ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY PUPPY LOVE [CINTEUK] PART 2

    ลำดับตอนที่ #3 : SF ::: Distance

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 58


    SF :cinteuk

    Story : Distance

     

    ฟิคเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพราะความเพ้อเจ้อ เนื้อหาบางส่วนอาจบิดเบือนจากความเป็นจริง ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ เราแค่แต่งเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น 555555555 อันนี้เป็นภาคต่อจาก discoverlyนะคะ

     

    “เอาจริงหรอพี่” ชายหนุ่มหน้าตาดี เกือบสิบคน นั่งล้อมรอบ คร่ำเครียดอยู่กลางห้องนั่งเล่น แต่ละคนนั่งหน้าตา กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก

    “เอาจริงสิ พวกนายคิดว่า  นี่มันเรื่องเล่นๆรึไง” ผู้ถูกตั้งคำถาม ตอบกลับมาอย่างหัวเสียเล็กน้อย เนื่องจาก ตัวเค้าก็ยังคิดไม่ตก ว่าบุคคลที่เหลือยังไม่รู้เรื่องนี้ ถ้ารู้ขึ้นมาจะโวยวายแค่ไหน

    “งั้นพี่ ก็เตรียมตัว โดนโวยวายจาก พี่อีทึก ได้เลย” ทงแฮพูดขณะวางกระดาษแผนงานของรุ่นพี่ลง

    “โวยวาย โวยวายอะไรหรอ” คนที่กำลังพูดถึงเดินกลับเข้ามาพอดี พร้อมเพื่อนในวงอีก 2 คน

    “อีทึก/พี่อีทึก” รุ่นน้องในวง ค่อยๆครางเรียกชื่อรุ่นพี่อย่างตกใจ

    “มีอะไรกันรึป่าว” อีทึกมองหน้าน้องๆ ก่อนจะเบนสายตาไปหาคนรัก “ฮีชอล ฉันได้ตารางงาน super show 4 มาแล้วนะ” คนตัวเล็กบอกอย่างอารมณ์ดี พร้อมชูตารางงานให้น้องในวงดูก่อนจะยื่นให้ ลักยิ้ม ผุดขึ้นบนใบหน้า

    ฮีชอลลุกขึ้น ดึงตางรางจากอีทึกมาไว้ในมือ

    “ฉันคงไม่ได้ แสดง Super show 4 กับนาย” ฮีชอลบอกพร้อมแสร้งมองไปทาง เค้าไม่อยากเห็นใบหน้าตกใจของอีทึก ก่อนจะปรี๊ดแตก

    “หมายความว่ายังไง คิมฮีชอล” อีทึกขึ้นเสียงก่อนจะดึงร่างสูงให้หันมามองหน้าเค้า

    “ฉัน...” ฮีชอลไม่ยอมตอบแต่เพยิดหน้าให้ซองมินตอบแทน

    อีทึกมองจ้องไปที่ซองมินเพื่อเค้นเอาคำตอบ

    “พี่ฮีชอลจะไป...เกณฑ์ทหารครับ” ซองมินบอก พร้อมเขยิบเข้าใกล้คยูฮยอน เพื่ออีทึกระเบิดขึ้นมาเค้าจะได้มีคนคอยกัน

    “นายทำแบบนี้ได้ไง!” ว่าแล้ว อีทึกก็ระเบิดขึ้นมาจริงๆ มือเล็กทุบตีร่างสูงไม่หยุด จนซีวอนกับเยซองต้องเข้ามาดึงร่างเล็กออกมา “ไหนนายบอกว่า จะเข้ากรมพร้อมฉันไง ทำถึงทิ้งกันไปแบบนี้ เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรอ...ฮีชอล” คำพูดสุดท้ายจบพร้อมน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมา

    “ก็ฉัน... แล้วนายจะทำไมหล่ะ เดี๋ยวฉันก็เข้าไปก่อนไง เพราะอีกตั้งหลายเดือน คังอินกว่าจะออก แล้วนายก็ค่อยเข้าไปไง” ร่างสูงตอบแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่แต่ในใจเต็มไปด้วยความกังวล

    “แล้วที่นายสัญญาไว้กับฉันหล่ะ ที่นายบอกว่านายจะดูแลฉัน นายลืมมันหมดแล้วหรือไง” คนตัวเล็ก น้ำตาคลอ

    “ฉันป่าวลืมสักหน่อย” ฮีชอลเอื้อมมือหมายจะเช็ดน้ำตาให้ร่างเล็ก แต่คนตัวเล็กก็ปัดออก

    “อย่ามายุ่งกับฉัน!!” อีทึกตวาดใส่ฮีชอลก่อนจะเดินเข้าห้องไป พร้อมเสียงปิดประตูดังลั่น

     

    ฮีชอลถอนหายใจเฮือกใหญ่

    “พี่จะทำยังไงต่อไป” รยออุคถามขึ้นเมื่อทั้งห้องมีแต่ความเงียบ

    “ง้อมั้ง ไม่รู้สิ” ฮีชอลยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่ แต่สีหน้าบ่งบอกถึงความเครียดอย่างเห็นได้ชัด “ทงแฮ ขอกุญแจห้องหน่อย”

    ฮีชอลแบมือขอกุญแจจากห้องร่วมห้องของอีทึก เค้ารู้ดีเสมอทุกครั้งที่อีทึก โกรธจะหนีเข้าห้องแล้วล็อคประตู แต่ทงแฮก็ดันจะมีกุญแจซะนี่ ดังนั้นอีทึกล็อคห้องไปก็ดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่

