คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2
“นี่เจ้าอยู่ไหนเจ้าครึ่งมนุษย์?!”
เสียงหวานของหญิงสาวผมแดงได้ดังขึ้นหลังจากที่เธอโดนระเบิดความร้อนไปเมื่อกี้
พอเธอตั้งตัวได้เธอก็ออกตามหาชายหนุ่มที่ต่อสู้กับเธออยู่เมื่อกี้ในทันที
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตะโกนเรียกแบบธรรมดาๆด้วยสิ
แต่เธอเล่นเดินตามหาโดยโจมตีและทำลายสิ่งปลูกสร้างรอบๆไปด้วย
เพื่อเป็นการบีบให้ชายหนุ่มคนนั้นออกมาจากที่ซ้อนตัว
แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้ออกมาตามเสียงเรียกของเธอเลย
มันยิ่งได้เพิ่มความหงุดหงิดและเกรี้ยวกราดให้กับเธอมากขึ้นไปอีก
แน่นอนว่าการที่เธอซึ่งเป็นแฮชเชอร์ถูกเด็กเมื่อวานซืนลูบคมไป
แถมยังเกือบตายจนต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อฆ่าอีกฝ่ายที่เผลออีก
แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอดเธอก็ยังฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้มันก็เลยทำให้เธอโมโหเป็นอย่างมาก
มันยิ่งเพิ่มความระมัดระวังในตัวของชายหนุ่มผมขาวมากขึ้นไปอีก
ในคราวนี้เธอจะไม่ประมาทอีกฝ่ายเพราะเห็นเป็นเด็กอีกแล้ว
และในระหว่างที่เธอกำลังเดินหาเขาอยู่ในที่สุดเธอก็เห็นเงาของใครบางคนเดินฝ่าเปลวเพลิงของเธอเข้ามา
ซึ่งเขาได้มาพร้อมกับทหารอีกจำนวนหนึ่ง
ทันทีที่เธอให้ลักษณะของอีกฝ่ายเธอก็ยิ้มออกมาทันที
ถึงแม้ลักษณะการแต่งตัวจะแตกต่างไปจากเดิมแต่เธอยังจำใบหน้าและหน้าตาได้
“ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าแล้ว~ เจ้าครึ่งมนุษย์?! ถึงเจ้าจะเอาทหารมามันก็เปล่าประโยชน์!!!”
ทันทีที่เธอพูดจบเเฮชเชอร์สาวก็ได้ปล่อยเปลวเพลิงออกไปเพื่อเปิดฉากการต่อสู้ทันที
ฟูมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!
“?!!!” ชายหนุ่มผมขาวที่เห็นก็เบิกตากว้างก่อนที่เขาจะรีบกระโดดหลบออกจากตรงนั้น
นั้นจึงทำให้เขารอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดแต่ทหารที่ตามเขามาด้วยนั้นถูกเปลวเพลิงจังๆ
ส่งผลให้ทหารนับสิบนายเสียชีวิตลงทันทีส่วนชายหนุ่มนั้นก็สามารถลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย
“ที่หายไปตั้งนานเพื่อพาพวกมนุษย์ไร้ประโยชน์พวกนั้นมารุมฆ่าข้างั้นหรอ? เจ้าครึ่งมนุษย์…”
แฮชเชอร์สาวได้เอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิดเธออุส่าเสียเวลาตามหาอีกฝ่ายเพื่อจัดการทิ้งตั้งนาน
“นี่คุณพูดเรื่องอะไร?” ชายหนุ่มผมขาวได้เอ่ยขึ้นด้วยความงงงวย
“อย่าคิดว่าคราวนี้ข้าจะประมาทเหมือนกับครั้งที่แล้วให้เจ้าได้โจมตีอยู่ฝ่ายเดียวอีก… แต่คราวนี้ข้าจะทุ้มพลังทั้งหมดของข้าเพื่อฆ่าเจ้าซะ?!!!”
ทันทีที่เธอพูดจบคลื่นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ก็ได้พุ่งไปหาร่างของชายหนุ่มผมขาวทันที
“!!!!”
