วนเจ้าสามฟิวชั่นก็รีบพยักหน้ารับเป็นเชิงเห็นด้วย
"ตรงไหนกัน..." คยูฮยอนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะหันไปถามเยซอง
"อ้าว! ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วฮยอคน้อยจะปลอดภัยเหรอ นายเองก็เถอะอย่าไปเข้าใกล้นายอิรุอะไรนั่นเชียวนะ" เยซองรีบกล่าวแจ้งแถลงไขพร้อมกับเตือนเข้าให้อีกต่างหาก
"จะพยายามเข้าใจละกันนะ" คยูน้อยยังงงไม่หาย แต่ก็พยายามพยักหน้าหงึกหงักทำตามที่เยเย่บอก
"ดีมากคยูน้อย อย่างนี้ค่อยสมกับเป็นน้องเล็กของเอสเจหน่อย" ไม่พูดเปล่าเยซองยังถือโอกาสยีหัวน้องเล็กของวงให้อีก
"เนียน!" สามเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน
"...น่าจะเอากล้องออกมาจริงๆ นะเนี่ย" โลมาบ่นงึมงำขณะที่มองดูเหตุการณ์อลวนอยู่เงียบๆ (เงียบมากๆ ด้วย)
"งั้นก็ไปเอามาสิจะมัวบ่นอยู่ทำไม" แจจุงพูดเสริมอย่างเห็นด้วย
"เชื่อดิ เดี๋ยวต้องมีช็อตเด็ดให้นายอยากเก็บภาพอีกเพียบ" ชางมินที่นั่งมองดูอยู่อย่างเงียบๆ นึกสงสารสามคนที่ถูกจับตัวไปเหลือเกิน แล้วร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องตัวเองไปเพราะเริ่มจะทนรับสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้ว
"...ป่านนี้ยูชอนของฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ" อิรุที่เกือบโดน 3 ฟิวชั่นเก็บบ่นออกมาพลางถอนใจยาว
"เอาน่ะ...งานนี้ฉันว่าพวกยูชอนคงไม่เป็นอะไรหรอก" ฮันกยองเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดคอร่างสูงด้วยท่าทีสนิทสนม
"ใช่ๆ อย่าคิดมาก..." เฮียทึกที่ไล่เตะซีวอนเบื่อแล้วร่วมกอดคอด้วยอีกคน
"เสร็จงานนี้ไปต่อกันเลยป่ะเพ่" เยซองเอ่ยขึ้นท่ามกลางเพื่อนร่วมก๊วนหน้าใหม่(?)
"แล้วคนที่ยืนคุยกะนายเมื่อกี้ชื่ออะไรเหรอ" อิรุหันไปถามเยซองราวกับเป็นเพื่อนที่รู้จักมักคุ้นกันแล้ว
"ฉันล่ะขอซูฮกให้นายจริงๆ เนียนมันไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์เลย" ป๋าตบบ่าอิรุอย่างปลาบปลื้ม
"ขอบใจ..." ร่างสูงรับคำชมด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สาเลยสักนิด
"พี่ฮีชอลผมว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ" ฮยอคแจบอกกับพี่รองของวงที่ดูเหมือนจะพึ่งพาได้ที่สุดแล้ว
"ช่างเถอะ...ปล่อยเจ้าพวกนั้นมันบ้าไปเหอะ" ฮีชอลบอกอย่างปลง พร้อมกับนึ่งเล่นเกมบอยอย่างมันมือ
"ฉันพอจะหาวิธีได้แล้ว!!" ชินดงที่นอนเข้าญาณมานานโพล่งขึ้นเหมือนกับคนนอนละเมอเสียงดัง
"เย้!! ชินดงฟื้นแล้ว!" ดองแฮร้องขึ้นมาเป็นคนแรก
"ชินดงกลับมาแล้ว!" เรียววุคร้องตาม
"ชินดงของพวกเราพร้อมรบแล้ว!!!" ชองมินไม่พูดเปล่า ยังกระโดดตบมือเป็นของแถม
