คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : EP [2] คนขี้อิจฉา ✓
“ไอทางนี้”
ไอวี่หันมองกลุ่มเพื่อนสนิทแล้วเดินไปนั่งที่ว่างทันที
“เมื่อวานเป็นไงบ้าง”
พอนั่งปุ๊บอีลี่สาวสองมันก็ถาม มันคงอยากรู้เรื่องเมื่อคืนที่ไปเที่ยวกันแล้วถูกคิวจับได้
พวกเพื่อนๆ
ในกลุ่มจะรู้แค่ว่าคิวเป็นลูกน้องของที่บ้านไอวี่และมีหน้าที่คล้ายๆ กับบอดี้การ์ดประจำตัวของเธอ
และรู้แค่ข้อมูลผิวเผินเพียงเท่านั้น โดยไอวี่บอกแค่ว่าบ้านเธอเป็นตระกูลเก่าที่รวยมากและรับอุปถัมภ์คิวจากบ้านเด็กกำพร้ามาเลี้ยง
ส่วนเบื้องหลังอันมืดมิดไม่ได้บอกกล่าวออกไป และแน่นอนว่าหากใครคิดจะสืบคงได้แต่เพียงความว่างเปล่า
เพราะคนอย่างคิวจะไม่ยอมปล่อยให้ข้อมูลต่างๆ หลุดรอดออกมาอย่างแน่นอน
“เขาก็ไม่ได้อะไรกับฉันเหมือนกับที่แล้วๆ
มานั่นล่ะ”
“อย่ามาทำให้ต่อมเสือกพวกฉันทำงานหนักสิ
เล่ามาเลยๆ!”
ไอวี่ถอนหายใจออกมายาวๆ
พลางมองบรรดาเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวเสือกเต็มที่
อาจเพราะคลาสนี้อาจารย์เข้าช้าพวกมันถึงมีเวลามาเสือกได้แบบนี้
แต่ก็ไม่ถือสาเพราะเธอเองก็เห็นพวกมันเป็นเพื่อนที่พร้อมจะแชร์ในบางเรื่องอยู่แล้ว
ไอวี่มีเพื่อนสนิท
4 คน คนแรกคือ สาลี่ หรือ อีลี่ เพื่อนสาวประเภทสองที่ขี้เสือกที่สุดในกลุ่ม
คนที่สองคือเยลโล่ สาวมั่นใจนิสัยคล้ายอีลี่และคอยเป็นลูกคู่อีลี่ตลอด สองคนสุดท้ายคือมิ้นท์คือมิ้นกับดาวที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยและเรียนเก่ง
โดยเฉพาะดาวที่จะเรียนเก่งที่สุดในกลุ่มและนิสัยเฉพาะตัวคือเป็นคนดีแบบใสสะอาดธรรมมะธรรมโมไม่ทำผิดศีล
“ก็ดุฉันนิดเดียวที่เหลือก็นิ่งใส่”
ตอบพวกมัน
“ไอชอบพี่เขาจริงๆ
เหรอ พี่เขาดูน่ากลัวยังไงไม่รู้”
ดาวแม่ชีของกลุ่มพูดขึ้นมาอย่างหวาดหวั่น
เดิมทีดาวมันเป็นคนขี้กลัว นี่ถ้ารู้ว่าบ้านไอวี่มีคนประเภทคิวอยู่เยอะแยะเต็มไปหมดคงจะช็อกตายแน่นอน
“น่ากลัวยังไงยะเขาเรียกว่าดิบๆ
โหดๆ คาริสม่ากระชากมดลูกย่ะ แม่ชีอย่างเธอใช้เวลาว่างเดินจงกลมทั้งวันคงจะมาเข้าใจหรอก”
“น้อยๆ
หน่อยอีลี่ไปว่าดาวมัน” เยลโล่
“หรือมึงคิดว่าไม่จริงหะอีโล่”
“เรียกเยลเถอะขอร้อง”
ไอวี่ส่ายหน้าระอาเมื่อเพื่อนๆ เบี่ยงประเด็นไป แต่ก็อดยิ้มให้ไม่ได้ที่เห็นว่าเหล่าเพื่อนสนิทเริ่มแซวกันเอง
ในกลุ่มเพื่อนๆ
พวกมันมีฐานะปานกลางไม่เคยเอารัดเอาเปรียบหรือเข้าหาไอวี่เพราะผลประโยชน์ก็เลยสบายใจที่อยู่กับพวกมัน
