คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : R3 | Riddikulus!
03
- Riddikulus! -
ยามรุ่งอรุณมาเยือนร่างอรชรงดงามเดินออกจากหอนอนเพื่อไปที่ห้องสมุดตามเดิมแต่ทว่าวันนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้อ่านหนังสือเท่าไหร่แล้วล่ะนะ ก็เมื่อมีหญิงสาวปีสามอีกคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั่งอยู่ไม่ไกล
มือเรียวเอื้อมหยิบหนังสือที่ต้องการก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆอีกคนที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์การปรุงยาอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยปกติ
" เฮ้ ไม่ไปกินข้าวหรอ "
" กินไปแล้วน่ะ เเล้วเธอล่ะ อย่าบอกนะว่าพึ่งตื่น "
" ก็ใช่ "
เสียงหวานทุ้มมีสเน่ห์เอ่ยตอบออกไปก่อนจะเจอสีหน้าคิ้วขมวดของหญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนมองมาที่เธอด้วยสายตาอ่านยากเกินคาดเดาพร้อมด้วยเสียงบ่นเบาๆแต่เธอกลับได้ยินชัดเจนในเวลานี้
" เดี๋ยวก็ปวดท้องเอาหรอก ทำไมไม่หัดกินข้าวเช้าๆซะบ้างนะ "
" โธ่ ก็มันไม่หิวนี่ "
" ไม่หิวก็ต้องกิน "
เสียงดุๆเอ่ยออกมาก่อนที่เด็กสาวในชุดบ้านสลิธีรินจะยอมแพ้ยกธงขาวและเริ่มเปิดหนังสืออ่าน เนื้อหาที่เป็นบทร้อยแก้วกล่าวถึงการเริ่มต้นของความรักอันน่าสงสารของมักเกิ้ลในยุคก่อนๆ
" ความรักของไซคีกับคิวปิด? ไม่คิดว่าเธอจะอ่านเรื่องนี้ด้วยแหะ "
หญิงสาวจากบ้านกริฟฟินดอร์แปลกใจเพราะไม่ค่อยได้เห็นเอสเตอร์อ่านหนังสือของโลกมักเกิ้ลเท่าไหร่
" ฉันว่ามันน่าสนใจดี อีกอย่างมักเกิ้ลก็คล้ายๆผู้วิเศษล่ะนะ "
เสียงหวานมีสเน่ห์นั่นยังคงพูดตอบคำถามของเฮอร์ไมโอนี่แต่สายตาก็ไม่ได้ละความสนใจจากหนังสือที่ตนอ่านเลยแม้แต่น้อย นัยตาสีน้ำตาลจ้องไปที่อีกคนอย่างไม่วางตาก่อนจะรู้ตัวว่าถูกจับได้ก็รีบเบนสายตากลับมายังหนังสือที่ตนอ่านทันที
เอสเตอร์ที่สังเกตเห็นอาการเลิ่กลั่กนั่นพร้อมกับริ้วแดงๆบนใบหน้าก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าสดใสจ้องไปที่คนข้างๆก่อนจะปิดหนังสือและวางมันไว้ มือเรียวก็ยื่นออกมาพร้อมกับมีดอกกุหลาบสีแดงสดอีกเช่นเคย ดั่งเช่นเมื่อวานก่อนจะยื่นให้เด็กสาวบ้านกริฟฟินดอร์
" ห...ให้ทำไมกัน "
" รับๆไปเถอะน่า "
แม้จะไม่เข้าใจแต่มือบางนั่นก็รับไว้อยู่ดีพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆและเก็บลงกระเป๋าที่มักจะสะพายบ่อยๆ และแน่นอนว่าทุกการกระทำอยู่ในสายตาของอีกคนตลอดเวลา
" นี่เฮอร์ไมโอนี่ "
" หื้ม...!!! "
เมื่อหันไปตามเสียงเรียกก็เจอใบหน้าของอีกคนอยู่ใกล้กันกว่าเดิม อีกคนหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นว่าหน้าอีกคนเหวอ(น่ารัก)ขนาดไหนตอนที่ตกใจก่อนจะถอยห่างและหันไปอ่านหนังสือของตนตามเดิม
เสียงเตือนดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าต้องไปเรียนแล้ว ไม้กายสิทธิ์ถูกใช้เมื่อเจ้าของมันต้องการเก็บหนังสือนั่นไว้ที่ชั้นตามเดิม ทั้งสองลุกขึ้นก่อนจะเดินไปเรียนพร้อมๆกันระหว่างทางพวกเธอก็คุยกันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งถึงห้องเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่ปีนี้ได้อาจารย์รีมัส ลูปินมาสอน
" เธอคิดว่าเขาจะสอนเรื่องอะไร "
" ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเรื่องอะไรสักเรื่องที่เด็กสมควรเรียน "
เจ้าของดวงตาสีเขียวว่าพลางก่อนจะเดินเข้าห้องพร้อมกับเด็กนักเรียนสองบ้านที่เริ่มทยอยเข้ามาในห้องเรื่อยๆอย่างไม่รีบ
" ฉันไปหาเพื่อนก่อนนะ "
เด็กสาวผมฟูบ้านกริฟฟินดอร์พูดขึ้นก่อนที่เด็กสาวบ้านสลิธีรินจะพยักหน้าแต่ทว่ายังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะเดินไปร่วมกับเพื่อนบ้านของตนเด็กสาวจากสลิธีรินก็ดึงแขนเอาไว้ก่อนนั่นทำให้อีกคนประหลาดใจ พลันไม่ทันจะคิดมากจู่ๆก็สัมผัสบางอย่างก็ประทับลงมาที่แก้มเนียน
" แล้วเจอกันนะ "
เด็กสาวทิ้งไว้แค่นั่นก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มกับพวกเดรโกและคนอื่นๆ ดวงตาปรายมองกล่องตู้ไม้สีน้ำตาลด้านหน้าห้องเรียนอย่างสนอกสนใจ
" มันน่าสนใจใช่มั้ยล่ะ "
ศาสตราจารย์ลูปินเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไปด้านหน้าตู้นั่น
" มีใครอยากจะลองเดาดูไหม ว่ามีอะไรอยู่ตู้นี้ "
" มันคิอบ็อกการ์ดใช่มั้ยครับ? "
" เก่งมากคุณโธมัส "
" มีใครบอกได้มั้ยว่าบ็อกการ์ดรู้ร่างเป็นอย่างไร "
และเป็นอีกครั้งที่เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้นแม้ว่าบนใบหน้าจะยังมีริ้วแดงอ่อนๆอยู่ก็ตาม นั่นเกิดจากฝีมือใครก็คงเดาได้กันแหละเนอะ
" ไม่มีใครรู้ บ็อกการ์ดเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆพวกมันจะกลายร่างเป็นสิ่งที่เรากลัวมากที่สุด "
ทันทีที่เสียงของเฮอร์ไมโอนี่จบลงหลายสายตาที่หันไปจ้องเธอก็ต้องกลับไปเบนอยู่กับตู้นั่นอีกครั้ง ตู้นั่นสั่นและส่งเสียงดังราวกับว่ามันอยากจะออกมาเต็มทีแล้ว
" นั่นทำให้มันดูน่ากลัว โชคดีที่เรามีคาถาแสนง่ายที่เราไว้ใช้จัดการกับมัน "
ศาสตราจารย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มทุ้มทำให้คาบเรียนนี้น่าเรียน ก่อนที่เขาจะหยุดเดินและสอนคาถาให้กับเด็กนักเรียน
" พูดตามครูนะ ริดดิคิวลัส "
" ริดดิคิวลัส! "
เสียงของนักเรียนทุกคนเอ่ยดังขึ้นนั่นทำให้คนสอนอมยิ้มน้อยๆก่อนจะเรียกนักเรียนเพื่อแสดงตัวอย่าง และเป็นเนวิลที่โดนเคราะห์นั่นไป บ็อกการ์ดปรากฎรูปร่างเป็นศาสตราจารย์สเนปก่อนที่เขาในชุดดำจะกลายเป็นชุดสีเขียว หมวกใบโตและถือกระเป๋าสีแดง เรียกเสียงหัวเราะได้มากเชียวล่ะ
ทุกคนต่อแถวเรียงกันและแน่นอนว่าสลิธีรินก็ต้องอยู่ท้ายๆอยู่แล้ว หลายๆคนมีความกลัวที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นรอนที่กลัวแมงมุมแต่เปลี่ยนให้มันมีรองเท้าสกูตเตอร์ หรือปาราวตีที่เปลี่ยนงูให้เป็นตัวตลก และเมื่อถึงตาเธอ...
