คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ด้วยความหวังและความบริสุทธิ์
ด้วยความหวังและความบริสุทธิ์
เริ่มต้นกันด้วยคำว่าความหวังและความบริสุทธิ์ เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนคงมีคำๆ นี้อยู่ในห้วงความคิดไม่มากก็น้อย ดอกเดซี่ เป็นดอกไม้แห่งความบริสุทธิ์ ความหวังและการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งมีคำกล่าวที่ว่า "คุณจะปราศจากความโศกเศร้าเมื่ออยู่ท่ามกลางดอกเดซี่ ไม่มีทางที่มันจะปล่อยให้คุณรู้สึกแย่"
และยังมีดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีความหมายเกี่ยวกับความบริสุทธิ์เช่นกัน ดอกไม้ดอกนั้นได้แก่ ดอกแก้ว ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดั่งดวงแก้วบริสุทธิ์ที่จะคอยปัดเป่าไล่สิ่งไม่ดีให้ไปจากคุณและขอให้คุณประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆ ไม่มีโชคร้ายในชีวิตคล้ายกับการอวยพรว่า "ขอให้วันนี้ท้องฟ้าของคุณสดใส ไม่ทะเลาะกับใคร พบเจอแต่ความน่ารักและขอให้คุณยิ้มได้ไปตลอดทั้งวัน"
นอกจากนั้นยังมีดอกไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีความหมายเกี่ยวกับความหวังเช่นกัน ดอกไม้ดอกนั้นคือ ดอกแดนดีไลออน ซึ่งผู้คนในประเทศญี่ปุ่นมีความเชื่อเกี่ยวกับดอกไม้ดอกนี้ว่า "หากคุณอธิษฐานและเป่าปุยเมล็ดของดอกแดนดิไลออนให้หลุดได้ทั้งหมดภายในครั้งเดียวจะทำให้คำขอของคุณเป็นจริง" ดังนั้นดอกไม้ดอกนี้จึงเป็นดอกไม้แห่งความหวังและความสุขเพื่อให้คุณไม่หมดหวังในสักวัน
ดอกสโนว์ดรอป เป็นดอกไม้แห่งความหวังเช่นเดียวกัน โดยที่ดอกไม้ดอกนี้มีตำนานเรื่องเล่าว่า อดัมและอีฟแอบกินผลไม้แห่งปัญญาจนถูกขับไล่ออกจากสวนเอเดน ด้วยเหตุนี้ทำให้อีฟเอาแต่ร้องไห้จนดอกไม้ไม่เบ่งบานตามฤดูกาล หิมะไม่หยุดตกในฤดูหนาว เทวดาจึงลงมาปลอบใจอีฟด้วยการเสกหิมะวิเศษให้ แต่อีฟเป่ามันลงบนพื้นทำให้หิมะก้อนนั้นงอกเงยออกเป็นดอกสโนว์ดรอปที่เบ่งบาน เหมือนเป็นการบอกกลายๆว่า "วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน" แต่ทว่าดอกไม้ดอกนี้ก็ยังมีความนัยอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นดอกไม้แห่งความตาย เพราะดอกไม้ดอกนี้มักจะเติบโตขึ้นที่หลุมฝังศพ
ในส่วนของ ดอกมัม หรือ ดอกเบญจมาศ นั้นเป็นดอกไม้ที่ถูกให้ความหมายในแง่ดีเสมอจนได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้แห่งพลังบวก เหมือนกับการที่เราต้องการส่งต่อพลังบวกให้กับคุณ ขอให้คุณสดใสและเบ่งบานอย่างสวยงาม ราวกับดอกเบญจมาศ อีกทั้งดอกไม้ดอกนี้ยังมีความหมายเกี่ยวกับการตกหลุมรักอย่างโงหัวไม่ขึ้นอีกด้วย
ส่วน ดอกเบญจมาศสีขาว เป็นดอกไม้แห่งความจริงและความซื่อสัตย์ในแง่ของการซื่อสัตย์ด้านความรักที่เรามีต่อคุณ คนที่เราต้องการมอบดอกไม้ดอกนี้ให้ แต่อีกความหมายหนึ่งที่ชาวยุโรปมอบให้ดอกไม้ดอกนี้หมายถึงความตาย เพราะมนุษย์ทุกคนไม่สามารถหนีไปจากความจริงข้อนี้ได้
ในขณะที่ ดอกเยอร์บีร่า เป็นดอกไม้แห่งใจที่เข้มแข็ง เพราะดอกไม้ดอกนี้มักจะชอบหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ ซึ่งมีความนัยที่เราอยากให้คุณรู้ว่า "โลกใบนี้มันก็ไม่ได้แย่แบบที่คุณคิดหรอกนะ เราขอให้คุณสดใสเหมือนพระอาทิตย์เข้าไว้นะคนเก่ง"
เช่นเดียวกันกับ ดอกทานตะวัน ที่ชอบหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์และมีความหมายว่า "เราจะมองเพียงแค่คุณ ซื่อสัตย์ต่อคุณ มั่นคงเพียงแค่คุณและเราจะเอาชนะใจคุณให้ได้ในสักวันนึง"
อีกทั้งยังมีดอกไม้แห่งความสำเร็จและความไม่ย่อท้อ ซึ่งนั่นคือดอกไม้ขึ้นชื่อของดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยหรือประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ดอกไม้ดอกนี้คือ ดอกซากุระ เมื่อไหร่ที่ดอกซากุระผลิบานก็จะนำพาความสุข ความหวังและความสำเร็จมาให้ ราวกับเป็นกำลังใจก้อนโตที่ว่า "พยายามเข้านะ คุณจะต้องทำมันสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอนคนเก่ง"
อีกหนึ่งดอกไม้ที่ขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่นได้แก่ ดอกฟูจิ หรือเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ ดอกวิสทีเรีย ในอดีตดอกไม้ดอกนี้เคยเป็นดอกไม้ชนชั้นสูงที่พิเศษอย่างมากของชาวญี่ปุ่น จนขนาดที่สามัญชนไม่ถูกอนุญาตให้สวมใส่เสื้อผ้าสีม่วงซึ่งเป็นสีของดอกไม้ชนิดนี้ และแม้ว่าดอกไม้ดอกนี้จะมีพิษร้ายแรงมากเพียงใดแต่กลับมีความหมายดีๆ ที่ว่า "ขอให้คุณดูแลตัวเองดีๆ จะได้มีชีวิตอยู่ด้วยกันกับเราตราบนานเท่านาน"
ดอกบลูเบลล์ เป็นดอกไม้แห่งความอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะรูปร่างของดอกไม้ดอกนี้มีลักษณะโค้งเหมือนกับการโค้งคำนับ หากเราจะมอบดอกไม้ดอกนี้ให้ใครสักคนคงเหมือนกับการที่เราบอกเขาว่า "เรารู้สึกชื่นชมและขอบคุณเขาที่เขาทำให้เราเติบโตมาได้อย่างดี รวมไปถึงหลายๆอย่างที่เขาทำให้เราในตลอดเวลาที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน" ทำให้เราคิดว่าดอกไม้ดอกนี้เหมาะกับการเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่เราสามารถมอบให้แก่ผู้มีพระคุณได้
ความคิดเห็น