"หนวกหูน่า!! จะตะโกนอะไรกันนักหนา" คังอินทำหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วมือพิฆาตก็เฉาะลงบนหัวคังอินอีกครั้ง
"นายนั่นแหละจะตะโกนทำไม" ฮีชอลปรายตาเรียบดุไปยังหมียักษ์ขาดสารอาหาร เพราะเสียงนั้นมันทำลายสมาธิในการเล่นเกมของพี่แก
"ไปทำเจ้าคังมันมากๆ ระวังของมันขึ้นนะ" ซีวอนที่หายไปนานบอกแทรกขึ้นมาหน้าตาเฉย ฮีชอลลุกขึ้นยืนหมายจะซัดซีวอนเข้าให้อีกคน แต่ก็ต้องแพ้สายตาที่ส่งมาจากไก่น้อย
"ใจเย็นๆ สิพี่ฮีชอล" บอกพร้อมกับเกาะแขนฮีชอลเอาไว้ให้ใจเย็น
"วิ้ว~!!!" อิรุกับทึกกี้ผิวปากขึ้นมาพร้อมกันอย่างจงใจเมื่อเห็นท่าทีระหว่างฮีชอลกับฮยอคแจ
"ทึกกี้ฉันว่านายเตรียมตัวจองโบสถ์ได้แล้วนะ" ฮันกยองรีบบอกขึ้นมาทันที
"ทำไมอ่ะ! จะจัดงานศพให้เฮียทึกเหรอ" เยซองถามแทรกขึ้น
"เออ! ก็ดี...เฮ้ย! ไม่ใช่อย่างนั้น" ฮันกยองเผลอเคลิ้มตามไปกับคำพูดของเยซอง
"ฮันนี่! ...เคยตายแบบไม่รู้ตัวป่ะ^ ^ " เฮียทึกหันไปส่งยิ้มสยองให้ฮันกยอง
"ก็กำลังจะอธิบายอยู่นี่ไงเล่า!" ป๋ารีบจัดแจงแถลงการณ์ให้ผู้มีอำนาจสูงสุด(ของวงเอสเจ)ฟัง
"ฉันว่าเร็วๆ นี้ เดี๋ยวฮยอคน้อยต้องกลายไปเป็นเหยื่ออันโอชะของฮีชอลแล้วแน่ๆ เลย เพราะฉะนั้นนายก็ควรรีบจัดเตรียมสถานที่จัดงานซะ"
"อะไรกัน... เห็นตอนแรกเฮียแกเล็งป๋ากะซีวอนไว้ไม่ใช่เหรอ" เยซองโพล่งออกมา แต่ก็โดนกำปั้นเทวาจากคุณป๋าผู้มาจากแดนมังกร
"ให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันไม่เกี่ยวเว้ย แค่ไอ้ซีวอนคนเดียวต่างหากละ เดี๋ยวปั๊ดพูดกะเหรี่ยงให้ฟังซะเลยนี่" ฮันกยองบอกกลับหน้าตาย
"อ๋อ..ถ้าเรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก...ถึงเสียฮยอคไปแต่ก็ยังมีคยูน้อยนี่นา" เฮียทึกบอกหน้าระรื่น
"โอ๊ะโอ! ไม่ได้นะเฮีย คนนี้ผมจอง" เยซองรีบแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"นี่คิดริอ่านเป็นอริกะคนอย่างฉันงั้นเหรอเยซอง...." เฮียทึกลากเสียงยานยาวพลางหรี่ตามองซาลาเปาเยเย่
"โฮ่! อย่ามัวแต่กัดกันเองอยู่เลย.. โน่น! พวกนายถูกเจ้าบอมมันแซงไปไหนๆ แล้ว" ฮันกยองพยักเพยิดหน้าไปทางคิบอมที่ดูเหมือนกำลังคุยอะไรบางอย่างอยู่กับคยูน้อย อีกมุมหนึ่งของห้องโลมาและคังอินกำลังช่วยกันบันทึกถ่ายทำภาพตรงหน้ากันไปอย่างตั้งอกตั้งใจ
"เฮ้... จะได้เรื่องกันไหมเนี่ยงานนี้" ฮยอคแจบ่นเปรยขึ้นอย่างหน่ายใจพร้อมกับเท้าคางกวาดสายตามองดูรอบบ้านก่อนจะมาหยุดที่คนข้างๆ
"นี่ก็อีกคนไหงเป็นงี้ไปได้" คนที่พึ่งพาได้ในตอนแรกอย่างฮีชอล ตอนนี้กลับมัวแต่สนใจเล่นเกมไปเสียแล้ว ฮยอคแจจึงเดินไปหาชินดงเป็นเพียงคนเดียวแล้วที่พอจะหวังพึ่งได้
