ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF]Short Fic -Yaoi- หลายแนว~

    ลำดับตอนที่ #3 : [Psychological][Bum Hyuk Hae]Psyche จิตใต้สำนึก

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 52


    Title : Psyche
    Pairing : Bum Hyuk Hae [just match one you like]
    Author : Deirc (Fl2ay)
    Type : Psychological ??
    Author's note : ไม่มีอะไรมาก เคยอ่านฟิคเรื่อง Human Soul ของคุณ NiTRoGeN14 ในบ้านวอนคยู เป็นอะไรที่ทำให้คนอ่านต้องคิด เลยอยากลองทำฟิควันช็อตแบบนี้บ้าง สั้นๆ แต่ต้องคิด 55+ สนุกดี





    WARNING!!! อย่าคลุมดำจนกว่าจะอ่านจบ ถ้าคลุมก่อน คุณก็จะไม่ได้คิด แล้วมันก็จะไม่สนุก






    ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูห้องทำให้ลีทึกต้องวางปากกาในมือก่อนจะลุกไปเปิดประตูให้กับผู้มาเยือน ในเวลาแบบนี้ คนเดียวที่ยังตื่นอยู่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น................... ฮยอคแจ

    คนเป็นน้องเอ่ยบอกหัวหน้าวงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับไม่กล้าจะเอ่ยมันออกมา

    “พี่ ผมอยากเลิกกับทงแฮ ผมคิดมานานแล้ว แต่ไม่กล้ามาบอกพี่” คนฟังนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองหน้าคนพูด
    “นายคิดดีแล้วหรอ”
    “ครับ ความจริงผม................ ผมเคยบอกเขาไปแล้ว แต่เขาก็พยายามชักเรื่องอื่นมาพูดแทน ปัดมาเรื่อยๆ” คนพูดตีหน้ายุ่ง ขมวดคิ้วจนชิดกัน
    “แล้วทำไมถึงอยากเลิกกับเจ้านั่นล่ะ”
    “ผมรำคาญที่ทงแฮชอบทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ห้ามไม่ให้ผมยุ่งกับคนนั้นคนนี้ แล้วพอผมเล่นกับใคร ทงแฮก็โกรธ ทั้งที่ผมไม่ได้คิดอะไร แต่เขาก็ไม่เคยไว้ใจผม ผมต้องคอยไปง้อ ผมเหนื่อย ยิ่งวันทงแฮก็ยิ่งเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ผมอึดอัด ผม ผมทนไม่ไหวแล้ว” ทุกคำพูดถูกเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วด้วยความอึดอัดใจ
    “แต่นายก็มีเรื่องคิบอมด้วยใช่มั้ย” ฮยอคแจเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะมีคนรู้เรื่องนี้ เรื่องที่เขากับคิบอมแอบคบกัน
    “พอดีคืนนั้นที่นายสองคนออกไปด้วยกัน ฉันออกไปกินน้ำพอดีน่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันไม่ได้บอกใคร ว่าจะมาถามนายเนี่ยแหละ แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้านายมั่นใจว่านายหมดรักเจ้าทงแฮแล้ว ความผูกพันธ์เกือบสิบปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะตอนเป็นเพื่อนหรือตอนเป็นคนรัก มันไม่มีความหมายสำหรับนายแล้วจริงๆ ประกอบกับนายแน่ใจว่าจะไม่สนใจว่าเจ้านั่นจะเจ็บขนาดไหนถ้าต้องเลิกกับนาย เดี๋ยวพี่ก็จะช่วยคุยให้แล้วกัน นายแน่ใจใช่มั้ย”
    “ผม.......................... ผมมั่นใจครับ”
    “แล้วคิบอมรู้เรื่องที่นายจะเลิกกับทงแฮมั้ย”
    “ผมบอกเขาแล้ว แล้วผมก็บอกคิบอมเรื่องที่ทงแฮไม่ยอมเลิก คิบอมบอกผมว่าเขาจะรอ”
    “ถ้างั้นก็..........เอาเถอะ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้ อย่าคิดมากล่ะ แต่ว่าถึงพี่จะช่วยพูดยังไง ก็รับประกันผลที่จะออกมาไม่ได้หรอกนะ แล้วก็ ต่อให้สำเร็จยังไงทุกคนในวงก็คงจะปรับตัวกับเรื่องนี้ได้ยากเหมือนกัน นายเข้าใจใช่มั้ย”
    “ผมเข้าใจ ขอบคุณมากนะครับ”
    “อืม รีบกลับไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้นายสามคนจะไปเที่ยวกันไม่ใช่หรอ”
    “ครับ ฝันดีนะครับพี่” ว่าแล้วผู้มาเยือนก็กลับออกไปตามทางเดิม

