ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Knock Knock ลองมีรักดูสักที

    ลำดับตอนที่ #3 : EP.3 ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 53


                    เราจะทานอาหารเย็นกันตอนหนึ่งทุ่มตรงนะครับ ระหว่างนี้ใครอยากจะเล่นน้ำหรือว่าอยากจะทำอะไรก็ตามอรรถยาศัยแล้วกันครับ เสียงทุ้มกรอกเสียงลงไปยังโทรโข่งตัวเดิมอีกครั้งหลังจากที่แพหยุดนิ่งอยู่ริมตลิ่ง

     

                    พี่เมี่ยงจะไปไหนคะ เสียงใครคนหนึ่งฉุดให้สาวหล่อเจ้าของเสียงเมื่อครู่หยุด

     

                    ไปดูแลสถานที่บนฝั่งนิดหน่อยจ๊ะ แล้วไอ้ฟ่อนไปไหนซะล่ะ ทำไมน้องคุ้กกี้ถึงเอ่อ...

     

                    พี่ฟ่อนไปเอาของใช้ที่แพนอนค่ะ พี่ฟ่อนกับกี้ว่าจะไปอาบน้ำกันเลย พี่เมี่ยงจะไปพร้อมกันมั้ยคะ

     

                    แล้วไม่เล่นน้ำหรอครับ เพื่อนๆเค้าเล่นน้ำกันอยู่ตรงโน้นแน่ะ นิ้วเรียวชี้ปลายนิ้วไปยังกลุ่มรุ่นน้องที่เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

     

                    อื้มม กี้ว่ายน้ำไม่เป็นอ่ะค่ะ อดสนุกเลยเนอะ” “เอ้...ทำไมพี่ฟ่อนไปนานจัง เราไปกันก่อนเลยก็ได้มั้งคะ คนตัวเล็กยิ้มเก้อๆ ดูแล้วช่างเป็นรอยยิ้มที่น่ามองเป็นที่สุดสำหรับคนตัวสูงกว่า ถ้าไม่มีคำว่าแฟนของเพื่อนตีตรารุ่นน้องเอาไว้ เมี่ยงคงจะห้ามใจตัวเองไม่ให้ชอบคนที่ยืนตรงหน้าไม่ได้

     

                    เอ่อ ไม่รอมันหน่อยเหรอ เดี๋ยวมันก็งอนเอา ไอ้เพื่อนคนนี้มันยิ่งขี้งอนอยู่ด้วย เมี่ยงพูดอย่างไม่จริงจังนัก

     

                    ไม่เป็นไรหรอกค่า พี่ฟ่อนงอน กี้ก็มีวิธีง้อ คุ้กกี้ถือวิสาสะเดินนำหน้าเมี่ยงไป

                   

    ระยะห่างระหว่างแพกับตลิ่งที่ค่อนข้างห่างอีกทั้งไม้กระดานที่พาดอยู่ก็แสนจะอ่อนปวกเปียกไม่รู้ว่าอะไรดลบันดารให้เป็นอย่างนั้น คนตัวเล็กที่ค่อนข้างจะกลัวน้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงรู้สึกหัวใจหวิวๆ เหมือนจะหล่นเสียให้ได้ เธอพยายามพยุงตัวเองให้มั่นคง แต่ไม้กระดานมันไม่มั่นคงให้อย่างที่เธอตั้งใจ

                   

    ตูมคนตัวเล็กที่เมื่อครู่ยังเดินโยกเยกๆ อยู่บนไม้กระดาษแผ่นบางตอนนี้ได้ร่วงลงสู่ผืนน้ำที่ดูแล้วไม่น่าจะลึกอะไรมากมาย แต่เพราะความที่เป็นคนกลัวน้ำมาตั้งแต่เด็กจึงทำให้เธอดิ้นเร่าๆปานว่าจะขาดใจ เป็นผลทำให้รุ่นพี่ร่างสูงต้องกระโจนลงน้ำอย่างไม่คิดถึงตัวเองไม่นานนักเขาก็พาคนตัวเล็กขึ้นมานั่งหายใจหอบที่ริมตลิ่งได้เป็นผลสำเร็จ

     

    กี้เป็นไรมากมั้ย พี่ได้ยินเสียงเอะอะพี่เลยวิ่งมาดู ชิฟฟ่อนที่วิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้กับน้องสาว ตัวเองก็ตกใจจนมือไม้สั่นเพราะตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยให้น้องสาวต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรที่ต้องเดิมพันไว้ด้วยชีวิตแบบนี้มาก่อน

