ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [2] - หัวใจ...ที่ไม่ใช่ของแจจุง
Part 2
เช้าวันใหม่ที่บรรยากาศไม่น่าภิรมย์เท่าที่ควร แต่ร่างบางงามระหงกลับเดินอมยิ้มอารมณ์ดีจนผู้เป็นมารดาต้องเอ่ยทัก
“อารมณ์ดีเชียวนะวันนี้ มีอะไรพิเศษรึเปล่าจ๊ะ?” คุณนายคิมที่กำลังจัดโต๊ะอาหารรีบทักทันทีที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเดินลงมาจากบันได
“อืม ม...ไม่รู้สิครับ แต่เมื่อคืนแจจุงหลับสนิทสุดๆ เลย” รอมยิ้มพรายยังไม่จางไปจากใบหน้า สองมือเล็กดึงเก้าอี้เพื่อสอดกายบอบบางเข้าไปเติมที่ว่างของเก้าอี้ให้เต็ม
“ดู หน้าตาสดใสขึ้นนะ เห็นแบบนี้แม่ค่อยหายห่วงหน่อย น่าเสียดายที่ยุนโฮไม่ทันได้เห็น” คนเป็นแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วก็ต้องหน้าเหี่ยวลงเมื่อนึกถึงร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนโซฟาห้องรับแขก
“ยังเช้าอยู่เลย เค้าไปทำงานแล้วเหรอครับแม่?” แจจุงแปลกใจที่ยุนโฮไม่อยู่รอ
“ยุ นโฮบอกว่ามีงานด่วน รู้สึกว่าที่แลปมีปัญหารึไงเนี่ยแหละ แม่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ ยังงัวเงียอยู่...เลยจับใจความไม่ค่อยได้ แต่เห็นรีบร้อนออกไปคงจะด่วนมากจริงๆ หน้าตาดูเครียดๆ ลูกก็ลองโทรไปถามดูสิ”
“ครับ” แจจุงรับฟังและรับคำเพียงสั้นๆ ก่อนจะลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้า
ท่าทีที่ไม่ค่อยใส่ใจคนรักแบบนั้นเล่นเอาคุณนายคิมชักท้อใจ
“เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเรา” คุณนายคิมถอนหายใจเฮือกใหญ่ จนลูกชายสุดที่รักต้องละความสนใจจากอาหารเลอรส
“...???” ใบหน้าของแจจุงเต็มไปด้วยคำถาม คุณนายแม่จึงต้องเกริ่นอธิบาย
“ก็แต่ก่อนลูกแม่พูด ‘ครับ’ กับคนในบ้านซะที่ไหนกันล่ะ”
“อ้าว!...” แจจุงประหลาดใจ เค้าเพิ่งจะนึกออกว่าตนเองมักจะลงท้ายหางเสียงว่า ‘ฮะ’ ซะเป็นส่วนใหญ่ต่างหาก
“แล้วก็นะ...แจจุงลูกแม่น่ะ แทนตัวเองว่า ‘ผม’ น้อยมากๆๆๆๆ”
“เอ...นั่นสิฮะ แจจุงเบลอหนักถึงขั้นนี้เลยเหรอเนี่ย” แจจุงทำหน้าเบ้เมื่อพบความผิดปกติอีกอย่างของตนเอง
“ใช่ๆๆๆ ต้องแบบนี้สิ ถึงจะใช่ลูกแม่!” มารดาบังเกิดเกล้ารีบสำทับในประโยคนั้นของลูกชาย
“ไม่เห็นยุนโฮบอกเลย” ทำหน้ายู่ตักข้าวเปล่าเข้าปากบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว
“ยุ นโฮคงไม่กล้าพูดให้ลูกกังวลล่ะมั้งจ๊ะ...แม่น่ะเห็นว่าถ้าลูกไม่เปลี่ยนไป มากกว่านี้ก็กะจะไม่พูดหรอกนะ แต่นี่...” ถอนหายใจอีกหลายเฮือก
“ปกติ แจจุงไม่ขับเร็ว ขับเองแทบนับครั้งได้” แจจุงเพิ่งนึกออกอีกเช่นกันว่านิสัยเดิมของตนนั้นค่อนข้างขี้กลัว และโดยมากจะเป็นยุนโฮที่คอยทำหน้าที่สารถีคอยรับคอยส่งแจจุงมาตลอด
“ถูกต้องที่สุดเลยค่ะคุณลูก...เฮ้อ~”
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
หลังจากมื้อเช้าแจจุงก็ถือโอกาสอาสาขับรถมาส่งมารดาที่สนามบินเพื่อไปช่วยงานคุณพ่อของเค้าที่ญี่ปุ่นอีกหลายวันกว่าจะกลับ
และเพราะกะทันหันไปนิดแทนที่ร่างบางจะให้ยุนโฮมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าตัวกลับปฏิเสธ ความรู้สึกกดดันที่มีอยู่บรรเทาลงในพริบตา
แจจุงขับรถชมวิวมาเรื่อยๆ อีกครั้งตามเส้นทางเดิมของเมื่อวาน และแน่นอนว่าจุดหมายปลายทางคือที่ใด
กรุ๊ง กริ๊ง~
เสียงกระดิ่ง ดังก้องกังวานยามเมื่อมีลูกค้าเปิดประตูเข้ามาในร้าน...ชางมินที่กำลังง่วน อยู่กับการจัดช่อดอกไม้ลงตระกร้าตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมาอยู่หลังร้านจำ ต้องละมือเพื่อออกมาต้อนรับผู้มาเยือน
“สวัสดีครับ Hearts and Flowers ยินดีต้อนรับครับ^^” เสียงใสทักทายมาก่อนที่เจ้าของร่างโปร่งสูงจะปรากฎกายเสียอีก
“อ้าว...คุณนั่นเอง อรุณสวัสดิ์ยามสายครับ” ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครชางมินก็จำได้ดี เจ้าตัวจึงทักทายเสียงใส
แจจุงรีบยิ้มตอบให้กับรอยยิ้มสว่างสดใสดุจดวงอาทิตย์ยามเช้าที่อีกฝ่ายมอบให้ทันที
“เมื่อวานต้องขอบคุณมากจริงๆ นะครับ...ดีใจที่คุณยังจำผมได้”
“เมื่อ วานคุณขอบคุณผมแล้ว...รับดอกไม้อะไรดีครับ จะมอบให้คนพิเศษหรือมอบให้เป็นมารยาทดีครับ” ชางมินรีบทำหน้าที่เจ้าของร้านที่ดีอย่างคล่องแคล่ว
“เอ่อ...” แจจุงที่ไม่ทันได้คิดว่าจะซื้อดอกไม้จึงนิ่งคิด
“กุหลาบ ลิลลี่ คาเนชั่น ลาเวนเดอร์ก็มีนะครับ...” ชางมินช่วยเสนอแต่มวลหมู่ดอกไม้ฮิตฮอท
“เอ๋~ ลาเวนเดอร์? ดอกสีม่วงๆ ใช่มั้ยครับ?” แจจุงไม่แน่ใจ แต่ภาพในความทรงจำที่ไม่น่าจะเป็นของเค้ากลับผุดขึ้นมาดื้อๆ
“ครับ...นี่ไงครับ หอมด้วยนะ ผมยังชอบเลย” ชางมินหยิบก้านหนึ่งออกมาให้ดู
“ใช่เจ้านี่จริงๆ ด้วย...” แจจุงพึมพำกับตนเอง และทันทีที่สูดดมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์...
‘ชั้นชอบที่นี่’
‘หอมดีจัง’
‘ชั้นอยากอยู่ที่นี่’
‘อย่าลืมชั้นนะ’
‘สัญญาสิ’
ภาพคนสองคนท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์
สองคนนั้นใครกัน?
