คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [แถมพิเศษสำหรับ FC ฮิบาริ] Luminoso วันของฮิบาริ (ภาค 1) [100%]
Luminoso วันของฮิบาริ (ภาค 1)
รุ่งอรุณวันที่อากาศ(ค่อนข้าง)จะปลอดโปร่ง
ชายหนุ่มผู้มีฉายาว่าโหดที่สุดในนามิโมริ รวมไปถึงเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในวองโกเล่ กำลังเดินออกไปรอบๆคฤหาสน์ของเขา การอยู่คนเดียวมันทำให้เขาได้รับรู้ถึงอิสระดีจริงๆ การปล่อยตัวปล่อยใจคิดอะไร ท่ามกลางอากาศอันแสนสบาย...
สิ่งหนึ่งที่เขาขาดไม่ได้เลย คือ การต่อสู้!!
การต่อสู้ ณ เวลานี้เปรียบได้เป็นชีวิตจิตใจของเขาไปเสียแล้ว...
ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ไม่มีทางละทิ้งการต่อสู้เด็ดขาด!!
เหตุผลที่ทำให้เขารักการต่อสู้น่ะ
ก็เพียงเพราะ อยากให้ผู้หญิงคนหนึ่งเห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาบ้าง
แต่นั่นก็กลายเป็นเพียงอดีตไปเสียแล้ว
เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้ชอบเขาเหมือนกัน
ผู้หญิงคนนั้น เธอชื่อว่า...
“คุณเคียวครับ!! อยู่นี่เอง โทรศัพท์จากวองโกเล่ครับ” คุซาคาเบะร้องเรียกชายที่กำลังเหม่อลอยได้ที่ให้หลุดจากภวังค์
‘ไอ้พวกสัตว์กินพืชอีกแล้ว มันน่า...’
“คุณซาวาดะบอกว่า ถ้าไม่รีบมารับ เขาจะจับ...เอ่อ...”
(จับเจ้าฮิเบิร์ดนั่นไปย่างซะ!! )
ฮิบาริ เคียวยะ รู้สึกในทันใดว่าอากาศวันนี้ช่างหม่นหมองยิ่งนัก
(นี่เมื่อไหร่จะมารับโทรศัพท์ฟระ)
เสียงปลายสายตะโกนออกมาหวังให้คนที่ต้องการคุยได้ยิน เล่นเอาคนถือโทรศัพท์ทำหน้าไม่ถูก ต่างจากคนที่รอรับโทรศัพท์ ด้วยรู้อยู่แล้วว่าจริงๆแล้ว นายของตนมีสันดานนิสัยอย่างไร
“มีอะไร”
(เรื่องที่ฉันไปประชุมนั่นแหละ!!)
“ว่ามา”
(ขี้เกียจคุย นายนั่นแหละมาหาฉัน)
“กล้าดียังไงมา...”
(ฉัน ขี้ เกียจ) ประโยคเพียงประโยคเดียว ที่ทำให้เขาอยากฆ่าตัวตายให้มันรู้แล้วรู้รอด!!
‘อิจฉาเจ้ามุคุโร่มันว้อยยยยยยยยยยยยยยยย... เมื่อไหร่ตรูจะสุขสบายอย่างมันบ้างฟระ ข้าวก็มีคนเอามาให้ อากาศก็มีคนเอามาให้หายใจ น้ำก็ได้ดื่ม อะไรๆก็ไม่ต้องทำ ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยย... บ้าที่สุด’
ความคิดบางอย่างหลุดลอยออกมา ซึ่งมันคงจะทำให้ใครหลายๆคนอึ้งไปตามๆกัน หากรู้ว่านี่เป็นความคิดของใคร
“คุซะ”
“คะ...ครับ” ผู้ที่ตอบรับเกิดอาการเสียวสันหลังขึ้นมากะทันหัน เวลาคนๆนี้รับโทรศัพท์จากวองโกเล่ทีไรเป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า!!
“ไปเอาเป้ารูปสึนะมาซิ!!”
“รุ่นที่ 10 ครับ ฮิบาริมาแล้วครับ” ชายหนุ่มที่เป็นที่ติดตาได้ดี เมื่อบทที่แล้ว จำได้ไหมคะ ว่าคนๆนี้คือใคร ถ้าจำไม่ได้ เราจะบอกใบ้ให้นะคะ
คำใบ้ที่ 1 เขาทำให้ฮารุปั่นป่วนในจิตใจ
คนๆนี้ นิสัยไม่ดี
คนๆนี้ ใจร้าย
คนๆนี้ เธอว่าเขาปากเสีย
แต่เจ้านี่ก็ยังเป็นคน!!
