คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : การกลับมาของหัวใจ
*****ฉันกลับถึงบ้านด้วยอาการเหมือนคนหมดหวังในชีวิต
แม้จะพยายามทำใจแค่ไหนแต่ทำไมมันถึงรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้
ฉันนั่งลงที่โซฟาเปิดโทรทัศน์เพื่อติดตามข่าวของจิ่งหยูวและมันก็เป็นจริง
เขายอมรับว่าเขามีผู้หญิงที่อยู่ในใจอยู่แล้ว
เพียงแค่ได้ฟังคำพูดของเขาน้ำตามันก็ไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว
มันเป็นความจริงที่ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
ฉันฟุบหน้าลงกับโซฟาเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกปวดร้าวทั้งหมดไปพร้อมกับน้ำตาและเสียงสะอื้น
วันนี้ฉันจะขอร้องไห้เป็นวันสุดท้าย และฉันจะลบเขาออกจากความทรงจำของฉันให้ได้
หลังจากได้ระบายความรู้สึกปวดร้าวมาทั้งคืน
รุ่งเช้าฉันก็มาทำงานตามปกติแม้ดวงตาจะทิ้งร่องรอยบวมแดงเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแต่ฉันก็ฝืนมาทำงานแม้คนในออฟฟิศจะซุบซิบกันเมื่อเห็นฉันแต่ฉันก็ต้องยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ถึงแม้จะมีแรงกดดันจากคนรอบข้างหรือจะมีเสียงนินทาว่าร้าย
แต่ฉันก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ฉันพยายามท่องเอาไว้ในใจ
“ฤทัยเป็นยังไงบ้างถ้าไม่ไหวก็ลาพักเถอะนะ” พี่ชีวินเดินมาพร้อมกับนารี
และถามฉันทันทีที่เห็นดวงตาที่บอบช้ำและใบหน้าที่ดูเศร้าหมองของฉัน
“ฤทัยไม่เป็นไรแล้วค่ะ ฤทัยไหว” ฉันเงยหน้าฝืนยิ้มให้พี่ชีวินและนารี
เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นห่วงฉันมากไปกว่านี้ นารีพยักหน้าตอบรับและเดินเข้ามากอดให้กำลังใจฉัน
“แล้วมันจะผ่านไปนะฤทัยอดทนไว้”
“ขอบใจนะนารี” ฉันกอดเพื่อนที่รักตอบกลับและไม่ลืมที่จะขอบใจในความห่วงใยของนารี
หลังจากหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแม้ฉันจะยังลบเขาออกจากความทรงจำไม่ได้ทั้งหมดแต่ฉันก็ดีขึ้น
เสียงซุบซิบของคนรอบข้างเริ่มจางหายไป คงเหลืออยู่บ้างก็บางคนแต่มันก็ไม่ทำให้จิตใจฉันสั่นคลอนได้
เพราะฉันไม่แคร์กับปากชาวบ้านจะมีแค่คนเดียวที่ฉันแคร์แต่มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
เพราะเขาไม่กลับมาหาฉันอีกแล้ว
“ฤทัยมีงานด่วนพี่คชาให้มาตามไปพบที่ห้อง” ลิลลี่วิ่งหน้าตื่นมาตามฉัน
ฉันจึงเดินไปพบพี่คชาที่ห้อง
“พี่คชามีอะไรหรือเปล่าค่ะ” ฉันถามพี่คชาทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง
“นั่งก่อนซิฤทัย” พี่คชาบอกฉันให้นั่งลง ก่อนจะพูดต่อเรื่องงาน
“คือพี่มีงานสำคัญให้ฤทัยทำ”
“งานอะไรหรือค่ะ”
