ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 3 เซ็นได เมืองสวยๆ ของญี่ปุ่น
"เซ็นได"เมืองงามแดนอาทิตย์อุทัย แม้คนไทยจะคุ้นเคยกับการ์ตูนญี่ปุ่นมาช้านาน โดยเฉพาะยุคแฟนฉันที่การ์ตูนญี่ปุ่นบูมสุดๆในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ไอ้มดแดง อุลตร้าแมน หน้ากากเสือ ขบวนการมนุษย์ไฟฟ้า ฯลฯ ไล่มาจนถึงยุคโดราเอมอน นินจาฮาโตริ หนูน้อยอาราเร่ แล้วตามต่อด้วย กัปตันซึบาสะ ดราก้อนบอล หมัดเพชฌฆาตดาวเหนือ จนมาถึงยุคปัจจุบันที่กระแสญี่ปุ่นยังคงมีอิทธิพลต่อคนไทยบางกลุ่มอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เพลงญี่ปุ่น แฟชั่นญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น หรือหนังญี่ปุ่นโดยเฉพาะหนังผีที่น่าอกสั่นขวัญหายไม่น้อยทีเดียว แต่หากคนพูดถึงเรื่องการท่องเที่ยว แม้ที่ผ่านมาคนไทยจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าส่วนใหญ่จะรู้จักเฉพาะเมืองดังๆของญี่ปุ่น อาทิ โตเกียว เกียวโต โอซากา นารา ฮอกไกโด ฮิโรชิมา ฟูกูโอกะ ส่วนชื่อเมืองเซนไดนั้น คนไทยหลายๆคนไม่ค่อยรู้จักทั้งๆที่เซ็นไดเป็นเมืองใหญ่และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆงามๆมากมาย เที่ยวธรรมชาติ เมืองเซ็นได ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของญี่ปุ่น ถือเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งขึ้นอยู่กับมณฑลมิยางิ (Miyagi)อยู่ห่างจากเมืองหลวงโตเกียวประมาณ 400 กิโลเมตร เซ็นได เป็นหนึ่งในเมืองของญี่ปุ่นที่พรั่งพร้อมด้วยแหล่งทรัพยากรทางการท่องเที่ยวอันอุดมสมบูรณ์ และเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติอันงดงาม ทั้งป่าเขาลำเนาไพร เกาะกลางน้ำ บ่อน้ำพุร้อน และทิวทัศน์ชายทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิค ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจีจนได้รับการขนานนามว่าเป็น"เมืองแห่งต้นไม้" สำหรับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเซ็นไดที่ไปเยือนแล้วไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงก็คือ อ่าวมัตสุชิมา (Matsushima)อ่าวที่มีทัศนียภาพงดงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นเกาะหินปูนรูปทรงแปลกตา ที่มีมากถึง 260 เกาะ ตั้งเรียงรายกันอยู่ทั่วไปในอ่าว นอกจากนี้อ่าวมัตสุชิมายังเหมาะแก่การล่องเรือชมความงามของทิวทัศน์ในอ่าวเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากหมู่เกาะและท้องทะเลอันสวยงามแล้ว อ่าวแห่งนี้ยังมีหมู่บ้านชาวประมงที่เพาะเลี้ยงหอยนางรมอันโด่งดัง เพราะเป็นหอยนางรมที่มีรสชาติในระดับหัวแถวของญี่ปุ่นทีเดียว และไหนๆเมื่อไปเซ็นไดแล้ว หากพลาดการลงชาน้ำพุร้อนอันโด่งดังของเมืองนี้ก็ดูจะกระไรอยู่ เพราะเซ็นไดมีน้ำพุร้อนอยู่หลายจุดให้ลงแช่ผ่อนคลายทุกส่วนร่างกาย ท่ามกลางความสงบและสวยงามของป่าเขาที่รายรอบอย่างสะดวกสบาย โดยมีทั้งรีสอร์ท โรงแรม และโรงเตี๊ยมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมให้เลือกพัก ซึ่งมีน้ำพุร้อนเป็นไฮไลท์สำคัญของเมือง โด่งดังติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเนื่องจากมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของความงาม และการรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่งนุ่มนวล แถมยังมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1,000 ปี และกำลังจะได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2551 ด้วย เที่ยวชมศิลปวัฒนธรรม นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันโดดเด่นดังได้กล่าวมาแล้ว