ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Holyland...ผจญภัยทะลุมิติ

    ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าชายโรเชล.....

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 48


    เขาต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะแสงที่ส่องเข้าตา



    “ที่นี่มันที่ไหนน่ะ?” เขาต้องตกใจเพราะ สถานที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ในอ่างอาบน้ำที่บ้านเขา แต่เป็นบนทุ่งหญ้ากว้างแห่งหนึ่ง ที่นี่คงไม่ใช่ที่สาธารณะแน่ เพราะแถวนั้น เขาไม่เห็นใครเลยซักคน สร้อยข้อมือกับต่างหูของเขาเปลี่ยนจากสีขาวใสเป็นสีฟ้าใสสวยงาม แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากังวลเรื่องนี้ ..........



    “เฮ้ย!! แล้วตัวอะไรเนี่ย” เขาต้องตกใจอีกรอบสอง เพราะมีสัตว์รูปร่างหน้าตาประหลาดๆ ส่วนหัวมันเหมือนกวางผสมสุนัขจิ้งจอก เพราะมีฟันที่ดูแล้วน่าจะแหลมคมมาก แต่ดันดวงตากลมโตใสแป๋วซึ่งไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไหร่....ส่วนลำตัวของมันเหมือนสิงโต ตรงข้อเท้ามีขนสีทองปกคลุมเด่นกว่าบริเวณอื่น ส่วนหางที่เป็นสีทองของมันน่าจะเป็นแบบสุนัขจิ้งจอก ดูๆไปมันก็น่ารักอยู่หรอก..... แล้วมันมานอนหมอบอยู่ข้างๆเขาได้ยังไง........ที่แน่ๆ.......



    ‘มันตัวอาร้ายล่ะเนี่ยยยย!!!  มันจะกินฉันมั้ยน้า........’ คาซึคิดในใจ



    “ที่นี่คือHolyland....ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มีเรื่องปริศนามากมายที่นายยังไม่รู้.......และสัตว์ที่หมอบอยู่ข้างๆนายคงจะเป็นสัตว์ปิศาจของนายสินะ”



    “สัตว์ปีศาจหรอ ฉันมีซะนี่ไหนของแบบนั้นน่ะ...  เอ๊ะ!! แล้วใครพูดน่ะ”คาซึเพิ่งสังเกตว่า คนที่พูดเป็นเด็กผู้ชาย เอ๊ะ หรือว่าผู้หญิง หน้าตาน่ารักเชียว ผมสีน้ำตาลอ่อนซอยสั้นระดับคอ ตาสีเขียวใส  แต่ช่างเถอะ ที่แน่ๆอายุน่าจะประมาณ 14-15 ปีนี่แหละ เพราะเด็กนั่น ตัวเล็กกว่าเขามากทีเดียว ความสูงน่าจะประมาณ 158 ซม. แต่งตัวก็......ดูน่ารักดีนะ เด็กคนนั้นใส่เสื้อแขนยาวสีเขียวอ่อนนวลตา กางเกงขายาว มีผ้าคลุมและใส่หมวกทรงฟักทอง เครื่องแบบของเขาทุกอย่างแทบจะเป็นสีเขียวอ่อนทั้งหมด มีสีขาวแซมบ้างเป็นบางที่ ไม่เว้นแม้แต่รองเท้า..



    “ไม่ใช่ๆ ฉันอายุ 17 ปีแล้วนะเฟ้ย เห็นอย่างนี้ก็เถอะ อีกอย่างเป็นผู้ชายด้วย.. ฮึ่ม!! เสียมารยาทจริงนะ นายน่ะ ” เด็กคนนั้นพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่



    “อ้อ ฉันต้องขอโทษด้วยนะ ล่อนจ้อนอุจาดตาเชียว อ่ะ.. เอาผ้าไปคลุมซะ ” เด็กชายคนนั้นยื่นผ้าคลุมของตัวเองให้คาซึ แต่คาซึก็ยังงงอยู่ดีว่าเด็กคนนั้นรู้ว่าเขาคิดอะไรได้ยังไง แต่.... เฮ้ย นี่มันมายืนจ้องฉันตอนฉันล่อนจ้อนแบบนี้อ่ะนะ