แล้วภาพทุกอย่างตรงหน้าก็เลือนลาง...เรี่ยวแรงมลายหายสิ้น แจจุงล้มลงพร้อมกับดอกลาเวนเดอร์ที่หลุดมือไป
“คุณ! คุณครับคุณ เป็นอะไรไปน่ะ คุณครับ!!!” ชางมินตกใจกับคนตรงหน้าที่จู่ๆ ก็ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น เค้ารีบวิ่งออกมาจากหลังเคาน์เตอร์เพื่อประคองคนที่หมดสติไปแล้วเพื่อเรียก สติอีกครั้ง
“ว๊ายย!! ?!!” ลูกค้าสาวเข้ามาก็พบกับชายหนุ่มเจ้าของพยายามเรียกคนในอ้อมแขนให้ฟื้นคืนสติด้วยความตกใจ
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ มีลูกค้าเป็นลม ไว้คราวหน้าค่อยมาอุดหนุนใหม่นะครับ” ชางมินเร่งตั้งสติบอกกล่าวขอโทษขอโพยลูกค้าสาว ก่อนจะวานให้เธอช่วยพลิกป้ายหน้าเป็น ‘Close’ ให้อีกด้วย เนื่องจากเธอมาอุดหนุนที่ร้านบ่อยจึงพอจะคุ้นหน้ากันมากพอที่จะไหว้วานได้
ชางมินพาแจจุงมานอนพักที่โซฟาหลังร้านก่อนจะเดินมาปิดประตูร้านให้เรียบร้อย
“เฮ้อ~ แพ้ดอกไม้รึไงนะ” ชางมินยืนเท้าสะเอวมองเจ้าของร่างบางอย่างเหนื่อยใจ
ครั้งที่สองแล้วนะ!
อ่าง น้ำใบเล็กกับผ้าขนหนูขาวถูกวางไว้บนโต๊ะเล็กข้างโซฟาไม้สีเบจ หลังจากที่มันทำหน้าที่เช็ดใบหน้าและลำคอให้กับหนุ่มรูปงามที่กำลังหลับตา พริ้มแผ่แพขนตางอน
หมอนใบเล็กถูกนำมาสอดใต้ลำคอ ชางมินพยายามช้อนศีรษะกลมมนเพื่อให้หมอนได้เข้าไปทำหน้าที่ให้คนตัวบางได้หนุน
ชา งมินหันกลับมาสนใจงานที่ยังค้างอยู่ เพราะใกล้จะได้เวลาต้องไปส่งให้ลูกค้าแล้ว เมื่อจัดดอกไม้ใส่ลงตระกร้าเสร็จเรียบร้อย ชางมินช่างใจสักพักก่อนจะออกจากร้านเพื่อไปส่งของ
“คงไม่เป็นไรมั้ง” คิดได้ดังนั้นจึงค่อยๆ ปั่นจักรยานออกไปด้วยความระวัง
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“คุณ อิมโทรมาบอกผมว่ามีของในแลปหายไป?” ยุนโฮเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะของที่สูญหายถ้าถูกนำไปใช้อย่างผิดวิธีจะก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่ มีใครสามารถประเมินได้
“ครับดอกเตอร์ชอง...ทางกระทรวงได้ส่งคนมาตรวจ สอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดอยู่ครับ แต่จนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย” เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเห็นท่าทางของร่างสูงก็ยิ่งเพิ่มความกดดันเท่าทวีคูณ
“คุณอิม เดี๋ยวคุณอยู่ที่นี่ช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ...ได้เรื่องยังไงรีบโทรบอกผมทันทีเลยนะ” หันมาสั่งกับผู้ช่วยสาวของเค้า
“ค่ะดอกเตอร์...แต่ว่า...น้ำยาตัวนั้น...?” ยังไม่ทันได้ถามจบยุนโฮก็ยกมือขึ้นมาขัดเสียก่อน
“มัน ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังเอามาใช้ประโยชน์ตอนนี้ไม่ได้หรอก” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ถ้าหากมีคนรู้วิธีใช้และนำมันเข้าสู่วิถีอโคจรแล้วล่ะก็...
หายนะแน่ๆ!
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“ยูชอน!” จุนซูทักทันทีก่อนที่ยูชอนจะเดินหายลับไปกับมุมตึกสูง
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายจึงหยุดและหันมามอง
“นั่นอะไรน่ะ?”
“.........” ยูชอนไม่ตอบคำถามของจุนซู ได้แต่ยื่นแคปซูลสีเขียวใสส่งให้ดู
“นายใหญ่สั่งให้เอามาให้เหรอ?”
“........ความลับ” ยูชอนชั่งใจอยู่นานก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบาด้วยใบหน้าตึงเครียด ก่อนจะย่างสามขุมมุ่งหน้าไปยังที่ทำการลับทันที
ปล่อยให้จุนซูที่ว่างงานในวันนี้ได้แต่อ้าปากค้าง
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เพราะ ว่าวันนี้จุนซูว่าง แต่ยูชอนงานยุ่งจนวิ่งวุ่นทั้งวันทำให้ทั้งสองไม่มีเวลาที่ตรงกัน คนตัวอวบจึงตัดสินใจกลับมาหาชางมินที่ร้านแทน
“เห??...ยังหัววันอยู่เลย ปิดร้านทำไมวะเนี่ย เอ๊ะ! หรือว่า...มีใครรังแกชางมิน!” คิดได้ดังนั้นก็รีบไขกุญแจเพื่อเข้าไปด้านในทันที
เมื่อเข้ามาด้านในก็พบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี จึงเดินมาหาชางมินทางหลังร้าน แต่กลับไม่เจอใครนอกจาก
...คิมแจจุง!
“ชั้นไม่มีทางตาฝาดแน่วันนี้...แล้วนี่ชางมินไปไหนนะ” จุนซูพึมพำกับตนเอง พลางกวาดสายตามองหาร่างสูงโปร่งของใครอีกคนไปด้วย
ร่างเล็กสำรวจบริเวณรอบๆ จึงเห็นว่ามีผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดวางอยู่อย่างเรียบร้อยกับอ่างน้ำใบเล็กที่ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากโซฟา
“คงเช็ดตัวให้ล่ะสินะ...แสดงว่าแจจุงต้องมาเป็นลมที่นี่อีกแน่ๆ” จุนซูคาดเดาสถานการณ์
“อะไร กันนี่...ทำไมทำหน้าทรมานแบบนั้นนะ?” จุนซูสังเกตสีหน้าของแจจุงที่ตอนนี้เริ่มเหยเกขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อพราวขึ้นมาทั่วใบหน้า คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นจนน่าอึดอัด ใบหน้าหวานส่ายไปมาน้อยๆ ราวกับร้อนรน
“เฮือก!!” ทั้งจุนซูและแจจุงต่างผงะออกจากกันทันทีเมื่อแจจุงจู่ๆ ก็สะดุ้งเฮือกลุกพรวดพราดขึ้นมา
“อึก...อ้ะ!” ร่างบางกำหน้าอกข้างซ้ายไว้แน่น ความปวดร้าวทรมานส่งผลให้ร่างกายอันบอบบางต้องล้มตัวลงไปนอนคุดคู้อีกครั้ง
“คุณเป็นอะไรน่ะ! ให้ผมเรียกรถพยายาลให้มั้ย?!” จุนซูรุดเข้ามาดูอาการด้วยความตกใจ แจจุงพยักหน้ากัดริมฝีปากแน่นจนน้ำตาเล็ด
จุนซูรีบโทรเรียกรถพยายาบาลทันที
“ทำใจดีๆ เอาไว้นะคุณ” ท่าทีของแจจุงเล่นเอาจุนซูกดหาเบอร์โทรที่ต้องการไม่ได้
มือข้างนึงข้างเค้าถูกแจจุงบีบรัดไว้แน่นจนเจ็บไปหมด มืออีกข้างกดมือถือมือสั่นแม้จะพยายามสงบสติแค่ไหนก็ตาม
แจ จุงขาดสติรับรู้โดยสิ้นเชิง เค้าเห็นอะไรวุ่นวายมากมายไปหมด เหมือนความทรงจำของใครบางคนกำลังไหลย้อนเข้าสู่สมองของเค้า มันเร็วและมากเกินขีดจำกัดที่จะรับทันจนมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร เรื่องราวเป็นมายังไง
แต่ที่แน่ๆ สิ่งเหล่านี้มันส่งผลร้ายแรงกับหัวใจที่เพิ่งได้รับการเปลี่ยนมา...มันเต้น ถี่จนผิดจังหวะ และปวดจนจุก เสียดในหน้าอก ปวดจนแจจุงไม่อาจสาธยายได้ ไม่...แม้กระทั่งจะเปล่งเสียงเพื่อระบายความทรมาน
“เอาไงดีวะ ไม่มีใครรับสายเลย ไปตายที่ไหนกันหมดวะ!!” จุนซูแทบอยากเขวี้ยงมือถือเรือนงามทิ้งเสียให้ได้ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ แต่เบอร์ฉุกเฉินต่างๆ กลับเกิดขัดข้องขึ้นมาเสียดื้อๆ
“จุนซู!! เกิดอะไรขึ้นน่ะ?!!!” ประจวบเหมาะที่ชางมินกลับมาพอดี
“มาอุ้มไปเร็ว!...ชั้นจะไปเอารถออก” รีบสั่งทันทีที่ชางมินเข้ามาถึง
ชางมินรีบช้อนตัวร่างบางตามจุนซูออกไปอย่างเร่งรีบ ท่าทางทรมานแบบนั้นคงจะอาการหนักไม่น้อย
.