“คืออาทิตหน้าจิ่งหยูวจะเดินทางมาที่เมืองไทยเป็นการส่วนตัวบอกว่าจะมาทำธุระที่เมืองไทย
และทางบริษัทที่ดูแลเขาติดต่อทางเรามาอยากให้ฤทัยไปดูแลเขาในช่วงที่เขามาอยู่เมืองไทย”
ทันทีที่พี่คชาเอ่ยชื่อจิ่งหยูวหัวใจฉันมันก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาทั้งๆที่ฉันก็ทำใจจากเขามาได้บ้างแล้วแต่พอได้ยินชื่อเขาความเจ็บปวดมันเริ่มย้อนกลับมา
แม้อีกใจจะอยากเจอหน้าเขาแต่เขาไม่ใช่จิ่งหยูวของฉันอีกต่อไปแล้ว
ฉันรวบรวมความกล้าพูดกับพี่คชา
“เป็นคนอื่นได้ไหมคะ คือฤทัยไม่สะดวกค่ะ”
“ไม่ได้ทางบริษัทที่ดูแลเขาระบุเลยว่าต้องเป็นฤทัย
ฤทัยก็รู้ว่าเราปฏิเสธทางโน้นไม่ได้ช่วยบริษัทเราอีกสักครั้งนะ พี่ก็ไม่อยากบังคับฤทัยแต่เป็นคำสั่งของท่านประธาน
ฤทัยต้องเข้าใจนะ” คำพูดแกมบังคับของพี่คชาทำให้ฉันปฏิเสธไม่ได้อีกแล้ว
“ค่ะ” ฉันตอบรับคำพี่คชาทั้งๆที่ไม่เต็มใจเท่าไรนัก
หลังจากคุยงานเสร็จฉันก็ขอตัวเดินออกจากห้องพี่คชาด้วยหน้าตาที่ไม่สู้ดีนัก
พอมาถึงโต๊ะทำงานก็เห็นนารีกับพี่ชีวินนั่งรอท่าคอยถามฉันอยู่
“ฤทัยพี่คชาเรียกพบด่วนมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
นารีเริ่มซัดคำถามทันทีที่เห็นฉันเดินเข้ามา
ฉันจึงเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะตอบคำถามของเธอ
“พี่คชาจะให้ฉันไปดูแลจิ่งหยูวเขาจะเดินทางมาทำธุระที่เมืองไทย
บริษัทที่ดูแลเขาติดต่อมาว่าจะต้องเป็นฉัน”
“แล้วทำไมต้องเป็นฤทัย จิ่งหยูวนี่ใจร้ายจริงๆ
รู้ก็ทั้งรู้ว่าฤทัยต้องเสียใจเรื่องเขายังจะมาให้ฤทัยไปดูแลอีก”
ฉันถอนหายใจยาวก่อนจะพูดกับนารี
“ไม่เป็นไรหรอกเขาคงมาไม่กี่วันเดี๋ยวก็คงกลับ”
“แต่ฤทัยไหวแน่นะ” นารีเดินเข้ามาจับมือฉันด้วยความเป็นห่วง
โดยมีพี่ชีวินยืนให้กำลังใจฉันอยู่ข้างๆด้วย
“ไม่ต้องห่วงฉันนะนารี ฉันไหว”
ฉันยิ้มให้นารีเพื่อทำให้เธอสบายใจและจะได้ไม่เป็นห่วงฉัน
หลังจากเตรียมประสานทางสนามบินและเตรียมจองโรงแรมที่พักไว้สำหรับเขาเรียบร้อย
ฉันก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน โรงแรมที่เขาเข้าพักเป็นโรงแรมเดิมและห้องเดิมที่เขาเคยพักเลยไม่เป็นการยากเท่าไรเพราะฉันคุ้นเคยกับพนักงานของโรงแรมเป็นอย่างดีก็เคยติดต่อประสานงานกันตั้งแต่วันที่เขาเดินทางมาเมืองไทยครั้งแรก
คืนนี้ท้องฟ้าดูสว่างไสวเพราะมีแต่ดวงดาวเต็มท้องฟ้าไปหมดบรรยากาศแบบนี้ทำให้ฉันนึกถึงเขาเราเคยนั่งดูดาวด้วยกัน
ฉันพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเพราะทุกครั้งที่คิดถึงเขาฉันมักจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
ฉันพยายามบอกกับตัวเองให้เข้มแข็งแล้วทุกอย่างมันจะผ่านไป
ความคิดเห็น