ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Project Sweet [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : เมื่อมีครั้งที่หนึ่ง ย่อมมีครั้งที่สอง

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 53


    1

    เมื่อมีครั้งที่หนึ่ง ย่อมมีครั้งที่สอง

    “อ๊ากกกกกก!!!!” เสียงตะโกนลั่นดังจากชายตรงหน้าราวกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังสะนั่นไปทั่วห้องจนผมแทบจะกระโดดหนีด้วยความตกใจ

    “ทะ ทำไม...ทำไมพ่อถึงมานอนที่ห้องผมล่ะ O_O” ผมโพล่งถามขึ้นเมื่อตั้งสติได้

    นะ นี่มันอะไรกันฟร้าาาา <’(=[]=)’>

    ชายตรงหน้ายังคงขมวดคิ้วอย่างงุนงง เขาก้มลงเอามือลูบๆ ริมฝีปากที่เริ่มมีเลือดไหลซิบๆ ออกมา...

    ละ เลือดงั้นเหรอ -*-

    เลือดล่ะเว้ย...

    เลือด...

    “อ๊ากกกกก!!!! เลือดดดดด!!!!!” ผมเอามือสองข้างจับหน้าตัวเอง บ้าเอ๊ย บ้าที่สุด บ้าไปแล้วววว =[]= ผมกำลังจะบ้าไปแล้ววววว ใครก็ได้ บอกที บอกทีว่านี่มันเกิดอาเพศอะไรขึ้น ทำไมพ่อถึงมานอนห้องผม ทำไมเขาถึงไม่ใส่เสื้อ แล้วทำไม...

    “ซี้ดดด เจ็บบบ” เขาครางเบาๆ นั่นทำให้ผมสะดุ้งอีกครั้ง

    เอื้อก...-O-

    ได้ข่าวว่าเมื่อกี้ผมต่อยพ่อนี่หว่า O_o ตายล่ะ! เขาจะฆ่าผมมั้ยเนี้ย

    “พะ พ่อ...” ผมครางเบาๆ

    “หือ” เขาหันมามองหน้าผม “มาซาโตะ...??

    เขาเหล่มองตัวเองและมองผมสลับไปมา “ทำไมถึงมานอนที่นี่ล่ะ O_O

    ดูท่าว่าเขาจะเพิ่งรู้สึกตัวนะ -___-;

    “ผมต่างหากที่ต้องถาม ทำไมพ่อถึงมานอนที่ห้องผม!” ผมตะโกนแทบจะสุดเสียงเพื่อเข่นคำตอบจากชายตรงหน้า เขาขมวดคิ้วเป็นปมเหมือนกำลังคิดหนัก

    “ห้องของมาซาโตะ...จริงด้วยสิ” เขาเริ่มเหล่มองรอบๆ ห้องแล้วจับศรีษะเบาๆ “ปวดหัวชะมัดเลยแฮะ จริงสิ!” เขาต่อยมือเข้ากับฝ่ามือตัวเองเหมือนนึกอะไรออก

    “อะ อะไรเหรอครับพ่อ O_O?

    “เมื่อคืนไปงานเลี้ยงรุ่น เผลอดื่มมากไปนิด เลยเดินเข้ามาห้องของมาซาโตะชัวร์!" เขายืนยันด้วยเสียงที่ดังอย่างมั่นใจ

    “แต่ว่า...เจ็บชะมัด (‘ ‘)a” เขายังไม่เลิกเอามือลูบมุมปาก

    ง่ะ...ผมยิ้มเจื่อนๆ ส่งไปให้ทันที ผมมือหนักขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?!

    “ขะ ขอโทษครับพ่อ แหะๆๆ U_U

     

    “ว้าวววว เพื่อนรัก! ท่าทางของนายมันไม่สดชื่นสุดๆ เลยนี่หว่า เกิดอะไรขึ้น โจรปล้นบ้าน หรือจู่ๆ มีคนมาบอกว่าพ่อแกเป็นมหาเศษรฐีร้อยพันล้าน O_O??” เสียงของเจ้าบ้าคนหนึ่งดังผึ่งๆ อยู่ข้างๆ หู เหมือนแมลงวันมาบินผ่านไป

    “หุบปากไปเลยไอ้ทาคุมิ”

    หมอนี่คือทาคิโมโตะ ทาคุมิ เพื่อนสนิทแสนรักของผมที่คบกันมาร่วมจะสามปีตั้งแต่มัธยมต้น หน้าตาเท่ๆ ของเจ้าหมอนี่ทำให้เป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนได้ไม่ยาก ยิ่งซอยผมสั้นๆ เจาะหูไปข้างละสอง สามรูยิ่งดูเท่เข้าไปใหญ่ แล้วยังมีการเพลนไว้อีกว่าจะไปเจาะลิ้น -_-; ผมสีน้ำตาลอ่อนดูเปล่งประกายเสมอเมื่อต้องแสงแดด

    ให้ตายเถอะ...ทำไมเพื่อนผมมันเท่แบบนี้วะ -O-

    “ต๊าย ไอ้มาซาโตะ อย่าจ้องเหมือนอยากจะงาบกันแบบนี้สิฟะ เขินนะเฟ้ย >_<///” มันเริ่มสะบิดสะบิ้งด้วยท่าทีเขินอาย

    “อย่ามาทำกระแดะแบบนั้นนะเว้ยไอ้ทาคุมิ =[]=

    “โหดร้าย T_T แหม จ้องกันแบบนี้เหมือนอยากจะงาบกันอย่างงั้นแหละ อย่าบอกนะว่าจู่ๆ แกก็หลงรักฉัน O_O

    พลั่ก

    “อ๊ากกกกก TOT ไอ้มาซาโต๋!!