.
.
แจจุงถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูเป็นการด่วน และไม่นานแพทย์ผู้ทำการรักษาก็ออกมา
“เป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ?” ชางมินรีบเข้ามาถาม จุนซูจึงเดินตามมาฟังผลด้วย
“ไม่มีอะไรผิดปกติเลยนะครับ...ตอนนี้หมอฉีดยาให้คนไข้พักผ่อนแล้ว ทางที่ดีควรนำคนไข้ไปรักษากับทางโรงพยาบาลเดิมจะดีกว่า”
“หมายความว่ายังไงครับคุณหมอ?” ชางมินฟังแล้วไม่เข้าใจ
“หมอ เห็นรอยแผลเป็นที่หน้าอกข้างซ้ายของผู้ป่วย ซึ่งยังมีร่องรอยหลงเหลือว่าเคยทำการผ่าตัดมาก่อน ซึ่งมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นี่อาจเป็นผลข้างเคียงข้างจากการรักษาก็เป็นได้ ดังนั้นหมอจึงแนะนำให้ทำตามที่หมอบอกจะดีกว่า...ขอตัวก่อนนะครับ” อธิบายจบก็ปลีกตัวออกไปทันที
“นายงงมั้ยจุนซู?...ชั้นไม่ค่อยเข้าใจแฮะ” ชางมินเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เคลียร์
“ชั้นว่าเราโทรบอกให้ญาติเค้ามารับตัวไปดีมั้ย? ดูอาการแย่ๆ นะ” จุนซูเบี่ยงประเด็นโดยการเฉไฉไปเรื่องอื่น
“หรือไม่ก็รอเค้าฟื้น แล้วค่อยว่ากันอีกที” ชางมินไม่ได้ติดใจท่าทีแปลกๆ ของจุนซู ในขณะเดียวกันเตียงของแจจุงก็ถูกเข็นออกมาพอดี
ทั้งสองคนจึงตามมาดูแลในห้องพักฟื้น
.
.
.
“ฮึ่ก!” เสียงแผ่วๆ ดังมาจากในลำคอ ดวงตาคู่สวยยังหลับพริ้มด้วยความทรมาน หยาดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลเอื่อยทางหางตาเป็นทางยาว
“คุณ...” ชางมินเขย่าแขนเรียกเบาๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังนิ่ง ใบหน้าสวยเริ่มสะบัดไปมา ราวกับต้องการหนีจากอะไรบางอย่าง
“คิมแจจุง!...รู้สึกตัวแล้วเหรอ?” จุนซูที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟารีบรุดเข้ามาถาม
“นายรู้จักชื่อเค้าเหรอ?” ชางมินหันมาถามด้วยความสงสัยอย่างยิ่ง จุนซูถึงกับอ้าปากพะงาบๆ
“กะ...ก็...ก็...ก็ในบัตรประชาชนไง ชั้นแอบหยิบกระเป๋าตังค์เค้ามาดู” จุนซูเหลือบเห็นกระเป๋าสตางค์ที่พยาบาลนำมาให้เมื่อครู่
“เสียมารยาท!” ชางมินว่า
“เหอะน่า!” จุนซูขี้เกียจเถียง
“ฟื้นแล้วๆ” เสียงแหบแหลมเปล่งเสียงด้วยความดีใจที่เห็นร่างบางที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นเสียที
ร่างบางลืมตานิ่งไม่พูดไม่จา สักพักเสียงสะอื้นก็ตามติดๆ ชางมินกับจุนซูได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
“คุณแจจุงครับ...เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย?” ชางมินพยายามถาม แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบ นอนน้ำตาไหลอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“นายไปตามหมอสิ...ชางมิน” จุนซูสะกิดให้ชางมินลุกไป
ชางมินเหลือบมองแจจุงสลับจุนซูอยู่สักครู่จึงออกไปตามหมอมาดูอาการ จุนซูรีบนั่งแทนที่ชางมินทันที
.
.
.
“.....คุณโอเครึเปล่า?” จุนซูโบกมือผ่านหน้าแจจุงช้าๆ แต่แววตาสีนิลกลับเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
“ถ้างั้นขอโทษด้วยนะ” ว่าจบก็วางมือทาบลงบนดวงหน้าฝ่าย นิ้วกลางและนิ้วนางจรดลงบนหน้าผากมน
แจจุงหลับตาลงช้าๆ ราวกับคนต้องมนต์สะกด
จุน ซูหลับตาลงบ้าง แต่ต่างกันออกไปร่างเล็กพยายามค้นหาสิ่งที่แจจุงกำลังเผชิญและมองเห็น แต่ภาพที่สะท้อนกลับเข้ามาในดวงตาของจุนซูกลับช่างเบลอและพร่ามัวราวกับอยู่ ท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำ
“เฮ้อ~ นี่จิตชั้นยังใช้ไม่ได้อีกหรือเนี่ย สงสัยต้องให้ยูชอนมาจัดการซะแล้ว” จุนซูบ่นกับตนเองเบาๆ
เค้าไม่มีความสามารถด้านนี้แข็งแกร่งเทียบเท่าใครบางคนที่จากโลกนี้ไปแล้ว รวมถึงยูชอนอีกคนที่เก่งกาจสามารถมากกว่า
“เอา ล่ะ...ลืมตาได้ เมื่อกี๊...ชั้นไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” จุนซูกระซิบเสียงหนักแน่น ก่อนจะดีดนิ้วดังเปาะ ประจวบเหมาะกับที่ชางมินเปิดประตูเข้ามาพร้อมคุณหมอเจ้าของไข้
“ฮึก...ฮือ...ฮื้อ...ฮือ” เสียงสะอื้นมาเป็นระลอกยามได้สติกลับมาอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้นครับ...” คุณหมอสับสนกับอาการของผู้ป่วย
“ไม่ มีอะไรฮะ...แจจุงแค่ฝันร้ายเท่านั้น” ร่างบางรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพยายามแทรกซึมตัวตนของเค้าอยู่ตลอดเวลา และสิ่งๆ นั้นสร้างความปวดร้าวทรมานใจมากล้นซะเหลือเกิน
เวลานี้แจจุ งกลับคิดถึงยุนโฮมาก มากจนอยากจะเจอเดี๋ยวนี้ คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงความอบอุ่นที่ยุนโฮมีให้เสมอมา จู่ๆ แจจุงก็รู้สึกหนาว...
...หนาวสะท้านในหัวใจ...ที่ไม่ใช่ของแจจุง
“แจจุงจะกลับบ้าน...ขอบคุณมากนะฮะที่ช่วย” ว่าแล้วก็ก้มงุด มุดหนีวงแขนของผู้ที่พยายามจะขวาง แต่ร่างบางไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
...ยุนโฮ รอก่อนนะ
แจจุงจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้...
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
แจ จุงวิ่งมาด้วยเท้าเปล่าอย่างไม่สนใจอะไรอีกแล้ว หน้าตาตื่นราวกับกำลังหวาดกลัวและพยายามจะหนีจากอะไรบางอย่าง ในใจเพียงคิดแค่ว่าต้องไปหายุนโฮ...นี่ต่างหากคือหัวใจของแจจุง
แต่สิ่งที่คิดและคาดหวัง ก็ไม่อาจเป็นจริงได้ดั่งที่ตั้งใจเสมอไป...
