ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    POKEMON | RAIN BATTLE

    ลำดับตอนที่ #3 : 03 ลายมือ

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 66


     

    03

    ลายมือ

     

     

    เคยมีคนตั้งคำถามกับโอกิโดะว่าจะมีความเป็นไปได้หนึ่งในล้านหรือไม่ที่โปเกม่อนและมนุษย์จะหมดศรัทธาซึ่งกันและกัน

    โอกิโดะมีคำตอบทั้งแบบที่ชอบและไม่

    แต่ในตอนนั้นเขาเลือกจะเดินทางไปยังอโลล่าเพื่อเฝ้าดูการแข่งขันของดาวเด่นวัยเยาว์ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงาน เฝ้ามองซาโตชิยืนประชันหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่สุดในมวลเกาะสวรรค์กลางทะเลอย่างมั่นคง เด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นแรงกล้าและความฝัน

    โอกิโดะกลับมา

    เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียวที่จะตอบคำถามนั้น

     

     

    “ด็อกเตอร์โอกิโดะ เป็นเกียรติมากเลยครับที่ได้มาฟังการบรรยายของคุณ”

    “ด็อกเตอร์ราแวนด์ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจจริง ๆ ครับ ยินดีจริง ๆ ที่คุณมาด้วย”

    พลันใบหน้าของโอกิโดะก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเอ่อล้นอย่างประหลาด นัยน์ตาจับจ้องไปยังอีกหนึ่งนักวิจัยผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์หาตัวจับยาก

    ราแวนด์ ในความทรงจำของอดีตศาสตราจารย์โอกิโดะนั้นคือชายวัยกลางคนที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุม แม้จะอายุน้อยกว่าเขาไม่กี่ปีแต่เมื่อเทียบวุฒิภาวะและความเป็นผู้นำที่ควบคุมทีมวิจัยหัวกะทิของลีกแล้วมันฟังดูน่าเหลือเชื่อ

    ราแวนด์ หัวกะทิจากสถาบันยอดเยี่ยมซึ่งการันตีความสามารถและความรู้ โอกิโดะเคยได้ยินว่าอีกฝ่ายเคยถูกทาบทามให้เข้าร่วมโปรเจ็กประจำภูมิภาคอิชชูบ้านเกิด ก่อนจะเดินทางไปอยู่กับภรรยาและลูกซึ่งใกล้กับที่ทำงานใหม่ ส่วนกลางของลีก สถานที่ที่เต็มไปด้วยงานวิจัยที่แสดงถึงภูมิปัญญามากมายของมนุษย์ที่ถูกรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบ

    น่าสงสารที่ภริยาและลูกต้องเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุ

    และน่าสงสารซ้ำแล้วที่ราแวนด์ถูกพับโปรเจ็กที่เป็นดั่งชีวิตลงหลังจากนั้นไม่นาน แต่นั่นก็เป็นเพียงข่าวลือหนาหูจากพวกชอบซุบซิบ

    โอกิโดะเชื่อว่าเรื่องราวของราแวนด์มีอะไรมากกว่าการถูกตัดสิทธิ์งานวิจัย

    แม้จะไม่สนิทสนมหรือมีบทสนทนาระหว่างพวกเขามากนัก แต่นักวิจัยด้วยกันนั้นสนทนากันผ่านผลงานและงานอภิปราย เปรียบเปรยเช่นนั้นฟังดูประหลาด แต่สำหรับนักวิจัยที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโปเกม่อนแล้ว ทุกตัวอักษร ทุกบรรทัดนั้นล้วนเต็มไปด้วยลายมือที่ปฏิเสธไม่ลง

    ‘งานเขียนชิ้นนี้อุทิศให้แก่บุคคลผู้เปี่ยมไปด้วยความอยากที่จะแสวงหา

    บุคคลผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก

    บุคคลผู้เปี่ยมไปด้วยศรัทธาในสายสัมพันธ์ของมนุษย์และโปเกม่อน’