“ตกลงว่าไงคะอิคนสวย”
อีลี่หันมาเสือกอีกจนได้
“ก็ให้ไปรายงานตัวพร้อมพวกแกนั่นล่ะ
เรื่องเมื่อคืนน่ะ”
“เห็นมะพวกฉันซวยก็เพราะแกอ่ะ
มันใช่เรื่องไหมวะเนี่ยอีแค่จะปั่นหัวผู้ชายนี่ต้องทำให้เพื่อนโดนหักคะแนนอ่ะ
รู้ก็รู้ว่าพี่คิวเขาประกาศออกมาตอนเข้าแถวรับน้องแล้วนะว่าห้ามทำผิดกฎ ไอ้พวกเราน่ะไม่อะไรแต่พี่คิวเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับแกเลยเหรอวะ”
สาลี่บ่น
ไอวี่เงียบไปเพราะจริงอย่างที่อีลี่มันพูด
กฎที่ว่าคือในหนึ่งเดือนนี้ไม่ให้เด็กปีหนึ่งออกเที่ยวถ้าเจอจะหักคะแนน ซึ่งไอวี่กับเพื่อนทำแบบนี้มาแล้วสามครั้ง
รวมเมื่อคืนด้วยนั่นล่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้คะแนนจิตพิศัยของพวกเธอจะเหลือกี่คะแนน
ความจริงไอวี่ก็รู้สึกผิดนิดๆ
ที่พาเพื่อนๆ ทำเรื่องไร้สาระก็เพียงเพราะอยากยั่วโมโหคิวเท่านั้น
“ขอโทษนะที่ทำให้เดือดร้อน”
“อีคุณหนูอย่ามาดึงดราม่า
พวกฉันไม่ได้อะไรมากหรอกแต่แค่อยากรู้ว่ามันคืบหน้าบ้างไหมก็เท่านั้น” อีลี่ตาประกายพร้อมเสือกเต็มที่
“ก็คืบหน้าอยู่นะ”
ไอวี่พูดพลางเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้าให้พวกเพื่อนฟัง เมื่อเล่าจบเพื่อนๆ ก็หันมาทำหน้าแปลกๆ
ใส่
“นี่คือก้าวหน้าถูกไหม”
อีลี่ทำหน้าเบื่อหน่าย
“อือ
เขาพูดยาวกว่าปกติอ่ะ”
“นั่นเรียกด่าไหมไอ
พี่คิวไม่มีมุมเป็นห่วงหรือหึงเลยเหรอ” เยลโล่
“..เขาตายด้านจะตายไป”
เธอไม่เคยเห็นคิวเป็นห่วงเลยสักครั้ง
เพราะแต่ละครั้งที่เขามาตามตัวเธอก็แสดงแต่สีหน้ารำคาญใจเบื่อหน่ายอยากจะฆ่าเธอให้ตายคามือเพราะไปรบกวนเวลาของเขา
“แต่ไอก็ชอบเขานี่”
ดาวพูดแซวซึ่งไอวี่ไม่ปฏิเสธเพราะมันเป็นความจริง เธอชอบคิวจริงๆ ..
“ฉันอยากจะรู้ว่าจะมีใครทำให้พี่คิวอ่อนโยนได้บ้างไหมอ่ะ”
ไอวี่หันไปมองเยลทันทีที่ได้ยินแบบนั้นและก็คิดตามไปด้วย
ตั้งแต่อยู่กับคิวมาไม่เคยเห็นคิวจะอ่อนโยนกับผู้หญิงเลยสักคน
ไม่ว่าจะคู่นอน เลขา หรือผู้หญิงที่เขามีความสัมพันธ์ระยะสั้นก็ไม่เคยเห็น
“ก็มีนะ”
“ใคร”
เสียงของสาลี่ทำเอาไอวี่หันขวับคอแทบเคล็ด และไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเสียงที่เอ่ยถามออกไปนั้นแข็งและห้วนแค่ไหน
“ก็นั่นไงรุ่นพี่ปีสามคณะไหนเนี่ยล่ะ
เขาว่ากันว่าคนนี้อ่ะท่าทางจะทำให้กำแพงน้ำแข็งของพี่คิวถูกทำลายลงได้”
“ใครวะอีลี่จะยึกยักเพื่อ?”
