ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tale of Distortion ( รับสมัคร )

    ลำดับตอนที่ #3 : [✘] Prologue

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 62






    Prologue
       The Begining of The End   



    - Iris McBrian's POV -




              22 ชั่วโมงก่อน, ตรอกลับบนถนนนอร์ธวู้ด

              ไอริสเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองว่าเจอศพชายวัยกลางคนซุกซ่อนอยู่ใต้กองขยะ หญิงสาวลงจากรถพร้อมกับนายตำรวจอีกสองและหัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีอีกหนึ่ง กลิ่นเน่าเหม็นของขยะกับกลิ่นคาวเลือดลอยมาแต่ไกลโดยที่เธอยังไม่ทันได้ลอดผ่านที่กั้น แต่ในฐานะที่ได้เป็นรองสารวัตรแล้วนั้น ไอริสก็ไม่อาจปฏิเสธงานได้ตามที่ใจต้องการ นั่นทำให้เธอถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

              หน่วยเก็บพิสูจน์หลักฐานมาถึงก่อนแล้ว พวกเขาก้มๆเงยๆเก็บภาพพยานวัตถุรอบๆ ในขณะที่ไอริสยังไม่เข้าไปในสถานที่เกิดเหตุในทันที เธอหยิบแฟ้มข้อมูลของผู้ตายขึ้นอ่าน พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นอายุ36ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ปัจจุบันเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และยังโสด เมื่อดูจากรูปแล้วพบว่าเป็นคนที่หน้าตาดีพอสมควร ผิดกับรูปถ่ายของศพที่เรียกได้ว่าสยดสยองและน่าอดสูเป็นอย่างยิ่ง สภาพของศพนั้นถูกของมีคมฟันเข้าที่ศีรษะจนเหวอะ มือข้างขวาและข้อเท้าข้างซ้ายถูกตัดออก และบาดแผลฉกรรจ์บนร่างกายของผู้ตายอีกหลายจุด นั่นทำให้เธอตัดสินใจปิดแฟ้มข้อมูล ก่อนจะยื่นคืนให้กับนายตำรวจ

              " เหยื่อเสียชีวิตเนื่องจากพิษบาดแผลและเสียเลือดมาก อาวุธที่คนร้ายใช้เป็นขวาน คาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือฆ่าเหยื่อจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่นี่เมื่อประมาณ72ชั่วโมงที่แล้ว ก่อนที่จะมีคนมาพบศพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ "

              หนึ่งในตำรวจสืบสวนพูดขึ้น ไอริสจึงหันไปมองชายแก่ในชุดพนักงานเก็บขยะที่กำลังให้ปากคำกับสารวัตรอยู่ ก่อนที่น้ำเสียงหวานจะถูกเปล่งออกมา

              " แล้วปกติเขาเข้ามาเก็บขยะที่นี่บ่อยแค่ไหน? "

              " อาทิตย์ละสองครั้ง วันอังคารกับวันเสาร์ " ชายหนุ่มเปรย " วันนี้วันเสาร์ คนร้ายน่าจะทิ้งศพผู้ตายตั้งแต่วันพุธ "

              ไอริสร้องหืมในลำคอ พลางหยิบมือถือขึ้นดูปฏิทิน ก่อนจะชี้ไปยังวันที่ที่ถูกไฮไลท์เอาไว้ให้อีกฝ่ายดู " จะว่าไป... ช่วงนี้ก็ดูจะมีคดีฆาตกรรมผุดขึ้นมาไม่หยุดไม่หย่อนเลยล่ะนะ เมื่อ3วันที่แล้วก็มีคดีฆาตกรรมในหอพัก อาทิตย์ก่อนหน้าก็เกิดเหตุยิงกันที่หน้ากองบัญชาการ "

              " ....แล้วก็มีเรื่องศพที่หายไปจากห้องชันสูตรด้วย " ตำรวจสืบสวนเสริมต่อ " พอวันรุ่งขึ้นก็เห็นว่าศพนั่นมีชีวิตอีกครั้ง ทั้งๆที่ผลชันสูตรก็ออกมาแล้วว่าตายมา36ชั่วโมงแล้ว แต่พอไปสอบปากคำกับก็เหมือนว่าเจ้าตัวจะจำเหตุการณ์อะไรก่อนหน้าไม่ได้เลยสักอย่าง "