    งานเขียนมักแสดงออกถึงผู้เขียน

    มุมมอง อุปนิสัย ความทะเยอทะยาน ความลุ่มหลง ความเพ้อฝัน

    ครั้งแล้วครั้งเล่าที่โอกิโดะหยิบงานเขียนของราแวนด์ขึ้นมาอ่าน การกล่าวอ้างถึงทฤษฎี การเขียนแสดงความคิดเห็นของผู้เขียน สิ่งเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเถรตรง มั่นคงและความรักในโปเกม่อนอย่างลึกซึ้ง ศาสตราจารย์หลายคนในปัจจุบันเองก็ยังอ้างอิงแบบแผนต่อยอดจากงานเขียนของราแวนด์เองก็มี

    ผู้ชายที่ลายมือชัดเจนมากขนาดนั้น

    ลายมือที่เต็มไปด้วยความสัตย์จริงมากมาย

    ลายมือที่เต็มไปด้วยความรักในโปเกม่อน

    โอกิโดะไม่อาจคิดได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นมาดหมายจะทำลายระบบของลีกด้วยการยึดอำนาจหรือแบล็กเมล์ได้จริงหรือ

    “ปู่ครับ อ่านอะไรอยู่”

    เสียงของชิเงรุ หลานชายผู้เป็นดังเปลวไฟอันรุ่งโรจน์ของตระกูล ดวงตาสีเขียวชี้ไปยังหนังสือเย็บมุมทำมือไม่เป็นระเบียบในมือของชายชรา

    “งานเขียนของด็อกเตอร์ราแวนด์น่ะ”

    ชายชราตอบด้วยรอยยิ้ม วางหนังสือทำมือลงบนโต๊ะ นิ้วเลียบไปตามสันขรุขระพร้อมกับสายตางุนงงของหลานชาย

    “ปู่สนิทกับเขาไหม คนที่ชื่อราแวนด์”

    “ถ้าหมายถึงเราสนิทกันผ่านงานเขียนก็ใช่นะ ปู่เคยไปงานสัมมนากับเขาไม่กี่ครั้ง และมีอภิปรายที่เราเจอไม่กี่ครั้งก่อนที่ราแวนด์จะลาออกจากวงการไป”

    “ราแวนด์เป็นด็อกเตอร์ที่ถูกสาป” ชิเงรุเกริ่น “ภรรยาและลูกของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต โครงการก็ถูกยุบด้วยสาเหตุจากความรุนแรง คนพากันลือให้แซ่ด”

    เจ้าตัวอธิบาย จัดวางกาน้ำร้อนและแก้วชาลงบนโต๊ะ ดวงตาขยับมองกลุ่มควันสีขาวกระจายไปในอากาศขณะที่อดีตศาสตราจารย์โอกิโดะผู้มีชื่อทำเพียงขยับตัวบนเก้าอี้หุ้มหนังหยาบตัวโปรด

    “งั้นเหรอ” ชายชราฮัมในลำคอ “ฟังดูเหมือนเป็นผู้ชายที่น่าสงสารนะ ครอบครัวต้องมาตายและงานที่เปรียบเหมือนเป็นทั้งชีวิตก็ถูกพรากไป”

    ชิเงรุอ้าปาก

    “…”

    ความคิดไหลเนื่องก่อนที่ความเงียบจะทำให้ชายหนุ่มทำเพียงจิบน้ำชาขมฝาดในมือคล้ายกำลังประมวลผล โอกิโดะคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นปมระหว่างคิ้วของหลานชายค่อย ๆ คลายออกจากกัน ชิเงรุต้องตะขิดตะขวงใจกับราแวนด์เพราะข่าวลือและเรื่องซาโตชิอย่างแน่นอน ราแวนด์ที่มีข่าวไม่ดีจนหนาหูกับเพื่อนรักที่หายหน้าไปนาน

    แม้จะไม่ได้กล่าวโดยตรง แต่ชิเงรุคงจะนึกห่วงซาโตชิอยู่ลึก ๆ

    “ซาโตชิกับราแวนด์ก็มีส่วนคล้ายกันอยู่นะ ส่วนที่อุทิศให้โปเกม่อน”

