ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PRODUCE101 ; ♡#พี่อู๋น้องอัน

    ลำดับตอนที่ #3 : ♡ มึงแพ้ขนแมว

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 60

























                        Guk Saelong • 13 นาทีที่แล้ว
                        ประจานเพื่อนเหี้ย ทำแมวกูหาย กับ Dan Krittikorn
                        109 likes 4 comments


                        Woo Annapatch สงสาร ไม่น่ามีเพื่อนแบบนี้เลย
                        Dan Krittikorn กูขอโทษ5555555555
                        Guk Saelong หัวเราะหาน้องหมีเหรอ Mhee Ithipol
                        Dan Krittikorn เดี๋ยวกูโทรบอกพ่อให้พลิกแผ่นดินหาแมวให้มึง ลบเม้น!











                        ' โพสต์เมื่อสิบสามนาทีก่อนของพี่กุ๊ก แซ่หลง ' สาเหตุหลักที่ทำให้นายจินภัทรคนนี้คนดีคนเดิมมีแมวอ้วนขนฟูที่คอมีป้ายห้อยไว้ว่า แมวของกุ๊ก ประดับอยู่ตะกร้าหน้ารถจักรยาน





                        ย้อนกลับไปเมื่อห้านาทีก่อน ระหว่างผมกำลังขับรถกลับบ้าน ผมเกือบบี้แมวแหลกคาล้อรถ โชคดีที่สติยังดีเหมือนหน้าตาเลยเบรกรถทัน แมวปลอดภัยไม่บาดเจ็บ ส่วนคนบาดเจ็บคือผมเอง ... ไข่กระแทกแฮนด์ จุกจนแทบทรุด ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแมวไม่มีเจ้าของเลยจะขับรถผ่านกลับบ้านไปเลย แต่บังเอิญสังเกตเห็นปลอกคอก่อน เลยจอดจักรยานเพื่อดูว่าเป็นแมวเต้าเหล่าใคร ทำไมถึงปล่อยมาเดินเล่นอยู่บนถนน พอพลิกปลอกคอดูก็พบว่าเป็นแมวของเจ้ากรรมนายเวรตาตี่  มนุษย์ทาสแมวนามว่ากุ๊ก ด้วยความพ่อพระเลยไลน์ไปบอกพี่มันว่า แมวพี่เกือบตายแล้ว มารับด้วย รออยู่ตรงนี้ พร้อมแนบรูปไปให้ แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเพื่อจัดการอุ้มแมวไปวางไว้ที่ตะกร้าหน้ารถ อีห่านี่แมวหรือหัวหอม แค่อุ้มมึงทำไมกูถึงรู้สึกเคืองตาจนอยากร้องไห้ หลังจากจัดแจงท่านั่งของคุณเมี้ยวเสร็จสรรพ ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คการแจ้งเตือนว่าพี่คนนั้นตอบหรือยังก็พบกับความเหี้ย





                        ไอ้คุณพี่กุ๊ก
                        ขี้เกียจออกไปเอา
                        เอามาส่งให้หน่อย





    JIN.
    ออกมาเอา





                        ไอ้คุณพี่กุ๊ก
                        ใจร้ายว่ะ สัส
                        เนี่ย กูไม่สบาย
                        ปวดหัว
                        ตัวร้อน
                        คล้ายจะเป็นลม
                        แดดแรงแบบนี้
                        ถ้ากูออกไป
                        กูต้องตายแน่เลย
                        เอาแมวมาคืนหน่อย





    JIN.
    ตอแหล





                        ผมวนรถกลับไปทางเดิมที่เพิ่งขับผ่านมาเมื่อครู่ ออกจากบ้านจะมารับเพื่อน มีคนมารับเพื่อนไปบ้านกู พอจะกลับบ้าน เจอแมว เจ้าของแมวอยู่ซอยเดียวกับบ้านเพื่อนกู  เป็นเช้าที่รู้สึกผูกพันกับถนนหน้าโรงเรียนมาก ขับวนจนเอียน วันจันทร์ไม่อยากมาเรียนอะ ใช้เวลาเพียงไม่นาน ผมก็เดินทางมาถึงบ้านพี่กุ๊ก ยกมือขึ้นกดออดเป็นจังหวะ 'พี่คะ ขอเพลงที่มีงูออกมาหน่อยค่ะ' กดรัวยิ่งกว่าตอนไปกดออดเรียกอันที่บ้านอันแต่อันไม่อยู่บ้าน ใบหน้าที่แสดงออกชัดเจนมากว่ารำคาญโผล่ลอดผ้าม่านออกมา ก่อนจะตามมาด้วยกระดาษเอสี่สีขาวที่ถูกแต้มด้วยคำว่า 'ปีนเข้ามา กดออดกวนตีน'





                        คือ ... จะให้กูแบกแมวไปด้วยปีนบ้านไปด้วยเหรอวะ ความคิดโคตรได้





                        ได้ - ตีน!