เมืองเซ็นไดยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อย่างเช่น ศาลเจ้าโกโคกุ ศาลเจ้าสำคัญของเมืองซึ่งสร้างอุทิศให้แก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์รวมชาติสมัยเมจิและในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนบริเวณหน้าศาลเป็นสวนสาธารณะจะโดดเด่นไปด้วยอนุสาวรีย์ของท่านดาเต มาซามุเนะ ในท่าขี่ม้าอย่างทะมัดทะแมง โดยจุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวชั้นดีของเมืองที่เมื่อมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์ของเมืองเซ็นไดทั้งเมือง อีกศาลหนึ่งที่น่าชมไม่แพ้กันก็คือ ศาลเอนสึอิน ที่ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือล่องอ่าวมัตสุชิมา สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2190 เป็นศาลไม้หลังคามุงกระเบื้องอันสวยงาม บริเวณศาลเจ้ามีสวนแบบนิกายเซ็นอันสงบงามและโดดเด่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่จะเปลี่ยนสีผลัดใบไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ก็ยังมีสวนกุหลาบ สวนหิน สวนทราย ที่แต่ละสวนต่างก็มีเสน่ห์น่าชมแตกต่างกันออกไป ใกล้ๆกับศาลเอนสึอิน เป็นที่ตั้งของวัดซุยกันจิ ที่ทางเข้าวัดมีต้นสนขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปีตั้งอยู่เรียงรายร่มครึ้ม วัดซุยกันจิ เป็นวัดเก่าแก่นิกายเซน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1333 เป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ศิลปะสมัยโมโมยาม่า ภายในมีลายสลักไม้และลายเขียนสีอันขรึมขลังสวยงาม อีกสถานที่หนึ่งในเซ็นไดที่น่าสนใจและเข้าไปเที่ยวชมก็คือ พิพิธภัณฑ์เมืองเซ็นได ที่ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นๆสำคัญของเมืองเซ็นไดจำนวนมาก เช่น รูปสลักไม้ 12 นักษัตรอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนครวัด ชุดเสื้อเกราะโบราณของซามูไรและนักรบคนสำคัญในญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องปั้นดินเผาโบราณ เครื่องลงรักปิดทอง เครื่องมุก และของเก่าแก่ล้ำค่าอีกมากมาย หากพูดถึงศิลปวัฒนธรรมของเซ็นไดนอกจากศาลเจ้า วัดสาอาราม และของเก่าแก่แล้ว เซ็นไดยังมีเทศกาลงานประเพณีที่สำคัญ อาทิ เทศกาลทานะบาตะ อันเลื่องชื่อที่สืบทอดมาตราบจนทุกวันนี้ การแสดงระบำนกกระจอก ที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ซึ่งเป็นระบำพื้นเมืองที่ผู้รำจะใช้สองมือถือพัดด้ามจิ๋วร่ายรำหรือเต้นไปมาเลียนแบบท่านกกระจอก ซึ่งปัจจุบันนิยมนำมาแสดงต้อนรับนักท่องเที่ยวและเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมร่ายรำด้วย ใช่ว่าเซ็นไดจะมีดีเฉพาะธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมเท่านั้น แต่เซ็นไดยังเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลผลิตมากมายทั้งจากผืนแผ่นดินและจากท้องทะเล โดยในพื้นที่ทางตอนเหนือและใต้ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ส่วนผลผลิตจากทะเลที่ขึ้นชื่อก็คือพวกอาหารทะเลสดๆโดยเฉพาะซูชิและหอยนางรม ด้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อของเซ็นไดได้แก่ ลิ้นวัวย่าง ที่หากกินแกล้มกับ "Jizake" เหล้าสาเกพื้นเมืองของที่กลั่นจากข้าวชั้นเลิศ ถือว่าลงตัวเข้ากันดียิ่งนัก ในขณะที่ขนมต่างๆ ของเมืองนี้ก็อร่อยขึ้นชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณ สิ่งต่างเหล่านี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเน้นให้เซ็นไดเป็นหนึ่งในเมืองอันน่าเที่ยวของญี่ปุ่นที่หากใครได้ไปสัมผัสเที่ยวชมก็คงจะประทับใจไปไม่รู้ลืม... super cell |
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น