ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ชอบ

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 66


     

    เสียงเพลงที่ดังก้องนั้นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ใบหน้างามของมาสฟ้าบิดเบ้ หากแต่เป็นภาพต่างๆที่ประดังประเดเข้ามาในหัวเธอเหมือนทุกครั้งที่อยู่ท่ามกลางคนหมู่มากต่างหาก ที่ทำให้มาสฟ้ามีสีหน้าย่ำแย่เช่นนี้ 

    ทว่าหญิงสาวก็ไม่มีทางเลือกมานักเพราะว่าหากเธอไม่มารับเหมือนฝันก็ไม่มีคนอื่นยอมมาแล้ว เพราะคุณแม่ผู้น่ารักของเธอได้ประกาศกร้าวเอาไว้ตั้งแต่ช่วงแรกที่เหมือนฝันออกเที่ยวกับอิงจันทร์ ขนาดเมาหนักจนไม่สามารถกลับบ้านเองได้ ว่าท่านจะข้องเกี่ยวกับคนเมาพวกนี้ เพราะต้องการใช้เวลาอยู่กับสามีของท่าน 

    “พี่ฟ้า!” คนเมาทั้งสองร้องเรียกมาสฟ้าแข่งกับเสียงเพลง ก่อนดึงร่างบอบบางของหญิงสาวที่อยู่ในชุดกระโปรงเข้ารูป แม้จะเย้ายวนใจไม่เท่าสาวๆคนอื่นในร้านแต่ก็พูดไม่ได้ว่าด้อยกว่า 

    “ฟ้าๆ คนดีของกี้” อิงจันทร์เองก็โถมตัวเข้ามาสวมกอดมาสฟ้าอย่างแสนคิดถึง ทั้งที่พวกเขาเพิ่งเจอกันไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง หนที่แล้วที่เจอกับก็เพราะมาสฟ้ามารับเธอและเหมือนฝันกลับบ้านแบบนี้แหละ “คนงามของเพื่อน ออกจากบ้านมาได้สักทีนะ”

    “ทำไมเมาเร็วแบบนี้”​ มาสฟ้าดันร่างบางของอิงจันทร์ออกห่าง กวาดตามองร่างระหงของเพื่อนน้องสาวซึ่งก็นับว่าเป็นเพื่อนของเธอเหมือนกันด้วยความกังวล “แล้วคนอื่นล่ะ”

    “ผัวมาตามกลับบ้านไปหมดล่ะ” เหมือนฝันตอบเสียงอ้อแอ้ ภาพน้องสาวที่กำลังยกแก้วเหล้าเทเข้าปากนั้นทำให้เหมือนฝันได้แต่ถอนหายใจเอือกแล้วเฮือกเล่า อย่างไม่รู้จะทำยังไงกับคนตรงหน้าเธอทั้งสองคนต่อไปดี “เหลือเท่าที่เห็นนี่แหละค่ะ”

    “แล้วเราไม่คิดที่จะกลับบ้านเองหรือยังไง” มาสฟ้าบ่นโดยไม่คาดหวังที่จะได้คำตอบจากทั้งเหมือนฝันและอิงจันทร์ เธอเพียงหันไปเรียกเด็กเสริฟที่คอบยืนกำกับโต๊ะของเหมือนฝันอยู่ก่อนแล้วเข้ามาเช็คบิน เมื่อเด็กสาวผละไปเธอจึงหันมาสนใจเหมือนฝันและอิงจันทร์ต่อ

    “คิดถึงฟ้าจัง ทำไมไม่มาหาเราเลย” 

    “ก็เพิ่งมารับกี้ไปส่งบ้านเมื่อวันก่อนนี้เหอะ” มาสฟ้าเหนื่อยใจกับเพื่อนคนนี้ของตนจริงๆ แต่เมื่อระลึกได้ว่าอิงจันทร์เพิ่งเผชิญกับอะไรมาหัวใจของเธอก็อ่อนยวบ ทำได้เพียงประคองร่างบอบบางของเจ้าหล่อนให้นั่งบนเก้าอี้ “นั่งดีๆ ขอเราจ่ายเงินก่อน เดี๋ยวพากลับบ้าน”

    “ฟ้าใจดีจัง” อิงจันทร์พริ้มตาหลับขณะเอ่ยปากชมเพื่อน ส่วนเหมือนฝันนั้นหลับพับไปตั้งแต่เห็นมาสฟ้ามาถึงโต๊ะแล้ว 

    “ก็ฟ้ารักกี้ไงล่ะ” ปากเอ่ยเช่นนั้นแต่มาสฟ้ากลับส่ายศีรษะเบาๆอย่างอ่อนใจเกินจะเอ่ยปาก สายตาก็เหลียวมองหาเด็กเสิร์ฟคนเดิมแต่ก็ต้องอุทานออกมาเบาๆเมื่อจู่ๆอิงจันทร์ก็ร่วงลงไปกองอยู่แทบพื้น “กี้!”

