ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส) ก่อนจะเกิดเรื่องวุ่นๆของเฟรินและคาโล

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 เปลี่ยนแปลง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 49


    บทที่ 2  เปลี่ยนแปลง



    อาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ปรากฎกายขึ้นจากขอบฟ้า  ส่องแสงอันอบอุ่นขับไล่ความเย็บเหยียบยามค่ำคืนให้มลายสิ้น

    นัยน์ ตาสีฟ้าของคนตื่นเช้าปรือขึ้นรับแสงอรุณที่สาดส่องผ่านผ้าม่านผืนใหญ่เข้า สู่ห้องพักหัวหน้าชั้นปี  มือแกร่งถูกยกขึ้นกุมขมับของชายหนุ่มที่มีอาการค้างจากฤทธิ์สุราแรงที่กระดก ไป

    แม้จะปวดศรีษะ  หากแต่ความรู้สึกภายในใจกลับชุ่มชื่นด้วยความฝันอันแสนหวานในค่ำคืนที่ผ่านมา

    ความฝันร่วมกับเธอคนนั้น  คนที่เขารักมากที่สุด..

    ฝันที่เหมือนจะเป็นจริง  ด้วยรสสัมผัสยังตราตรึงติดอยู่ทุกส่วนของร่างกาย..

    คาโลค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ  เขาหวังว่าน้ำเย็นๆ จะช่วยบรรเทาอาการปวดศรีษะ  หากแต่ทันทีที่ชายหนุ่มเลิกผ้านวมผืนใหญ่ที่ห่มกายออก  ดวงตาสีฟ้าสวยต้องเบิกกว้าง

    ร่างกายเขาเปลือยเปล่า..  เขานอนโดยไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น..

    ผ้านวมผืนใหญ่ถูกดึงขึ้นคลุมร่างหนุ่มขี้อายทันที  สายตาคู่งามเหลือบเห็นเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นปลายเตียง

    เสื้อผ้าของเขา..  และ..

    “อืม~~  หนาว~~”

    เสียง หวานที่ดังขึ้นข้างหูให้ชายหนุ่มสะดุ้ง  นัยน์ตาสีฟ้าค่อยๆ หันไปมองร่างบางของหญิงสาวที่นอนอยู่เคียงข้าง  ผ้านวมที่เผยอออกด้วยชายหนุ่มกระชากปกคลุมร่างอันเปลือยเปล่าของตน  เผยให้เห็นร่างบางของหญิงสาวข้างกาย  ร่างของหญิงอันเป็นที่รัก  เจ้าหญิงเฟลิโอน่า  เกรเดเวล

    ผิวเนียนขาวที่ต้องลมเย็นยาวเช้า  ทำให้สาวขี้หนาวขยับตัวเข้าหาไออุ่นจากร่างข้างกายยิ่งขึ้น

    ทันทีที่ร่างแกร่งรับรู้ถึงสัมผัสอันอ่อนนุ่มของร่างบางไร้อาภรณ์ที่เข้าแนบชิด  คาโลรีบกระโจนลุกขึ้นจากเตียงทันทีราวต้องของร้อน

    ใบหน้าขาวของชายหนุ่มขึ้นสีระเรื่อ  พลางย้อนคิดถึงความฝันอันแสนหวานยามค่ำคืนที่ผ่านมา

    “ไม่ใช่ความฝัน..  งั้นสินะ”  ชายหนุ่มรำพึงกับตนเองเบาๆ

    คาโลยืนนิ่ง   นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองร่างบางของหญิงสาวที่นอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่  คราบน้ำตายังคงเหลือเปราะเปื้อนอยู่บนใบหน้าหวาน  ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้  มือแกร่งลูบไล้ไปยังเรือนผมสีน้ำตาลอย่างรักใคร่

    “ฉันคงทำให้เธอเจ็บ ปวดมากสินะ..  ขอโทษด้วย”  นัยน์ตาสีฟ้าหม่นลงชั่วครู่  ก่อนจะสุกใสแวววาวขึ้นทันที  “แต่ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว  และฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอกลายเป็นของคนอื่นเด็ดขาด”

