ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] ・♥•Hearts And Flowers ✿•.

    ลำดับตอนที่ #3 : [2] - หัวใจ...ที่ไม่ใช่ของแจจุง

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 54


    Part 2







    เช้าวันใหม่ที่บรรยากาศไม่น่าภิรมย์เท่าที่ควร แต่ร่างบางงามระหงกลับเดินอมยิ้มอารมณ์ดีจนผู้เป็นมารดาต้องเอ่ยทัก

    “อารมณ์ดีเชียวนะวันนี้ มีอะไรพิเศษรึเปล่าจ๊ะ?” คุณนายคิมที่กำลังจัดโต๊ะอาหารรีบทักทันทีที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเดินลงมาจากบันได

    “อืม ม...ไม่รู้สิครับ แต่เมื่อคืนแจจุงหลับสนิทสุดๆ เลย” รอมยิ้มพรายยังไม่จางไปจากใบหน้า สองมือเล็กดึงเก้าอี้เพื่อสอดกายบอบบางเข้าไปเติมที่ว่างของเก้าอี้ให้เต็ม

    “ดู หน้าตาสดใสขึ้นนะ เห็นแบบนี้แม่ค่อยหายห่วงหน่อย น่าเสียดายที่ยุนโฮไม่ทันได้เห็น” คนเป็นแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วก็ต้องหน้าเหี่ยวลงเมื่อนึกถึงร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนโซฟาห้องรับแขก

    “ยังเช้าอยู่เลย เค้าไปทำงานแล้วเหรอครับแม่?” แจจุงแปลกใจที่ยุนโฮไม่อยู่รอ

    “ยุ นโฮบอกว่ามีงานด่วน รู้สึกว่าที่แลปมีปัญหารึไงเนี่ยแหละ แม่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ ยังงัวเงียอยู่...เลยจับใจความไม่ค่อยได้ แต่เห็นรีบร้อนออกไปคงจะด่วนมากจริงๆ หน้าตาดูเครียดๆ ลูกก็ลองโทรไปถามดูสิ”

    “ครับ” แจจุงรับฟังและรับคำเพียงสั้นๆ ก่อนจะลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้า

    ท่าทีที่ไม่ค่อยใส่ใจคนรักแบบนั้นเล่นเอาคุณนายคิมชักท้อใจ

    “เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเรา” คุณนายคิมถอนหายใจเฮือกใหญ่ จนลูกชายสุดที่รักต้องละความสนใจจากอาหารเลอรส

    “...???” ใบหน้าของแจจุงเต็มไปด้วยคำถาม คุณนายแม่จึงต้องเกริ่นอธิบาย

    “ก็แต่ก่อนลูกแม่พูด ‘ครับ’ กับคนในบ้านซะที่ไหนกันล่ะ”

    “อ้าว!...” แจจุงประหลาดใจ เค้าเพิ่งจะนึกออกว่าตนเองมักจะลงท้ายหางเสียงว่า ‘ฮะ’ ซะเป็นส่วนใหญ่ต่างหาก

    “แล้วก็นะ...แจจุงลูกแม่น่ะ แทนตัวเองว่า ‘ผม’ น้อยมากๆๆๆๆ”

    “เอ...นั่นสิฮะ แจจุงเบลอหนักถึงขั้นนี้เลยเหรอเนี่ย” แจจุงทำหน้าเบ้เมื่อพบความผิดปกติอีกอย่างของตนเอง

    “ใช่ๆๆๆ ต้องแบบนี้สิ ถึงจะใช่ลูกแม่!” มารดาบังเกิดเกล้ารีบสำทับในประโยคนั้นของลูกชาย

    “ไม่เห็นยุนโฮบอกเลย” ทำหน้ายู่ตักข้าวเปล่าเข้าปากบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว

    “ยุ นโฮคงไม่กล้าพูดให้ลูกกังวลล่ะมั้งจ๊ะ...แม่น่ะเห็นว่าถ้าลูกไม่เปลี่ยนไป มากกว่านี้ก็กะจะไม่พูดหรอกนะ แต่นี่...” ถอนหายใจอีกหลายเฮือก

    “ปกติ แจจุงไม่ขับเร็ว ขับเองแทบนับครั้งได้” แจจุงเพิ่งนึกออกอีกเช่นกันว่านิสัยเดิมของตนนั้นค่อนข้างขี้กลัว และโดยมากจะเป็นยุนโฮที่คอยทำหน้าที่สารถีคอยรับคอยส่งแจจุงมาตลอด

