คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The Realms Of Madmen (EP 0 : REM ON) | Supergirl (Season 5) (2019-2020)
INSPIRED BY : Supergirl (Season 5) (2019-2020) | Creators: Ali Adler, Greg Berlanti, Andrew Kreisberg
RE-RELEASE DATE : DECEMBER 26, 2020
---------------------------------------------------------------------------
- ตัดสินใจเทเรื่องนี้ เพราะฟิคเรื่องแรกที่เราเคยแต่งให้NCTเป็นเรื่องในยุค90s แล้วคิดดูเถอะคุณ อยู่มาวันนึงวงนี้ก็ออกเพลงชื่อ90s Loveมา โอ้โห เรื่องบังเอิญมีจริง เราต้านทานไม่ไหวจนต้องกลับมาตายรังแต่งฟิค90sให้เค้าอีก o<-< ลาก่อยนะ แล้วเราจะกลับมาเจอกันในปีสุดท้ายกับโรงเรียนมัธยมปลายสักที่ในยุค90s ฮี่ฮี่ฮี่
- แต่พูดก็พูดเถอะ ย้อนกลับมาอ่านแล้วทำไมไอเดียดีจังวะ เก่งจัง T v T)b ก๊าก แต่ชอบมากจริง เราอาจแว้บมาแต่งแนวนี้เป็นเรื่องสั้นสักวันในอนาคตก็ได้ ใครจะไปรู้ :3
“เราพบกันผ่านความฝันที่ไพศาลและลึกล้ำกว่าเอกภพ”
– เอ็นซีทีเมนทรี ตอนที่ 5 แบ็ค ทู เดอะ รีอาลิที
ปี1984 – ม้อดวิลล์
มินาริก็ยังอดประหลาดใจไม่ได้อยู่ดีว่าเหตุใดงานโฮมคัมมิงปีนี้ถึงมาจัดที่ห้องประชุมของค่ายฤดูร้อนคริสตัลเคลียร์ แทนที่จะเป็นโรงยิมประจำม้อดวิลล์ไฮสกูลเหมือนที่ควรเป็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ใช่ว่าเขาขัดข้องกับแผนการใหม่ของประธานนักเรียนที่ทำให้ทุกคนฉงนงนใจในทีแรกที่ได้ฟังแต่อย่างใด อันที่จริงมินาริคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากด้วยซ้ำไป เพราะเขารักค่ายฤดูร้อนนี้
นับตั้งแต่ปิดเทอมฤดูร้อนที่เขาได้มาสังสรรค์ตลอดสองสัปดาห์กับผองเพื่อน อันรวมถึงเธอ–‘อันดา’
มินาริชอบทะเลสาบคริสตัลเคลียร์ที่ใสแจ๋วสมชื่อของมัน ระหว่างที่เขาลงไปดำผุดดำว่ายน้ำเล่น อันดาที่ว่ายน้ำไม่เป็นจนไม่กล้าลงน้ำที่ลึกถึงคางของคนตัวสูงอย่างเขาก็จะถอดถุงเท้ากับรองเท้าผ้าใบออกเพื่อจุ่มเท้ากับน้ำ บ้างบางทีก็เตะเท้าแกว่งมันกับผืนน้ำขณะนั่งที่ทางเดินไม้ริมน้ำ เมื่อเขาวักน้ำสาดใส่เธออย่างเริงรื่น เธอก็จะหัวเราะชื่นบานด้วยรอยยิ้มที่เป็นประกายกว่าผืนน้ำต้องแดด
มินาริชอบห้องประชุมในยามบ่ายที่มีแค่เขากับอันดา เขาจะนั่งอยู่หลังคีย์บอร์ดบนเวที พรมนิ้วกดแป้นเล่นเพลงที่เขาชอบ...หรือเธอชอบขอเพียงเอ่ยมา อันดาจะหลับตาดื่มด่ำไปกับทำนองเพลง ‘คลาวด์บัสติง’ ของเคต บุชที่เธอชอบ คลอเคล้าเนื้อเพลงไปกับเขาที่งึมงำตามบ้าง โดยเฉพาะท่อนที่กรีดแทงใจเขาเช่นว่า ‘ฉันยังคงหลับฝันถึงออร์โกนอน ฉันตื่นนอนมาทั้งน้ำตา เธอทำให้ฝนโปรยปราย และเธออยู่ในระยะที่ฉันเอื้อมถึงได้ เมื่อฉันลืมเลือนเธอกับการหลับใหลไป’ หรือชื่นชมเขาเหมือนเขาเป็นริชาร์ด ไรต์ มือคีย์บอร์ดของวงพิงค์ฟลอยด์ตัวจริงในตอนที่เขาเล่นเพลง ‘ยัง ลัสต์’ อันมีเนื้อหาส่อไปในเรื่องเพศ มินาริยอมรับกับตัวเองว่าเขาจงใจเล่นมันและร้องมันให้เธอฟังเพราะความหมายที่ไม่อ้อมค้อมของมัน และเขารู้ว่าอันดาเข้าใจความหมายของมัน...แต่เธอไม่เข้าใจความหมายของเขา