    ******************************************************************



    อาหาร เช้าส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ยอดนักกินแห่งบารามอสเริ่มรู้สึกตัว  หญิงสาวที่ยังระบมจากบทรักของชายหนุ่มไม่หายเริ่มส่งเสียงร้องคราง  “อูย~~  เจ็บ”

    เสียงร้องที่ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าสุดที่รักตื่นแล้ว  คาโลรีบวางถาดอาหารลงกับโต๊ะก่อนจะถลาไปช่วยพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง

    “เป็นอย่างไรบ้าง  ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”  เสียงถามนุ่มหูหากแต่ไม่สามารถสร้างความพอใจให้หญิงสาวเสียสักนิด

    ทันทีที่เฟรินลุกขึ้นนั่ง  มือบางตบฉาดไปที่ใบหน้าขาวๆ ของชายหนุ่มคู่กรณี 

    “คนเลว!!”  เสียงตวาดสั่นเทิ้ม  นัยน์ตาสีน้ำตาลร้อนเผ่าให้น้ำน้อยไหลซึมออกมาอีกครั้ง

    คา โลไม่ได้ตอบโต้หญิงสาวแต่ประการใด  เขาเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดที่เขาเป็นผู้กระทำ  ชายหนุ่มยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่หลั่งรินของหญิงสาว  หากแต่ถูกสาวน้อยปัดออกอย่างไม่ใยดี  “ไม่ต้องมาถูกตัวฉัน  จะไปไหนก็ไปให้พ้น!!”

    คาโลคุกเข่าลงข้างเตียง  มือแกร่งจับมือบางที่พยายามสะบัดให้หลุดออกไว้แน่น  “ขอโทษนะ..  ฉัน..  เอ่อ”

    คำขอโทษนุ่มหูหากแต่กลับบันดาลโทสะให้กับผู้ฟังอย่างเหลือหลาย  “ขอโทษงั้นหรือ!!  นายทำฉันขนาดนั้นแค่ขอโทษงั้นหรือ”

    “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ..  แต่ฉัน..”  คาโลพยายามอธิบาย  หากแต่ยังไม่ทันพูดจบหญิงสาวกลับสวนขึ้นกระทันหัน

    “ ไม่ได้ตั้งใจงั้นสินะ..  นายจะว่าทั้งหมดเป็นเหตุสุดวิสัยงั้นสิ”  หญิงสาวว่าต่ออย่างสุดแสนเจ็บใจ  คำพูดที่ออกจากปากชายหนุ่มสุดที่รักช่างแสงใจนัก

    “เฟริน!!  ไม่ใช่นะ..  ฟังฉันพูดก่อน..”  ชายหนุ่มพยายามอธิบาย  หากแต่เสียงสะอื้นไห้กลับดังกลบ

    เฟรินพ ยายามพยุงตัวลุกขึ้นด้วยความลำบาก  แต่ก็ไม่ลืมคว้าผ้านวมผืนใหญ่คลุมร่างที่เปลือยเปล่าไว้  ใบหน้างามยังคงเต็มไปด้วยรอยน้ำแห่งความเจ็บช้ำ  มือแกร่งที่ยื่นเข้าไปช่วยเหลือถูกปฏิเสธให้ต้องถอยห่าง

    ชายหนุ่มได้ แต่ยืนมองด้วยความหดหู่  ทั้งที่เขาเองก็เป็นถึงนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน  ทั้งที่เขาสามารถทำข้อสอบได้คะแนนสูง  แต่เพราะเหตุใดเขาถึงไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้  ทั้งที่เขาทั้งรักทั้งหวงแหนหญิงสาวตรงหน้า  แต่ทำไมเขาถึงปล่อยให้เจ้าหล่อนต้องทุกข์ใจเช่นนี้

    อาจเพราะสวรรค์เป็นใจ  ร่างบางที่ลุกขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ สะดุดผ้านวมผืนใหญ่ที่ดึงขึ้นคลุมกาย  เซล้มไปทางที่ชายหนุ่มยืนนิ่ง

    คา โลรับร่างของหญิงสาวไว้ได้ก่อนล้มลง  กลิ่นกายหอมจากร่างบางลอยขึ้นกระทบโสตสัมผัสให้แช่มชื่น  กลิ่นกายที่หอมหวานน่าพิสมัย  กลิ่นที่เขาจำได้ไม่รู้ลืม

