Fate Series - ข้อมูลของเหล่าเซอร์แวนท์

ลำดับตอนที่ #3 : Nero Claudius : จักรพรรดิที่รักของปวงชน

Saber : เนโร คลอดิอุส (Nero Claudius)

จักรพรรดิที่รักของปวงชน

          เนโร คลอดิอุส ซีซ่าร์ ออกัสตัส เจอมานีคัส (Nero Claudius Caesar Augustus Germanicus) คือชื่อเต็มของคนๆนี้ จักรพรรดิลำดับที่ 5 แห่งอาณาจักรโรมัน เธอมีชื่อเสียงฉาวโฉดด้านการกดขี่บ้านเมือง ผู้ออกกฎกลอุบายและชั่วร้าย เธอกดขี่ทุกศาสนายกเว้นศาสนาคริสต์ จนทุกคนกล่าวขานเธอว่า NRVN QSR หรือก็คือ เลขของปีศาจ ถึงแม้ว่าเธอจะมีประวัติเสียหายใดๆก็ตาม แต่ความรักที่เธอสร้างกับประชาชนของเธอนั้น เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก

          พ่อของเนโร มีชื่อว่า เนอุส โดมิทีอุส อาเฮโนบาร์บัส (Gnaeus Domitius Ahenobarbus) ลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดิ์แห่งโรมันลำดับที่ 4 และแม่ของเธอ มีชื่อว่า จูเลีย ออกัสตา อากริปปิน่า

(Julia Augusta Agrippina) เป็นน้องสาวของจักรพรรดิ์คาลิกูล่า (Caligula) เนื่องจากพ่อของเนโรถูกตีตราว่าเป็นคนอ่อนแอ ทำให้เนโรไม่สามารถนั่งบนบัลลังก์ของจักรพรรดิ์โรมันได้ ส่วนแม่ของเธอก็ไปแต่งงานใหม่กับลุงของเธอเอง และโน้มน้าวให้เขาเลี้ยงดูเนโรและช่วยพาเนโรไปสู่หนทางของจักรพรรดิ์โรมันตามแผนที่ชั่วร้ายของเธอ อากริปปิน่าได้กดดันให้ออคตาเวีย (Octavia) น้องสาวบุญธรรมของเนโรให้แต่งงานกับเนโร ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเนโรจึงค่อนข้างซับซ้อน

          ในระหว่างเธอเป็นเด็ก เนโรได้ถูกนับถือในฐานะผู้ตัดสินที่มีอำนาจมากโดยเธอมีความสามารถในการตัดสินที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นอากริปปิน่าได้ลอบสังหารสามีของตน ทำให้เนโรได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ตอนอายุแค่ 17 ปี

          หลังจากการขึ้นบัลลังก์ เนโรได้แจกจ่ายเงินของเธอให้ประชาชนทั้งหมดในงานเฉลิมฉลอง เธอยกเลิกภาษีทางอ้อมทั้งหมด ทำให้ประชาชนรักเนโรกันมาก เนโรพยายามที่จะปฏิรูปสภาโรมันที่ชั่วร้ายและเลวทราม แต่ก็ไม่สำเร็จและทำให้มีกลุ่มผู้คนที่เกลียดเธอมากขึ้น ความขัดแย้งของสภากับเนโรได้ปะทุขึ้นเมื่อเนโรพยายามที่จะรวมอาณาจักรกับอาณาจักรเล็กๆน้อยๆที่ทุรกันดารเข้าด้วยกัน แต่ด้วยเหตุนั้นทำให้ประชาชนรักเธอมากขึ้น รวมถึงเธอยังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบริทาเนียกับโรมให้แน่นแฟ้นขึ้น ตัวตนของเธอได้รับการยอมรับและเทิดทูนอย่างมากในเปอร์เซีย เปอร์เซีียถึงกับตั้งชื่อโรมใหม่ว่า ประเทศของเนโร หลังจากที่เธอได้ตายไป

          เนโรยังมีปัญหากับสภาไม่จบ รวมถึงตัวแม่ของเธอเองก็ด้วย อากริปปิน่าเห็นเนโรเป็นแค่เครื่องมือนำไปสู่บัลลังก์จักรพรรดิ์เท่านั้น ความขัดแย้งของเธอกับแม่ของเธอรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนเนโรทนไม่ไหว เนโรจึงจ้างนักฆ่าให้มาลอบฆ่าแม่ของเธอเอง แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงเหลือหนทางเดียวคือการตัดแม่ลูก โดยเธอปล่าวประกาศว่าแม่ของเธอนั้นพยายามลอบฆ่าเธอด้วยยาพิษ จนกระทั่งปีค.ศ. 59 ชื่อเสียงของเนโรก็ตกต่ำลง ด้วยอาการไมเกรนของตัวเธอที่รุนแรงเรื่อยๆ รวมถึงโรคประสาทต่างๆ ซึ่งเกิดมาจากตอนเป็นเด็ก เนโรได้ถูกแม่ของเธอวางยาพิษจนทำให้เธอมีโรคแบบนี้ในเวลาต่อมา หลังจากการตายของอากริปปิน่า ศพของเธอได้เอายาแก้พิษไปฝังในหลุมศพด้วย ทำให้อาการของเนโรกำเริบไม่หยุด