เยลเร่ง แม้แต่ใจไอวี่เองก็เร่งตามด้วย
“จำชื่อไม่ได้ว่ะแต่สวยและน่ารักมากๆ
ได้ยินเขาพูดกันว่า เห็นพี่คิวเย็นชาแบบนี้แต่กับคนนี้เหมือนกับคนละคนกับที่พวกเรารู้จักเลยล่ะ”
“อีนั่นมันเป็นใคร”
ไอวี่ถามเสียงแข็งแกมไม่พอใจที่ได้ยินแบบนั้น
“เออเดี๋ยวบอกแต่ตอนนี้อ่ะเรียนก่อนดีกว่าอาจารย์มาโน่นแล้ว”
เยลโล่เอ่ยขัดเพราะอาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาในห้องพอดี
ไอวี่เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้ข้างในแต่ก็ไม่วายคิดตลอดทั้งคาบเรียนว่าผู้หญิงคนที่สาลี่บอกนั้นเป็นใคร
ไม่รู้สิในอกเหมือนมีใครมาสุมไฟให้ร้อนลุ่มยังไงชอบกล
เธอมันก็นิสัยแบบนี้ นิสัยเสียที่โดนคนสปอยล์มามากอยากได้อะไรก็ต้องได้ ของๆ เธอก็ต้องเป็นของๆ
เธอใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาแย่งไป!
“แล้วจะเอาไงเรื่องไปรายงานตัวเนี่ย”
อีลี่เอ่ยขึ้นตอนเราเรียนเสร็จสองคาบแรกจบ อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงแล้วแต่ทุกคนยังนั่งปรึกษากันอยู่ว่าจะไปรายงานตัวตามคำสั่งของพี่ระเบียบก่อนหรือหลังกินข้าวกันดี
“ไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปเถอะ”
ไอวี่พูดเสนอขึ้น เพราะหากไปแล้วเจอคิวตอนที่เทอท้องว่างๆ แบบนี้อาจจะทำให้เผลอหงุดหงิดเขาก็ได้
เพราะในหัวเธอมีแต่คำว่าไม่พอใจเต็มไปหมด
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องของคิวกับผู้หญิงปริศนาที่สาลี่พูดค้างเอาไว้
เพื่อนๆ
เห็นด้วยจึงเก็บของแล้วไปกินข้าวกัน เมื่อมาถึงโรงอาหารไอวี่กับเพื่อนต่อแถวซื้ออาหารกันจนเรียบร้อยแล้วก็เดินหาที่นั่ง
พอนั่งปุ๊บก็เข้าระบบเม้าท์มอยฝอยแตกกันไป ซึ่งไอวี่ก็ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ เท่านั้น
“ไอนั่นกลุ่มพี่คิวนี่”
ไอวี่หันไปมองตามเมื่อได้ยินสาลี่เรียกชื่อของบุคคลที่อยู่ในหัวมาตลอดช่วงเช้าจนถึงตอนนี้
“กลุ่มพี่คิวนี่หล่อเหมือนเดิมเลยเนอะ แต่วันนี้ขาดไปสองคนนี่ พี่คินทร์กับพี่โชนไม่มาเหรอวะ”
“ใครคือพี่คินทร์พี่โชน”
ไอวี่ถามด้วยความสงสัย
“อ้าวอีนี่ชอบพี่คิวยังไงไม่รู้จักเพื่อนๆ
ของเขาเนี่ย”
สาลี่มันว่า
อาจเพราะไอวี่ไม่เคยสนใจใครนอกจากคิวก็เลยไม่รู้ว่าในกลุ่มที่เดินมานั้นมีใครบ้าง
“ไหนใครมีข้อมูลบอกฉันหน่อยสิ”
ไอวี่พูดอย่างหมั่นไส้เพื่อนๆ
“บอกแล้วได้อะไรอ่ะไอ”
เยลถามกวนๆ ไอวี่ถอนหายใจ
“เรียงคนเลย
ข้อมูลหนึ่งคนต่อหนึ่งพันบาท”
“เดี๋ยวฉันบอกเองย่ะกลุ่มนี้อ่ะมีกันอยู่หกคน
คนแรกที่เรารู้จักดีนั่นก็คือพี่คิวที่เป็นพี่ระเบียบ คนที่สองคือพี่คินทร์ที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม
วันนี้ไม่อยู่คงจะไม่มาเรียนหรืออาจจะมาแต่ตามมาทีหลัง ส่วนผู้ชายที่ดูเจ้าชู้ๆ
ยิ้มตลอดเวลานั่นคือพี่ออสติน ข้างๆ พี่ออสตินนั่นชื่อพี่เคน และข้างพี่เคนคือพี่คอปเตอร์
ปิดท้ายด้วยพี่โชนว่าที่คุณหมอสุดหล่อที่ไม่อยู่ตรงนี้ด้วย”
ไอวี่มองตามที่สาลี่แนะนำและเริ่มจำเพื่อนในกลุ่มของคิวเอาไว้
“หกคนหกพันจ่ายมาก่อนเดี๋ยวจะลงรายละเอียดให้”
สาลี่เริ่มขูดเงินทันทีที่พูดจบ พอเห็นประกายแววตาจากพวกมันแล้วไอวี่ก็ถลึงตาใส่
ขอถอนคำพูดตอนที่อธิบายว่าพวกมันไม่ต้องการอะไรจากเธอได้ไหม! แล้วเปลี่ยนเป็นอีพวกนี้มันหน้าเลือดกับเธอทุกเม็ด!!!