“อ๊ะ!” เกือบจะถึงถนนด้านหน้าอยู่แล้วอีกเพียงแค่นิดเดียว
ร่าง บางถูกฉุดแขนไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในพุ่มไม้ใหญ่ในเขตของโรงพยาบาล ตาสวยเบิกกว้างด้วยอารามตกใจ แต่แล้วทุกอย่างก็มืดมิดลงอย่างฉับพลัน
มือ ใหญ่ของใครบางคนปิดปากและจมูกของร่างบางจนสนิท เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ แจจุงก็หมดสติไปอย่าง่ายดาย ร่างกายที่ยังคงอ่อนล้าทรุดฮวบจนอีกฝ่ายแทบรับไว้ไม่ทัน
แจจุงถูก อุ้มขึ้นไปโดยมีสายตาของคิมจุนซูจับจ้องอยู่...ร่างเล็กวิ่งตามมาทันเห็นแจ จุงหายเข้าไปในพุ่มไม้ และถูกพาขึ้นรถไปด้วยคนที่เค้ารู้จักดี
“หายไปไหนแล้วจุนซู!” ชางมินวิ่งตามมาสมทบ
“สงสัยคงเป็นญาติล่ะมั้ง เมื่อกี๊เห็นประคองขึ้นรถกลับไปแล้วล่ะ” จุนซูแต่งเรื่องได้น่าฟัง
“นายเห็นเหรอ?”
“อื้ม”
“งั้นเราก็กลับกันเถอะ” ชางมินเชื่อคำพูดของจุนซู และนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ทั้งสองกลับมาที่ร้าน และจุนซูก็ขอตัวกลับโดยอ้างว่าติดธุระด่วน
“นายอยู่ไหนเหรอยูชอน?” ระหว่างขับรถจุนซูก็รีบโทรหายูชอนทันที
ปลายสายบอกสถานที่...จุนซูจึงรีบตามไปสมทบทันที
.
.
.
เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง
ยู ชอนนั่งนิ่งสีหน้าเรียบเฉยมองดูใบหน้าของคนที่ยังหลับไม่รับรู้อะไรด้วยความ สับสน...เค้าแน่ใจว่าได้ทำทุกอย่างตามคำสั่งเสียของใครคนนั้นอย่างดีที่สุด แล้ว
...ไม่น่าพลาด
เสียงความคิดในใจของยูชอนเริ่มขัดแย้ง...เค้าไม่อาจหาเหตุผลมารองรับสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้ ทุกอย่างล้วนไม่ชัดเจน
“ยูชอน” เสียงเสียงหนึ่งเรียกให้เค้าหลุดจากภวังค์แห่งความคิด
“มาไวดีนิ”
“นายรู้ได้ยังไงว่าแจจุงอยู่ที่โรงพยาบาล” จุนซูรีบซักทันที
“หลัง เสร็จงานชั้นก็รีบไปหานายที่ร้าน ทันเห็นว่านายพาใครออกมาพอดี” ยูชอนในตอนนั้นยังอึ้งและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น เค้าไม่มั่นใจในสายตาอันแหลมคมของเค้าเป็นครั้งแรก
“ทีนี้นายคงไม่ว่าชั้นตาฝาดอีกแล้วนะ” จุนซูยืนกอดอกอยู่ข้างๆ
“เมื่อกี๊...ชั้นลองสะกดจิตดู” ยูชอนเปรย
“ชั้นก็ลองแล้ว ทุกอย่างเบลอมาก สงสัยฝีมือชั้นจะยังไม่เข้าขั้น” จุนซูแสดงท่าทางผิดหวังเล็กน้อย
“ใช่...ถ้าตรงนี้ล่ะก็ เบลอมากๆ...เพราะไม่ใช่ความทรงจำของตัวเค้าเอง” ยูชอนชี้ไปที่หน้าผากของแจจุง พลางอธิบาย
“แต่ถ้าเป็นตรงนี้ล่ะก็...ทุกอย่างชัดเจน” ยูชอนกลืนล้ำลายหนืดคออย่างไม่อาจจะอธิบายอะไรได้ มือใหญ่เลยมาแตะที่หน้าอกข้างซ้ายของแจจุง
“นายหมายความว่ายังไง...ชั้นไม่เข้าใจ?”
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วเราจะทำยังไงกันดี?”
“เฮ้อ~ ชั้นจะพาแจจุงไปส่งที่โรงพยาบาลที่เคยรักษาอยู่ประจำ แล้วให้ทางโรงพยาบาลติดต่อญาติของเค้าเองก็แล้วกัน” ยูชอนกล่าว
“แล้วต่อจากนี้ล่ะ...จะทำยังไง?” จุนซูยังมีความกังวลอย่างอื่นอีก
“ยังคิดไม่ออก” ตอบง่ายๆ สั้นๆ คำตอบของยูชอนไม่ได้ช่วยให้จุนซูรู้สึกดีขึ้นเลย
จุนซูไม่ได้อะไรมากไปกว่านั้น เค้าช่วยยูชอนจัดการตามที่ตกลงกันไว้...เมื่อแจจุงถึงโรงพยาบาลไม่นาน ชองยุนโฮก็รีบมาทันที
ยูชอนกับจุนซูแอบมองดูอยู่ห่างๆ จึงได้รู้ว่าพ่อแม่ของแจจุงไปต่างประเทศกันหมด เหลือแต่เพียงยุนโฮที่จำต้องทิ้งงานเพื่อมาดูแลแจจุง
.
.
.
“ดูท่า...จะว่างจัดนะชองยุนโฮ” ยูชอนเอ่ยเรียบๆ เมื่อเห็นร่างสูงกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาพอดี
“หมอนั่นใช่ดอกเตอร์ที่เก่งๆ ที่ทำวิจัยอะไรซักอย่างนั่นใช่มั้ย?” จุนซูเอียงคอถามระหว่างทางที่ทั้งสองกำลังเดินสวนกับยุนโฮออกมา
เพียง เสี้ยววิ ที่ไหล่หนาของยุนโฮและยูชอนเกือบจะชนกันนั้นสายตาคมกริบของทั้งสองก็เผอิญสบ กันพอดี...ยุนโฮชะงักฝีเท้าหันกลับมามอง แต่ยูชอนกลับนิ่งเดินก้าวต่อโดยไม่ยอมตอบคำถามจุนซูแม้แต่น้อย
ยุนโฮ รู้สึกคุ้นหน้าทั้งสองคนที่เดินสวนไปเมื่อครู่ แต่พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออก ด้วยความเป็นห่วงคนรักที่มีมากกว่า ทำให้ร่างสูงละทิ้งความสงสัยและมุ่งหน้าไปยังที่หมาย
.
.
.
‘ชั้นชอบที่นี่’ เสียงหวานใสดังขึ้นเพื่อบอกกล่าวกับคนที่อยู่ข้างกาย
‘หอมดีจัง’ ดอกไม้สีม่วงหอมกรุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ มือบางขาวอมชมพูจับลาเวนเดอร์ใกล้มาดอมดม
‘ชั้นอยากอยู่ที่นี่’ หันมาบอกคนข้างกายอีกครั้ง
‘อย่าลืมชั้นนะ’ ดวงตาหวานหมองเศร้าอยู่ในที
‘สัญญาสิ’ ริมฝีปากแดงเรื่อพร่ำขอ
เปลือกตาบางปรือขึ้นอย่างเชื่องช้า...ภาพที่เห็นชัดเจนจนน่าตกใจ
“แจจุง...ฟื้นแล้วเหรอ?” ยุนโฮที่นั่งกุมมือบางมากว่าชั่วโมงเอ่ยถามด้วยความดีใจ
“.........” คนตัวบางไม่ตอบได้แต่มองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
“คุณอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ” ยุนโฮมองตามสายตาของแจจุง และคิดไปเองว่าคนรักอาจจะอยากรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน
“ยุนโฮ...” แจจุงยิ้มบางอย่างอ่อนล้า...เค้ามองหาคนที่อยู่ในความฝันเมื่อครู่นี้ต่างหาก
ยุนโฮยิ้มตอบพลางลูบศีรษะอย่างฝ่ายอย่างรักใคร่เอ็นดู
และถึงแม้ตอนนี้แจจุงจะสวมกอดอยู่กับยุนโฮ แต่ความรู้สึกนึกคิดกลับสวนทางกันโดยสิ้นเชิง
...พวกคุณ คือใครกัน?
