คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : Chapter 31
ทั้งสองเดินมาถึงห้องสมุดแล้วภาพในห้องนั้นกว้างใหญ่เท่ากับที่ฮอกวอตส์เลยก็ว่าได้แต่เบลล่าที่เห็นอะไรติดอยู่บนตู้แต่ละชั้นจึงหันไปถามเด็กชาย
“ป้ายที่ติดอยู่ตรงชั้นหนังสือคืออะไร
เซน”
“ป้ายแยกประเภทหนังสือนะ
แต่ผมรู้ว่าเธอสนใจศาสตร์มืดใช่ไหม อยู่หน้าเธอเลย”
“แต่ป้ายดูเหมือนจะไม่ใช่ภาษาอังกฤษนิ”
เบลล่าถามเพราะเธอเดินไปที่ตู้ที่เด็กชายบอกแต่มันไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ใช้อยู่เธอจึงเกิดความสงสัยนั้นทำให้เด็กชายที่อยู่คนละตู้นั้นหัวเราะออกมาหน่อยๆ
“ภาษาอิตาลีนะ
ตระกูลโรวว์นั้นส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอิตาลีเวลาเจอหน้ากันในนี้เลยไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษนะ”
“ดูเหมือนนายจะรู้ดีจังเลยนะเซน
นายเป็นอะไรกับตระกูลโรวว์หรือป่าว”
เบลล่ากล่าวออกมานั้นทำให้เด็กชายหยุดนิ่งไปนิดหน่อยแต่แค่แปปเดียวเท่านั้นแต่ถ้าเบลล่าอยู่ใกล้ตัวเด็กชายคงรู้
“ทำไหมเธอถึงคิดอย่างนั้นละเบลล่า”
เด็กชายกล่าวออกมาแต่ระยะกับมาอยู่ที่ใกล้หูของเบลล่านั้นทำให้เบลล่าตกใจออกมานิดหน่อยแต่หูของเบลล่ากับแดงขึ้น
“อย่าทำแบบนี้อีกละเซน
ที่คิดว่านายเกี่ยวเพราะตระกูลโรวว์พ่อบอกว่ามันหายสาปสูญไปแล้วแต่ทำไหมนายถึงรู้ละเซน”
“เบลล่า คนเรานั้นต้องมีความลับ บางสิ่งเธอไม่ควรรู้จะดีกว่า”
“แต่...”
เบลล่าหันกับมาดวงสีหน้าที่จริงจังแต่เด็กชายเอามือทั้งสองข้างมาจับที่ใบหน้าของเบลล่าด้วยความอ่อนโยนและแววตาที่เบลล่าไม่เคยเห็น
แววตาที่แสดงถึงความเศร้า
“เมื่อถึงตอนนั้นเบลล่าผมจะบอกเธอเอง”
“สัญญานะย่ะ เซน เมื่อถึงตอนนั้น”
“อา เธออยู่ที่นี้ไปก่อนนะ
ผมออกไปเอาของก่อนเดียวมา”
เด็กชายเดินออกจากห้องไปทิ้งให้เบลล่าอยู่คนเดียว
ถึงเบลล่าจะสงสัยในตัวของเด็กชายแต่ถึงถามอะไรไปก็ไม่มีคำตอบรอเวลาที่เด็กชายพร้อมน่าจะดีกว่า
ส่วนเด็กชายที่เดินออกมาจากห้องสมุดมาไกลหน่อยนั้นได้ห้องไปที่กำแพงที่มีรูปวาดสีแดงสาดไปด้วยความงดงามและน่ากลัว
“เซฟแอบฟังคนอื่นพูดกันไม่ดีนะ”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายรู้น็อค
แต่ไม่คิดเลยว่าแบล็กจะสงสัย”
เซฟกล่าวออกมาพร้อมกับเดินมาอยู่ข้างๆกับเด็กชาย
สำหรับเซฟรูปภาพนี้มันน่าหวาดกลัวและโดดเดี่ยวแต่มันก็เป็นเพียงแค่ความคิดของตนเองเท่านั้นแต่เด็กชายข้างๆนั้นกับชอบมันเป็นที่สุด
“ซิกนัสเชิญผมไปงานเลี้ยงตอนปิดเทมอปีสามด้วยละ”
“เรื่องจริง
งานเลี้ยงนี้มันต้องได้รับการยอมรับนิอย่าบอกนะว่านยได้รับการยอมรับจากซิกนัสแล้ว”
“หึหึ แน่นอนแค่เล่นตรงจุดอ่อนของดรูเอลล่าก็ได้รับความเชื่อใจแล้ว”
เด็กชายกล่าวออกมาลูบภาพวาดด้วยความหลงไหล
รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวของเด็กชายนั้นมากมายยิ่งนัก