    “ถูกต้องที่สุดเลยค่ะคุณลูก...เฮ้อ~”


    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    หลังจากมื้อเช้าแจจุงก็ถือโอกาสอาสาขับรถมาส่งมารดาที่สนามบินเพื่อไปช่วยงานคุณพ่อของเค้าที่ญี่ปุ่นอีกหลายวันกว่าจะกลับ

    และเพราะกะทันหันไปนิดแทนที่ร่างบางจะให้ยุนโฮมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าตัวกลับปฏิเสธ ความรู้สึกกดดันที่มีอยู่บรรเทาลงในพริบตา

    แจจุงขับรถชมวิวมาเรื่อยๆ อีกครั้งตามเส้นทางเดิมของเมื่อวาน และแน่นอนว่าจุดหมายปลายทางคือที่ใด

    กรุ๊ง กริ๊ง~

    เสียงกระดิ่ง ดังก้องกังวานยามเมื่อมีลูกค้าเปิดประตูเข้ามาในร้าน...ชางมินที่กำลังง่วน อยู่กับการจัดช่อดอกไม้ลงตระกร้าตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมาอยู่หลังร้านจำ ต้องละมือเพื่อออกมาต้อนรับผู้มาเยือน

    “สวัสดีครับ Hearts and Flowers ยินดีต้อนรับครับ^^” เสียงใสทักทายมาก่อนที่เจ้าของร่างโปร่งสูงจะปรากฎกายเสียอีก

    “อ้าว...คุณนั่นเอง อรุณสวัสดิ์ยามสายครับ” ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครชางมินก็จำได้ดี เจ้าตัวจึงทักทายเสียงใส

    แจจุงรีบยิ้มตอบให้กับรอยยิ้มสว่างสดใสดุจดวงอาทิตย์ยามเช้าที่อีกฝ่ายมอบให้ทันที

    “เมื่อวานต้องขอบคุณมากจริงๆ นะครับ...ดีใจที่คุณยังจำผมได้”

    “เมื่อ วานคุณขอบคุณผมแล้ว...รับดอกไม้อะไรดีครับ จะมอบให้คนพิเศษหรือมอบให้เป็นมารยาทดีครับ” ชางมินรีบทำหน้าที่เจ้าของร้านที่ดีอย่างคล่องแคล่ว

    “เอ่อ...” แจจุงที่ไม่ทันได้คิดว่าจะซื้อดอกไม้จึงนิ่งคิด

    “กุหลาบ ลิลลี่ คาเนชั่น ลาเวนเดอร์ก็มีนะครับ...” ชางมินช่วยเสนอแต่มวลหมู่ดอกไม้ฮิตฮอท

    “เอ๋~ ลาเวนเดอร์? ดอกสีม่วงๆ ใช่มั้ยครับ?” แจจุงไม่แน่ใจ แต่ภาพในความทรงจำที่ไม่น่าจะเป็นของเค้ากลับผุดขึ้นมาดื้อๆ

    “ครับ...นี่ไงครับ หอมด้วยนะ ผมยังชอบเลย” ชางมินหยิบก้านหนึ่งออกมาให้ดู

    “ใช่เจ้านี่จริงๆ ด้วย...” แจจุงพึมพำกับตนเอง และทันทีที่สูดดมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์...





    ‘ชั้นชอบที่นี่’

    ‘หอมดีจัง’

    ‘ชั้นอยากอยู่ที่นี่’

    ‘อย่าลืมชั้นนะ’

    ‘สัญญาสิ’






    ภาพคนสองคนท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์

    สองคนนั้นใครกัน?


    แล้วภาพทุกอย่างตรงหน้าก็เลือนลาง...เรี่ยวแรงมลายหายสิ้น แจจุงล้มลงพร้อมกับดอกลาเวนเดอร์ที่หลุดมือไป





    “คุณ! คุณครับคุณ เป็นอะไรไปน่ะ คุณครับ!!!” ชางมินตกใจกับคนตรงหน้าที่จู่ๆ ก็ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น เค้ารีบวิ่งออกมาจากหลังเคาน์เตอร์เพื่อประคองคนที่หมดสติไปแล้วเพื่อเรียก สติอีกครั้ง