มินาริชอบตอนกลางคืนที่เขารู้ว่าไม่มีใครเข้านอนกันจริงหรอก บ้างก็ยังตั้งวงดวดแอลกอฮอล์พูดคุยรอบกองไฟกันทั้งคืนจนพระอาทิตย์มาเยือนแทนไฟที่มอด บ้างก็แอบไปปฏิบัติกิจกรรมที่ทำต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ (เขากับอันดาเคยหัวเราะเขินกันจนหน้าแดง ตอนเดินผ่านห้องอาบน้ำแล้วได้ยินเสียงชายหญิงทำอะไรกันดังออกมาจากในนั้น) แน่นอนว่าคนทั้งคู่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พวกเขาจะขึ้นเนินที่ใช้เวลาเดินเท้าจากแคมป์ไม่ไกล นั่งข้างกันหรือนอนเคียงกันระหว่างพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวสัพเพเหระเรื่อยเปื่อยท่ามกลางลมเย็นสบายในยามค่ำคืนของทิวทัศน์ที่รายล้อมด้วยป่าเขา
อันดาถือครองตำแหน่งเพื่อนสนิทของมินาริด้วยดีมาตลอดหนึ่งปี แต่เธอไม่เคยเป็นแค่นั้นสำหรับเขา จากความชอบรูปร่างหน้าตาภายนอกเมื่อแรกพบของนักเรียนใหม่ที่เข้ามาเรียนม้อดวิลล์ไฮในปีที่สาม หากแค่ชั่วโมงเดียวที่ได้พูดคุยทำความรู้จัก มินาริก็เก็บเธอไปฝันทั้งยามนอนและฝันกลางวันยามตื่น มีแต่เรื่องของเธออยู่ในความคิดทุกคืนวัน
ทว่าเหตุผลที่เขาไม่กล้าเผยความนัย เพราะรู้ว่าถึงเธอจะชอบเขามากแต่ก็รู้เต็มอกว่ามันไม่มากไปในกว่าฐานะเพื่อนที่ดีที่สุด สำหรับเขาที่กระทั่งในยามคุยกับใครคนอื่นก็มีแค่เธอในดวงตา ทว่ากับเธอนั้นแม้ในยามที่คุยกับเขาสองคน ดวงตาของเธอก็ไม่ได้มีแค่เขา มันเหมือนเธอมีใครอีกคนอยู่ข้างในนั้น คนที่เธอไม่เคยปริปากบอก และเขาก็หวาดกลัวเกินกว่าจะถาม
หรือแม้เขาจะพยายามใกล้ชิดเธอทางกาย มินาริก็ไม่เคยได้สัมผัสแตะต้องเธอมากไปกว่าที่คนเป็นเพื่อนธรรมดามีต่อกัน เขาชอบที่เธอรักษาระยะห่าง แต่ไม่ชอบที่มันทำให้เขาไม่ได้มากกว่านั้นจากเธอ
และในไฮสกูลปีสุดท้ายที่เหลืออยู่ เขาก็อยากจะพัฒนาให้มากกว่านั้น เด็กหนุ่มปณิธานไว้อย่างนั้นตั้งแต่วินาทีที่เห็นเธอเดินลงมาจากพอนทีแอคไฟร์เบิร์ดสีแดงของพ่อเธอ เด็กสาวในชุดกระโปรงสีส้มเหมือนผมยาวสีส้มที่สว่างสดใสของเธอทำให้ความคิดของเขากระจ่างชัดเหมือนชื่อแคมป์ได้
ตอนนี้เขากับเธอกำลังกุมมือเต้นรำกันอยู่บนฟลอร์ไปตามเพลง ‘ชีส์ อะ มิสเตอรี ทู มี’ ของรอย ออร์บิสันที่วงดนตรีจากต่างเมืองบรรเลงขับขานได้อย่างไพเราะนุ่มนวล หลังจากดนตรีในจังหวะคึกคักสนุกสนานของแวน เฮเลนจบไป มินาริหวังเหลือเกินว่าเธอจะอิงแอบแนบชิดเขาเหมือนเช่นคู่อื่นรอบข้าง แม้ว่าเธอจะทำให้โมงยามนี้เป็นเหมือนชั่วโมงต้องมนตร์สำหรับเขาได้ แต่มินาริเป็นคนโลภที่ต้องการมากกว่านั้น ต่อให้เธอจะอยู่ตรงหน้าจนได้ยินเสียงหายใจชัดเจน หรือผมของเธอจะคลอเคลียระอกของเขาอยู่ก็ตาม
เขาตัดสินใจแล้ว
“อันดา” จึงเอ่ยเรียกเจ้าของชื่อที่หันมองไปทางอื่นชั่วขณะ
เขาจะบอกเธอ
“ฉัน...”