    โครมมม

    เสียงร้องอย่างเจ็บปวดพร้อมกับเสียงเก้าอี้ล้มทำให้เพื่อนทั้งห้องหันมามองเราสองคนที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาอย่างเลี่ยงไม่ได้

    “ปวดชิบ TOT ไอ้เพื่อนเวร เกลียดเว้ย -3-^” ทาคุมิเบ้ปากอย่างงอนๆ เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ภายในห้องได้ไม่ยาก อะไรทำให้ผมมาเป็นเพื่อนกับมันได้วะเนี้ย

    “ถ้าพูดอะไรพิลึกพิลั่น น่าสะอิดสะเอียนแบบนั้นอีกตายคาตีลล์แน่ ไอ้ทาคุมิ =_=” ผมพูดขู่ๆ ไปงั้น แต่ทาคุมิสะดุ้งโหยงแล้วหันมามองที่เท้าผมอย่างตกใจ

    “อย่าทำอะไรเค้านะ ระวังผู้หญิงจะอาฆาตนะเออ ~O~ กลับไปนั่งที่ดีกว่า” และแล้วทาคุมิก็รีบวิ่งกลับไปนั่งที่ที่อยู่ห่างจากโต๊ะผมสามแถว ผมอยู่ข้างหน้า ส่วนหมอนั่นอยู่ข้างหลัง ไม่นานนักก็มีอาจารย์เดินเข้ามาพร้อมกับกองหนังสือที่วางบนโต๊ะเสียงดังปึงปัง ห้องก็เริ่มสงบและเข้าสู่บรรยากาศที่แสนน่าเบื่อของการเรียน

    ว่าแต่...ไอ้อาจารย์นั่นมันคือใคร?

    “สวัสดีนักเรียนทุกคน ผมคือครูสอนศิลปะคนใหม่ที่มาแทนคนเก่าที่ย้ายออกไปแล้ว ผมชื่อซาซากิ คามิยะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ J” พูดจบเขาก็ยิ้มบางๆ ออกมา

    แน่นอนว่าหน้าหล่อๆ อย่างเขา ยืนเฉยๆ ย่อมมีคนมอง และยิ่งยิ้มออกมา นักเรียนหญิงในห้องยิ่งส่งสายตาระห้อยพร้อมส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถวอย่างน่าหมั่นไส้ ประหนึ่งว่าหมอนี่คือซูเปอร์สตาร์ประมาณนั้น ผมไม่ได้หมั่นไส้นะ!

    “ผมมีเวลาให้ถามยี่สิบนาทีนับจากนี้ เพราะเห็นว่านี่คือชั่วโมงแรกของเรา พวกเราจึงควรจะทำความคุ้นเคยกันไว้ ชั่วโมงต่อมาหวังว่าจะได้เจอกันที่ห้องศิลปะอย่างพร้อมหน้าพร้อมตานะครับ”

    น่าแปลก...

    ไม่ใช่น่าแปลกเพราะว่าอาจารย์ศิลปะหล่อเลิศ

    แต่น่าแปลกจริงๆ ทำไมทาคุมิมันเจอคนที่หล่อกว่า ปกติมันต้องเขม่งไม่ใช่เหรอ แต่พอผมหันไปทางมัน มันกำลังอึ้งและนิ่ง -_-;

    “ทะ ทาคุมิ เฮ้ย ไอ้ทาคุมิ” ผมตะโกนเรียกเสียงดัง

    ถึงจะดังยังไงก็สู้บรรดานักเรียนหญิงที่เริ่มยิงคำถามเบสิกถามอาจารย์หรอก เช่นมีแฟนหรือยัง สเป็กเป็นยังไง เฮอะ เดาง่ายจะตาย -__- (เพราะยัยพวกนั้นก็เคยถามทาคุมิตอนหมอนั่นย้ายมาใหม่ๆ)

    แต่ไอ้ทาคุมิท่าจะอาการหนัก คงอึ้งนิดๆ เพราะหมอนี่มันอยู่ชมรมศิลปะ จู่ๆ ก็เปลี่ยนอาจารย์ผู้สอนคงจะสะเทือนใจไม่น้อย

    “อาจารย์คะ >O< อาจารย์ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” นักเรียนหญิงคนหนึ่งถามขึ้นก่อนจะมีเสียงกรี๊ดตามมา

    “อ่า...ต้องดูๆ กันไปก่อน โดยปกติผมชอบที่หน้าตาเป็นหลัก ตามมาด้วยนิสัย ^__^;

    หมายความว่าถ้าไม่สวยมันไม่ขย้ำ...ใช่มั้ยวะ -O-?

    “แล้วครอบครัวของอาจารย์ทำธุรกิจอะไรหรือเปล่าคะ ท่าทางของอาจารย์หรูจังเลย +_+” เหมือนนักเรียนหญิงคนนั้นจะสังเกตุทั่วทั้งตัวของอาจารย์คนใหม่

    นั่นทำให้ผมมอง โอ้โห นาฬิกาแบรนเนมที่ดูแล้วราคาแพงแหงๆ เผลอๆ ฝังเพชรด้วยใช่หรือเปล่า? แว่นตาอีก เสื้อที่หมอนั่นใส่ รวมๆ แล้วเป็นแสนเยนชัวร์! แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ...

    “...สิ้นเปลืองว่ะ”

    เอ้อ! ใช่ สิ้นเปลือง! ตะ แต่นี่มันไม่ใช่เสียงของผมนะ ผมไม่ใช่ไอ้คนพูดนะ =[]= พอหันไปด้านหลังต้นเสียงนั่นคือ...

    ทาคุมินั่นเอง

    ท่าทางมันมองแบบเซ็งๆ เบื่อๆ และเริ่มหงุดหงิด แสดงว่ามันคืนร่างกลับมาแล้วเหรอ O_O ทาคุมิเหยียดเสียงแล้วพึมพำบางอย่าง ซึ่งผมคิดว่ามันอาจจะก่นด่าสาปแช่งอาจารย์ซาซากิในใจก็ได้ ใครจะรู้...

    “เอ้อ จริงสิมาซาโตะจัง” เสียงนี่มัน...

    “ไอ้ทาคุมิ”

    มันเปลี่ยนที่นั่งกับคนข้างๆ ผม ผมผงะนิดหน่อย มันจะจองเวรจองกรรมอะไรกับผมนักหนาวะ อยู่โรงเรียนกับมันทีไรรู้สึกเหมือนเป็นแฝดทุกทีเลย -*-

    “วันนี้ไปทำงานเป็นเพื่อนหน่อยดิ *O*

    “ทำงาน...ทำงานอะไรวะ” ผมถามกลับ

    “โฮสต์คลับ *O*

    “...!!!