    “ว๊ายย!! ?!!” ลูกค้าสาวเข้ามาก็พบกับชายหนุ่มเจ้าของพยายามเรียกคนในอ้อมแขนให้ฟื้นคืนสติด้วยความตกใจ

    “เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ มีลูกค้าเป็นลม ไว้คราวหน้าค่อยมาอุดหนุนใหม่นะครับ” ชางมินเร่งตั้งสติบอกกล่าวขอโทษขอโพยลูกค้าสาว ก่อนจะวานให้เธอช่วยพลิกป้ายหน้าเป็น ‘Close’ ให้อีกด้วย เนื่องจากเธอมาอุดหนุนที่ร้านบ่อยจึงพอจะคุ้นหน้ากันมากพอที่จะไหว้วานได้

    ชางมินพาแจจุงมานอนพักที่โซฟาหลังร้านก่อนจะเดินมาปิดประตูร้านให้เรียบร้อย

    “เฮ้อ~ แพ้ดอกไม้รึไงนะ” ชางมินยืนเท้าสะเอวมองเจ้าของร่างบางอย่างเหนื่อยใจ

    ครั้งที่สองแล้วนะ!

    อ่าง น้ำใบเล็กกับผ้าขนหนูขาวถูกวางไว้บนโต๊ะเล็กข้างโซฟาไม้สีเบจ หลังจากที่มันทำหน้าที่เช็ดใบหน้าและลำคอให้กับหนุ่มรูปงามที่กำลังหลับตา พริ้มแผ่แพขนตางอน

    หมอนใบเล็กถูกนำมาสอดใต้ลำคอ ชางมินพยายามช้อนศีรษะกลมมนเพื่อให้หมอนได้เข้าไปทำหน้าที่ให้คนตัวบางได้หนุน

    ชา งมินหันกลับมาสนใจงานที่ยังค้างอยู่ เพราะใกล้จะได้เวลาต้องไปส่งให้ลูกค้าแล้ว เมื่อจัดดอกไม้ใส่ลงตระกร้าเสร็จเรียบร้อย ชางมินช่างใจสักพักก่อนจะออกจากร้านเพื่อไปส่งของ

    “คงไม่เป็นไรมั้ง” คิดได้ดังนั้นจึงค่อยๆ ปั่นจักรยานออกไปด้วยความระวัง


    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    “คุณ อิมโทรมาบอกผมว่ามีของในแลปหายไป?” ยุนโฮเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะของที่สูญหายถ้าถูกนำไปใช้อย่างผิดวิธีจะก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่ มีใครสามารถประเมินได้

    “ครับดอกเตอร์ชอง...ทางกระทรวงได้ส่งคนมาตรวจ สอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดอยู่ครับ แต่จนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย” เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเห็นท่าทางของร่างสูงก็ยิ่งเพิ่มความกดดันเท่าทวีคูณ

    “คุณอิม เดี๋ยวคุณอยู่ที่นี่ช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ...ได้เรื่องยังไงรีบโทรบอกผมทันทีเลยนะ” หันมาสั่งกับผู้ช่วยสาวของเค้า

    “ค่ะดอกเตอร์...แต่ว่า...น้ำยาตัวนั้น...?” ยังไม่ทันได้ถามจบยุนโฮก็ยกมือขึ้นมาขัดเสียก่อน

    “มัน ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังเอามาใช้ประโยชน์ตอนนี้ไม่ได้หรอก” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ถ้าหากมีคนรู้วิธีใช้และนำมันเข้าสู่วิถีอโคจรแล้วล่ะก็...

    หายนะแน่ๆ!


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    “ยูชอน!” จุนซูทักทันทีก่อนที่ยูชอนจะเดินหายลับไปกับมุมตึกสูง

    ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายจึงหยุดและหันมามอง

    “นั่นอะไรน่ะ?”

    “.........” ยูชอนไม่ตอบคำถามของจุนซู ได้แต่ยื่นแคปซูลสีเขียวใสส่งให้ดู

    “นายใหญ่สั่งให้เอามาให้เหรอ?”

