ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] SuG 39 Cafe' Fic

    ลำดับตอนที่ #3 : 003 : I shouldn't love... (Uruha X Masato)

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 53


    เอ่อ....

    อย่าเพิ่งกระทืบ Writer -*-

    ไม่ได้เขียนชื่อคู่ผิดนะ แต่มันเป็นแบบนี้จริงจริ๊งงงงง


    ไปอ่านกันเลยเหอะ....
    .
    .
    .


    I shouldn't love….
     
    (Uruha & Masato)
     
    คุณจะรู้มั้ยนะ........
     
    ว่าผมแอบชอบคุณอยู่
     
    มัตตันมีคนที่ชอบแล้วเหรอ....... ใครอ่ะ ทาเครุพูดขึ้นทันทีที่ผมแค่พูดว่า จะส่งให้ใครดีน้า~~~” หมอนี่ต้องรู้แน่ๆเลยว่า ผมก็ทำเป็นพูดไปงั้นเอง จริงๆผมคิดอยู่แล้วล่ะว่าจะส่งให้ใคร
     
    แต่ผมไม่อยากบอก
     
    กลัวว่าถ้าบอกไปแล้วทุกคนจะไม่เชื่อ
     
    งาน Love Scream Party ที่จัดขึ้นในวันนั้นผมยังจำได้ดีเลย ก่อนหน้านั้นมีจัดเกมส์อะไรแปลกๆขึ้น ส่งของขวัญให้กับบัดดี้ โดนบัดดี้นั้นคือคนที่เราชอบ
     
    ผมเองก็ส่งไปตามเกมส์ที่พวกเพื่อนๆในวงส่งกันนั่นแหละ ส่งให้คนโน้นบ้างคนนี้บ้าง คนในวงตัวเองบ้าง
     
    และก็ส่งให้ใครสักคนหนึ่ง.... ซึ่งเขาเองคงไม่อยากรู้หรอกว่าใครเป็นคนส่งให้
     
    ของใครกันเนี่ยหวานแหววเชียว ผมได้ยินคนๆนั้นบ่นๆอะไรสักอย่าง พร้อมกับของขวัญกล่องเล็กๆที่ผมเป็นคนส่งไปให้ สีสันงี้เยอะเชียว.....
     
    มีคนส่งมาให้นายก็ดีแล้วน่า......
     
    ของนายรึเปล่ารูกี้ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ชอบสีหวานแหววแบบนี้ !!!”
     
    ไม่ได้ส่งให้โว้ย~~~~” ท่าทางเหมือนเค้าไม่ชอบยังไงก็ไม่รู้แฮะ ผมถึงกลับรู้สึกหงอยๆนิดๆพอได้ยินแบบนั้น
     
    เค้าคงไม่ชอบผมสินะ
     
    ได้ยินเหมือนกันว่าคนที่คนๆนั้นชอบคือนักร้องนำของวงตัวเอง
     
    นั่นสิ.... เค้าคงไม่ชอบผมหรอก
     
    พอเข้าสู่งานฉลองคริสต์มาส เกมส์ก็มีต่อว่าปิดไฟในงานทั้งหมด แล้วให้แต่ละคนไปบอกรักคนที่ตัวเองชอบ.... โอเค ผมรู้ล่ะว่าหลายคู่ที่แอบชอบๆกันอยู่ก็สมหวังไปแล้ว
     
    แต่ผมไม่คิดจะเล่นเกมส์ตามนั้นหรอก
     
    รู้คำตอบอยู่แล้วว่ามันคงเป็นไปไม่ได้
     
    ทำไมน่ะเหรอ....
     
    ท่ามกลางบรรยากาศที่มืดมิด ได้ยินแต่เสียงอึกทึกครึกโครม ไอ้โน่นไอ้นี่ล้มกันไปบ้าง วุ่นวายกันไปหมด ผมได้ยินเสียงคนนั้น ลอยมาตามสายลม
     
    รูกิ.... ฉันรักนายนะ เพียงแค่นี้ ผมก็รู้หมดทุกอย่าง.......
     
    มีอุปสรรคหลายอย่างเลยสำหรับคู่นั้นที่ผมได้ยินมา ทะเลาะกันบ้าง ผิดใจกันบ้าง กว่าจะสมหวังกันได้ก็เกือบจะไม่ได้รู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง....
     
    เพื่อนร่วมวงของผมคู่นึงก็....... สมหวังไปแล้ว
     
    และตอนนี้ก็มีอีกคู่กำลังจะตามไป
     
    ก็คงเหลือแต่ผมนี่แหละ ที่ยังอยู่โดดเดี่ยว................
     
    ก่อนที่งานจะจบ ผมออกรับลมอยู่ที่ระเบียงเพียงคนเดียว.......
     
    ไม่มีใครอยู่ในละแวกนี้เลย......สักคน.......
     
    รู้สึกสงบดี
     
    ไง....... มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ.....มาซาโตะ ผมได้ยินคนๆนั้นทักผมขึ้น....... ผมหันไปหาเขาทันที เขาเดินมาคู่กับ.... คนๆนั้นที่เขาเลือกนั่นแหละ
     
    มาเดินรับลมเล่นน่ะครับ ^^” ผมก็ทักทายตอบกลับไปพร้อมกับสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ภายในใจของผม รู้สึกเจ็บปวดนะ..... ท่าทางพวกเขา 2 คนเหมือนมีความสุขกันดี
     
    อ้อ... งั้นฉันไปก่อนนะ ว่าแล้วก็เดินผ่านผมไปไม่สนใจผมอีกเลย......
     