    ผมขมวดคิ้วเขม็งมองหน้าทาคุมิที่ยิ้มกว้างอย่างพอใจ โฮสต์คลับ...อายุแค่สิบเจ็ดแต่ดันทำงานโฮสต์คลับเนี้ยนะ!?

    “พอดีว่าฉันมีเส้น ไม่ต้องรอบรรลุนิติภาวะหรอกน่า ^O^b

    “งั้นก็ไปทำคนเดียวซะสิ พาเพื่อนไปติดคุกมีที่ไหนวะ” ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่ ทาคุมิสะกิดไหล่แล้วเริ่มซุกไซร้ตรงบ่าเอาหัวมากระแซะๆ จนเริ่มหยะแหยง

    “ก็แค่ทำงานหาเงินเท่านั้นเอง” ทาคุมิตอบหน้าตาย

    “แต่กฏโรงเรียนเราห้ามทำงานพิเศษ”

    “แต่ถ้าไม่ทำ บ้านฉันจะมีกินได้ยังไง ไม่ได้รวยขนาดคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดนะเว้ย” ทาคุมิเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

    “แล้วแกต้องการอะไรวะ”

    “ไปทำงานกับฉัน...แค่วันเดียวก็ได้! แค่อยากได้เพื่อนอ่ะ ไม่เคยไปทำที่นั่น ไปคนเดียวแล้วมันโหวงๆ T_T” ทาคุมิทำเสียงเล็ดออดอ้อน ซึ่งแน่นอนว่า...

    “วันเดียวนะ”

    “อื้อ”

    “ก็ได้ -_-

    มันได้ผล โอเค ผมแพ้เสียงออดอ้อนของไอ้เพื่อนบ้าตัวนี้ ให้ตายเถอะ แล้วผมจะกลับบ้านไปบอกพ่อได้ไงวะ??

     

    บ้านตระกูลฟูจิซาวะ

    เวลา  4:30 Pm.

    “ผมกลับมาแล้วครับ”

    ผมเปิดประตูบ้านพร้อมกับกลิ่นหอมๆ ที่ปะทะเข้ามาในจมูก หือ เหมือนว่าวันนี้พ่อจะทำกับข้าวเองนะ

    “เข้ามาสิ” ผมสะกิดเรียกทาคุมิ หมอนั่นพยักหน้าแล้วเดินเข้ามาข้างใน

    “ขอรบกวนหน่อยนะครับ” ทาคุมิพูดอย่างมีมารยาท แต่ถึงจะพูดยังไงพ่อก็ไม่ได้ยินอยู่ดีไม่ใช่เหรอ เพราะตอนนี้ยังคงอยู่ในครัว

    “จะกินเสร็จค่อยออก หรือจะให้ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” ผมถามขึ้นและเริ่มถอดถุงเท้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบถึงบ้าน ฮึบๆๆ เสื้อนอกก็ต้องถอดสินะ

    “กินก่อนสิ >_< แกก็รู้ที่นั่นมีแต่เหล้า อย่าเผลอกินจนเมาล่ะ” ทาคุมิเตือนด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันที่พยายามจะทำให้เบาที่สุด

    “รู้แล้วแหละน่า แต่อันดับแรกไปห้องครัวกันก่อน” ผมโยนเสื้อผ้าไปที่ห้องรับแขกแล้วลากทาคุมิตรงไปยังห้องครัว ที่ที่พ่อของผมตอนนี้กำลังสิงสถิตอยู่

    “เอ๊ะ มาซาโตะ วันนี้กลับเร็วจัง ข้าวรออีกแป็ปก็เสร็จแล้วแหละ” พ่อพูดขึ้นโดยไม่ทันมามองเพราะมัวแต่มองหม้อตรงหน้าเตาไฟอยู่ ผมพยักหน้าเบาๆ อย่างรับรู้

    “พ่อครับ วันนี้ผมไปทำการบ้านที่บ้านของทาคุมินะ ใช่มั้ยทาคุมิ” ผมหันไปหาทาคุมิเพื่อขอเสียงสนับสนุน หมอนั่นสะดุ้งแล้วทำหน้าเหวอ

    “อะ เอ่อ ใช่ฮะๆ คือมีรายงานคู่ที่ผมกับมาซาโตะยังไม่ส่งเลยต้องรีบทำให้เสร็จน่ะฮะ ^-^;;” ปาดเหงื่อสักนิดก็ดีนะเพื่อน -_- นายโกหกโคตรแนบเนียนเลยหว่ะ -O-

    พ่อหันมามองหน้าผมและมองหน้าทาคุมิอีกที “จริงเหรอทาคุมิคุง?

    “นะ แน่สิฮะ!! ^__^;;

    มองดูก็รู้ รอยยิ้มซีดๆ ของหมอนี่ชัดๆ ทาคุมิสบตากับผมอย่างลำบากใจที่ต้องให้โกหก ทำไมคนที่พาผมไปถึงโกหกได้ไม่แนบเนียนเท่าผมล่ะ =_=;

    “แล้วจะกินข้าวก่อนไปหรือเปล่ามาซาโตะ”

    “ครับ”

    “เอ้อ วันนี้พ่อกลับบ้านดึกหน่อย ลูกจะกลับประมาณกี่ทุ่มเหรอ”

    ผมเหล่มองนาฬิกาในห้องครัว ตอนนี้สี่โมงครึ่งแล้ว แล้วไอ้คลับนั่นมันเลิกงานกี่โมงกันล่ะ -_-a “ไม่รู้สิครับ แล้วแต่งานจะเสร็จเมื่อไหร่”

    “แต่พ่อจะกลับบ้านประมาณตีสองตีสาม เพราะวันนี้ไปพบรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ เลยต้องฉลองกันนิดหน่อย” พ่อยิ้มให้ผมแล้วหันไปสนใจกับหม้อต้มอะไรสักอย่าง ผมลากทาคุมิเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร

    “ให้ตายเถอะ รู้สึกผิดจัง (‘ ‘)”

    “งั้นฉันไม่ไปก็ได้นะ” ผมพึมพำ

    “มะ ไม่ได้นะเฟ้ย! นายสัญญากับฉันแล้วนะเพื่อนรัก” ทาคุมิครวญคราง

    “แล้วจะกลับกี่ทุ่มล่ะ”