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
TBC
Talk :
CoCoA ขอเปิดจองเรื่องนี้เลยนะคะ...จองไปอัพไป คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอเป็นเล่มนาน
รายละเอียดเลขาฯสาว(ออมเล็ท)ของโคโค่จะเป็นผู้จัดการแต่จะไม่ลงรายละเอียดที่นี่
ต้องการรายละเอียดการจองฟิกติดต่อที่
Sompakdee_5@hotmail.com (ออมเล็ท)
เช้าวันใหม่ที่บรรยากาศไม่น่าภิรมย์เท่าที่ควร แต่ร่างบางงามระหงกลับเดินอมยิ้มอารมณ์ดีจนผู้เป็นมารดาต้องเอ่ยทัก
“อารมณ์ดีเชียวนะวันนี้ มีอะไรพิเศษรึเปล่าจ๊ะ?” คุณนายคิมที่กำลังจัดโต๊ะอาหารรีบทักทันทีที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเดินลงมาจากบันได
“อืม ม...ไม่รู้สิครับ แต่เมื่อคืนแจจุงหลับสนิทสุดๆ เลย” รอมยิ้มพรายยังไม่จางไปจากใบหน้า สองมือเล็กดึงเก้าอี้เพื่อสอดกายบอบบางเข้าไปเติมที่ว่างของเก้าอี้ให้เต็ม
“ดู หน้าตาสดใสขึ้นนะ เห็นแบบนี้แม่ค่อยหายห่วงหน่อย น่าเสียดายที่ยุนโฮไม่ทันได้เห็น” คนเป็นแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วก็ต้องหน้าเหี่ยวลงเมื่อนึกถึงร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนโซฟาห้องรับแขก
“ยังเช้าอยู่เลย เค้าไปทำงานแล้วเหรอครับแม่?” แจจุงแปลกใจที่ยุนโฮไม่อยู่รอ
“ยุ นโฮบอกว่ามีงานด่วน รู้สึกว่าที่แลปมีปัญหารึไงเนี่ยแหละ แม่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ ยังงัวเงียอยู่...เลยจับใจความไม่ค่อยได้ แต่เห็นรีบร้อนออกไปคงจะด่วนมากจริงๆ หน้าตาดูเครียดๆ ลูกก็ลองโทรไปถามดูสิ”
“ครับ” แจจุงรับฟังและรับคำเพียงสั้นๆ ก่อนจะลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้า
ท่าทีที่ไม่ค่อยใส่ใจคนรักแบบนั้นเล่นเอาคุณนายคิมชักท้อใจ
“เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเรา” คุณนายคิมถอนหายใจเฮือกใหญ่ จนลูกชายสุดที่รักต้องละความสนใจจากอาหารเลอรส
“...???” ใบหน้าของแจจุงเต็มไปด้วยคำถาม คุณนายแม่จึงต้องเกริ่นอธิบาย
“ก็แต่ก่อนลูกแม่พูด ‘ครับ’ กับคนในบ้านซะที่ไหนกันล่ะ”
“อ้าว!...” แจจุงประหลาดใจ เค้าเพิ่งจะนึกออกว่าตนเองมักจะลงท้ายหางเสียงว่า ‘ฮะ’ ซะเป็นส่วนใหญ่ต่างหาก
“แล้วก็นะ...แจจุงลูกแม่น่ะ แทนตัวเองว่า ‘ผม’ น้อยมากๆๆๆๆ”
“เอ...นั่นสิฮะ แจจุงเบลอหนักถึงขั้นนี้เลยเหรอเนี่ย” แจจุงทำหน้าเบ้เมื่อพบความผิดปกติอีกอย่างของตนเอง
“ใช่ๆๆๆ ต้องแบบนี้สิ ถึงจะใช่ลูกแม่!” มารดาบังเกิดเกล้ารีบสำทับในประโยคนั้นของลูกชาย
“ไม่เห็นยุนโฮบอกเลย” ทำหน้ายู่ตักข้าวเปล่าเข้าปากบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว
“ยุ นโฮคงไม่กล้าพูดให้ลูกกังวลล่ะมั้งจ๊ะ...แม่น่ะเห็นว่าถ้าลูกไม่เปลี่ยนไป มากกว่านี้ก็กะจะไม่พูดหรอกนะ แต่นี่...” ถอนหายใจอีกหลายเฮือก
“ปกติ แจจุงไม่ขับเร็ว ขับเองแทบนับครั้งได้” แจจุงเพิ่งนึกออกอีกเช่นกันว่านิสัยเดิมของตนนั้นค่อนข้างขี้กลัว และโดยมากจะเป็นยุนโฮที่คอยทำหน้าที่สารถีคอยรับคอยส่งแจจุงมาตลอด
“ถูกต้องที่สุดเลยค่ะคุณลูก...เฮ้อ~”
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
หลังจากมื้อเช้าแจจุงก็ถือโอกาสอาสาขับรถมาส่งมารดาที่สนามบินเพื่อไปช่วยงานคุณพ่อของเค้าที่ญี่ปุ่นอีกหลายวันกว่าจะกลับ
และเพราะกะทันหันไปนิดแทนที่ร่างบางจะให้ยุนโฮมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าตัวกลับปฏิเสธ ความรู้สึกกดดันที่มีอยู่บรรเทาลงในพริบตา
แจจุงขับรถชมวิวมาเรื่อยๆ อีกครั้งตามเส้นทางเดิมของเมื่อวาน และแน่นอนว่าจุดหมายปลายทางคือที่ใด
กรุ๊ง กริ๊ง~
เสียงกระดิ่ง ดังก้องกังวานยามเมื่อมีลูกค้าเปิดประตูเข้ามาในร้าน...ชางมินที่กำลังง่วน อยู่กับการจัดช่อดอกไม้ลงตระกร้าตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมาอยู่หลังร้านจำ ต้องละมือเพื่อออกมาต้อนรับผู้มาเยือน
“สวัสดีครับ Hearts and Flowers ยินดีต้อนรับครับ^^” เสียงใสทักทายมาก่อนที่เจ้าของร่างโปร่งสูงจะปรากฎกายเสียอีก
“อ้าว...คุณนั่นเอง อรุณสวัสดิ์ยามสายครับ” ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครชางมินก็จำได้ดี เจ้าตัวจึงทักทายเสียงใส
แจจุงรีบยิ้มตอบให้กับรอยยิ้มสว่างสดใสดุจดวงอาทิตย์ยามเช้าที่อีกฝ่ายมอบให้ทันที
“เมื่อวานต้องขอบคุณมากจริงๆ นะครับ...ดีใจที่คุณยังจำผมได้”
“เมื่อ วานคุณขอบคุณผมแล้ว...รับดอกไม้อะไรดีครับ จะมอบให้คนพิเศษหรือมอบให้เป็นมารยาทดีครับ” ชางมินรีบทำหน้าที่เจ้าของร้านที่ดีอย่างคล่องแคล่ว
“เอ่อ...” แจจุงที่ไม่ทันได้คิดว่าจะซื้อดอกไม้จึงนิ่งคิด
“กุหลาบ ลิลลี่ คาเนชั่น ลาเวนเดอร์ก็มีนะครับ...” ชางมินช่วยเสนอแต่มวลหมู่ดอกไม้ฮิตฮอท
“เอ๋~ ลาเวนเดอร์? ดอกสีม่วงๆ ใช่มั้ยครับ?” แจจุงไม่แน่ใจ แต่ภาพในความทรงจำที่ไม่น่าจะเป็นของเค้ากลับผุดขึ้นมาดื้อๆ
“ครับ...นี่ไงครับ หอมด้วยนะ ผมยังชอบเลย” ชางมินหยิบก้านหนึ่งออกมาให้ดู
“ใช่เจ้านี่จริงๆ ด้วย...” แจจุงพึมพำกับตนเอง และทันทีที่สูดดมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์...
‘ชั้นชอบที่นี่’
‘หอมดีจัง’
‘ชั้นอยากอยู่ที่นี่’
‘อย่าลืมชั้นนะ’
‘สัญญาสิ’
ภาพคนสองคนท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์
สองคนนั้นใครกัน?