     

    เมื่อถึงเวลา ฮีชอลก็ไล่น้องๆเข้าไปนอน ส่วนเค้าก็จัดการทำธุระที่ค้างคาเอาไว้

    ฮีชอลไขกุญแจเข้าไปในห้องคนตัวเล็ก ทันทีที่เข้าไปก็เห็นคนตัวเล็กนอนคลุมโปงอยู่ที่เตียงนอนตัวเองเหมือนเดิม เหมือนเดิมทุกครั้งเลยจริงๆ... ปาร์คจองซูของคิมฮีชอล

    “จองซู” ฮีชอลเสียงตัวเล็กที่นอนสะอื้นอยู่ที่เตียง ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างเตียง “ลุกขึ้นมาคุยกันก่อนสิ” ฮีชอลพยายามเรียกคนตัวเล็กขึ้นมา

    “ไม่ต้องมายุ่งไง! ฉันกับนายมันก็แค่เพื่อนร่วมวงกันเท่านั้นแหละ ฉันเคยให้ฉันสัญญาว่าจะไปไหนก็ต้องบอกนาย แล้วนายล่ะ คิดอยากจะไปก็ไป ไม่ได้นึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้เลยใช่มั๊ยหล่ะ!” อีทึกลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะตวาดร่างสูงทั้งน้ำตา

    “นี่ อีทึก นายอย่าเพิ่งงี่เง่าได้มั๊ย จะไปก่อนไปหลังมันก็ต้องไปอยู่ดี แล้วถ้าให้ฉันไปกับนาย แล้วที่เหลือ พวกนนั้นจะอยู่กับใคร คังอินก็ยังไม่กลับมา” ฮีชอลพยายามบอกอีทึก แต่ดูเหมือนอีทึกจะเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว

    “ก็ไปตอนคังอินกลับมาสิ” มือลเกทุบที่อกกว้างทีหนึ่ง

    “จะบ้าหรอ ขืนไปตอนนั้น ก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก ฉันไปตอนนี้แหละดีแล้ว พี่ผู้จัดการเค้าก็สั่งมาด้วย” ฮีชอลบอกเหตุผลจริงๆที่ทำให้เค้าต้องคำสัญญาที่ให้ไว้ “นี่ จองซู ฟังฉันนะ” ฮีชอลจับไล่เล็กให้เผชิญหน้ากับเค้า

     

    “ที่ฉันทำอย่างนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าฉันไม่รักนาย ฉันรักนาย เข้าใจรึป่าว” ฮีชอลค่อยเลื่อนใบหน้าขึ้นไปจูบกับหน้าผากมน คนตัวเล้กยังคงสะอื้น ฮีชอลค่อยๆถอนจูบออกก่อนจะดึงคนตัวเล็กมาซบอกกว้าง

    “ไม่ ไม่เข้าใจ” คนตัวเล็กผละออก

    “ไม่เข้าใจอะไรอีก” ฮีชอลดึงคนตัวเล็กเข้ามาจูบแน่นๆทีนึง ก่อนจะปล่อย “ยังไม่เข้าใจอยู่อีกมั๊ย”

    “ขะ...เข้าใจแล้ว” อีทึกตอบหน้าแดง พลางหันหน้าไปทางอื่น “ไอ้บ้านี่หนิ” มือเล็กทุบไหล่หนาด้วยความหมั่นไส้

    ฮีชอลหัวเราะกับท่าทางของอีทึก

    “หลีกไป ฉันจะนอนแล้ว” อีทึกผลักคนตัวสูงออก

    “นอนด้วยกันสิ อีกไม่นานฉันก็จะไปแล้ว” ฮีชอลดึงมืออีทึกมาจับไว้

    “ช่วยไม่ได้อยากไปเอง ไม่ต้องมาอ้อนนะ”

     

     

     

     

     

    ไม่ต้องมาอ้อนนะ

    คำพูดที่ร่างสูงหวนนึกถึงเมื่อคืน ประโยคที่ออกมาจากปากใครก็ไม่รู้ ที่ตั้งแต่เมื่อ เจอของวลีก็เรียกหาเค้าทั้งวัน แค่เข้าห้องน้ำนานหน่อยยังต้องตะโกนเรียกหา ทีเมื่อก่อนจะจับนิดจับหน่อยยังยากเลย

    “ฮีชอลลลฮีชอลอยู่ไหนอ่ะ” เสียงคุ้นหูดังออกมาจากในครัว

    “ฉันอยู่นี่” ร่าสูงตะโกนกลับไป ฮีชอลลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไป เจ้าของเสียงก็โผล่หน้าออกมาจากครัว พร้อมยิ้มแฉ่ง

    “ไปกินข้าวกัน วันนี้ฉันทำข้าวผัดให้นายกิน” คนตัวเล็กกวักมือเรียกคนตัวสูงให้เดินตามเข้าไป

    “ฮันคยองสอนก่อนรึไง” ฮีชอลขยี้ลงบนกลุ่มผมเล็ก แล้วเดินนำเข้าไปในครัว ไม่ถามต่อให้เสียเวลา ตักอาหารเข้าปากชิม

    “ป่าวหนะ คยูฮยอนสอนฉัน” สิ้นเสียงของอีทึก ฮีชอลรีบวิ่งไปที่ถังขยะแล้วคายทิ้งทันที