    “พ่อบ้านบอกว่ากลับตีสองตีสามใช่มะ ร้านเปิดตอนทุ่มนึง เลิกงานก็ตอนตีหนึ่ง งั้นน่าจะทันมั้ง ^^a” ทาคุมิจัดแจงเวลาให้ผมเสร็จสรรพ

    ทีงี้ละคล่อง พอเวลาให้โกหกล่ะพิรุธออกเชียวนะเอ็ง

    “มาซาโตะ ทาคุมิคุง กินข้าวกันเถอะ” พ่อร้องเรียก ทาคุมิรีบวิ่งไปก่อนผม แต่พอจะถึงห้องครัว หมอนั่นให้ผมเดินนำซะงั้น

    “ฉันเป็นเพื่อนนาย เดินเข้าไปก่อนได้ไง น่าเกลียด >_<*

    “อ้อ เหรอ -O-

    แต่ก็แค่วิ่งมาก่อนเท่านั้นเอง ไม่น่าเกลียดเล้ยยยย~

    “มีอะไรกินมั่งเหรอครับพ่อ”

    โต๊ะของบ้านผมมีเก้าอี้สี่ตัว ผมนั่งฝั่งตรงข้ามกับพ่อและนั่งข้างๆ กับทาคุมิ ทาคุมิร้องว้าวออกมาเมื่อเห็นอาหารที่พ่อทำ

    “กะ กุ้งชุบแป้งทอด >O<! อ๊ากกก ซุปสาหร่าย ข้าวหน้าหมูทอด ปลาซาบะราดซอสโชยุ O.,O ฉันมากินข้าวบ้านนายทุกวันได้มั้ยเนี้ย”

    “ทานให้อร่อยนะทาคุมิคุง”

    “ขะ ขอบคุณครับฟูจิซาวะซัง >_<

    ไม่มีปฏิเสธเลยนะเว้ยไอ้ทาคุมิ...

    ผมเริ่มลงมือทานอาหารเย็นของพ่อ พ่อและผมอยู่บ้านกันตามประสาผู้ชายซึ่งไม่มีแม่คอยอยู่ ตอนแรกก็วุ่นๆ ที่ต้องผลัดกันมาทำอาหารเย็น แต่พ่อก็เริ่มเปิดเมนูอาหารและทำมันเรื่อยๆ จนเริ่มคล่อง จึงให้ผมทำอาหารเช้าและพ่อทำอาหารเย็นแทน เพราะพ่อกลับถึงบ้านก่อนผม

    กว่าจะกินมื้อเย็นเสร็จก็เกือบจะหกโมง พวกเรารีบวิ่งไปบ้านของทาคุมิก่อนเพื่อเตรียมเสื้อสูทและแปลงโฉมให้ตัวเองดูอายุยี่สิบปีขึ้นไป หลังจากนั้นพวกเราก็ต้องรีบวิ่งไปที่คลับบ้านั่นอีก ดีนะที่มันไม่ไกลจากบ้านของทาคุมิเท่าไหร่ แต่ระหว่างบ้านของผมกับหมอนั่นน่ะมันคนละทางเลยนะเฟ้ย! เหนื่อยชะมัด แฮ่กๆๆ

    “หล่อยังวะเพื่อน ^O^” ทาคุมิคลี่ยิ้มแล้วจับเนคไทตัวเองให้ตรง มันสำรวจตัวเองเสร็จสรรพก็หันมามองผม “ฉันว่าเนคไทนายเบี้ยวนิดๆ หว่ะ”

    แล้วมันก็ขยับให้ผมเสร็จสรรพ -_-

    “แล้วพวกเราจะเข้าไปยังไง”

    ทาคุมิเอานิ้วชี้มาแตะที่ปากทำท่าจุ๊ๆ แล้วบอกว่า อย่าห่วง ก่อนจะล่วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาสองใบนั่นคือบัตรพนักงานประจำคลับนั่นเอง

    พวกเราเดินเข้าไปอย่างสบายใจและเข้าไปในห้องพักพนักงาน เหมือนว่าทาคุมิจะเคยมาแล้ว เพราะหมอนี่เดินนำซะคล่องเลย ให้ตายเถอะ -*- ไอ้ตอแหล ไหนบอกมาครั้งแรกไง แถมยังมีการทักคนนู่นคนนั้นประปรายอีก น่าถีบสักโครมเหลือเกิน

    เฮ้ ทาคุมิคุง เสียงนั้นดังขึ้นทำให้ทาคุมิหันขวับไปมองโต๊ะกลุ่มหนึ่งที่มีชายหญิงรวมๆ กันแล้วห้าคน ผมมองผ่านคร่าวๆ มีผู้หญิงตั้งสามและผู้ชายอีกสอง ผู้ชายสองคนนั้นนั่งหันหลังให้ซะด้วยสิ แต่ทำไมผมคุ้นๆ กับแผ่นหลังของทั้งสองคนจังเลยนะ

    ไปกันเถอะมาซาโตะจัง หมอนั่นคว้ามาจับมือผม

    เฮ้ย ลวนลามเหรอวะ ผมยักคิ้วอย่างกวนๆ

    แต่ทาคุมิไม่สนใจรีบเดินลิ่วๆ แต่มือยังจับผมอยู่ ฮะ เฮ้ย อะไรของหมอนี่วะเนี้ย

    สวัสดีครับยาเนะซัง และเพื่อนๆ ของยาเนะซัง ^_^ เรียกผมว่าทาคุมิก็แล้วกัน ส่วนนี่ก็มาซาโตะ เพื่อนผมครับ ^^;” ทาคุมิแนะนำเริ่มด้วยรอยยิ้มกว้างที่ดูเป็นมิตรและมีเสนห์มากมายจนเหลือล้นและกระแทกจนผู้หญิงโต๊ะข้างเคียงพากันมองด้วยสายตาหยดย้อย อะไรมันจะปานนั้น =_=;