    “........ความลับ” ยูชอนชั่งใจอยู่นานก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบาด้วยใบหน้าตึงเครียด ก่อนจะย่างสามขุมมุ่งหน้าไปยังที่ทำการลับทันที

    ปล่อยให้จุนซูที่ว่างงานในวันนี้ได้แต่อ้าปากค้าง

    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

    เพราะ ว่าวันนี้จุนซูว่าง แต่ยูชอนงานยุ่งจนวิ่งวุ่นทั้งวันทำให้ทั้งสองไม่มีเวลาที่ตรงกัน คนตัวอวบจึงตัดสินใจกลับมาหาชางมินที่ร้านแทน

    “เห??...ยังหัววันอยู่เลย ปิดร้านทำไมวะเนี่ย เอ๊ะ! หรือว่า...มีใครรังแกชางมิน!” คิดได้ดังนั้นก็รีบไขกุญแจเพื่อเข้าไปด้านในทันที

    เมื่อเข้ามาด้านในก็พบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี จึงเดินมาหาชางมินทางหลังร้าน แต่กลับไม่เจอใครนอกจาก


    ...คิมแจจุง!


    “ชั้นไม่มีทางตาฝาดแน่วันนี้...แล้วนี่ชางมินไปไหนนะ” จุนซูพึมพำกับตนเอง พลางกวาดสายตามองหาร่างสูงโปร่งของใครอีกคนไปด้วย

    ร่างเล็กสำรวจบริเวณรอบๆ จึงเห็นว่ามีผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดวางอยู่อย่างเรียบร้อยกับอ่างน้ำใบเล็กที่ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากโซฟา

    “คงเช็ดตัวให้ล่ะสินะ...แสดงว่าแจจุงต้องมาเป็นลมที่นี่อีกแน่ๆ” จุนซูคาดเดาสถานการณ์

    “อะไร กันนี่...ทำไมทำหน้าทรมานแบบนั้นนะ?” จุนซูสังเกตสีหน้าของแจจุงที่ตอนนี้เริ่มเหยเกขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อพราวขึ้นมาทั่วใบหน้า คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นจนน่าอึดอัด ใบหน้าหวานส่ายไปมาน้อยๆ ราวกับร้อนรน

    “เฮือก!!” ทั้งจุนซูและแจจุงต่างผงะออกจากกันทันทีเมื่อแจจุงจู่ๆ ก็สะดุ้งเฮือกลุกพรวดพราดขึ้นมา

    “อึก...อ้ะ!” ร่างบางกำหน้าอกข้างซ้ายไว้แน่น ความปวดร้าวทรมานส่งผลให้ร่างกายอันบอบบางต้องล้มตัวลงไปนอนคุดคู้อีกครั้ง

    “คุณเป็นอะไรน่ะ! ให้ผมเรียกรถพยายาลให้มั้ย?!” จุนซูรุดเข้ามาดูอาการด้วยความตกใจ แจจุงพยักหน้ากัดริมฝีปากแน่นจนน้ำตาเล็ด

    จุนซูรีบโทรเรียกรถพยายาบาลทันที

    “ทำใจดีๆ เอาไว้นะคุณ” ท่าทีของแจจุงเล่นเอาจุนซูกดหาเบอร์โทรที่ต้องการไม่ได้

    มือข้างนึงข้างเค้าถูกแจจุงบีบรัดไว้แน่นจนเจ็บไปหมด มืออีกข้างกดมือถือมือสั่นแม้จะพยายามสงบสติแค่ไหนก็ตาม

    แจ จุงขาดสติรับรู้โดยสิ้นเชิง เค้าเห็นอะไรวุ่นวายมากมายไปหมด เหมือนความทรงจำของใครบางคนกำลังไหลย้อนเข้าสู่สมองของเค้า มันเร็วและมากเกินขีดจำกัดที่จะรับทันจนมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร เรื่องราวเป็นมายังไง

    แต่ที่แน่ๆ สิ่งเหล่านี้มันส่งผลร้ายแรงกับหัวใจที่เพิ่งได้รับการเปลี่ยนมา...มันเต้น ถี่จนผิดจังหวะ และปวดจนจุก เสียดในหน้าอก ปวดจนแจจุงไม่อาจสาธยายได้ ไม่...แม้กระทั่งจะเปล่งเสียงเพื่อระบายความทรมาน

    “เอาไงดีวะ ไม่มีใครรับสายเลย ไปตายที่ไหนกันหมดวะ!!” จุนซูแทบอยากเขวี้ยงมือถือเรือนงามทิ้งเสียให้ได้ เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ แต่เบอร์ฉุกเฉินต่างๆ กลับเกิดขัดข้องขึ้นมาเสียดื้อๆ

    “จุนซู!! เกิดอะไรขึ้นน่ะ?!!!” ประจวบเหมาะที่ชางมินกลับมาพอดี

    “มาอุ้มไปเร็ว!...ชั้นจะไปเอารถออก” รีบสั่งทันทีที่ชางมินเข้ามาถึง

    ชางมินรีบช้อนตัวร่างบางตามจุนซูออกไปอย่างเร่งรีบ ท่าทางทรมานแบบนั้นคงจะอาการหนักไม่น้อย

    .
    .
    .

    แจจุงถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูเป็นการด่วน และไม่นานแพทย์ผู้ทำการรักษาก็ออกมา

    “เป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ?” ชางมินรีบเข้ามาถาม จุนซูจึงเดินตามมาฟังผลด้วย

    “ไม่มีอะไรผิดปกติเลยนะครับ...ตอนนี้หมอฉีดยาให้คนไข้พักผ่อนแล้ว ทางที่ดีควรนำคนไข้ไปรักษากับทางโรงพยาบาลเดิมจะดีกว่า”

    “หมายความว่ายังไงครับคุณหมอ?” ชางมินฟังแล้วไม่เข้าใจ

    “หมอ เห็นรอยแผลเป็นที่หน้าอกข้างซ้ายของผู้ป่วย ซึ่งยังมีร่องรอยหลงเหลือว่าเคยทำการผ่าตัดมาก่อน ซึ่งมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นี่อาจเป็นผลข้างเคียงข้างจากการรักษาก็เป็นได้ ดังนั้นหมอจึงแนะนำให้ทำตามที่หมอบอกจะดีกว่า...ขอตัวก่อนนะครับ” อธิบายจบก็ปลีกตัวออกไปทันที

    “นายงงมั้ยจุนซู?...ชั้นไม่ค่อยเข้าใจแฮะ” ชางมินเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เคลียร์

    “ชั้นว่าเราโทรบอกให้ญาติเค้ามารับตัวไปดีมั้ย? ดูอาการแย่ๆ นะ” จุนซูเบี่ยงประเด็นโดยการเฉไฉไปเรื่องอื่น

    “หรือไม่ก็รอเค้าฟื้น แล้วค่อยว่ากันอีกที” ชางมินไม่ได้ติดใจท่าทีแปลกๆ ของจุนซู ในขณะเดียวกันเตียงของแจจุงก็ถูกเข็นออกมาพอดี

    ทั้งสองคนจึงตามมาดูแลในห้องพักฟื้น

    .
    .
    .


    “ฮึ่ก!” เสียงแผ่วๆ ดังมาจากในลำคอ ดวงตาคู่สวยยังหลับพริ้มด้วยความทรมาน หยาดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลเอื่อยทางหางตาเป็นทางยาว

    “คุณ...” ชางมินเขย่าแขนเรียกเบาๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังนิ่ง ใบหน้าสวยเริ่มสะบัดไปมา ราวกับต้องการหนีจากอะไรบางอย่าง

    “คิมแจจุง!...รู้สึกตัวแล้วเหรอ?” จุนซูที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟารีบรุดเข้ามาถาม

    “นายรู้จักชื่อเค้าเหรอ?” ชางมินหันมาถามด้วยความสงสัยอย่างยิ่ง จุนซูถึงกับอ้าปากพะงาบๆ

    “กะ...ก็...ก็...ก็ในบัตรประชาชนไง ชั้นแอบหยิบกระเป๋าตังค์เค้ามาดู” จุนซูเหลือบเห็นกระเป๋าสตางค์ที่พยาบาลนำมาให้เมื่อครู่

    “เสียมารยาท!” ชางมินว่า

    “เหอะน่า!” จุนซูขี้เกียจเถียง

    “ฟื้นแล้วๆ” เสียงแหบแหลมเปล่งเสียงด้วยความดีใจที่เห็นร่างบางที่นอนอยู่ลืมตาขึ้นเสียที

    ร่างบางลืมตานิ่งไม่พูดไม่จา สักพักเสียงสะอื้นก็ตามติดๆ ชางมินกับจุนซูได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ

    “คุณแจจุงครับ...เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย?” ชางมินพยายามถาม แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบ นอนน้ำตาไหลอย่างไม่ทุกข์ร้อน

    “นายไปตามหมอสิ...ชางมิน” จุนซูสะกิดให้ชางมินลุกไป

    ชางมินเหลือบมองแจจุงสลับจุนซูอยู่สักครู่จึงออกไปตามหมอมาดูอาการ จุนซูรีบนั่งแทนที่ชางมินทันที


    .
    .
    .


