คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 วันแรกที่เราพบกัน
*******************************************************
By ฮารุ
เช้าวันนี้ก็เป็นเช้าที่สงบสุขดี พวกที่ชอบตื้อฮานะซังเรื่องซื้อที่ก็ไม่มาเช่นกัน วันนี้ฉันจึงนอนเล่นในสวนดอกไม้(ในรูปภาพ) ได้อย่างสบายใจ และมันจะดีกว่านี้
ถ้า
.
“ฮารุจังงงงง มาเล่นกัน \^o^/ ” (== หน้าฉัน) ใช่ถ้าไม่มีมารความสุขอย่างอี้ตาบ้านี้
“ฮาฮิ ไม่เอาละค่ะ ขี้เกียด มุคุจังจะเล่นอะไรก็ไปเล่นเถอะค่ะ ชิว ชิว” ฉันโบกมือขอผ่าน ก็มุคุจังเล่นอะไรปกติเหมือนชาวบ้านกับเขาที่ไหนละค่ะ ขืนหลวมตัวไปมีหวังได้มีเรื่องให้ปวดหัวกลับมา ล้านเปอร์เซ็น ฮารุฟันธง!! (เฮ้ย!! ฮารุหรือหมอลักละนั้น//ไรเตอร์ ==
อย่านอกเรื่องสิค่ะ ^-^//ฮารุ T-T โดนดุอะ//ไรเตอร์)
“ฮารุอะ ไล่ซะผมเป็นแมวเลย อีกอย่างนอนมากๆระวังจะกลายเป็นวิญญาณลุกหมูน้อยนะคับ ลอยไม่ได้ต้องกลิ้งเอาแทน ^-^ ” ได้ช่องก็ใส่เป็นชุดเลยนะ == แต่ฉันก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจเขา
“นาคับ ฮารุจังที่น่ารัก ของผม ” *o* ทำตาอ้อนสุดชีวิตเลยนะคะ (== หน้าฉัน)
“รู้ตัวค่ะว่าน่ารัก แต่ฮารุ ไม่ใช่ของคุณ นะคะ คุณ มุ คุ รั่ว ;b” พอฉันพูดจบ (หน้ามุคุจัง -A-” ) เขาก็เงียบลงไปทันที คงยอมแพ้แล้วมั่ง ถึงฉันจะรู้สึกผิดนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร หันไปชื่นชมดอกไม้หลากสี(ในรูปภาพ)ต่อ สักพักฉันก็รู้สึกถึงไอทะมึนของอะไรบางอย่างยืนค้ำหัวฉันอยู่
“เธอกล้านักนะยัยบ๋อง เดียวพ่อก็บึ้มซะนิ” แค่ได้ยินเท่านั้นล่ะ ร่างกายมันก็กระเด้งลุกขึ้นมาทันที ฉันหันไปก้มหัวขอโทษขอโพยใหญ่
“ฮาฮิ !! ขอโทษค่ะคุณฮายะ ฮารุนี้แย่จริงๆขอโทษนะคะขอ
” แต่ทันทีที่ฉันเห็นหน้าอีกฝ่าย
“ฟุ คุ คุ อุ๋บ
“ -v-* ” ฉันยิ่มเย็นเดินเดินตรงไปหาเขา จากนั้นก็
“ปาป!!” เสียงคนโดนพระบาทาเตะเต็มแรง “>O< อูย~” มุคุจังร้องครวน
“เตะผมทำไม -A-” หมอนี้โวยลั่น
“ฮาฮิ ก็มุคุจังมาแกล้งฮารุก่อนนิค่ะ เอาคืน ค่ะ” ฉันสวนกลับเสร็จ กำลังจะไปนั่งเล่นในส่วนดอกไม้(ในรูปภาพ)ต่อ แต่แล้ว
“รักดอก จึงยอกเล่น จุ๋ป!!” ไม่ทันได้ตั้งตัวมุคุจังก็ขโมยหอมแก้มฉันซะแล้ว >///<
“ฮาฮิ >///< ตาบ้า!!” ฉันวิ่งไล่เตะหมอนี้ (^o^ หน้ามุคุจัง)
By มุคุโร่