“มีพร้อมเพย์ไหมล่ะ”
ไอวี่ไม่ถือสายังถามข้อมูลอื่นๆ อีกเล็กน้อยด้วย “ขอรายละเอียดเพิ่มเติมหน่อยสิ”
“โถ่ไอเพื่อนรักเงินมาปากพร้อมขิงความรู้ที่มีค่ะ”
ไอวี่ฟังเพื่อนๆ
เล่าต่อ ส่วนมากจะเป็นสาลี่เสียมากกว่าที่พูดจนน้ำลายแตกกระเซ็น
พี่คินทร์..ที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม
มีแฟนอยู่ปีสามคณะอาหาร
พี่ออสติน..คนเจ้าชู้ประจำกลุ่มก็มีแฟนแล้วด้วย
พี่เคน..ดูแล้วจะคล้ายพี่ออสตินแต่ความเจ้าชู้น้อยกว่านิดหน่อย
ได้ยินว่ามีคู่หมั้นที่ทางบ้านหาไว้ให้เหมือนกัน
พี่คอปเตอร์..ได้ข่าวว่าแฟนเขาเป็นพี่ว้ากปีสี่ที่ชื่อคีนส์
พี่โชน..เรียนหมอและยังไม่มีแฟนแต่ได้ข่าวว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว
ส่วนคนสุดท้ายก็คิว..ทุกอย่างก็อย่างที่ไอวี่รู้แต่ที่ไม่รู้คือมีข่าวกับผู้หญิงปีสามที่สาลี่เคยบอก
จากข้อมูลที่ได้ฟังมานี่เธอสนใจแค่คนสุดท้ายอยู่คนเดียว
“สาลี่ไปสืบมาว่าผู้หญิงคนนั้นที่เป็นข่าวกับคิวเป็นใคร
ถ้าได้เรื่องเดี๋ยวฉันให้ห้าพันเลย” ไอวี่ที่มองคิวอยู่ห่างๆ พูดขึ้น
ทำให้ตาของสาลี่สาวสองของกลุ่มเป็นประกาย
“หวานปากอีลี่ล่ะ”
“ถ้าได้ข้อมูลแล้วจะทำอะไรเขา”
ดาวถามอย่างกังวล เพราะกลัวว่าเพื่อนของตนเองจะไปทำอะไรรุนแรงกับคู่ผู้หญิงที่เป็นข่าวกับพี่คิว
ไอวี่นิ่งเงียบ..จะทำอะไรน่ะเหรอ?
ก็ไม่รู้เหมือนกัน รอให้ได้ข้อมูลมาก่อนถึงจะรู้ได้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไปกับผู้หญิงคนนั้น
จะหาว่าเธอร้ายก็ไม่ว่า เธอจะไม่ยอมให้คิวมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนแน่นอน!
“เปล่าก็แค่อยากรู้ว่าข่าวจริงน่ะจริงหรือหลอกและถ้าเป็นความจริงก็อยากจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเป็นคนแบบไหนก็เท่านั้น”
“จะอะไรก็ได้แต่อย่าทำบาปก็พอนะไอ”
ดาวพูดขึ้น ทำเอาไอวี่กรอกตามองบน เพื่อนๆ ทุกคนในที่นี้แทบจะยกมือสาธุให้กับมัน
“ไม่ทำอะไรหรอกน่า”
ถ้ามันไม่มากไปจนทำให้อิจฉาละก็นะ!