    “.....คุณโอเครึเปล่า?” จุนซูโบกมือผ่านหน้าแจจุงช้าๆ แต่แววตาสีนิลกลับเลื่อนลอยไร้จุดหมาย

    “ถ้างั้นขอโทษด้วยนะ” ว่าจบก็วางมือทาบลงบนดวงหน้าฝ่าย นิ้วกลางและนิ้วนางจรดลงบนหน้าผากมน

    แจจุงหลับตาลงช้าๆ ราวกับคนต้องมนต์สะกด

    จุน ซูหลับตาลงบ้าง แต่ต่างกันออกไปร่างเล็กพยายามค้นหาสิ่งที่แจจุงกำลังเผชิญและมองเห็น แต่ภาพที่สะท้อนกลับเข้ามาในดวงตาของจุนซูกลับช่างเบลอและพร่ามัวราวกับอยู่ ท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำ

    “เฮ้อ~ นี่จิตชั้นยังใช้ไม่ได้อีกหรือเนี่ย สงสัยต้องให้ยูชอนมาจัดการซะแล้ว” จุนซูบ่นกับตนเองเบาๆ

    เค้าไม่มีความสามารถด้านนี้แข็งแกร่งเทียบเท่าใครบางคนที่จากโลกนี้ไปแล้ว รวมถึงยูชอนอีกคนที่เก่งกาจสามารถมากกว่า

    “เอา ล่ะ...ลืมตาได้ เมื่อกี๊...ชั้นไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น” จุนซูกระซิบเสียงหนักแน่น ก่อนจะดีดนิ้วดังเปาะ ประจวบเหมาะกับที่ชางมินเปิดประตูเข้ามาพร้อมคุณหมอเจ้าของไข้

    “ฮึก...ฮือ...ฮื้อ...ฮือ” เสียงสะอื้นมาเป็นระลอกยามได้สติกลับมาอีกครั้ง

    “เกิดอะไรขึ้นครับ...” คุณหมอสับสนกับอาการของผู้ป่วย

    “ไม่ มีอะไรฮะ...แจจุงแค่ฝันร้ายเท่านั้น” ร่างบางรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพยายามแทรกซึมตัวตนของเค้าอยู่ตลอดเวลา และสิ่งๆ นั้นสร้างความปวดร้าวทรมานใจมากล้นซะเหลือเกิน

    เวลานี้แจจุ งกลับคิดถึงยุนโฮมาก มากจนอยากจะเจอเดี๋ยวนี้ คิดถึงอ้อมกอด คิดถึงความอบอุ่นที่ยุนโฮมีให้เสมอมา จู่ๆ แจจุงก็รู้สึกหนาว...



    ...หนาวสะท้านในหัวใจ...ที่ไม่ใช่ของแจจุง



    “แจจุงจะกลับบ้าน...ขอบคุณมากนะฮะที่ช่วย” ว่าแล้วก็ก้มงุด มุดหนีวงแขนของผู้ที่พยายามจะขวาง แต่ร่างบางไม่สนใจอะไรอีกแล้ว




    ...ยุนโฮ รอก่อนนะ
    แจจุงจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้...



    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    แจ จุงวิ่งมาด้วยเท้าเปล่าอย่างไม่สนใจอะไรอีกแล้ว หน้าตาตื่นราวกับกำลังหวาดกลัวและพยายามจะหนีจากอะไรบางอย่าง ในใจเพียงคิดแค่ว่าต้องไปหายุนโฮ...นี่ต่างหากคือหัวใจของแจจุง

    แต่สิ่งที่คิดและคาดหวัง ก็ไม่อาจเป็นจริงได้ดั่งที่ตั้งใจเสมอไป...