แล้วภาพทุกอย่างตรงหน้าก็เลือนลาง...เรี่ยวแรงมลายหายสิ้น แจจุงล้มลงพร้อมกับดอกลาเวนเดอร์ที่หลุดมือไป
“คุณ! คุณครับคุณ เป็นอะไรไปน่ะ คุณครับ!!!” ชางมินตกใจกับคนตรงหน้าที่จู่ๆ ก็ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น เค้ารีบวิ่งออกมาจากหลังเคาน์เตอร์เพื่อประคองคนที่หมดสติไปแล้วเพื่อเรียก สติอีกครั้ง
“ว๊ายย!! ?!!” ลูกค้าสาวเข้ามาก็พบกับชายหนุ่มเจ้าของพยายามเรียกคนในอ้อมแขนให้ฟื้นคืนสติด้วยความตกใจ
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ มีลูกค้าเป็นลม ไว้คราวหน้าค่อยมาอุดหนุนใหม่นะครับ” ชางมินเร่งตั้งสติบอกกล่าวขอโทษขอโพยลูกค้าสาว ก่อนจะวานให้เธอช่วยพลิกป้ายหน้าเป็น ‘Close’ ให้อีกด้วย เนื่องจากเธอมาอุดหนุนที่ร้านบ่อยจึงพอจะคุ้นหน้ากันมากพอที่จะไหว้วานได้
ชางมินพาแจจุงมานอนพักที่โซฟาหลังร้านก่อนจะเดินมาปิดประตูร้านให้เรียบร้อย
“เฮ้อ~ แพ้ดอกไม้รึไงนะ” ชางมินยืนเท้าสะเอวมองเจ้าของร่างบางอย่างเหนื่อยใจ
ครั้งที่สองแล้วนะ!
อ่าง น้ำใบเล็กกับผ้าขนหนูขาวถูกวางไว้บนโต๊ะเล็กข้างโซฟาไม้สีเบจ หลังจากที่มันทำหน้าที่เช็ดใบหน้าและลำคอให้กับหนุ่มรูปงามที่กำลังหลับตา พริ้มแผ่แพขนตางอน
หมอนใบเล็กถูกนำมาสอดใต้ลำคอ ชางมินพยายามช้อนศีรษะกลมมนเพื่อให้หมอนได้เข้าไปทำหน้าที่ให้คนตัวบางได้หนุน
ชา งมินหันกลับมาสนใจงานที่ยังค้างอยู่ เพราะใกล้จะได้เวลาต้องไปส่งให้ลูกค้าแล้ว เมื่อจัดดอกไม้ใส่ลงตระกร้าเสร็จเรียบร้อย ชางมินช่างใจสักพักก่อนจะออกจากร้านเพื่อไปส่งของ
“คงไม่เป็นไรมั้ง” คิดได้ดังนั้นจึงค่อยๆ ปั่นจักรยานออกไปด้วยความระวัง
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“คุณ อิมโทรมาบอกผมว่ามีของในแลปหายไป?” ยุนโฮเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะของที่สูญหายถ้าถูกนำไปใช้อย่างผิดวิธีจะก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่ มีใครสามารถประเมินได้
“ครับดอกเตอร์ชอง...ทางกระทรวงได้ส่งคนมาตรวจ สอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดอยู่ครับ แต่จนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย” เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเห็นท่าทางของร่างสูงก็ยิ่งเพิ่มความกดดันเท่าทวีคูณ
“คุณอิม เดี๋ยวคุณอยู่ที่นี่ช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ...ได้เรื่องยังไงรีบโทรบอกผมทันทีเลยนะ” หันมาสั่งกับผู้ช่วยสาวของเค้า
“ค่ะดอกเตอร์...แต่ว่า...น้ำยาตัวนั้น...?” ยังไม่ทันได้ถามจบยุนโฮก็ยกมือขึ้นมาขัดเสียก่อน
“มัน ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังเอามาใช้ประโยชน์ตอนนี้ไม่ได้หรอก” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ถ้าหากมีคนรู้วิธีใช้และนำมันเข้าสู่วิถีอโคจรแล้วล่ะก็...
หายนะแน่ๆ!
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
“ยูชอน!” จุนซูทักทันทีก่อนที่ยูชอนจะเดินหายลับไปกับมุมตึกสูง
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายจึงหยุดและหันมามอง
“นั่นอะไรน่ะ?”
“.........” ยูชอนไม่ตอบคำถามของจุนซู ได้แต่ยื่นแคปซูลสีเขียวใสส่งให้ดู
“นายใหญ่สั่งให้เอามาให้เหรอ?”
“........ความลับ” ยูชอนชั่งใจอยู่นานก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบาด้วยใบหน้าตึงเครียด ก่อนจะย่างสามขุมมุ่งหน้าไปยังที่ทำการลับทันที
ปล่อยให้จุนซูที่ว่างงานในวันนี้ได้แต่อ้าปากค้าง
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
เพราะ ว่าวันนี้จุนซูว่าง แต่ยูชอนงานยุ่งจนวิ่งวุ่นทั้งวันทำให้ทั้งสองไม่มีเวลาที่ตรงกัน คนตัวอวบจึงตัดสินใจกลับมาหาชางมินที่ร้านแทน
“เห??...ยังหัววันอยู่เลย ปิดร้านทำไมวะเนี่ย เอ๊ะ! หรือว่า...มีใครรังแกชางมิน!” คิดได้ดังนั้นก็รีบไขกุญแจเพื่อเข้าไปด้านในทันที
เมื่อเข้ามาด้านในก็พบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี จึงเดินมาหาชางมินทางหลังร้าน แต่กลับไม่เจอใครนอกจาก
...คิมแจจุง!
“ชั้นไม่มีทางตาฝาดแน่วันนี้...แล้วนี่ชางมินไปไหนนะ” จุนซูพึมพำกับตนเอง พลางกวาดสายตามองหาร่างสูงโปร่งของใครอีกคนไปด้วย
ร่างเล็กสำรวจบริเวณรอบๆ จึงเห็นว่ามีผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดวางอยู่อย่างเรียบร้อยกับอ่างน้ำใบเล็กที่ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากโซฟา
“คงเช็ดตัวให้ล่ะสินะ...แสดงว่าแจจุงต้องมาเป็นลมที่นี่อีกแน่ๆ” จุนซูคาดเดาสถานการณ์
“อะไร กันนี่...ทำไมทำหน้าทรมานแบบนั้นนะ?” จุนซูสังเกตสีหน้าของแจจุงที่ตอนนี้เริ่มเหยเกขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อพราวขึ้นมาทั่วใบหน้า คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นจนน่าอึดอัด ใบหน้าหวานส่ายไปมาน้อยๆ ราวกับร้อนรน
“เฮือก!!” ทั้งจุนซูและแจจุงต่างผงะออกจากกันทันทีเมื่อแจจุงจู่ๆ ก็สะดุ้งเฮือกลุกพรวดพราดขึ้นมา
“อึก...อ้ะ!” ร่างบางกำหน้าอกข้างซ้ายไว้แน่น ความปวดร้าวทรมานส่งผลให้ร่างกายอันบอบบางต้องล้มตัวลงไปนอนคุดคู้อีกครั้ง
“คุณเป็นอะไรน่ะ! ให้ผมเรียกรถพยายาลให้มั้ย?!” จุนซูรุดเข้ามาดูอาการด้วยความตกใจ แจจุงพยักหน้ากัดริมฝีปากแน่นจนน้ำตาเล็ด
จุนซูรีบโทรเรียกรถพยายาบาลทันที
“ทำใจดีๆ เอาไว้นะคุณ” ท่าทีของแจจุงเล่นเอาจุนซูกดหาเบอร์โทรที่ต้องการไม่ได้
มือข้างนึงข้างเค้าถูกแจจุงบีบรัดไว้แน่นจนเจ็บไปหมด มืออีกข้างกดมือถือมือสั่นแม้จะพยายามสงบสติแค่ไหนก็ตาม
แจ จุงขาดสติรับรู้โดยสิ้นเชิง เค้าเห็นอะไรวุ่นวายมากมายไปหมด เหมือนความทรงจำของใครบางคนกำลังไหลย้อนเข้าสู่สมองของเค้า มันเร็วและมากเกินขีดจำกัดที่จะรับทันจนมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร เรื่องราวเป็นมายังไง
แต่ที่แน่ๆ สิ่งเหล่านี้มันส่งผลร้ายแรงกับหัวใจที่เพิ่งได้รับการเปลี่ยนมา...มันเต้น ถี่จนผิดจังหวะ และปวดจนจุก เสียดในหน้าอก ปวดจนแจจุงไม่อาจสาธยายได้ ไม่...แม้กระทั่งจะเปล่งเสียงเพื่อระบายความทรมาน
“เอาไงดีวะ ไม่มีใครรับสายเลย ไปตายที่ไหนกันหมดวะ!!” จุนซูแทบอยากเขวี้ยงมือถือเรือนงามทิ้งเสียให้ได้ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ แต่เบอร์ฉุกเฉินต่างๆ กลับเกิดขัดข้องขึ้นมาเสียดื้อๆ
“จุนซู!! เกิดอะไรขึ้นน่ะ?!!!” ประจวบเหมาะที่ชางมินกลับมาพอดี
“มาอุ้มไปเร็ว!...ชั้นจะไปเอารถออก” รีบสั่งทันทีที่ชางมินเข้ามาถึง
ชางมินรีบช้อนตัวร่างบางตามจุนซูออกไปอย่างเร่งรีบ ท่าทางทรมานแบบนั้นคงจะอาการหนักไม่น้อย
.