    ทันทีที่ร่างบางของหญิงสาวถลาเข้าสู่อ้อมอกของชายหนุ่ม  มือแกร่งรีบกระชับร่างบางไว้แน่น

    สาว น้อยขี้งอนพยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอ้อมอกอันแสนอบอุ่นนั้น  หากแต่ชายหนุ่มกลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้า  ริมฝีปากหนาเริ่มคลอเคลียผ่านไรผมสีน้ำตาลเรื่อยสู่ข้างหูบาง  ก่อนจะกระซิบคำบอกรักที่เคยมัดใจสาวขี้งอนได้สำเร็จอีกหน

    “รัก”  อาการดิ้นเริ่มลดลง

    “รักมาก”  เสียงสะอื้นเริ่มเงียบหาย

    “รักมากที่สุด”  ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อ

    ทันที ที่คำบอกรักออกจากปากของชายหนุ่มสุดที่รัก  อาการดิ้นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  คงเหลือเพียงความเอียงอายของหญิงสาวที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักจากเจ้าหญิงหัว ขโมยสองดินแดน

    มือใหญ่ช้อนใบหน้าหวานขึ้นสบ  นัยน์ตาสองคู่ส่งประสานบ่งบอกความนัยแห่งรักของกันและกันก่อนที่ชายหนุ่มจะ ก้มลง  มอบจุมพิตอันแสนหวานให้แก่หญิงสาวสุดที่รัก  จุมพิตแห่งรักนิรันดร  จุมพิตสาบานรักแห่งคาโนวาล

    รสจุมพิตอันแสนหวานและเนิ่นนานถูกกลบด้วยเสียงท้องร้องดังกึกก้องของหญิงสาวที่เริ่มร้องประท้วง

    คาโลถอนใจดังเฮือกด้วยจนเกล้าต่อสาวน้อยนักกินสุดที่รัก  ในขณะที่หญิงสาวเริ่มส่งสายตาออดอ้อน

    ชาย หนุ่มจึงอุ้มหญิงสาวกลับขึ้นนั่งพักบนเตียงพร้อมยกถาดอาหารที่เตรียมไว้ให้ สาวน้อยนักกิน  จากนั้นจึงค่อยพาหญิงสาวกลับไปพักผ่อนต่อที่ห้องพักของเจ้าหล่อน  (ห้องของคาโลเป็นห้องรวมจ้า  คาโลยังพักกับคิลนะ  ส่วนเฟรินพักห้องเดี่ยว)

    ******************************************************************



    ห้องอาหารดราก้อนเริ่มจอแจขึ้นอีกครั้งเมื่อชาวป้อมอัศวินที่เริ่มสร่าง(เมา ) จากงานฉลองทยอยลงมาในช่วงเวลาเย็น  และที่สามารถเพิ่มเสียงฮือฮามากยิ่งขึ้นคือเจ้าชายน้ำแข็งหัวหน้าป้อมที่ ประคองสาวคนรักเข้ามาอย่างไม่เกรงสายตาประชาชีร่วมป้อม  อีกทั้งยังเป็นบริกรส่วนตัว  เสริ์ฟอาหารและน้ำมิได้ขาด  ทั้งยังไม่มีการห้ามสาวน้อยนักกินที่แสนจะมูมมามให้ยุติ(การกิน) เช่นทุกครั้ง

    “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”  เสียงหนึ่งดังขึ้นจากโต๊ะอาหารของเหล่าทะโมนปีห้า

    “ทุกทีคาโลไม่เคยบริการเฟรินขนาดนี้นี่นา”  อีกเสียงหนึ่งขานรับ

    “ทุกครั้งถ้าเฟรินกินมากเจ้าคาโลก็มักจะห้ามตลอด  หรือถ้ากินไม่สมหญิงก็จะดุไม่ใช่หรือ”

    “วันนี้ดูแปลกไปจริงๆ นะครับ”

    “หรือว่าเมื่อวาน..”