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    นายไปไกลๆเลยนะ........ จิยุ ยูจิมือกีตาร์ร่วมวงของผมใช้แผ่นกระดาษเนื้อเพลงเป็นปึกๆตีหัวจิยุมือเบสของวงทันที่ที่รู้สึกเหมือนตัวเองโดนลวมลาม
     
    แค่นี้ทำไมต้องตีด้วย อีกฝ่ายว่าอย่างงอนๆ
     
    ทำไมนายไม่สูงขึ้นซะทีนะ... ให้อัดนมทุกวันแล้วแท้ๆ ได้ยินเสียงนักร้องนำบ่นมาอีกล่ะ
     
    ถ้านายสูงได้ ฉันก็สูงได้ล่ะ มือกลองตอบกลับมาพร้อมคำพูดที่เหมือนไม่ค่อยพอใจ
     
    เฮ้อ~~~~~” ผมถอนหายใจออกมาทันที ดูเพื่อนผมแต่ละคนสิ จะเรียกว่าสวีทกันรึกัดกันดีนะ..... น่าเบื่อจังเลยแฮะ.... ทำไมผมถึงไม่มีคู่แบบคนอื่นมั่งน้า~~~  
     
    เพิ่มสมาชิกใหม่อีกสักคนดีมั้ย ??
     
    ออกไปข้างนอกดีกว่า
     
    ผมคิดแบบนั้นทันทีและเปิดประตูห้องซ้อมออกไปทิ้งสมาชิกที่เหลือในห้อง..... คนเดินกันเพ่นพ่านไปหมดเลย ตั้งแต่พวกวิวิโดะ อลิศไนน์ รุ่นพี่วงเคระ
     
    เฮ้ย....... อุรุฮะกับรุกิเลิกกันแล้วว่ะ ได้ยินเสียงรุ่นพี่โทระพูดแว่วๆ อะไรนะเลิกกันแล้ว........
     
    จริงเหรอวะ ??” รุ่นพี่ซางะว่า.....
     
    เออ.... มันกำลังบ่นๆอะไรไม่รู้ที่ระเบียงคนเดียวนี่แหละ.... ไม่อยากไปยุ่ง เอ๋....... ว่าไงนะอยู่ที่ระเบียง
     
    ลองไปดูสักหน่อยดีกว่า
     
    ผมเดินไปตามระเบียงต่างๆทันที ผมพอรู้ว่าห้องซ้อมของวงกาเซทอยู่ตรงไหน
     
    และแล้วผมก็เจอ
     
    คนๆนั้นยืนเหม่อลอยอยู่ที่ระเบียง.....
     
    แต่เค้าคงรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครสักคนมองมา ก็เลยหันมามองผม....
     
    อ้าว....มาซาโตะคุง..... มาทำอะไรแถวนี้ล่ะ เขาทักทายผมเหมือนกับไม่มีอะไร แต่ผมรู้ ความเศร้าที่อยู่ในดวงตาลึกๆนั่น..... กำลังร้องให้อยู่สินะ.....
     
    ถ้าผมอยากจะเข้าไปปลอบใจ... ผมจะผิดหรือเปล่า
     
    ผ่านมาเฉยๆน่ะ...... อุรุฮะซังเป็นอะไรรึเปล่าฮะ...... ผมรีบถามขึ้นทันที ทั้งๆที่ใจจริงก็รู้คำตอบอยู่แล้ว...... อุรุฮะซังพอเห็นผมแบบนั้น เขาก็ค่อยๆเดินมากอดผม.....
     
    เศร้าน่ะ..... ฉันเลิกกับรูกิแล้ว..... เขาพูดเสียงสั่นๆเหมือนจะร้องให้ อ๊ะ.... ขอโทษนะ จู่ๆก็มากอดนายแบบนี้.... พอเหมือนเขารู้ตัวก็รีบผลักผมออกไปเบาๆ
     
    กำลังต้องการใครสักคนสินะ
     
    ไม่เป็นไรหรอกครับ.....ผมไม่ถือหรอก......
     
    ขอโทษ....ฉันกำลังเศร้าน่ะ เขาบอกผมพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าๆ..... ผมอยากไปปลอบใจนะ.... แต่ผมไม่รู้ว่ากำลังทำผิดอะไรรึเปล่า......
     
    ไม่เป็นไรหรอกครับ...... ผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง ผมจับมือเขาเบาๆ บ่งบอกให้รู้ว่าผมรู้สึกเป็นห่วงเขาจริงๆ
     
    อุรุฮะซังร้องให้ ก่อนที่จะเข้ามากอดผมอีกครั้ง.......
     
    ขอโทษนะมาซาโตะ....... เขาพูดพึมพำเหมือนคนร้องให้ ขอโทษนะ.....
     
    ข้างหลังนั่น.....ผมเห็นใครสักคนมองมาทางนี้ด้วยสายตาที่ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
     
    คนที่ควรจะขอโทษ คือผมสินะ ???
     
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    ฉันแค่คิดว่า...... เรตะกับรูกิกำลังมีใจให้กัน....ก็แค่โมโหน่ะ..... เขาระบายเรื่องที่อัดอั้นในใจออกมากับผม.... มันเป็นเรื่องเศร้านะที่ผมต้องมารับฟังปัญญาหาเรื่องความรัก กับคนที่ผมรักน่ะ.... อุรุฮะซังรักรูกิ เรื่องนี้ใครๆก็รู้ดี...
     