    สวัสดีทาคุมิคุง แล้วก็มาซาโตะคุงนะจ๊ะ ฉันชื่อยาเนะ เธอมีผมสั้นสีน้ำตาล แต่งตัวดูเหมือนสาวเปรี้ยว เธอหันไปทางเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนและชี้เรียงตัว

    นี่คือคาริน เธอชี้เพื่อนที่อยู่ใกล้สุด ท่าทางดูเรียบร้อยเหมือนคุณหนูบอบบาง ส่วนยัยนี่ชื่อสึกิยะ และคนสุดท้ายคือสาวมั่นที่ดูห้าว

    จริงสิ…” เธอร้องครางแล้วชี้ไปทางผู้ชายอีกสองคน เพื่อนของฉันอีกสองคนคือ คามิยะคุงกับกับรุ่นพี่ทาคิฟุมิจ้ะ ^^”

    เอ๋คามิยะ คุ้นๆ แฮะ -_-;

    แต่ไอ้ทาคิฟุมินี่ยิ่งคุ้นเข้าไปใหญ่มันคล้ายกับชื่อของ

    มาซาโตะ O_o!” เสียงร้องดังขึ้นทำให้ผมหันไปทางต้นเสียง

    เสียงที่แสนคุ้นเคย

    ใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคย

    ทรงผมแบบนี้

    และแผ่นหลังอย่างนี้

    นะ นี่มัน…OoO

    พ่อ!! อาจารย์ซาซากิ!!”

    ผมตกตะลึงไม่แพ้กับทาคุมิที่เพิ่งเหลือบไปเห็นจนผงะแทบจะเซถอยหลังจนล้ม พวกเราทั้งสองเผลอชิดกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ นะ นี่มันอะไรกันวะ? พ่อกับอาจารย์ซาซากิรู้จักกันงั้นเหรอ O_O แถมยังมาคลับด้วยกันอีก

    แกคิดเหมือนฉันหรือเปล่าวะบีหนึ่ง…-O-;” ทาคุมิกระซิบ

    เริ่มอยากจะคิดเหมือนแกแล้วหว่ะบีสอง -O-;;” ผมถอนหายใจปลงๆ

    ถึงคราวซวยของพวกเราแล้วแหงๆ U_U” ผมและทาคุมิกระซิบพร้อมกัน

    ฟูจิซาวะ มาซาโตะกับทาคิโมโตะ ทาคุมิงั้นเหรอฉันจำได้ว่าโรงเรียนห้ามให้นักเรียนรับจ้าง ทำงานพิเศษหรือพาร์ทไทม์ไม่ใช่เหรอ…” ครูซาซากิพึมพำและหัวเราะในลำคอ ผมชักหวาดหวั่นกับเสียงหัวเราะนั่นอย่างประหลาด

    เอ๋ พวกเธอรู้จักกันด้วยเหรอ O_O?” ยาเนะซังที่เริ่มงุนงงก็โพล่งขึ้น

    ขอแนะนำอีกทีแล้วกันนะครับ นั่นคือพ่อของผมเอง นั่นฟูจิซาวะ มาซาโตะ ลูกของผมเองครับ

    หา ลูกของรุ่นพี่เหรอคะ O_O;;” เธอตกตะลึง รวมทั้งเพื่อนอีกสองคนก็เช่นกัน

    น่ารักจังเลย >_<” คารินซังแทรกขึ้นแล้วส่งยิ้มให้ผม

    ส่วนอีกคนทาคิโมโตะ ทาคุมิ เป็นลูกศิษย์ในชมรมของผมครับ อาจารย์ซาซากิพูดจบก็ถอนหายใจแล้วมองหน้าพวกเราสองคนสลับไปมาก่อนจะหันไปทางพ่อเหมือนปรึกษาว่าจะเอายังไงดี

    พ่อเองก็ส่ายหน้าน้อยๆ แล้วลุกขึ้น ฮะ เฮ้ย -O-! ลุกไม่พอดันคว้าแขนของผมไปนี่สิ อ๊ากกก พ่อจะจับผมไปฆ่าหรือเปล่าเนี้ย T__T มะ แม่จ๋า ชะ ช่วยลูกด้วยยย

    ตึกๆๆๆ

    ช้าๆ หน่อยสิครับพ่อ ขาผมจะพันกันแล้วนะ T_T” ผมร้องและพยายามดึงพ่อเอาไว้ให้ช้าลง จนในที่สุดพ่อก็หยุดอยู่ตรงหน้าห้องน้ำงั้นเหรอ -*-

    ทำรายงานกับทาคุมิคุงงั้นเหรอ หึ…!”

    เอื้อก -O-;;

    ทำไมรอยยิ้มพิฆาตของพ่อถึงได้ดูแม่ที่อยู่บนสวรรค์คร้าบบบ! พ่อจะฆ่าผมม้ายยย T{}T  ฮึกๆ ฮือออ~

    เอ่อ -_-;;”

    มาทำรายงานกันถึงที่คลับเลยเหรอ แถมยังอายุไม่ถึงยี่สิบอีกต่างหาก ให้ตายเถอะ นี่ลูกทำอะไรรู้ตัวบ้างมั้ย!!” เขาเริ่มตวาดจนผมสะดุ้งอย่างตกใจ

    จะเรียกว่าเป็นครั้งแรกก็ได้ที่เขาตวาดใส่ผมแบบนี้

    เขาจ้องหน้าผมอย่างเข่นคำตอบ ทำไมถึงต้องโกหกพ่อ ทำไมถึงต้องมาทำงาน หรือเงินที่พ่อให้มันไม่พอ?” เขาถอนหายใจแรงๆ นั่นทำให้ผมรู้สึกใจหายเพราะเสียงของเขาเหมือนจะแหบลงเรื่อยๆ จนไม่อยากจะพูดอะไร

    พ่อจ้องหน้าผมนิ่ง ผมจ้องพ่อกลับได้เพียงไม่กี่นาทีก็ต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

    ผมขอโทษครับ ผมยอมรับผิด

    ทำไมถึงได้มาที่นี่ บอกพ่อมานะ เขาขึ้นเสียง หากแต่ไม่ใช่ตวาดเหมือนตอนแรก ผมนิ่งและไม่กล้าเงยหน้ายอมรับผิด