    “แต่ปู่รู้ใช่ไหมครับว่าซาโตชิทึ่มเกินกว่าจะไปยุ่งเรื่องการเมืองแบบนั้น ถ้าราแวนด์ ด็อกเตอร์ราแวนด์อะไรนั่นหลอกใช้อะไรขึ้นมาล่ะ ... พอตัดสินใจทำอะไรแล้วซาโตชิชอบทำอะไรบุ่มบ่ามปู่ก็รู้”

    ราแวนด์ไม่ได้มีชื่อด้านการเล่นเกมการเมืองเท่าไหร่นัก

    ดูเหมือนไม่ใช่ผู้ชายประเภทนั้นด้วยซ้ำ

    แต่ไม่ใช่กับซาโตชิ

    ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ ตำแหน่งแชมป์เปี้ยนก็ยังเป็นเหมือนหมากในเกมการเมืองที่น่าปวดหัว บางคนปรับตัวกับมันได้ด้วยอำนาจและชื่อเสียงในอีกแง่หนึ่งเช่น คาร์เน บางคนมีส่วนร่วมชัดเจนเหมือนแดนดี บางคนปลีกวิเวกพาตัวเองออกนอกเกมการเมืองด้วยการละอำนาจตัดสินใจเหมือนชิโรนะหรืออาเดคุ

    แต่แค่ซาโตชิหัวรั้นกว่านั้น

    “แต่คนเราเวลาที่ตัดสินใจผิดพลาดไป คนที่ควรเตือนก็คือเพื่อน” อดีตศาสตราจารย์โอกิโดะกล่าวด้วยน้ำเสียงสบาย “ถ้าชิเงรุคิดว่าสิ่งที่ซาโตชิทำมันผิด แบบนั้นคนที่ควรเตือนซาโตชิก็คือเธอไม่ใช่เหรอ”

    เหมือนภาพซ้อนเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วไม่มีผิด ชิเงรุถอนหายใจหลังกระเบื้องของแก้วชา

    “... ผมจะพยายาม”

    ชิเงรุไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ซาโตชิกำลังทำมันถูกหรือเปล่า

    เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร เลยไม่รู้ว่ามันถูกต้องหรือไม่

    แต่อย่างน้อยเขาก็จะพยายามในส่วนที่เคยละเลยไป

     

     

    “ด็อกเตอร์โซเนีย ขอบคุณที่มานะครับ”

    “ไม่หรอก เวลาแบบนี้นี่แหละที่ฉันต้องมา” โซเนียโบกมือรับ “แดนดีคุงล่ะ”

    “แชมป์เปี้ยนแดนดีอยู่ด้านในครับ”

    เสียงรองเท้ากระทบกระเบื้องเย็นทำให้ผู้ยืนอยู่ก่อนหน้าละความสนใจ

    “แดนดีคุง เป็นอะไรไหม”

    “ไม่เลย เพียงแต่...” แชมป์เปี้ยนของการ์ล่าฮัมในลำคอ เบี่ยงตัวไปด้านข้างให้ศาสตราจารย์สาวเข้ามาใกล้ได้มากขึ้นในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังโปเกม่อนแหล่งประกายแสงสีแดงวาวโรจน์ที่ส่องสว่างไปทั่วทั้งชั้น มุเก็นไดน่า

    “มีปฏิกิริยาตอบรับจนน่าเหลือเชื่อเลยนะ ไม่สิ เรียกว่าเป็นปฏิกิริยาที่เห็นแล้วน่าขนลุกจริง ๆ ”

    “นั่นสินะ”

    ชายหนุ่มถอนหายใจระหว่างความเงียบที่เกิดขึ้นท่ามกลางบทสนทนา

    “จำได้ไหม เรื่องของด็อกเตอร์ราแวนด์คนนั้น ...พอเห็นท่าทีรุนแรงของมันทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของเขาขึ้นมา ความกังวลในโปเกม่อนค่อนข้างรุนแรง และบางอย่างกำลังทำหน้าที่เป็นสารเร่ง”