    แต่รูกิซังก็รักคุณไม่ใช่เหรอ  ผมว่าออกไป ใช่..... รูกิก็รักอุรุฮะซัง  มันถึงได้ลงเอยกันแบบนี้ไง ส่วนผมน่ะเหรอ คงเป็นได้แค่นี้สินะ......
     
    ฉันไม่รู้...... ฉันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจะจากฉันไป..... ฉันควรจะทำยังไงดี....  เขาดูเหมือนกำลังต้องการขอความช่วยเหลือจริงๆ แล้วผมควรทำยังไงดีล่ะ
     
    ควรจะทำยังไงดี
     
    “ถ้ารุกิรักคุณ เดี๋ยวเขาก็กลับมาหาคุณเองแหละ” ผมตอบกลับไป ใช่ แค่มีกาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ว่าจะไปอยู่ไกลกันถึงเกือบสุดขอบโลกก็ต้องกลับมาเจอกันได้อยู่แล้ว
     
    แต่คุณกับผม คงไม่มีวันนั้นหรอกใช่มั้ย
     
    “นั่นสินะ….. แต่ถ้าไม่มีวันนั้นล่ะ ถ้ารูกิไม่รักฉันล่ะ”
     
    “ไม่จริงหรอกครับ…. พวกคุณรักกันไม่ใช่เหรอ” ยิ่งพูดเหมือนในใจมันยิ่งเจ็บ ผมพูดว่ารักกัน คำว่ารักกันทั้งสองฝ่าย มันทำให้เจ็บปวด
     
    คุณจะรู้มั้ย
     
    ผมเจ็บปวดขนาดไหน
     
    ทั้งๆที่เจ็บปวด ทั้งๆที่ยิ่งพูดออกไปก็ยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกเจ็บ ทั้งๆที่ในใจกำลังร้องให้
     
    แต่ผมก็ยังคุยกับคุณ
     
    แค่ขอให้มีความสุข
     
    กับเขาคนนั้น แทนผม
     
    “นายนี่นิสัยดีจังนะ” เขามองหน้าผมและยิ้มให้ผมนิดๆ แต่รอยยิ้มนี้เหมือนกำลังจะบอกว่าเขายังสบายดีอยู่มากกว่าที่จะยิ้มให้แบบอย่างอื่น
     
    อย่ายิ้มให้ผมเลย
     
    ผมยิ่งเจ็บเข้าไปมากกว่าเดิมอีก
     
    “ขอบบคุณมากนะ มาซาโตะคุง” เขายิ้มให้ผมอีกครั้ง ก่อนที่จะมีใครสักคนเดินเข้ามา
     
    “รุฮะ…. ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย” แฟนของเขาเดินเข้ามาหาทันทีพร้อมกับทำตาละห้อย เศร้าๆ อุรุฮะซังที่นั่งอยู่กับผมไม่พูดอะไร เพียงแต่เดินจากไปพร้อมกับเขาคนนั้น โดยไม่หันมามองผมเลยสักนิดเดียว
     
    นั่นสินะผมไม่ใช่อะไรกับเขานี่นา
     
    ไม่ใช่เพื่อนร่วมวง
     
    ไม่ใช่เพื่อนสนิท
     
    แค่คนที่แอบรักเท่านั้น
     
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    “นั่นโบว์ของใครกันเนี่ย….” ได้ยินเสียงใครสักคนอีกครั้งในห้องซ้อมของกาเซ็ทโตะเมื่อผมจงใจเดินผ่าน “นายเอามาผูกอะไรกับกีตาร์ฉันวะ !!!” เสียงของอุรุฮะซัง
     
    ผมแอบมองเข้าไปในห้องนิดหน่อย อุรุฮะซังกำลังแกะโบว์สีเหลืองๆลายจุดที่ถูกผูกไว้กับกีตาร์ไฟฟ้า ท่าทางจะโดนคนอื่นแกล้ง
     
    “จำไม่ได้เหรอ โบว์ผูกผมที่ผูกมากับของขวัญนายตอนเล่นบัดดี้ไง” อาโออิซังว่า
     
    “บัดดี้ อ่อ ของคนที่ส่งมาให้บ่อยๆใช่มั้ย ของใครกันวะ”
     
    “ไม่รู้สิ…. สงสัยเป็นสต๊าฟผู้หญิงมั้ง” ท่าทางแต่ละคนพูดไม่ได้ใส่ใจอะไรมากแค่พูดไปตามที่คิด
     
    เขาวางโบว์ผูกผมนั่นลง แล้วก็ไม่ได้สนใจมันอีกเลย
     
    แต่ผมรู้สึกเศร้านะ
     
    ใช่…. ของขวัญพวกนั้น ผมเป็นคนส่ง
     
    แต่คุณไม่เคยรู้เลยสินะ…..
     