    “จริงด้วย..  เมื่อวานพวกเราให้เฟรินตามไปง้อเจ้าคาโลนี่นา”

    “แล้วพวกเขาไปง้อกันยังไงคาโลถึงได้บริการเฟรินขนาดนี้เนี่ย”

    เสียงวิพากษ์วิจารณ์คู่รักหนุ่มสาวดังกระหึ่มรอบโต๊ะเหล่าสมาชิกป้อมอัศวิน ปีห้า(คาโลกะเฟรินปลีกวิเวกแยกโต๊ะต่างหาก)  กระทั่งเสียงสรุปขึ้นจากผู้รอบรู้ด้านบุรุษสตรีศาสตร์  นายนักรบผู้ชำนาญแห่งไนล์  ครื๊ด  ธันเดอร์  เรียกให้สายตาทุกคู่รอบโต๊ะมองไปทางต้นเสียง  “หรือว่า..”

    “เมื่อคืนเฟรินก็ไม่ได้กลับมาที่งานเลี้ยง  สงสัยพวกเขาไปง้อกันกลมทั้งคืนแหง๋”  คำพูดมีเลศนัยชวนให้คิดลึก  หากแต่ก็พอมีมูล

    “แต่คาโลไม่เป็นคนแบบนั้นนี่นา”  คำแก้ต่างให้เดอะไอซ์ปริ๊นซ์จากเจ้าแม่แห่งป้อม  มาทิลด้า  ซิลเวอร์

    “ใช่ค่ะ  คุณคาโลเป็นสุภาพบุรุษนะคะ  คงไม่ล่วงเกินคุณเฟรินหรอกค่ะ”  เจ้าหญิงแห่งคาโนวาล  เรนอน  ธีน็อทร่วมยืนยัน

    “แต่เมื่อคืนทั้งสองคนก็ไม่ได้กลับเข้าไปในงานเลี้ยงจริงๆ นะครับ”  นักบวชแห่งบารามอส  ซีบิล  สแวน  ย้ำเหตุการณ์

    “ถ้าอยากรู้ก็ต้องถามจากเจ้าตัวเท่านั้นแหละ”  สาวน้อยน้องนุช  แองเจลิน่า  โรมานอฟ  กล่าวสรุป

    “แล้วจะให้ใครไปถามล่ะ”  ทันทีที่คำถามหลุดจากปากของนักบวชแห่งกิลดิเรก  กัส  โทนิย่า  สายตาของบุคคลรอบโต๊ะตรงดิ่งไปยังนักฆ่านัยน์ตาสีม่วงทันที

    นักฆ่าหนุ่มยกมือชี้ที่ตนเองเป็นเชิงถาม  ซึ่งได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบจากเหล่าทะโมนร่วมรุ่น

    “เฮ้!!  ทำไมต้องเป็นฉันล่ะ”  นักฆ่าผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่แย้งขึ้นทันที

    “ก็เพราะนายสนิทกับพวกเขาสองคนที่สุดนี่นา”  คำอธิบายอย่างสมเหตุผลของนายขอทานเสนาธิการตามด้วยการพยักหน้าของเหล่าทะโมน ทั้งหลายอีกครั้ง

    “ไม่มีทาง”  คำตอบหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำดังขึ้นจากปากนักฆ่าหลังจากคำนวนค่าความเสี่ยงของ งานที่ได้รับเรียบร้อยแล้ว  “ฉันยังไม่อยากถูกแช่แข็งหรอกนะ  ถ้าพวกนายอยากรู้นักก็เข้าไปถามเองสิ”

    คำตอบที่ทำให้เหล่าก๊วนร่วมโต๊ะฉุกคิด  สำหรับเจ้าหัวขโมยปากเบาคงไม่เท่าใดนัก  หากแต่เจ้าชายน้ำแข็งหัวหน้าป้อมนี่สิ  คงต้องคิดสร้างประติมากรรมน้ำแข็งประดับป้อมอัศวินเป็นแน่หากมีผู้ใดคิดเข้า ไปละลาบละล้วงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณท่านกะเจ้าหญิงหัวขโมยสุดที่รัก

    บทสรุปที่ทำให้เหล่าก๊วนต่างตัดสินใจล่าถอยแม้ว่าภายในใจยังคงต้องการทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ก็ตามที



    ถัดมาทางโต๊ะคู่สวีทข้าวใหม่ปลามัน  (ในความคิดของเจ้าชายน้ำแข็งเดินได้)