หากไม่ทันที่มินาริจะได้พูดอะไรต่อจากนั้น ไฟสลัวในงานที่ถูกหรี่ลงตอนวงดนตรีเริ่มเล่นเพลงช้าก็ดับ
และทุกอย่างก็กลายเป็นเอกภพมืดดำสนิท
.
ปี2020 – นีโอ ซิตี
เมื่อมินาริเปิดตาขึ้นก็พบกับความสว่างจนเกือบทำให้นัยน์ตามัวพร่าได้ในห้องสีขาวสะอาดตา เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียงที่นอนอยู่จนถึงเมื่อครู่ ดึงสายระโยงระยางที่เชื่อมต่อกับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์บางอย่างออกจากขมับทั้งสองข้าง จากนั้นก็หันไปทางขวา มองผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่กรุกั้นคั่นกลางห้องอีกฝั่งซึ่งกว้างกว่าห้องที่เขาอยู่นี้มาก ที่อยู่เกือบชิดติดบานผนังในตำแหน่งเดียวกับเขาคือเตียงและอุปกรณ์ไฮเทคที่เหมือนของฝั่งเขาทุกประการ ก่อนคนที่นอนอยู่บนนั้นซึ่งรู้สึกตัวช้ากว่าเขาเล็กน้อยจะผินหน้าหันมาทางเขา
และยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มงดงามเหมือนในฝันที่พวกเขาเพิ่งถูกดึงออกมาไม่มีผิดเพี้ยน
ทว่าทันใดมินาริก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องของเขา ตามด้วยเสียงฝีเท้าที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวของชายผมสีส้มในชุดสูทสีดำ บอกว่า
“ประธานอยากเจอนาย และรู้ว่าคงไม่ได้เจอสักทีแน่ถ้านายไม่ออกจากฝัน ก็เลยจำเป็นต้อง...”
“ปิดเครือข่ายความฝันทั้งหมด” มินาริต่อคำจนจบด้วยความหงุดหงิดใจ “ขัดจังหวะเป็นบ้า”
“ทำไม เรื่องราวในฝันมันดีมากหรือไง” คนที่ยืนค้ำหัวอยู่เชิดหน้าถามพร้อมรอยยิ้มมุมปากราวเย้ยหยัน ก่อนเหลือบตาไปยังหญิงสาวข้างในที่ง่วนกับการเก็บสายโยงยางที่ดึงออกจากขมับให้เข้าที่ทาง ไม่ใช่อย่างชายหนุ่มอีกฝั่งของบานกระจกที่ทิ้งมันลงไปกองบนเตียงอย่างไม่ไยดี “กับอันดาลูซียาน่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย” มินาริตวัดเสียงตัดบท หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทด้านใน ก้มหน้าง่วนกับหน้าจอครู่หนึ่งก่อนเอามันแนบหู เปลี่ยนความสนใจจากชายที่อยู่ในห้องเดียวกันไปเป็นผู้หญิงที่อยู่ในห้องอีกฝั่ง เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากโต๊ะข้างเตียงเมื่อมันดัง มองจ้องหน้าคนโทรหาขณะฟังเสียงของเขาที่อยู่ข้างหูของเธอ
“ฉันมีธุระต้องไปก่อนนะ”
“อื้ม” เธอตอบรับ แม้จะเป็นเพียงแค่ถ้อยคำเดียวที่ผ่านไปไวกว่าการหายใจ แต่มินาริก็เต็มใจจะรับฟังยิ่งกว่าสิ่งใด
“แล้วคืนนี้ฉันจะมาหาใหม่นะ”
“เอ่อ มินาริ!” หญิงสาวรีบว่าก่อนเขาจะทันได้วางสาย “เพลงที่วงดนตรีเล่น ที่เราเต้นรำกันก่อนที่ไฟจะดับ...”