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    55555…. ว่าไงนะอาโอย…..” ได้ยินเสียงอุรุฮะซังหัวเราะมากับเพื่อนร่วมวงของเขาซึ่งสูงไล่ๆกัน ผมเองก็กำลังเดินสวนกับเขาพอดี “อ้าวว่าไงมาซาโตะคุง นี่รู้รึยัง ฉันคืนดีกับรูกิแล้วนะ
     
    ท่าทางพูดแบบร่าเริงเลยเชียว
     
    “โม้ไปทั่วเลยนะนายนี่” อาโอยซังหันไปว่าเล็กน้อย เหมือนหยอกล้อกัน
     
    “ฉันพูดจริงนี่…. ขอบใจนายมากล่ะ ฉันไปก่อนนะ” เค้าพุดพร้อมกับเดินผ่านไป ผมเองก็ได้แค่ยิ้มตอบเท่านั้น
     
    ยิ้มแบบฝืนยิ้ม
     
    เจ็บปวด….ทั้งๆที่รู้อยุ่แล้วว่าผมต้องออกมาเป็นแบบนี้
     
    วันนี้วันที่ยี่สิบห้า
     
    พรุ่งนี้วันที่ยี่สิบหก พฤษภาคม
     
    วันเกิดผม…..
     
    ไปปลดปล่อยซะหน่อยจะดีมั้ยนะ…..
     
    วันเกิดทั้งที….
     
    ในเมื่อความรักของผม มันไม่มีวันที่จะลงเอยได้อยู่แล้ว….
     
     
    วันต่อมา
    “วันนี้วันเกิดมัตตัน” ทาเครุนักร้องนำพูดขึ้นในห้องซ้อม ที่มีสมาชิกเกือบครบ มือกีตาร์ยูจิ มือเบสจิยุ มือกลองชินเป เหลือแต่ใครอีกคน
     
    “กี่โมงแล้วเนี่ย” ทาเครุถามขึ้น
     
    “อืม….เก้าโมงแล้ว” ชินเปหันไปดูนาฬิกาข้อมือ
     
    “ทำไมมัตตันมาช้าจังปกติมาตั้งแต่ก่อนแปดโมงแล้วไม่ใช่เหรอ”
     
    “นั่นสิ ช้าผิดปกตินะ” ทุกคนถึงกลับบ่นขึ้น เมื่อคนสำคัญของวงยังไม่มีโผล่หน้ามา ทั้งๆที่วันนี้วันเกิด “ลองโทรไปดูสิทาเครุ” จิยุว่า
     
    ทาเครุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนที่จะโทรออกไปหาหัวหน้าวงของพวกเขา
     
    แต่คำตอบที่ได้รับกลับมา กลับทำให้ทุกคนถึงกลับสับสน
     
    “ไม่รับโทรศัพท์อ่ะ” ทาเครุว่า ทุกคนถึงกลับตกใจ
     
    “เอ๋…. ทำไมล่ะ โทรติดรึเปล่า”
     
    “ไม่ติด มัตตันปิดเครื่อง”
     
    “หา…. ร้อยวันพันปีไม่เห็นมัตตันปิดเครื่องเลยนะ”
     
    “แล้วคนรอบคอบแบบนั้นก็ไม่ยอมปล่อยให้แบตหมดแต่เช้าแบบนี้แน่”
     
    “โทรไปที่ห้องมัตตันแล้ว ไม่รับโทรศัพท์เหมือนกัน….
     
    “ลองไปหาที่บ้านดูมั้ย” จิยุเป็นคนเสนอขึ้นมาทันที พวกเขาต่างพร้อมใจกันไปหาหัวหน้าวงของพวกเขาที่บ้านทันที แต่ไม่พบใครเลย
     
    “ประตูบ้านล็อก” ชินเปว่ามือยังคาอยู่ที่ลูกบิดประตู
     
    “ฉันมีกุญแจนะ มัตตันเคยให้ไว้น่ะ” ยูจิเอ่ยขึ้นทันที ก่อนที่จะเอากุญแจออกมาจากกระเป๋า “นี่ไง”
     
    “โอเค ฉันเข้าไปนะ” ทาเครุรีบเอากุญแจมาจากมือยูจิทันที ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
     
    เงียบ……..
     
    ทุกคนเดินเข้าไปในบ้านของมาซาโตะ ทุกอย่างเงียบกริบ ไม่มีอะไร 
     
    สายโทรศัพท์บ้านถูกปลดออก
     
    ทั้งๆที่ปกติมัตตันจะไปห้องซ้อมพร้อมกับกีตาร์ตัวโปรด
     
    แต่มันยังถูกวางไว้อยู่บนข้างเตียง….
     
    “มัตตัน….ไปไหนแน่ๆเลย” ทาเครุว่าอย่างน่าตกใจ “โดยไม่บอกพวกเรา”
     
    “ตายล่ะ
     
    เรื่องนี้ลุกลามไปถึงทั่วตึกเลยทันที
     
    ไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องอย่างวิวิด รุ่นพี่อย่างสกรู และเคระ คางุระ อลิศไนน์
     
    “ติดต่อไม่ได้เลยเลยสินะ” จิยุถามทาเครุขึ้น เมื่อทาเครุพยายามโทรไปหาอีกครั้ง แต่ไม่มีสัญญาณกลับมา
     
    “ฉันส่งข้อความไปแล้ว….ไม่รู้จะได้รึเปล่า” ทาเครุตอบกลับมา
     
    “ให้ตายเถอะ หายไปไหนนะ”
     
    “เมื่อวานเหมือนเค้าดูเศร้าๆนะ” ชินเปพูดขึ้นทันทีที่พอนึกอะไรบางอย่างออกได้ “รึว่าเขาตั้งใจจะไปที่ไหนคนเดียวรึเปล่า ทุกคนพอรู้สถานที่บ้างมั้ย ???
     