          ชีวิตของเนโรพลิกผันอย่างรุนแรง หลังจากที่ออคตาเวียได้ฆ่าตัวตาย น้องชายของเธอก็ถูกฆาตกรรม รวมถึงผู้ให้คำปรึกษาข้างกายของเธออย่างเซเนก้า (Seneca) ก็ได้ฆ่าตัวตาย ทำให้ตัวเธอนั้นเปรียบเสมือนปีศาจร้ายในความสัมพันธ์ของครอบครัว แต่เนโรกลับเป็นขวัญใจของประชาชนคนทั่วไป

          เธอได้เริ่มเทศกาลเนโรในปี 59 ซึ่งนำโอลิมปิกมาดัดแปลง เป็นเทศกาลกีฬาที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี เธอจัดสนามการแข่งขันดนตรี กีฬายิมนาสติก และแข่งขี่ม้า ซึ่งตัวเธอเองก็ได้เข้าร่วมงานเองด้วย จนประมาณวันที่ 19 กรกฎาคม 64 มีการบุกรุกจากศัตรูรอบตัวกรุงโรม โรมถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านแต่เนโรก็เข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว ทำให้เหยื่อในเหตุการณ์ชื่นชมในตัวเนโรอย่างมาก เนโรเป็นที่รักของประชาชนอย่างมากในตอนนี้ ความสามารถของเธอแบบนี้ ทำให้เธอได้รับขนานนามว่า "ผู้ทำลายกำแพงขีดจำกัดความฉลาดของมนุษย์" แม้แต่นักประวัติศาสตร์ที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเนโรเองยังยอมรับ

          หลังจากเนโรได้สร้างโรงละครของเธอเองชื่อว่า โดมุส เออเรีย (Domus Aurea) แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ถูกไล่จากบัลลังก์โดยกลุ่มกบฏที่นำด้วยวินเด็กซ์ (Vindex) ในแกลเลียผู้ซึ่งเคยเป็นอดีตขุนนางในสภาที่เนโรพยายามจะปฏิรูป ตอนแรกเนโรก็ได้เมินเฉยกับสถานการณ์นี้เพราะว่าเนโรอาจจะวางใจตัวของวินเด็กซ์อยู่ จนเธอเริ่มมีอาการกำเริบจากการเป็นโรคประสาทต่างๆ ทำให้วินเด็กซ์ได้โอกาสปลุกระดมกบฏจากสภาเดิม พวกกบฏบังคับให้เนโรออกไปจากโรม เธอได้ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวเมืองที่ศรัทธาในตัวเธอ แต่ไม่มีใครมาช่วยเธอเลย พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ปล่อยให้กลุ่มกบฏจัดการเนโรไปเรื่อยๆ ตอนนี้เธอคิดว่าประชาชนของเธอได้ทอดทิ้งตัวเธอแล้ว เธอพยายามจะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าเนโรก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดีที่พวกเขาทำเช่นนี้ ทำให้เธอคิดได้ว่า นี่เป็นข้อผิดพลาดที่ใหญ่หลวงมากที่ฉันรักพวกเขาในแบบที่พวกเขาไม่เข้าใจ

          ในที่สุดเนโรก็ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ถึงแม้เธอจะไม่มีสปิริตเลย แต่เธอก็พยายามหยุดร้องไห้หลายครั้งแล้วคอยคิดอยู่เสมอว่า "ศิลปินที่ยิ่งใหญ่จะหายไปจากโลกนี้ได้อย่างไร" สุดท้ายแล้ว เธอก็ได้ฆ่าตัวตายโดยใช้มีดแทงเข้าที่คอหอย ศพของเนโรถูกคลุมด้วยผ้าคลุมอย่างดี คำสุดท้ายที่เนโรได้พูดออกมาก่อนตายก็คือ "ความจงรักภักดีน่ะ... ตอนนี้จะมีให้ มันก็สายไปแล้ว"

ความสามารถเฉพาะคลาส

ต่อต้านเวทย์มนต์ (Magic Resistance) C 

               ยกเลิกเวทย์ที่มีคำร่าย 2 บทลงไป แต่ไม่สามารถป้องกันเวทย์มนต์ขนาดใหญ่ หรือ เวทย์พิธีกรรมได้ ต่อต้านเวทย์ระดับนี้ถือว่าต่ำมากสำหรับ คลาส เซเบอร์

