ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นักสืบยาจก Poor Detective

    ลำดับตอนที่ #3 : หลักฐานที่ต้องการ

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 55


    Poor Detective นักสืบยาจก

    3

    [หลักฐานที่ต้องการ]

                   หลังจากที่พวกแมวน้อยได้เล่าถึงที่ไปที่มาของตน และทำไมพวกนิดาต้องมาพัวพันกับคดี ก็เพราะพวกเธอนั้นเป็นนักสืบมือฉมังอยู่ ทั้งหมดก็ได้ปฎิบัติการหาหลักฐานที่มีอยู่

                    ห้องของท่านเจ้าปู่  คฤหาสน์อินทรเศรษฐี กรุงเทพมหานครฯ

                   ไวท์เบิร์น กับ แบลคไมน์ได้เข้าไปหาหลักฐานต่อที่ห้องของเจ้าคุณปู่ที่ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด  ทั้ง2เข้ามาในห้องนี้ได้เพราะตัวเล็กไม่มีใครสังเกตเห็น

                   นี่มัน.. กระดาษนี่นาไวท์เบิร์นพูดพึมพำพร้อมกับคิดในใจว่าตำรวจกิ๊กก๊อกเก็บหลักฐานได้ไม่หมดอย่างที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกจริงๆด้วย

                   M.B. งั้นเหรอ หมอนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่นะ...ไวท์เบิร์นคิด พลางนึกถึงหน้าคนๆหนึ่งขึ้นมา แบลคไมน์ก็กำลังอยู่ในอาการงุนงงว่าไวท์เบิร์นทำอะไรอยู่ แต่แมวน้อยก็คิดว่า ไวท์เบิร์นคงจะได้เบาะแสแล้วอย่างแน่นอน

                   ณ เตาเผาขยะ หลังบ้านคฤหาสน์อินทรเศรษฐี

                   และแล้ว ไวท์เบิร์นก็ได้เจอหลักฐานชิ้นสำคัญที่พวกตำรวจกิ๊กก๊อกไม่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างถ่องแท้ สิ่งๆนั้นคือถุงมือที่เปื้อนเลือดเต็มไปหมดทุกซ่อนไว้ในช่องว่างเล็กๆข้างหลังเตาเผาขยะ(ส่วนแบลคไมน์ สงสัยละซิ ว่าหายไปไหน? งั้นเล่าต่อ)

                   สถานีตำรวจบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

                   ตอนนี้ แบลคไมน์ได้สะกดรอยตาม สารวัตรองอาจไปทุกฝีก้าว เผื่อตำรวจกิ๊กก๊อกพวกนี้จะได้หลักฐานอะไรเพิ่มเติมจากที่เกิดเหตุ

                   สารวัตร ครับๆ เสียงดังหนักแน่นมาจากนายตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งกำลังจะมาบอกอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ว่าน่าจะสำคัญต่อรูปคดี

                   จากการตรวจสอบลายนิ้วมือที่ปากกาที่ผู้ตายได้ใช้เขียน ไดอิ้งแมสเซจแล้ว ก็พบว่ามีเพียงลายนิ้วของผู้ตายเพียงคนเดียวครับนายตำรวจหนุ่มเสียงหนักแน่นรายงานให้สารวัตรองอาจทราบ ซึ่งในขณะเดียวกัน แบลคไมน์พอรู้เรื่องนี้ ก็ยังไม่ได้บอกเรื่องที่ได้ยินมาให้ไวท์เบิร์น ผู้สั่งให้แบลคไมน์สะกดรอยตามสารวัตรองอาจ

                    ณ ชั้น1 ห้องพักคนใช้ G7

                   ไวท์เบิรนได้เรียกนิดาและอร ผู้ที่จะมาไขคดีในฐานะตัวแทนนักสืบของเหมียวน้อยทั้งสองมา

                   ตอนนี้ผมกำลังสงสัยเรื่องปากกานะฮะ ก็เลยจะมาถามคุณอรหน่อยนะฮะว่า ตอนไปที่เกิดเหตุ คุณอรเห็นปากกาเปิดอยู่ หรือ ปิดอยู่นะฮะไวท์เบิร์นถามอย่างเคร่งเครียด หลักฐานชิ้นนี้ มีความสำคัญมากที่สุด ไวท์เบิร์นกลัวว่าทั้ง2คน จะไม่ได้สังเกตสิ่งที่ถามไป

                   ปิดอยู่นะซิ..ถามได้ อรตอบออกมาอย่างมั่นใจ เลยทำให้แมวน้อยสงสัยว่าทำไมถึงรู้

                   ก็ตอนที่ฉันไปที่เกิดเหตุอ่ะนะ ก็เห็นท่านเจ้าคุณปู่นอนจมกองเลือดอยู่ ก็เลยจะไปพยุงท่านเจ้าคุณปู่ แล้วเท้ามันไปสะดุดปากกาเจ้ากรรมอยู่นะซิ เลยจำได้ดีแต่พอล้มแล้วมองหน้าของท่านเจ้าคุณปู่ ท่านก็ได้กลายเป็นศพนอนแน่นิ่งไปแล้วอรพูดพลางเหมือนจะร้องไห้ออกมา แต่ไม่ร้องไห้เก็บความรู้สึกเอาไว้คนเดียว

                   แล้วห้องของท่านเจ้าคุณปู่อยู่ชั้น 2 แน่ใช่ไหมฮะไวท์เบิร์นถาม แล้วทั้ง2ก็พยักหน้าตอบว่าใช่อย่างแน่นอน

