ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Glitter Tarot by Eng [สอนดูไพ่ทาโรต์-ยิปซี]

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : ปรับพื้นฐานความเข้าใจกันก่อน

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 55




    บทที่2:ปรับพื้นฐานความเข้าใจกันก่อน

     

    ขอปรับความเข้าใจให้ทุกคนก่อน จะเรียงลำดับเป็นข้อๆ ไปนะคะ ก่อนจะเริ่มการดูไพ่



    1.อย่ากลัวไพ่

    อายครูไม่รู้วิชา อายไพ่ก็ไม่มีวันดูเป็นเหมือนกัน!

    ถ้าใจรักอยากจะดูไพ่แล้ว อย่ากลัวไพ่ หาซื้อมาสักชุด แนะนำว่าให้เริ่มจากชุดที่ขายโดยทั่วไป ภาพหลังไพ่เป็นสีดำมีดาวสีขาวหกแฉกค่ะ ชื่อว่าไพ่ชุดไรเดอร์-เวต จะได้เห็นในบทความหมายไพ่นะคะ ภาพในนั้นเนื้อหาจะชัดเจน และอิงจะยึดภาพจากในนั้นเป็นหลักเพื่ออธิบายความหมายไพ่แต่ละใบ


    2.โยนตำราที่ติดมากับไพ่ทิ้งไปซะ

    ตำราพวกนั้นคือไม้เท้าให้เกาะ แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ดูเป็น ถึงจะอ่านจนท่องจำได้ทุกตัวอักษร ก็ไม่มีทางดูเป็นถ้ายังต้องพึ่งหนังสือ และแม้กระทั่งหนังสือเล่มนี้ด้วยย ขอให้หนังสือเล่มนี้เป็นเพียงไม้เท้าไปเรื่อยๆ แต่อย่ายึดทุกอย่างในนี้เป็นหลัก อ่านไปเรื่อยๆ จะเข้าใจเองว่าทำไม...


    3.ไพ่ทุกสำรับมีชีวิต

    บอกไปแต่ต้นแล้ว พวกเขามีชีวิต มีจิตใจ มีนิสัย มีความชอบ มีความถนัดเป็นของตัวเอง...ถ้าทำใจให้ยอมรับข้อนี้ไม่ได้ ก็จะไม่มีวันสื่อถึงไพ่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้งมงาย เชื่อว่าไพ่มีวิญญาณสิงอยู่นะคะ อิงกำลังสื่อว่าไพ่มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง เหมือนอย่างที่เราทุกคนมี ถ้าเราเข้าใจจุดนี้ เราจะอ่านใจไพ่ได้ง่ายขึ้นค่ะ

    ฉะนั้นเมื่อมีไพ่แล้ว ดูแลเขาให้ดีๆ จัดให้อยู่ในที่เหมาะสม อย่าทิ้งขว้าง ไพ่ชุดนึงแพงค่ะ


    4.สมาธิและสัญชาตญาณคือหัวใจของการดูไพ่

    ถ้าคุณเริ่มเดินเข้าสู่เส้นทางของหมอดูไพ่ยิปซี สิ่งที่ควรทำเป็นประจำคือนั่งสมาธิ ยิ่งเราสมาธินิ่งเท่าไหร่ ก็จะสูญเสียพลังจิตไปน้อยเท่านั้น ก็ไม่ได้อยากให้งมงายอีกเช่นกัน ถ้าอธิบายทางหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ เวลาเราทายไพ่ เราต้องรับฟังเรื่องแย่ๆ จากเจ้าชะตา ต้องเห็นเขาร้องไห้ ต้องเครียดไปกับเขา แต่ถ้าเรามีสติ มีสมาธิดี เราจะไม่เขวไปค่ะ และจะทายไพ่ได้ออกมาตรงและเป็นกลาง เมื่อเราไม่มีอารมณ์ร่วมกับเขา สรุปคือ ฝึกจิตเราให้นิ่งและปล่อยวางค่ะ