     

    กี้ไม่เป็นไรพี่ฟ่อน ดีที่พี่เมี่ยงกระโดดลงไปช่วยกี้ไว้ คำตอบของน้องสาวสุดที่รักส่งผลให้ชิฟฟ่อนหันไปมองหน้าเพื่อนซี้ก่อนจะพูดออกไป ขอบใจว่ะเมี่ยง

     

    อืม ไม่เป็นไรมันเป็นความรับผิดชอบของกูอยู่แล้ว เมี่ยงยันตัวยืนขึ้นเพื่อที่จะเดินจากคนที่สองไป ณ.เวลานี้เขาตอบตัวเองไม่ได้กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นภายในหัวใจ จังหวะหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นเมื่อได้อยู่ใกล้ๆกับคนตัวเล็ก ความสุขใจที่ได้เห็นว่าคนตัวเล็กมีรอยยิ้มที่สดใส

     

    มึงจะไปไหนวะ

     

    ไปหาอะไรอุ่นๆมาให้คุ้กกี้กินไง เขาโกหก...ความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้อยากไปไหนเลยด้วยซ้ำ

     

    เฮ้ย ไม่ต้องอ่ะนั่นมันหน้าที่กูมีแต่กูแหละที่รู้ว่ากี้ชอบกินอะไร มึงน่ะนั่งอยู่เป็นเพื่อนกี้ที่นี่แหละ แปปเดียว เดี๋ยวกูมา ทิ้งคำพูดไว้ให้เมี่ยงเจ็บใจก่อนที่จะวิ่งปรู๊ดไปยังบาร์เครื่องดื่ม ใช่สิ...คงมีแต่ชิฟฟ่อนเท่านั้นนั่นแหละที่รู้ใจคนตัวเล็กมากกว่าใคร

     

    กี้ยังไม่ได้ขอบคุณพี่เมี่ยงเลย ที่.... เสียงเล็กเริ่มต้นพูดก่อน ไม่รู้เป็นเพราะอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าเวลาที่ได้อยู่ใกล้รุ่นพี่คนนี้ โดยเฉพาะตอนนั้น...ตอนที่คนตัวสูงอุ้มเธอขึ้นจากผิวน้ำ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของเขายิ่งทำให้เธอใจเต้นเร็วขึ้นอย่างที่เธอก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร

     

    ไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ของพี่นี่คะ พี่เป็นคนดูแลน้องๆทั้งหมดที่มาที่นี่

     

    ยังไงกี้ก็ต้องขอบคุณพี่เมี่ยงค่ะที่พี่เมี่ยงลงไปช่วยกี้

     

    มาแล้ว โกโก้อุ่นๆจ้ากี้ นี่สูตรเฉพาะของคุณแม่เลยน้า ชิฟฟ่อนมาถึงก็ยื่นแก้วที่บรรจุโกโก้ร้อนของโปรดของน้องสาวก่อนจะส่งอีกแก้วให้กับเพื่อนซี้ นี่ของมึง ชาเขียวร้อน....ของโปรดมึงน่ะ

     

    ขอบใจนะ เดี๋ยวกูเอาไปกินบนฝั่งแล้วกัน ได้เวลาที่เขาต้องไปเสียที การที่อยู่กับคนหน้าตาน่ารักอย่างคุ้กกี้ไม่เป็นผลดีกับเขาสักเท่าไหร่นัก เพราะนอกจากเธอจะเป็นรุ่นน้องแล้วเธอยังเป็นคนรักของเพื่อนซี้อีกด้วย

     

    กลิ่นหอมของชาเขียวอุ่นๆที่อยู่ในมือสร้างความผ่อนคลายให้กับเมี่ยงได้ไม่น้อยเขายกมันขึ้นมาสูดกลิ่นหอมๆก่อนจะจิบมันที่จะนิดเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย สายตาทอดยาวมองคนทั้งสองที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมแม้ว่าเขาจะเดินจากมานานแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจตัวเองมากนักว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้เขาอยากจะดูแลและอยู่ใกล้ๆกับผู้หญิงของเพื่อนและไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรเขาก็ต้องกดความรู้สึกนี้ให้อยู่ลึกที่สุดและเขาต้องถอยห่างจากเธอเพื่อสร้างเกาะป้องกันให้กับหัวใจตัวเอง

     

    - - - - -

                   

