ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Ts9]All my love รักนี้มอบให้คุณ [อ้นดิว*27]

    ลำดับตอนที่ #3 : บทเรียนของสังคม[1] [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 56




              "เป็นไงบ้าง?" ผมถามร่างสูงที่กำลังเอนตัวลงนอน



             "ใกล้ตาย" เขาตอบ


     

             "ฉันถามนาย เพราะเป็นห่วงนะ”


              "ฉันไม่ต้องการ เก็บความเป็นห่วงของนายไว้ให้พวกแฟนคลับตาดำๆเถอะ"


              "ฉันให้พวกเขาอยู่แล้ว" ผมจ้องมองเขาซึ่งไม่มีวี่แววว่าจะพูดดีๆกับผมสักครั้ง "แต่นายต้องเดือดร้อนเพราะฉัน ฉันอยากชดใช้ให้กับนาย นายต้องการอะไรหรือเปล่า บอกฉันได้นะ"


              "ไม่! และนายก็ไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเดือดร้อนไปมากกว่านี้"


              "ไม่ได้หรอก ถ้าฉันไป ใครจะดูแลนายล่ะ พยาบาลงานการเขาก็เยอะแยะ เพื่อนนายญาติพี่น้องนายก็ติดต่อไม่ได้"


              "ฉันดูแลตัวเองได้"


              "ไม่ได้หรอกถ้าฉันทำแบบนั้น ฉันจะรู้สึกผิดมากนะ"


              "รู้สึกผิดเป็นด้วยหรอ..."


              "นายชื่ออะไรน่ะ"


              "...ดิว นัทธพงศ์" นี่คงเป็นคำตอบแรก ที่เขาตอบผมดีๆ


              "ชื่อเหมือนนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติเลยแหะ"


               "....นายรู้จักพวกทีมชาติ?"


              "อื้ม ฉันชอบฟุตบอลน่ะ" ผมพยักหน้า


              "แต่คนอย่างนายคงเล่นกีฬาที่มีกฎเกณฑ์ไม่ได้หรอก เพราะนายมันเหนือกฎหมาย ไม่สนใจคนอื่น"


             "ฉันขอโทษ ฉันยอมรับผิดนะ แต่นายเลิกพูดเสียดแทงฉันสักทีได้ไหม ฉันยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง" ผมพูดพลางส่ายหัวเบาๆ


              "ไม่มีอะไรที่นายต้องรับผิดชอบ ไปได้แล้ว ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก"


              "แปปนะ.." ผมละความสนใจมาที่มืถือที่สั่นเตือนสายเรียกเข้า


                         'พี่เชน' รายชื่อของผู้จัดการส่วนตัวโชว์ขึ้น ผมกดรับสายก่อนเดินออกไปนอกห้อง


              "ครับพี่"


              "เป็นไงบ้าง"


              "เขายังไม่หายโกรธผมเลยครับ..."


              "แน่สิยะ เธอไปขับรถชนเขานิ"


              "เขาอ่ะ ชนผม"


              "เอาเถอะๆ แต่นายก็ผิดอยู่ดีอ่ะ ฉันสืบเรื่องครอบครัวของดิวมาแล้ว เดี๋ยวฉันส่งแฟ็กซ์ไปที่คอนโดนายนะ "


              "ครับ แล้วอีเว้นท์วันนี้กี่โมง? ดิวเขายังไม่ยอมพูดดีกับผมเลยอ่ะ"



             "ไม่มีอีเว้นท์ หรืองานใดๆทั้งนั้น" พี่เชนพูดเสียงแผ่ว ทำให้หัวใจผมดับวูบ ถึงแม้ผมจะเตรียมใจมาว่ามันจะเกิดเหตุแบบนี้แต่ผมก็ทำใจไม่ได้จริงๆ



             "ทะ.. ทำไมล่ะครับ?"



              "ตอนนี้นายมีข่าวที่ไม่ดี ข่าวที่นายฝ่าไฟแดง มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับสังคม คอนเสิร์ตของนายเดือนหน้าก็ต้องเลื่อนไปจนกว่านายจะได้รับการอภัยจากสังคม มันเป็นบทลงโทษ นายเข้าใจนะ ทางค่ายไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาเข้าใจ แต่ทางเจ้าของงานและประชาชนนายโดนเต็มๆเลยแหละ"



              "ครับ..." ผมตอบพี่เชนก่อนกดตัดสาย และทำใจว่ามันเป็นบทเรียนของผม ผมต้องได้รับการลงโทษ



             "นายหลับรึยังน่ะ?" ผมเดินกลับเข้ามาในห้องพักของดิว เขานอนนิ่งหลับตาอย่างสงบ



             "..."




             ไม่มีเสียงตอบรับจากดิว มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วๆ ดวงตาดุดันเมื่อครู่ถูกลบเลือนด้วยเปลือกตา คราบน้ำตาถูกเช็ดออก ใบหน้าขาวซีดเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาหล่อเลี้ยง






            "สงบแล้วสินะ" ผมพูดเบาๆก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง







     