    “แค่ก แค่ก” อีทึกส่งน้ำให้ฮีชอล  “ฉันจะตายมั๊ยเนี่ย ทำไมนายถึงไว้ใจไอ้เด็กนั่น”

    “ก้ไม่มีใครว่างหนิ ฮันคยองก็อยู่ที่จีนด้วย จะมาสอนฉันได้ไงหล่ะ” คนตัวเล็กตอบพร้อมกับหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้คนตัวสูง

    “งั้นอยู่เฉยๆ ฝีมือ ไอ้คยูฮยอน ฉันไม่กิน” ฮีชอลตอบพร้อมค้อนเล็กๆ ไปให้อีทึกที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ “แล้วหัวเราะอะไร ตลอกนักหรอไง มาลอบทำร้ายแฟนตัวเองอย่างนี้”

    555 ก็มันขำหนิ ใครจะไปรู้ว่า คนอย่างคิมฮีชอลจะกลัวตาย” อีทึกตอบพร้อมกับฮีชอลที่เตรียมจะแกล้งคนตัวเล็ก

    “มานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ ปาร์คจองซู” ฮีชอลร้องตะโกน พร้อมวิ่งไล่คนตัวเล็ก

    “หยุดให้โง่หรอ” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็วิ่งหนีรอบห้องจนกระทั่ง

     

    “โอ๊ย” ชนร่างสูงของใครโดยบังเอิญ

    “พี่ทำอะไรหน่ะครับ” ผู้โชคร้ายคนนั้นคือ ชเวซีวอนนั่นเอง ดีที่มีซีวอนโอบไว้ ไม่งั้นร่างเล็กคงต้องลงไปกองกับพื้น

    “อ๊ะ...ซีวอน นั่นเอง ขอบใจนะ” ว่าแล้วก็ยิ้มหวานให้รุ่นน้องตัวสูง

    “ปล่อย ปล่อยได้แล้วไอ้ซีวอน” ฮีชอลบอกเมื่อเห็นว่านานแล้วที่ รุ่นน้องตัวดีโอบเอวคนรักตัวเองไม่ยอมปล่อย

    “คร้าบๆ รู้แล้วว่าหวง” ซีวอนตอบขำๆก่อนจะปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระ

    ฮีชอลเดินยิ้มร่าดึงจองซูเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนจะหอมแก้มเบาๆ

    “คิดถึงแย่เลยจะไม่ได้เจอกันแล้ว”

    “ก็อยากไปเองดีนัก ไม่ต้องมาเข้าใกล้เลยนะ”

     

     

     

     

    ไม่ต้องมาเข้าใกล้เลยนะ

    ฮีชอลกำลังจะลุกขึ้นจากโซฟาหลังจากอยู่รายการโปรด โดยตลอดมีคนตัวเล็กนั่งอยู่ในอ้อมกอดไม่ห่างกาย

    “ไปไหนอ่ะ ฮีชอล” คนตัวเล็กเงยหน้าถาม

    “จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่ เดี๋ยวมีอัดรายการวิทยุต่อ” ฮีชอลบอกพร้อมเอื้อมมือดึงแก้มนิ่มเบาๆ

    “ฉันไปด้วย” คนตัวเล็กพร้อมทำท่าจะลุกขึ้น

    “ฉันโป๊นะ นายจะแอบดูรึไง” ฮีชอลยิ้มขำๆ เมื่อแก้มที่สัมผัสเมื่อครู่  เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ

    “บะ...บ้า รึไง นึกว่าจะเปลี่ยนเสื้ออย่างเดียว” อีทึกตอบพร้อมหันหน้าไปอีกทาง ก่อนจะออกคำสั่ง “ไปเปลี่ยนชุดเร็วๆสิ ฉันรอตรงนี้แหละ”

    “คร้าบๆ รอแปปนะที่รัก” ว่าแล้วก็ขโมยหอมแก้มฉวยไปอีกที

     

    “คิมฮีชอลเสร็จรึยัง” คนตัวเล็กยืนเคาะประตูห้องร่างสูง

    “ยังไม่ถึง 3 นาทีเลยนะ จองซู รอแปปสิ” ฮีชอลตะโกนออกมา เปลี่ยนชุดนะ ไม่ใช่ล้างมือ

    “เร็วๆหน่อย ฉันเมื่อยแล้ว” คนตัวเล็กยังตะโกนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    “เมื่อยก็ไปนั่งสิ”

    “ไม่นั่ง เร็วๆสิ ฮีชอลมัวแต่เถียงฉันอยู่ได้ เปลี่ยนอะไรกันนักกันหนาหล่ะ” อีทึกเริ่มบ่นยาว

    “นี่” ว่าแล้วฮีชอลก็เปิดประตูออกมา ทั้งๆที่เปลือยท่อนบน

    “เฮ้ย” คนตัวเล็กหันหลังหนีทันที “ทำไมไม่เปลี่ยนให้เสร็จก่อนหล่ะ”

    “เอ้า ก็เห็นเร่งจัง” ฮีชอลดึงคนตัวเล็กให้หันหลังกลับมา “ทำเป็นไม่เคยเห็น มากกว่านี้ก็เคยแล้วไมใช่หรอ...จองซู” คำสุดท้ายคนตัวสูงกระซิบที่หูเบาๆ ทำเอาอีทึกอายไปถึงไหนต่อไหน

    “จะบ้าหรอไง ไปเปลี่ยนให้เสร็จเลยไป ฉันจะไปรอที่โซฟา” ว่าแล้วก็วิ่งออกไป ฮีชอลไปแต่หัวเราะเล็กๆกับท่าทีของอีทึก

     

     

    ฮีชอลอยากจะลาตายวันละล้านรอบ หัวใจจะวายทั้งวัน ก็ทำไมหน่ะหรอ คนที่ปกติแล้วออกจะรักนวลสงวนตัว จับนิดจับหน่อยไม่ค่อยจะได้ แต่เดี๋ยวนี้กลับ...