"ชินดงนายบอกว่ามีวิธีจะทำไงเหรอ"
"..ห๊ะ...อ๋อ...คืองี้นะ...เราต้องเริ่มสืบก่อนว่าทั้งสามคนหายไปตอนไหน เมื่อไหร่ แล้วก็ที่ไหนอ่ะ" ชินดงที่ทำท่าว่าจะหลับอีกรอบเอ่ยอธิบายออกมาให้ฮยอคแจฟัง
"แล้วใครจะเป็นคนไปสืบล่ะ" ฮยอคแจรีบถามกลับไปตาใส
"ก็นั่นน่ะสิ..." ชินดงทำหน้าหนักใจเมื่อเหลียวหันไปมองเหล่าเพื่อนๆ ร่วมวงที่คงพึ่งพาไม่ได้แล้ว
"เดี๋ยวฉันเองก็ได้" ซีวอนโผล่มาจากด้านหลังโซฟาพร้อมกับเสนอตัวกับชินดง
"แน่ใจนะว่าจะไม่ทำให้เสียเรื่อง" แจจุงโพล่งขึ้นมาจากด้านหลังซีวอนอีกที
"งั้นนายก็มาช่วยกันสิ" ซีวอนหัไปหาคนร่วมงานเพิ่มทันที
"โอเค" ตอบรับอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องคิดไตร่ตรองให้เสียเวลา
"ฮันแน่!! จะแอบไปก๊งกันที่ไหนไม่เรียกเลยนะ" เฮียทึกเองก็โผล่มาแบบน่าอัศจรรย์ซ้อนหลังแจจุงกับซีวอนเช่นกัน
"นั่นดิ! ชวนไม่บอกแบบนี้มีเคืองนะ" แล้วฮันกยองที่ไม่รู้มาจากไหนบอกขึ้นพลางเกาะไหล่ทึกกี้เอาไว้อีกทีโดยมีเยซองพ่วงท้ายมาด้วย
"พวกพี่จะเล่นแม่งูเอ๋ยหรือไงเนี่ย" คยูน้อยมองสภาพพวกพี่ๆ ของวงอย่างสนใจ
"ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละคยูน้อย" ฮยอคแจเอยบอกด้วยหน้าเซ็งๆ
"แล้วทั้งสองคนไม่ลองไปเล่นดูเหรอ..." อิรุพูพูดเสียงนุ่มอยู่ด้านหลังคยูน้อยและหนูฮยอค
"ไม่ดีกว่าครับ" ฮยอคแจบอกพร้อมกับส่ายหัวไปมา คยูน้อยเองก็ทำท่าเช่นเดียวกันกับฮยอคน้อย
"แหม! ทั้งคู่น่ารักจังเลย ^ ^ " ชมพร้อมโอบไหล่สองหนุ่มเอาไว้ทันที
"แยกๆ!! " คิบอมกับเยซองช่วยกันหยิบมือปลาหมึกออกจากสองหนุ่มด้วยความไวแสง
"ทำอย่างนี้มันไม่ดีนะครับคุณอิรุ" คิบอมพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
"คุณจะมาเอากำไรคนเดียวแบบนี้มันไม่ดีนะครับ"
"เอาล่ะ!! ตกลงใครจะไปสืบข้อมูลบ้างเนี่ย" ชินดงตะโกนถามท่ามกลางความวุ่นวาย ซีวอน เฮียทึก คังอินและจุนซูยกมือขึ้นเสนอตนกันอย่างพร้อมเพรียง
"ดูจากสภาพการณ์แล้ว นายว่าสี่คนนี้จะได้เรื่องเหรอชินดง" ฮีชอลที่เลิกสนใจเกมบอยแล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจบุคคลทั้งสี่
"ก็ช่วยไม่ได้นี่นา จะหาอาสาสมัครที่ดีกว่านี้ก็คงไม่มีแล้วล่ะ" หนุ่มร่างท้วมทำหน้าปลงตก
"งั้นก็ตามใจแล้วกัน" จริงอย่างที่ชินดงว่า ฮีชอลจึงไม่สามารถจะคัดค้านอะไรได้
ริมฝีปากถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดแดงห่อเป่าปลายเล็บยาวซึ่งโดนเคลือบย้อมจากน้ำยาทาเล็บสีแดงเลือดก่อนที่จะหันมาเข้าร่วมพูดคุยกับคู่สนทนาอีกสองคนที่นั่งกันคนละมุมโต๊ะ