    โซเนียอยากพยักหน้ารับแต่ไม่ได้ทำ เพราะเธอเองไม่ได้เห็นด้วย

    ไม่ใช่ว่าโซเนียอคติกับชายคนนั้นหรือเชื่อข่าวซุบซิบที่ว่าราแวนด์เป็นตัวอับโชค ไม่มีใครคาดการณ์ได้หรอกว่าชีวิตจะอับจนหนทางมากขนาดไหน อย่างน้อยเธอก็เลือกที่จะเคารพในความมุมานะและอดทนของราแวนด์คนนั้นมากกว่า

    เพียงแต่ข้อสรุปที่ได้มานั้นไม่เหมือนกัน

    “มันเป็นไปได้ยากนะรู้ไหม ฉันติดต่อแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญ ตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีต่อโปเกม่อนได้ทุกภูมิภาคขนาดนั้นนอกจากจะต้องกระจายไปทั่วแล้วยังต้องมีตัวนำแจกจ่ายด้วย ถ้าจำแนกว่าคล้ายปรากฏการณ์ไดแมกส์คงจะเข้าเค้ากว่า”

    “นั่นสินะ”

    แดนดีตอบ แต่ฟังเหมือนเหม่อลอยไม่จดจ่อกับมันเสียเท่าไหร่และโซเนียไม่อยากเร่งเร้าอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก ช่วงนี้ที่การ์ล่าก็หัวหมุนกันยกใหญ่ แม้จะไม่เลวร้ายเท่าคาลอสหรือเกิดขึ้นต่อเนื่องแบบในเขตคันโต แต่เพราะระบุแน่ชัดไม่ได้ความวุ่นวายในฝูงชนจึงมากตามไปด้วย

    ความหวาดระแวง ความคลาแคลงในการทำงาน ความคิดเห็นในแง่ลบมีให้เห็นมากมายบนช่องทางออนไลน์ขอแค่มีโรตอมบุคคลทั่วไปก็เข้าถึงข้อมูลอัปเดทวิต่อวิส่วนใหญ่ได้แล้ว

    และโดยส่วนมากผลกระทบก็ตกที่บุคคลสาธารณะที่มีหน้ามีตาอย่างแดนดีคุงล่ะนะ

    ชื่อเสียงและความรับผิดชอบมันก็ยังเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี

    “ด็อกเตอร์โซเนีย”

    เสียงเรียกจากผู้ช่วยทำให้หลุดจากภวังค์ โซเนียหันไปรับเครื่องฉายกราฟขนาดจิ๋วจากสาวเจ้าคนสนิทวางไว้บนโต๊ะเตี้ย

    “ขอบคุณนะ” เธอยิ้ม

    นิ้วลากไปตามเส้นแสงผิดธรรมชาติที่ปรากฎเป็นรูปร่างแหลมสูงเหมือนภูเขาทับซ้อนกัน เกือบจะคล้ายกันเมื่อเทียบวันและเวลา มีบางส่วนคล้ายว่าเคยเห็นผ่านตามาก่อน นั่นคือข้อมูลเทียบที่ศาสตราจารย์ราแวนด์คัดลอกส่งให้กับกลุ่มบุคคลผู้เข้าร่วมการประชุมนั่นเอง

    ดวงตาคู่สวยกวาดสำรวจอย่างรวดเร็วด้วยความชำนาญ

    “จุดไหลผ่านของกราฟเกือบจะคล้ายกันกับเหตุการณ์ที่คาลอสเลย แล้วก็นี่ ที่คันโตเมื่อสามเดือนก่อน ขอสรุปช่วงต้นปีของเขตคันโตด้วยนะ”

    “ที่คันโตด้วยเหรอคะด็อกเตอร์”

    “ใช่แล้วล่ะ แม้จะไม่รุนแรงเท่าคาลอสหรือตอนนี้จะเงียบหายไป แต่ที่คันโตก็มีเหตุการณ์ยุ่ง ๆ ที่คล้ายกันละนะ อย่าลืมติดต่อโกคุงให้ด้วยล่ะ”