“ชีส์ อะ มิสเตอรี ทู มี ของรอย ออร์บิสัน” ชายหนุ่มขัดคำถามที่เธอยังพูดไม่จบดี หากเขาก็รู้คำตอบดี “คืนนี้ฉันจะเอาแผ่นมาให้ ไว้เรามาฟังด้วยกันนะ”
เธอยิ้มกว้างขณะพยักหน้าตอบรับอย่างดีใจจนผมสั้นระต้นคอสีดำแซมทองขยับไหว มินาริยิ้มกลับไปให้ หากก็ไม่วายจะเบียดชนไหล่ของคนที่ไม่ชอบหน้าทิ้งท้ายก่อนเดินออกไปด้วย
บัดนี้เมื่อเหลือเพียงเขาในห้องแคบนี้ มาร์ค-ฌองก็หันไปหาผู้หญิงที่อยู่อีกฝั่งของกระจกกับรอยยิ้มที่กลายเป็นฝืดเฝื่อน เหมือนทุกครั้งคราวที่เธอยิ้มให้เขาและไม่ได้รับอะไรกลับคืนไป นอกจากใบหน้าที่เยือกเย็นกับสายตาที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งทิ่มแทง
เรื่องราวของ ‘อันดาลูซียา’ เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนที่เอ็นทีพีดีไปถึงสุสานรถนอกเมือง ก็เห็นซากรถสีแดงของเธอที่พุ่งชนกับรถที่กองสุมจนเกือบเท่าตึกสูงในนีโอซิตีเป็นแค่เศษเหล็กพังยับ อีกทั้งยังไม่มีทางจะเข้าไปตัดถ่างรถเอาร่างของเธอออกมาได้โดยไม่สวมชุดป้องกันฝุ่นแดงที่อยู่นอกเมือง หรือก็คือมลพิษจากสารกัมมันตรังสีร้ายแรงที่กวาดล้างประเทศไปถึงสองในสี่ มาร์ค-ฌองที่เป็นนิติเวชในตอนนั้นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าเธอจะยังรอดชีวิตอยู่ได้
แต่เธอรอดมาได้ การบาดเจ็บร้ายแรงมหันต์ของเธอแก้ไขได้ ตั้งแต่อวัยวะภายในที่เสียหายหนักซึ่งเธอได้อภิสิทธิ์ให้ลัดคิวผู้รอรับการบริจาคอวัยวะนับพันราย แขนขาที่หักหรือใบหน้าที่แทบไม่เหลือเค้าก็กลับมาเป็นแบบเดิมได้ไม่ผิดแผก ทุกอย่างนั้นก็เพราะเงินทองที่ไม่มีวันหมดและนวัตกรรมไม่รู้จบของ ‘เซเนเคิล เทคโนโลจี’ บริษัทที่พ่อของมินาริเป็นเจ้าของ
ทว่ามีบางสิ่งที่เซเนเคิลยังแก้ไขไม่ได้ ภูมิคุ้มกันร่างกายเธอบกพร่องจากอุบัติเหตุนั้น เธอไม่สามารถอยู่กับใครโดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สวมชุดป้องกันได้ เพราะมันหมายถึงการติดเชื้อรุนแรงถึงแก่ชีวิต เธอต้องอยู่แต่ในห้องปลอดเชื้อ (ที่มินาริทำให้แน่ใจว่ามันมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน) เนื่องเพราะยังไม่มีนวัตกรรมใดแก้ไขภูมิคุ้มกันที่บกพร่องให้เธอได้ ไม่ว่าจะระดมหัวกะทิมากมายแค่ไหนหรือจะมีงบให้ไม่อั้น มันเป็นการวิจัยทดลองหนึ่งที่มาร์ค-ฌองเป็นผู้ควบคุมโครงการ ไม่แค่นั้น สมองของเธอก็กระทบกระเทือนอย่างหนักจนความจำเสื่อม ความทรงจำด้านทักษะยังคงอยู่ แต่ความทรงจำที่ขาดหายไปทั้งหมดคือเรื่องราวของเธอเอง
แม้กระทั่งอันดาลูซียาก็ไม่ใช่ชื่อจริงของเธอ แต่เป็นชื่อที่มินาริตั้งให้
เพราะมินาริตกหลุมรักเธอ เขาให้ทุกอย่างกับเธอ และการเป็นลูกชายคนเดียวของบริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของนีโอซิตีก็บันดาลให้เขาทำได้ทุกอย่าง แม้แต่การเนรมิตโลกทั้งใบให้เธอ หรือการสร้าง ‘โลกแห่งความฝัน’ ขึ้นมา เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่ไม่อาจแตะต้องได้ในความเป็นจริง