              หญิงสาวทำสีหน้าวิตก จะว่าไปก็นับเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่เกิดเรื่องพิลึกพิลั่นเฉกเช่นนี้... ถึงเธอจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติก็เถอะ


              ความคิดของเธอถูกตัดไปหลังจากได้ยินเสียงเรียกของหัวหน้าหน่วยจากที่เกิดเหตุ เธอจึงรีบบึ่งเข้าไปข้างในทันทีแม้จะรู้สึกผวาอยู่หน่อยๆก็ตามเถอะ


              " แม็คไบรอัน นี่คุณหมอโจนส์ รับหน้าที่ชันสูตรศพในคดีนี้ " ชายวัยกลางคนร่างท้วมผายมือไปทางชายแก่ร่างแห้งในชุดกาวน์ ไอริสมองสำรวจอีกฝ่ายเพียงปราดเดียวเท่านั้น แต่ไม่จ้องเขม็งจนชวนให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกอึดอัด

              แต่ดูก็รู้ว่าไอ้ที่แปะอยู่บนหัวนั่นน่ะ.... ผมปลอม!!!


              " ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณหมอโจนส์ ฉันไอริส แม็คไบรอัน รองสารวัตรสืบสวน " ไอริสคลี่ยิ้มหวาน ยื่นมือไปทำความรู้จักก่อนจะหันไปมองสภาพศพที่ถูกรื้อออกมาจากกองขยะแล้ว แต่ดูเหมือนว่าสายตาของเธอจะสะดุดกับอะไรบางอย่าง นั่นทำให้เธอไม่ได้ตั้งใจฟังคำอธิบายของคุณหมอโจนส์มากนัก

              " คุณแม็คไบรอัน? " ชายแก่เรียกอีกครั้ง นั่นทำให้เธอหลุดจากภวังค์ไปชั่วครู่ ก่อนจะหันไปถามสารวัตรโดยที่ไม่ได้สนใจคุณหมอเท่าไหร่

              " สารวัตรคะ ฉันขอสำรวจสภาพศพเพิ่มเติมได้ไหม? " แม้เธอจะรู้สึกเกร็งๆกับการเจอศพเละๆอยู่ตรงหน้าไม่น้อย แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ความอยากรู้อยากเห็นของเธอกำลังเล่นงานเต็มที่ และเมื่อได้รับอนุญาต เธอก็จัดการสวมถุงมือทั้งสองข้างก่อนจะย่อตัวลง

              มีบางอย่างอยู่ในปากของเหยื่อ

              เรียวนิ้วแยกริมฝีปากของเหยื่อให้อ้ากว้าง ก่อนจะหยิบไฟฉายส่องเข้าไปด้านใน พบว่ามีชิ้นส่วนบางๆคล้ายกับแผ่นกระดาษสีแดง

              " กระดาษงั้นเหรอ.... " เธอพูด ก่อนจะลุกขึ้นและให้เจ้าหน้าที่จัดการดึงชิ้นส่วนนั้นออกมา เมื่อคลี่กระดาษโน้ตออก พบว่าเนื้อความข้างในถูกพิมพ์เป็นข้อความสั้นๆ ดูเหมือนเป็นฟ้อนท์จากเครื่องพิมพ์ดีด ไม่มีชื่อผู้เขียน ไม่มีแหล่งที่มา


              [ ขอบคุณที่ใช้บริการ ]


              " ........ " สารวัตรร่างท้วมตีสีหน้าเครียด ก่อนจะเริ่มเปรยด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจนัก

              " คดีฆาตกรรมครั้งที่แล้วก็มีจดหมายแบบนี้ แต่มันแอบอยู่ในกระเป๋ากางเกงของผู้ตาย " เขาหยุดไปจังหวะหนึ่ง " ไม่ใช่แค่ครั้งที่แล้ว ครั้งก่อนๆก็ด้วย "

              " ....จะเป็นไปได้ไหมครับว่าอาจจะเป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง? " ตำรวจนายหนึ่งสวนขึ้นมา ในขณะที่ไอริสยกมือขึ้นลูบคาง คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากัน หลักฐานที่มีอยู่ก็ไม่อาจการันตีได้ว่าเป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง และเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าฆาตกรครั้งก่อนๆกับครั้งนี้จะใช่คนเดียวกันหรือไม่