                    รุ่งเช้าของวันใหม่แม้ว่าดวงตะวันยังไม่ขึ้นสู่ท้องฟ้า แม้ว่าฟ้าจะยังคงมีแสงสว่างของดวงดาวเมี่ยงกลับลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนใครเพื่อนไม่ใช่เพราะหน้าที่แต่เป็นเพราะช่วงเวลาที่เขาหลับใหลไปนั้นเขาเห็นเพียงใบหน้าจิ้มลิ้มของคนที่นอนถัดไปไม่ถึงสองช่วงตัว นี่ขนาดยามที่เขาหลับเธอก็ยังวนเวียนเข้ามาในฝันแล้วต่อๆไปล่ะมันจะเป็นอย่างไร เขาไม่พาลต้องเห็นหน้าเธอล่องลอยไปทุกที่หรืออย่างไร

                   

    เมื่อไม่มีอะไรจะทำร่างสูงจึงพาตัวเองออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิที่แสนจะหาได้ยากในเมืองกรุง ลมเย็นๆปะทะร่างโปร่งเขายกมือขึ้นมากอดอกเพื่อกันความเย็นนั้น ทำไมอยู่ๆเขาถึงรู้สึกได้ถึงความเหงา ความหนาว หนาวที่หัวใจทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยจะรู้สึกถึงอะไรแบบนี้มาก่อน เขาไม่เคยรู้สึกเหงา ไม่เคยรู้สึกว่าหัวใจจะเหน็บหนาวขนานี้

     

                    มายืนทำอารมณ์ศิลปินอะไรอยู่คนเดียวนังทอม เสียงดัดของคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินในเวลาแบบนี้ดังขึ้นมาให้เมี่ยงสะดุ้ง

     

                    เปล๊า อากาศมันดี ลมเย็นดี น่านั่งวาดรูป แต่แสงน้อยมองไม่เห็นเลยว่าจะเก็บบรรยากาศไประบายสีที่เมืองหลวง ฮ่าๆ สาวหล่อหัวเราะให้กับคำพูดลิเกๆของตัวเอง ร้อยวันพันปีเขากับกระเทยร่างเล็กอย่างฟรอยด์แทบจะไม่เคยพูดดีกันสักเท่าไหร่ แต่นั่นแหละเพราะคำพูดแรงๆของทั้งคู่ที่ดูเหมือนเป็นคู่กัดกันกลับเป็นตัวก่อเกิดมิตรภาพที่แน่นหนาขึ้น

     

                    ชั้นรู้ว่าแกเป็นอะไรนังทอม ชั้นรู้ว่าแก sad เสียอกเสียใจที่โดนสุนัขฟ่อนคาบขนมคุ้กกี้ไปรับประทานช่ายมะๆ

     

                    อิบ้า ป่าวเว้ย ไอ้ฟ่อนมันนี่มันเพื่อนซี้เลยนะนั่น คิดไรบ้าๆแบบนั้น อกุศลว่ะแกอ่ะ ปฎิเสธเสียงสั่น แม้ว่าเขาจะรู้สึกอะไรๆกับรุ่นน้องน่ารักคนนั้น แต่มันยังคงเป็นความรู้สึกที่น้อยนิด เพราะถ้าหากว่าหลังจากวันนี้เขาถอยห่างออกมาได้ทุกอย่างมันก็จะดีขึ้นเอง

     

                    ให้ชั้นช่วยเอามะ ชั้นว่าน้องคุ้กกี้ก็ยังไม่ได้อะไรๆกับนังฟ่อนมากนักหรอก เดี๋ยวชั้นช่วยแกกันสองคนนั่นออก แล้วแกก็ทำคะแนนไป...ถ้าน้องเขาชอบแก นังฟ่อนมันจะทำอะไรได้ กระเทยร่างเล็กทำหน้าตาและน้ำเสียงราวกับนางร้ายในละคร นั่นสร้างรอยยิ้มบางๆให้กับสาวหล่อ

                   

                    ไม่ต้องเลย ไม่ต้องๆ อินี่มันบาปนะแก จะไปพรากคู่เขาน่ะ เดี๋ยวกูก็หายช่วงนี้สงสัยอยู่ใกล้น้องเค้ามากไปหน่อย ห่างๆไปเดี๋ยวก็หายไปเองแหละ

     

                    เอ้อ ถ้ายิ่งนานวันไปยิ่งรู้สึกมากขึ้นล่ะแก๊เอ้ยย กระเทยไม่อยากจะด่านะค๊า ถึงเวลานั้นอย่ามาง้อให้กระเทยทำอะไรเลวๆน๊าค๊า กระเทยไม่ท๊ำไม่ทำ