    “มัตตันไม่เคยบอกพวกเรา !!” ทั้งสามคน ยูจิ จิยุ ทาเครุพูดขึ้นพร้อมกัน
     
    “นี่… !!!” เสียงเปิดประตูห้องซ้อมดังขึ้นมาทันที พร้อมกับชายร่างสูงที่วิ่งเข้ามาอย่างเหน็ดเหนื่อย “ได้ยินว่ามาซาโตะหายไป”
     
    “อุรุฮะซัง
     
    “ใช่เลย…. วันนี้วันเกิดเค้า แต่ไปไหนไม่รู้ ติดต่อก็ไม่ได้”
     
    “พวกนายพอเดาได้มั้ยว่า…. จะไปอยู่ที่ไหนน่ะ แล้วนั่น….” อุรุฮะหยุดขึ้นทันทีที่สังเกตุเห็นอะไรบางอย่างอยู่ในโต๊ะที่วางโน๊ตดนตรีเอาไว้….. ผ้าผืนเล็กๆสีเหลืองลายจุดหวานแหวว ถึงมันจะโผล่ออกมาจากกหนังสือเล็กน้อยแต่รู้ถึงอะไรบางอย่าง
     
    “หนังสือนั่นน่ะเหรอ…. ของมัตตันน่ะ”
     
    “ไม่ใช่ไอ้ผ้าเหลืองๆที่อยุ่ในหนังสือน่ะ” พร้อมกับชี้นิ้วไป ทุกคนมองตามกันเป็นตาเดียว
     
    “อ้อโบว์ผูกผมของมัตตัน….” ชินเปบอก
     
    “หานายรู้ได้ไง ฉันเห็นตั้งนานไม่รู้เลยว่าของใคร” จิยุถามขึ้นทันที
     
    “ก็มัตตันบอกฉันเอง…. บอกว่ามันเป็นความทรงจำน่ะ ขอบคนที่มัตตันชอบมั้ง….
    “ความทรงจำ” อุรุฮะทวนคำถามอย่างสงสัย
     
    “ใช่ท่าทางดูเหมือนจะชอบใครคนนึง แต่เขาไม่ยอมบอก ก็เลยไม่รู้”
     
    “โอเค…. ฉันพอเดาออกแล้ว ขอบคุณนะ” ว่าแล้วก็รีบวิ่งออกไปทันที
     
    ปล่อยให้ทุกคนมองตามกันอย่างงงๆ
     
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    นายอาจจะไม่รู้สินะ….. ว่าฉันรู้มาทุกอย่างว่านายคิดยังไงกับฉัน
     
    นายอาจคิดว่าฉันไม่ได้รักนายเลยสินะ….
     
    ขอโทษที่ทำให้นายคิดแบบนั้น….
     
    ขอโทษ….ที่ไม่เคยบอกนาย
     
    “นายไม่ได้รักฉันแล้วสินะอุรุฮะ” เสียงของคนรักดังขึ้นทันที น้ำเสียงเหมือนกับจับผิด
     
    “นายพูดอะไรรูกิฉันรักนายนะ” เขาพยายามตอบกลับไปไม่ให้อีกฝ่ายคิดอะไรมาก แต่ทุกอย่าง มันปฏิเสธไปก็เปล่าประโยชน์ ทั้งๆที่พยายามพร่ำบอกกับคนที่ควรจะรัก ว่ารัก แต่ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นมาใหม่ กลับบดบังความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้น ทั้งๆที่มันไม่ควร
     
    “ไม่ต้องมายังโง้นยังงี้เลยอุ๊…. ฉันรู้นะว่านายไปชอบคนอื่นน่ะ”
     
    “นายพูดอะไรของนาย…. ฉันยังรักนายนะ”
     
    “ไม่ต้องเลย ฉันรู้นะว่านายมองคนนั้นยังไง มาซาโตะวงซักกุน่ะ” รูกิแสดงอารมณ์อย่างไม่พอใจขึ้น ใช่ ตลอดเวลาเขารู้ ตอนแรกๆที่คบกันใหม่ๆก็รู้สึกรักกันดี แต่พอนานๆไปกลับรู้สึกได้ว่าคนรักของตนกำลังมองคนอื่น
     
    มองคนอื่น…..ในแบบที่แตกต่างกับที่มองตัวเอง
     
    ไม่ใช่เพราะโกรธ ไม่ใช่เพราะไม่พอใจ
     
    แค่ไม่ชอบ….เมื่อคนที่บอกรักตัวเอง ใจจริงกลับไปชอบคนอื่น
     
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    จะทำยังไงดีนะ….
     
    กลับไปรัก….คนที่ไม่สมควรจะรักเข้าให้แล้ว……
    ทั้งๆที่ไม่รู้….ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง…….
     
