ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางสู่ตำแหน่งมเหสี

    ลำดับตอนที่ #3 : พระสนม-2

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 64


    "พระสนมคนนั้นที่ฉันเล่าให้ฟังก็คือฉันเองละจ๊ะ?ฉันเป็นพระมารดาขององศ์ฮ่องเต้ปัจจุบัน!"



    "ห๊ะ!!ถะ!ถ้าเช่นนี้ก็เท่ากับว่าทะ!ท่านก็คือพระพันปีหรอค่ะ?" อึงและตกใจเมื่อรู้ว่าหญิงชราที่ตัวเองยืนคุยด้วยเป็นถึงพระมารดาของฮ่องเต้หลินหลี่ถึงกับทำตัวไม่ถูก



    "แหม่?นี้แม่หนูไม่ต้องตกอกตกใจอะไรขนาดนั้นหรอกจ๊ะ?ตอนนี้ฉันออกจากวังและฐานัดดรศักดิ์แล้วยอมหมายถึงว่าฉันเป็นไพร่สามัญแล้วล่ะ?"



    "ตะ แต่ว่า?ทะ ท่านเป็นถึงพระมารดาขององศ์ฮ่องเต้เหตุใดถึงออกมาอยู่เพียงลำพังละค่ะ?"



    "เฮ้อ!ฉันเบื่อกับการแกร่งแย่งชิงดีของฝ่ายในและอีกหลายๆเรื่องที่ตัวเจ้าไม่รู้หรอก?"ถอนหายใจแล้วพูดตอบหลินหลี่ด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ

     


         “หรอคะ?แล้วคุณไม่คึดถึงลูกคุณหรอค่ะ?!” นั่งบนเก้าอี้ข้างคอกม้าตรงข้ามหลินเฟ่งที่ยืนทำความสะอาดม้าอยู่

     


         “เฮ้อ?แม่หนูเอ่ย?ฉันนะไม่มีวาสนามากพอที่จะเป็นถึงพระพันปีขององศ์กษัตริย์หรอกนะ?!” ถอนหายใจแล้วขึ้นควบม้าตัวที่พึ่งทำความสะอาดเสร็จ

     


           “ไม่เถอะ?แม่หนูฉันจะพาเที่ยวเมือง?!” ควบม้าเข้าใกล้ตัวของหลินหลี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ “”ขี้ม้าเป็นไหม?" เสียงเครือถามหลินหลี่เพื่อจะให้ควบม้าไปกับตน

     


           “ก็!ก็พอเป็นอยู่หรอกค่ะ?ะ แต่ว่าไม่ค่อยชำนาญพอคะ?!” ยืนมองหลินเฟ่งที่ขึ้นควบม้าอยู่ตรงภายหน้าของตัวเอง

     

     

       ทั้งสองคนได้ขึ้นควบม้าออกจากคอกมุ่งตรงไปยังตัวหมู่บ้านในเมืองที่มีเหล่าชาวบ้านที่ยากจนอาศัยอยู่ในเมืองเป็นจำนวนมาก

     


       หลินเฟ่งเธอนสามารถบังคับม้าได้เองแม้เธอมีอายุเพียง7ปีและสามารถเข้าแข่งวิ่งม้าของหมู่บ้านก็สามารถเอาชนะเป็นที่1ได้เมื่อเธอมีอายุเพียง10ปีเมื่อเธอได้เข้าเป็นพระสนมในวังแล้วเธอมักจะชอบลักลอบออกจากวังเพื่อออกไปหาม้าตัวโปรดของเธออยู่เสมอ

     


       ม้าตัวที่เธอโปรดปรานมากที่สุดคือตัวเพศผู้อายุราว4-6ปีสีขาวนวลมันสามารถวิ่งได้ไกลมากถึง100กิโลต่อชั่วโมงซึ่งถือว่าม้าของเธอวิ่งเร็วที่สุดในอาณาจักร

     


        ทั้งสองมาถึงตัวเมืองที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่จำนวนมากทุกคนในเมืองต่างเข้ามาทักทายและแสดงความเคารพหลินเฟ่งกันทุกคนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น

     


       ชาวบ้านในเมืองยืนมองด้วยความสงสัยในตัวของหลินหลี่ว่าทำไหมเธอถึงแต่งตัวแปลกประหลาดจากคนอื่น ๆ โดยเธอแต่งตัวคนปัจจุบันสวมชุดสูทสีดำกางเกงขายาวสีบอลอยู่

     


       “นี้คือหลานสาวเรา?เขามาจากเมืองที่อยู่แสนไกลจากที่นี้!วันนี้เราพาเขามาที่นี้เพื่อทำความรู้จักกันไว้?!” พูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านที่มาล้อมตัวของเธอ

     


        “โอ้!งามมาก?”ชายคนหนึ่งที่อยู่ในวงที่ล้อมตัวของหลินเฟ่งเอ่ยขึ้น

     


       "หนีห่าวทุกคนค่ะ?เสียงนุ่มนวลชวนหลงของหลินหลี่พูดขึ้นทักทายเหล่าผู้มาล้อมตัวพวกเธอ

     


       “นั้นพวกเราขอตัวก่อนนะจ๊ะ?” สิ้นเสียงหลินเฟ่งบังคับม้าของเธอวิ่งออกไปจากกลุ่มผู้ที่มาล้อมวงหลินหลี่ได้บังคับม้าตามหลังเธอมาทั้งสองได้ควบม้าไปถึงหน้าพระราชวังอันใหญ่โตที่เต็มไปด้วยบรรดาเหล่าทหาร ขุนนางและนางข้าหลวง

     


       ทั้งสองได้ควบม้าเข้าไปในพระราชวังและได้ลงจากม้าตรงหน้าประตูเขตพระราชฐานชั้นในเหล่าขันที่ทีี่รู้ว่าหลินเฟ่งมาที่นี้จึงได้นำเรื่องไปรายงานต่อไท่ถังฮ่องเต้ที่ทรงงานในห้องทรงงานของฮ่องเต้

     


        “ฝ่าบาท!พะยะฮะ?พระมารดาหลินเฟ่งเสด็จมาที่นี้พะยะฮะ?” ขันทีก้มกราบแล้วช่องมองบนโต๊ะทรงงานของไท่ถังฮ่องเต้

     


       “หรอ?รีบไปเชิญเสด็จสิ?!”ลุกขึ้นจากโต๊ะทรงงานแล้วเดินไปแตะบนไหล่ข้างขวาของขันทีที่หมอบกราบอยู่บนพื้นโต๊ะ

     


       ขันทีรีบเดินออกจากห้องทำงานออกไปพบกับหลินเฟ่งและหลินหลี่ที่ยืนรอหน้าประตูพระตำหนักประทับ

     


      “พระมารดาพะยะฮะ?ฝ่บาททรงให้เข้าไปพบได้พะยะฮะ?!” ก้มลงกราบบนพื้นเท้าที่หลินเฟ่งยืนอยู่กับหลินหลี่

     


      “พระมารดาเสด็จ?!!”ขันที่หน้าห้องทรงงานร้องตะโกนเสียงดังเพื่อบอกว่าใครมาหรือใครไปตามทำเนียบราชสำนัก

     


       “ลูกไท่เอ๋ย?” หลินเฟ่งเดินเข้าไปห้องทำงานของไท่ถังฮ่องเต้ที่ยืนรอการเข้ามาของพวกเธอ

     


    ฝากติดตามผลงานด้วยนะครับ


    ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมานะที่นี้….สามารถติชมกันได้นะครับ


    โปรดติดตามตอนต่อไป………

     

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×