หลังจากที่เล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนาน (นายสนุกอยู่คนเดียวอะดิ//ไรเตอร์) จนเหนื่อย เราสองคนจึงมานอนแผ่สามสลึง รับลมกันกลางสวนดอกไม้(ในรูปภาพ) พลางนึกถึงวันแรกที่เราทั้งสามคน มีผม ฮานะ และฮารุจัง ได้มาเจอกัน
//ย้อนไปเมื่อ 1 ปีก่อน//
“อึก แง แง แง” เสียงของเด็กสาวร้องไหสะอื้น
“ที่นี้ที่ไหน ทำไมมืดจัง กลัว ใครก็ได้ช่วยที” เธอไม่รู้ว่าที่นี้ที่ไหนหรือมาได้อย่างไร ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ จำได้เพียงชื่อของตัวเอง เธอทั้งหวาดกลัวและสับสน ราวกับถูกทอดไว้เพียงลำพังอยู่กับความมืดมิดที่ทอดยาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันน่ากลัว
“โอ๋ โอ๋ หยุดร้องไหเถอะนะคนดี” เด็กสาวหันไปมองตามต้นเสียงพบกับหญิงสาวผู้มีใบหน้าอันแสนคุ่นเคย มือเรียวของหญิงสาวลูบหัวเธอ ปลอบขวัญเธออย่างอ่อนโยน เด็กสาวรู้สึกได้ถึงไออุ่นที่แม้จะบางเบาเต็มทีแต่นั้นก็พอแล้วสำหรับทำให้
เด็กสาวรู้สึกปลอดภัยและหายหวาดกลัว
“ขอบคุณค่ะ เออ คุณเป็นใครหรอค่ะ” เด็กสาวถามอย่างเขินอาย แม้เธอจะรู้สึกคุ่นเคยกับหญิงสาวผู้นี้มากก็ตาม แต่เธอก็นึกไม่ออกจริงๆว่าใคร แวบนึ่งเหมือนเห็นแววตาของหญิงสาวดูเศร้าและเจ็บปวดแต่เธอก็ปรับเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
“ฮารุจังอาจจำฉันไม่ได้แต่ฉันรู้จักหนูดีเลยละ ฉันชื่อเคียวโกะจ้ะ มากับฉันสิ ฉันจะพาไปส่งในที่ๆฮารุจังควรอยู่ในตอนนี้” แม้คำพูดของหญิงสาวจะดูมีความนัย แต่เด็กสาวก็ไม่ได้ติดใจอะไรเธอตามอีกฝ่ายไปอย่างว่าง่ายราวกับเป็นเรื่องปกติซึ่งเจ้าตัวเองยังแปลกใจ
เมื่อมาถึงหน้ารัวบ้านหลังน้อยหลังหนึ่ง เพราะอยู่ที่ชานเมืองจึงมีบรรยากาศดีมีดวงดารานับสิบแข่งประชันแสงกันงามตา ที่นี้ดูเงียบสงบมาก
“พามาแล้ว?” หญิงสาวนางหนึ่งที่เดินมาเปิดประตูให้ทั้งสอง ถามขึ้น
“เข้ามาสิ” เมื่อประตูเปิดออกเด็กสาวถึงกับอึ้งไปอึดใจเลยทีเดียว หญิงสาวอมยิ้มขำๆกับอาการของเด็กสาวตัวน้อยข้างกายเธอ ส่วนอีกฝ่ายที่มาเปิดประตูให้ก็ไม่ได้สนใจอาการขอเด็กสาว เธอเพียงเดินนำเข้าบ้านไป
“เออ ดวงตาของเขา
?” เด็กสาวกระซิบถามเบาๆ เธอหันไปมองเคียวโกะนิดนึ่ง ก่อนจะหันกลับอย่างเขินๆในคำถามของตน
“สีส้มใช่ไหมจ้ะ^-^” เคียวโกะเอ๋ยตอบ
“แปลก แต่ก็สวยมากๆเลยนะค่ะ” ฮารุจัง ^o^
“เพราะสีตาที่พิเศษกว่าใครๆไงล่ะจ๋ะ เขาจึงมองเห็นพวกเรา” เคียวโกะกล่าวต่อ
“@-@ ??” หน้าของฮารุจัง
“คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นกายละเอียดของวิญญาณอย่างพวกเราได้ไงจ๋ะ ^-^” เคียวโกะอธิบายต่อ
