คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 คู่ต่อสู้ตัวแรก
บทที่ 2 คู่ต่อสู้ตัวแรก
ชายหนุ่มเริ่มสำรวจร่างกายตนเองอย่างเร่งรีบโดยเฉพาะโครงกระดูกที่มีรูปร่างเหมือนปีกคู่หนึ่งที่กลางหลัง
ที่หลังฝ่ามือซ้ายนั้นมีอัญมณีสีม่วงติดอยู่กับเนื้อของเขาแม้ว่าจะทำอะไรก็ไม่สามารถดึงออกไปได้และก็มีอัญมณีสีดำติดอยู่ที่หลังฝ่ามือขวาอีกด้วย
เขารู้สึกแปลกที่เรียกว่าความแตกต่างไปจากเดิมคล้ายกับว่าร่างกายถูกอัพเกรดขึ้น
หรือว่าเป็นการที่ร่างกายถูกเปลี่ยนแปลงไป
「อ่า…. นี่มันรู้สึกดีเยี่ยมที่สุดเลย」
เหมือนกับว่าเขารู้สึกสดชื่นมากกว่าแต่ก่อน
เหมือนกับว่าเขารอดพ้นจากพันธนาการบางอย่างที่ตามติดมาตั้งแต่เกิดและจะติดไปจนวันตาย
และเขายังค้นพบความลับสุดยอดของร่างกายภายในเวลาไม่นานอีกด้วย
「ฉึก!」
นิ้วมือของเขาทั้ง 5 นิ้วต่างแทงเข้าใส่ต้นไม้
แปลกแทนที่นิ้วมือของเขาจะหักแต่มันกลับแทงเข้าไปได้ลึกมาก
เขาตวัดนิ้วมือออกมาด้วยการตวัดนี้ทำให้ต้นไม้ต้นใหญ่ถึงกับล้มลงมา
นิ้วมือทั้ง 5 ในมือข้างขวานั้นมีรอยไหม้จากการเสียดสีด้วยความเร็วเหลือเชื่อหลงเหลืออยู่แต่มันกลับถูกปิดด้วยเส้นใยสีแดงจนตอนนี้มือขวาของเขามีเพียงแค่เนื้อหนังให้ความรู้สึกน่าขยะแขยง
แต่ถึงแม้นิ้วมือจะไหม้ไปแต่ชายหนุ่มกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อยเหมือนกับว่าประสาทรับรู้ด้านความเจ็บปวดของเขาจะทื่อถึงขั้นด้านจนไม่รู้สึกอีกต่อไปแล้ว
『คุณได้รับค่าประสบการณ์ 215 หน่วยจากการตัดต้นไม้ด้วยมือเปล่า』
ชายหนุ่มได้ยินเสียงแปลกประหลาดเสียแล้ว
มันเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกเย็นชาและไร้ความรู้สึกหรือก็คือเสียงสังเคราะห์นั่นเอง
ชายหนุ่มรีบกวาดสายตามองรอบรอบอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่ามีใครบางคนอยู่แถวแถวนี้
แต่กลับไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตอะไรเลยและเสียงนั้นก็หายไป
『ซ่าซ่าซ่า….』
เสียงขยับของพุ่มไม้ดังออกมาพร้อมกับพุ่มไม้ใกล้ใกล้ชายหนุ่มที่กำลังสั่นอยู่
เขาระวังตัวเต็มที่เพราะนอกจากร่างกายที่แปลกไปจากเดิมแล้วก็คงต้องมีพวกสัตว์ประหลาดที่เหมือนเขาอยู่แน่นอน
แม้จะเป็นเพียงข้อสันนิษฐานที่ดูแล้วไม่สามารถบอกว่าเป็นจริงได้รึเปล่า
『พี่ชาย?...』
สิ่งที่ปรากฏก็คือเด็กสาวสวมชุดโกธิคโลลิต้าสีขาวสลับดำ
ชายหนุ่มรู้จักเด็กคนนี้ดีแม้จะไม่มากก็เพราะว่าเคยโดนขังพร้อมกันอยู่แม้จะรำคาญเล็กน้อยเพราะเป็นเด็ก
แน่นอนว่าเขาต้องเกลียดเด็กเพราะนอกจากขี้อ้อนแล้วก็ยังขี้แยอีก
「ต้องการอะไรอีกล่ะชั้นก็พาเธอออกมาแล้วเธออยากไปไหนก็ไปเหอะ」
ชายหนุ่มพูดอย่างไร้ใยดีเลยสักนิด
สายลมพัดผ่านตามเหล่าใบไม้ที่อยู่บนต้นไม้พวกมันปลิวสไวตามสายลม
เวลานั้นเหล่านักรบทั้งสองก็ผงาดเตรียมพร้อมรับศึก
ชายหนุ่มยกมือทั้งสองข้างเพื่อป้องกันการโจมตีของเด็กสาว….