.
.
แจจุงถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูเป็นการด่วน และไม่นานแพทย์ผู้ทำการรักษาก็ออกมา
“เป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ?” ชางมินรีบเข้ามาถาม จุนซูจึงเดินตามมาฟังผลด้วย
“ไม่มีอะไรผิดปกติเลยนะครับ...ตอนนี้หมอฉีดยาให้คนไข้พักผ่อนแล้ว ทางที่ดีควรนำคนไข้ไปรักษากับทางโรงพยาบาลเดิมจะดีกว่า”
“หมายความว่ายังไงครับคุณหมอ?” ชางมินฟังแล้วไม่เข้าใจ
“หมอ เห็นรอยแผลเป็นที่หน้าอกข้างซ้ายของผู้ป่วย ซึ่งยังมีร่องรอยหลงเหลือว่าเคยทำการผ่าตัดมาก่อน ซึ่งมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นี่อาจเป็นผลข้างเคียงข้างจากการรักษาก็เป็นได้ ดังนั้นหมอจึงแนะนำให้ทำตามที่หมอบอกจะดีกว่า...ขอตัวก่อนนะครับ” อธิบายจบก็ปลีกตัวออกไปทันที
“นายงงมั้ยจุนซู?...ชั้นไม่ค่อยเข้าใจแฮะ” ชางมินเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เคลียร์
“ชั้นว่าเราโทรบอกให้ญาติเค้ามารับตัวไปดีมั้ย? ดูอาการแย่ๆ นะ” จุนซูเบี่ยงประเด็นโดยการเฉไฉไปเรื่องอื่น
“หรือไม่ก็รอเค้าฟื้น แล้วค่อยว่ากันอีกที” ชางมินไม่ได้ติดใจท่าทีแปลกๆ ของจุนซู ในขณะเดียวกันเตียงของแจจุงก็ถูกเข็นออกมาพอดี
ทั้งสองคนจึงตามมาดูแลในห้องพักฟื้น
.
.
.
“ฮึ่ก!” เสียงแผ่วๆ ดังมาจากในลำคอ ดวงตาคู่สวยยังหลับพริ้มด้วยความทรมาน หยาดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลเอื่อยทางหางตาเป็นทางยาว
“คุณ...” ชางมินเขย่าแขนเรียกเบาๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังนิ่ง ใบหน้าสวยเริ่มสะบัดไปมา ราวกับต้องการหนีจากอะไรบางอย่าง
“คิมแจจุง!...รู้สึกตัวแล้วเหรอ?” จุนซูที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟารีบรุดเข้ามาถาม
“นายรู้จักชื่อเค้าเหรอ?” ชางมินหันมาถามด้วยความสงสัยอย่างยิ่ง จุนซูถึงกับอ้าปากพะงาบๆ
“กะ...ก็...ก็...ก็ในบัตรประชาชนไง ชั้นแอบหยิบกระเป๋าตังค์เค้ามาดู” จุนซูเหลือบเห็นกระเป๋าสตางค์ที่พยาบาลนำมาให้เมื่อครู่
“เสียมารยาท!” ชางมินว่า
“เหอะน่า!” จุนซูขี้เกียจเถียง
“ฟื้นแล้วๆ” เสียงแหบแหลมเปล่งเสียงด้วยความดีใจที่เห็นร่างบางที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นเสียที
ร่างบางลืมตานิ่งไม่พูดไม่จา สักพักเสียงสะอื้นก็ตามติดๆ ชางมินกับจุนซูได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
“คุณแจจุงครับ...เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย?” ชางมินพยายามถาม แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบ นอนน้ำตาไหลอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“นายไปตามหมอสิ...ชางมิน” จุนซูสะกิดให้ชางมินลุกไป
ชางมินเหลือบมองแจจุงสลับจุนซูอยู่สักครู่จึงออกไปตามหมอมาดูอาการ จุนซูรีบนั่งแทนที่ชางมินทันที
.
.
.
“.....คุณโอเครึเปล่า?” จุนซูโบกมือผ่านหน้าแจจุงช้าๆ แต่แววตาสีนิลกลับเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
“ถ้างั้นขอโทษด้วยนะ” ว่าจบก็วางมือทาบลงบนดวงหน้าฝ่าย นิ้วกลางและนิ้วนางจรดลงบนหน้าผากมน
แจจุงหลับตาลงช้าๆ ราวกับคนต้องมนต์สะกด
จุน ซูหลับตาลงบ้าง แต่ต่างกันออกไปร่างเล็กพยายามค้นหาสิ่งที่แจจุงกำลังเผชิญและมองเห็น แต่ภาพที่สะท้อนกลับเข้ามาในดวงตาของจุนซูกลับช่างเบลอและพร่ามัวราวกับอยู่ ท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำ
“เฮ้อ~ นี่จิตชั้นยังใช้ไม่ได้อีกหรือเนี่ย สงสัยต้องให้ยูชอนมาจัดการซะแล้ว” จุนซูบ่นกับตนเองเบาๆ
เค้าไม่มีความสามารถด้านนี้แข็งแกร่งเทียบเท่าใครบางคนที่จากโลกนี้ไปแล้ว รวมถึงยูชอนอีกคนที่เก่งกาจสามารถมากกว่า
“เอา ล่ะ...ลืมตาได้ เมื่อกี๊...ชั้นไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” จุนซูกระซิบเสียงหนักแน่น ก่อนจะดีดนิ้วดังเปาะ ประจวบเหมาะกับที่ชางมินเปิดประตูเข้ามาพร้อมคุณหมอเจ้าของไข้
“ฮึก...ฮือ...ฮื้อ...ฮือ” เสียงสะอื้นมาเป็นระลอกยามได้สติกลับมาอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้นครับ...” คุณหมอสับสนกับอาการของผู้ป่วย
“ไม่ มีอะไรฮะ...แจจุงแค่ฝันร้ายเท่านั้น” ร่างบางรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพยายามแทรกซึมตัวตนของเค้าอยู่ตลอดเวลา และสิ่งๆ นั้นสร้างความปวดร้าวทรมานใจมากล้นซะเหลือเกิน
เวลานี้แจจุ งกลับคิดถึงยุนโฮมาก มากจนอยากจะเจอเดี๋ยวนี้ คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงความอบอุ่นที่ยุนโฮมีให้เสมอมา จู่ๆ แจจุงก็รู้สึกหนาว...
...หนาวสะท้านในหัวใจ...ที่ไม่ใช่ของแจจุง
“แจจุงจะกลับบ้าน...ขอบคุณมากนะฮะที่ช่วย” ว่าแล้วก็ก้มงุด มุดหนีวงแขนของผู้ที่พยายามจะขวาง แต่ร่างบางไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
...ยุนโฮ รอก่อนนะ
แจจุงจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้...
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
แจ จุงวิ่งมาด้วยเท้าเปล่าอย่างไม่สนใจอะไรอีกแล้ว หน้าตาตื่นราวกับกำลังหวาดกลัวและพยายามจะหนีจากอะไรบางอย่าง ในใจเพียงคิดแค่ว่าต้องไปหายุนโฮ...นี่ต่างหากคือหัวใจของแจจุง
แต่สิ่งที่คิดและคาดหวัง ก็ไม่อาจเป็นจริงได้ดั่งที่ตั้งใจเสมอไป...