                        "รีบปีนดิ๊ กูคิดถึงแมว"





                        ...





                        มึง มึงว่านอกจากคำว่าไอ้เหี้ยแล้ว กูควรอุทานคำว่าอะไรอีกกับสถานการณ์แบบนี้ กูควรพังบ้านเข้าไปกระทืบพี่มันเลยดีไหม















                        "เจ็บมากป่ะเนี่ย"





                        ไม่เจ็บมากมั้ง แหม กูถลาลงจากรั้วบ้านพี่อย่างกับซุปเปอร์แมน แมวที่อุ้มมาก็แทนที่จะร่วมชะตากรรมด้วยกัน เสือกพอจะถึงพื้นก็กระโดดออกจากอ้อมกอดกูเฉย แมวเนรคุณ! แทนที่จะสำนึกบุญคุณกันบ้างว่าได้กลับบ้านก็เพราะใคร





                        "มาก!" ผมตะคอกใส่คนตรงหน้าด้วยความหงุดหงิด พี่กุ๊กหัวเราะออกมาเบาๆ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าหัวเราะทำไม มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น สนุกมากไหม กับการที่เห็นใครบางคนแทบนั่งไม่ได้เพราะตูดเคล็ด!





                        "ขอโทษ ไม่คิดว่าจะปีนจริง" พูดออกมาด้วยรูปประโยคคลับคล้ายคลับคลาจะสำนึกผิดแต่แท้จริงแล้วไม่ พี่เขายังสติลหัวเราะ หัวเราะจนตาปิด เห็นฟันครบสามสิบสองซี่ เห็นจนลิ้นไก่ คาดว่าถ้าหัวเราะนานกว่านี้ ก็น่าจะแดกหัวผมเข้าไปด้วยแล้ว





                        "ขำอะไร" ผมตีหน้านิ่ง เก๊กขรึมสุดพลังหวังให้พี่เขาแอบกลัวผมบ้าง ผมโมโหแล้วน่ากลัวนะเว้ย ขอโม้! ไอ้วีเคยบอกมาเวลาผมทำหน้านิ่งแล้วน่ากลัว หน้าเหมือนสัมภเวสีเร่ร่อนโมโหหิว ตอนฟังครั้งแรกก็แอบคิดว่าเพิ่ลวีหลอกด่าหรือเปล่า แต่พลังด้านบวกกระซิบบอกผมว่าบ้า ไม่มีอะไร แกอะคิดมาก





                        "ขำความโง่" พูดออกมาด้วยหน้าตากวนตีน น่าเอาตีนไปกวนบนหน้าระดับสิบ





                        "โง่แค่ไหน ก็เป็นคนเอาแมวมาคืนให้พี่อะ" ผมกอดอกยกยิ้มประหนึ่งผู้ชนะ ยังไงตอนนี้ก็ถือไพ่เหนือกว่า เรื่องเอาแมวมาคืน จะถูกใช้เป็นเรื่องทวงบุญคุณตลอดไป เพราะชาตินี้ไม่คิดว่าจะได้ทำบุญกุศลอะไรให้พี่มันอีกแล้ว





                        "แมวขอบคุณเขาหน่อย เขาพามาส่งบ้าน" หันหน้าไปคุยกับแมวที่นอนคลอเคลียตัวเองอยู่ไม่ไกล ก่อนจะอุ้มมันมาวางไว้ที่ตักผมแล้วจับขาหน้าสองข้างของแมวทำท่าพนมมือ "ขอบคุณครับ"





                        รู้จักกับพี่มันมาปีครึ่ง เพิ่งเคยได้ยินเสียงสองออกจากปากพี่มัน ก็ปัญญาอ่อนดี ดัดเสียงเป็นแมวด้วย รู้สึกอเมซิ่ง อยากอัดเสียงเก็บไว้แบล็คเมล์





                        ฮึก..