    บ้าไปแน่ๆ
     
    รูกิหมอนั่นก็ดันโกรธ…. แล้วดันมีเรตะเข้ามาพ่วงอีก โอเค…. มีอะไรบางอย่างแปลกๆ อย่างเรตะกับรูกิ
     
    ยังพอรู้สึกอยู่ว่าเรตะ หมอนั่นชอบรูกิ รู้สึกมาตลอด แต่เพราะไม่เคยคิดว่า สักวันรูกิจะเริ่มมีใจให้ ไม่คิดว่าสักวันจะไปรักคนอื่นอีก
     
    แต่เพราะนายโผล่มาพอดี
     
    ยิ้มออกไปทั้งๆที่ในใจกำลังขุ่นมัว ทำไมนายต้องโผล่มาตอนนี้ด้วยนะ ทำไมต้องทำให้สับสนไปขนาดนี้ด้วย
     
    ทั้งๆที่ไม่ควร แต่ก็เผลอไปกอดนายโดยไม่รู้ตัว
     
    ขอโทษที่ปิดบังความรู้สึกของตัวเอง
     
    ทั้งๆที่พยายามจะไม่ทัก ทั้งๆที่พยายามให้นายคิดว่าฉันไม่ได้รัก
     
    ตั้งใจที่จะตัดใจจากนาย
     
    พยายามฝืนตัวเองเดินไปทั้งๆที่ไม่หันกลับมามองนาย
     
    ฉันเจ็บปวด…. มากนะ
     
    ที่พยายามไม่รักนาย….
     
    ขอโทษ…….
     
     
    ผมยืนอยู่หน้าสถานที่แห่งหนึ่ง…. ทีนี่ครั้งแรกที่ผมเจอกับเขา แต่ผมคิดว่าเขาคบจำผมไม่ได้หรอก….
     
    วันนั้น…. ผู้คนเยอะแยะไปหมด สาวๆเดินกันขวักไขว่….
     
    “ทำไมผมต้องมาแต่งตัวแบบนี้ด้วย….” ผมบ่นขึ้นทันทีกับเพื่อนผู้หญิงที่ไม่ว่ายังไงก็ยังดึงให้ผมมาด้วย อะไรก็ไม่รู้เต็มตัวไปหมดเลย ผมเป็นผู้ชายนะ ถึงจะชอบทำตัวเหมือนผู้หญิงก็เหอะ
     
    “น่านะมาเป็นเพื่อนฉันหน่อย….
     
    “แล้วทำไมต้องแต่งหญิงด้วยล่ะ” ผมว่าให้ตายเหอะกระโปรงอะไรก็ไม่รู้รุงรังชะมัด….
     
    “น่านะโบว์ผูกผมเข้ากับนายดีออกสีเหลืองลายจุด”
    ผมปฏิเสธคนไม่เป็นก็เลยโดนเพื่อนหญิงลากมาถึงสถานที่เล่นไลฟ์ของพวกวงกาเซ็ทโตะ ด้วยความที่ผมไม่ถนัดแต่งชุดแบบผู้หญิงทำให้ผมถึงกลับ…. ตื่นเต้นประหม่าเล็กน้อยเพื่อนผมพาผมเข้าไปดูคอนเสิร์ตเล็กๆข้างในแล้วแถวด้านหน้าเลย
     
    แล้วผมก็ยิ่งสูงเด่นเลยสิ เพราะผู้หญิงมีแต่ตัวเล็กๆซะส่วนใหญ่
     
    “เฮ้เธอ” ผมได้ยินเสียงใครสักคนตะโกนลงมา มือกีตาร์ก้มลงมามองที่ผม “โบว์ผูกผมสวยดีนะเหมาะกับเธอเลย”
     
    คนๆนั้นคืออุรุฮะ
     
    ตั้งแต่วันนั้นผมก็ชอบคุณมาตลอด….
     
    แต่คุณคงจำไม่ได้สินะ….
     
    ช่างเถอะ…….
     
    ผมเองที่โดดมาโดยไม่บอกทุกคน ปิดเครื่องเอาไว้ ป่านนี้ทุกคนคงเป็นห่วงผมแย่เลยสินะ
     
    วันนี้วันเกิดผม
     
    อยากเริ่มต้นใหม่
     
    อยากลืมความรักที่เกิดขึ้นทั้งหมด….
     
    มันเกิดขึ้นไม่ได้อยู่แล้ว….
     
    ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องคอยรักอีก
     
    ไม่มีอีกแล้ว
     
    ไม่อยากเจอคนอื่น
     
    ไม่อยากเจอ….
     
    ให้มันเจ็บปวด………..
     
    จนลืมไม่ได้……
     
    ผมก้มลงมองแม่น้ำสีใสเบื้องล่างที่สะท้อนภาพของผมลางๆ ผมจะต้องเข้มแข็งขึ้น
     
    จะลืมสิ่งที่มันเคยเกิดขึ้น….
    “อยู่นี่เอง….” ได้ยินเสียงใครสักคน….ที่คุ้นๆหูดังขึ้นแว่วๆมาจากข้างหลัง เสียงนี้มัน อย่าบอกนะว่า….. “หาแทบแย่เลยนะ”
     
    ผมหันหลังไป เห็นเขาคนนั้นเหนื่อยหอบอยู่ตรงหน้าของผม…..
     
    อุรุฮะซัง….
     
    “ทำอะไรของนายเนี่ย เล่นติดต่อไม่ได้แบบนี้ ทุกคนเป้นห่วงนะ” เขาว่า….
     
