คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Doctor of heart disease.? 50%
2
“เออ.......”
“ว่าไงครับหมอ?” ร่างบางๆของคนไข้ค่อยๆเคลื่อนตัวลงจากเตียงก้าวขาช้าๆเดินตรงมาที่ผม
“ถ้าเป็นเรื่องโรคหัวใจ....ผมแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีกว่านะครับ”
“เปล่าครับ....ผมหมายถึงตอนนี้หัวใจผมมันเต้นเร็วเพราะหมอ
หมอจะมาเป็นคนดูแลหัวใจผมได้ไหม?” ....คุณคนไข้ครับเรารู้จักกันมาไม่ถึง24ชั่วโมงเลยนะครับ แล้วผมก็ยังเลิกกับแฟนยังไม่ถึงวันเลยนะครับ.ผมจะทำไงดีเนี่ย เฮ้อคนหล่อเครียด หน้าตาดีก็อย่างงี้อ่ะนะ แต่จะว่าไปคุณคนไข้ก็....จะว่าไงดีล่ะ หน้าหวาน ขาว จมูกโด่ง ตาโต เอาง่ายๆว่าสเปคเลยล่ะ ต่นิสัยนี่สิ ไม่รู้จัก ไม่เคยคุย ก็อย่างว่าอะนะเจอกันยังไม่ถึงวันเลย รุกเร็วจัง หล่อตั้งตัวไม่ทันเพราะหล่อไม่หน้าม่อเหมือนไอ้ปาร์คเพื่อนรัก ... คุณว่าหล่อควรจะเอาไงดี คบ ไม่คบ คบ ไม่คบ คบ... “โอเคครับ หมอจะเป็นที่ปรึกษาให้คุณนะครับ...คนไข้ของผม” ผมจับมือบางที่กุมกันอยู่มากุมไว้เอง.... “ผมจะถือซะว่า พระเจ้าสั่งให้ผมเลิกกับเธอ เพื่อมาพบกับคุณนะ คิม แจจุง”
---------
หวังว่าแกจะสมหวังนะคิมแจจุง เหอะแอบชอบเขามาตั้งหลายปีคิดว่าคงจะไม่ได้เจอกันแล้ว แต่บทจะไปก็จากไปเฉยๆ แต่บทจะกลับมาเจอกัน ...มันก็ดันเป็นงี้ไปซะได้ แปลกดีเนอะ พระเจ้าก็แปลกลำเอียงจังพระองค์ทรงสร้างให้คนบางคนมีคู่ชีวิตที่อยู่กับไปจนแก่เฒ่า แต่กับบางคนจนแก่เฒ่าก็ยังไม่มีเข้ามาในชีวิต เฮ้อ แล้วกับคิม จุนซูคนนี้พระองค์สร้างสรรค์ชีวิตรักให้มายังไงนะ...ใครจะเข้ามาเป็นคนสุดท้ายของชีวิตผมกัน อยากเจอจัง หวังว่าเราจะได้เจอกันก่อนผมจะ30นะ....ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย ผมเดินออกมาจากห้องนั้นพร้อมจีฮเยนั่นแหละปล่อยให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันไปมันคงจะดี หวังว่ายุนโฮจะตอบตกลงนะ55555
“เฮ้ออออ เบื่อ”
“ถอนหายใจมากๆแกเร็วนะครับ รุ่นพี่” เสียงนุ่มทุ้มปะปนกับแหบเสน่ห์นิดๆดังขึ้นมาจากเก้าอี้ตัวข้างของผม หึเสียงแบบนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ “ปาร์ค ยูชอน ... มาที่นี่ทำไมอ่ะ ใครเป็นอะไร” ถ้ามีใครเกี่ยวกับยูชอนเป็นอะไรเค้าก็ต้องรู้สิ แต่นี่...นอกจากจะไม่รู้แล้วท่าทางของยูชอนเองก็ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร หรือมันไม่เคยทุกข์เลยวะ “เปล่าๆมาหายุนโฮ” มันบอกพลางยกขาขึ้นไหว่ห่างหร้อมเอาแขนยาวๆพางมาไว้ที่ไหลผม แต่ดูยังไงมันก็ขัดใจผมอ่ะ เสื้อผ้านี่ดูไม่ได้อ่ะเสื้อยืดสีเหลืองสะท้อนแสงกางเกงขาสั้น แบบที่มันใส่ประจำน่ะแหละ สีม่วงเข้มมาคู่กับแตะคีบสีเขียวที่เจ้าตัวภูมิกับการเรืองแสงในที่มืดของรองเท้าคู่นี้เป็นอย่างมาก ตอนไปส่งผมที่สนามบินก็ใส่แล้วคือหามันเจอง่ายมากเพราะอีแตะเรืองแสงนี่แหละ แต่ผมขอหน่อยเหอะ “ส่องกระจกก่อนออกจากบ้านป่ะ หรือบ้านไม่มีกระจก?