ชายหนุ่มผมขาวที่เห็นก็ได้สร้างกำแพงนํ้าแข็งขึ้นมาเพื่อป้องกันเปลวเพลิงของอีกฝ่ายเอาไว้ทันที
แต่ทว่ามันก็กับต้านเอาไว้ได้ไม่นานมากนักเนื่องจากอุณภูมิที่สูงขึ้น
ทำให้นํ้าแข็งที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันมันก็ได้ละลายลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเห็นแบบนั้นก็ได้สร้างกำแพงนํ้าแข็งขึ้นมากันอีกฝ่ายเอาไว้
และเมื่อเปลวเพลิงได้หยุดลงชายหนุ่มผมขาวก็ได้สร้างนํ้าแข็งที่แหลมคมขึ้นมาแทงหญิงสาวทันท่ี
ฟึบ!!!! คลืดดดดดด!!!! แกร๊กๆๆ!!!!!!
นํ้าแข็งที่แหลมคมได้ปรากฎขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วจากนั้นมันก็ด้พุ่งเข้าไปหาร่างของแฮชเชอร์สาว
“คิดว่ามุขเดิมๆของเจ้าจะใช้กับข้าได้ผลอีกครั้งรึยังไง?!!!”
เธอได้เอ่ยขึ้นก่อนที่จะสร้างเปลวเพลิงที่รุนแรงอีกครั้งเพื่อใช้มันทำลายนํ้าแข็งของชายหนุ่มใยทันที
ฟูมมมมมมม!!!!! บูมมมมมมม!!!!!!
เปลวเพลิงที่ร้อนแรงได้ปะทะเข้ากับนํ้าแข็งที่เย็นจัดจนเกิดระเบิดขึ้นอีกครั้งจากอากาศที่ขยายตัวขึ้น
“!!!!”
คลืดดดดด!!!! แกร๊กกกก!!!!!
ชายหนุ่มผมขาวได้สร้างนํ้าแข็งไว้ที่หลังของตัวเองเพื่อต้านไม่ให้ร่างกายปลิวไปกับแรงระเบิดที่เกิดขึ้น
“ให้ตายเถอะ พึ่งผสานเข้ากับยีนฮงไคมาก็เลยใช้พลังได้ยังไม่ค่อยคล่องแบบนี้มันชักจะตึงมือแล้วแฮะ”
ชายหนุ่มผมขาวได้พูดออกมาเบาๆด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดเขาคือเควิน คาสลาน่า
ที่พึ่งออกมาจากหลอดแก้วแบบสดๆร้อนๆเมื่อกี้นี้เลย
อีกด้านหนึ่ง ณ ช่วงเวลาเดียวกัน
“ฮาาาา~ โล่งสบายเลย” อิซึกิที่พึ่งออกจากห้องนํ้ามาก็ได้เอ่ยขึ้นเบาๆ
เพราะตลอดการต่อสู้เขาต้องทนอั้นมันมาตลอดทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิ
แต่ตอนนี้ไม่แล้วเขาได้ปลดปล่อยออกมาหมดแล้วพร้อมที่จะกลับลงสมรภูมิอีกครั้ง
ถึงแม้เขาจะสงสัยก็เถอะว่าทำไมเขาถึงยังไม่ยอมตื่นอีก
เนื่องจากปกติเขาต้องรู้สึกแล้วก็ตื่นขึ้นมาแท้ๆแต่ก็ไม่เขาไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเลยสักนิด
‘หลับลึกแน่ๆเลย… เวรเอ๊ย… ฉี่ในรถเมย์ไม่พอดันหลับลึกแบบนี้อับอายประชาชีแน่ชั้น…’
อิซึกิได้พูดบ่นออกมาในใจเบาๆยังไงเขาก็รู้ตัวที่ว่าตัวเองนั้นหลับลึกมากแค่ไหน
ซึ่งหลับลึกขนาดนาฬิกาปลุกก็ยังไม่สะทกสะท้านหูของเขาเลยสักนิด
“หื้ม?นี่เธอยังไม่รีบออกไปจากที่นี่อีกงั้นหรอ?” อิซึกิที่เห็นหญิงสาวผมสีเทาอมฟ้ายังอยู่ก็ได้เอ่ยขึ้น
‘จะว่าแบบแล้วพึ่งจะสังเกตเธอคือฟูกะนี่หว่าเอ๊ะหรือว่าฟูฮัว? เออช่างเถอะยังไงก็เหมือนกันแหล่ะ’
“นี่คุณพูดจริงรึเปล่า… ที่บอกว่าเธอถูกจิตแฮชเชอร์ควบคุมไปโดยสมบูรณ์แล้วหน่ะ?” ฟูฮัวเอ่ยถามขึ้น
“ก็จริงหน่ะสิ ชั้นจะไปหลอกเธอให้มันได้อะไรกันเล่า?”
