ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sky Land มิติเวทย์อลวน

    ลำดับตอนที่ #3 : ตกงาน

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 55


              

                 โธ่เว้ย!!!อะไรกันอยู่ดีๆก็ไล่เราออกซะงั้น ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลยนะเจ้าบ้าเอ้ย!! เหอะฉันไปหางานอื่นก็ได้ไม่ง้อหรอกเจ้าผู้จัดการบ้า!!!
                ฉันก็แค่อาละวาทเพราะโดนลวนลามกับทำลายข้าวของ เพราะโมโหลูกค้าหื่นกามแค่นั้นเองนะ ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องไล่ออกเลย เจ้าคนไม่มีน้ำใจ! แล้วทีนี้ฉันจะไปหาอะไรทำดีล่ะเนี่ย จะไปหาให้เจ้าลุคช่วยก็ไม่ได้เจ้าบ้านั้นต้องบนยาวจนหูชาแน่ๆเลย
                “เฮ้อ~~แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย งานก็ไม่มีเงินก็เหลือน้อยเต็มทน”หึ พระเจ้าทำไมถึงได้กลั่นแกล้งผมแบบนี้นะ เกิดมาเกิดมาพ่อแม่ก็ไม่มี แถมยังต้องหาเงินเองอีก งานก็ยังถูกไล่ออกบ่อยๆ ทำไมถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้กันนะ ...
                “โว้ย!!! ทำไมกันล่ะ ... ทำไม!!!”ผมสบถออกมาอย่างไม่เข้าใจเพื่อระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจ พลางเดินไปโวยวายไปอยู่คนเดียวจนไปเจอซอยๆหนึ่งเข้า ในซอยนั้นมืดมากแต่ก็มีเงารางๆพอให้มองเห็นข้างใน ภายในซอยนั้นมีบ้านหลังใหญ่อยู่หลังหนึ่งมันมีสภาพเก่า ดูก็รู้เลยว่าไม่มีคนอยู่แล้วแต่ความสวยงามของมันสะกดผมเอาไว้ ทำให้ผมเดินเข้าไปในซอยนั้น           ในขณะนั้นเองที่ผมเเตะลูกบิดประตู ก็ได้รู้สึกถึงความอุ่นวาบแผ่ซ่านเข้ามาในฝ่ามือจากนั้นผมก็เปิดประตูเข้าไป  และทันใดที่ผมเปิดประตูออกมา ก็ได้มีแสงสว่างสีทองเรืองรองวาบขึ้นมา จากนั้นมันก็ดูดผมเข้าไปภายในนั้น ...
     
     
    อีกด้านหนึ่ง
                มีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองเด็กหนุ่มถูกดูดเข้าไปภายในประตูบานนั้นแล้วก็ยิ้มพราวออกมาราวกับดีใจเสียเหลือเกิน และเขาคนนั้นก็ได้พูดขึ้นมา
                “ในที่สุดท่านก็กลับไป ณ ที่แห่งนั้นแล้ว กระผมขอให้นายน้อยมีความสุขนะขอรับ”และแล้วเสียงนั้นก็ลอยหายไปตามสายลม
                ในขณะนั้นเองที่ลุครู้ว่า อัลเฟ่ถูกไล่ออกก็กระวนกระวาย เพราะยังไม่เห็นอัลเฟ่กลับมาที่บ้านจึงออกมาตามหาเขาไปทั่วเมือง ลุควิ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่หยุดพักและตะโกนไปตลอดทางด้วยว่า
                “อัลเฟ่ !!! นายอยู่ที่ไหนกัน ได้ยินก็ตอบกลับด้วย !!!”ผมตามหาไอ้เจ้าบ้าอัลเฟ่อยู่นาน
                ก็เพิ่งจะรู้มาว่าเจ้านั่น เพิ่งโดนไล่ออกจากงานไปตายแถวไหนรึยังก็ไม่รู้ เพราะมันยังไม่ได้กลับบ้านผมรออยู่นานเจ้านั่นก็ยังไม่กลับมา เป็นเหตุให้ผมต้องวิ่งวุ่นหาเจ้าหมอนั่นไปทั่วทั้งเมือง แต่ผมก็ยังหาหมอนั่นไม่เจอหายไปไหนของเค้ากันนะ หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ !
                “อัลเฟ่นายอยู่ไหนน่ะ!!!”ผมมาหยุดยืนพักอยู่หน้าซอยๆหนึ่ง ผมเพิ่งจะรู้ว่าซอยแห่งนี้มีบ้านหลังใหญ่อยู่ด้วย จู่ๆผมก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าเจ้าอัลเฟ่อาจจะเข้าไปในนั้นก็ได้ เมื่อคิดแล้ว ผมก็สาวเท้าเดินไปทันที
                แต่พอผมจะเดินเข้าไปนั่นเองอยู่ๆก็มีหลุมดำขนาดใหญ่เกิดขึ้นมา ที่ใต้เท้าของผม แล้วก็ได้ตกลงไปในหลุมนั้น มันเหมือนมีแรงดูด ดูดผมลงเข้าไปข้างในนั้น ขณะที่กำลังถูกดูดไปที่ไหนซักแห่งนั้น ผมได้ยินเสียงอันอื้ออึงมันทำให้ผมปวดหัวมากจนใกล้จะหมดสติ แต่ก่อนที่ผมจะหมดสติผมได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้น แล้วเอื้อนเอ่ยกับผมว่า
                “ท่านลุค สหายของท่านอัลเฟ่ นายน้อยของกระผม ขอฝากท่านดูแล ท่านอัลเฟ่ด้วยนะขอรับท่านลุค”เสียงนั้นฟังดูอ่อนโยนเมื่อพูดถึงอัลเฟ่ จากนั้นสติของผมก็ดับวูบไป
     