    ฮยอคแจเดินกลับเข้าห้อง มองหน้าคนที่กำลังหลับ เมื่อแน่ใจว่าได้ยินเสียงกรนเบาๆของทงแฮเขาจึงหยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆในลิ้นชักออกมาพร้อมเดินออกไปยังที่จอดรถ โดยเปิดปิดประตูอย่างเงียบเชียบที่สุด

    ตะปูสองตัวที่ถูกดัดเกี่ยวกันไว้ถูกวางไว้ที่ล้อหน้าด้านซ้าย โดยที่ฮยอคแจคว้าเอาเศษก้อนกรวดที่สนามสองสามก้อนมาวางเอาไว้ด้วย

    เพราะทันทีที่ล้อเหยียบถูกตะปู คนขับจะรู้สึกได้ว่าขับทับอะไรมา หากวางก้อนกรวดเอาไว้ด้วย คนขับก็จะคิดว่าเพียงแค่ขับทับก้อนกรวดโดยไม่คิดว่าแท้จริงจะมีตะปูปักเข้าไปในยางล้อ

    เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ฮยอคแจก็เดินกลับเข้าบ้าน เดินไปเทตะปูที่เหลือลงชักโครกแล้วกดทิ้ง ก่อนจะเก็บกล่องเล็กๆนั้นไว้ที่เดิมแล้วเข้านอนตามปกติ.... ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งทงแฮและคิบอมดูกระตือรือร้นกับการที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน มีเพียงฮยอคแจที่ไม่ได้แสดงออกถึงอาการใดๆ

    หลังทานมื้อเช้าเรียบร้อยทั้งสามคนก็บอกลาทุกคนในบ้านแล้วขึ้นรถโดยที่ทงแฮเป็นคนขับ มีฮยอคแจนั่งข้างๆ และคิบอมนั่งอยู่เบาะหลัง

    ทันทีที่ออกรถทั้งสามก็รู้สึกได้ว่าล้อรถได้แล่นทับอะไรบางอย่าง ทงแฮอาสาออกไปดูและพบว่าเป็นก้อนกรวดเล็กๆที่อยู่ตรงบริเวณล้อด้านซ้าย ไม่มีปัญหาอะไร จึงกลับขึ้นรถและออกเดินทางกันเสียที

    ระหว่างทางทั้งสามพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งฮยอคแจเคลิ้มหลับไป เหลือเพียงคิบอมกับทงแฮที่คุยกันเบาๆ

    เมื่อรถออกมาถึงบริเวณนอกเมือง บนถนนที่เป็นทางตรงสายยาว ทงแฮเร่งความเร็วมากขึ้นและเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อตัวรถเริ่มส่ายเพราะล้อหน้าด้านซ้ายแบนลงเรื่อยๆ แต่ก่อนที่จะได้ชะลอความเร็ว รถก็มาถึงหัวโค้งเสียก่อน ด้วยความที่ตัวรถทรงตัวได้ไม่ดีมาแต่แรกประกอบกับความเร็วสูงที่มีมาแต่ต้น ทำให้รถแหกโค้งชนต้นไม้ข้างทาง ไม่มีใครเป็นอะไรมาก นอกจากฮยอคแจที่หัวแตกแล้วสลบไป

    “จองซู! ตื่นแล้วเอาหัวหนักๆของนายออกจากตักฉัน! ไปเอารถออกไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย!” อยู่ๆฮีชอลที่พึ่งวางสายจากมือถือเครื่องบางก็กระชากหัวคนที่กำลังหลับจนสะดุ้ง
    “โอ๊ย ไปทำไมใครเป็นอะไร”
    “เจ้าสามคนนั้นน่ะสิ ขับรถแหกโค้ง ฮยอคแจหัวแตกแล้วสลบไปเลย นี่นาย อย่าพึ่งพูดมากได้มั้ย ออกไปเอารถเร็วๆเซ่!”