    “นายจะทำอะไร จองซู” ฮีชอลร้องท้วงขึ้นเมื่ออยู่ดีๆคนตัวเล็กทำท่าจะถอดเสื้อตัวบางออก

    “จะอาบน้ำ ก็ต้องถอดเสื้อสิ” ว่าแล้วก็ถอดเสื้อตัวบาง โดยไม่ฟังคำห้ามร่างสูง

    ฮีชอลกลืนน้ำลายอย่างห้ามใจ ก็ผิวขาวของอีทึก ใช่ว่าจะห้ามใจง่ายสักเท่าไหร่ แถมยังมีรอย แดงอ่อนๆ ที่เริ่มจะจางเพราะฝีมือ เค้ากับอีทึกห่างเหินบทรักกันมาสักพักแล้ว

     

     

    “ใส่เสื้ออะไรของนายเนี่ย” ฮีชอลท้วงขึ้นอีกครั้งเมื่ออีทึกใส่เสื้อกล้ามถักไหมพรม พร้อมกางเกงขาสั้น กำลังจะออกไปกับสมาชิก มันจะไม่เป็นไรเลย ถ้ารูตาข่ายมันจะไม่ห่างกันขนาดนี้

    “ทำไม ก้มันร้อนหนิ” อีทึกเดินเข้ามานั่งข้างๆ

    “ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้” ฮีชอลออกคำสั่ง หวงกลัวคนอื่นจะมอง ผิวของคนตัวเล็ก และที่สำคัญ มันชักอันตรายกับหัวใจเค้าซะเหลือเกิน

    “ไม่เอา” อีทึกทำท่าจะไม่ยอม

    “งั้นก็สวมทับไปซะ” ฮีชอลยื่นโค้ทตัวเองให้

    “ไม่เอา มันร้อน” อีทึกยังคงไม่ยอม “ไม่เห็นเป็นไรเลย ไปก่อนนะฮีชอล” อีทึกคว้าคอร่างสูงมาประทับริมฝีปากอิ่มเบาๆ ก่อนจะวิ่งออกไป

    “ร้ายนักนะปาร์คจองซู” คิมฮีชอลจะตาย จะแก้ผ้าต่อเค้าไม่พอ ยังจะไปโชว์ผิวขาวๆต่อหน้าคนอื่นอีก นี่มันจะมากไปแล้วนะ จะทำให้เค้าไม่อยากไปเข้ากรมหล่ะสิ

     

     

    “ฮีชอล อยากจะกินอะไรหน่อยมั๊ย” คนตัวเล็กถามพร้อมเดินเข้ามาในห้องแต่ชุดที่ใส่น่ะสิ ไปเอาเชิ้ตเค้ามาใส่แค่ตัวเดียว แล้วไม่ใส่กางเกง!! พร้อมรองเท้าสรีปเปอร์เป็ดน้อยเหลืองอ๋อย

    “ไม่หล่ะ ยังไม่หิว” ฮีชอลตอบปัด พร้อมก้มหน้าก้มตาอ่าน สคริปอยู่ที่โต๊ะ

    “ไม่หิวหรอ เย็นแล้วหน่า” ถามเฉยๆก็ไม่ได้ คนตัวเล็กค่อยโอบร่างสูงจากด้านหลัง

    “ไม่หล่ะ นายไปกินเถอะเดี๋ยวตามไป” ฮีชอลพยายามสุดฤทธิในการข่มใจตัวเองไม่ให้ทำอะไร หรือมองอะไรที่มันไม่ควร

    “ไม่อ่ะ ฉันจะกินพร้อมนาย” ว่าแล้วก็เดินมานั่งคร่อมที่ตักเค้า ก่อนจะใช้นิ้วเรียวเชยคางร่างสูงขึ้น “โอเคมั๊ย”

    นี่นางฟ้าตรงหน้ากำลังยั่วเค้าหรือป่าว ทั่งสายตา ริมฝีปาก หรือแม้กระทั่ง...น้ำเสียง มันช่างอ้อนเค้าซะเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้น คิมฮีชอลก็คงต้องสนอง นางฟ้าตรงหน้าหน่อยแล้วหล่ะ

    “งั้นเรามากินกันเลยดีม่ะ” ฮีชอลใช้สายตามองไปยังสะโพกมน ก่อนจะเงยหน้างูบคนตัวเล็ก

    “อื้อ” อีทึกครางออกมาเล็กน้อย

    “ไปที่เตียงกันนะ” ฮีชอลเอ่ยถาม เมื่อคนตัวเล็กพยักหน้าตกลงจึงอุ้มไปที่เตียง

     

     

     

    แสงแดดส่องกระสบดวงตา ร่างสูงกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะมองคนในอ้อมกอด

    -เข้าใจ ใช้วิธีนะปาร์คจองซู- คิดในใจก่อนจะประกบจูบที่ขมับเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว

    “อื้ม” อีทึกค่อยๆขยับตัวก่อนจะปรับแสงให้สายตา แล้วมองหาเจ้าของสัมผัสเมื่อครู่

    “ตื่นแล้ว ลุกไหวมั๊ย” ฮีชอลถามขึ้นเป็นห่วง เมื่อคืนเค้ารุนแรงกับคนตัวบางนี่ไปหน่อย

    “ไม่ไหวอ่ะ” อีทึกส่งยิ้มหวาน ก่อนจะเอ่ยเสียงออดอ้อน “อุ้มหน่อยสิ” ว่าแล้วก็ขยับตัวเข้าหา อ้อมกอดของฮีชอล

    “อย่ามายั่วกันนะปาร์คจองซู” ฮีชอลยกมือบีบปลายจมูกอีทึก

    “ยั่วแล้วทำไมหรอ” นิ้วเรียวแตะสัมผัสไปที่คางของฮีชอล

    “ฉันรู้ทันหรอกนะปาร์คจองซู ที่ทำแบบนี้เพราะอะไร” ฮีชอลเอ่ยน้ำเสียงที่ดูจริงจังขึ้น

    “ฮึ ใช่สิ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงงอนๆ ก่อนจะลุกขึ้นคว้าเส้อตัวเองที่กองกระจายบนพื้น แล้วเข้าห้องน้ำไป

     

     

     

    แล้วก็ถึงวันที่ฮีชอลต้องไปจริงๆ น้องๆทุกคนในวง ต่างไปส่งพี่ชายที่ปลายทาง

    “ฉันไปแล้ว ก็ทำตัวกันดีๆด้วยหล่ะ” ฮีชอลเอ่ยร่ำลาขึ้น ฮยอกแจมีท่าทีว่าจะร้องไห้ “อย่าร้อง วันนี้ไอ้ซีวอนไม่มา ฉันปลอบแกไม่ได้นะ แค่จองซู ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว” ฮีชอลบอกถึงคำพูดจะฟังดูบ่นๆ แต่ก็เอื้อมไปเช็ดน้ำตาให้น้องคนดี

    “ครับพี่ อย่าลืมกลับมาหาพวกเราบ่อยนะครับ” ฮยอกแจส่งยิ้มให้

    “อื้ม” ฮีชอลก็ตอบรับรอยยิ้มกลับเช่นกัน

    “พี่ฮีชอลครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ” เยซองบอกพร้อมกับตบบ่าพี่ชายเบาๆ

    “อื้มรู้แล้วน่า นายก็เหมือนกัน ฉันฝากดูแลจองซูด้วยหล่ะ” ไม่ลืมกำชับฝากฝังคนรัก ไว้กับน้องชาย

    “ครับพี่”

    “แล้วก็ดูแลไอ้ลิงที่เหลือด้วย” ฮีชอลกำชับอีกรอบ

    “โหพี่ พวกผมโตแล้วนะ ไม่ซนหรอก” คยูฮยอนพูดขึ้น

    “แกคนแรกเลย ที่ฉันเป็นห่วง” คำตอบของคิมฮีชอลเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร

     

    ฮีชอลเอื้อมมือไปขยี้ผมรยออุคด้วยความเอ็นดู “ดูแลตัวเองด้วยหล่ะ” ก่อนจะเอ่ยคำสั่งลาด้วยความเป็นห่วง 

    “ฉันลืมไป นายมีไอ้เยซองอยู่แล้วหนิ ฮ่าๆๆ”

     

    “นายด้วย ทงแฮ ชินดง ซองมิน”

    “ครับพี่” ทั้งสามคนยิ้มรับ

    “ถ้าไม่มีพี่ พวกผมคงเหงาแย่เลย” ซองมินเอ่ยขึ้น น้ำตาคลอ

    “อ้ะ พี่ซองมินห้ามร้องนะครับ” ไวเท่าคำพูดคยูฮยอนรีบมาโอบไว้ทันที

    “เดี๋ยวคังอินก็กลับมาแล้ว” ฮีชอลตอบยิ้ม ก่อนจะมองนาฬิกา ตอนนี้ก็เกือบจะได้เวลาแล้ว เหลือเวลาอีก 20 นาทีเห็นจะได้ ก่อนจะขอแยกตัวออกมาไปหาคนรัก ที่หนีหายไปตั้วแต่มาถึง  ก่อนน้องชายคนดีทงแฮจะบอกให้ว่าจองซูไปอยู่ไหน

     

     

    “อยู่นี่เองหรอ จองซู” ฮีชอลเรียกร่างเล็กที่นั่งหันหน้าไปทางริมสระน้ำ

    อีทึกหันมามองครู่นึงก่อนจะหันกลับไปทางเดิม

    “อย่างอนแบบนี้ เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ” ว่าแล้วฮีชอลก็เดินไปนั่งๆข้างก็จะดึงคนรักมาอยู่ในอ้อมกอด

    “ฉันไม่อยากให้นายไป” อีทึกพูดความรู้สึกจริงๆออกมา ก่อนจะซบหัวลงบนไหล่ของอีกฝ่าย

    “ฉันก็ไม่อยากไป จองซู ฉันอยากอยู่กับนาย”

    “ฮึก ไม่อยากอยู่ แบบที่ไม่มีฮีชอล ฮืออ...ต่อไปนี้ฉัน...ฉันก็ต้องนอนคนเดียว” คนตัวเล็กในอ้อมกอดสะอื้น ฮีชอลพยายามกลืนก้อนที่จุกอยู่ที่คงลงไป