“หึหึ
ยัยผมทองจะเป็นจุดเริ่มต้นของเวทีนี้ หึหึ
นี้เซฟฉันว่าจะให้รุ่นพี่เขารู้เรื่องตัวตนของฉันนายคิดว่าไง”
เด็กชายที่หมุนตัวเล่นหันกลับมามองเซฟดวงแววตาที่เป็นประกายที่เหมือนกับหายนะที่กำลังจะมาเยือน
รอยยิ้มยังคงบิดเบี้ยว บรรยากาศที่แย่ลง
“แล้วแต่นายน็อค ฉันตามนายทุกอย่าง”
“นั้นสินะ หึหึ ฉันน่าจะได้พลังในการทำนายจากลินน่ามากก็น่าจะดี
หึหึก็ฉันเป็นเด็กต้องสาปนิ หึหึฮ่าๆๆๆๆ”
“แต่สำหรับพวกฉันที่อยู่ตรงนี้มันไม่ใช่เหรอนะเซน”
เซร่ากล่าวออกมาหลังจากที่แอบฟังเด็กชายและเซฟคุยกันเธอ
มิเซลและโลเกียไม่เคยคิดว่าเด็กชายตรงหน้านั้นจะเป็นเด็กต้องสาปเลย
“ใช่แล้ว
พวกเรามันเพื่อนตายกันนิเนอะโลเกีย”
มิเซลกล่าวออกมาพร้อมกับขยี้ผมตัวเองโลเกียที่อยู่ข้างๆก็ได้แต่ตบไหล่มิเซลอย่างเบาๆนั้นทำให้เด็กชายที่เห็นยิ้มออกมา
“แต่เซน นายปล่อยให้คุณแบล็กรอนานแบบนี้ไม่ได้นะ
นั้นคุณโซลเมทไม่ใช่เหรอ”
เซร่ากล่าวออกมาอย่างร่าเริงก่อนจะทำท่าทางล้อเลียนเด็กชาย
นั้นทำให้เด็กชายหน้าแดงก่อนที่จะขอตัวออกไปจากตรงนี้แต่เซฟหันมามองที่เหลือ
“โซลเมทหมายความว่าไง”
“ลืมไป ลินน่าไม่ได้บอกนายนิเนอะเซร่า
โลเกีย”
“นั้นสินะรุ่นพี่มิเซล”
“คิดว่ายัยนั้นจะบอกเซฟเหรอ
แค่เป็นผู้นำตระกูลโรวว์ชั่วคราวยังไม่รอดเลย ดูอย่างเซนซะบ้างสิดูแรงเอกสารงานต่างๆของสองตระกูล”
โลเกียกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกแต่นั้นยิ่งทำให้เซฟที่ฟังนั้นอารมณ์เสียเพราะถ้าจากที่ฟังแล้วนั้นแปลกว่าตัวเองไม่รู้อยู่คนเดียว
“บอกมาสิพวกแก!!!!”
“ถึงลินน่าไม่บอกความจริงนายก็รู้แต่เสือกลืม ไอขี้ลิม
ไม่น่าเป็นสามีของลินน่าจังเลย”
“นั้นสินข้อดีอะไรเลยสักอย่าง
ว่าไหมรุ่นพี่มิเซล”
“ถูกต้องอย่างที่เซร่าว่ามาเลยละ แทนยังเป็นคนที่ทำให้เซนกับลินน่าทะเลาะกันตอนปีสามด้วยนิ”
มิเซลกล่าวออกจากนั้นก็เดินหายไปกับโลเกียและเซร่าทิ้งให้เซฟอยู่คนเดียวแทนยนังต้องมาฟังข้อเสียของตัวเองอีก
“พวกแกกลับมาเดี่ยวนี้!!!!!!”
อีกด้านเด็กชายเด็กไปหยิบหนังสือจากห้องนอนของตัวเองแล้วเดินกลับมาหาเบลล่าที่อยู่ในห้องสมุด
แต่เบลล่าที่ก่อนออกนั้นเด็กชายเห็นนั่งอ่านหนังสืออยู่แต่ตอนนี้หลับไปแล้วนั้นทำให้เด็กชายตัดสินใจอุ้มเบลล่าไปนอนที่โซฟาข้างในก่อนที่เด็กชายไปเอาผ้าห่มมาคลุมเบลล่า
“เวลานอนแบบนี้ก็น่ารักดีนิ”
เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับเล่นผมเบลล่าเล่นแต่เบามือก่อนที่จะเดินไปที่หน้าต่างที่มีเปียโนวางไว้เด็กชายเดินไปที่เปียโนแล้วเลยบรรเลงที่ทำให้เบลล่าที่หลับอยู่ผ่อนคลายและเป็นครั้งแรกที่เด็กชายบรรเลงบทเพลงที่อ่อนโยน
สายลมที่พัดมาดูเหมือนว่าจะเป็นใจจนเด็กชายบรรเลงจนจบแล้วหันกลับไปมองเบลล่าด้วยสายตาที่โดดเดี่ยว
“เธอนะ จะไม่หายเหมือนกับลินน่าใช่ไหม
เบลล่า”
ความคิดเห็น