' เอาล่ะ มาดูซิว่าความกลัวที่สุดของฉันคืออะไร '
บ็อกการ์ดเปลี่ยนรูปร่างเป็นกลุ่มควันสีดำก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหญิงสาวผมสีทองบลอนด์ ดวงตาสีเขียวอมฟ้าคล้ายเธอเบิกค้างอยู่อย่างนั่นพร้อมกับรอยเลือดที่คอและเปรอะเปื้อนไปตามพื้นห้อง คนที่นอนอยู่ไม่ใช่เธอ...
" แคตนิส... "
เสียงหวานทุ้มมีสเน่ห์พึมพำเบาๆด้วยความตกใจดวงตาที่เคยนิ่งเฉยสั่นระริกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ พร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าพร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ เมื่อศาสตราจารย์เห็นดังนั้นจึงดึงเธอออกมาและปล่อยให้คนอื่นได้เสกคาถากันต่อ
' ความกลัวของเธอคือการที่พี่สาวล้มลงต่อหน้าและไม่กลับมาอีก ซึ่ง...มันเกิดขึ้นไปแล้ว '
เมื่อตั้งสติได้เธอก็รีบกระพริบตาและพยายามทำตัวให้ปกติที่สุดและเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆอีกครั้ง โดยไม่เห็นว่ามีสายตาของคนบางคนจ้องมองเธออยู่
" เมื่อกี้ใครน่ะ "
เสียงเอื่อยยานคางเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยทำให้เอสเตอร์ต้องปรับสายตาที่มหม่นหมองให้นิ่งเฉยตามเดิม เมื่อแพนซี่ได้ยินดังนั้นก็ตีที่แขนของอีกคนไปทีนึงด้วยความเสียงมารยาทและจับมือเพื่อนสาวผมบลอนด์เอาไว้
" เสียมารยาทเดรโก "
การเถียงเล็กๆจบแค่นั้นก่อนที่เสียงสัญญาณเตือนจะดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เดินตรงไปยังสถานที่ที่สงบที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้ ทะเลสาบ ขาเรียวยาวก้าวจนมาถึงและนั่งลงเพื่อให้ตัวเองสบายใจแต่เหมือนว่ามันจะไม่ช่วยสักเท่าไหร่
เปลือกตาหลับลงพร้อมกับความมืดที่เข้ามาแทนทีและนิทราแสนเศร้าที่เข้ามาแทนที่...