    ในบทต่อๆ ไปเราจะเอาความหมายของไพ่แต่ละใบมาบอกคร่าวๆ แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาจะทาย สัญชาตญาณคือสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับการทาย ยิ่งมีสมาธิมากเท่าไหร่ สัญชาตญาณก็จะมีแรงมากขึ้น

    การใช้สัญชาตญาณในการทายก็คือ อยากพูดอะไรล่ะ ก็พูดไปเลย ดูมันเลื่อนลอย แต่นี่ล่ะแม่นกว่าในตำราอีก


    5.สิ่งที่ต้องแลก

    การดูไพ่เป็นมันก็ต้องแลกกับอะไรหลายๆ อย่าง...

    อย่างแรกเลยคือพลังจิตของเรา ซึ่งอิงจะขอเรียกว่าพลังความตั้งใจของเราจะดีกว่า ฟังดูเป็นวิทยาศาสตร์หน่อย ถ้าคุณดูเป็นจริงๆ แล้วคุณจะรู้ว่าการดูไพ่แต่ละครั้งมันดึงสิ่งนี้ของเราไปเยอะมาก ถ้าคุณสมาธิไม่ดีพออาจจะมีอาการหลากหลายในแต่ละคน แต่ที่พบได้โดยทั่วไปคือเหนื่อย หอบ เหมือนไปวิ่งห้าร้อยเมตรมา ทั้งๆ ที่นั่งอยู่เฉยๆ บางวันมีเรื่องกลุ้มใจๆ อยู่ แล้วไปดูไพ่ให้คนเจ็ดคนติด ถึงขั้นอ้วกยืนไม่อยู่เลยก็มี ถึงบอกให้ทุกคนฝึกสมาธิบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ต้องมาทรมานกับอาการดังกล่าว

    ยิ่งตอนเราดูคนมุงเยอะ ยิ่งต้องใช้พลังเยอะ แล้วก็เหนื่อยเร็ว ทั้งๆที่ดูไปแค่คนเดียว ดังนั้นเวลาดูเคลียร์คนให้ออกไปให้หมดก่อนจะดีกว่า หากเริ่มดูใหม่ๆ

    สิ่งที่ต้องแลกอย่างที่สองคือความซวย อันนี้ไม่เคยเจอกับตัวและจะไม่ปล่อยให้เจอด้วย อิงเชื่อในเรื่องของกรรมค่ะ อิงเชื่อว่า ถ้าคนทำอะไร ก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น แต่บางครั้งการดูการเตือนของเรา อาจทำให้เขารอดพ้นจากที่ต้องรับกรรม และนั่นย่อมส่งผลต่อหมอดูบ้าง ไม่มากก็น้อย

    จริงๆ แล้วหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าคุณรักจะเป็นหมอดู แต่แก้ไขได้ด้วยการ

    1. อย่าเรียกใครให้มาดูกับเรา - ให้เขามาเอง หาคุณเอง ทวงถามให้ จะได้ถือเป็นดวงที่เขาควรจะได้รู้ จะได้ถือว่าเพราะดวงเขาจะรอด เราเลยมีสิทธิ์เตือนเขา

    2. ไม่ทำนายและบอกวิธีจนเขารอด - เอาง่ายๆ ว่า ถ้าคุณเป็นทนาย แล้วมีคนค้าปืนเถื่อนมาให้คุณช่วย คุณจะช่วยให้หลุดเลยก็ได้ แต่ด้วยจรรยาบรรณคนผิดก้ต้องผิด คุณก็ช่วยแค่ให้เขาติดคุกน้อยลง หรือจ่ายค่าปรับไป

    3. กรณีต้องการช่วยให้เขารอด - พอทายจบแล้ว เอาเงินจากเขาสักบาทสองบาทไปทำบุญ ทำสังฆทาน ทำบุญอะไรก็ได้ ทำเข้าไป เผื่อจะผ่อนหนักให้เป็นเบา