    “ฉันไม่อยากทิ้งนาย แต่มันถึงเวลาจองซู” ฮีชอลผละคนตัวเล็กออกก่อนจะเอามืออีทึกทั้งสองข้างมาจับไว้

     

    “ดูแลตัวเองนะจองซู ฉันไม่อยู่นายห้ามเสียใจ เข้าใจมั๊ยฉันรักนายจะจองซู” คนตัวสูงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย

    “ไม่เอา ฮีชอล ฮึก ไม่มีนายฉันจะอยู่ยังไง” อีทึกโผเข้ากอดร่างสูงอีกครั้ง

    ฮีชอลหลับตาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาเช่นกัน เค้าไม่อยากไปเลย ไม่อยากไปเลยจริงๆ

    “ฉันจะกลับมา นายต้องรอฉันจองซู”

    “ฮึก...ฉันรักนาย ฮีชอล ฉันรักนาย” อีทึกกระชับอ้อมกอดให้แน่น อยากจะเก็บความรู้สึกตอนนี้ให้นานที่สุด

    “ฉันก็รักนาย รู้ใช่มั๊ย” ฮีชอลผละร่างเล็กออกอีกครั้งก่อนจะประครองใบหน้าสวยไว้

    “ฉันจะรอนายนะฮีชอล” ร่างสูงใช้หัวแม่มือปาดน้ำตาออกให้คนตัวเล็ก ก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าไปประกบจูบ สองลิ้นพันกันจนแยกไม่ออกว่าลิ้นใคร รู้แต่เพียงทั้งคู่อยากเก็บความรู้สึกตอนนี้ให้ได้มากที่สุด ความรู้สึก...รัก

     

     

    “ฉันไปแล้วนะ” ฮีชอลบอกพร้อมกับ เปิดประตูรถ โดยมีเยซองดึงคนตัวเล็กที่น้ำตานองหน้าไว้อยู่ ฮีชอลเองก็ตาแดงก่ำ เค้ามองจองซูที่กำลังร้องไห้ โดยที่เค้าไม่สามารถจะปกป้องได้เหมือนทุกที ก่อนจะค่อยๆเลื่อนประตูรถปิด ทันทีที่รถเคลื่อนตัว อีทึก็ทรุดลงไปนั่งร้องไห้กับพื้น

           วินาทีนี้ เหมือนกับ super junior กำลังจะค่อยๆหายไป พวกเค้าอยู่กัไม่ครบ 13 คนก็แย่พอแล้ว แล้วทำไมคนที่จากไป ต้องเป็นคนที่เค้ารักด้วย สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ปล่อยเวลาให้ผ่าน รอให้วันเวลาพาคนรักเค้ากลับมา เค้าจะรอวันที่ฮีชอลกลับมา...

     

             ภาพที่อีทึกทรุดลงไปต่อหน้าต่อตา ฮีชอลค่อยๆหลับตาลง พร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลลงมา การไม่ได้ทำสิ่งที่ตัวเอง ไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีพร้อมสมาชิกคนอื่นๆก็แย่พอแล้ว แล้วยังต้องพรากคนรักเค้าไป ต้องมองคนรักเค้าเสียใจอย่างที่สุด

     

            รถคลื่อนตัวไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องหยุดลงก่อนที่ร่างสูงจะเดินลงรถมาแล้วเดินตรงมาหาร่างเล็กที่อยู่บนพื้น ก่อนจะฉุดให้อีทึกลุกขึ้นมาแล้วดึงมาอยู่ให้อ้อมกอด  ริมฝีปากหนาประกบที่ริมฝีปากบางทันที ไม่ได้แคร์สายตาของใคร ก่อนจะใช้ลิ้นเกี่ยวความหวานเป็นครั้งสุดท้าย ดูดกลีบปากบางซ้ำๆก่อนจะผละออกแล้วผลักไปให้เยซองที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

    “ดูแลจองซูให้ฉันด้วย” ว่าแล้วก็เดินจากไป ขึ้นไปที่รถ อีทึกได้แต่มองก่อนจะ คลี่ออกมาบางๆ เมื่อรถที่ฮีชอลไปจนสุดสายตา

    “ฉันรักนายนะ ฮีชอล”

     

     

    “พี่อีทึก กินนี่หน่อยสิฮะ” ฮยอกแจยื่นจานสปาเก็ตตี้ไปให้อีทึก เพราะตั้งแต่ที่ฮีชอลไป นี่ก็สองวันแล้วข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน แล้วเหม่อลอย แต่พอเจอกล้องก็ทำตัวเป็นปกติ เฮ้อ ถ้าพี่ฮีชอลรู้ความจริงต้องกลับมาฆ่าพวกเค้าแน่เลย

    ปัง!!! เสียงประตูดังขึ้น สมาชิกที่อยู่ในห้องหันไปมอง ก่อนที่ต้นเสียงจะเดินพรวดพราดเข้ามา

    ร่างสูงเดินตรงเข้ามาหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่โซฟา ก่อนจะฉุดแขนเล็กให้ยืนขึ้นท่ามกลางความตกใจของทุกคน

    “พี่ฮีชอล!!!