    “ได้ค่ะ”

    “โกเหรอ เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้างนะ” แดนดีถาม

    “สบายดีล่ะมั้ง คุจิบะยังสงบอยู่นะ”

    ศาสตราจารย์สาวยิ้มเล็ก ๆ ละสายตาออกจากเครื่องฉายขณะเอื้อมมือไปบีบที่บ่ากว้าง ยิ่งเห็นถุงใต้ตาชัดเจนเช่นนั้นหัวใจเธอก็อ่อนลงตามไปด้วย อย่างไรเสียพวกเราก็พูดคุยกันบ่อย ๆ ทั้งเป็นห่วงและคอยแนะนำเรื่องสุขภาพอยู่เนื่อง ๆ การทำงานที่มากเกินไปรังแต่จะทำให้เวลาชีวิตไม่สมดุล คนที่บอกเธอเช่นนั้นก็คือแดนดีเองแท้ ๆ

    “เป็นอะไรหรือเปล่าแดนดีคุง นายดูเหนื่อย ๆ ถ้าจะกลับบ้านไปพักสักหน่อยก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ”

    “ขอบคุณนะ แต่ฉันคิดว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำเลยล่ะ”

    โซเนียลอบถอนหายใจกับคำตอบที่พอจะเดาทางออกได้แต่เนิ่น ๆ

    แชมป์เปี้ยนนี่รั้นทุกคนเลยหรือยังไงกันนะ

     

    “ด็อกเตอร์โซเนียมีคนขอเข้าพบค่ะ”

    “ถ้าเรื่องวิจัยการกรองประจุพลังงานไดแมกส์คราวก่อนปฏิเสธไปเลยได้ไหม” หล่อนโบกมือแบบขอไปที ในหัวมีแต่กลุ่มคนผู้ริเริ่มศึกษาการนำเทคโนโลยีตัวใหม่เข้ามาปรับใช้กับตัวปรับประจุไดแมกส์ โซเนียคิดว่านั่นเป็นความคิดที่ดีจนกระทั่งเมื่อสองเดือนก่อน การระเบิดของตัวฟิวชั่นทำให้เธอสงสัย

    ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย แต่เกิดเพราะเลินเล่ออย่างช่วยไม่ได้ของกลุ่มคนที่รังแต่แสวงหาเอาผลประโยชน์เข้าตัวโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา

    ยิ่งตอแยตอนยุ่ง ๆ มันทำให้คนพวกนั้นชักจะน่ารำคาญไปกันใหญ่

    “ไม่ใช่ค่ะ”

    แดนดีกับโซเนียมองหน้ากัน

    เป็นแชมป์เปี้ยนของการ์ล่าที่รู้จังหวะ ถอยออกไปอย่างเชื่องช้า

    “งั้นก็เข้ามา”

    สิ้นคำอนุญาตใช้เวลาไม่นานผู้มาเยือนก็ปรากฎตัว

    “สวัสดีค่ะด็อกเตอร์ ขอโทษที่ต้องรบกวนในช่วงยากลำบากนะคะ”

    “ไม่เป็นไร แล้วเธอ”

    “ฉันเป็นนักวิจัยภายใต้การดูแลของด็อกเตอร์ราแวนด์ค่ะ”

    เธอพูดพร้อมกับยื่นบัตรแนะนำตัวยื่นมาให้ โซเนียสัมผัสกับผิวการ์ดหนาเรียบลื่น อักษรพิมพ์สีเข้มและเลขประจำตัวถูกประทับอย่างถูกต้องพร้อมกับรูปเจ้าหน้าที่ใบหน้าตรง หากไม่ลำบากหรือดูเสียมารยาทจนเกินไปโซเนียจะเรียกโรตอมมาสแกนรหัสประจำตัวเพื่อสอดส่องอีกสักหน่อยเพียงแต่เธอไม่ได้ทำ

    ลลิลเซีย

    “นั่นสินะ ...อา นักวิจัยลิล”