                        อ้าว อยู่ดีๆ ก็อยากร้องไห้ คัดจมูกไปหมด เคืองตาด้วย อาการเหมือนตอนอุ้มแมวใส่ตะกร้ารถเป๊ะ หรือแมวพี่กุ๊กมันอาบน้ำด้วยหัวหอมวะ บ้า! มึงก็คิดได้เนอะ จินภัทร หากมึงใช้สมองใคร่ครวญสักนิด มึงจะสำเหนียกได้ว่าไม่มีใครมันบ้าเอาหัวหอมมาอาบน้ำสัตว์หรอก





                        แต่พี่กุ๊กมันก็บ้าอยู่นะ





                        "จิน มึงเป็นไร" คนตรงหน้าผงะไปเล็กน้อยที่เห็นผมทำหน้าจะร้องไห้ พี่มันตอนทำหน้าเหวอคือเด็กอนุบาลมาก เหมือนไปแกล้งใครไว้แล้วโดนคุณครูจับได้ ตลก หน้าตาโคตรปัญญาอ่อน "แพ้ขนแมวเหรอ"





                        "ไม่รู้ว่ะ" ผมส่ายหัว




                        แม่ไม่เคยบอกว่าแพ้ขนแมวไหม แต่แพ้ใจอะ เพลงของใหม่ เจริญปุระ ตึ่งโป๊ะ!




                        "ซื่อบื้อ" ไม่ว่าเปล่ายังยกมือมาดันหน้าผากผมจนผมนี่แทบหงายหลังล้มตึงลงบนโซฟา สมองกูยิ่งมีอยู่นิดเดียว ดันแรงขนาดนี้เดี๋ยวมันก็หลุดออกจากหัวกูหรอก! ทำร้ายร่างกายชาวบ้านแล้วยังไม่สำนึกผิด ยังจะมานั่งจ้องหน้าอีก จ้องทำไม! หน้ากูเหมือนพ่อพี่เหรอ จ้องกันไป จ้องกันมา ถ้าเป็นปลากัด กูว่ากูท้องแล้ว จ้องกันสักพักเหมือนพี่มันคงแสบตาแล้ว พี่กุ๊กลุกขึ้นเต็มความสูงหอบลูกแมวสุดที่รักขึ้นไปชั้นบนของบ้านกับตัวเอง ทิ้งผมงงอย่างเดียวดายอยู่ชั้นล่าง และงงยิ่งกว่าเดิมตอนมันลงมาแล้วไม่ได้หอบแมวลงมาด้วยแต่หอบไม้กวาด ไม้ถูพื้น ที่ปัดฝุ่นมาแทน จัดการปัดกวาด เช็ดถู ทุกซอกทุกมุมของบ้าน จนสะอาดเอี่ยมอ่อง ก็กลับมานอนตายบนโซฟาเหมือนเดิม





                        อะไรของพี่มันวะ อยู่ดีๆ นึกอยากเป็นพ่อบ้านเหรอ หรือยังไง





                        หลังจากหอบจนหายเหนื่อย พี่แกก็เด้งตัวลุกขึ้นมานั่งพร้อมยิงคำถามว่า 'มึงรู้สึกดีขึ้นป่ะ' ใส่ผม ซึ่งแม่งทำผมงงมาก รู้สึกดีขึ้นอะไรวะ หมายถึงอากาศเฟรชขึ้นไหม หรืออะไร เหมือนพี่กุ๊ก จะรู้ว่าผมงง พี่เขาเลยอธิบายขยายความประโยค "ก็เมื่อกี้มึงหน้าแดง จมูกแดง ตาแดง แบบหน้าตาแย่บัดซบบรมมาก ตอนนี้อาการดีขึ้นหรือยัง หน้าตามึงดูดีเป็นผู้เป็นคนขึ้นมานิดนึงแล้ว"





                        แบบหน้าตาแย่บัดซบบรมมาก สาบานว่าประโยคนี้หมายถึงหน้าตากูตอนนั้นจริงไม่อิงฟีลลิ่งส่วนตัว





                        "ดีขึ้นแล้ว"





                        "มึงแพ้ขนแมว"





                        "เหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย"