    “ฟ้า...” เสียงอ้อแอ้ของคนเมาร้องเรียก “เราปวดฉี่”

    “รออีกนิดได้ไหม เดี๋ยวแวะเข้าห้องน้ำตอนออกไป”

    “รอไม่ได้” อิงจันทร์อ้อนวอนมาสฟ้ากึ่งบังคับ “ต้องไปเดี๋ยวนี้”

    “แต่ว่าฝัน...”

    “พี่ฟ้าไปเลย ฝันไหว” เหมือนฝันที่ไม่รู้ว่าฟื้นคืนสติตอนไหนนั้น ได้เด้งตัวมานั่งเรียบร้อยแล้วแม้ว่าจะเป็นการยึดตัวไว้กับพนักพิ่งเก้าอี้อย่างทุลักทุเล ก็พอที่จะทำให้มาสฟ้าเบาใจได้เปลาะหนึ่ง 

    “อย่างนั้นอยู่นี่นะ อย่าไปไหน” มาสฟ้าพยักหน้ารับ ขณะดึงอิงจันทร์ขึ้นมายืนเพื่อที่จะพาเจ้าหล่อนไปเข้าห้องน้ำ “เดี๋ยวพี่กลับมา”

    “ทำอย่างกับฝันจะไปไหนได้อย่างนั้นแหละ”​ เหมือนฝันตอบพี่สาวเสียงอ้อแอ้ ลำพังตอนนี้แค่จะบังคับตัวเองนั่งให้ตรงได้ยังลำบาก เรื่องคิดจะลุกขึ้นมาเดินว่อนนั้นลืมไปได้เลย “ฝันอยู่นี่ ไม่ไปไหนค่ะ”

    ได้ยินดังนั้นแล้วมาสฟ้าก็ลากอิงจันทร์ ฝ่านฝูงชนที่เริ่มทยอยกลับแล้วเพราะใกล้เวลาปิดร้านไปยังห้องน้ำได้ ด้วยการช่วยเหลือของสาวๆหลายคนที่เห็นว่าเธอนั้นทุลักมุเลเพียงใดกับการกึ่งพยุงกึ่งลากเพื่อน กระทั่งยอมให้แซงคิวเข้าห้องน้ำก่อนจนมาสฟ้าได้แต่ผงกศรีษะขอบคุณทุกคนไปตลอดทาง

    “ขอบคุณนะคะ ขอบคณนะคะ”

    “ไม่เป็นไรค่ะพี่ เพื่อนที่ท่าจะรอไม่ไหวแล้ว เอาก่อนเลย” หนึ่งในสาวๆที่ต่อคิวเข้าห้องน้ำบอกอย่างใจดี ทว่าสายตาที่เธอใช้กวาดมองอิงจันทร์นั้นกลับเต็มไปด้วยความสงสารและเวทนานิดๆ ซึ่งมาสฟ้าไม่นึกโกรธเพราะว่าหากเป็นเธอที่เห็นภาพนี้ เธอก็คงรู้สึกไม่ต่างกันมากนัก

    “ขอบคุณนะคะ” เสร็จแล้วมาสฟ้าก็จัดแจง ยัดอิงจันทร์เข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่งที่ว่างอยู่ ออกแรงปล้ำกับคนเมาอยู่นานกว่าที่มาสฟ้าจะจับให้อิงจันทร์ลงไปนั่งบนชักโครกได้ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่เห็นวามพยายามของเธอเลย เพราะทันทีที่มาสฟ้าละมืออกห่างตัวอิงจันทร์ยกมือขึ้นผลักไหล่บาง แล้วบอกเสียงอ้อแอ้ 

    “ฟ้าออกไป เราจะฉี่”

    “ก็ฉี่เลย”

    “ไม่ได้ๆ” อิงจันทร์โบกมือพัลวัน แล้วอออกแรงดันร่างบอบบางของมาสฟ้าแรงขึ้นกว่าเดิม จนมาสฟ้าต้องยอมถอยออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจัดการลงกลอนล็อกประตูห้อง ปล่อยให้มาสฟ้าได้แต่ยืนมองประตูตาปริบๆ