    6. อย่าท้อ

    อิงเคยเกือบจะเลิกดูไพ่เพราะท้อ ดูไม่เป็นสักที อ่านตำรามาไม่รู้กี่เล่ม กราบไพ่แล้วกราบไพ่อีก ทำไมดูไม่เป็นสักที 10 ปีแล้วยังดูไม่รู้เรื่องเลย อิงก็ไม่รู้ว่าเพราะตัวเองจับหลักได้ หลังจากได้ทริกจากหนังสือเล่มหนึ่ง หรือว่าเป็นเรื่องลึกลับของไพ่ แต่จู่ๆ ภายใน 1 เดือนอิงก็ดูเป็นขึ้นมาเฉยเลย ส่วนที่ฝึกฝสมา 10 ปี ก็ไม่ได้สูญเปล่า มันกลับมาทำให้สิ่งที่ดูเป็นนั้น แน่นปึ้กมากขึ้น ที่จะบอกก็คืออย่าท้อ ทุกคนมีสิทธิ์ดูเป็นได้ ขอแค่มีความพยายาม อาจจะไม่นานถึงสิบปีเหมือนอิงก็ได้ ซึ่งแต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากันค่ะ


    7. ไพ่เป็นคนทำนาย คุณเป็นแค่คนแปล

    ฉะนั้นไม่ต้องกลัวไม่แม่น มันแม่นอยู่แล้วละ เพียงแต่คุณจะแปลภาษาของไพ่ออกมาเป็นภาษาคนถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่าเท่านั้นเอง นั่นก็แปลว่าคุณต้องคลุกคลีกับไพ่เยอะๆ ไม่งั้นก็ไม่มีทางเข้าใจภาษาเขาหรอก เพราะไพ่แต่ละชุดภาษาเขาก็จะต่างกันไป หัวข้อนี้จะไปอธิบายละเอียดที่หัวข้อการตีความนะคะ


    8.ไพ่แต่ละชุดใช้ภาษาต่างกัน

    หมายความว่า ถ้าคุณไปเอาไพ่คนอื่นมาทาย คุณทายไม่แม่นแน่ เพราะไพ่ทุกชุดเขาให้ความหมายตัวเองต่างกัน อย่างเช่นไพ่ The Lover ไพ่ชุดของคุณอาจจะหมายถึงคนรักกัน เนื้อคู่ แต่ไพ่ของชุดเพื่อนคุณเขาอาจจะหมายถึงชู้รักก็ได้ ซึ่งไม่มีใครผิด เพราะไพ่ทุกใบไม่มีความหมายตายตัว

    ดังนั้นอย่าไปเอาไพ่ชาวบ้านมาดู เพราะไม่แม่นหรอก ดูแต่ไพ่ตัวเองนี่ล่ะ เป็นเหตุผลที่อิงไม่รับดูไพ่ในนี้ด้วย เพราะไม่ได้ดูจากไพ่ของอิง

     

    หวังว่าจะพอเห็นไพ่ในมุมมองของอิงมากขึ้นะคะ อาจจะต่างจากตำราอื่น แต่นี่ก็คือสิ่งที่อิงคิดกับไพ่มาตลอด 10 ปี และไม่ได้รู้สึกว่าไพ่สร้างปัญหาได้ พอเราลบความกลัว ความเกรงว่าไพ่เป็นสิ่งศักสิทธิ์ออกไป ความเข้าใจของเราจะชัดเจนขึ้นแน่นอนค่ะ

    อิงไม่ใช่คนดูไพ่แม่นนะคะ ไม่เคยบอกว่าตัวเองดูเก่ง หรือแม่น สอนใครก็ไม่ค่อยจะเป็น แต่กล้าบอกว่าดูเป็น และต้องการจะช่วยให้คนอื่นดูเป็นด้วย ส่วนช่วยทายอนาคตให้คนอื่นนั้น ไม่ใช่ประเด็นหลักของอิงค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×