ขับขี่ (Riding) B 

               สามารถขับขี่พาหนะได้อย่างดีเยี่ยม แม้สิ่งนั้นจะมีมีอยู่ในยุคของต้นเอง อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถขับขี่พวกสัตว์มายาเช่น มังกร หรือ เปกาซัส ได้ ในกรณีของ เนโรนั้น เธอเก่งการในการขับรถม้าศึกอย่างมาก แต่เธอไม่ค่อยชอบการขับขี่สักเท่าไหร่ สกิลนี้จึงไม่ค่อยได้ใช้

ความสามารถเฉพาะตัว

อภิสิทธ์กษัตริย์ (Imperial Privilege) EX 

               ทำให้ได้รับสกิลที่ปกติไม่สามารถมีครอบครองได้ ในกรณีของ Nero นั้นจะมี ขับขี่ , ทักษะนักดาบ , วิจิตรศิลป์ , ความน่านับถือ , กลยุทธ์สงคราม , ความเป็นเทพ เป็นต้น

อาการปวดหัว (Migraine) B 

               มันเป็นเหมือนกับคำสาปที่ติดตัวมาก่อนจะกลายเป็นวิญญาณวีรชน เนื่องจากอาการปวดหัวเรื้องรัง โอกาสที่เธอจะใช้ความสามารถที่ต้องใช้สมาธินั้นมีโอกาสสำเร็จน้อยมาก ทำให้เธอไม่สามารถใช้พรสวรรค์ด้านศิลปะได้อย่างเต็มที่

ตะวันลับสามครา (Thrice-setting Sun) A 

               มันเป็นความสามารถที่ทำให้คืนชีพได้ 3 ครั้ง โดยเธอจำเป็นตั้งสั่งใช้งานมันก่อน ดังนั้นวิธีแก้คือฆ่าเธอก่อนที่จะใช้งานมัน ความสามารถนี้มีที่มาจากพงศาวดารที่มีทหารพบศพเธอหลังฆ่าตัวตายได้ 3 วัน ทหารจึงนำผ้ามาปิดศพให้ด้วยความเวทนา ทันใดนั้นเธอก็ลืมตาขึ้นมาขอบคุณเขา

สมบัติวีรชนที่ครอบครอง

"เกียรติของข้า... เสียงตรบมือที่ดังสนั่น... ได้โปรดนั่งลงและชื่นชมถึงความยิ่งใหญ่ของโรงละครสีทอง อันเป็นอาณาจักรแห่งสวรรค์และนรก เป็นที่ที่เพลิงไฟได้จุดประกายขึ้น สวรรค์ของข้า ได้ถูกสร้างใหม่แล้ว... แอสทุส โดมุส เออเรีย!"

Aestus Domus Aurea แอสทุส โดมุส เออเรีย : โรงละครสีทองแห่งความรื่นเริง 

ประเภท : ต่อต้านกลุ่มคน 

ระดับ : B

               เมื่อเรียกชื่อมัน โรงละครขนาดใหญ่จะปรากกฎออกมาและคลุมตัวเธอแล้วเป้าหมายเข้าไปในตัวมันสูงสุดถึง 1000 คน มันเป็นเหมือนกับห้องแห่งจินตนาการของเธอ ห้องแสดงสดที่ไม่อนุญาตให้ใครออกจนกว่าการแสดงจะจบ เมื่ออยู่ในโรงละครนี้ดาบของเธอจะลุกไหม้เหมือนดั่งภูเขาไฟวิซุเวียส (Vesuvius) ระเบิด ภูเขาไฟแห่งอัจฉริยะ เธอสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่าง กลไกล สภาพของ โรงละคร ได้ดั่งใจ ให้มันมีดอกกุลาบโปรยปรายตลอดเวลา หรือ แม้แต่เปลี่ยนให้มันเห็นห้องครัวก็ยังได้ นั้นหมายความว่าเธอได้เปรียบทางยุทธ์ภูมิเป็นอย่างมาก

Laus Saint Claudius เลาส์ เซนต์ คลอดิอุส : เพลงดอกไม้งามแห่งจักรวรรดิ 

ประเภท: ต่อต้านกลุ่มคน 

ระดับ: B

               กระบวนท่าดาบที่ใช้ได้เฉพาะเมื่ออยู่ใน Aestus Domus Aurea เป็นการใช้ดาบ แอสทุส เอสทุส (Aestus Estus) ซึ่งเพลิงต้นกำเนิด ที่กำลังลุกไหม้ฟันออกไป เกิดเป็นระเบิดเพลิงที่สร้างความเสียหายวงกว้าง

--------------------------------------------------------------------------

มีเพจแล้วเน้อ : Kokowa ฉันแค่อยากแปล

https://www.facebook.com/KokowaTrans/

-------------------------------------------------------------------------

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

จบไปแล้วนะครับ กับประวัติของวีรชนท่านนี้ เนโร คลอดิอุส เป็นจักรพรรดิ์ที่น่าสงสารจริงๆนะครับ เห็นแบบนี้ เอาเป็นว่าติดตามคนต่อไปนะครับว่าจะเป็นใคร ขอมากันได้นะครับ ถ้างั้นลาไปก่อนนะครับ อุมุ อุมุ