    “ใครเป็นคนขับรถ!” ทันทีที่เห็นหน้ารุ่นน้องทั้งสองฮีชอลก็ตะโกนดังลั่นจนจองซูต้องรีบส่งสัญญาณห้าม
    “ผมครับ ผมเป็นคนขับ ผมขอโทษ” ทงแฮที่กำลังก้มหน้านั่งเงียบพูดด้วยเสียงแหบพร่า จนแทบไม่ได้ยิน
    “เจ้าโง่! แล้วนายไปขับอิท่าไหนให้รถมันแหกโค้งห๊ะ! ดูซิ ถ้าเกิดเจ้าฮยอคแจมันเกิดสมองกระทบกระเทือนเป็นบ้าเป็นบอขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ห๊ะ!” ฮีชอลเดินเข้าไปหาทงแฮแล้วตะโกนจนคิบอมต้องรีบอธิบายเพิ่มก่อนจะเกิดการลงไม้ลงมือ
    “พี่! เงียบ แล้ว ฟัง ผม! ที่ล้อหน้าฝั่งซ้ายมีตะปูเจาะอยู่ที่ยาง แล้วกว่าจะรู้ตัวก็พอดีถึงทางโค้ง รถเลยเสียหลังพุ่งออกไป มันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแหละ”
    “ฉันว่านายใจเย็นเถอะฮีชอล เรามาคิดดูดีกว่าว่าใครเป็นคนทำ”

    ลีทึกและฮีชอลตกลงให้คิบอมและทงแฮอยู่รอดูแลฮยอคแจโดยที่พี่ใหญ่ทั้งสองจะกลับไปจัดการเรื่องหาตัวคนร้าย

    “พวกแอนตี้แฟนแน่ๆ จำสองสามปีก่อนได้มั้ย ไหนจะน้ำส้มกาว ไหนจะเค๊กใส่ยาพิษ ตอนนั้นที่คยูฮยอนเกือบตายก็เพราะไอ่กรณีกรีดยางนั่นแหละ เลว” ฮีชอลนั่งก่นด่าสารพัดระหว่างที่นั่งอยู่บนรถระหว่างทางกลับโดยที่อีกคนไม่ได้ปริปากอะไรซักคำจนกระทั่ง
    “ฮีชอล............ ฉันกำลังคิดว่า คนร้ายคือคนในบ้านเรานั่นแหละ”
    “ฮาและ จะบ้ารึเปล่า ใครมันจะมาทำร้ายกันเองในบ้าน คิดอะไรของนาย”
    “นายอย่าลืมสิ ยางที่พวกเราใช้เป็นระบบแพกซ์ซิสเทม ต่อให้โดนเจาะก็ยังขับไปได้อีกสิบกิโล แล้วบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุก็ห่างจากบ้านเราไปประมาณสิบกิโลพอดี แถมเลยสิบกิโลไปอีกหน่อยด้วย นั่นหมายความว่า ยางมันแตกตั้งแต่เริ่มออกจากบ้านแล้ว” คนฟังทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ
    “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เป็นไปไม่ได้น่า ใครมันจะทำเรื่องเลวๆแบบนี้ ในบ้านตัวเองเนี่ยนะ ตลกแล้ว อาจจะโดนใครซักคนวางเอาไว้ตรงแถวทางออกก็ได้”
    “ฮีชอล ที่ๆเราอยู่กันน่ะ ถ้าไม่ใช่คนในก็เข้ามาไม่ได้นะ แถมมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด”
    “แล้วนายจะบอกว่าพวกเรามีสาเหตุที่จะมาเจาะยางกันเองหรอไง” ลีทึกทำหน้าเครียด เขากำลังคิดว่าควรจะเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสามคนให้ฮีชอลฟังดีไหม

    สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจจอดรถที่ร้านกาแฟข้างทางแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฮีชอลฟัง

    “ถ้าอย่างนั้นนายกำลังจะบอกว่าทั้งสามคนนี้มีใครซักคนที่เป็นคนเอาตะปูมาวางกันเองเนี่ยนะ จะบ้าหรอ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองอยู่ในรถด้วย จะทำไปทำไม”
    “ก็เพราะว่าคนๆนั้นแน่ใจไงว่าต่อให้รถแหกโค้งยังไงที่ๆตัวเองนั่งก็ปลอดภัย” ลีทึกหยิบเศษกระดาษออกมาวาดตัวแหน่งการนั่งให้อีกคนดู
    “ที่นั่งที่ปลอดภัยที่สุดก็คือคนขับกับหลังคนขับ นี่จองซู นายกำลังจะบอกว่าคิบอมกับทงแฮเป็นคนทำอ่ะนะ?” คนฟังพยักหน้าช้าๆ
    “นายคิดว่าแค่ที่ฮยอคแจมาขอเลิกแล้วทงแฮมันจะแค้นจนต้องมาทำร้ายกันเองแบบนี้อ่ะนะ” คนสวยยังคงส่ายหน้ากับความคิดบ๊องๆ
    “ฮีชอล แล้วถ้าเกิดทงแฮรู้เรื่องของคิบอมกับฮยอคแจแต่ไม่แสดงออกล่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทงแฮจะเก็บความเจ็บแค้นไว้จนขนาดลงไม้ลงมือ เพราะเจ้านั่นน่ะรักฮยอคแจจนจะเป็นบ้าขนาดนั้น รักแรงมันก็หึงแรง โกรธแรง แถมรวมกับที่นายบอกด้วย ยิ่งมาโดนฮยอคแจบอกเลิกแบบนั้นอีก”
    “งั้นทงแฮก็เป็นคนทำงั้นสิ?” คนตาโตเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าจริงจัง
    “ก็ไม่เสมอไป สำหรับคิบอมก็มีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายลงมือเหมือนกัน”
    “บ้าแล้วๆ ไอ่นั่นมันตีท้ายครัวทงแฮอยู่แล้ว ยังจะมาอะไรอีก ไม่มีทาง”
    “คิดดูสิ ถ้าคิบอมมองว่าความจริงแล้วที่ฮยอคแจไม่เลิกกับทงแฮซักทีเป็นเพราะฮยอคแจไม่อยากเลิกพยายามยืดเยื้อ โยนไปว่าทงแฮไม่ยอมเลิก ทำให้คิบอมรู้สึกว่าฮยอคแจไม่จริงใจเลยไม่พอใจก่อเรื่องนี้ขึ้นมา”
    “จองซู ฉันว่า ยังไง คิบอมก็ไม่ได้เป็นคนทำหรอก จากที่นายพูดมันไร้เหตุผลไปหน่อย” ถึงจะบอกออกไปอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วฮีชอลกำลังคิดในทางตรงกันข้าม
    ถ้าคิบอมเกิดแค้นทงแฮที่ไม่ยอมเลิกกับฮยอคแจซะที และรู้ว่าถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับฮยอคแจยังไงทงแฮมันก็ต้องโทษตัวเอง เพราะทงแฮเป็นคนขับ แถมยังจะเป็นการโยนความผิดว่าทงแฮนั่นแหละไม่พอใจฮยอคแจเลยก่อเรื่องขึ้น แล้วในขณะที่ฮยอคแจเจ็บตัว คิบอมเองก็จะได้เข้ามาแทรกแซงได้อย่างเปิดเผย เจ้านั่นน่ะฉลาดจะตาย

    “แล้วนายคิดว่าเราจะพิสูจณ์ความจริงเรื่องนี้ยังไงดีล่ะ จะไปฟันธงเอาเองจากการสันนิษฐานของพวกเราก็ไม่ได้”
    “ก็คงต้องปล่อยไปล่ะมั้ง เพราะยังไงก็ให้เรื่องถึงสื่อไม่ได้ด้วย เพราะกรณีเป็นเรื่องของคนใน”

    Fin.











    แล้วคุณล่ะรู้มั้ยว่าใครเป็นคนทำ?
    กลับขึ้นไปคลุมดำสิ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×