"วิธีไหนน้า...ที่จะทำให้สามคนนั้นดิ้นพล่านกันได้" กระโปรงผ้าชีฟองสีม่วงมุกอ่อนขยับไหวตามแรงเขยื้อนของเรียวขาที่วาดขึ้นไขว่ห้าง พร้อมกับการจิ้มแก้มตัวเองทำหน้านึกตามไปด้วย
"แต่ฉันอยากให้ทรมานมากว่านะ" พูดพลางแสยะยิ้มมุมปากแล้วหยิบยาทาเล็บสีแดงเลือดมาทาเล็บมือต่อ
"แล้วจะใช้วิธีไหนดีล่ะลูกพี่ โซ่ แซ่ กุญแจมือ ครบเซ็ตเลยดีมะ ผมล่ะอยากฟังเสียงร้องครวญครางของแม่สาวโบอานั่นจังเลย" ชายหนุ่มเพียงคนเดียวเอยขึ้นด้วยสีหน้าหื่นกระหาย
"คิก..ใจเย็นๆ สิ เรื่องแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิถึงจะถูก" สาวในชุดกระโปรงผ้าชีฟองเท้าคางมองอีกฝ่ายตาใส
"ก็ไม่เลวนะ...ถ้าได้เห็นเลือดด้วยก็คงจะดี" ดวงตาใต้ขนตางอนยาววาวโรจน์ขึ้นมาเล็กน้อยขณะที่พูด
"คิก..ชอบจังเลยนะ พวกเลือดเนี่ย..." สาวน้อยปรายยิ้มหวาน
"ใช่...ยิ่งเห็นพวกนั้นทุรนทุรายลงไปกองกับพื้นก็ยิ่งดี..." น้ำเสียงออกจะเย็ฯเยือกอยู่ในที
"จะได้รู้ซะบ้างว่าการทำตัวขวางหูขวางตาน่ะมันจะได้รับโทษยังไง"
"ฮึ..ฮึ.. งั้นก็ตามสบายเลย อยากจะเห็นเหมือนกัน" ภายใต้รอยยิ้มหวานกลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และน่าสะพรึงกลัวจนน่าขนลุก
"แล้วพวกลูกพี่จะใช้วิธีไหนจัดการก่อนล่ะ" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น
"...อดข้าวก่อน...อย่าให้ได้แตะข้าวหรือน้ำเปล่าเป็นอันขาด..." สั่งเสียงเฉียบคิ้วเรียวกดขมวดลงต่ำยกเสริมให้ดวงตาดุดันขึ้น
"ค่อยๆ ทำลายเรี่ยวแรงต่อต้านซะก่อน แล้วหลังจากนั้นมันจะเป็นของจริง"
"คิก...เข้าท่าดีนี่" เสียงหวานเปรยบอก
"ว่าแต่...ของที่ให้ไปเตรียมไว้น่ะเรียบร้อยหรือยัง" ปรายตามองไปทางชายหนุ่มเพื่อขอคำตอบ
"เรียบร้อยตั้งนานแล้วล่ะลูกพี่" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยกขึ้นตอบรับ
"หวังว่าคงจะไม่ทำให้ผิดหวังหรอกนะ" กำชับถามเสียงเรียบ
"หึ..หึ..." ชายหนุ่มตอบรับกลับมาด้วยการหัวเราะในลำคอ พลางกดสายตามองไปยังห้องที่ทำการกุมขังสามเหยื่อผู้โชคร้าย
"ถ้าอย่างนั้นก็จัดการกันได้แล้ว" เสียงหวานเอ่ยขึ้นสั่ง หญิงสาวอีกคนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเอ่ยอนุญาตกับชายหนุ่ม
**************************************************************************
ตอนนี้ก็หมดไปกับเรื่องไร้สาระของพวกตัวยุ่ง ยังไม่ได้เรื่องได้ราวกันสักที - -
แต่ตอนหน้าต้องจับตามองกันให้ดีๆ นะ เพราะว่าจะมีคู่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
ด้วยการสปาร์คกันบนรถตอนไปช่วยสาวๆ เค้า
สุดท้ายและ(ขี้เกียจพูดมากกลัวคนอ่านจะรำคาญ) ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
และคนที่เม้นท์ให้ เป็นกำลังใจให้มากเลย ^ ^
ความคิดเห็น