    “อ๊ะ!” เกือบจะถึงถนนด้านหน้าอยู่แล้วอีกเพียงแค่นิดเดียว

    ร่าง บางถูกฉุดแขนไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในพุ่มไม้ใหญ่ในเขตของโรงพยาบาล ตาสวยเบิกกว้างด้วยอารามตกใจ แต่แล้วทุกอย่างก็มืดมิดลงอย่างฉับพลัน

    มือ ใหญ่ของใครบางคนปิดปากและจมูกของร่างบางจนสนิท เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ แจจุงก็หมดสติไปอย่าง่ายดาย ร่างกายที่ยังคงอ่อนล้าทรุดฮวบจนอีกฝ่ายแทบรับไว้ไม่ทัน

    แจจุงถูก อุ้มขึ้นไปโดยมีสายตาของคิมจุนซูจับจ้องอยู่...ร่างเล็กวิ่งตามมาทันเห็นแจ จุงหายเข้าไปในพุ่มไม้ และถูกพาขึ้นรถไปด้วยคนที่เค้ารู้จักดี

    “หายไปไหนแล้วจุนซู!” ชางมินวิ่งตามมาสมทบ

    “สงสัยคงเป็นญาติล่ะมั้ง เมื่อกี๊เห็นประคองขึ้นรถกลับไปแล้วล่ะ” จุนซูแต่งเรื่องได้น่าฟัง

    “นายเห็นเหรอ?”

    “อื้ม”

    “งั้นเราก็กลับกันเถอะ” ชางมินเชื่อคำพูดของจุนซู และนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี


    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    ทั้งสองกลับมาที่ร้าน และจุนซูก็ขอตัวกลับโดยอ้างว่าติดธุระด่วน

    “นายอยู่ไหนเหรอยูชอน?” ระหว่างขับรถจุนซูก็รีบโทรหายูชอนทันที

    ปลายสายบอกสถานที่...จุนซูจึงรีบตามไปสมทบทันที

    .
    .
    .


    เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง


    ยู ชอนนั่งนิ่งสีหน้าเรียบเฉยมองดูใบหน้าของคนที่ยังหลับไม่รับรู้อะไรด้วยความ สับสน...เค้าแน่ใจว่าได้ทำทุกอย่างตามคำสั่งเสียของใครคนนั้นอย่างดีที่สุด แล้ว

    ...ไม่น่าพลาด

    เสียงความคิดในใจของยูชอนเริ่มขัดแย้ง...เค้าไม่อาจหาเหตุผลมารองรับสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้ ทุกอย่างล้วนไม่ชัดเจน

    “ยูชอน” เสียงเสียงหนึ่งเรียกให้เค้าหลุดจากภวังค์แห่งความคิด

    “มาไวดีนิ”

    “นายรู้ได้ยังไงว่าแจจุงอยู่ที่โรงพยาบาล” จุนซูรีบซักทันที

    “หลัง เสร็จงานชั้นก็รีบไปหานายที่ร้าน ทันเห็นว่านายพาใครออกมาพอดี” ยูชอนในตอนนั้นยังอึ้งและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น เค้าไม่มั่นใจในสายตาอันแหลมคมของเค้าเป็นครั้งแรก

    “ทีนี้นายคงไม่ว่าชั้นตาฝาดอีกแล้วนะ” จุนซูยืนกอดอกอยู่ข้างๆ

    “เมื่อกี๊...ชั้นลองสะกดจิตดู” ยูชอนเปรย

    “ชั้นก็ลองแล้ว ทุกอย่างเบลอมาก สงสัยฝีมือชั้นจะยังไม่เข้าขั้น” จุนซูแสดงท่าทางผิดหวังเล็กน้อย

    “ใช่...ถ้าตรงนี้ล่ะก็ เบลอมากๆ...เพราะไม่ใช่ความทรงจำของตัวเค้าเอง” ยูชอนชี้ไปที่หน้าผากของแจจุง พลางอธิบาย

    “แต่ถ้าเป็นตรงนี้ล่ะก็...ทุกอย่างชัดเจน” ยูชอนกลืนล้ำลายหนืดคออย่างไม่อาจจะอธิบายอะไรได้ มือใหญ่เลยมาแตะที่หน้าอกข้างซ้ายของแจจุง

    “นายหมายความว่ายังไง...ชั้นไม่เข้าใจ?”

    “ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”

    “แล้วเราจะทำยังไงกันดี?”