    “ทำไมไม่กินข้าว” ฮีชอลจ้องคนตัวเล็กเขม่ง

    “มาได้ไงเนี่ย ฮีชอล” อีทึกยังดูอึ้งๆ ที่อยู่ดีๆฮีชอลก็กลับมา

    “ฉันถามว่า ทำไมไม่กินข้าว” ฮีชอลยังคงจ้องหน้าร่างเล็ก

    “ฮีชอลจริงๆด้วย” เหมือนไม่ได้ยินคำถาม คนตัวเล็กก็โผกอดร่างสูงทันที “ฮีชอล ฉันคิดถึงนาย”

    “เดี๋ญวก่อนจองซู เอาเรื่องนี้ก่อน” ฮีชอลผละคนตัวเล็กออก “ทำไมม่กินข้าว ตอบมาสิ” ฮีชอลยังถามไม่เลิก

    “ก...ก็ ก็มันไม่หิวนี่หน่า” อีทึกตอบพร้อมอมลมเข้าปากอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ

    “ไม่หิวก็ต้องดูดิตัวก็แค่เนี่ยผอมลงไปอีกแล้วใช่มั๊ยเนี่ย” ฮีชอลบ่นพร้อมดึงเข้าไปกอด แล้วผละออกมา  “จริงด้วย นายผอมลง”

    “นายรู้ได้ไง” อีทึกถาม งงๆ

    “กอดนายแล้วก็รู้สิ กอดทุกวันทำไมจะจำไม่ได้ห๊ะ” ฮีชอลบีบปลายจมูกอย่างหมั่นเขี้ยว “ฉันต้องไปแล้วหล่ะ ชอลออกมาหานายแปปเดียว กินข้าวด้วยนะ” ฮีชอลเชยคางคนตัวเล็กเข้ามาจูบเร็วทีนึงก่อนจะเดินออกไป

     

    “อะไรว่ะ เร็วจัง” ซองมินยืนเกาหัวอย่าง งงๆ

    “พี่ฮีชอลมาได้ไงอ่ะ” ซีวอนที่เพิ่งกลับมาจากทำงานถามขึ้น เมื่อตอบออกจากลิฟท์สวนกลับพี่ชายที่น่าจะอยู่กรมทหาร

    “มาหาหัวใจแค่นั้นแหละ” เยซองตอบ พร้อมถูกสายตาค้อนของอีทึกไป แต่อทึกกลับแอบยิ้มเขินๆ ก็ใครจะไม่เขินหล่ะ ก็ฮีชอลเล่นออกมา เพื่อหาเค้าแค่คนเดียว เพราะความเป็นห่วง

     

     

    กลางดึก ฮีชอลโทรศัพท์เข้ามาหาอีทึกที่นั่งเหม่ออยู่ที่เตียง

    “ฮัลโหล” เสียงใสกรอกเสียงลงไว้

    “(กินข้าวหรือยัง)” ฮีชอลถามเสียงเข้ม

    “อื้ม กินแล้วหล่ะ” อีทึกตอบเขินๆ

    “(กินอะไร ใครทำให้กิน มีผักหรือป่าว กินเยอะมั๊ย)” ฮีชอลยิงคำถามเป็นชุด

    “ฮีชอลลล ฉันไม่ใช่เด็กๆน้า รยออุคทำให้กินหรอกน่า ก็ต้องดีอยู่แล้ว กินหมดด้วยน้า” อีทึกตอบก่อนจะถามกลับบ้าง “แล้วฮีชอลหล่ะเป็นไงบ้าง สบายดีรึป่าว”

    “(ก็อย่างที่เห็นอ่ะ โอเค ฉันต้องไปแล้วหล่ะ คุยนานไม่ได้ แต่ฉันจะโทไปบ่อยๆนะ ห่มผ้าด้วยหล่ะ อย่าดึก อย่าหักโหมทำงานเข้าใจมั๊ย ฉันเป็นห่วง)”

    “อื้ม รู้แล้วน่ะ ฮีชอลก็รักษาสุขภาพด้วยนะ ฝันดีนะ ฮีชอล” อีทึกยิ้เขินๆกับคำพูดตัวเอง

    “อื้ม...นายก็ด้วย ฝันดีนะ” ว่าแล้วก็ตัดสายไปปล่อยให้ จองซู นั่งยิ้มกับโทรศัพท์อยู่คนเดียว

     

     

    4 วันถัดมา

    ปัง!!!! ร่างสูงก้าวเข้ามาหาคนตัวเล็ก

    “จองซูอยู่ไหน” ฮีชอลถามทงแฮที่มองฮีชอลอย่างอึ้งๆ

    “ในห้องครับ” ทงแฮบอกแต่ก็ยังอึ้งไม่หาย

     

    “จองซู” ฮีชอลก้าวไปที่เตียงที่คนตัวเล็กนอนอยู่

    “ฮีชอล มาได้ไง” อีทึกพยายามจะดันตัวขึ้น ฮีชอลเลยเข้าไปประครอง

    “กินยารึยัง แล้วทำไม ทำไม่ไหว ให้คนอื่นช่วยทำหล่ะ” ฮีชอลบ่นนิดหน่ยอ ก็เมื่อวานคนตัวเล็กเผลอบ่นกับเค้าว่าปวดหัวนิดหน่อย 

    “ฉันแค่ปวดหัวนิดหน่อยไม่ต้องก็ได้หนิ” ฮีชอลมองก่อนจะเดินออกไปจัดแจงอาหารกับยามา ก่อนจะนั่งมาคนตัวเล็กกินจนหมดแล้วขอตัวกลับไป

     

    3 วันถัดมา

    ปัง!!!!