    “อ้าว ก็ฉันสามารถอ่านจิตใจคนอื่นได้นี่ ตราบใดที่แหวนวงนี้มันอยู่กับฉัน  ถ้าอยากทำอ่ะนะ...แต่ยังไงแหวนมันก็ไปอยู่กับคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นสิ่งพิเศษที่จะติดตัวแต่ละคนมาตั้งแต่เกิด เหมือนกับสร้อยข้อมือนายนั่นแหละ อ้อ นี่อุตส่าห์หวังดีให้ผ้าคลุมนายไปคลุมตัว ยังจะมาพูดแบบนี้อีกหรอไง ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ? ฉันชื่อ ราคัส มาเวลล์ โรเชล เรียกว่ามาโรเชลก็ได้นะ” เด็กคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงกวนฝ่าพระบาทเล็กน้อย  



    คาซึรีบเอาผ้ามาคลุมตัว ‘นี่มันได้ยินฉันพูดได้ไง ฉันยังไม่ได้พูดไรเล้ย...’

    “อ้อ ฉันชื่อ อาซาคุโระ คาซึกินายรู้เรื่องที่สร้อยข้อมือนี่มาอยู่กับฉันด้วยหรอ”



    “แน่นอนอ่ะดิ ไม่รู้ได้ไง ฉันพยายามแทบตายกว่าจะทำให้สร้อยนั่นไปอยู่บนตัวนายได้..... เหนื่อยเป็นบ้า ต้องให้พวกญาติๆคนอื่นช่วยด้วยนะเนี่ย รู้สึกท่านพี่ของฉัน แต่ก็ไม่ใช่พี่แท้ๆหรอกนะ จะโมโหหนักไปหน่อย เลยบังคับให้สายฟ้าไล่ตามนายแบบจ่อติดก้นแบบนั้นน่ะ  ก็นายเล่นวิ่งๆอยู่นั่นแหละ ทุกคนเลยหมั่นไส้ เลยแกล้งกันใหญ่ ตลกดีแฮะ ...” โรเชลหัวเราะชอบใจใหญ่ เมื่อเห็นสีหน้าของคาซึ



    ฝ่ายคาซึไม่ตลกกับโรเชลด้วยน่ะสิ เขาทั้งโกรธและงุนงงในคำพูดของโรเชล ‘สรุปว่าคนที่ชื่อโรเชลอะไรนั่นเป็นคนทำให้เกิดเรื่องแปลกๆพวกนี้ทั้งหมดเลยงั้นหรอ’



    “นี่ โรเชล นายเป็นคนทำให้ไอ้ลูกแก้วนั่นพุ่งมาใส่ฉันใช่มั้ย?.. นายแน่มากนะ!! กล้าทำแบบนั้นน่ะ !! เออว่าแต่มันคืออะไรอ่ะ ทั้งลูกแก้ว ทั้งสร้อยข้อมือนี่ และก็ต่างหูที่มันจะทำให้ฉันดูเหมือนตุ๊ดขึ้นทุกวันเนี่ย” คาซึโมโหเล็กน้อย ที่เรื่องบ้าๆนี่มันเกิดกับเขา แต่อย่างอื่นเนี่ย พอทนได้ แต่ต่างหูนี่สิ ทำไมมันถึงต้องเป็นทรงนี้ว้าเนี่ย.....



    “พูดอะไรของนาย ลูกแก้วอะไร ต่างหูอะไร แล้วอยากเป็นตุ๊ดหรอ มาบอกฉันทำไมอ่ะ” โรเชลงงในคำพูดของคาซึ แล้วก็ทำหน้าเบ้เพราะคิดว่าคาซึอยากเป็นตุ๊ดจริงๆ



    ‘หมอนี่คิดไปถึงไหนเนี่ย เออ มันไม่รู้จักทั้งลูกแก้ว กะต่างหูแฮะ แล้วมานมาด้ายงายยย!!!’ คาซึเข้าสู่โหมดงงสุดขีด