                   งั้น ทุกคนก็ต้องไปหาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดเลยนะฮะ ถ้าหาหลักฐานที่สามารถใช้บ่งบอกตัวคนร้ายได้ พวกเราก็จะทำให้พวกตำรวจกิ๊กก๊อกเชื่อใจเรานะฮะไวท์เบิร์นพูดพลางยิ้มให้ ยิ่งอรสามารถจดจำปากกาได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้หลักฐานคงที่มาอีกชิ้น และไวท์เบิร์นก็ตกลงให้ทุกคนที่หาหลักฐานเจอมารวมตัวกันที่ห้องนี้อีกครั้งนึง

                   พวกเหมียวนั่นสั่งการพวกเราซะคล่องเชียวนะ อรพูดพึมพำพลางยิ้มอยู่คนเดียว นิดาก็สงสัย แต่ก็ไมได้คิดอะไรมากมาย อรคงจะมีความสุขเรื่องเหมียวน้อยนั่น นิดาลองคิด

                   พอผ่านไปได้ราวๆ 2 ชั่วโมงทุกคนก็มารวมตัวกันพร้อมมาบอกหลักฐานที่แต่ละคนนั้นได้สืบมาได้สักพัก  ในแต่ละจุด แต่ละคนพบ

     

                   ณ ชั้น1 ห้องพักคนใช้ G7

                   จากที่ฉันไปสืบมานะค่ะ คุณแมรีด้าบอกว่า ปากกาด้ามนี้เป็นปากกาด้ามที่โปรดปรานของท่านเจ้าปู่ ท่านเจ้าปู่รักปากกาด้ามนี้มากไม่ยอมให้ใครแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บ และท่านก็จะไม่ใช้ปากกาด้ามอื่นอีกด้วย นิดาพูดพลางเช็ดเหงื่อหลังจากที่ไปค้นหาหลักฐาน ทั้งคฤหาสน์จนเหน็ดเหนื่อนแทบจะเป็นลม

                   ส่วนที่ฉันเจอก็เป็นปากกาแบบเดียวที่เหมือบกับปากกาด้ามโปรดของท่านเจ้าปู่ ในห้องของคุณเลสเทรดนะน่ะ ไม่รู้จะเป็นด้ามที่ท่านเจ้าปู่ให้มาหรือเปล่าก็ไม่รู้นะอรพูดต่อจากนิดาทันที เพราะไม่อยากให้เรื่องปากกาขาดตอนไปซะก่อน

                   จริงซิค่ะ ยังมีอีกอย่างที่ยังไม่ได้บอก ก็คือทั้ง 3 พี่น้องไม่ได้เป็นพี่น้องทางสายเลือดกันจริงๆ นะค่ะ พ่อของพี่ชายคนโตทั้ง 2 คนนะค่ะ กับแม่ของคุณแมรีด้า เป็นพี่น้องกันนะค่ะ นามสกุลเลยไม่เหมือนกัน นิดาพูดเพราะเกือบที่จะลืมตอนขากลับมาจากค้นหาหลักฐาน ป้าโฉมรตีได้เล่าให้ฟังในสิ่งที่พวกนิดายังไม่รู้

                   ในขณะนั้น ไวท์เบิร์นก็ได้ติดต่อแบลคไมน์ที่เกือบถูกลืมไปแล้ว ทางหูฟังไร้สาย(มีของแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่ต้องสงสัยเป็นสิ่งที่อรกับนิดาให้พวกเหมียวมา)

                   “ไวท์เบิร์น ตอนนี้ฉันไม่ได้หลักฐานอะไรเพิ่มเติมแล้วนะ แต่ที่ได้มาสิ่งหนึ่งคือ  ลายนิ้วมือที่ปากกานั้น มีเพียงลายนิ้วมือของท่านเจ้าปู่ คนเดียวเท่านั้น ไม่มีรอยนิ้วมือคนอื่นเลย แบลคไมน์พูดโดยที่ทางตำรวจไม่สงสัยเพราะนอกจากนิดา และ อรไม่มีทางรู้ว่าพวกเหมียวพูดได้  และมีเพียง 2 คนนี้ที่ฟังเสียงแมวได้

                   เลิกสะกดรอยตามได้แล้ว แบลคไมน์ไวท์เบิร์นสั่งการและยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย  เพราะตอนที่ติดต่อกันเมื่อกี้ ไวท์เบิร์นได้เปิดเป็นเสียงลำโพง ทำให้นิดา กับ อรได้ยินสิ่งที่แบลคไมน์รายงานมาได้

                   ทั้งนิดา และ อร ก็ครุ่นคิดถึงหลักฐานที่ทุกคนได้ไปเจอ นิดาก็ก็ได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ทั้งการฆ่า หลักฐาน เหตุจูงใจ และฆาตกร!!!

                   อร.. ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าใครคือฆาตกรที่ฆ่าท่านเจ้าปู่!!!” นิดาพูดอย่างมั่นใจอย่างสูง โดยที่อรนั้นคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก โดยอรก็สงสัยนิดาว่า ไปได้ฝึกฝนการเป็นนักสืบมาหรือเปล่า? ถึงคลี่คลายได้เริ่มติดจรวดปานนี้

                   “อร.... ไปเรียกทุกคนมารวมกันที่ห้องโถง แล้วบอกว่าฉันรู้ตัวฆาตกรแล้ว อืม แล้วเรียกสารวัตรองอาจมาด้วยนิดาสั่งการอรให้ทุกคนมาฟังความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดในที่แห่งนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×