『แง้!!』
อุดหู!
ชายหนุ่มอุดหูไม่รับฟังเสียงร้องไห้ของเด็กสาวเลยแม้แต่น้อย
เขามีฝีมือรับมือเด็กมาจำนวนนับไม่ถ้วนเพราะฉะนั้นเขารู้ว่าต้องใช้การป้องกันและการโจมตีใดกับเด็กตามแต่สถานการณ์
และเด็กสาวโกธิคโลลิต้าตรงหน้าเขาก็กำลังร้องไห้ด้วยเสียงที่สูงจนแก้วหูแทบแตกหากไม่อุดหูเอาไว้
แต่เสียงร้องไห้ของเธอก็เริ่มดังขึ้นจนทำให้โสตประสาทของเขาเริ่มที่จะแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ
พร้อมกับความอดทนของเขานั่นเอง….
「หุบปากได้แล้วไอ้เด็กไม่สิ้นน้ำนมแกอยากไปไหนก็ไปสิว่ะตูไม่ใช่พ่อนักบุญช่วยเหลือเด็กนะเว้ย!」
และก็ดูเหมือนชายหนุ่มจะพูดคำต้องห้ามออกมาเสียแล้ว
เด็กสาวเริ่มมีน้ำตาจำนวนมากมารวมตัวกันที่เบ้า
ก่อนจะปล่อยฤทธิ์เดชที่แท้จริงออกมา
เสียงร้องไห้ดังก้องกังวาลไปทั่วทุกผืนป่ามวลหมู่เมฆหมอกเริ่มรวมตัวกันขึ้น
ที่ข้างหัวของเด็กสาวเริ่มมีบางอย่างแปลกปลอม
มันคือเขาเขาสีทองงอกออกมาแม้จะไม่ยาวและใหญ่มากนักก็ตาม
『เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!』
เสียงของสายฟ้าตามมวลหมู่เมฆหมอกดังออกมาจนเกิดประกายไฟสีฟ้า
พวกมันดูน่ากลัวมากหากอยู่ใกล้ใกล้
『เปรี้ยง!!』
มันผ่าลงมาแล้ว!