     

                    เออ ชั้นไม่ง้อแกหร๊อกนังกระเทยฟาย เพราะไม่ว่ายังไงเพื่อนก็ต้องสำมะคัญกว่าปู้หญิงอยู่แล้ว ไป๊ๆ แกจะไปทำอะไรก็ไปทำเถ๊อะ เดี๋ยวชั้นจะไปอาบน้ำชำระล้างความคิดฟุ้งซ่านซะหน่อย สาวหล่อเลือกที่จะไปหาที่สงบๆอีกครั้งให้กับตัวเอง แม้ว่าการที่ได้ใครสักคนมาคุยด้วยจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ในเวลานี้เขาขอชำระล้างความรู้สึกทั้งหมดที่ไม่น่าจะเกิดให้มันออกไปจากหัวใจเสียก่อนจะดีกว่า

     

                    เวลาที่ล่วงเลยไปนานเท่าไหร่เมี่ยงเองไม่รับรู้ เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขายังไม่อยากเอาตัวเองลงแพไปเจอกับเพื่อนรักและคนรักของเพื่อนซึ่งเป็นรุ่นน้องของเขา เวลาแค่สองวัน...สองวันที่ทำให้เขาหวั่นไหว ทำให้เขารู้สึกอะไรๆกับคนที่เขาไม่อยากจะรู้สึก....กับเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เขาตัดสินใจปลีกตัวมาอยู่คนเดียวเพื่อ เพื่อลบล้างความรู้สึกบ้าๆที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นให้มันหลุดออกไปแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถทำได้สักที

                   

    เฮ้อ สาวหล่อทอดถอนหายใจออกมาสุดแรงเกิด นี่จะเป็นการทำใจครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาและกลุ่มนักศึกษาทั้งหมดกลับสู่เมืองหลวง แต่อยู่ๆกลับมีเสียงสะอื้นเล็กๆเกิดขึ้นที่เบื้องหลังของเขา ใครกัน...ใครกันนะที่มายืนร้องไห้อยู่ข้างหลังของเขา ผีสางนางไม้หรือใครกัน

                   

    สาวหล่อตัดสินใจหันหลังไปหาต้นเสียงที่ทำให้เขารู้สึกขนลงซู่อย่างประหลาด ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บแปลบจะแทรกเข้ามาภายในหัวใจเมื่อคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเขาตอนนี้คือ ผู้หญิงที่เขาพยายามตัดใจจากเธอ ใครกันนะทำให้เธอต้องเสียน้ำตา หรือจะเป็นเจ้าเพื่อนตัวดีของเขากัน

     

                    กี้ เป็นอะไรคะ เมี่ยงเสียงอ่อนเมื่อเห็นหยดน้ำใสๆที่ร่วงหล่นอยู่ใบหน้าหวานๆ ทั้งคำพูดของเขายังดูสนิทกับเธอเหลือเกิน คุ้กกี้เงียบ...นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจ

     

                    กี้บอกพี่มาสิคะ เป็นอะไร ใครทำอะไร เพียงไม่กี่ก้าวสาวหล่อก็ประชิดตัวหญิงสาว มือหนาที่เคยชินกับการจับพู่กันและดินสอตอนนี้กลับแตะลงที่บ่าเล็กๆของคนตัวเล็กเบาๆ

     

                    พี่ ฮึก... พี่ฟรอยด์ โมโหอะไรไม่รู้ ฮึก... ให้กี้ออกมาตามหาพี่เมี่ยง พูดทั้งยังสะอื้น

     

                    ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่ต้องร้องๆ โดนมันเหวี่ยงมาล่ะสิ ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวพี่เมี่ยงจะเอาร่างทรงพ่อปูบุดดาเบสไปไล่มันเอง โอ๋ๆไม่ต้องร้องแล้วนะคะ สาวหล่อที่ดูเคร่งขรึมเกือบตลอดเวลาอย่างเมี่ยงจำเป็นต้องแปลงกายเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะดูท่าทางแล้วคนตัวเล็กคงจะไม่ค่อยโดนดุ พอโดนนิดโดนหน่อยก็เลยร้องกระจองงอแงเหมือนเด็กไม่ประสีประสาแบบนี้

     

                    ฮึก...กี้ไม่ ไม่เคยเห็น พี่ฟรอยด์เป็นแบบนี้ กี้เลยตกใจ

     