     
    ด้านอัลเฟ่
                อา ทำไมผมถึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังบินอยู่ในอากาศก็ไม่รู้แฮะ รู้สึกแปลกๆว่าตัวเองเบาหวิว แถมได้ยินเสียงลมแรงๆ เหมือนผมกำลังจะตกลงมาจากที่สูงเลยแฮะ ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ
                จากนั้นผมก็ลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองกำลังดิ่งลงไปที่พื้นจากบนฟ้าที่สูงมากๆและผมก็ร้องออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว
                “ว้าก!!! นะ...นี่มันอะไรก๊าน!!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!”
                นะ...น่ากลัว นี่ผมกำลังเล่นบันจี้จัมป์แบบไม่มีสายรึไงกัน ! ถ้าผมตกลงไปละก็ จะต้องตายศพไม่สวยแน่ๆเลย แง!!! ในขณะที่ผมกำลังคร่ำครวญกับสภาพศพตัวเองที่ตกลงไปแล้วจะต้องอนาถแน่ๆ อยู่นั้นเอง
                ผมก็ได้เห็นเงาประหลาดๆวูบหนึ่ง ซึ่งได้มาอุ้มผมไว้ จากนั้นก็พาผมลงไปสู้พื้นโดยที่ผมไม่ต้องตายในสภาพอนาถๆ ให้ลงข่าวหน้าหนึ่งว่า ... หนุ่มตกงานคิดสั้น กระโดดจากที่สูงฆ่าตัวตายประชด !!! โดยที่ข่าวประกาศเตือนติดเรท เพราะสภาพศพอันทุเรศทุรัง ที่เห็นแล้วจะพาลให้กินข้าวไม่ลง ...
                ผมเงยหน้าขึ้นเพื่อไปขอบคุณคน หรืออะไรซักอย่างที่ได้มาช่วยผมไว้
                “ขะ...ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไว้ไม่อย่างนั้นล่ะก็ผมต้องตายศพไม่สวยแน่ๆเลยครับ”
                เมื่อผมได้เห็นคนที่ช่วยผมเอาไว้มันทำให้ผมต้องเบิกตากว้างเลยทีเดียว !
                เขาเป็นชายหนุ่ม น่าจะมีอายุประมาณสามสิบกว่าปี ดวงตาสีอัลม่อน ผมสีดำยาวละต้นคอ กับผิวขาวราวกับหิมะ ท่าทางการยืนดูองอาจสมชายชาตรี สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้า เขาดูหล่อมากเลย ให้ตายสิ !
                “คะ...คุณลุงดูหล่อจังนะครับ”
                คุณลุงคนนั้นยิ้มกว้างหลังจากที่ได้ยิน แล้วก็หัวเราะขึ้นมา จากนั้นก็หันมาพูดกับผมแบบเป็นกันเอง
                “ฮะๆ นายนี่น่าสนใจดีนี่ หนุ่มน้อยขอบคุณที่ชมข้านะ ข้าชอบเจ้าจังเลย อืม จริงสิเจ้าชื่ออะไร ข้าชื่อ ‘ราฟาเอล’ ”
                “ผมชื่อ อัลเฟ่ ครับ”
                ผมตอบออกไป ลุงคนนั้นมองผมด้วยสายตาที่สงสัยใคร่รู้เป็นประกาย พลางดูแล้วเหมือนสายตาของเด็กที่อยากได้ของเล่นเสียจริงเชียว
                ผมจึงนั่งนิ่งรอให้ลุงเขาถามออกมา
                “เจ้ามีพลังเวทย์ที่แกร่งกล้ามากนะ เจ้าหนูอัลเฟ่ ทำไมเจ้าถึงไม่ใช้มันแทนที่จะเรียกให้คนช่วยล่ะ”
                พลังเวทย์เค้าพูดถึงอะไรกัน !? เวทย์มนต์มันจะมีอยู่จริงได้ยังไงถ้ามันมีอยู่จริงๆล่ะก็ผมก็คงไม่ต้องมาลำบากลำบนทำงานงกๆ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันหรอกนะ
                “ทำหน้าแบบนั้นอย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้จักเวทย์มนต์ ?  จะว่าไปลักษณะการแต่งตัวของเจ้าก็ดูแปลกตาไม่เหมือนคนในอาณาจักรแห่งนี้สักเท่าไหร่ หรือว่าเจ้ามาจากมิติอื่นเช่นนั้นรึ แต่ทำไมข้ารู้สึกเหมือนว่า เจ้าจะเป็นคนในอาณาจักรนี้กันนะ”
                “คุณลุงพูดถึงเรื่องอะไรกันครับ จะว่าไปที่นี่ที่ไหนกันครับผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ผมมาจากเมืองคีออซน่ะครับ แล้วเวทย์มนต์อะไรกันน่ะครับ ผมไม่เห็นรู้จักเลย”
                อืม หนุ่มน้อยคนนี้มาจากมิติอื่นรึนี่ แต่เลือดในกายข้ากำลังร้องบอกข้าว่าเจ้าหนุ่มนี่เป็นคนของอาณาจักรนี้นี่นา และสายเลือดในตัวเด็กนี่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์อันสูงส่งซะด้วย น่าสนใจทีเดียวเชียว ดูๆไปแล้วน่าจะอายุพอๆกับลูกของข้าซะด้วยสิ งั้นถ้าข้าจะรับเด็กนี่เป็นลูกอีกคนก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง
                “ที่นี่คืออาณาจักร ‘Sky Land’ อาณาจักรแห่งท้องฟ้าทุกๆคนที่นี่ใช้เวทย์มนต์ได้ แล้วก็เมืองคีออซที่เจ้าพูดถึงเป็นเมืองที่อยู่อีกฝั่งของมิติของอาณาจักรแห่งนี้และพวกเราก็ไม่เคยมีใครที่เข้าไปในมิตินั้นแล้วสามารถรอดออกมาได้ถึงมีก็มีเพียงน้อยนิดนัก และข้าก็สนใจเจ้าซะด้วยสิเจ้าจะไปกับข้ามั้ยล่ะหนุ่มน้อย”
                “ไปไหนเหรอครับคุณลุง”
                “แน่นอนอยู่แล้วก็ที่บ้านของข้าไงข้ารู้สึกถูกใจเจ้ามากๆเลยล่ะ และอยากจะรับเจ้าเป็นลูกอีกคนหนึ่งของข้าด้วย”
                หลังจากที่คุณลุงคนนั้นพูดจบผมก็อึ้งไปเลย จะรับผมเป็นลูกอย่างนั้นเหรอ  ทำไมกันนะทั้งๆที่ไม่เคยมีใครเลยแท้ๆที่อยากจะรับเด็กเจ้าปัญหาอย่างเราเป็นลูก แล้วจู่ๆทำไมน้ำตาบ้ามันก็ไหลออกมาซะงั้น ดีนะที่คุณลุงคนนั้นไม่เห็น ผมได้เช็ดน้ำตาตัวเองออกอย่างลวกๆ แล้วก็ได้รีบวิ่งตาม ‘ว่าที่คุณพ่อ’ คนนั้นไป …
     