ฟ้าผ่าเข้าใส่ชายหนุ่มเข้าอย่างจังโดยไม่มีการคลาดเคลื่อยแม้แต่น้อย
ร่างกายของเขาเปล่งประกายเป็นกระดูกที่กำลังถูกสายฟ้าช๊อตอยู่
เมื่อฟ้าผ่าจบลงก็ปรากฏร่างกายของชายหนุ่มที่อยู่ในสภาพที่ทรงผมนั้นกลายเป็นแอฟโฟร่ไปเสียแล้ว
และชายหนุ่มยังพ่นควันสีดำออกมาจากทางปากอีกด้วย
『แง้!!』
『เปรี้ยง!!』
『เปรี้ยง!!』
『เปรี้ยง!!』
『เปรี้ยง!!』
『เปรี้ยง!!』
『เปรี้ยง!!』
『เปรี้ยง!!』
ฟ้ายังคงผ่าลงไปที่ชายหนุ่มท่ามกลางเด็กสาวที่กำลังร้องไห้ออกมาเหมือนทสึนามิ
สายฝนเริ่มตกลงมากลบเสียงร้องไห้ไปได้บางส่วนแต่ฟ้าก็ยังคงผ่าต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเหมือนน้ำตาของเด็กสาวที่ไหลออกมาทุกหยดทุกหยาดต่างแสดงถึงความเศร้าโศรก
「บุฮ่าห์…. ข-ขอโทษยอมแล้ว…. เพราะงั้นหยุดร้องไห้เถอะ….」
สภาพของชายหนุ่มตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากเศษขี้เถ้าเลยแม้แต่น้อย
ถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องตอนนี้สภาพของชายหนุ่มไม่ต่างอะไรไปจากผงกระดูกเลยสักนิดเดียว
ร่างกายพร้อมกับชุดอุปกรณ์ต่างถูกสายฟ้าผ่าจนไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านไปจนหมด
แต่สิ่งที่แปลกใจก็คือทำไมเขาถึงยังสามารถพูดได้อยู่
『ประสบความสำเร็จสายฟ้าพิโรธโดยการโดนฟ้าผ่าติดต่อกันมากกว่า 100 ครั้ง』
『ปลดล็อคความสามารถ”ผู้ควบคุมสายฟ้าเลเวล 1”』
『ปลดล็อคความสามารถ”ต้านทานสายฟ้าเลเวล 1”』
เสียงปริศนาไร้ซึ่งความรู้สึกดังขึ้นภายในความคิดของขี้เถ้า
แม้เจ้าตัวจะสบถในใจว่าไม่ได้อยากโดนฟ้าผ่าเฟร้ยก็ตาม
สายฟ้าที่ผ่าลงมาตรงจุดเดิมทุกครั้งก่อให้เกิดไฟไหม้ลามผืนป่าแต่โชคยังช่วยเหลือสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาคอยบรรเทาไฟไหม้พวกนั้นจนมันดับโดยที่ไม่ลามไปมากมาย
ค่าตอบแทนกับความยากลำบากนั้นดูไม่ค่อยคุ้มค่าเสียนักเท่าไหร่
แต่ในอนาคตมันคงจะสามารถกลายเป็นประโยชน์ให้ก็เป็นไปได้
สายลมพัดเหล่าหมู่เมฆหมอกครึ้มให้ปลิวหายไปจนท้องฟ้ากลับมาสดใสและมีเมฆปุยสีขาวล่องลอยอยู่
เด็กสาวโกธิคโลลิต้าตอนนี้ขอบตาเธอบอบช้ำจากการที่ร้องไห้มาอย่างไม่หยุดไม่หย่อน
เธอโน้มตัวมามองสิ่งที่เรียกว่า『ผงขี้เถ้า』ที่อยู่ตรงจุดที่ชายหนุ่มโดนฟ้าผ่า
แต่เขาของเธอกลับหายไปเสียแล้วราวกับว่ามันจะออกมาเมื่อถึงเวลาเศร้าที่สุด
『พี่ชาย?』
เด็กสาวก้มลงมองดูผงขี้เถ้าที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนพร้อมเอานิ้วเขี่ยผงขี้เถ้าสกปรกนั่น
นิ้วของเธอนั้นเปรอะเปื้อนเป็นสีดำด้วยผงขี้เถ้า