                    ไม่เป็นไรนะคะกี้ สงสัยช่วงนี้มันโดฟยาคุมไปเยอะน่ะ มันก็เป็นแบบนี้แหละ ป่ะๆ เดี๋ยวเรากลับไปที่แพกัน จะได้เอาร่างพ่อปู่บุดดาเบสไล่ปราบมันซะหน่อย ประโยคนี้สร้างรอยยิ้มให้กับคนตัวเล็กได้ไม่น้อย ใช่สิ...เธอไม่เคยเห็นเขาพูดอะไรๆแบบนี้ ยิ่งโดยเฉพาะสรรพนามที่เรียกเธอ ที่ดูใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

     

                    ยิ้มอะไร ไม่เคยร่างพ่อปู่บุดดาเบสเหรอ นี่ไงเดี๋ยวทำให้ดู อิกระเทย...ออกไปเลย อิกระเทย ไปออกไป... คนตัวสูงทำท่ากางเขนกางขาเหมือนกับกลุ่มนักร้องฮิพฮอพชื่อดัง

     

                    ขอบคุณนะคะ เสียงใสพูดขึ้นทั้งยังมีเสียงหัวเราะคิกคัก ขอบคุณที่ทำให้กี้ยิ้มได้

     

                    อื้ม ป่ะ เรากลับไปที่แพกันเถอะ

     

                    เส้นทางเดินสิ้นสุดลงเมื่อคนทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ริมตลิ่ง ดวงตาคู่กวาดตามองรอบๆเห็นเพียงรุ่นน้องที่มาทั้งหมดเก็บข้าวของที่ระเกะระกะอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง คงไม่ใช่ฝีมือใครที่ไหนนอกเสียจาก เพื่อนกระเทยที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเอาตัวไปเก็บไว้ที่ไหน ถึงแม้ว่าฟรอยด์จะดูวู่วามอารมณ์ร้ายแต่ส่วนมากมันจะมีสาเหตุ แต่สำหรับครั้งนี้แล้วสาวหล่อไม่รู้เลยว่าอะไรกันคือสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด มีเพียงคนๆเดียวเท่านั้นที่สามารถบอกเขาได้นั่นก็คือ เจ้าตัวผู้ก่อเรื่อง

     

                    มาแล้วเหรอวะ นี่มึงไปเป็นสามิ๊นังกระเทยฟายนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ มันตามหาแกไม่เจอก็ฟาดงวงฟาดงาใส่คนอื่นระรานไปทั่วไปเนี่ย คนที่ยิงคำพูดมาเป็นชุดๆจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ชิฟฟ่อน

     

                    มึงก็อยู่ทำไมมึงไม่กักกันมันไว้ล่ะ เออแล้วนี่มันไปไหนวะ กูขอไปปราบมันซะหน่อย การสนทนาของคู่ซี้ต่างคณะสร้างเสียงหัวเราะให้กับรุ่นน้องที่ก่อนหน้ามีแต่ความตึงเครียดได้ไม่น้อย

     

                    ไม่รู้มัน มันมาทำให้กูอึ้งแล้วมันก็จากกูไปนี่แหละ ชิฟฟ่อนพูดทั้งยังจูงมือคนตัวเล็กที่เดินมากับเมี่ยงให้มายืนข้างๆตัวเขา

     

                    อืม งั้นเดี๋ยวกูไปตามหามันก่อนแล้วกัน ทั้งที่อยากจะหยุดความรู้สึกตัวเองเอาไว้แล้วแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เขาหยุดมันไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ การอยู่ห่างคนทั้งสองคือสิ่งๆเดียวที่เขาจะทำได้

    - - - - -

     

                    ตอนไปตามไอ้เมี่ยงน่ะ มันทำอะไรลุ่มล่ามกับเรารึเปล่า ชิฟฟ่อนถามน้องสาว แค่มองตาเขาก็พอจะรู้สึกได้ว่าตอนนี้ทั้งน้องของเขากับเมี่ยงมันมีอะไรพิเศษๆเกิดขึ้น แต่คนหวงน้องยิ่งกว่าอะไรอย่างเขาน่ะเหรอจะยอมปล่อยให้อะไรๆมันเกินเลยไปกว่าที่เป็นอยู่

     

                    หมายถึงอะไรอ่ะพี่ฟ่อน คนถูกซักพูดขึ้นอย่างขัดใจ

     

                    ก็หมายถึงไอ้เมี่ยงมันจับมือถือแขนหรืออะไรๆทำนองนั้นรึเปล่า

     