    “หนูว่าได้ปีนห้องน้ำแน่”​ เสียงนั้นเป็นเสียงพูดของคนละคนกับก่อนหน้า แต่เธอก็น่าจะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น ทำให้มาสฟ้าทำได้เพียงแต่หันไปส่งยิ้มแหย ก่อนจะต้องชะงักยิ้มนั้น เมื่อมองผ่านกระจกไปแล้วเห็นร่างสูงที่แสนคุ้นเคยในความรู้สึกยืนอยู่นอกร้าน ห่างจากเธอเพียงแค่ฟากถนนกั้นเท่านั้น

    “อี้เทียน! อี้เทียน!” มาสฟ้าตะโกนเรียกชื่อของเขา ก่อนจะพยายามเบียดคนที่ออกกันอยู่นั้นออกไปหาร่างสูง ทว่าระยะทางสั้นๆนั้นกลับยาวนานเหลือเกินในความรู้สึกของหญิงสาว เขาอยู่ห่างเธอแค่นี้แท้ๆแต่ทำไมการไปหาเขาถึงได้ยากเหลือเกิน

    หัวใจของมาสฟ้าเต้นแรง คิดว่านิมิตของเธอนั้นอาจจะผิดพลาดไปหรือไม่ก็ เธออาจจะเห็นภาพหลอนเพราะคิดถึงเขามากเกินไป แต่เมื่อเธอออกมายืนอยู่ขอบถนนสำเร็จร่างสูงของชายหนุ่มก็หายไปจากครรลองสายตาเสียแล้ว

    นั่นทำให้มาสฟ้าได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆเพื่อตั้งสติ บอกตัวเองว่าเธอคงสับสนเห็นคนอื่นเป็นอู่อี้เทียนไปเอง ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังไม่เลิกสอดส่ายสายตามองหาชายหนุ่มอยู่ดี โดยที่มาสฟ้าก็ไม่รู้ว่าหากผู้ชายที่เธอเห็นนั้นเป็นอี้เทียนขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรต่อดี

    เกือบที่มาสฟ้าจะถอนใจแล้วกลับเข้าไปในร้านแล้วที่สัมผัสอ่อนโอนตรงศอกทั้งสองข้างจะทำให้เธอสะดุ้งโหยง ทำให้มาสฟ้าหมุนตัวกลับมาพร้อมหัวใจที่เต้นกระหน่ำในอก

    ผลันหยาดน้ำตาก็พลันเอ่อคลอขึ้นมาที่ขอบตา จมูกของเธอก็แสบร้อนหายใจลำบากขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่สำคัญเลยเมื่อเทียบกับใบหน้าคมคายของผู้ชายตรงหน้าของเธอ

    “อี้เทียน”

    “ไง” เสียงทุ้มนั้นดังกระหึ่มในความรู้สึกของมาสฟ้าแม้ว่าอี้เทียนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ สายตาคมกริบนั้นกวาดมองใบหน้างามหยดของคนใจร้ายด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ ก่อนที่จะสามารถห้ามตัวเองได้ ยิ่งมาสฟ้าอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้อี้เทียนยิ่งตระหนักได้ว่าที่ผ่านมานั้น เขาคิดถึงเธอมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก

    “คุณยังไม่ตายเหรอคะ?”

    “ทำไม ผิดหวังเหรอ” ยิ้มยียวนนั้นปรากฎขึ้นบนหน้าหล่อเหลา สายตาคมกริบที่มองมาสฟ้าเองก็แข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อยเพราะคำถามนั้นของเธอ หากแต่เขากลับเคลื่อนมือสากระคายขึ้นมาลูบแก้มเนียนของมาสฟ้า แสดงออกถึงความเสน่หาไม่คิดปิดบัง “หรือว่าคิดถึงผม”

    มาสฟ้าอยากจะตอบคำถามนั้น หากตอนนี้ได้สัมผัสไออุ่นจากเขาใกล้ๆแบบนี้ มันทำให้เธอไม่เข้มแข็งพอที่จะประกอบคำพูดทั้งหลายแหล่ ที่อัดอั้นอยู่ในอกออมาเป็นคำพูดได้ เพียงได้ยินเสียงของเขา สัมผัสเขาอยู่บนผิวกาย...ยืนยันรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ น้ำตาที่เธอนั้นพยายามสะกดกลั้นไว้ ก็พร้อมใจกันไหลบ่าออกมานองหน้า สิ่งเดียวที่มาสฟ้าพอจะทำได้ก็คือการโถมตัวเข้าไปกอดอี้เทียนเอาไว้แน่น กอดเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เธอมี พร้อมกับสะอื้นไฮ้ตรงซอกคอของเขาไปพร้อมกัน