    ผมผิดเอง ไม่เกี่ยวกับทาคุมินะ เขาแค่มาทำงานแล้วผมขอตามมาด้วย ผมแก้ตัวแทนหมอนั่น ถ้าพ่อรู้ว่าทาคุมิชวน พ่ออาจจะให้ผมเลิกคบกับหมอนั่นก็ได้ ใครจะไปยอมฟะ! คบกันมาเป็นปีแต่เลิกกันเพราะเรื่องแบบนี้

    พ่อจะไม่บอกว่าใครผิด แต่ลูกควรเอาไปวิเคราะห์ต่างหากว่ามันดีหรือเปล่าที่มาที่นี่ พ่อพูดด้วยเสียงที่อ่อนแรงลง

    ผมขอโทษครับ…” เสียงของผมก็อ่อยเช่นกัน ผมแทบจะพูดไม่ออกด้วยซ้ำ

    แล้วจะกลับเมื่อไหร่ พ่อถามขึ้น

    ตอนร้านปิดครับ

    ทำกี่วัน

    แค่วันนี้วันเดียวครับ

    งั้นเหรอ…” เขาพึมพำเบาๆ

    เอ่อพ่อครับ

    หือ?” พ่อเลิกคิ้วและก้มลงมองผม

    พ่อไม่โกรธเหรอ

    เขามองผมด้วยความงุนงง พ่อจะโกรธลูกทำไม

    ก็ที่ผมแอบมาทำงาน…”

    ไปบอกขอโทษเจ้าคามิยะดีกว่ามั้ง หมอนั่นมันครูที่โรงเรียนของลูกไม่ใช่เหรอ

    จริงด้วย O_O ตามที่พ่อบอก ตอนนี้เจ้าทาคุมิอยู่กับอาจารย์ซาซากินี่หว่า O_o ซวยแล้วไง สู้ๆ นะว้อย มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้นะทาคุมิ อย่าเพิ่งยอมแพ้ >_<;;

    พ่อว่าอาจารย์ซาซากิเขาจะบอกโรงเรียนหรือเปล่าครับ ผมโพล่งถามขึ้นเมื่อเราสองคนกำลังจะเดินกลับโต๊ะ

    ไม่รู้สิ ลองขอดูแล้วกัน เดี๋ยวพ่อจะช่วยอีกแรง พ่อพูดแล้วกลั้วยิ้มบางๆ แบบที่ชอบทำตลอดเวลา

    พ่อครับ…”

    หือ?”

    ขอบคุณนะครับที่ไม่โกรธ ผมยิ้มกว้างบอกแล้วเดินเข้าไปเดินใกล้ๆ พ่อ

    แน่นอน! ใครจะโกรธลูกได้ลง พ่อยีหัวผมแรงๆ จนผมแทบยุ่ง อ๋อย +_+ พ่ออย่าเล่นอย่างงี้สิ ผมก็ต้องจับทรงผมใหม่กันพอดี =[]=!

    พอถึงโต๊ะผมก็เห็นทาคุมินั่งข้างในโดยมีครูซาซากินั่งข้างนอก ผมเลยต้องนั่งข้างในใกล้ๆ กับทาคุมิและพ่อนั่งข้างๆ ผม

    มีอะไรกันหรือเปล่าวะ ทาคุมิหันมากระซิบแล้วขมวดคิ้ว

    เปล่าหรอก ไม่ต้องห่วง พ่อเข้าใจแล้ว ผมบอก นั่นทำให้ทาคุมิถอนหายใจอย่างโล่งอก

    ขอโทษทีนะเว้ย T_T” ทาคุมิพูดเสียงสลดอย่างเห็นได้ชัด

    แล้วครูซาซากิล่ะ ได้คุยกะเขาเปล่า ผมเหลือบไปมองครูซาซากิ เหวอ! เขาจ้องเขม็งผมกลับด้วย ผมรีบเบือนหน้าหนีออกไปทันที ฮู่ว์! ตอนนี้ผมกำลังทำผิดนะ ผมไม่กล้าจ้องหน้าอาจารย์ตรงๆ หรอก ถึงจะหล่อเลิศแค่ไหนก็เถอะ!

    ก็นะ คุยกันแล้วเหมือนกันแหละน่า -__- เคลียร์เรียบร้อย =w=” ทาคุมิกระซิบบอก ทำให้ผมโล่งใจไปอีกเปราะ แสดงว่าพ่อกับอาจารย์ก็หมดห่วงแล้วสินะ!

    แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อดีวะ ผมกระซิบถามทาคุมิ

    ไหนๆ ก็ไม่มีเรื่องแล้ว อยู่ต่อสิวะ จะได้ไปเอาเงินกับเจ้าของร้านก่อน >O<” ทาคุมิยิ้มร่าเริง อ้าว ไอ้นี่ไม่เข็ดอีก -_-^ ขอเตะสักเปรี้ยงได้ป่ะ! เกือบพาผมซวยแล้วไง!

    เอาน่า~ อยู่ต่ออีกสักพักดีกว่านะเพื่อนรัก ใช่มั้ยครับยาเนะซัง ฟูจิซาวะซัง +_+ ให้มาซาโตะอยู่ที่นี่ต่อได้มั้ยครับ??” ทาคุมิหันไปหาพ่อและยาเนะซังด้วยสายตาอ้อนวอนและวิงวอน มีประกายปิ๊งๆ อยู่ในแววตา น่าขนลุกหว่ะ -O-;

    นั่นสิ อยู่ต่อเถอะนะ คนเยอะสนุกดีออก ใช่มั้ยคาริน ซึกิยะ ^^”

    ได้ใช่ไหมคะรุ่นพี่ทาคิฟุมิ คามิยะคุง ^^” คารินซังถามอีกสองคนที่เหลือ

    ค้านสิครับ ผมจะได้รีบกลับ!

    ผมยังไงก็ได้ ถามรุ่นพี่ทาคิฟุมิดีกว่า อาจารย์ซาซากิโบ้ยราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ทั้งๆ ที่ตอนนี้เด็กนักเรียนตัวเองกำลังแหกกฎเนี้ยนะ -__-;

    ถามมาซาโตะดีกว่าว่าอยากอยู่หรือเปล่า อ้าว เฮ้ย พ่อก็โบ้ยมาทางผมอีกแล้วว่ะ =__= งั้นผมต้องปฏิเสธสินะ!