    “จองซู” ฮีชอลเดินเข้ามาหาอีทึกที่นั่งอยู่โซฟาโดย รยออุคกำลังทำแผลให้อยู่ “ทำไมถึงซุ่มซ่ายอย่างนี้”

    “ฮีชอล ฉันไม่เป็นไร ก็หกล้มนิดเดียวเอง” อีทึกบอกพร้อมกับอ้าแขนออก ขออ้อมกอดจากร่างสูง

    “ฉันมาหาบ่อยๆไม่ได้นะจองซู” ฮีชอลลูบผมนิ่ม “ดูลายตลอดไม่ได้ด้วยดูแลตัวเองดีๆด้วยสิ”

    “อื้ม... ขอโทษนะทำนายเสียเวลาเลย” ฮีชอลก้มลงจูบหน้าผากมนแน่นๆทีนึงแล้วค่อยกลับ

     

    5 วันถัดมา

    ปัง!!!

    “จองซู ทำไมนายไม่รับโทรศัพท์ฉัน”

    “ก็ฉันง่วงหนิก็เลยหลับไป”

    “เถียงฉันหรอ” ฮีชอลคว้าร่างเล็กเข้ามาจูบ

     

    2 วันถัดมา

    ปัง!!!

    “จองซูเมื่อวาน นายปิดเครื่องทำไม”

    “แบต มันหมด ให้ฉันทำไงเล่า”

    “อย่ามาแก้ตัว แล้วทำไมไม่เช็คให้ดีหล่ะ”

     

    3 วันถัดมา

    ปัง!!!

    “ปาร์คจองซู อธิบายมาสิว่าเกิดอะไรขึ้น” ฮีชอลโชว์ภาพถ่ายภาพอีทึกกับหนุ่มปริศนา

    “เค้าขายข่าวเฉยๆ”

    “จะมีชู้หรึอไง เหอะๆ” ฮีชอลถามอย่างจะเอาเป็นจะเอาตาย

    “รักนายคนเดียวก็จะแย่แล้ว มีอีกก็ตายกันพอดี เหอะๆ” อีทึกตอบกลับอย่างกวนๆ

    “รักฉันให้มันจริงเถอะ มาจูบเดี๋ยวนี้เลย” ฮีชอลคว้าคนตัวเล็กมาทำโทษ โทษฐานทำเค้าเข้าใจผิด

     

     

    ภาพพวกนี้กลายเป็นภาพชินชาไปแล้ว

    “พี่ฮีชอลไม่ต้องผมก็ได้มั้งผม พี่ก็มาดูแลเองก็จบ เห้นมาบ่อยเหลือเกิน”

    "พูดมากไอ้เยซองถ้าแกไม่ดูแลอีทึกนะแกตาย"


    “คร้าบๆ”

     
     

    “ฉันรักนาย ไอ้บ้าฮีชอล”

    “แล้วคิดว่าฉันไม่รักนายหรือไงห๊ะ” ว่าแล้วคนตัวเล็กกคว้าท้ายทอยร่างสูงให้ก้มลงมาก่อนจะประกบริมฝีปากทันที

     

     

     

     

    Special

    อีทึกปิดไดอารี่เล่มโปรดลง อีกไม่กี่วันข้างหน้าเค้าก็ต้องไปแล้ว จนถึงตอนนี้เค้าเองก็เข้าใจทุกอย่าง เข้าใจถึงเหตุผล แล้วทุกอย่างที่ควรจะเป็นไป สิ่งที่เค้าทำได้ดีที่สุดตอนนี้ คือเค้าต้องมั่นใจ มั่นใจในศักยภาพของน้องๆทุกคนในวง ว่าจะไม่มีใครทิ้ง super junior ไป มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เมื่อเค้านึกถึงความรู้สึกที่ไม่ได้อยู่อยู่กับสิ่งที่ตัวเองรัก แต่อีกไม่นาน เค้าจะกลับมา ยืนบนเวทีพร้อม super junior คนอื่นๆ มายืนอยู่ในฐานะลีดเดอร์ ท่ามกลางคนที่เค้ารัก และรักเค้า แล้ววันนั้นเค้าจะเป็นคนรวมดาว 13 ดวงไว้บนเวทีเดียวกันอีกครั้ง เค้าจะกลับมา ในอีก 2 ปีข้างหน้า...

     

    และจะรอวันที่ดาว 13 ดวงจะอยู่พร้อมกันอีกครั้งจากนี้และตลอดไป...

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    สวัสดี หายไปนานมากกกกกกกก มากอ่ะ
    รู้ตัวด้วย
    55555555555555

    วันนี้เลยเอาฟิคมาให้อ่านไม่รู้จะสนุกรึป่าววว
    แต่ว่าเรามีข้อแม้ เราอยากให้ทุกคนเม้นพร้อมกับ ความรู้สึกถึงทึก
    5555555555555
    เราอยากเห็นทุกคนดราม่าาาาา

    ฝากด้วยนะคะ ใส่ความเห็นตัวเองได้เต็มที่เลยนะคะ
    ขอบคุณมากค่ะ สำหรับการติดตาม

    รักรีดเดอร์คนงาม
    จุ๊บๆ
    ไว้เจอกันใหม่เมื่อมีโอกาสดีๆอย่างนี้อีก
    ^^

    คิดถึงทุกคนมากกกก






    เราเมนทึกนะ เราก็คงคิดถึงทึกมากแน่ๆเลย T^T
    แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำได้คือ คิดถึงง
    ^_^


    รักทุกคนมากกกๆๆๆค่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×