“มัน… มันไม่มีวิธีที่จะเรียกสติให้เธอกลับมาแล้วจริงๆงั้นหรอ?” เธอได้ถามขึ้นแม้ใจจริงจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็ตามทีเถอะ
“…” อิซึกิที่ได้ยินก็นิ่งไปสักพักที่จริงจะตอบว่ามีก็ได้หรือว่าจะไม่ก็ได้เหมือนกัน
ถ้าเป็นใน Honkai Impact 3rd ก็มีแหล่ะแต่เขาไม่รู้ว่าจะใช้ได้รึเปล่าก็แค่นั้น
‘จะบอกว่าเป็นพลังมิตรภาพก็ได้แหล่ะมั้งนะ’
“ไม่รู้หรอก… ชั้นไม่รู้หรอกว่าต้องทำยังไงขนาดเธอที่สนิทกันขนาดมาขว้างชั้นยังเรียกไม่ได้เลยชั้นเองก็คงไม่เหลือหรอก”
“งั้นหรอ…”
“แต่ชั้นก็ไม่ได้บอกให้เธอตัดใจหรอกนะ” ทันทีที่อิซึกิพูดจบเธอก็ได้หันมามองเขาทันที
“มันอาจจะมีสักทางก็ได้แค่เรายังหามันไม่เจอก็แค่นั้นในตอนนี้อาจจะทำไม่ได้แต่อนาคตก็ไม่แน่หรอก” และเมื่อเขาพูดจบก็ได้ลุกขึ้นทันที
“นั่นคุณจะไปไหนหน่ะ?”
“ก็ไปจัดการให้จบหน่ะสิ ตอนนี้เรียกสติของเธอไปก็ไม่มีประโยชน์แล้วหล่ะก็เล่นถูกควบคุมขนาดนั้นหนิ ถ้าปล่อยเอาไว้ก็มีแต่จะทำให้ความเสียหายลุกลามไปมากกว่านี้เท่านั้น ถึงชั้นจะอยากช่วยก็ตาม แต่ตอนนี้ถ้าเรียกสติของเธอไม่ได้ยังไงสุดท้ายก็ต้องจัดการเท่านั้น”
“แล้วไหนคุณบอกว่าอาจจะมีวิธีเรียกสติของเธอไงแล้วทำไมถึงต้องจัดการเธอด้วยหล่ะ”
“เห้อ… ชั้นบอกว่าในอนาคตอาจจะไม่แน่แต่ไม่ได้บอกว่ามันมีหนิ” อิซึกิพูดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินไปหาเธอ
จากนั้นก็ก้มลงทำให้ในสายตาของทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน
“ชั้นบอกแล้วว่าชั้นก็อยากจะช่วยแต่ตอนนี้ถ้าปล่อยเอาไว้คนธรรมดาจะต้องโดนลูกหลงไปด้วย เธอเองก็เห็นแล้วหนิ ว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งใจที่จะฆ่าเธอไปพร้อมๆกับชั้นหน่ะ”
“….”