    ผมว่าผมจะ…”

    อยู่ต่อครับผม ^___^”

    เฮ้ยยยย!!? เสียงนี้มัน

    “=[]=!!”

    ไอ้ทาคุมิ๊!!!!!!!!

    ใช่มั้ยวะเพื่อน ^O^”

    ยังจะมาทำยิ้มระรื่น ไอ้บ้าเอ๊ย -__-^

    ครับ ผมอยู่ต่ออีกสักพักค่อยกลับก็ได้ครับ

    เห็นมั้ยครับ ทาคุมิระริกระรี้เหลือเกินและเริ่มเหล่ไปทางคารินซัง เอ๊ะ เหมือนว่าคารินซังจะสเป็กของไอ้ทาคุมินี่หว่า คุณหนูบอบบางดูอ่อนต่อโลก อายุมากกว่าและดูน่าถนุถนอม เหอะๆๆ เยี่ยมจริงๆ

    แล้วตกลงว่าฉันก็จ้างโฮสต์คลับมาเก้อน่ะสิ ยาเนะซังพึมพำอย่างเสียดาย

    เอ๋ ทำไมล่ะ ไม่จ้างผมเหรอ ทาคุมิกดเสียงให้เล็กลงดูออดอ้อนน่าถีบ

    แต่เธอยังอายุไม่ถึงสิบแปดด้วยซ้ำ ยาเนะซังอ้างขึ้น

    แต่ผมรับงานมาแล้วนี่นา ทาคุมิยังคงโน้มน้าวเพื่อหวังจะเอาตังค์ อย่าให้มันหลอกเด็ดขาดนะครับ ยาเนะซัง!

    คารินซังกับซึกิยะซังคงจะจ้างผมนะครับ ไม่งั้นผมก็คงไม่รู้ว่าผมมาทำไม T__T” มันเริ่มเบะปากเหมือนจะร้องไห้ โอ๊ย! ไอ้ตอแหลลล

    “นั่นสิเนอะ จ้างเขาเถอะนะ น่าสงสารออกค่ะยาเนะจัง T__T” คาริน

    อย่าไปเห็นใจมันสิ!!

    “ถ้ายาเนะไม่จ้าง งั้นฉันจ้างเองก็ได้!” เสียงมาดมั่นแบบนี้คงเป็นใครไม่ได้นอกจากซึกิยะซัง เฮ้ย ประทานโทษ ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้มันหันมาทางผมพร้อมรอยยิ้มแห่งชัยชนะ ดูยังไงก็เสแสร้งชัดๆ!

    มันเอื้อมมือมาคล้องคอผมแล้วโบกมืออีกข้างเรียกพนักงานเสิร์ฟ “น้องๆ เอาเบียร์มาเพิ่งอีกขวดเลยครับ”

    “เฮ้ย เดี๋ยวดิทาคุมิ แล้วใครจ่ายวะ”

    “พ่อแกไง ^_^” มันกระซิบข้างหูผมจนรู้สึกเสียววาบๆ

    “หา...แกกินแล้วเกี่ยวอะไรกับพ่อฉัน!?

    “แกกับฉันกิน พ่อที่ไหนจะให้ลูกจ่ายวะ แถมฉันเป็นเพื่อนลูกอีก โชคดีชะมัด!” แล้วมันก็รับเบียร์ที่มาเสิร์ฟพร้อมกับรินให้ซึกิยะซังและยาเนะซัง

    อะ ไอ้เวรเอ๊ย...ประจบสอพลอ! ตอแหล! ไอ้เจ้าเล่ห์! ทีงี้ละทำได้ แต่แค่ให้โกหกยังเจือกทำสีหน้ามีพิรุธให้เขาจับได้ อยากฆ่าคนว้อยยย

    “ผมว่าคารินซังน่าจะดื่มน้ำส้มนะ เดี๋ยวผมสั่งให้เอามั้ยครับ??” ทาคุมิยิ้มให้คารินซัง เจ้าหล่อนก็ยิ่งยิ้มตอบและไม่ได้พูดอะไรหรือปฏิเสธ เฮ้ย หรือว่าหลงเสน่ห์ทาคุมิแล้ววะเนี้ย -*- เทพเกินไปป่ะ! คุยกันยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ

    “ว้าว ฉันว่าคารินจะต้องหลงชอบทาคุมิแล้วแหงๆ” จู่ๆ ยาเนะซังก็แทรกขึ้น ตามมาด้วยเหล่ไปมองคารินซังทั้งแก๊ง ตอนนี้คารินซังทำหน้าเขินอายซะ...

    “เป็นอย่างงั้นจริงก็ดีสิครับ” ทาคุมิก็คลี่ยิ้มเขินนิดๆ

    แกตั้งใจหว่านเสน่ห์แล้วจะเขินทำไมวะ

    “ใช่มั้ยละ คามิยะคุง” ยาเนะซังและซึกิยะหันไปทางอาจารย์ซาซากิ

    “ผมก็ไม่รู้สิครับ J” อาจารย์ซาซากิยิ้มออกมา

    ผมกินเบียร์กับทาคุมิ รวมทั้งไวน์ประมานสองขวดที่มันสั่งมาแล้วพอก่อนจะออกพ่อผมก็จ่ายจริงๆ ซะด้วย -__- มันคำนวณเรียบร้อยและทาคุมิก็อาสาไปส่งคารินซัง ซึกิยะซังและยาเนะซังกับกันสองคน ซึ่งอาจารย์ซาซากิกลับคนเดียว ผมเริ่มเมาจนแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว ให้ตายเถอะ เพราะไอ้บ้าทาคุมิแท้ๆ ยัดเหล้าเข้าปากเอาอยู่ได้

    “รุ่นพี่ครับ แน่ใจเหรอว่าจะไปส่งกันสองคน แต่ผมว่ารุ่นพี่ก็เมานิดๆ แล้วนะ” เสียงของอาจารย์ซาซากินี่นา เขาคุยกับใคร เอ๊ะ เสียงใกล้ๆ ผมซะด้วย

    “อื้อ ก็ฉันเป็นพ่อเขานี่นา ก็ต้องทำหน้าที่ให้สมกับเป็นพ่อ”

    “แล้วมิซาโกะซังละครับ?” เขายังคงถามต่อ แต่คำถามนั้นทำให้ผมนิ่ง

    ความเงียบรอบๆ ทำให้บรรยากาศเริ่มอึดอัด ผมรู้สึกได้ถึงแรงกดเล็กๆ ที่ข้อแขนที่พ่อผมจับเพื่อพยุงแขนผมให้พาดคอของพ่อ

    เขาถามถึงแม่งั้นเหรอ...?