    “เป็นเกียรติมากเลยค่ะ”

    โซเนียผายมือไปที่โต๊ะ ริมสายตามองเห็นการจ้องมองของแดนดีที่หลังประตู ก่อนจะหันไปสนใจบทสนทนาตรงหน้าอย่างเต็มที่

    อีกฝ่ายเหมือนภาพสะท้อนเธอตอนยังเยาว์ไม่มีผิด เต็มไปด้วยความมั่นใจและความทะเยอทะยาน เพียงแต่แตกต่างเล็กน้อยตรงที่ดวงตาสีน้ำทะเลทอแสงวาววับกลับเยือกเย็นผิดอายุไปเสียหน่อย

    แล้วก็จริงอย่างที่คาด เธอเป็นนักวิจัยภายใต้การดูแลของราแวนด์แน่นอน ลักษณะการพูดก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด แม้โซเนียจะถือว่าเป็นหน้าใหม่ในวงการนี้แต่ผลงานและชื่อเสียงของราแวนด์เองก็ผ่านตาเธอมาไม่น้อย ความคับคล้ายคับคลานั้นสะกิดใจเธอจนคันยุบยิบไปหมด

    หลังจากผ่านการเกริ่นมานานพอสมควรเราก็เริ่มเข้าเรื่องเสียที

    “ด็อกเตอร์ราแวนด์กำลังวิจัยเรื่องโปเกม่อนที่กำลังคลุ้มคลั่งในขณะนี้ค่ะ ถ้าการสันนิษฐานของด็อกเตอร์ถูกต้องเหตุการณ์จะต้องปะทุร้ายแรงกว่านี้มากอย่างแน่นอน” มือเรียวสวยหยิบกระดาษเย็บมุมเป็นระเบียบวางลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าศาสตราจารย์สาว

    “หากการสันนิษฐานของด็อกเตอร์ถูกต้องมันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวพวกคุณเอง”

    นัยน์ตาสีมิ้นต์เหลือบมอง

    “นึกว่าเราจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน”

    “ไม่หรอกค่ะ”

    โซเนียทำเพียงกอดอกอย่างเชื่องช้า ปล่อยให้ความเงียบกดดันใครสักคนในบทสนทนา เมื่อเห็นว่าดวงหน้าอ่อนเยาว์ของอีกฝ่ายนั้นเรียบนิ่งผ่อนคลายหล่อนจึงเปิดบทสนทนาขึ้นเสียเอง

    “ทั้งหมดนี่ก็เพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของด็อกเตอร์ราแวนด์เหรอ”

    “ใช่ค่ะ หากข้อมูลชุดนี้เป็นข้อเท็จจริง คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ต่อยอดให้งานวิจัยของเราได้พัฒนาต่อ”

    “แล้วถ้าสมมุติว่าฉันปฏิเสธที่จะนำมันมาใช้ล่ะ”

    “นั่นเป็นอำนาจการตัดสินใจของด็อกเตอร์ เราเป็นแค่คนนอกไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของด็อกเตอร์ได้ค่ะ”

    โซเนียเงียบ นิ้วเรียวสวยม้วนเส้นผมสีหวานอย่างใช้ความคิด

    ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจเลยเสียทีเดียว

    เธอสนใจงานของราแวนด์ เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์อย่างน่าเหลือเชื่อมันอาจมีประโยชน์จริง ๆ หรือให้แนวคิดในมุมมองที่ต่างออกไป การสันนิษฐานก็จะกว้างและมีขอบเขตมากขึ้นไม่ใช่แค่ความคิดเห็นของเธอหรือเฉพาะกบลุ่ม แต่การรับมามันจะส่งผลอะไรต่อเธอหรือไม่นั้นก็ไม่อาจคาดเดาได้

    เพราะการประกาศตัวเป็นปรปักษ์ท่ามกลางงานประชุมนั่นแหละที่ทำให้โซเนียหวาดหวั่น

    โซเนีย —เราไม่อยากมีปัญหายุ่งยากเข้ามาอีก

    ลลิลเซียยกยิ้ม เหมือนมีบางอย่างที่หล่อนคิดว่าสามารถดลใจศาสตราจารย์สาวอย่างที่หวังได้