                        "ทีหลังก็ถามแม่ถามพ่อมาบ้างว่าตัวเองแพ้อะไร จะได้ไม่ลำบากคนอื่นเขามาเป็นห่วงอย่างงี้ กูตกใจแทบแย่"





                        "อุ้ย เป็นห่วงเก๊าหยอ" ผมโกยพลังที่มีทั้งหมดจากฝ่าตีนขึ้นมาที่กล่องเสียง พยายามบีบเสียงให้เล็กแหลมยิ่งกว่ากินกระดิ่งเป็นอาหาร กระพริบตาใส่คนตรงหน้าปิ๊งๆ แล้วตอแหลบิดเขินอายพอเป็นพิธี เด็กชมรมการละครเองครับ /ขออวดหน่อย





                        "เออ กลัวมึงตายห่าคาบ้านกู กูไปอาบน้ำดีกว่า ใกล้จะถึงเวลานัดแล้ว" พูดจบก็เดินขึ้นชั้นบนไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ก้มมองนาฬิกา ก็เพิ่งจะเก้าโมงไม่ใช่เหรอวะ ห้างเปิดตั้งสิบเอ็ดโมง มันใกล้เวลานัดตรงไหนของพี่!





                        แล้วจินภัทร มึงจะยิ้มทำไมวะ
                        ปากมึงหยุดยิ้มเลยนะ กูขอร้อง















                        "ขี้เกียจกลับบ้าน ยืมชุดพี่ใส่ไปเซนทรัลได้ป่ะ" ผมถามขึ้นหลังเห็นร่างของพี่กุ๊กย่างกรายลงมาข้างล่าง พี่เขาหายไปอาบน้ำตั้งชั่วโมงครึ่ง นึกว่ามุดลงท่อไปแล้ว จะกลับก่อนก็เกรงใจ บ้านพี่เขาไม่ได้ล็อค เกิดมีใครบุกมาให้พี่เขาข่มขืนล่ะแย่แน่เลย ด้วยความพ่อพระอเกนเลยอยู่เฝ้าให้ มองนาฬิกาอีกทีสิบโมงครึ่งแล้ว คุณพระ กูยังไม่ได้อาบน้ำ จะกลับไปอาบก็คาดว่าคงไม่ทัน ความหวังเดียวที่มีตอนนี้คือคนตรงหน้าที่ทำหน้าแบบ 'ว้อท' หน้าตาเต็มไปเครื่องหมายคำถาม นี่พี่ไม่ได้ยินกูเหรอ "ยืมชุดพี่หน่อย"





                        "ตัวเล็กแค่นี้ จะใส่ชุดกูได้เหรอ"





                        "พูดเหมือนไซส์ตัวเราต่างกันมาก"





                        "กูว่ากูตัวใหญ่กว่ามึง ถ้ากอดกัน มึงก็น่าจะจมอกกูนะ"





                        แค่บอกว่าตัวใหญ่กว่าก็พอ ไม่ต้องยกตัวอย่างก็ได้โว้ยยยยยยยยยยยยยยย! คนจินตนาการล้ำเลิศอย่างกู มันคิดภาพตามเว้ย ฮื่อออ จมอกอะไรวะ ใครจม ไม่มี๊!





                        "กูว่ากูทำความสะอาดบ้านดีแล้วนะ ... หน้ามึงกลับมาแดงอีกละว่ะ"





                        "กูชอบใส่ชุดโอเวอร์ไซส์ พี่เอามาเถอะ"





                        "เอาไม่ได้ดิ เจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ เพิ่งลื่นมาเมื่อกี้" พูดพร้อมส่งรอยยิ้มร้ายกาจระดับแม็กซ์ ไอ้เหี้ย อึ้งจนไม่รู้จะด่าคำว่าอะไรดี เลยเก๊กขรึมให้พี่เขากลัวเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือชูนิ้วกลางให้ดูโหดขึ้น พี่กุ๊กยกไหล่ขึ้นทำท่าด้อนแคร์เวิลด์มากแล้วหัวเราะออกมายกใหญ่พร้อมชูนิ้วกลางกลับ อันนี้มันไม่ได้ด่าครับ เป็นนิสัยเฉพาะ หัวเราะแล้วชูนิ้วกลาง อยากรู้ใครสอนให้ทำแบบนี้ ถ้าไม่รู้นิสัย ผมยันหน้าหงายไปแล้ว "รอแปป เดี๋ยวหาให้ใส่"















