คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : Our first line
Chapter 2 : That’s my apple!
“ชอลยง แฟนเบสนายฝากของมาให้ พี่วางไว้ข้างโซฟานะ”
พี่ซึงโฮชี้นิ้วไปทางกล่องโฟมกล่องใหญ่ที่ติดรูปเค้าเป็นสัญลักษณ์ ชอลยงสาวเท้าเข้าไปใกล้พลางเปิดฝากล่องออก
ข้าวกล่อง ต็อกโบกี บิบิมบับ แซนวิช แอปเปิ้ล น้ำอัดลมหลายยี่ห้อ น้ำแร่ คัพเค้กสีสวย มาการองชิ้นเล็กพอดีคำ
ชายหนุ่มจัดการถ่ายรูปเซลก้าตัวเองกับกล่องอาหารพร้อมเปิดแอปทวิตเตอร์ในโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็ว
ขอบคุณนะครับทุกคน จะทานให้อร่อยเลยล่ะ! – Mir
“โหยมิรือ น่ากินจังเลยอะ ขอชิมแอปเปิ้ลหน่อยน้า” ซังฮยอนที่มาอยู่ข้างหลังเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ยื่นหน้ามาพลางพยักเพยิดไปทางกล่องแอปเปิ้ล ชอลยงใช้ส้อมเล็กๆจิ้มแอปเปิ้ลแล้วส่งให้ซังฮยอน
“พี่ขอกินด้วยคนสิ” ชางซอนเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงจนอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของชอลยง ชายหนุ่มจิ้มแอปเปิ้ลก่อนจะส่งให้ แต่พี่ชางซอนส่ายหน้าพลางอ้าปากรอให้เค้าป้อน
จะบ้าเรอะ ให้ป้อนเนี่ยนะ
ชอลยงรู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้น มือที่ถือแอปเปิ้ลอยู่ก็เริ่มจะสั่นๆ แต่ด้วยความที่พี่ชางซอนไม่ยอมหยิบแอปเปิ้ลด้วยตัวเองซักที ชอลยงเลยไม่มีทางเลือก ยื่นแอปเปิ้ลไปทางปากของชางซอนช้าๆ
หงับ
ชางซอนกัดแอปเปิ้ลเข้าปากครึ่งนึงก่อนจะรับส้อมที่จิ้มแอปเปิ้ลอีกครึ่งนึงมาถือไว้เอง
“ซังฮยอน กินแอปเปิ้ลอีกมั้ย” หันไปถามซังฮยอนที่นั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆก่อนจะส่งแอปเปิ้ลครึ่งที่เหลือเข้าปากซังฮยอน
“อ้ามม อร่อยมากเลยพี่ชางซอน ขอบคุณนะฮะ” คนตัวเล็กยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะก้มหน้าเล่นมือถือต่อ
ชายหนุ่มยิ้มให้รุ่นน้องเบาๆก่อนจะส่งส้อมคืนเจ้าของ
“ขอบใจนะชอลยง”
ขอบใจหรอฮะพี่ชางซอน
ขอบใจที่ได้ใช้ผมเป็นเครื่องมือเข้าใกล้ซังฮยอนสินะฮะ
ร่างบางกลั้นน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาปริ่มๆขอบตาพลางก้มหน้า ใช้มือปาดน้ำอุ่นๆที่กำลังจะไหลให้ออกไปจากหางตา
สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเหมือนเดิม
ชอลยง นายมันโง่จริงๆเลย
“กลับแล้วนะครับทุกคน เจอกันวันจันทร์ที่หอนะฮะ” ชายหนุ่มโค้งให้พี่ๆที่เดินมาส่งเค้าที่รถ วันนี้เขามีนัดกินเลี้ยงกับพี่อึนอา ก่อนจะกลับไปค้างที่บ้านด้วยกัน