                    เปล่า พี่เมี่ยงไม่เหมือนตัวนิ เอะอะๆก็จับมือ เต๊ะอั๋งสาวๆไปเรื่อย พี่เมี่ยงออกจะสุภ๊าพสุภาพ แล้วก็.... คุ้กกี้ทำท่าจะพูดต่อแต่โดนชิฟฟ่อนดักทางเอาไว้ก่อน

     

                    มันก็เป็นแบบนี้กับสาวๆทุกคนนั่นแหละ ไม่ต้องไปรู้สึกอะไรกับมันมากนักหรอก มันน่ะกิ๊กเยอะแยะ คนเป็นพี่ทำเป็นกันท่า ในเมื่อสถานการณ์ไม่ค่อยน่าไว้วางใจ อีกทั้งเขาก็ไม่เคยเห็นเพื่อนรักจะคบใครได้นาน ส่วนน้องสาวก็ไร้เดียงสาซะเหลือเกิน

     

                    รู้แล้ว เค้าก็มองว่าพี่เมี่ยงเป็นพี่นี่แหละ ตัวคิดไรมากป่ะพี่ฟ่อน

     

                    อืม ก็ดีแล้ว อย่าลืมล่ะ...ว่ามันน่ะกิ๊กเยอะ เราก็เคยเห็นแล้วนี่กิ๊กมันคนหนึ่งน่ะ นี่ยังมีอีกนะยังไม่หมด

     

                    เจ้าค่ะ คุณพี่ ปากพูดไปอย่างนั้น แต่หัวใจกลับรู้สึกหวิวๆกับเรื่องที่พี่ของเธอบอก ใช่สิ! ผู้หญิงคนนั้นออกจะสวยและดูเป็นผู้ใหญ่ รูปร่างก็ดี เรื่องอะไรรุ่นพี่จะต้องมาสนใจเธอล่ะ ในสายตาของรุ่นพี่ก็คงจะเห็นเธอเป็นเพียงน้องสาวเพื่อนแค่นั้นแหละ

                   

                     อ้าว มากันแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชิฟฟ่อนหมายถึงใคร คุ้กกี้หันไปตามสายตาของชิฟฟ่อนที่มองไปทางเมี่ยงและฟรอยด์

     

                    ไงอิฟรอยด์ สามีมึงเค้าไปง้อแล้วเหรอ ถึงเดินกลับแพถูกเนี่ย คนปากไวไม่ยอมให้ใครได้พูดแซงหน้า พอคนทั้งสองมาถึงก็ยิงกระสุนคำพูดใส่เป็นชุด

     

                    นังทอมฟ่อน ปากแกนี่รัวยิ่งกว่าเอ็มสิบหกทำไมแถวนี้ไม่มีคนหน้าตาดีๆให้แกกัดรึยังไงยะ พอชั้นมาล่ะถึงได้ใส่เอาใส่เอา ยังกับไปตายอดตายอยากที่ไหนมา คนปากไวเมื่อครู่ถึงกับอึ้ง จะกี่ครั้งกี่ทีเขาก็ไม่เคยจะเถียงทันกระเทยร่างเล็กสักที

     

                    เฮ้อ...พอกันได้แล้ว ไม่อายน้องบ้างรึไงวะ เถียงกันอยู่ได้ ไปๆ ไปช่วยน้องทำความสะอาดเลย ไอ้คนก่อเรื่อง แล้วจะได้ออกกันซะที ในขณะที่คนตัวโตกำลังพูดๆให้สาวประเภทสองแสนสวยกับสาวหล่อแสนห้าวสงบศึกกันอยู่นั้น เขาไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนมองเขาอยู่...มองอย่างชื่นชม

     

                    เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแพที่ก่อนหน้าเหมือนสมรภูมิรบกลับกลายสภาพมาเป็นปกติสุขเช่นเดิมแล้ว การล่องแพกลับเข้าท่าจึงเกิดขึ้น แม้ว่าบรรยากาศยามสายจะร้อนไปหน่อยแต่เพราะการลอยไปเรื่อยๆของแพจึงทำให้มีลมบ้าง อากาศจึงไม่ได้อบอ้าวมากนัก หลายต่อหลายคนที่พาตัวเองออกมานั่งหย่อนขาลงในแม่น้ำแคว และอีกหลายต่อหลายคนที่นอนหลับอุตุอยู่ทีแพนอนเพราะเหนื่อนล้าจากกิจกรรมสร้างความสามัคคีที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อเช้า (ซึ่งนั่นก็คือการปาข้าวของกระจุยกระจายของรุ่นพี่กระเทยร่างอ้อนแอ้น)