คำใบ้ที่ 2 เขาเป็นคนที่ซวยที่สุด นับตั้งแต่เปิดเรื่องมา
คำใบ้ที่ 3 เขาทานแกงพิษเข้าไป ที่ทำให้เขาต้องเกลียดแกงนี้ไปตลอดชีวิต
ถ้านึกไม่ออกว่าใคร คุณก็ไม่ต้องนึกแล้วล่ะ เพราะมันใบ้ไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วล่ะ
กลับสู่สภาวะปกติ
“เฮ้อ... โกคุเทระ ไปเรียกเจ้าสัตว์กินเนื้อนั่นมาหน่อยดิ๊” คนพูดพูดอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมทั้งจดจ้องสายตาอยู่กับหนังสือ ‘100 กลเม็ดพิชิตใจสาวหวาน’
อีกฝ่ายที่กำลังเดินเข้ามาพอดี ได้แต่ทำหน้าอึ้ง ‘นี่มันคำพูดตรูที่เอามาดัดแปลงนี่หว่า’
บรรยากาศทั้งห้องดูอึมครึมจนน่าตกใจ!!
เงียบ...
และสายตาที่บ่งบอกถึงความอาฆาตแค้นมานับ 100 ปี
‘รุ่นที่สิบคร้าบ... ช่วยพูดเรื่องนั้นให้มันจบๆไปซักที... ผมอยากกลับบ้านT.T’
“เรียกฉันมาทำไม เจ้า...” ในที่สุด ‘สัตว์กินเนื้อ’ ที่สึนะว่าก็ทนไม่ไหว เอ่ยถามขึ้นมาก่อน
“สัตว์กิน...” วองโกเล่รุ่นที่ 10 เอ่ยตัดประโยคอย่างสวยงาม(?) ด้วยการกวน___
“...” อีกฝ่ายไม่เอ่ยอะไรออกมา เหตุจากความหมั่นไส้สุดขีด
“อ้าว... ไม่ถามหน่อยเหรอครับ ว่าเจ้าหนูนั่นไปไหน อะไรทำนองเนี้ย คุณมาถึงอย่างนี้ผมเซ็งแย่อ่ะ” คนตรงหน้าพยายามทำหน้าตาบูดบึ้งให้น่ารักที่สุด ซึ่ง ถ้าเป็นสมัยก่อนละก็ คงจะมีคนเคลิ้มตามพี่แกไปแล้ว แต่เพราะเหตุการณ์บางอย่างทำให้...
“อย่าทำหน้าตาแบบนั้น มันอุบาทว์”
นี่เป็นหนึ่งในคำที่โกคุเทระอยากพูดออกมามากที่สุด... หากแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ จากเหตุผลเดียว ‘เขาคือรุ่นที่ 10’
ทุกสิ่งทุกอย่างดูเงียบไปจน... โกคุเทระเผลอจินตนาการว่านี่คือการโต้เถียงในสภา ถ้าพลาดไป อาจตายได้ทันที(?) และจินตนาการของเขาก็ไม่มีที่สิ้นสุด จนนึกว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ในจินตนาการนั้นจริงๆ จนคนที่อยู่แถวนั้นมองมาที่มือขวาด้วยสีหน้าแปลกๆ
‘เป็นบ้าอะไรของมัน’
กลับเข้าสถานการณ์ปกติ
“อย่าทำหน้าตาแบบนั้น มันอุบาทว์” จากประโยคในประโยคนี้ทำให้คนที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ฉุนกึ้ก!!
“ไอ ตัว ผม ดำ” คำๆหนึ่งที่ไม่น่าหลุดออกมาจากปากคนๆนี้ได้ กลับหลุดออกมาหน้าตาเฉย เล่นเอาคนที่อึ้งแล้วอึ้งอีกอย่างโกคุเทระได้แต่อ้าปากค้างอย่างไม่สนใจโลกอีกต่อไป
‘ท่านรีบอร์น... ท่านทำอะไรรุ่นที่สิบคร้าบบบบบบบบบบ...’