              " ให้เป็นหน้าที่ของหน่วยชันสูตรกับหน่วยสืบสวนเถอะ " สารวัตรใหญ่ตอบ ก่อนจะสาวเท้าออกไปจากจุดเกิดเหตุ นั่นทำให้เธอจำต้องเดินตามหลังอีกฝ่ายไป หลังจากกลับไปที่สำนักงานก็คงต้องสรุปเนื้อหาของคดีก่อนระหว่างรอผลชันสูตรทั้งหมด แล้วจึงค่อยเริ่มทำการสอบถามคนรู้จักของเหยื่อหรือหาตัวพยานเหตุการณ์อีกที


              รู้สึกไม่ดีเอาซะเลย เธอคิดในใจ ยกมือขึ้นลูบปอยหน้าม้าของตนอย่างคนคิดไม่ตก เจ้าหล่อนหย่อนตัวลงนั่งบนเบาะหลัง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเริ่มออกรถ มุ่งไปยังจุดหมายปลายทางในที่สุด





              10 ชั่วโมงก่อน, ถนนเซาธ์เมสัน

              บรรยากาศภายในเมืองไลท์วู้ดยามราตรีนั้นเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง ร้านค้าปิดทำการตั้งแต่ยามโพล้เพล้ จะมีอย่างมากก็เพียงแค่ผับเล็กๆที่เปิดให้บริการทั้งคืน แต่นั่นก็ไม่ครึกครื้นเทียบเท่าเมืองหลวงใหญ่ที่ประดับไปด้วยแสงสี อีกทั้งถนนเส้นนี้ที่ไม่ค่อยมีคนตั้งรกรากอาศัยก็ยิ่งเงียบงันจนน่าขนลุก มันเป็นพื้นที่ที่ใกล้ป่าสนเขามากที่สุด บางครั้งก็อาจมีสัตว์ป่าที่หลุดเข้ามายังพื้นที่บริเวณนี้บ้าง ทว่าไอริสกลับเลือกที่จะอาศัยอยู่ที่นี่เพราะทำเลค่อนข้างถูก อีกทั้งเพื่อนบ้านก็ไม่ได้นิสัยแย่ ก็แค่จุกจิกบางครั้ง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรที่ทำให้เธอต้องย้ายออก

              หญิงสาวกระชับเสื้อโค้ทยาว อีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงบ้านแล้ว เธอจะได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆที่รักของเธอเสียสักที

              เธอล้วงมือเข้าไปหยิบมือถือในกระเป๋าเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นเล็กน้อย พบว่าเป็นอีเมลล์จากสารวัตรเรื่องความคืบหน้าของรูปคดี ไอริสมุ่นคิ้ว เธอรู้สึกเบื่อเหลือเกินที่จะต้องมารับรู้เรื่องราวแบบนี้ในช่วงพักผ่อน

              " หมดเวลาทำงานแล้ว ไว้ค่อยตอบพรุ่งนี้แล้วกันนะคะ คุณสารวัตร "

              เธอพูดกับตัวเอง ก่อนจะเก็บมันเข้าที่เดิม ทันใดนั้นเอง สายตาของเธอกลับสะดุดเข้ากับบางสิ่งที่น่าประหลาดใจตรงหน้า


              " ...... " ร่างเพรียวระหงหยุดนิ่งกับที่ สัญชาตญาณบอกให้เธอเดินแยกไปทางอื่น แต่ไม่ทันไร ร่างนั้นกลับเดินเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ


              " ....เธอต้องการอะไร ตั้งใจจะแกล้งฉันงั้นเหรอ ไม่ตลกสักนิด "

              ไอริสค่อยๆเลื่อนมือไปแตะที่กระบอกปืนอย่างเชื่องช้า ในขณะที่นัยน์ตากลมสบมองร่างของหญิงสาวตรงหน้าที่มีความสูงเท่ากับเธอ เรือนผมสีบลอนด์ยาวระต้นคอเหมือนกับเธอ กับนัยน์ตาสีฟ้าครามที่เหมือนกันราวกับแกะ

              ใช่ ร่างตรงหน้าเหมือนลอกเลียนมาจากเธออย่างสมบูรณ์แบบ ริมฝีปากบางนั่นเผยรอยยิ้มจาง หากทว่านั่นยิ่งทำให้เธอหวาดผวา


              " .....เธอเป็นใคร? " ไอริสถามเสียงแข็ง แต่คำตอบที่ได้รับกลับไม่ใช่คำตอบที่เธอต้องการ

              " ฉันมาเพื่อทำให้เธอสมหวัง "