แต่ถึงแม้ผงขี้เถ้าอยากให้หยุดก็ไม่สามารถทำได้เพราะกลัวว่าจะเกิดภัยพิบัติแบบเมื่อกี้ขึ้นอีก
『คุณสามารถใช้ค่าประสบการณ์ 200 หน่วยเพื่อกลับเข้าสู่สภาพร่างกาย”โครงกระดูก”』
『ต้องการใช้หรือไม่?』
「ใช้เลยเฟร้ยตูไม่อยากเป็นผงขี้เถ้าตลอดหรอกนะเฟร้ย」
『ยืนยันการใช้ค่าประสบการณ์』
『เข้าสู่สภาพร่างกาย”โครงกระดูก”』
หมอกไอความมืดเข้ามาวนเวียนรอบรอบผงขี้เถ้า
พวกมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาและค่อยแตกแยกให้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์
หมอกไอสีดำพวกนั้นสลายหายไปข้างหน้าเหลือเพียงโครงกระดูกที่ดูน่ากลัวตนหนึ่ง
มันไม่มีดวงตาแต่ภายในเบ้าตาของมันนั้นดูลึกจนเหมือนเป็นเพียงความมืดมิด
ภายในร่างกายที่ทำมาจากกระดูกนั้นมีอัญมณีลูกกลมขนาดกลางกลางลอยอยู่มันเรืองแสงสีม่วงดูน่าหลงใหลมันลอยวนเวียนไปกับกล่องสี่เหลี่ยมที่มีรอยลึกลงไปเหมือนรูตอนที่วางกระเบื้องเสร็จภายในรูนั้นส่องแสงสีแดง
บนหลังฝ่ามือกระดูกซ้ายนั้นมีอัญมณีสีม่วงอยู่และหลังฝ่ามือขวาก็มีอัญมณีสีดำอยู่
『ยืนยันร่างกาย”โครงกระดูก”เรียบร้อย』
『ค่าสถานะถูกลดลงชั่วคราว』
โครงกระดูกข้างหน้านั้นได้แต่ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น
ถูกต้องมันคือเรื่องเหนือธรรมชาติและไม่มีวันเป็นไปได้ด้วย
แม้กระทั่งเรื่องที่ฟ้าผ่าลงมาจุดเดิมซ้ำซ้ำจนเกิดไฟไหม้ป่าก็ตามที
โดยเฉพาะที่เจ้าตัวกลายเป็นโครงกระดูกทั้งยังมีปีกอีกด้วยเนี่ยสิ
▼
ภายในท้องพระโลงอันมืดมิดแต่หาได้ไม่มีแสงสว่าง
สิ่งมีชีวิตน่าเกรงขามจ้องมองผ่านดวงตาสีแดงก่ำที่จุดประกายอยู่ในความมืดมิดลงมายังเบื้องล่าง
พรมสีแดงสดที่ทักถอด้วยผ้าไหมชั้นดีเยี่ยมทอดยาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ร่างกายของมันใหญ่โตราวกับตึกระฟ้าสูงใหญ่มันสวมชุดเกราะสีดำทมิฬตัดกับสีแดงโลหิตเดรัจฉานดูน่าเกรงกลัว
ข้างกายนั้นมีดาบต้องสาปที่ทำมาจากแร่ในตำนานคมดาบของมันนั้นเมื่อกระทบกับแสงจันทร์จะส่องประกายเป็นสีแดงโลหิตแต่เมื่อมันมันกระทบกับแสงอาทิตย์ยามอัศดงจะปล่อยกลิ่นไอควาชั่วร้ายและถูกเคลือบไปด้วยความมืดไม่รู้จบ
คมดาบของมันนั้นสามารถแยกผืนธรณีออกเป็นสองส่วนด้วยการฟาดฟันเพียงหนเดียว
เจ้าของร่างกายอันใหญ่โตและชุดเกราะกับดาบอันน่าเกรงขามใช้แขนขวากำมือแล้วเท้าคางบนที่นั่งของกษัตริย์ที่ทำมาจากทองคำอร่ามอย่างองอาจ
เบื้องล่างเต็มไปด้วยสมุนรัตติกาลอันชั่วร้ายที่เต็มไปด้วยโทสะ,ริษยา,เหย่อหยิ่ง,โลภ,ราคะ
พวกมันเตรียมพร้อมที่จะรับคำสั่งและทำตามคำบัญชาของผู้เหนือหัวของมันเพียงแค่สั่งการเท่านั้น