“ตอนนี้เธอถูกจิตแฮชเชอร์ควบคุมโดยสมบูรณ์แล้วเรียกสติไปก็คงไม่ไหวแล้วหล่ะถึงชั้นจะไม่จัดการแต่ยังไงคนอื่นๆก็คงทำอยู่ดีแต่จะช้าหรือเร็วมันก็แค่นั้นเอง”
เมื่อเขาพูดจบก็ได้ลุกขึ้นทันทีแต่ก่อนจะไปเขาก็ได้หันไปพูดกับเธออีกครั้ง
“แต่ก็เอาเถอะ คำตอบที่บอกว่าจะเรียกสติได้มั้ยยังไงมันก็ไม่แน่นอนอยู่แล้วงั้นทำไมเธอไม่ลองหามันดูเองซะหล่ะ”
“…..” อิซึกิได้พูดขึ้นจนทำให้เธอต้องหันมามองเขาอีกครั้ง
“แข็งแกร่งขึ้นแล้วก็จงใช้พลังของเธอหาคำตอบเอาเองซะสิ”
สิ้นเสียงพูดของเขาเจ้าตัวก็กระโดดออกจากอาคารไปทันที
ปล่อยให้หญิงสาวได้นั่งทบทวนกับคำพูดของเขาเมื่อกี้
“แข็งแกร่งขึ้นแล้วหาคำตอบด้วยตัวเองงั้นหรอ… จะว่าไปแล้วยังไม่ได้ถามชื่อเขาเลยหนิรู้สึกว่าตอนนั้นเขาจะพูดชื่อตัวเองออกมาด้วยนิ…”
ฟูฮัวได้นั่งนึกชื่อของเขาอยู่สักพักก่อนที่เธอจะพูดออกมาเบาๆ
“อิซึกิ…”
ตัดมาที่อิซึกิอีกครั้ง
“จะว่าไปแล้วก่อนหน้าชั้นเห็นระบบด้วยนี่หว่า… เฮ! คุณระบบอยู่มั้ยเอ๋ย?”
อิซึกิได้ตะโกนเรียกระบบก่อนที่จะมีเสียงตอบกลับ
[สวัสดีคะมาสเตอร์มีอะไรให้รับใช้คะ?]
“หวัดดีครับ ว่าแต่เธอสามารถทำอะไรได้บ้างอะ?”
[หลายอย่างคะ]
“ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ไม่ใช่เส้?! ที่ชั้นถามคือเธอสามารถทำในแบบที่ระบบในอนิเมะหรือแฟนฟิคทำได้มั้ย?”
[ทำได้คะ]
“งั้นก็เปิดสเตตัสหน่อยสิ”
สเตตัส
[สเตตัส]
[ชื่อ] : โดมะ อิซึกิ [อายุ] : 18
[การ์ดตัวละครหลัก] : เควิน คาสลาน่า
[การ์ดตัวละครลอง] : ยังไม่มี
[Level] : 1
[พลังโจมตี] : 550
[พลังป้องกัน] : 535
[ความเร็ว] : 480
[ประสาทสัมผัส] : 410
[ความฉลาด] : 250
[ทักษะ]
-ควบคุมนํ้าแข็ง (ระดับสูงสุด)
-กลายร่างฮงไค (ระดับสูงสุด)
-เรียกใช้งานกุญแจสวรรค์ (ระดับสูง)
-ทักษะดาบ (ระดับมือสมัครเล่น)
-ทักษะการต่อสู้ (ระดับกุ๊ยข้างถนน)
-ทักษะทำอาหาร (ระดับยํ่าแย่ขั้นสุด)
-ทักษะการเลียนแบบเควิน (ระดับสูงสุด)
-ทักษะการทำให้ตัวเองดูฉลาดน้อย (ระดับสูง)
-ทักษะการมโนไปเอง (ระดับกลาง)
-ทักษะการแสดง (ระดับสูง)
“……”
[พลังของมาสเตอร์ในตอนนี้จะมีเทียบเท่ากับเควิน คาสลาน่าในช่วงพีคที่สุดคะได้มาจากการ์ดตัวละครล้วนๆ ทักษะบางอย่างแค่พลังโจมตีต่างๆด้วยคะ]
[ส่วนใหญ่ที่เป็นของมาสเตอร์จะเป็นขั้นพื้นฐานทั้งหมดคะแน่นอนว่าทั้งหมดสามารถฝึกฝนได้คะ]
“ทำไมถึงไม่รู้สึกดีใจที่ได้เห็นเลยอะ… ว่าแต่การ์ดตัวละครนี่ได้มาไงงั้นหรอ?”