     
                ในขณะนั้น ลุคที่ตกลงมาในหลุมดำก็โผล่เข้ามาในป่าและนอนหมดสติอยู่ตรงโคนต้นไม้ต้นหนึ่ง จากนั้นก็มีเงาของบุคคลหนึ่ง ขึ้นมาทาบทับตัวเขาเอาไว้ เสียงของเจ้าของเงาได้นั้นพูดขึ้นมาว่า
                “มีคนนอนหมดสติอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกันนะ แต่จะปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ได้เสียด้วยสิ นี่พวกเจ้าน่ะ มาอุ้มเค้ากลับบ้านไปพร้อมกับเราทีสิ”
                “ตะ...แต่ว่านายน้อยขอรับจะดีรึขอรับ ถ้าเกิดเป็นคนร้ายจะทำยังไงล่ะขอรับ”
                “ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริงข้าจะจัดการเอง เอาล่ะอุ้มเค้าขึ้นมาแล้วกลับกันได้แล้ว”
                “ขอรับ”
                จากนั้นก็ไม่มีเสียงสนทนาอะไรขึ้นมาอีกเลย ชายร่างใหญ่ที่คุยกับเจ้าของเงาปริศนานั้นได้อุ้มลุคขึ้นมา และเดินตามเจ้าของเงาคนนั้นไป .....





    APPLE PIE ★

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×