“นั่นเป็นคำด่าของเจ้าสัตว์กินพืชหรือไง อนาถสิ้นดี” อีกฝ่ายตอบรับแบบไม่สนใจต่ออนาคตที่จะตามมาเลย
“ซือคุง!!” เสียงใสๆของใครบางคนดังแว่วมา ซึ่งสามารถช่วยชีวิตคนบางคนได้เกือบทั้งชีวิต(?)ได้
“อะ...อ้าว...เคียวโกะจัง มาทำอะไรที่นี่เหรอ?” ชายหนุ่มที่มีอำนาจมากที่สุดในวองโกเล่ในขณะนี้ ยืนค้างเติ่งอยู่หน้าผู้พิทักษ์เมฆาของตนเอง ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม พร้อมทั้งทำท่าลูบปกเสื้อของผู้เป็นลูกน้องอย่างเนียนๆ
“แล้วซือคุงทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ” หญิงสาวเอ่ยถาม เพราะเห็นว่า ‘ซือคุง’ ของเธอนั้น ยืนทำท่าแปลกๆกับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกน้องอยู่
“อ๋อ!! คือฮิบาริแต่งตัวไม่เรียบร้อยน่ะ มันผิดกฎระเบียบ”
‘หน้าอย่างไอ้นี่ มันเคยแต่งตัวผิดกฎระเบียบกับเขาซะเมื่อไหร่ แหลเห็นๆนะครับรุ่นที่ 10 ’
“งั้นเหรอจ๊ะ ว้า!! ฮิบารินี่ไม่เหมาะสมเลยนะจ๊ะ ตัวเองเป็นประธานกรรมการรักษากฏระเบียบอยู่แล้วแท้ๆ” หญิงสาวเอ่ยตำหนิอย่างใสซื่อ เล่นเอาคนที่อยู่ตรงนั้นอึ้งไปตามๆกัน
‘เจ้าสัตว์กินเนื้อนี่ มันเอายาเสน่ห์มาใช้กับน้องเจ้าสุดขั้วเหรอเนี่ย =[]=’
"ว่าแต่เคียวโกะมาที่นี่ทำไมเหรอเนี่ย มาแต่เช้าเชียว!!” บอสของวองโกเล่ย้อนถามหญิงสาว เพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยให้เร็วที่สุด
“อ๋อ...วันนี้จะมาชวนทุกๆคนไปทานข้าวกันที่บ้านของฉันน่ะซือคุง ไปด้วยกันทุกคนเลยนะ ปกติพวกเรามักจะมารบกวนซือคุงอยู่ประจำเลย เพราะงั้น...”
“อ่ะ...จ้ะๆๆ ไปกิน(ข้าวบ้าน)เคียวโกะจังเลยละกันนะ” คนถูกชวนเอ่ยตอบรับเนียนๆ ซึ่งมันทำให้มือขวาของเขารู้สึกแปลกๆ
‘ปกติ วิชาเนียนนี่น่าจะเป็นของเจ้าบ้าเบสบอลมันไม่ใช่เหรอ??’
“แล้วฮิบาริซังจะไปด้วยกันไหม” เคียวโกะจังหันมาเชิญผู้ที่ถูกลืมนั่งเงียบไม่พูดจาอะไรออกมาเลยตั้งแต่เธอมา
‘หรือว่าเราจะดุฮิบาริซังแรงไปนะ เอ้า...ก็ช่วยไม่ได้นี่นา...วันนั้นฮิบาริซังยังให้ทุกคนสาบานไว้เลยนี่ เราไม่ผิดหรอก...’
หญิงสาวคิดฟุ้งซ่านไปอย่างเหม่อลอย ซึ่งไม่ทันได้เห็นสีหน้าของวองโกเล่รุ่นที่ 10 ผู้ใสซื่อสำหรับเธอว่าทำหน้าอย่างไรอยู่
ถ้าทุกคนได้เห็นภาพของฐานทัพใต้ดินในตอนนี้ของวองโกเล่ และห้องประชุมของผู้พิทักษ์ที่มีหญิงสาวคนหนึ่งทำหน้าเอ๋อเหม่อลอย ส่วนวองโกเล่ผมสีน้ำตาลทำสายตาอาฆาตแก่ลูกน้องตัวเองเป็นอย่างมาก ผู้พิทักษ์วายุได้แต่อ้าปากค้าง ยกมือท่าห้ามหรืออะไรสักอย่าง และผู้พิทักษ์เมฆานั่งเหงื่อตกอยู่กับคำตอบของคำถาม ที่หญิงสาวถาม ช่างเป็นภาพที่ดูอนาถพิลึก
‘เหอะๆ ดูท่าเจ้าสัตว์กินเนื้อจะไม่อยากให้เราไปนะ แต่เราก็ใช่ว่าอยากไปซะหน่อย ฉันเกลียดการสุมหัวจะตาย แต่... หึหึ’
“ไปสิ!! กำลังหิวอยู่พอดี” คนถูกถามตอบพร้อมสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ซึ่งดูยังไงๆก็ไม่น่าจะเป็นอุปนิสัยของคนๆนี้เลย
‘ฮิบาริเปี๊ยนไป๋ แกไม่คิดถึงอนาคตของแกที่จะดับสิ้นบ้างหรือไงฟระ ฮิเอ๊ยยยยย...’
จบแล้ว(จบตอน ๓ แล้วน่อ =[]=ไม่ใช่เรื่องจบ) เป็นไงคะคิดถึงซือดาร์ก โมเอะใช่ไหมคะ ^^//ตรงไหนฟระ เหอะๆ จรลีไปปั่นภาค ๒ ต่อ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
nu eng
ความคิดเห็น