    “ถ้าหมายถึงสิ่งกลมๆสีฟ้านั่นน่ะ... ไม่ใช่ลูกแก้วนะเฟ้ย ไอ้บ้า มันเป็นจิตของพี่ฉันเองแหละ เผอิญมันดันไปตกอยู่ที่นาย ฉันเลยต้องพาตัวนายมานี่น่ะสิ  ส่วนสร้อยข้อมือก็คงเป็นผลพลอยได้จากการที่จิตพี่ฉันไปอยู่กับนายนั่นแหละ พี่ฉันมีพลังพิเศษกว่าคนอื่นเขาน่ะ พี่ลอร่ามีพลังชีวิต ที่สามารถให้กำเนิดพลังทุกพลังได้ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า ลม น้ำแข็ง พลังส่วนใหญ่นายก็เคยเห็นแล้ว ตอนที่ฉันให้พวกพี่ๆช่วยเอาสร้อยนั่นใส่ให้นายน่ะ  ส่วนการอ่านจิตใจ ผู้ที่จะมีพลังนั้นได้จะต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับผู้ที่ควบคุมพลังชีวิตเท่านั้น นั่นก็คือฉันซึ่งเป็นน้องชายนั่นเอง...ฮ่า ฮ่า ฮ่า” โรเชลเล่าอย่างภาคภูมิใจ



    “ต่อเลยๆ อย่าเพิ่งมาอวด นายเล่ามาให้ฉันเข้าใจก่อนดิ เร็วๆเลย” คาซึตั้งใจฟังมากๆ เขาคิดจะให้โรเชลเล่าให้จบๆ จะได้ยิงคำถามใส่ซะที



    “ผู้ที่จะมีพลังพิเศษพวกนี้ได้ต้องเป็นพวกที่เกิดในตระกูลเก่าแก่สูงส่งเท่านั้น เพราะมันจะถ่ายทอดกันเป็นรุ่นๆ  อย่างฉันเกิดในตระกูลกษัตริย์ ส่วนสร้อยข้อมือ เป็นเหมือนเครื่องหมายแสดงถึงพลังของนาย มันจะมีลักษณะเฉพาะตัวน่ะ อันนี้ฉันไม่รู้นะว่านายจะมีพลังแบบไหน ส่วนต่างหูก็ไม่รู้เหมือนกานล่ะ ลองๆหาวิธีใช้ดูเองละกัน มันคงทำอะไรได้ซักอย่างแหละน่า...”





    “นี่นายเป็นคนพาตัวฉันมาไม่ใช่เรอะ ต้องรู้ทุกอย่างซีฟะ  ไอ้นี่กวนจริงๆ!!” ตอนนี้คาซึชักโมโหหนักแล้ว......  แต่ใจเย็นไว้ๆ ต้องถามโรเชลให้รู้เรื่องก่อน



    “นายบอกว่าจิตพี่สาวนายมาอยู่ที่ฉันเนี่ยนะ จะบ้ารึไง มันจะมาอยู่ที่ฉันได้ไง แล้วนายบอกว่าตอนนี้ฉันมีพลังพิเศษและก็มีสัตว์ปิศาจ หมายถึงไอ้ตัวที่นอนอยู่นั่นอ่ะนะ  เหอะๆ ... เออ นายเป็นคนในตระกูลกษัตริย์หรอ ทั้งนายกับพี่คงจะมียศสูงน่าดูนะ เป็นญาติฝ่ายไหนของกษัตริย์เมืองนี้ล่ะ”  คาซึรู้สึกแปลกๆกับเรื่องแรกๆที่โรเชลเล่า แต่พอมาถึงเรื่องของโรเชลเอง คาซึคิดว่ามันน่าสนใจกว่าเรื่องก่อนหน้านั้นอีก

    ‘..ถึงว่าหมอนี่แต่งตัวดูดีไม่น่าจะใช่ชาวบ้านธรรมดา ...ท่าทางก็.....กวนโอ๊ยชะมัด!!’ (ปล. ที่คาซึบอกว่าโรเชลแต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดาน่ะ ..ตั้งแต่ตื่ขึ้นมานี่.. คาซึเห็นโรเชลแค่คนเดียวเองนะ ถ้าไม่นับตัวประหลาดนั่นอ่ะนะ...)



    “ฉันเป็นเจ้าชายของเมืองนี้” โรเชลบอก



    “อ้อ...เฮ้ย นี่นายเป็นเจ้าชายเลยหรอ โหหหห.....” คาซึแปลกใจ ที่ตัวเองยืนพูดกับเจ้าชายเมืองนี้ ‘แต่ยังไงๆ ฉันก็ไม่เรียกนายว่าเจ้าชายหรอกนะเฟ้ย .โรเชล...’