    “เฮ้อ~ ชั้นจะพาแจจุงไปส่งที่โรงพยาบาลที่เคยรักษาอยู่ประจำ แล้วให้ทางโรงพยาบาลติดต่อญาติของเค้าเองก็แล้วกัน” ยูชอนกล่าว

    “แล้วต่อจากนี้ล่ะ...จะทำยังไง?” จุนซูยังมีความกังวลอย่างอื่นอีก

    “ยังคิดไม่ออก” ตอบง่ายๆ สั้นๆ คำตอบของยูชอนไม่ได้ช่วยให้จุนซูรู้สึกดีขึ้นเลย

    จุนซูไม่ได้อะไรมากไปกว่านั้น เค้าช่วยยูชอนจัดการตามที่ตกลงกันไว้...เมื่อแจจุงถึงโรงพยาบาลไม่นาน ชองยุนโฮก็รีบมาทันที

    ยูชอนกับจุนซูแอบมองดูอยู่ห่างๆ จึงได้รู้ว่าพ่อแม่ของแจจุงไปต่างประเทศกันหมด เหลือแต่เพียงยุนโฮที่จำต้องทิ้งงานเพื่อมาดูแลแจจุง

    .
    .
    .

    “ดูท่า...จะว่างจัดนะชองยุนโฮ” ยูชอนเอ่ยเรียบๆ เมื่อเห็นร่างสูงกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาพอดี

    “หมอนั่นใช่ดอกเตอร์ที่เก่งๆ ที่ทำวิจัยอะไรซักอย่างนั่นใช่มั้ย?” จุนซูเอียงคอถามระหว่างทางที่ทั้งสองกำลังเดินสวนกับยุนโฮออกมา

    เพียง เสี้ยววิ ที่ไหล่หนาของยุนโฮและยูชอนเกือบจะชนกันนั้นสายตาคมกริบของทั้งสองก็เผอิญสบ กันพอดี...ยุนโฮชะงักฝีเท้าหันกลับมามอง แต่ยูชอนกลับนิ่งเดินก้าวต่อโดยไม่ยอมตอบคำถามจุนซูแม้แต่น้อย

    ยุนโฮ รู้สึกคุ้นหน้าทั้งสองคนที่เดินสวนไปเมื่อครู่ แต่พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออก ด้วยความเป็นห่วงคนรักที่มีมากกว่า ทำให้ร่างสูงละทิ้งความสงสัยและมุ่งหน้าไปยังที่หมาย

    .
    .
    .





    ‘ชั้นชอบที่นี่’ เสียงหวานใสดังขึ้นเพื่อบอกกล่าวกับคนที่อยู่ข้างกาย

    ‘หอมดีจัง’ ดอกไม้สีม่วงหอมกรุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ มือบางขาวอมชมพูจับลาเวนเดอร์ใกล้มาดอมดม

    ‘ชั้นอยากอยู่ที่นี่’ หันมาบอกคนข้างกายอีกครั้ง

    ‘อย่าลืมชั้นนะ’ ดวงตาหวานหมองเศร้าอยู่ในที

    ‘สัญญาสิ’ ริมฝีปากแดงเรื่อพร่ำขอ





    เปลือกตาบางปรือขึ้นอย่างเชื่องช้า...ภาพที่เห็นชัดเจนจนน่าตกใจ

    “แจจุง...ฟื้นแล้วเหรอ?” ยุนโฮที่นั่งกุมมือบางมากว่าชั่วโมงเอ่ยถามด้วยความดีใจ

    “.........” คนตัวบางไม่ตอบได้แต่มองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง

    “คุณอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ” ยุนโฮมองตามสายตาของแจจุง และคิดไปเองว่าคนรักอาจจะอยากรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน

    “ยุนโฮ...” แจจุงยิ้มบางอย่างอ่อนล้า...เค้ามองหาคนที่อยู่ในความฝันเมื่อครู่นี้ต่างหาก

    ยุนโฮยิ้มตอบพลางลูบศีรษะอย่างฝ่ายอย่างรักใคร่เอ็นดู

    และถึงแม้ตอนนี้แจจุงจะสวมกอดอยู่กับยุนโฮ แต่ความรู้สึกนึกคิดกลับสวนทางกันโดยสิ้นเชิง



    ...พวกคุณ คือใครกัน?




    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::






    TBC









    Talk :


    CoCoA ขอเปิดจองเรื่องนี้เลยนะคะ...จองไปอัพไป คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอเป็นเล่มนาน

    รายละเอียดเลขาฯสาว(ออมเล็ท)ของโคโค่จะเป็นผู้จัดการแต่จะไม่ลงรายละเอียดที่นี่



    ต้องการรายละเอียดการจองฟิกติดต่อที่



    Sompakdee_5@hotmail.com  (ออมเล็ท)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×