ซื้อไปติดให้เอาไหม?” ผมสุดจะทนกับความติสแตกนี่จริงๆ “ไม่ต้องหรอกพี่ บ้านผมมีเยอะแล้วผมเกรงใจ” พร้อมระเบิดเสียงหัวเราะที่ผมเกลียดนักเกลียดหนาก็ตามมา... “เหอะไม่พูดด้วยแล้ว......” ผมลุกออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วทำให้แขนที่วางพาดบ่าผมอยู่ตกกระทบพนักเก้าอี้อย่างแรงทำเอาเจ้าของแขนร้องจ๊ากออกมาอย่างลืมตัวเลยล่ะ แต่เหมือนผมจะลืมตัวกว่าว่าจะงอนมัน เพราะตอนนี้ตัวผมถลาเข้าไปสำรวจรอยแดงๆบนแขนของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ยูชอนเค้าขอโทษ เจ็บมากไหมอ่า เคไม่ได้ตั้งใจนะ ไปหาหมอไหม แดงหมดเลยทำไงดีอ่ะ.....TT” ผมจับมือยูชอนพยายามฉุดให้ลุกขึ้นเพื่อเดินไปหาหมอ ให้หมอทายาให้ทั้งๆที่ยูชอนก็บอกว่ามันไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย ก็คนเป็นห่วงอ่ะ....... แต่ก็ไม่ยามลุกสักทีสงสัยผมต้องออกแรงมากกว่านี้สินะ “อ๊ะ ...”ร่างอันบอบบางของคิมจุนซู (หรอ- -“)ถลาลงไปอยู่บนตักหนาของชายปาร์คพร้อมมือปลาหมึกรัดเข้าที่เอวบางๆนั่นอย่างรวดเร็ว เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะปาร์ค ยูชอน “หืม อยากนั่งตักผมก็ไม่บอก...” ใครจะไปอยาก แล้วผมรู้สึกร้อนงี้เนี่ยนั่งกี่ทีก็ไม่ชินให้ตายเถอะ “จะบ้าหรอ” จะว่าไปผมก็รู้สึกอยากจะดีดไอ้สนามฟุตบอลนี่จริงๆ...แต่ไม่กล้าอ่ะ “ไปกินข้าวกันไหม?” อยู่ๆก็ชวนคิดไงเนี่ย แต่ก็ “เอาสิ นายเลี้ยงนะ” ก็งี้แหละนะของฟรีใครจะไม่เอา........
บรรยากาศครึ้กครื้นของร้านอาหารหรูสไตล์อิตาเลี่ยนร้านโปรดของพี่จุนซูเค้า แต่ไม่ได้มาเลยตั้งแต่จบมหาลัยไปแต่วันนี้ผมจะถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่เราจะมาดินเนอร์ต้อนรับการกลับมาจากการไปเรียนซัมเมอร์ที่ญี่ปุ่นของพี่เค้า “คิดถึงร้านนี้จังเลยยยย...ยูชอนดูนี่สิๆๆ” หึ ยังอยู่ด้วยหรอเนี่ยรูปที่ผมกับพี่จุนซูมากินที่นี่ครั้งสุดท้ายในวันจบของพี่เค้า เรียกได้ว่านัดเลี้ยงกันทั้งสายรหัสเลยก็ว่าได้แต่สุดท้ายคนที่ว่างมาก็มีแค่ผมกับพี่จุนซูเท่านั้แหละ ดินเนอร์ครั้งนั้นเลยออกจะคลายกับ...เออ ดูจะโรแมนติกสักหน่อย เอาเป็นว่าขอไม่เล่าดีกว่า “ตอนนั้นพี่อ้วนนะ” ผมชี้ไปที่แก้มยุ้ยๆในรูปกับแก้มจริงๆในตอนนี้สลับไปมา “หรือว่าตอนนี้อ้วนกว่า?”ผมทำเป็นสำรวจร่างบางๆตรงหน้าแล้วขมวดคิ้มก่อนก้มหน้าพยักหน้ากับตัวเองแบบที่เข้าใจตัวเองว่าในรูปอ้วนกว่า แต่กริยาเหล่านั้นกลับทำให้พี่จุนซูคิดผิดได้ง่ายๆเลยว่า “แกว่าชั้นอ้วนหรอห๊ะ!”