    “เคลฟฟี”

    เธอโบกมือเรียก

    โปเกม่อนพวงกุญแจลอยเคว้งโผล่ขึ้นมาจากกระเป๋า เสียงกรุ้งกริ้งดังพร้อมกับพวงกุญแจสีเงินประกาย เคลฟฟี่ยื่นมันไปทางโซเนีย พวงกุญแจบลอนด์เงินประดับเม็ดสีน้ำเงินสวยเหมือนทะเลของอโลล่า สมญานามหาดสวรรค์และทะเลงามเลื่องชื่อ น่าเสียดายที่มันน่าจะเป็นของราคาถูกมากกว่าอัญมณีเก่าอย่างที่ใจคิด

    “ส่วนนี่เป็นการตัดสินใจของฉันเอง” นักวิจัยสาวพูด “หากศาสตราจารย์เชื่อใจ อยากที่จะไขข้อข้องใจหรือต้องการความช่วยเหลือจากเรา ได้โปรดติดต่อมานะคะ”

    โซเนียเปร่งเสียงแตกในลำคอ ฟังดูประหลาดเหลือเชื่อ

    “หมายความว่ายังไง”

    “โซเนีย!”

    เสียงตะโกนเร่งของแดนดีทำให้หล่อนสะดุ้งตัวโยน น้ำเสียงของแชมป์เปี้ยนเต็มไปด้วยความรีบร้อน ไม่ใช่น้ำเสียงที่จะได้ยินจากแดนดีบ่อย ๆ เพราะมันมักจะตามมาด้วยเรื่องลำบากเสมอ และไม่ใช่ทุกสถานที่จะมีโปเกม่อนที่เปรียบเสมือนชนวนระเบิดแบบที่นี่

    โซเนียแน่ใจว่าตนเองรู้ว่าควรทำอะไรเพราะเธอมีประสบการณ์ตรงมากมาย แต่ปฏิกิริยาตอบสนองทำให้เธอยังคงเลือกที่จะนั่งและหันสายตาไปทางคู่สนทนาที่รออยู่เช่นเดียวกัน

    “หากว่าต้องการความช่วยเหลือ ได้โปรดติดต่อมานะคะ”

    เจ้าของเส้นผมสีหวานโคลงศีรษะรับเบา ๆ ไม่ทุกข์ร้อน อีกฝ่ายย้ำอีกครั้งราวกับต้องการฝังรอยยิ้มเบาบางและถ้อยคำหวานนั้นเข้าไปในหัวของโซเนียจริง ๆ

     

     

    คำถามเดียวที่ลอยคว้างในหัวของเธอตอนนี้คือ คนพวกนี้กำลังทำอะไรกันแน่?

     

     

     

     

     

     

    TALK

    รีไรท์ตอนที่ 3 ใหม่ค่ะ ตอนเก่า ๆ มีบทสนทนาเพิ่มนิดหน่อยด้วย

    เกี่ยวกับตอนนี้ จะกล่าวถึงภูมิหลังราแวนด์นิดหน่อย แล้วก็การทำงานของทีมด็อกเตอร์ราแวนด์เล็กน้อย เล็กน้อยจริง ๆ เพราะลิลไม่ได้ทำหน้าที่ประสานงานด้วยซ้ำ ทีมนี้มีจุดประสงค์ค่อนข้างคลุมเครือ แต่ช่วงนี้คงกล่าวได้ว่าไม่ได้มาร้าย ได้โปรดเชื่อมั่นเชื่อใจ???? 

    ( ตอนนี้ซาโตชิแค่ถูกพูดถึงในฐานะบุคคลที่ 3 ยังไม่มีบท โอ๋เอ๋ 555555 )


    สปอยล์ ตอนหน้าไปเจอสองหนุ่มตัวจี๊ดในทีมราแวนด์กันเถอะ

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×