    “ผมแค่อยากอยู่คนเดียวนะ……” ผมพุดออกไปตามความจริง ถ้าผมพูดออกไปแบบนั้นกลับทุกคน ต้องเป็นห่วงผมอยู่แล้ว
     
    “ทำไมล่ะ…. ทุกคนตามหานายแทบแย่ นายไม่คิดบ้างเหรอไง นายมันบ้า”
     
    “ก็ใช่ผมมันบ้า” ก็บ้าจริงๆนั่นแหละ “แค่ผมอกหักแค่ต้องหนีมาอยู่คนเดียวใช่มั้ย ใช่สิผมมันอ่อนแอนี่นา ก็แค่ไม่อยากเห็นใครบางคนเท่านั้น” ผมพูดออกไปเชิงประชดเล็กน้อย ให้ตายสิ ทำไมต้องมาเจอคนที่ไม่อยากจะเจอด้วยนะ
     
    คิดแล้วมันก็จะร้องให้
     
    “อกหักใครมันบ้าไปหักอกนาย” ก็คนที่กำลังถามผมนี่แหละ
     
    “ขอร้องล่ะผมอยากอยู่คนเดียวจริงๆ” ถ้าคุณเล่นโผล่มาแบบนี้ ผมก็ยิ่งตัดใจไม่ลงล่ะสิ
     
    แต่เอ๊ะ….. เขาไม่ใช่เพื่อนร่วมวงผมซะหน่อย
     
    แล้วเขามาตามหาผมทำไมกัน
     
    “อ๊ะ……” ผมร้องขึ้นอย่างตกใจทันทีที่รู้สึกว่ามีคนคว้าตัวผมเข้าไปกอดแน่น….. “อุรุฮะซัง….
     
    “นายมันบ้า…. ทำแบบนี้ฉันจะบ้าแทนนะรู้มั้ย” ได้ยินเสียงของเขากระซิบที่ข้างหูของผม ทำเอาผมใจสั่นไปหมด อะไรกันเนี่ย….
     
    “ฉันขอโทษที่ทำเป็นไม่สนใจนาย…. นายอกหักเพราะฉันใช่มั้ย” ครับ เพราะคุณนั่นแหละ 
     
    “อุรุฮะซังจะพูดอะไรน่ะ….” ผมถามออกไปเบาๆ ผมรู้สึกละอายใจยังไงไม่รู้ “คุณไม่ได้รักผมนี่ ไม่ต้องมาปลอบใจผมหรอกนะ” ปล่อยผมไปเถอะ แบบนั้นผมจะตัดใจได้ง่ายกว่า
     
    “ฉันไม่ได้ปลอบใจนาย….แค่ปลอบใจตัวเองน่ะ”
     
    …………..” คนๆนี้ตั้งใจจะพูดอะไรน่ะ
    “ขอโทษที่ทำเป็นไม่สนใจนาย…. เวลาที่ฉันเห็นนาย เห็นเจ็บปวดนะรู้มั้ย” เขาพูด แล้วก็เหมือนจะกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม “ฉันพยายามขนาดไหน ไม่ให้ตัวเองหันไปมองนาย หันไปสนใจนาย ให้ความสำคัญกับรูกิคนเดียว” เขาจะพูดอะไร “ทั้งๆที่ใจของฉันไม่ได้อยู่กับรูกิแล้ว”
     
    ……….
     
    “นายอาจจะว่าฉันเป็นบ้า…… ฉันรู้มาตลอด……. ว่าทุกอย่างมันเป็นยังไง แค่ไม่ยอมรับความจริง ฉันก็แค่พยายามทำตัวให้ว่าไม่ได้รักนาย แต่ฉันทำไม่ได้…. ฉันทะเลาะกับรูกิ เพราะเขารู้ว่าฉันชอบนาย….
     
    …….อะไรน่ะครับ…….” ผมถามขึ้น อะไรนะ เขาพูดว่าเขาชอบผมงั้นเหรอ
     
    “ฮะๆ ตกใจเหรอนั่นสิ ฉันเองก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน” เขาพูดพร้อมกับเกาหัวเล็กน้อยเหมือนเขินๆอะไรอยู่ - -  
     
    “ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยว่าทำไมถึงมาชอบคนนอกวงอย่างนาย แต่มันเป็นไปแล้วนี่…. ฉันน่ะรู้ตั้งนานแล้วว่านายชอบฉันใช่มั้ย”
     
    “เอ๋….
     
    “นายใช่มั้ยล่ะที่ส่งของขวัญตอนเล่นบัดดี้เมื่อปลายปีให้ฉันน่ะ” นี่….อุรุซังรู้เหรอว่าเกมสืในตอนนั้น ของขวัญมากมายที่ส่งให้พร้อมกับเครดิตโบว์สีเหลืองลายจุดน่ะ ผมเป็นคนส่งให้ “ฉันจำโบว์นั่นได้ที่นายไปดูคอนเสิร์ตของฉันที่นี่ไง” เขาว่าพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ไลฟ์เฮาส์ตรงหน้า
     
    เอ๋……เรื่องแบบนี้เขาจำได้ด้วยเหรอ
     
    นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก
     
    “แล้วไงล่ะปล่อยให้ฉันพร่ำอะไรอยู่ได้คนเดียวไม่คิดจะบอกฉันหน่อยเหรอ ว่านายรู้สึกยังไงกับฉันน่ะ”
     
    “เอ่อ” แล้วผมควรจะทำยังไงดีล่ะ…….. จู่ๆ ก็มาบอกผมแบบนี้ - - ทั้งๆที่คิดจะตัดใจแล้ว ทั้งๆที่คิดว่าคงไม่มีความหวังแล้ว
     
    ทั้งๆที่บอกตัวเองแล้วว่าคุณไม่ได้รักผม
     
    แต่มันกลับกลายเป็นแบบนี้
     
    ผมควรที่จะคว้าเอาไว้รึเปล่า
     
    หรือปล่อยมันไป
     
     “ผมชอบอุรุฮะซัง….” แต่ในเมื่อโอกาศมันลอยมาหาแล้ว ผมก็ไม่อยากที่จะปล่อยมันไป….. ผมไม่ผิดใช่มั้ยที่จะอยากคว้ามันเอาไว้ แบบนี้
     
    อุรุฮะซังยิ้มให้ผมนิดๆ
     
    “นายนี่จริงๆเลยน้า….” ว่าแล้วก็ขยี้หัวผมนิดๆเหมือนกับเอ็นดู…. “เอาเถอะวันนี้วันเกิดใช่มั้ย ไปเที่ยวกัน” แล้วเขาก็จับมือผม ไปที่ไหนสักแห่ง….
     