ชอลยงไม่ได้กลับบ้านมาหลายเดือนแล้ว หลังจากเริ่มโปรเจคคัมแบคเมื่อสี่เดือนก่อน ชายหนุ่มต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ทั้งท่าเต้น แต่งท่อนแรพ ฟิตติ้งชุดถ่ายปกซีดีทั้งสามแบบ และการโปรโมตอัลบั้มล่วงหน้าผ่านทางรายการวิทยุและรายการทีวีต่างๆ ปกติเขาจะกลับบ้านทุกสองอาทิตย์ เพราะกลัวว่าพ่อที่อยู่บ้านเพียงคนเดียวจะเหงา อีกอย่าง ชอลยงติดหลานชายคนแรกเข้าขั้น เจ้าตัวแสบจะคอยเขากลับบ้าน หาเกมส์สนุกๆเล่นกัน บางทีก็ร้องเพลงของเอ็มแบลคให้ฟังพลางเต้นตามแบบเด็กๆ ที่เรียกเสียงหัวเราะให้ครอบครัวได้ทุกครั้ง ปีนี้เจ้าหลานชายจะเข้าเรียนชั้นประถมแล้ว ชอลยงอยากอยู่ใกล้ๆคอยให้กำลังใจตัวแสบ เขาจำได้ดีว่าประสบการณ์ไปโรงเรียนวันแรกน่ากลัวขนาดไหน งานนี้ต้องมีน้ำตาออกมาให้เห็นบ้างแหละน่า
“ฮายยย ดูเทปแล้วนะ แรพเจ๋งมาก” พี่อึนอายื่นหน้ามาหอมแก้มเค้าหนึ่งที ชอลยงยิ้มให้พี่สาวพลางเอนเบาะให้ราบลง วันนี้เขาเจอเรื่องหนักมามากจนอยากจะหลับยาวๆซักสามวัน ให้สมองได้พักผ่อนและลบเลือนเรื่องร้ายๆออกจากความทรงจำซักหน่อย
ถึงเขาจะรู้มาตั้งแต่ต้นว่าซังฮยอนเป็นคนน่ารัก มีนิสัยเหมือนเด็กๆ ที่บางครั้งก็ชอบให้คนอื่นโอ๋ ให้ดูแลบ่อยๆ แต่แปลกที่พี่ชางซอนยินดีทำหน้าที่นั้นด้วยความเต็มใจ จนเขาเกิดอิจฉาซังฮยอนขึ้นมา เพราะเวลาที่เค้าเริ่มทำตัวง๊องแง๊งเมื่อไหร่ พี่ชางซอนจะไม่ทำตามใจเขาเด็ดขาด ติดจะรำคาญด้วยซ้ำไป ซึ่งชอลยงก็ไม่รู้ว่าทำไม พี่ชางซอนถึงทำตัวสองมาตรฐานแบบนี้
หรือบางที พี่ชางซอนอาจจะไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็ได้
มันผิดที่ตัวเค้าเอง ที่ไปชอบพี่ชางซอน จนทำให้มีอารมณ์น้อยใจเกิดขึ้นมาต่างหาก
ทุกอย่างมันผิดไปหมด ตั้งแต่เค้าเริ่มชอบพี่ซังฮยอนวันนั้น
มันเป็นวันที่ฝนตกหนัก เมฆก้อนใหญ่ไม่มีท่าทีว่าจะลดขนาดลงง่ายๆ
ชอลยงวิ่งตากฝนจนเปียกไปทั้งตัว เป้าหมายคือตึกสิบชั้นในอีกร้อยเมตรข้างหน้า
วันแรกของการเดบิวต์ วันแรกที่สมาชิกเอ็มแบลคจะได้เจอกัน
ชอลยงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีก โดยไม่สนใจว่าพื้นรองเท้าผ้าใบของเค้าเริ่มจะเสื่อมสภาพลงเพราะน้ำที่เจิ่งนองข้างทาง
พรืดดดดด
พื้นรองเท้าไม่รักดีทำการไถลตัวเองไปกับพื้นกระเบื้องหน้าตึก JTUNE
ชายหนุ่มเอียงตัวไปข้างหน้า เตรียมพร้อมรับแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้น