    “เธอเสียแล้วแหละครับ...เมื่อห้าปีก่อน” พ่อตอบเสียงเบาหวิวจนผมสังเกตุได้ ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่อยากจะสังเกตุทั้งสีหน้าและเสียงของพ่อและอาจารย์ซาซากิ

    “งะ งั้นเหรอครับ...” เสียงของเขาดูอึ้งไม่น้อย “งั้นผมกลับบ้านก่อนดีกว่า เดินทางกลับดีๆ นะครับรุ่นพี่”

    “อื้อ แล้วเจอกัน” พ่อพูดแล้วเดินไปอีกทางพาผมกลับบ้าน เฮ้ แต่ผมอยากขึ้นแท็กซี่กลับบ้านมากกว่านะ! ทำไมต้องเดินด้วยเล่า

     

    แอ๊ด

    ทาคิฟุมิกำลังลากลูกชายต่างสายเลือดขึ้นไปบันได ช่างยากลำบากยิ่งนัก เขาเดินผ่านห้องตัวเองและไปห้องของลูกชายที่อยู่ด้านในสุดก่อนจะพาร่างสูงของลูกชาย (ที่สูงน้อยกว่าเขา) วางทิ้งไว้บนเตียง

    เมื่อเช้าเขาก็มา...เขาเหลือบไปมองกรอบรูปที่วางไว้บนโต๊ะเล็กๆ ทางขวามือของเตียง มันคือภาพของมิซาโกะกับมาซาโตะที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข

    เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อมองเห็นภาพนี้ สายตาของเขายังคงมองมิซาโกะด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มบางๆ ที่ดูเศร้า

    พี่มิซาโกะ...ผมดูแลลูกพี่ดีหรือเปล่า?

    พี่ภูมิใจมากแค่ไหนที่ผมดูแลลูกพี่ให้โตแบบนี้

    ขอบคุณครับพี่มิซาโกะนะครับ ที่มอบมรดกของพี่ให้ผม

    ให้ผมได้สัมผัสถึงคำว่า ครอบครัว ...

     

    “อืมมม” ผมร้องครางเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างมาโอบร่างของผม โอ๊ย อึดอัดนิดๆ ว่ะ ผมกระชากผ้าห่มออกแล้วค่อยๆ ขยี้ตา พยายามลืมตาขึ้นเพราะแสงสว่างที่ส่องมาจนผมแทบลืมไม่ขึ้น

    ติ๊ดๆๆๆๆๆ

    ไอ้นาฬิกาบ้าก็ดังขึ้นทำให้ผมรีบเอื้อมมือไปปิดผม แต่ตอนที่ผมกำลังจะไปปิด...

    “โอ๊ย!

    ศอกของผมกระแทกกับอะไรวะ O_O

    ปิ๊บ

    ผมสะดุ้งจนมือไปกระแทกกับนาฬิกาจนมันตก เฮ้ย...

    ตุบ

    เวรเอ๊ย อย่าพังจนผมต้องซื้อใหม่นะ T^T

    “อืมมม” เสียงครางดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้งแรงๆ

    แน่สิวะ! ก็มันไม่ใช่เสียงครางของผมนี่!! ผมกระชากผ้าห่มออกเผยให้เห็นใครบางคนที่ผมแสนคุ้น เขากำลังกอดผมและนอนยิ้มเหมือนฝันเรื่องดีๆ เอาไว้ ผมขยี้ตาแรงๆ เพื่อให้ตื่นขึ้น เพราะมันอาจจะเป็นความฝัน ตื่นๆๆ ตื่นสิวะ!

    แต่

    ใช่ มันคือความจริง!!!

    ผู้ชายคนนั้นเริ่มตื่นจากแรงที่ผมสะดุ้ง เขาเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะยิ้มบางๆ ให้ อา...อรุณสวัสดิ์มาซาโตะ

    เฮือกกกก...

    สะ เสียงทุ้มแบบนี้

    สีผมแบบนี้

    ดวงตาสีเทาที่มักมองผมแบบนี้

    มะ ไม่จริงง่ะ...

    อ๊ากกกกกกกก!!!!!”

    นี่มันพ่อผมนี่...!!!

    พลั่กกกกก!!!

    ทำไมเหมือนเหตุการณ์มันเดจาวู* !!!!!????

     

    *เดจาวู (Deje vu) เกิดเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น หรือรู้สึกว่าเกิดขึ้นซ้ำ

     

    ........................................................

     

    เเฮ่กๆๆ เย้ >_< หมดตอนแรกในที่สุด ว้าววว >_< เจอคำผิดฝากบอกกันมั่งนิดนึง ติ วิจารณ์ได้เต็มที่ค่ะ ^^; อาจจะไม่หนุก พยายามเขียนให้ดราม่าระหว่างพ่อกับลูก ลูกเข้าผับ บาร์ พ่อแม่เสียใจป่าววะ TOT คนเขียนยังไม่รู้เพราะไม่เคยเข้าซะด้วยสิ -_-;

    เรื่องราวค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อน (ขนาดนั้นเชียว -_-;) ระหว่างพ่อ (เลี้ยง) กับลูก (เลี้ยง) และจะมีปมซ่อนเงื่อนอีกมากมายที่ค่อยๆ เฉลย >O<

    ฝากติดตามต่อด้วยนะค้า *O*

     



    UPDATE 100% :))

    ครั้งที่ 1 ; 25 / 10 / 2553 [ยี่สิบสี่นาฬิกา ยี่สิบหกนาที]


    ขอบคุณธีมสวยๆ : ))

    the smile

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×