“อ๊ะ!” เกือบจะถึงถนนด้านหน้าอยู่แล้วอีกเพียงแค่นิดเดียว
ร่าง บางถูกฉุดแขนไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในพุ่มไม้ใหญ่ในเขตของโรงพยาบาล ตาสวยเบิกกว้างด้วยอารามตกใจ แต่แล้วทุกอย่างก็มืดมิดลงอย่างฉับพลัน
มือ ใหญ่ของใครบางคนปิดปากและจมูกของร่างบางจนสนิท เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ แจจุงก็หมดสติไปอย่าง่ายดาย ร่างกายที่ยังคงอ่อนล้าทรุดฮวบจนอีกฝ่ายแทบรับไว้ไม่ทัน
แจจุงถูก อุ้มขึ้นไปโดยมีสายตาของคิมจุนซูจับจ้องอยู่...ร่างเล็กวิ่งตามมาทันเห็นแจ จุงหายเข้าไปในพุ่มไม้ และถูกพาขึ้นรถไปด้วยคนที่เค้ารู้จักดี
“หายไปไหนแล้วจุนซู!” ชางมินวิ่งตามมาสมทบ
“สงสัยคงเป็นญาติล่ะมั้ง เมื่อกี๊เห็นประคองขึ้นรถกลับไปแล้วล่ะ” จุนซูแต่งเรื่องได้น่าฟัง
“นายเห็นเหรอ?”
“อื้ม”
“งั้นเราก็กลับกันเถอะ” ชางมินเชื่อคำพูดของจุนซู และนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ทั้งสองกลับมาที่ร้าน และจุนซูก็ขอตัวกลับโดยอ้างว่าติดธุระด่วน
“นายอยู่ไหนเหรอยูชอน?” ระหว่างขับรถจุนซูก็รีบโทรหายูชอนทันที
ปลายสายบอกสถานที่...จุนซูจึงรีบตามไปสมทบทันที
.
.
.
เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง
ยู ชอนนั่งนิ่งสีหน้าเรียบเฉยมองดูใบหน้าของคนที่ยังหลับไม่รับรู้อะไรด้วยความ สับสน...เค้าแน่ใจว่าได้ทำทุกอย่างตามคำสั่งเสียของใครคนนั้นอย่างดีที่สุด แล้ว
...ไม่น่าพลาด
เสียงความคิดในใจของยูชอนเริ่มขัดแย้ง...เค้าไม่อาจหาเหตุผลมารองรับสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้ ทุกอย่างล้วนไม่ชัดเจน
“ยูชอน” เสียงเสียงหนึ่งเรียกให้เค้าหลุดจากภวังค์แห่งความคิด
“มาไวดีนิ”
“นายรู้ได้ยังไงว่าแจจุงอยู่ที่โรงพยาบาล” จุนซูรีบซักทันที
“หลัง เสร็จงานชั้นก็รีบไปหานายที่ร้าน ทันเห็นว่านายพาใครออกมาพอดี” ยูชอนในตอนนั้นยังอึ้งและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น เค้าไม่มั่นใจในสายตาอันแหลมคมของเค้าเป็นครั้งแรก
“ทีนี้นายคงไม่ว่าชั้นตาฝาดอีกแล้วนะ” จุนซูยืนกอดอกอยู่ข้างๆ
“เมื่อกี๊...ชั้นลองสะกดจิตดู” ยูชอนเปรย
“ชั้นก็ลองแล้ว ทุกอย่างเบลอมาก สงสัยฝีมือชั้นจะยังไม่เข้าขั้น” จุนซูแสดงท่าทางผิดหวังเล็กน้อย
“ใช่...ถ้าตรงนี้ล่ะก็ เบลอมากๆ...เพราะไม่ใช่ความทรงจำของตัวเค้าเอง” ยูชอนชี้ไปที่หน้าผากของแจจุง พลางอธิบาย
“แต่ถ้าเป็นตรงนี้ล่ะก็...ทุกอย่างชัดเจน” ยูชอนกลืนล้ำลายหนืดคออย่างไม่อาจจะอธิบายอะไรได้ มือใหญ่เลยมาแตะที่หน้าอกข้างซ้ายของแจจุง
“นายหมายความว่ายังไง...ชั้นไม่เข้าใจ?”
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วเราจะทำยังไงกันดี?”
“เฮ้อ~ ชั้นจะพาแจจุงไปส่งที่โรงพยาบาลที่เคยรักษาอยู่ประจำ แล้วให้ทางโรงพยาบาลติดต่อญาติของเค้าเองก็แล้วกัน” ยูชอนกล่าว
“แล้วต่อจากนี้ล่ะ...จะทำยังไง?” จุนซูยังมีความกังวลอย่างอื่นอีก
“ยังคิดไม่ออก” ตอบง่ายๆ สั้นๆ คำตอบของยูชอนไม่ได้ช่วยให้จุนซูรู้สึกดีขึ้นเลย
จุนซูไม่ได้อะไรมากไปกว่านั้น เค้าช่วยยูชอนจัดการตามที่ตกลงกันไว้...เมื่อแจจุงถึงโรงพยาบาลไม่นาน ชองยุนโฮก็รีบมาทันที
ยูชอนกับจุนซูแอบมองดูอยู่ห่างๆ จึงได้รู้ว่าพ่อแม่ของแจจุงไปต่างประเทศกันหมด เหลือแต่เพียงยุนโฮที่จำต้องทิ้งงานเพื่อมาดูแลแจจุง
.
.
.
“ดูท่า...จะว่างจัดนะชองยุนโฮ” ยูชอนเอ่ยเรียบๆ เมื่อเห็นร่างสูงกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาพอดี
“หมอนั่นใช่ดอกเตอร์ที่เก่งๆ ที่ทำวิจัยอะไรซักอย่างนั่นใช่มั้ย?” จุนซูเอียงคอถามระหว่างทางที่ทั้งสองกำลังเดินสวนกับยุนโฮออกมา
เพียง เสี้ยววิ ที่ไหล่หนาของยุนโฮและยูชอนเกือบจะชนกันนั้นสายตาคมกริบของทั้งสองก็เผอิญสบ กันพอดี...ยุนโฮชะงักฝีเท้าหันกลับมามอง แต่ยูชอนกลับนิ่งเดินก้าวต่อโดยไม่ยอมตอบคำถามจุนซูแม้แต่น้อย
ยุนโฮ รู้สึกคุ้นหน้าทั้งสองคนที่เดินสวนไปเมื่อครู่ แต่พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออก ด้วยความเป็นห่วงคนรักที่มีมากกว่า ทำให้ร่างสูงละทิ้งความสงสัยและมุ่งหน้าไปยังที่หมาย
.
.
.
‘ชั้นชอบที่นี่’ เสียงหวานใสดังขึ้นเพื่อบอกกล่าวกับคนที่อยู่ข้างกาย
‘หอมดีจัง’ ดอกไม้สีม่วงหอมกรุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ มือบางขาวอมชมพูจับลาเวนเดอร์ใกล้มาดอมดม
‘ชั้นอยากอยู่ที่นี่’ หันมาบอกคนข้างกายอีกครั้ง
‘อย่าลืมชั้นนะ’ ดวงตาหวานหมองเศร้าอยู่ในที
‘สัญญาสิ’ ริมฝีปากแดงเรื่อพร่ำขอ
เปลือกตาบางปรือขึ้นอย่างเชื่องช้า...ภาพที่เห็นชัดเจนจนน่าตกใจ
“แจจุง...ฟื้นแล้วเหรอ?” ยุนโฮที่นั่งกุมมือบางมากว่าชั่วโมงเอ่ยถามด้วยความดีใจ
“.........” คนตัวบางไม่ตอบได้แต่มองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
“คุณอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ” ยุนโฮมองตามสายตาของแจจุง และคิดไปเองว่าคนรักอาจจะอยากรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน
“ยุนโฮ...” แจจุงยิ้มบางอย่างอ่อนล้า...เค้ามองหาคนที่อยู่ในความฝันเมื่อครู่นี้ต่างหาก
ยุนโฮยิ้มตอบพลางลูบศีรษะอย่างฝ่ายอย่างรักใคร่เอ็นดู
และถึงแม้ตอนนี้แจจุงจะสวมกอดอยู่กับยุนโฮ แต่ความรู้สึกนึกคิดกลับสวนทางกันโดยสิ้นเชิง
...พวกคุณ คือใครกัน?
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
TBC
Talk :
CoCoA ขอเปิดจองเรื่องนี้เลยนะคะ...จองไปอัพไป คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอเป็นเล่มนาน
รายละเอียดเลขาฯสาว(ออมเล็ท)ของโคโค่จะเป็นผู้จัดการแต่จะไม่ลงรายละเอียดที่นี่
ต้องการรายละเอียดการจองฟิกติดต่อที่
Sompakdee_5@hotmail.com (ออมเล็ท)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น