“o?o” หน้าของฮารุจัง เด็กสาวยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอยู่ดี
“^-^? หรือว่าหนูฮารุจังยังไม่รู้ตัวรึจ๋ะ ว่าตัวเองนะเป็น วิญญาณ แล้ว” เมื่อเคียวโกะกล่าวจบ ฮารุจังก็รีบสำรวจร่ายกายของตนเองทันที
“เอ!?” เด็กสาวร้องลั่น ร่ายกายของเธอนั้นโปรงใสดุจแก้ว เธอรองเอามือพักกำแพงแต่มันก็ทะลุผ่านกำแพงนั้นไปได้อย่างง่ายดาย
“ฮาฮิ ฮารุ ตายแล้ว หรอค่ะ” เด็กสาวหันไปถามอีกฝ่ายอย่างอึ้งๆ
(- -) (_ _) (- -) (_ _) (- -) หญิงสาวพยักหน้ารับ เมื่อเธอหันกลับไปมองฝ่ายที่ถาม ก็พบว่าฮารุจังแข็งเป็นหินไปซะแล้ว ^-^’’ หน้าของหญิงสาว
“แต่ตายแบบ ชั่วคราว เท่านั้นนะ” เสียงของเคียวโกะเรียกสติที่แตกกระเจิงของฮารุกลับมาได้
“@o@? ฮาฮิ นี้มันเรื่องอะไรกันค่ะเนี้ย ฮารุงงไปหมดแล้ว” เด็กสาวเอ๋ย
“ฮารุจังนะแค่ วิญญาณออกจากร่างชั่วคราว เมื่อถึงเวลาหรือเกิดเหตุการณ์บางอย่างตามเงื่อนไขซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร วิญญาณก็จะกลับเข้าร่ายเอง” หญิงสาวอธิบาย แม้จะรู้สึกว่าซับซ้อนมากแต่น่าแปลกที่เด็กสาวกลับเข้าใจ
“ฮาฮิ แล้วคุณละค่ะ” เด็กสาวถามอีกฝ่าย เธอแอบภาวนาในใจขอให้อีกฝ่ายก็เป็นเช่นเดียวกับเธอ
“กระดูซีโครงหักทั้งตัวส่วนเครื่องใน
พังเละไม่เหลือสภาพเดิน ถึงอยากกลับก็กลับไม่ได้หรอจ๋ะ^-^ เพราะร่ายกายของฉันมัน
พังแล้ว” หญิงสาวเงียบไปครู่นึ่ง
“ฉัน ตาย แล้ว ^-^” แม้หญิงสาวจะยิ้มให้แต่ก็ไม่อาจจะซ้อนแววตาอันเศร้าหมองของตนเองได้ เด็กสาวรู้สึกสงสารอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างจับใจ
“ฮาฮิ ไม่ต้องเศร้าไปหรอนะคะ จนกว่าคุณเคียวโกะจะไปสู่สุขคติฮารุจะอยู่ข้างๆคุณเองค่ะ >o< ” เด็กสาวกอดอีกฝ่ายแน่น เคียวโกะลูบเธออย่างเอ็นดู แปลกดีที่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของเด็กสาวข้างกายเธอคนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกโล่งใจอย่างน่าประหลาด บางที
ลึกๆแล้วเธออาจเพียงต้องการใครสักคน เพียงคนคนหนึ่งที่เข้าใจกันคอยห่วงใยกัน และอยู่ข้างๆกันในลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
“เพียงแค่ใครคนหนึ่งสินะ” หญิงสาวกล่าวกับตัวเองอย่างแผ่วเบา
“ขอบใจจ๋ะ ฮารุจัง” หญิงสาวกระซิบบอกอีกฝ่าย เธอมองดูแสงจันนวลในค่ำคืนนี้ แล้วหยาดน้ำใส่ก็ไหลริมลงมาจากตาคู่สวยคู่นั้นของเธอ
ความคิดเห็น