              ร่างตรงหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ปลายเท้าขยับเข้ามาอีกก้าว ในขณะที่ไอริสรีบถอยห่างออกมา

              " เรื่องอะไร? "

              " ทุกเรื่องที่เธอต้องการ ฉันรู้ว่าลึกๆแล้วเธอไม่ชอบสารวัตรนั่น และฉันทำให้เธอสมหวังได้ "

              หยดเหงื่อเย็นๆผุดพรายเต็มใบหน้า เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะเล่นตุกติกอะไร และทำไมต้องปลอมตัวให้เหมือนเธออีกคน ริมฝีปากกระตุกยิ้มเย็นก่อนจะคว้าปืนขึ้นเล็งอีกฝ่าย " ขอบคุณที่บอก แต่ฉันแค่เบื่อสารวัตร ---และเลิกเล่นอะไรแผลงๆซะ อย่าหาว่าไม่เตือน "


              บรรยากาศเงียบไปอึดใจจนไอริสได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นระรัว แต่แทนที่อีกฝ่ายจะรู้สึกเกรงกลัวอาวุธที่เธอถือ เจ้าหล่อนกลับหัวเราะเบาๆในลำคอ ทว่ายิ่งให้ความรู้สึกน่าขนลุกมากขึ้นกว่าเดิม ความเยือกเย็นแผ่ซ่านจนหญิงสาวรู้สึกหนาวสันหลังวาบ นี่เธอกำลังเจออะไรอยู่? ทำไมเธอถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย?

              " หัวเราะอะไร? " เธอพยายามข่มความหวาดกลัวไว้ ทันใดนั้น ร่างเพรียวตรงหน้าก็หยุดหัวเราะ ถึงกระนั้นรอยยิ้มก็ยังคงประดับบนใบหน้าเช่นเดิมอย่างใจเย็น

              " มันอันตรายนะ มีของแบบนั้นไว้กับตัวน่ะ " เมื่ออีกฝ่ายพยายามเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น นั่นทำให้เธอตัดสินใจลั่นไกในทันทีอย่างไม่ทันได้คิด



              ปัง!!


              ไอริสมองตัวเธออีกคนที่ล้มหน้าหงายลงไป เธอไม่คิดว่าตัวเองจะยิงจริงๆ แม้เธอไม่ใช่คนแม่นปืน แต่ด้วยระยะทางที่ไม่ได้ไกลมากนัก จึงทำให้กระสุนนั้นพุ่งเจาะเข้าที่กลางหน้าผากของอีกฝ่ายได้อย่างพอดิบพอดี หญิงสาวทรุดลงกับพื้นด้วยความตกใจ นัยน์ตากลมมองร่างตรงหน้าอย่างสับสน มองดูหยาดโลหิตค่อยๆไหลเจิ่งนองที่พื้นถนน และนั่นก็ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากขึ้น แต่มือของเธอก็ไม่อาจปล่อยจากกระบอกปืนได้

              เธอไม่รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเธอนั้นเป็นมนุษย์หรือวิญญาณกันแน่ แต่เมื่อเห็นหยดเลือดที่ไหลจากบาดแผลนั่นยิ่งทำให้เธอตกใจ

              มือเรียวสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม เธอฆ่าคน เธอฆ่าไปแล้ว หลังจากนี้จะทำอย่างไรดี

              เเต่เธอทำไปเพื่อป้องกันตัว เธอไม่ผิดสักหน่อย



              ไอริสไม่มีเรี่ยวแรงแม้กระทั่งลุกขึ้นยืน ไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนออกมาดูเลยสักนิดแม้เสียงปืนนั้นจะดังลั่นก็ตามที คนที่นี่เป็นบ้าอะไรกัน ทำไมถึงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย





              " ก็บอกแล้วไง.... ว่ามีของแบบนั้นไว้กับตัว มันอันตราย "




              สิ้นเสียงนั้น ร่างของหญิงสาวตรงหน้าก็พลันพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้ไอริสไม่มีจังหวะแม้กระทั่งจะยกปืนขึ้นยิงอีกรอบ อาวุธในมือถูกปัดออกไปด้วยแรงมหาศาล ใบหน้าหวานตรงหน้านั้นย้อมด้วยสีหยาดโลหิต กระสุนปืนยังคงฝังคาอยู่กลางหน้าผาก นัยน์ตาสีฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ปลายเล็บทั้งสิบงอกออกมาราวกับเป็นกรงเล็บสัตว์ป่า มันยกมือขึ้นกรีดแก้มของเธอจนเป็นรอยถาก ก่อนจะยกมือขึ้นบีบรัดรอบลำคอเล็กอย่างแรง แม้หญิงสาวจะพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดจากการเกาะกุมอย่างไรก็ไม่เป็นผล ราวกับว่าแรงนั่นไม่ใช่แรงของมนุษย์ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย

              หญิงสาวพยายามโกยลมหายใจเข้าให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งทำเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ยิ่งบีบแน่นขึ้น ความทรมาณจากการขาดอากาศเริ่มเล่นงานเธอ มือทั้งสองที่แปะป่ายกับเกร็งค้างไว้เช่นนั้น นัยน์ตาสีฟ้าเหลือกมองมัจจุราชตรงหน้า สติสัมปชัญญะกำลังจะเลือนหายไปในห้วงแห่งความมืดอย่างรวดเร็ว


              " ป- ปะ-- อ่อย---อะ "


              เสียงนั้นเล็ดลอดออกมาอย่างคนขาดอากาศ เธออึดอัด เธอโมโห และเธอก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องตายไวขนาดนี้ นัยน์ตาเบิกโพลงมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความแค้นเคือง ก่อนจะรู้สึกร้อนผ่าวแถวขอบตา เธอมองมันที่แสยะยิ้มและหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ ไอริสไม่เชื่อเรื่องผีด้วยซ้ำ แต่หลักฐานชิ้นโตตรงหน้าทำให้เธอล่วงรู้ได้ว่า มัน ไม่ ใช่ มนุษย์




              ในจังหวะที่ภาพกำลังจะตัดเข้าสู่ห้วงนิทราตลอดกาล โสตประสาทหูกลับได้ยินเสียงพูดของใครบางคน ก่อนที่มวลความอึดอัดนั้นจะถูกยกออกไปจากอก


              " เลิฟ! "


              เสียงนั้นดังขึ้น พร้อมๆกับอากาศที่ไหลเวียนเข้าสู่ปอดอีกครั้ง ไอริสไอโขลก ก่อนจะหอบหายใจรีบโกยออกซิเจนเข้าร่างกาย น้ำหูน้ำตาไหลจนมองภาพตรงหน้าอะไรได้ไม่ชัดนัก แต่เธอสามารถเห็นร่างของเจ้าปีศาจนั่นพึ่งกระแทกเข้ากับเสาไฟข้างทางพร้อมกับเสียงหวีดร้องแหลม หญิงสาวค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างลำบาก มือเรียวจับรอบคอที่คาดว่าน่าจะช้ำเป็นจ้ำแน่ๆ ทว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เธอต้องกล่าวขอบคุณคนที่มาช่วยเธอได้ทันเวลาพอดีเสียก่อน!

              หากทว่ายามที่หญิงสาวเงยหน้ามอง เธอกลับเห็นบางสิ่งที่เธอแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง



              ร่างที่วนเวียนอยู่ใกล้หญิงสาวที่มาช่วยเธอไว้นั้นมีลักษณะคล้ายกับฑูตสวรรค์ก็ไม่ปาน เธอขยี้ตาอีกครั้งเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด และเธอก็ไม่ได้ตาฝาดจริงๆเสียด้วย ไอริสมองดูอีกฝ่ายที่สาวเท้าเข้าไปใกล้กับสัตว์ประหลาดที่นอนขดตัวอย่างเจ็บปวด เธอเห็นว่าเงาฑูตสวรรค์ที่อยู่ข้างๆเจ้าหล่อนนั้นทำท่ายกมันขึ้นเหนือพื้น ก่อนจะเหวี่ยงมันกระแทกเข้ากับผนังบ้านเรือนซ้ำไปซ้ำมาจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ



              " กรี๊ดดดดดด--------------!!! "



              ไอริสข่มตา ก่อนจะยกมือขึ้นปิดดวงตาของตนเองและนอนลงกับพื้นเช่นเดิมท่ามกลางเสียงกรีดร้องแหลมของมัน



              จะทำเป็นไม่รับรู้ก็แล้วกัน



              ด้วยความอิดโรย สติของหญิงสาวที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดก็พลันวูบไปยังห้วงภวังค์ในที่สุด




    Prologue, END


     

    บทที่1จะมาหลังจากประกาศตัวละครนะ!


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×