    …….จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ…………
     
     
    “ไม่จริงอ่ะ….” ได้ยินเสียงยูจิดังขึ้นแบบไม่น่าเชื่อที่ได้ยินมา “เรตะกับรูกิ !!!
     
    “คบกันได้ไงหว่าคู่นี้” ทาเครุเกาหัวนิดๆด้วยความงงๆ
     
    “ฉันว่านะ…. ก่อนอื่น…. คนที่มัตตันคุยด้วยน่ะแฟนเหรอ” ชินเปถามขึ้นพร้อมกับมองไปที่มาซาโตะที่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคน ที่มุมห้องท่าทางอารมณ์ดี
     
    “แฟน ???” จิยุมองตามไป “มัตตันมีแฟน !!!” 
     
    “ใครวะ….” ทาเครุถามขึ้นอีก“ตอนไหนไม่เห็นรู้เรื่อง”
     
    “ครับๆโอเค เดี๋ยวตอนเลิกซ้อมจะไปหานะบายครับ” พอคุยกันเสร็จก็ได้เวลาวางสาย มาซาโตะอมยิ้มนิดๆก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์มือถือลงไปในกระเป๋า
     
    สายตาสี่คู่จ้องมองไปที่จุดๆเดียว
     
    “ใครน่ะมัตตัน” ยูจิถามขึ้น
     
    “แฟน ??” ชินเปถามต่อ
     
    “ใคร ???” จิยุ
     
    “ทำไมมีแฟนแล้วไม่ยอมบอก !!!” ทาเครุว่า…. ท่าทางงอนนิดๆ
     
    “เอ๋ทำไมพวกนายรู้ล่ะว่าฉันคุยกับแฟน” ถามอย่างงงๆ ทั้งๆที่ไม่เคยบอกกับใครสักหน่อย ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในวันเกิดและเรื่องแฟน
     
    “โหเล่นคุยซะโรแมนติกขนาดนี้ ไม่ใช่ก็ให้มันรู้ไป ==’
     
    “ตกลงใครกันอ่ะมัตตัน”
    “บอกพวกเรามาเถ้อ~~~ อย่าปิดกันน้า” สายตาของทุกคนแบบว่าอยากรู้จริงๆ ทำเอาคนที่ถูกถามถึงกับยิ้มออกมานิดๆ
     
    “ฉันไม่บอกพวกนายหรอก….” ว่าแล้วก็ตัดสินใจมองไปทางอื่น “จะได้เวลาเลิกแล้ว รีบซ้อมๆกันสิพวกนาย”
     
    “บอกพวกเราหน่อยไม่ได้เหรอ =[]=
     
    “ไม่หรอกนี่อย่ามัวแต่คุยเรื่องไร้สาระกันสิ ซ้อมกันได้แล้ว”
     
    “มัตตัน~~~……….
     
    “ใจร้ายยยยยย”
     
    TTOTT บอกพวกหน่อยเถ้อ~~~~ มัตตัน~~~~~~~~
     
    หึหึหึ…… จ้างให้ตาย พวกนายก็ไม่มีวันรู้หรอก
     
    5555555555555555555
     
    --End--
     
      
     -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ฟิคนี้เป็นฟิคฉลองวันเกิดแม่มัทแห่งวงซักกุ

    แล้วที่แต่งคู่นี้อันเนื่องมาจาก

    Writer : วันเกิดแม่แต่งฟิคให้ดีมะ ??
    เพื่อน : เอาดิ
    Writer : ไม่มีฟิคที่แต่งคู่แม่เลยอ่ะ แต่งใหม่เลยดีมะ มันมีแต่ยูท
    เพื่อน : เอาจิ
    Writer : เอาคู่ไหนดี คู่แม่มันมีแต่มิตแม่อ่ะ เบื่อ ??
    เพื่อน : อ้าว..... 
                เออ คิดยากเหมือนแฮะ
                แม่ไม่ค่อยเล่นแฟนกะใครเลยอ่ะ จิ้นยาก
    Writer : งั้นก็มิตแม่ --' 
    เพื่อน : ถ้าเบื่อก็หาคู่ใหม่ให้แม่ซะจิ เอาแบบสวยเลิศเพอร์เฟ็ค
    Writer : สวยเลิศ ???
    เพื่อน : แบบอุ๊ไง 555555
    Writer : อุ๊ ?? เฮ้ย =[]= อุ๊เป็นเคะไม่ใช่เหรอ
    เพื่อน : เมะก็ได้เฟ้ยยยยย
    Writer : อุ๊....อุ๊แม่ !!!!
    เพื่อน : 555555
    เรื่องมั้นก้มาจากประการฉะนี้ m_m
    (โม้ชัดๆ 555555)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×