[ก็เมื่อวานยังไงหล่ะคะมาสเตอร์เป็นคนตอบตกลงเองเลยด้วยจำไม่ได้หรอคะ?]
“ตอนไหนอะไม่เห็นจำได้เลย?”
[ตอนประมาณตี 2:58 นาทีคะ]
“ใครมันจะไปจำได้ฟร่ะตอนนั้นชั้นน่าจะกำลังหลับได้ที่เลยชั้นก็คงตอบแบบส่งๆไปนั่นแหล่ะ แล้วก็เหตุผลที่ชั้นได้การ์ดเควินหล่ะ?”
[เดี๋ยวระบบจะเปิดประวัติการได้รับให้คะ]
ประวัติการได้รับ
-[การ์ดตัวละครเควิน คาสลาน่า [ระดับสูงสุด]] [ได้รับแล้วเมื่อ : 02.58 น.]
[เหตุผลที่ได้รับ]
- ของขวัญจากระบบตามความเห็นชอบ
[คำอธิบายเกี่ยวกับการ์ด]
- ผู้ใช้จะได้พลังทั้งหมด + ทักษะอีกนิดหน่อยของเควินคาสลาน่าในช่วงพีคที่สุด
[ของแถมที่ได้รับจากการ์ด]
- ชุดเควิน คาสล่าน่า (ดัดแปลง)
- ทักษะเรียกใช้งานกุญแจสวรรค์ (ระดับสูง)
“โอเค… หลักฐานครบเลย…. แล้วมีวิธีที่จะออกจากความฝันมั้ย? หรือว่าชั้นต้องจัดการกับแฮชเชอร์ก่อนหรอ?”
[ความฝันไหนคะ?]
“เอ้า? อย่ามาตอแหลน่าก็ที่นี่ไงความฝัน~”
[เห้อ… งั้นมาสเตอร์ต้องจัดการกับแฮชเชอร์ก่อนคะเดี๋ยวระบบจะบอกอีกทีหนึ่ง]
“ก็ได้ๆแค่จัดการก็พอใช่มั้ยหล่ะ?”
[คะ]
“รับทราบแล้วคร๊าบแค่ทำก็พอสินะ”
อ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้นะงับ
เหตุผลที่ระบบมันไม่บอกพระเอกไปเลยว่ามันคือความฝันมันก็ง่ายๆเนื่องจากพระเอกมันยังคิดว่เป็นความฝันอยู่เจ้าตัวก็เลยห้าวๆแบบนี้ยังไงหล่ะเพราะคิดว่าเป็นความฝันยังไงก็ไม่ตายหรอก
ส่วนเรื่องนี้ก็ไม่ได้แกงเควินนะงับเนื่องจากอิซึกิมันดันแสดงพลังออกมาเยอะเกินทำให้แฮชเชอร์ที่เกือบตายมาแล้วก็เลยต้องระวังตัวมากขึ้นเป็นพิเศษจะประมาทเพราะคิดว่าเป็นเด็กไม่ได้แล้ว
เพราะงั้นเคราะห์กรรมทั้งหมดที่เฮียแกสร้างมาเควินรับเต็มครับแถมประเด็นคือดันเป็นเควินที่พึ่งหลอมรวมยีนมาแบบสดๆร้อนๆทำให้การใช้พลังอะไรเลยยังไม่สเสถียรหรือไหลลื่นหมือนกับปัจจุบันที่ประสบการณ์โชกโชนแล้ว
ตอนต่อไปถ้าไม่ขี้เกียจก็พรุ่งนี้เย็นๆงับไม่ก็ดึกๆหรือไม่ก็อาจจะมะรืนเลย
ความคิดเห็น