『เรย์นอส,เรย์ออสไปจัดการ』
เสียงอันน่าหวาดระแวงที่กล่าวออกมาไม่ดังแต่กลับดังก้องกังวาลไปทั่วโสตประสาทมันคือเสียงของมัจจุราชอันน่าสพรึงกลัว
เงาของสมุนรัตติกาลทั้งสองตนได้หายไปจากพื้นที่เบื้องล่างเหลือเพียงความว่างเปล่าที่ไม่มีอะไรมาแทนที่
▼
「นี่มันเรื่องบ้าอะไรว่ะ!」
「ทั้งฟ้าผ่ากลายเป็นโครงกระดูกแล้วยังไอ้เสียงบ้านั่นด้วย!」
โครงกระดูกตัวหนึ่งใช้มือทั้งสองที่เป็นกระดูกจับที่ศรีษะแล้วส่ายหัวด้วยความไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่โครงกระดูกตัวนั้นก็เริ่มสงบสติอารมณ์ไว้ได้แล้วลองไตร่ตรองด้วยสติปัญญา
「1.มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามาหาแล้วก็ได้สิทธิ์ท่องเที่ยวจากนั้นก็สลบไป」
「2.ถูกขังในห้องสีขาวแปลกแปลกมีกกล่องสี่เหลี่ยมพ่นก๊าซสีออกมาจากนั้นก็สลบไปอีกที」
「3.ตื่นขึ้นมาที่ไหนไม่รู้แล้วก็มีไอ้อัญมณีติดอยู่ตรงมือสองข้างอีกแถมยังมีไอ้ปีกกระดูกบ้าบ้านี่อีกด้วย!」
「4.โดนฟ้าผ่าจนกลายเป็นขี้เถ้าแล้วก็เอาค่าประสบการณ์อะไรสักอย่างไปแลกเพื่อกลายเป็นโครงกระดูกโง่โง่ตัวหนึ่ง!」
「5.โดนเด็กเดินตามต้อยต้อยอีก!」(น่ารำคาญชะมัด)
โครงกระดูกโง่โง่ตัวหนึ่งบ่นพึมพำโดยที่ไม่ให้เด็กสาวโกธิคโลลิต้าไม่ได้ยิน
เพราะมันได้รู้ถึงรากถึงโคนซาบซ่านด้วยร่างกายของมันเกี่ยวกับฤทธิ์เดชของเด็กสาวคนนี้
ถ้าหากโครงกระดูกนี่ยังคงเหลือร่างกายเหมือนมนุษย์เขาคงหรี่ตาพร้อมทำหน้าเหมือนเห็นของน่ารังเกียจที่สุดซะแล้ว
พวกเขาเดินสำรวจภายในป่าที่ไม่ทึบมากและมีบางส่วนถูกไฟไหม้ไปจนกลายเป็นถ่าน
ภายในป่าแห่งนี้ก็ยังมีสิ่งที่แปลกไปจากป่าที่พวกเขาเคยรู้จักมาก่อนมันมีแสงสีเขียวล่องลอยไปทั่วราวกับหิ่งห้อยภายในตอนพระอาทิตย์ส่องสว่าง
เด็กสาวโกธิคโลลิต้าพยายามใช้สองมือที่บอบบางและเล็กของตนไขว่คว้าเหล่าหิ้งห้อยพวกนั้น
โครงกระดูกพยายามใช้สองขาที่เป็นกระดูกเดินอย่างระมัดระวังแต่ด้วยความไม่เคยชินจึงพลาดพลั้งเป็นบางครั้งบางครา
『แซ่กแซ่ก』
เสียงพุ่มไม้ดังออกมาไม่ใกล้ไม่ไกลโครงกระดูกมันระมัดระวังสุดสุดระหว่างที่สาวน้อยโกธิคโลลิต้ายังคอยกระโดดไล่จับหิ่งห้อยที่ล่องลอยไปมาในป่าแห่งนี้
『อู๊ด!』
ร่างกายอ้วนใหญ่ของมันขยายเสียงฝีเท้าของมันให้ดังกึกก้องไปทั่ว
เขี้ยวอันน่ายกย่องของมันทั้ง 2 คอยช่วยทำให้มันดูน่าเกรงขามเขี้ยวพวกนั้นทั้งแหลมคมและยังน่ากลัว
ดวงตาสีแดงที่เต็มไปด้วยความดุร้ายจ้องมองไปยังร่างเล็กเล็กอันบอบบางของเด็กสาว
ร่างกายของมันถูกปกคลุมด้วยขนเส้นบางบางเล็กน้อย
มันคือ『หมูป่า』ที่มีขนาดสูงใหญ่ 3 เมตร
ความคิดเห็น