ระหว่างที่เราสองคนเถียงกันก็ได้มี “มาย้อนความหลังเดทครั้งแรกกันหรอ?”เสียงอันไม่พึงประสงค์ได้เอ่ยขัดขึ้น “เจ๊ !!!! ทำไมมาอยู่นี่อ่ะ...” เจ๊ ฮีชอลครับหรือว่านางฟ้าฮีนิมที่พวกรุ่นน้องในคณะ(ถูกบังคับให้)เรียกกัน “โห่เจ๊บอกกี่ทีแล้วว่าไม่ใช่แฟน...”
“ชั้นก็บอกแกหลายทีแล้วว่าพวกแกนั่นเป็นแฟนกัน” แล้วเจ๊มารู้อะไรกับพวกผมเนี่ย ก็บอกอยู่ว่าไม่ใช่ เจ๊มานั่งอยู่ในใจผมหรือไงถึงได้รู้น่ะ แต่ไงก็เถอะผมชินกับอะไรแบบนี้แล้วล่ะที่มีคนทักว่าผมกับพี่จุนซูเป็นแฟนกัน...ก็มีคนทักมาตั้งแต่สมัยเข้าปีหนึ่งจนถึงตอนนี้ทุกคนก็ยังคงทักแบบนั้น บางทีก็เป็น คบกับแล้วหรอ? คบกันเมื่อไหร่? ไม่ก็ รักกันนานนะ หรือไม่ก็ ยังไม่เลิกกันอรกหรอ หวานไม่เปลี่ยนนะ อะไรทำนองนั้น เหอะ เราเหมือนแฟนกันขนาดนั้นเลยหรอ...สำหรับตัวผมเรื่องพวกนี้เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยสนใจหรอก ที่ผมสนใจน่ะคือความรู้สึกของพี่จุนซูมากกว่า พี่เค้าจะรู้สึกอึดอัดบ้างไหมนะ...
“อย่าไปเถียงแกเลยครับพี่จุนซู......”ผมโอบไหล่พี่จุนซูซ่งเรียกได้ว่าเป็นการเรียกร้องความสนใจง่ายๆนั่นเอง “ใช่ๆแกเลิกเถียงชั้นได้แล้วนะจุนซู”
“คือผมจะบอกว่าแก แก่แล้วปล่อยแกไปเถอะ ส่วนเราไปกินข้าวกันดีกว่านะครับ”
“นี่ ยังขำไม่เลิกอีกหรอยูชอน” มันขำมาตั้งแต่ด่าเจ๊แก่ว่าแก่จนกินข้าวเสร็จก็ขำไม่จบจนตอนนี้มันกำลังจะส่งผมกลับบ้านมันก็ยังไม่เลิกเลย...สะใจมากป่ะเนี่ย “หึ ก็มันขำจริงๆนะ พี่ไม่เห็นหน้าเจ๊แกหรอ ขำจะตายยย” มันก็ยังคงขำต่อไปจนตอนนี้ขับเลยแยกที่ต้องเลี้ยวเข้าหมู่บ้านของผมซะแล้ว “นี่!เลยทางเลี้ยวแล้วนะยูชอน” ขำจนขับเลยขนาดนี้ แล้วรถยังติดอีกชาตินี้จะถึงไหมเนี่ย? “ติดขนาดนี้ พี่นอนบ้านผมไหม” อืม ก็ดีนะไม่ได้นอนด้วยกันตั้งนานแล้ว “ก็ได้...ห่าวววว” ง่วงอ่ะจะห้าทุ่มอยู่แล้ว “พี่ง่วงก็นอนก่อนก็ได้ เดี๋ยวปลุก”
“อื้ม” ขอบคุณนะยูชอน “อ่ะ ผ้าห่มพี่” ยูชอนคลี่ผ้าสีฟ้าผืนโปรดของผมมาคลุมไว้กันลมเย็นๆที่มาจากแอร์บนรถที่อาจทำให้คนที่แพ้อากาศอย่างผมไม่สบายได้ง่ายๆเลยล่ะ “ขอบคุณ...”
----------
.
.......
เกือบคิดไม่ออก555555มีตอนไหนที่งงๆหรือไม่เข้าใจก็ถามได้นะคะ
บางทีอ่านเองยังกลัวว่าคนอ่านจะอ่านไม่เข้าใจ....
***คือในเรื่องทุกคนเป็นคนธรรมดานะคะ ยูโน ยองอุง ซีอา มิกกี้ เป็นคนละคนกับ
ยุนโฮ จุนซู ยูชอน แจจุงนะคะมีแค่ชางมินที่เป็นนักร้อง
แล้วริกกี้ก็เป็นแคสซิโอเปียที่รอดงบังชินกิกลับมาอยู่ด้วยกันอ่ะคะ
เรื่องก็เลยต้องไปโยงกับเรื่องของดงบังชินกิคะ
"คือก็เป็นแค่ ดารากับแฟนคลับ เราจะมารักกันได้อย่างไร" << ทำนองนี้อ่ะคะ
ความคิดเห็น