เขาหวนนึกถึงเรื่องที่มินาริพูดกับเธอเมื่อก่อนหน้านี้
‘ชีส์ อะ มิสเตอรี ทู มี’ เคยเป็นเพลงโปรดของเธอมาก่อน เธอแค่จำไม่ได้
และในตอนนี้เธอก็เป็นปริศนาที่เขาต้องแก้...ปริศนาที่มินาริต้องการ...และปริศนาที่ตัวเธอเองอาจอยากพบคำตอบ
มาร์ค-ฌองยุติความคิดถึงเธอแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเดินไป แต่แค่ครู่เดียวก็ชะงักฝีเท้า หญิงสาวในห้องกระจกรอคอยอย่างมีความหวังว่าเขาจะหันมาสบตาเธอ แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น ชายหนุ่มขยับฝีเท้าอีกครั้งเพื่อออกไปจากห้องนั้น ทิ้งเธอไว้กับความว่างเปล่าเพียงลำพัง แต่อันดาลูซียาก็ยังคงยิ้ม นัยน์ตาของเธอมีเพียงภาพของเขาแม้จะมีกระจกขวางกั้น ทว่าสำหรับเธอทุกอย่างคือความกระจ่างชัดเจน
แต่ ‘ความฝัน’ คือที่ที่เป็น ‘ความจริง’ ได้ทั้งกับมินาริ อันดาลูซียา หรือกระทั่งมาร์ค-ฌองเอง
- ก็อย่างที่เคยได้โม้ไปว่าเรามีพล็อตไซไฟเป็นล้าน ไม่ห่วงเลยว่าจะกลัวโดนก๊อป เพราะเป็นไฮดร้า ก๊อปไปหนึ่ง...ก็งอกพล็อตใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้อีกสอง 555
- กะจะแต่งเป็นอินโทรที่แค่จะมาเกริ่นนำว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง แต่เอาไปเอามามันยาวกว่าที่คิดได้ไงวะงง แล้วมาอยู่นี่ได้ทำแต่งานจนไม่ได้แต่งอะไรเป็นเดือน แต่ฟิคแรกที่แต่งได้คือฟิคนี้ จบได้ในสองวันไม่รวมเกลา งง (แล้วก็อย่าลืมส่งชื่อด้วยค่ะดีออก อันนี้ก็หายไปนานจนกูงง)
- สาบานว่าไม่ได้เอามาจากอีเล็คทริคดรีมส์ของคุณยู T-T แล้วก็ไม่ได้มาจากอินเซปชันด้วย (หวงมากจะไม่เอาพล็อตหรือบทจากหนังเรื่องนี้ไปลงให้ใครนอกจากตัวละครในเรื่อง T_T) แต่ได้ไอเดียมาจากเรื่องSupergirl SS5 (เราได้แปลแปดตอน ดูได้ทุกคืนสุดสัปดาห์ทางโมโนนะจ๊ะ :p) ที่ใส่คอนแทกเลนส์แล้วเข้าไปในความฝันได้ เลือกตีมได้ อะไรสักอย่าง เลยต่อยอดมาเป็นไอเดียนี้ โดยเราจะแต่งตีมไหนยุคสมัยไหนในตอนไหนก็ได้ แต่ยืนพื้นว่าโลกความจริงคือโลกสุดล้ำในปี2021 โอ้โห ล้ำจริงโว้ย!
- พล็อตของอันดาลูซียามาจากดร.แอนนาในเบลดรันเนอร์2049 ในเรื่องนี้ไม่มีหุ่นยนต์ แต่ให้แต่งก็แต่งได้ 555
ปล. ตั้งใจเลือกเพลงของ Van Halen มาประกอบในตอนนี้ เพื่อเป็นการอุทิศแด่คุณ Eddie Van Halen ที่เพิ่งเสียไป
THANKS TO: The Handmaid's Tale สำหรับเพลง Cloudbusting / Aquaman สำหรับเพลง She's A Mystery To Me | Andalucia จากชื่อเพลงของ Andrew Bird / มินาริจากหนังเรื่องMinari (หรือก็คือwatercressพันธุ์เกาหลี) / มาร์ค-ฌองจากชื่อผู้กำกับ Jean-Marc Vallée เอามาสลับหน้าหลัง
(ตั้งใจเลือกชื่อที่ไม่น่าจะมีคนหน้าด้านคนไหนมาขโมยไปใช้ได้อีก แต่ถ้าขโมยไปอีกก็...แหะแหะ)
ความคิดเห็น