ไอวี่มองกลุ่มของคิวที่นั่งกินข้าวกันอยู่
คิวไม่ได้แสดงท่าทางต่างจากที่อยู่บ้านมากนัก ยังคงทำหน้าตานิ่งๆ คอยฟังเพื่อนๆ ของเขาพูดคุยกันไปอย่างเงียบๆ
แต่ถ้าเพื่อนๆ ขอความเห็นคิวก็จะพูดออกมาอย่างลื่นไหล พอมองแบบนี้แล้วแปลกตาไปนิดหน่อยเหมือนกัน
ไอวี่คิดว่าที่คิวต้องวางตัวแบบสุขุมเย็นชาก็เพราะอีกฝ่ายเป็นที่นับหน้าถือตาในฐานะคนที่ปกครองคนจำนวนมาก
แต่พออยู่ในมหา’ลัยในฐานะพี่ระเบียบเขาก็จะลดความเข้าถึงยากลงมาบ้างแต่ไม่มากนัก
และยิ่งมาอยู่กับเพื่อนๆ เหมือนกำแพงพวกนั้นจะลดลงไปมากทำให้บรรยากาศรอบตัวดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาดใจ
“ไอ้คินทร์ทางนี้เว้ย”
ออสตินโบกมือหยอยๆ เรียกเพื่อนทำให้ทุกคนหันไปมองไม่แม้แต่กลุ่มไอวี่เองก็ด้วย
ไอวี่ได้ยินว่าคนที่มาใหม่ชื่อคินทร์เดินมาพร้อมกับผู้หญิงสวยๆ
คนหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นแฟนของเขา ทั้งสองคนไปนั่งตรงที่ว่างข้างๆ คิวที่เหลือเอาไว้สองเก้าอี้
ผู้หญิงคนนั้นนั่งข้างๆ คิวและพี่คินทร์นั่งหน้าสุด
สักพักคนที่ชื่อคินทร์เดินไปซื้ออาหาร ทำให้ในกลุ่มนั้นเริ่มคุยกันต่อ ไอวี่มองไปที่คิวที่นั่งพูดคุยกับผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่คลาดสายตา
แกร็ง!
ไอวี่เผลอปล่อยช้อนหล่นกระทบจานทำให้เพื่อนๆ
ของเธอหันมามอง เธอไม่ได้สนใจเพื่อนๆ เพราะสายตาเธอมองบุคคลสองคนที่นั่งคุยกันห่างออกไปนั่นต่างหาก
และปฏิกิริยาทั้งหมดนั้นแสดงให้เห็นว่าไอวี่กำลังตกใจ..คิว..หมอนั่นกำลังยิ้มและใช้มือลูบหัวผู้หญิงคนนั้นอย่างอ่อนโยน
ไอ้ท่อนไม้ยิ้มยากคนนั้นกำลังแสดงความรู้สึกออกมา
ทั้งๆ ที่ไอวี่ไม่เคยได้เห็นหรือได้รับมันมาก่อน ท่าทางแบบนั้นที่เธอฝันมาตลอดแต่ไม่เคยที่จะได้
แต่ผู้หญิงคนนั้นได้รับไปง่ายๆ ..
ดูเหมือนว่าในอกของเธอกำลังร้อนลุ่ม!
และใช่เธอกำลังอิจฉา
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเธอต้องรู้ให้ได้!!
ღ
รถสปอร์ตสีดำขับเข้ามาจอดตรงโซนด้านในอย่างเป็นปกติ
ร่างสูงก้าวลงมาจากรถพลางขมวดคิ้วนิ่งเมื่อเห็นบรรดาลูกน้องที่ยืนต้อนรับทำท่าทางแปลกไป
ไม่ต้องถามก็รู้ได้ในทันทีว่าอะไรเป็นสาเหตุ และยิ่งลูกน้องคนสนิทอย่างทิมวิ่งเข้ามารายงานด้วยสีหน้าไม่สู้ดีก็เริ่มปวดหัวรอไว้เลย
“คุณคิวครับ
เกิดเรื่องแล้วครับ”
“มีอะไรอีก”
เสียงติดรำคาญพูดขึ้นทำเอาทิมเหงื่อตก
“คุณหนูอาละวาดครับ”
“คราวนี้เหตุผลอะไรอีกล่ะ”
“ไม่มีใครทราบครับน่าจะเป็นมาจากข้างนอก
เพราะวันนี้ไม่มีคนไปที่เรือนแก้วเลยสักคนครับ” ทิมรายงานต่อ ใครที่ว่าคือบรรดาญาติพี่น้องของคุณหนูไอวี่นั่นเอง
“ปล่อยให้ทำไปเถอะ”
ร่างสูงพูดออกมาอย่างรำคาญเพราะพบเจอประจำจนเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว
เมื่อได้ยินอย่างนั้นทิมก็ตอบรับโดยดี
เพราะถ้าจะหาใครที่รับมือคุณหนูของเรือนแก้วได้ก็คงมีแต่คุณคิวเพียงเท่านั้น
“มีอีกเรื่องครับ
คุณท่านเรียกให้คุณไปพบที่เรือนใหญ่”