     

    สาวหล่อร่างสูงผมซอยสั้นสีน้ำตาลอ่อนคิ้วเข้มหนาจมูกโด่งเป็นสันภายในมือมีดินสอสองบีคู่ใจกับสมุดสเก็ตภาพคือภาพที่คนตัวเล็กเฝ้ามองอยู่ไกลๆ ตั้งแต่วันแรกที่เธอได้เจอกับเมี่ยง เขาก็มักจะมีดินสอกับสมุดสเก็ตภาพเล่มนั้นอยู่ติดตัวตลอด ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ กล้ามแขนมัดเล็กๆที่บ่งบอกได้ว่าเขาเป็นนักกีฬาตัวยงทั้งยังสีผิวที่ดูคล้ำลงจากการตากแดดนั่นก็บอกได้อีกอย่างว่าเขาน่าจะชอบกีฬากลางแจ้งต่างจากพี่สาวหัวใจเป็นชายของเธอที่ดูออกจะสำอางค์หน่อยๆ

     

                    เอ้ย มองไรอยู่อ่ะ เสียงคุ้นหูทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งโหยง นี่เธอเผลอนั่งมองพี่รหัสจนไม่รู้สึกตัวเลยเหรอว่าพี่สาวของเธออยู่ด้วย

                   

    ก็มองไปเรื่อยแหละพี่ฟ่อน นี่ตัวจะไปนอนไม่ใช่เหรอ จะไปนอนก็ไปดิ

     

    ไม่ไปละ อยากนอนตักน้อง...นอนตักหน่อยได้มะ ไม่พูดเปล่าชิฟฟ่อนทิ้งตัวเองลงข้างๆน้องสาวแล้วเอาหัวไปหนุนที่ตักของหญิงสาว

     

    ร้อยวันพันปีไม่เห็นอยากจะนอน บ่นออดแอด

     

    ก็อยากนอนวันนี้นี่ พูดจบคนเป็นพี่ก็หลับตาพริ้มทั้งยังยิ้มกระหยิ่ม ถ้าเจ้าเมี่ยงหันมาเห็นล่ะก็ หึหึ

     

    คนที่นอนหนุนอยู่บนตักทำท่าว่าจะหลับสนิทไปแล้วเธอรู้ได้จากลมหายใจที่สม่ำเสมอทั้งยังมีเสียงกรนเบาๆให้คนตัวเล็กได้อมยิ้ม แม้ว่าเธอกับพี่สาวจะสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก...แต่พฤติกรรมแบบนี้เธอเพิ่งจะเคยเห็นชิฟฟ่อนทำมันเป็นครั้งแรก หรือว่าจะหวงน้องสาว...คงไม่หรอกจะมานั่งหวงทำไมไม่เห็นจะมีใครมาจีบสักที

     

    คุ้กกี้เงยหน้าจากการก้มมองพี่สาวแล้วหันกลับไปยังภาพเมื่อครู่ที่เธอนั่งมองอยู่นาน ดวงตาคู่คมที่ก่อนหน้าจ้องมองเพียงสิ่งที่อยู่ในมือกลับหันมาสบตาเข้ากับดวงตากลมโตของเธอ ความรู้สึกมากมายที่อยู่ในดวงตาคู่นั้นถูกส่งมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอเองก็เหมือนกับว่ากำลังส่งความรู้สึกอะไรบางอย่างกลับไปเช่นกัน มันเป็นความรู้สึกที่ยาวนานและแปลกประหลาดอย่างที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

     

    การเดินทางเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องดังนั้นจึงไม่มีเหตุการณ์น่าระทึกอะไรเกิดขึ้น มีเพียงความเงียบสงบบ้างหรือไม่ก็เสียงคุยกันเรื่อยเปื่อยตลอดการเดินทาง จวบจนรถทัวร์คันใหญ่เคลื่อนตัวมาถึงจุดหมายปลายทาง

    ก่อนอื่นต้องขอบคุณน้องๆทุกๆคนที่ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ และร่วมเดินทางไปเก็บเกี่ยวภาพความประทับใจในครั้งนี้นะครับ สาวหล่อที่ถือครองโทรโข่งนั้นมาเป็นเวลาสองวันพูดขึ้นด้วยอาการเหนื่อยอ่อน ก่อนที่จะพูดต่อ

     