ตุบ
ชอลยงค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะพบกับท่อนแขนแข็งแรงที่มารองรับตัวเค้าทันเวลาพอดิบพอดี
“พื้นลื่น ฝนตก” เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นข้างหูเขา ชอลยงหันไปทางต้นเสียงก็พบกับกรอบหน้าเรียวของอี ชางซอน
เด็กฝึกที่ทำให้ทุกคนตะลึงกับการแสดงออดิชั่นของเขา
ส่วนใหญ่คนที่มาออดิชั่นจะแสดงความสามารถพิเศษทั่วไปอย่าง ร้องเพลง เต้น และแรพ(อย่างเขา)
แต่ชางซอนทำให้กรรมการตกตะลึงไปกับการแสดงที่เขาเตรียมมา
โชว์บัลเล่ต์และนาฏยกรรมประกอบเพลง ที่พลิ้วไหวสุดๆจนคนดูแทบลืมหายใจเมื่อเขาเริ่มวาดลวดลายทันทีที่เพลงบรรเลงขึ้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากรรมการรับชางซอนเข้าเป็นเด็กฝึกทันทีที่การแสดงจบลง โดยไม่ต้องคัดเลือกรอบที่สองและสาม
และวันนี้ เขากำลังจะได้มาเป็นเพื่อนร่วมวงของชอลยง ในนามเอ็มแบลค
“ขอบคุณ” ชายหนุ่มโค้งให้เบาๆ ก่อนจะขืนตัวออกมาจากอ้อมแขนแข็งแรงนั่น
ตัวเปียกไปหมด สภาพดูไม่ได้เลยแหะ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฝนตก” ชางซอนยื่นเสื้อสะอาดๆมาให้เขา ก่อนจะเพยิดหน้าไปทางห้องน้ำ
“เปลี่ยนก่อนมั้ย ถ้าเข้าไปทั้งที่เปียกๆเดี๋ยวจะโดนพี่จีฮุนบ่นเอา” ชอลยงรับเสื้อมาพลางเดินไปทางห้องน้ำ
แกร็ก
ชายหนุ่มปิดประตู มองเสื้อในมือแล้วรู้สึกแปลกๆ
คนอะไรจะใจดีได้ขนาดนี้
เป็นเทวดาปลอมตัวมาแงะ?
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ เปิดก๊อกล้างมือและล้างหน้า จัดทรงผมที่เปียกลู่ให้เข้าที่ ก่อนจะเดินออกมา ร่างสูงที่ยืนรออยู่กดปุ่มลิฟต์ขึ้น ยืนรอประมาณสองนาที ประตูก็เปิดออก ร่างบางเดินตามเข้าไปก่อนจะนึกถึงชั้นที่นัดกันไว้
ชั้นสอง หรือว่าชั้นสามนะ
เกือบจะหลุดถามไปแล้ว ถ้าร่างสูงตรงหน้าไม่ยกมือกดปุ่มชั้นสาม ก่อนจะกอดอกไว้หลวมๆ
“ชื่ออะไร”
ชอลยงหันหน้าไปประจันกับคนตั้งคำถาม สายตาที่ส่งมาเป็นตัวเร่งให้ต้องรีบขยับปากตอบ
“บัง ชอลยง”
ร่างสูงชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเงียบไปอีก
ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองหน่อยหรอ
ชายหนุ่มคิดพลางเหลือบมองคนตรงหน้า
วันนี้ชางซอนใส่เสื้อยืดสีขาวคอกว้าง ชื้นหน่อยๆเพราะละอองฝน ทำให้มัดกล้ามที่สมส่วนเด่นชัดขึ้นมาตามเนื้อผ้า