    “เออ......ว่าแต่ฉันมาอยู่ที่นี่เพราะนายพามาใช่มั้ย โรเชล......งั้นนายพาฉันกลับเดี๋ยวนี้เลยนะ!!” คาซึเพิ่งนึกได้  เขาคิดว่าคงจะหาทางเดินกลับบ้านเองไม่ได้แน่ๆ  เพราะความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเองกำลังอยู่ในสถานที่หนึ่งที่ไกลจากบ้านมาก.......



    “ไม่ต้องเรียกก็ได้น่า....จะกลับแล้วหรอ....งั้นวันหลังถ้าโอกาสเหมาะๆ ฉันจะพานายมาอีกนะ ..มาเพื่อช่วยพี่สาวฉัน...อากิระ นายช่วยพาคาซึกลับไปยังโลกของเขาที ..อ้อ คาซึ คราวหน้า นายอย่าแก้ผ้าแบบนี้ได้มั้ย ฉันคงไม่อยากเห็นนายล่อนจ้อนอีกเป็นครั้งที่ 2 นะ เอ....หรือว่านายเป็นพวกโรคจิตชอบโชว์ .งั้น.ฉันคงห้ามนิสัยนายไม่ได้นะ….ฮ่า ฮ่า ฮ่า” โรเชลพูด และตลกกับสีหน้าที่เหมือนอยากจะชกหน้าเขาเต็มทนของคาซึ



    “ครับ ท่านโรเชล”



    “เฮ้ยๆ อะไรวะเนี่ย!! แล้วนายมาจากไหน จะทำอะไรฉัน แล้ว....โรเชล นายหมายความว่าไง!! ฉันต้องมานี่อีกเพื่อช่วยพี่สาวนายเนี่ยนะ มันกงการอะไรของฉันเรอะ  เฮ้ยๆ!! เดี๋ยวซิโว้ยยยยย”  คาซึต้องตกใจ เพราะอยู่ๆก็มีเด็กผู้ชาย......หรือผู้หญิงก็ไม่รู้ ดูไม่ออกอีกเช่นกัน รู้แต่ว่าเด็กคนนั้นผมยาวสีขาวเป็นประกาย ใส่ต่างหูยาวสีเขียว ดวงตาสีเขียวใส สูงประมาณ 172 ซม. แต่งตัวสุภาพ ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มียศสูงเหมือนกัน.....คนคนนั้นพูดอะไรซักอย่างพึมพำ เหมือนการท่องคาถา แล้วเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างขวาเขียนอะไรซักอย่างที่หน้าผากของคาซึ แล้วนำมือซ้ายชักดาบออกมา ทำท่าเหมือนจะฟันเขา .....ซึ่งนั่นทำให้คาซึตกใจกลัวแทบตาย...



      ควับ.....นั่นคือเสียงสุดท้ายที่คาซึได้ยิน ก่อนที่สติของคาซึจะเลือนหายไป………………….



    .........................................................................



    “ท่านโรเชลครับ ผมต้องส่งคุณคนที่ชื่อคาซึกลับที่ที่เดิมที่พาตัวเขามาใช่มั้ยครับ” คนที่ชื่ออากิระถามโรเชล



    “ใช่ ทำไมหรอ เรื่องนี้นายก็รู้ดีนี่ ...ป้องกันการเกิดปัญหายุ่งยากน่ะ  ไม่มีไรมากหรอก” โรเชลพูด



    “ถ้างั้น ....ถ้าผมส่งเขาไปผิดที่ล่ะครับ มันคลาดเคลื่อนนิดหน่อยน่ะครับ ....แหะๆ” อากิระพูดและหัวเราะด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด



    “หา!!.....คงไม่เป็นไรมั้ง แต่หมอนั่นแก้ผ้าอยู่อ่ะดิ ถ้าไปโผล่กลางแจ้ง .......จะเป็นไงล่ะเนี่ยยยย” โรเชลพูดด้วยความตกใจ แต่ก็นึกสนุกอยู่เหมือนกัน



    “เหอๆ.....ท่านโรเชล คิดไรอยู่น่ะ” อากิระพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ



    ...........................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×