    เดินทางกลับบ้านกันดีๆ ระมัดระวังแล้วก็อย่าแวะที่ไหนนะจ๊ะ เราไปเที่ยวกันตั้งสองวันคุณพ่อคุณแม่คิดถึงเราจะแย่กันแล้ววันพรุ่งนี้เจอกันที่บอร์ดคณะฯ พี่จะเอารูปที่พวกเราไปเที่ยวกันครั้งนี้ไปแปะ...ให้คณะอื่นที่เค้ามาดูอิจฉากันเล่นๆ ขอบคุณทุกๆคนอีกครั้งนะคร้าบ

     

    เย้..... สิ้นเสียงรุ่นพี่สาวหล่อสุดเท่ห์ เสียงของคนอื่นๆก็เฮกันดังขึ้นมา

     

    ทุกคนแยกย้ายกันไปบ้างก็มีผู้ปกครองมารับบ้างก็เดินไปรอรถเมล์ที่ป้ายหน้ามหาวิทยาลัย บ้างก็ขับรถของตัวเองที่กล้าเอามาจอดไว้ที่มหาลัยข้ามวันข้ามคืนกลับไป แต่สำหรับเมี่ยงเขาเดินกลับเพราะว่าห้องพักของเขากับมหาวิทยาลัยไม่ได้ห่างกันมากนัก แต่ก่อนที่เขาจะกลับได้ เขาต้องแวะไปห้องมืดเพื่อล้างรูปทั้งหมดเสียก่อน

     

    เฮ้ยเมี่ยง มึงจะไปไหนเดี๋ยวกูไปส่ง ชิฟฟ่อนที่ขับรถตามมาพูดขึ้น

     

    ไปห้องมืด เอารูปไปล้างก่อน มึงไปเหอะอีกนิดเดียวก็ถึงละ ร่างสูงบอกปัด

     

    ห้องมืดพี่เก่งเหรอ เดี๋ยวกูไปส่ง นิดเดียวก็เหนื่อยนะเว้ย เดินน่ะ 

     

    ไปด้วยกันเถอะค่ะพี่เมี่ยง เดินไปเมื่อยน้า วันนี้ก็เมื่อยมาทั้งวันแล้ว เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงทำท่าไม่ยอม คนตัวเล็กที่นั่งเงียบอยู่ก่อนหน้าจำต้องพูดออกมา แล้วก็เป็นผลเมื่อเมี่ยงยอมขึ้นไปนั่งบนรถยนต์ของชิฟฟ่อน

     

    แม้จะเป็นระยะทางเพียงนิดแต่ความรู้สึกของเมี่ยงมันเหมือนเป็นหลายกิโล มันยาวนานและอึดอัดเขาไม่เคยต้องรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้เขาไม่สามารถขัดคำชวนของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างหน้าเคียงข้างกับเพื่อนของเขาได้

     

    ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะมึง กูจะไปดูฝีมือการแชะภาพของกูซะหน่อย เจ้าของรถพูดขึ้นก่อนที่เมี่ยงจะลงจากรถทันทีที่รถจอดสนิท

    อืม ไว้เจอกัน...เจอกันที่คณะนะครับน้องกะ...คุ้กกี้ เมี่ยงกำลังจะหลุดปากเรียกชื่อของคุ้กกี้แบบที่ฟ่อนเรียก แต่เขาก็เปลี่ยนมันได้ทัน

     

    จะเรียกกี้เหมือนตอนที่อยู่กาญฯก็ได้ค่ะพี่เมี่ยง

     

    เอ่อ ครับ ไว้เจอกันที่คณะครับ

     

      รถยนต์สุดที่รักของชิฟฟ่อนเคลื่อนตัวออกไปแล้วแต่ร่างสูงยังคงมองมัน...มองจนสุดสายตา ช่วงเวลาที่แสนพิเศษที่เกิดขึ้นระหว่างรุ่นพี่ที่แสนเย็นชากับรุ่นน้องหน้าตาจิ้มลิ้มอย่างน้องรหัสของเมี่ยงได้ผ่านพ้นไปแล้ว นั่นคือช่วงเวลาที่น่าจดจำและเขาจะเก็บทุกเรื่องราวของเธอเอาไว้ หลังจากวันนี้ไปเขากับเธอคงมีโอกาสที่จะได้เจอกันน้อยลงเวลาในการที่จะทำใจของเขาก็มากขึ้น...ทำใจให้เป็นแค่รุ่นพี่ที่หวังดีกับเธอก็พอ

    @@@@@

    เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคร้าบบ ^ ^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×