“อืม”
คิวตอบรับก่อนจะหมุนตัวไปที่ตัวบ้านใหญ่ที่คนเป็นนายเหนือหัวทุกคนในตระกูลหงส์ฤดีเกียร์ติกุล
เมื่อมาถึงคิวเดินผ่านเหล่าบอดี้การ์ดหลายๆ
กลุ่มเข้าไปโดยไม่เกรงกลัว เพราะไม่ว่าจะกลุ่มไหนหรือเป็นฝ่ายไหนเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่ต้องเกรงใจใคร
เขาเดินตรงไปที่ห้องทำงานของ ‘คุณท่าน’ ในทันที
“คุณคิวมาถึงแล้วครับ”
ลูกน้องคนสนิทเอ่ยรายงานกับชายสูงวัยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่
คิวมองผู้เป็นนายเหนือหัวที่ใครๆ
ต่างเรียกว่าคุณท่าน คนๆ นี้คือ ‘ไอศวรรย์
หงส์ฤดีเกียรติกุล’ เป็นผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของวงศตระกูล
คิวเดินเข้าไปทำความเคารพอย่างรู้หน้าที่
ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงด้านหน้า อีกฝ่ายไม่แม้จะหันมามองแต่มันก็เป็นปกติของบุคคลนี้
“ได้ยินว่าไอวี่อาละวาด”
“ครับ”
“เหตุผลคืออะไร”
“น่าจะเป็นเรื่องเดิมๆ
ครับ อาจจะมีคนขัดใจ” คิวเดาสุ่ม เพราะไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงแต่ปกติแล้วก็มักจะเป็นปัญหานี้ที่ทำให้หญิงสาวอาละวาดได้
ไม่ใครไปขัดใจไม่ก็ไปโมโหอะไรมาสักอย่าง
“อืม
ช่วยดูหลานฉันทีนะเขาก็เจ้าอารมณ์แบบนี้ล่ะ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันเอง แต่ตอนนี้ฉันไม่สามารถจะดูแลได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
คนที่จะเอาอยู่ก็มีแค่เธอเท่านั้น”
คิวไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะเข้าใจที่อีกฝ่ายพูดเป็นอย่างดี
เหตุที่ไม่สามารถดูไอวี่อย่างใกล้ชิดได้ก็เพราะอาจจะทำให้ไอวี่มีปัญหามากกว่าเดิมจากสังคมของการแก่งแย่งชิงดีของคนในครอบครัว
“ครับ
เดี๋ยวผมจะจัดการให้”
“ช่วงนี้การเรียนของไอวี่เป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ”
“อืมงั้นก็ดี
เรื่องงานที่จะถึงนี่ฝากเธอจัดการด้วยนะ”
“รับทราบครับ
ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” คิวตอบรับด้วยความนอบน้อม
“เธอก็ทำงานกับฉันมานานแล้วนะ
ฉันคิดว่าฉันไว้ใจคนไม่ผิด อย่าให้พลาดและรักษากฎที่ตกลงกันไว้ให้ดี”
คิวไม่ได้ตอบรับแต่ยืนฟังอย่างตั้งใจ “อาทิตย์หน้ามีกำหนดดูตัว หน้าที่ของเธอคือพาไอวี่ไปให้ได้
ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ตาม”
“ครับ”
“อ่อ
เรื่องงานของไอวี่มีปัญหาอะไรรึเปล่า” คงจะหมายถึงคาสิโนและบริษัทที่คิวได้รับหน้าที่ควบคุมดูแลอยู่
“มีบ้างประปลายแต่ก็แก้ไขได้ครับ”
“อืมฉันไว้ใจคนไม่ผิดจริงๆ
ขอบใจเธอมากไปพักผ่อนเถอะ”
“ครับ”
คิวโค้งรับก่อนจะขอตัวออกมา และเมื่อลงมาด้านล่างก็พบกับคุณผกามาศ
หงส์ฤดีเกียรติกุล มีศักดิ์เป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้พอดี คิวก้มหัวเชิงทักทายอีกฝ่ายแต่ไม่ได้ทักทายอะไรมากมาย
“พวกกาฝากนี่มันเลียแข้งเลียขาเก่งจริงๆ
ไปประจบอะไรคุณพ่อมาอีกล่ะ”
คิวไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องตอบ
ในเครือบ้านหลังนี้ทุกคนต่างก็มีเจ้านายของตนเองอยู่
หากไม่ใช่เจ้านายก็ไม่จะเป็นต้องทำตามคำสั่งหรือตอบคำถาม
“ขอโทษครับ”
เมืองสิงห์เดินเข้ามากระซิบรายงานบางอย่าง คิวขมวดคิ้วฉับทันทีที่ลูกน้องรายงานว่ามีคนแผลงฤทธิ์มากขึ้นจนคุมไม่อยู่
“ขอตัว”
คิวโค้งให้อีกฝ่ายเล็กน้อยและเดินออกไปเลยโดยไม่สนใจเสียงด่าทอที่ไล่ตามหลังมา เมื่อเดินเข้ามาในส่วนที่เป็นห้องซ้อมมวยเหล่าลูกน้องต่างหลีกทางให้พลางทำความเคารพกันเป็นระเบียบ
คิวเลื่อนสายตาไปมองบนสังเวียนที่มีลูกน้องจำนวนหนึ่งลงไปกองนอนกับพื้น
สายตาคมสังเกตตัวการของปัญหา มองเม็ดเหงื่อที่ผุดซึมตามไรผิวหน้าขาวทำเอาคิวถอนหายใจหันไปสั่งลูกน้องให้เตรียมบางอย่างมา
“คุณคิวครับ”
คิวโบกมือสื่อว่าจะเป็นคนจัดการเอง
ไอวี่มองบุคคลมาใหม่ที่ทำหน้าตาเหมือนกับว่ารำคาญเธอเสียเต็มทน
หน้าเรียบนิ่งที่เธอเกลียดแต่ก็ชอบไปในเวลาเดียวกัน
“ออกไป”
ไอวี่พูดเสียงเรียบ คิวไม่ได้ทำตามคำสั่งอีกทั้งยังเดินเข้าไปหา การกระทำนั่นทำให้ไอวี่หงุดหงิดมากกว่าเดิม
“เป็นอะไรไปอีก”
ปึ่ก!!
ไอวี่โยนนวมให้อีกฝ่าย แต่มือหนาก็รับมันเอาไว้ได้ในทันที
ไม่รอให้คิวได้เตรียมตัวไอวี่โถมเข้าไปเพื่อที่จะฮุกหมัดใส่ร่างสูง
ทันทีที่เหวี่ยงหมัดออกไปคิวก็รับได้ทุกครั้ง
ไอวี่เปลี่ยนท่วงท่ายกขาขึ้นเตะไปด้านข้างลำตัวแต่อีกฝ่ายก็ยังใช้มือจับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
ไอวี่เริ่มหงุดหงิด ไม่ว่าจะเตะจะต่อยก็โดนคิวจัดการเสียอยู่หมัด
ผ่านไปครู่หนึ่งไอวี่ถึงกับยืนหอบเหนื่อยมองคิวด้วยความขัดใจไม่น้อย
เป็นเพราะว่าจะไม่อยากจะยอมแพ้จึงหาทางเอาชนะอีกรอบ
ไอวี่ตรงเข้าไปหมายจะเตะต่อยเหมือนเพิ่มเติมคือใส่เทคนิคดึงความสนใจ แต่ไม่ทันได้วาดลวดลายก็โดนมือแกร่งรวบตัวกอดเอาไว้ด้านหลังเสียก่อน
“พอใจแล้วยัง”
“ยังไม่พอ! ทำไมนายไม่อยู่เฉยๆ ให้ฉันต่อยหะ!”
ไอวี่ถามเสียงหอบปนหงุดหงิด ยิ่งเธอได้ยินคนตัวสูงด้านหลังพ่นลมหายใจออกมาคล้ายกับเบื่อหน่ายเธอก็รู้สึกคันยุบยิบในใจ
เหอะ!!
ใช่สิคงจะเบื่อกันมาก ฉันมันน่ารำคาญน่าเบื่อคงไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นคนที่นายยิ้มให้เมื่อตอนกลางวันนี่!!
“หงุดหงิดอะไร”
“หงุดหงิดนายนั่นล่ะ!!
ปล่อย!!” คิวยอมปล่อยแต่โดยดี ไอวี่เองก็ถอยออกมาก่อนจะถอดนวมและโยนไปกองที่พื้นตรงหน้าของคิว
“ตอบฉันมานายมีแฟนแล้วหรือยัง”
คิวขมวดคิ้วกับคำถามนั้น
“ถามทำไม”
“ถามก็ตอบ”
“ยังไม่มี”
ไอวี่กำหมัดแน่นกับคำตอบเพราะเธอพอจะรู้ว่าคิวก็มีผู้หญิงบ้างแต่ไม่ใช่จะเป็นตัวเป็นตน
เขาแค่หลับนอนกับพวกผู้หญิงพวกนั้นแต่ไม่เคยจะสานสัมพันธ์ยืดเยื้อและผู้หญิงพวกนั้นไม่มีทางที่จะเข้ามาในชีวิตของคิวอีกเป็นครั้งที่สองเพราะคิวไม่นอนกับคนเดิมซ้ำๆ
ทุกอย่างอยู่ในสายตาไอวี่มาโดยตลอดแต่กับผู้หญิงคนนั้นไอวี่ไม่เคยรู้มาก่อน
คนที่ทำให้คิวยิ้มได้แสดงท่าทีที่ไอวี่ไม่เคยเห็น..