ถึงจะรู้มาว่าชางซอนเข้าโรงเรียนการแสดงตั้งแต่เด็ก การบริหารกล้ามเนื้อคงเป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ชอลยงก็ยังอดที่จะอิจฉาคนตรงหน้าไม่ได้ ด้วยความที่เขาก็พยายามออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้ออยู่ตลอด แต่รูปร่างเจ้ากรรมกลับเผาผลาญแต่ไขมันส่วนเกินออกไป ไม่ได้สร้างกล้ามเนื้อใหม่เพิ่มขึ้นมาให้เลยแม้แต่น้อย เลยทำให้ชอลยงตัวบางขึ้น ผอมลง แต่ไม่มีกล้ามเนื้อให้สาวๆได้กรี๊ดอย่างชางซอน ร่างบางแอบมองรูปร่างสมส่วนของคนตรงหน้าพลางกลับมามองตัวเอง
ปิดเทอมนี้จะเข้ายิมทุกวัน กล้ามไม่ขึ้นไม่กลับบ้าน
ร่างบางบ่นอุบอิบก่อนจะสะดุ้งเมื่อลิฟต์ส่งสัญญาณว่าถึงชั้นสามแล้ว
ทั้งสองเดินออกจากลิฟต์ ชอลยงมองห้องกระจกที่ติดกันเป็นพรืดด้วยความไม่คุ้นเคย
ชางซอนเดินนำไปทางขวา ก่อนจะเลี้ยวเข้าห้องริมสุดทางซ้ายมือ ชอลยงเดินตามไปติดๆก่อนจะเข้าไปในห้องด้วยกัน
“อันยองฮาเซโย อีชางซอนครับ”
ร่างสูงโค้งทันทีที่เห็นจีฮุน นักร้องระดับโลกที่ยืนรออยู่ด้วยสีหน้าไม่ดีหนัก
“บังชอลยงครับ”
ชายหนุ่มโค้งตามมาติดๆพลางแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
พี่จีฮุนเป็นนักร้องในดวงใจของเค้าตั้งแต่ยังเล็ก เพราะลักษณะการร้องและท่าเต้นที่ไม่เหมือนใครทำให้นักร้องหนุ่มไต่เต้าขึ้นมาจนอยู่ในระดับซุปเปอร์สตาร์ของเกาหลีได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ชื่อเสียงของจวนจีฮุน หรือ เรน เป็นที่รู้จักผ่านทางวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ชอลยง ในเวลานั้นเป็นเพียงเด็กมัธยมต้นคนหนึ่ง ติดตามผลงานของจีฮุนมาโดยตลอด ถึงจะรู้ดีว่าเสียงตัวเองไม่ได้เลิศถึงขนาดเป็นนักร้องได้ แต่เด็กชายก็สู้สุดใจด้วยความสามารถทั้งหมดที่เค้ามีอยู่ ชอลยงเริ่มฝึกร้องเพลง ไปเรียนร้องเพลงตามโรงเรียนชื่อดัง แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเสียงของเค้าแหบต่ำ ทำให้ไม่สามารถขึ้นเสียงสูงได้อย่างคนทั่วไป ชอลยงยอมรับความจริงด้วยใจที่ปวดร้าว ก่อนที่อาจารย์สอนร้องเพลงจะแนะนำให้ชอลยงฝึกด้วยวิธีใหม่
การแรพ
ในขณะนั้น วงการเกาหลีมีกลุ่มนักร้องอยู่ไม่กี่กลุ่มที่เป็นวงฮิปฮอป ส่วนใหญ่เป็นบอยแบนด์และนักร้องเดี่ยวที่มีพลังเสียงและมากความสามารถทั้งนั้น แต่วงการเพลงใต้ดินกำลังนิยมแนวเพลงแบบใหม่ นั่นคือฮิปฮอป ที่มีลักษณะการร้องเพลงหลายท่อนติดกัน แต่ละท่อนมีความคล้องจองและใช้คำที่เข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องสละสลวยอย่างเพลงทั่วไป ชอลยงกลับมาถึงบ้านก่อนจะเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับแนวเพลงใหม่ด้วยความมุ่งมั่น