ความเย็นยะเยือกถึงกระดูกสันหลังแผ่ปกคลุมปราสาทแห่งนึง ร่างบางกำไม้กายสิทธิ์ของตนเองแน่น ขาเรียวก้าวตามทางไปเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะเจออะไรด้านหน้าของตนเอง
เมื่อมาถึง ณ จุดหนึ่งแสงไฟจากปลายไม้กายสิทธิ์ก็ชี้ให้เห็นร่างของคนคนหนึ่งนอนจมกองเลือดด้วยดวงตาที่เบิกค้างอยู่เช่นนั้น
แคตนิส ชายน์ พรินซ์
เหมือนกับว่าร่างกายไม่มีแรงเสียดื้อๆ เข่าคลานไปหาอีกคนที่หมดลมหายใจเพื่อความหวังเล็กๆที่คิดว่าเธอคนนั้นยังมีชีวิตอยู่
" ไม่..ไม่ หายใจสิแคตนิส...แคตนิส.. ฮึก.. "
ไม่มีสัญญาณใดตอบรับจากไร้วิญญาณ มือปล่อยไม้กายสิทธิ์ลงและปิดปากแน่น น้ำตาสีใสไหลผ่านแก้มเนียนทั้งสองข้าง มือทั้งสองข้างผละออกและทุบลงไปที่พื้นด้วยความแรงจนกระทั่งเลือดออก
" ไม่...ฮึก ไม่!!!!!! "
เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้นพร้อมกับกระจกที่อยู่รอบตัวของเธอแตกอย่างไม่มีชิ้นดี
เฮือก!
เปลือกตาเปิดขึ้นตามแรงสั่นสะเทือนก่อนจะพบว่าคนที่มาปลุกเธอเป็นเฮอร์ไมโอนี่
" เฮอร์ไมโอนี่ ไม่ไปเรียนรึไงน่ะ "
" พอดีว่าฉันเดินออกมาก่อนน่ะ เลยมาตามหาเธอ ฝันร้ายหรอ? "
ดวงตาสีเขียวอมฟ้าหม่นแสงลงเมื่อได้ยินคำถามนั่นก่อนจะพยักหน้าช้าๆและถอนหายใจออกมา ความฝันที่เคยเป็นความจริง แคตนิส...ความตาย...เสียงกรีดร้อง...กระจกที่แตก
" นี่...ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ ฉันไม่รู้ว่ามันเลวร้ายมากขนาดไหนแต่เธอยังมีฉันนะ ยังมีอีกหลายๆคนเลย "
นัยตาหม่นแสงมองไปยังมือของตนที่ถูกอีกคนกุมเอาไว้ มันช่างดีเหลือเกิน รอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าหวาน
" ขอบคุณนะ "
แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะแอบเขินกับรอยยิ้มมีสเน่ห์ของอีกคนแต่ก็เก็บอาการไว้ได้ และภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าก็เข้ามาในหัวของเธอ
" นี่ ฉันยังไม่คิดบัญชีที่เธอฉวยโอกาสเมื่อคาบที่แล้วเลยนะ "
" อื้มมม...ยังฉันควรชดเชยยังไงดี "
ดวงตาที่เคยหม่นแสงแทนที่ด้วยประกายความซุกซนและเจ้าเล่ห์ตามฉบับบ้านสลิธีริน บ้านที่ขึ้นชื่อได้ว่าเจ้าเล่ห์ที่สุดในสี่บ้าน
" ด้วยการ....จีบเธอดีมั้ย "
เอสเตอร์เน้นย้ำตรงคำว่าจีบ นั่นทำให้อีกคนไปไม่ถูกเพราะยังคงช็อกกับคำที่อีกคนพูดออกมา
' นี่พูดออกมาได้หน้าตาเฉยได้ยังไงกัน! '
" ว่าไงล่ะ "
เมื่อเห็นอีกคนไม่ตอบก็เริ่มเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนอีกคนหน้าแดงและดันตัวออก
" โอเคๆ!!! ก็ได้ "
และนั่นทำให้เอสเตอร์ พรินซ์คนนี้ยิ้มออกไปทั้งวันเชียวล่ะ
Talk ;
มันจะดราม่ามันทุกตอนใช่มั้ยยยย!!!!! นังเอสเตอร์มันร้ายนะคะคุณผู้ชม ส่วนปมเรื่องแคตนิสเราจะปูไปเรื่อยๆค่ะ แล้วก็น้องเฮิร์มนี่ยังไงนะ ทำไมถึงต้องมาตามหาเอสเตอร์ด้วย เอ๋....
แวะมาแปะอิมเมจ แคตนิส พรินซ์ค่ะ
ความคิดเห็น