    “เป็นคุณจริงๆด้วย”

    อี้เทียนไม่ได้เตรียมใจมาว่าเขาจะถูกมาสฟ้ากอดแน่นในครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกัน หลังจากเธอไม่รับรักเขาทั้งยังบอกว่าเขาจะตาย ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาอึดใจหนึ่งเพื่อทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเขาจะค่อยๆยกมือขึ้นโอบสะโพกมน กอดตอบคนที่รัดเขาไว้ด้วยท่อนแขนเล็กๆของเธอแน่น ซึ่งการกระทำนั้นของเธอทำให้หัวใจไม่รักดีของอี้เทียนเต้นผิดจังหวะนิดๆไม่ได้

    เขาอยากจะเตะตัวเองที่เป็นไอ้ขี้แพ้ที่เพียงได้กอดเดียวจากมาสฟ้า เขาก็พร้อมที่จะกลับสยบอยู่แทบเท้าของเธออีกครั้ง แต่เขาสิ่งที่เขาทำจริงๆกลับเป็นเพียงการเม้มปากแน่น แล้วกระชับอ้อมแขนของเขาที่โอบสะโพกมนของมาสฟ้าให้แน่นขึ้นอีกหน่อย ตามด้วยประทับจูบหนักๆที่ขมับของหญิงสาวด้วยความรู้สึกแสนรักใคร่ แบบที่เขาเองก็ยังคาดไม่ถึง

    “ถ้าไม่ใช่ผมแล้วคุณคิดว่าเป็นใครล่ะ หื้ม?”

    “ฉันคิดว่าฉันคงเห็นภาพหลอนไปเอง” มาสฟ้าตอบเสียงอู้อี้ทั้งน้ำตา ยังไม่อยากเชื่อว่าคนในอ้อมกอดเธอนั้นจะเป็นอู่อี้เทียนจริงๆ “ไม่ก็เป็นความฝัน”

    “ผมไม่ใช่ภาพหลอนแล้วก็ไม่ใช่ความฝัน” เสียงห้าวนั้นเอ่ยอย่างหนักแน่น พร้อมกับดันร่างระหงของมาสฟ้าออกห่างตัว ที่แม้ว่าหญิงสาวจะยังอิดออดไม่จากผละจากเขาแต่มาสฟ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่น ต้องจำยอมปล่อยอู่อี้เทียนออกจากอ้อมแขน 

    “ฉันแค่ไม่อยากเชื่อเฉยๆค่ะ” มาสฟ้าสะอึกสะอื้น แต่หน้าของเธอพอดูขึ้นมาได้หน่อยเพราะได้อี้เทียนคอยช่วยเช็ดน้ำตาออกจากให้ “ที่ไม่เห็นคุณตอนแรกฉันคิดว่าตัวคงเพราะตัวเองคิดถึงคุณมากเกินไป จนเห็นภาพหลอนไปเอง”

    คำพูดนั้นมาสฟ้าเอ่ยโดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงหากแต่คนฟังกลับนิ่งขึงไปครู่หนึ่ง ยากที่จะบอกว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนั้นของมาสฟ้า กระทั่งอี้เทียนเม้มปากแน่นอย่างสะกดอารมณ์แล้วว่า

    “ครั้งหน้าที่คุณพูดแบบนั้น คุณจะได้ลงเอยบนเตียงของผม” คราวนี้เป็นมาสฟ้าที่ไปไม่เป็นบ้าง ยิ่งเขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำแสนเร้าใจแบบนั้น แก้มของหญิงสาวก็ผลันซับสีเลือดขึ้นมานิดๆด้วยความกระดากอาย

    “ฉันไม่...”

    “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ แต่บอกแล้วไงว่าผมคิดไม่ซื่อกับคุณมาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นระวังตัวไว้นะครับ” 

    “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

    “ไม่ต้องขอโทษ” เขาว่าหน้าตาย ก่อนจะกระแทกลมหายใจแรงแล้วก้มหน้าลงไปประทับจูบหนักๆที่มุมปากอิ่มหนึ่งครั้งอย่างไม่อาจห้ามใจ “ผมชอบ”


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×