    อาหารชุดที่สามหมดลงด้วยฝีมือยอดนักกินแห่งบารามอส  เจ้าชายนักรบจ้องมองไปยังจานอาหารที่ว่างเปล่าจนเกือบสะอาด (ท่าจะใช้ลิ้นช่วยทำความสะอาดนะเนี่ย)  ก่อนจะมองกลับไปยังใบหน้าหวานของสาวคนรักที่เริ่มส่งสายตาออดอ้อนมาให้

    เจ้าชายหนุ่มที่พอจะทราบความนัยน์ของสายตาหวานปิ้งที่ส่งมาจึงเอ่ยดักด้วย น้ำเสียงนุ่มอ่อนโยน  “พอได้แล้ว..  ที่นายกินไปตะกี้เป็นชุดที่ 3 แล้วนะ  กินมากเกินไปอาจป่วยได้นะ”

    “ก็มันยังไม่อิ่มนี่นา”  หญิงสาวแย้ง  “ไม่รู้วันนี้เป็นอะไร  หิวมากๆ เลย”

    “แต่ที่นายกินเข้าไปก็มากกว่าของคนอื่นแล้วนะ”  ชายหนุ่มโต้ (ท่าจะลืมคิดถึงความจุในกระเพาะของเจ้าหล่อน)

    หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มคนรักเขม็ง  ใบหน้างามเริ่มบูด  แก้มขาวอมชมพูป่องอูม  สาวงามเริ่มออกอาการงอนใส่

    “ได้!!..  นายไม่ไปเอาให้  ฉันไปเองก็ได้”  เฟรินลุกขึ้นจากโต๊ะทันทีที่พูดจบ  หากเพียงแต่หญิงสาวเริ่มก้าวเดิน  ใบหน้าหวานเริ่มออกอาการเจ็บปวด  ร่างบางที่เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงเริ่มเซทรุด  เรียกให้เจ้าชายสุภาพบุรุษรีบถลาขึ้นประคองให้นั่งลงตามเดิม

    “นายนั่งเฉยๆ  เดี๋ยวฉันไปเอามาให้”  คำสั่งเด็ดขาดตามสไตล์เจ้าชายน้ำแข็ง  เรียกให้สาวคนรักอมยิ้มนิดๆ  ด้วยรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียบริกรหนุ่มจำเป็นต้องไปเอาอาหารมาให้อีกอย่าง แน่นอน

    “งั้นขอแอปเปิ้ลด้วยนะ”  เสียงเพิ่มรายการอาหารทำให้เจ้าชายหนุ่มหันกลับไปมองสาวน้อยนักกินอีกครา  “เอา 3 ลูกนะ”

    รอยยิ้มหวานที่ส่งกลับมาทำให้ผู้มองรู้สึกหงุดหงิดใจมิใช่น้อย  แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ  ในเมื่อเขาตั้งใจไว้แล้วว่าจากนี้ไปเขาจะดูแลเธอผู้นี้ให้ดีที่สุด  ดูแลเธอให้ดีกว่าที่ผ่านมา..  เพราะบัดนี้  เธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาแล้ว

    **************************************************

    apple เองจ้า

    ขอตัดจบตอน 100% แค่นี้แล้วกันนะ  ถ้าต่อไปจะเลยไปถึงอีกตอนที่วางไวอะ
    แล้วจะรีบมาต่อตอนต่อไปนะจ๊ะ
    14/6/2549


    วันนี้ก็เพิ่มอีกนิด  ประมาณ 35% แล้วมั้ง (อัพวันละนิดจิตแจ่มใสเน้อ)
    [ทั้งที่ในความเป็นจริงมันจิ้นออกแค่นี้ต่างหาก  ฮา]
    13/6/2549


    เพิ่มอีกประมาณ 10 อะนะ  ก็เป็น 25% แล้วเน้อ
    ลองเดากันสิว่าคาโลจะง้อเฟรินไง  ฮิฮิ
    12/6/2549


    15% ก่อนเน้อ  แล้วไว้ค่อยมาต่อ    (แบบว่ากะดองต่อ  55+)
    10/6/2549
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×