การ์ดหญิงคนหนึ่งเดินเอาซองสีน้ำตาลมาให้
ไอวี่รับมาก่อนจะหยิบของด้านในแล้วโยนไปที่หน้าของคิว
รูปจำนวนหนึ่งหล่นลงพื้น
มันเป็นรูปหญิงสาวกับคิวที่มีทีท่าสนิทสนมกันมากเกินความจำเป็น ไอวี่แค่นหัวเราะ
มองหน้าคิวที่ดูตื่นตกใจที่เห็นภาพเหล่านั้น เธอเริ่มจะมั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดา
เพราะคิวคนที่ไม่เคยแสดงกิริยาหลุดมาดขนาดนี้ต่อหน้าไอวี่กลับทำสีหน้าแบบนั้น..
“แล้วนี่ใคร?”
“อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัว”
เสียงเข้มดังขึ้นทำเอาไฟในอกไอวี่ประทุ
“หึ! ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับนายมากสินะ”
“ก็ไม่ได้สำคัญอะไร”
คิวเลี่ยงจะตอบ
“ไม่สำคัญงั้นฉันก็ยุ่งได้น่ะสิ”
คิวถอนหายใจออกมา
“เธอชื่อแคลร์เป็นแฟนของเพื่อนฉัน
บอกเอาไว้ก่อนถ้าเธอยุ่งกับคนรอบๆ ตัวฉัน มันจะไม่จบอยู่แค่ฉันไม่ยอมเธอ”
เสียงเย็นยะเยือกทำเอาทั้งห้องต่างขนลุกซู่ คิวมองหน้าไอวี่ก่อนจะเดินลงมาจากสังเวียนพลางสั่งทิมให้ดูแลคุณหนูอารมณ์ร้อนและให้เมืองสิงห์ตามเขาไปคาสิโนแทน
ไอวี่มองแผ่นหลังที่เดินจากไปด้วยความน้อยใจเก็บเอาสิ่งต่างๆของอีกฝ่ายมาคิดมากทำตัวเป็นเจ้าของทั้งๆ
ที่เธอไม่มีสิทธิ์
“คุณหนูครับ”
ทิมเรียกสติเจ้านายก่อนจะหยิบยื่นผ้าเย็นและน้ำดื่มที่คุณคิวได้สั่งเอาไว้ตั้งแต่มาถึง
“ขอบใจ”
ไอวี่หยิบผ้ามาเช็ดหน้า
“ไม่เป็นไรครับ
คุณคิวสั่งเอาไว้”
ดวงตาของไอวี่สั่นไหว
ถึงเขาจะพูดไม่ถนอมน้ำใจเธอ อีกทั้งยังทำตัวเย็นชาใส่ แต่การกระทำของเขาบางครั้งก็ทำให้เธอคิดไปไกล
คิวดูเหมือนจะใจร้ายกับเธอแต่เขาก็ดูแลเธอไม่มีตกหล่น..
ไอวี่เดินออกมาจากห้องซ้อมเพื่อตรงขึ้นห้องอาบน้ำนอน
ในหัวเอาแต่นอนคิดถึงเรื่องของคิววนไปมา
“คุณหนูคะโลเซ่และลูซี่มาแล้วค่ะ”
“ให้เข้ามา”
“ไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้ให้หน่อย”
ไอวี่สั่งบอดี้การ์ดคนสนิท
ถึงจะบอกว่าห้ามยุ่งแต่เธอก็ไม่สามารถอยู่เฉยๆ
ได้ ท่าทางที่ไม่ปกติของคนข้างกายนั่นเห็นได้ชัด
อยากจะรู้ไปหมดว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีกันแน่..มีอะไรที่ไอวี่ไม่มีกันคิวถึงได้สนใจมากขนาดนั้น
เธอแค่อยากรู้..
ว่าเมื่อไรเธอจะอยู่ในสายตาเขาเหมือนกับผู้หญิงคนนั้น
ღ
ความคิดเห็น