    สนามฟุตบอลขนาดใหญ่ที่เหล่านักกีฬาทีมชาติต่างวิ่งไปมา เพื่อไล่เตะลูกบอลแค่ลูกเดียว หญ้าเทียมสีเขียวแก่ ที่ดูใหม่สะอาดตาเพราะถูกเปลี่ยนเพื่อเตรียมต้อนรับนักกีฬาที่ห่างหายจากสนามแห่งนี้ไปนาน ม้าหินอ่อนข้างสนามที่เคยผุพังก็ถูกเปลี่ยนเป็นก้าอี้ไม้ตัวยาว ชายร่างสูง ที่มีใบหน้าคมเข้ม ผิวขาวสะอาดราวกับเจ้าหญิงที่ไม่เคยต้องถูกแดดหรือสิ่งที่ทำให้ระคายผิว ผมสั้นสีดำเงาถูกเซตเป็นทรงอย่างดี ชุดนักกีฬาฟุตบอลสีดำคาดขาวตัดกับสีผิวให้เขาดูขาวขึ้นไปอีก เขาเดินเข้ามาในสนามพร้อมกับรองเท้าสตั๊ดสีแดงที่หวานใจเป็นคนเลือกให้



    "เฮ้ย!!" นักกีฬาคนหนึ่งร้องเป็นเชิงทักทายพลางโบกมือให้เขาลงสนาม แล้วหันไปตะโกนบอกคนในสนามว่า "นักเตะเท้าไฟของเรามาแล้วว่ะ"



    "เฮีย!" ผู้รักษาประตูที่ดูหน้าเด็กกว่าคนอื่นในทีมร้องทักพลางกระโดดไปมาอย่างดีอกดีใจ จนลืมว่าตนเองอยู่ในสนามฟุตบอล



    "ไอ้ตี๋ระวัง!!" ชายร่างกำยำที่เพิ่งยิงประตูตะโกนบอกผู้รักษาที่กำลังดีใจระริ๊กระรี้จนลืมลูกฟุตบอลที่กำลังพุ่งตรงไปหาเขา



    "เฮ้ย!!" 'ตี๋'ที่สติเพิ่งกลับมาเพราะเสียงตะโกนก็ได้ถูกลูกฟุตบอลที่รักจูบหน้าไปเต็มๆ


    "เชี้ย!!!!" เสียงอุทานแบบไทยๆดังขึ้นพร้อมกันทั่วสนาม


    "ผมรักษาประตูได้นะเฮีย...." เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่คนที่เขาเรียกว่า'เฮีย'จะเข้ามาช่วยหามเขาออกไปจากสนาม


    "ไอ้ตี๋เป็นไงบ้าง...?"

    "ผมไม่เป็นไรครับ"


    "ดิวใส่ชุดนักกีฬาทำไม?"


    "ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้จัดการทีมทักเขา"


    "ก็ผมต้องลงเตะ"


    "ใครบอกให้เธอลง?! เธอนะไม่มีสิทธิ์ได้เตะบอลเเล้ว"


    "นายเตะบอลไม่ได้แล้ว" เสียงคนในทีมเดียวกันที่เพิ่งยิ้มแย้มกับเขา เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะเยาะที่เหมือนกับปีศาจที่กำลังสาปแช่งเขา



    "นายแตะบอลไม่ได้แล้ว" ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับเสียงปีศาจที่ดังก้องอยู่ในหัว



    "นายเตะบอลไม่ได้แล้ว!!!! ฮ่าๆๆๆ" เสียงนั้นยังคงก้องต่อไปเรื่อยๆ ใบหน้าของเขาขาวซีดเพราะความกลัว มือหนาสั่นเบาๆพร้อมกับเหงื่อเม็ดเล็กๆที่ผุดขึ้นมาตามหน้าผาก



    "ไม่!" เขาตะโกนแข่งกับเสียงนั้น แต่มันเหมือนจะไม่มีผลอะไร ลำคอของเขาแห้งผากความผิดหวังมากมายถาโถมเข้ามา "ไม่...ไม่จริง"



    "นายเตะบอลไม่ได้แล้ว"


    "ไม่!!!!" เสียงทุ้มตะโกนลั่นห้องพาลให้คนที่กำลังนอนพริ้มอยู่ข้างเตียงสะดุ้งขึ้นมาด้วย


    "อะไรๆ"


    เขารีบถามเพราะกลัวว่าถ้าคนตรงหน้าเป็นอะไรไปจะกระทบถึงการงานเขาอีก


    "คุณตั้งสติหน่อย!" อ้นรีบคว้าแขนของอีกฝ่ายที่ปัดไปมาก่อนที่เขาจะคลุ้มคลั่งมากกว่านี้



    "ฮืออ~~" ใบหน้าขาวซีดเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดวงตาดุดันมีน้ำใสๆเอ่อไหลออกมาริมฝีปากหนาสีแดงระเรื่อสั่นเบา ๆ



    "ฝันร้ายหรอ..." เขาค่อยๆปล่อยมือออกเมื่อเห็นน้ำตาเม็ดใสนั่น



    "..." ไม่มีเสียงตอบรับใดนอกจากเสียงสะอื้นไห้


    "ไม่เป็นไรนะ แค่ฝันน่ะ"


    "ไป...ออกไป" ดิวพูดเสียงสั่นเครือ


               "นี่คุณ เอะอะนี่จะไล่กันอย่างเดียวเลยใช่มั้ย ผมก็รู้นะว่าคุณเสียใจและก็โกรธมาก ผมก็ไม่ได้ต่างไปจากคุณสักเท่าไหร่หรอก ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ดูแลคุณซึ่งผมเป็นคนขับรถชนคุณ ผมต้องดูแล พยาบาลเขาคงไม่ว่างขนาดมาเฝ้าคุณตลอดหรอก"

             อ้นพูดรัว เมื่อคนตรงหน้าเอ่ยปากไล่เขาตลอดเมื่อเจอกัน "เดี๋ยวผมจะกลับไปเอาของที่คอนโด ระหว่างนั้นพยาบาลพิเศษจะมาเฝ้าคุณ เข้าใจใช่มั้ย" เขาเบาเสียงลง กลับสู่โหมดปกติ







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×