                        ชุดโอเวอร์ไซส์โดนใจใช่เลยมาก เสื้อยืดสีขาวแขนยาวถึงศอก กับกางเกงวอร์มที่พับขึ้นมาแล้วสองทบยังเกือบจะลากพื้นอยู่เลย เหมือนขโมยชุดพ่อมา ดีนะ ที่พี่มันมีเซนส์ด้านแฟชั่นบ้างเลยจัดแจงหาหมวกมาให้ใส่ จะได้ดูไม่เหมือนใส่ชุดนอนออกมาเที่ยว หมวกสีเหลือง เสื้อขาว กางเกงดำ รองเท้าเน่า ฮิปสเตอร์กว่านี้มีอีกไหม





                        เหมือนพี่มันกลัวผมอายเลยเปลี่ยนชุดตัวเองจากกางเกงยีนส์สีดำทรงเดรฟรัดติ้ว เห็นแล้วหิวแหนม เป็นกางเกงวอร์มสีดำทรงคล้ายผม แต่พี่เขาใส่แล้วมันพอดีเด๊ะเลย





                        ก็นั่นแหละ ภาพรวมออกมา ดูยังไงพี่เขาก็ใส่แล้วดูดีกว่า กลับบ้านไปผมจะกินนม! จะดื่มนมเป็นลิตรต่อวันเลย คอยดู!





                        "เราออกมาเร็วไปป่ะวะ ยังไม่มีใครมาเลย" ผมเอ่ยถามคนที่ยืนเล่นมือถืออยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่านอกจากเราสองคนที่มารอกันเกือบสิบห้านาทีแล้ว พี่แดน พี่อู๋และไอ้อันยังไม่มีใครโผล่หัวมาเลยสักคน แต่นี่มันก็ถึงเวลานัดแล้วนะ





                        "อู๋รอน้องอันอยู่ ส่วนแดนลงรถเมล์แล้ว เดี๋ยวเดินมาหา"





                        พูดเพิ่งจบประโยคไปหมาดๆ ร่างหมียักษ์ที่ฟันสองซี่หน้าเด่นยิ่งกว่าเสื้อสีชมพูเรืองแสงก็โผล่ขึ้นมาจากบันไดเลื่อนจากชั้นใต้ดิน พี่แดนส่งเสียงโวกเวก ทักทายพี่กุ๊กกับผม โคตรอายเลยครับ คนมองแทบทั้งห้าง แต่ประโยคต่อมาของพี่มันทำกูอายยิ่งกว่า "ใส่ชุดคู่เหรอวะ ดูดีนะ ดูเหมาะสมกันดี กูจิ้น กูลงเรือ!"





                        ลงเรือเหี้ยไร พ่อพี่เปิดอู่เช่าเรือเหรอ!





                        "เดี๋ยวกูช่วยพาย" ตอบพร้อมฉีกยิ้ม ใบหน้าร้ายกาจคัมแบคอีกครั้ง พี่จะพายอะไร! ทำไมทำหน้าแบบนี้! อยู่ดีๆ ก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย /ยกมือขึ้นมาประนมแล้วสวดมนต์ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกช้างด้วย "พายหัวมึงให้หลุดจากบ่าเนี่ย ไอ้เวร!"





                        พี่กุ๊กคนจริง 2017 ตบแรงกะโหลกสั่น พี่แดนนี่ไขมันกระเพื่อม ไอ้ห่า ตบขนาดนี้ ถ้าผมโดน ผมว่าสมองผมหลุดอะ










    TO BE CONTINUE.


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    เซย์ฮายเป็นรอบที่สาม อัพบทสองแล้ว
    ตอนนี้เป็นพาร์ทกุกนยองเนอะ พักคู่อู๋อันแพรบส์
    อย่างที่บอกไปตอนบทนำว่าเรื่องนี้มีหลายคู่ กุกนยองก็หนึ่งในนั้นเด้อ
    แต่จะคนละฟีลกับอู๋อัน55555555 อ่านแล้วคงเข้าใจ
    มีใครอยากได้แซมฮวี หลินโฮไหมอะ คือมีความตั้งใจจะแต่งตั้งแต่เปิดเรื่องแรกๆ
    แต่กลัวคู่มันจะเยอะเกินไป เลยขอถามความเห็นก่องงง
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


    (c)              Chess theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×