แม้ตอนแรกจังหวะและแนวเพลงจะไม่ค่อยเข้าหู แต่ไม่นานเด็กหนุ่มก็เริ่มซึบซับและรู้สึกชอบแนวเพลงใหม่จากตะวันตกทีละน้อย ชอลยงฝึกฟังอยู่นานกว่าจะเริ่มแต่งท่อนแรพเป็นของตัวเอง ค่อยๆเรียบเรียงคำพูด ใส่คำเจ๋งๆภาษาอังกฤษลงไป แล้วเริ่มกะจังหวะการร้องให้เข้ากับแนวเพลง เขาเริ่มนำเนื้อเพลงที่ตัวเองแต่งไปให้เพื่อนช่วยฟัง ซึ่งตอนแรกเพื่อนๆก็หัวเราะเยาะจนชอลยงรู้สึกอาย แต่ความอยากเป็นนักร้องแบบพี่จีฮุนฉุดเขาขึ้นมาทุกครั้งให้พยายามใหม่ เด็กหนุ่มเริ่มแรพได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนเพื่อนๆทึ่ง สุดท้าย ด้วยความมั่นใจอย่างสูงสุด ชอลยงส่งเทปเพลงของตัวเองไปออดิชั่นกับค่ายเพลงเล็กๆอย่าง JTUNE ที่ตอนนั้นกำลังเปิดรับสมัครเด็กฝึกหน้าใหม่ที่มีแนวเพลงเป็นของตัวเอง หลังจากนั้นสามเดือนก็มีจดหมายตอบรับกลับมาให้เขาได้ตะโกนลั่นบ้านด้วยความดีใจ เมื่อท้ายจดหมายมีประโยคแสดงความยินดีพร้อมกับการนัดหมายเพื่อไปออดิชั่นรอบแรก ชายหนุ่มจากบ้านมาพร้อมกับกำลังใจที่เต็มเปี่ยม โชคดีที่ตอนออดิชั่นเขาแรพได้ดีพอสมควร อีกทั้งแนวเพลงและเนื้อร้องที่ชอลยงแต่งขึ้นเองแปลกใหม่สมใจกรรรมการ จึงได้ผ่านเข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่าย JTUNE สมใจ
และในตอนนี้ ความฝันของชอลยงเป็นจริงแล้ว
จวน จีฮุน ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกยืนอยู่ตรงหน้าเค้า
จวน จีฮุน ตัวเป็นๆ! แบบที่ไม่ได้มองผ่านหน้าจอโทรทัศน์
“นายที่แรพเข้ามาตอนออดิชั่นใช่ไหม”
ชอลยงพยักหน้ารับ เนื้อตัวสั่นไปหมดด้วยความตื่นเต้น ชายหนุ่มบีบมือตัวเองเข้าหากันแน่น
“เนื้อเพลงแปลกใหม่ดี แต่ยังต้องฝึกอีกเยอะ พยายามมากหน่อยละกันนะ”
จีฮุนมองหน้าเด็กใหม่ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ ชอลยงแทบกรี๊ดด้วยความตื่นเต้น
พี่จีฮุนชอบเพลงเรา พี่จีฮุนตบบ่าเราด้วย
ชางซอนที่เห็นท่าทางคนตัวเล็กส่ายหน้าเบาๆ ก่อนเสมองไปรอบๆห้อง
หนึ่ง สอง สาม สี่
มีกันแค่สี่คนเองหรอเนี่ย
มุมขวาสุดท่าทางร้ายไม่เบา ดูจากหน้าก็รู้ว่าพร้อมจะใช้กำลังทุกเมื่อ
อีกด้านนึงเป็นผู้ชายมีหนวด เหอ วงของเค้ามีคนแก่มาอยู่ด้วย สงสัยโปรเจคนี้จะตีตลาดรุ่นใหญ่อยู่เหมือนกัน
รวมเค้า และชอลยง เป็นสี่คน
ก็ดีนะ คนน้อย จำชื่อง่ายดี
เอาให้ยาวสมใจเม้นเเรก
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้า :)
ความคิดเห็น