ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My School of Dreams อัศจรรย์โรงเรียนสุดแปลก

    ลำดับตอนที่ #3 : ::.Preface.:: (รีไรท์ 40 %)

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 60


    ::.Preface.::

    “ โรงเรียนนี้ไม่เหมือนโรงเรียนทั่วไปหรอกนะ!

     

        นั้นคือคำพูดของใครหลายๆคนที่พูดออกมาโดยตรง แม้แต่คนที่เรียนจบออกมาก็พูดแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนการสอนคะแนนผลสอบการคัดห้อง ระเบียบของโรงเรียน ผู้คนและครูอาจารย์ แม้กระทั้งผอ. 

        แต่หากถามว่าคนในโรงเรียนเล่า จะปกติหรือเปล่า...? นั้นมันจะเป็นแค่กับบางคน หากไม่คล้อยไปตามกฏแปลกๆของโรงเรียนหรือไปตามคุณครูและคนอื่นๆในที่นี้เสียก่อน 

     

       ' เซนเทอร์ (St.ter)'โรงเรียนนานาชาติ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นโรงเรียนใหญ่ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยแต่เน้นสไตล์การออกแบบอาคารและสถานที่ไปทางโซนยุโรป มีสถานที่ต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น ตลาด ทะเล ห้าง หอพัก โรงเรียน ฯลฯ เหมือนเป็นเมืองนึงเลยก็ว่าได้ ! แต่ที่แปลกของโรงเรียนนั้นยังไม่มีใครทราบและรู้ว่ามันคือสิ่งไหนกันแน่ บางคนเลยต้องมาลองด้วยตนเอง ...

     

      ฤดูใบไม้ผลิคือสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่ของโรงเรียนเซนเทอร์แห่งนี้ บรรยากาศคุ้นเคยเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนมากหน้าหลายตา ต่างสัญชาติ ที่เดินคุยกันมาตั้งแต่หอพักนักเรียนยันถึงโรงเรียนบ้าง เพราะเปิดเรียนใหม่ แต่ละคนจึงต้องเดินมาดูรายชื่อและชั้นเรียนของตัวเองที่ติดบอร์ดเอาไว้ก่อนจะไปเข้าห้อง บางคนอาจทราบจากเว็บเพจของโรงเรียนแล้วเลยไม่กังวลบ้าง ไม่สนใจบ้างก็มี นั้นถือว่ายังคงเป็นเรื่องปกติ 

    " การแบ่งห้องครั้งนี้เป็นไงบ้างล่ะ? ฉันคิดว่ามันโอเคนะ "

    เสียงหัวเราะของอดีตเพื่อนร่วมชั้น ทำเอาเด็กสาวที่กำลังมองรายชื่อในใบประกาศละสายตามาจ้องเขม็งคนข้างๆ เส้นผมสีชมพูหยักโศกสั้นประบ่าพลิ้วตามแรงขยับ หลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างหนักใจ ก่อนจะคงสีหน้าเรียบนิ่งของตนเอาไว้

    " ไม่เลย มีแต่คนไม่รู้จักเท่าไหร่อีกแล้ว! นี้พวกเขากำลังคิดว่าการคละคนที่ฉันไม่เคยรู้จักมารวมอยู่ห้องเดียวกันหรือไง "

      วิฬาร์รัตน์พูดออกมาพลางยกนิ้วขึ้นจิ้มชื่อตนเองที่ติดอยู่ในใบรายชื่อของม.ต้นห้อง3 พร้อมมองรายชื่อเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่เคยคุ้นตาเลยแม้สักคนเดียว ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาด้วยละมั้งเลยไม่น่าแปลกใจมากเท่าไหร่ที่เธอจะไม่ค่อยรู้จักเลย 

      ...ก็เล่นเข้าใหม่และย้ายออกไปเพราะรับไม่ได้ตั้งเยอะนินา 

    " เธอก็น่าจะชินได้แล้วนะศร เจอตั้งแต่ปี1แล้วไม่ใช่เหรอ...? แต่เสียดายจังน้า~ ตอนนี้เราอยู่คนละห้องกันเสียได้"

    " นั้นสินะ หวังว่าเธอคงจะดูเรียบร้อยขึ้นกว่าเก่าใช่ม้าาา  "

    " อย่าหวังแบบนั้นเลยศรเธอก็รู้....ฉันจะเป็นบ้าเพราะโรงเรียนนี้อยู่แล้ว งั้นไปล่ะ! "

     เพื่อนของเธอโบกมือลาก่อนจะเดินไปยังอาคารตึกเรียนของเธอคนนั้นในทันที นี่ก็ผ่านมาเกือบจะ2ปีเศษแล้วมั้งที่เธอได้ย้ายเข้ามา แน่นอนว่าเธอนั้นรับอะไรไม่ได้กับหลายๆอย่างในโรงเรียนแห่งนี้ แต่มันกลับมีบางสิ่งที่ทำให้เธอนั้นยังคงไม่ลาออกและยังคงอยู่ต่อจนจบ

     " วันนี้จะเจออะไรที่เซอร์ไพรส์อีกนะ... "

     

    .................

     

    “ วันนี้เธอไม่คิดที่จะตื่นเที่ยงใช่ไหม...ริโอะ? "

    " หะ---ห้ะ?? ปะ---เปล่านะคะ! โธ่....รุ่นพี่เคียวโกะล่ะก็! เมื่อตอนปิดเทอมมันมีเรื่องจนนอนไม่หลับแค่นั้นเองนะ "

    " อาหะ ก็จริงนะผอ.เล่นสร้างกิจกรรมตอนปิดเทอมก็ชวนให้วุ่นเลย ....ไหนจะเกิดไฟไฟม้อาคารเพราะแสดงโชว์มายากลไฟนั้นอีก "

    " ...อันนั้นทำเอาตกใจแทบแย่เลยล่ะค่ะ นึกว่าจะไหม้จริงๆซะอีก "

    " ก็ไหม้จริงๆน่ะสิ! ดีนะที่อาจารย์เอรุน่าเตรียมถังดับเพลิงมาไม่งั้นยุ่งกันเลยนะ "

      อีกด้านนึกระหว่างทางสถานีรถไฟในเมือง ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่จะมาคอยรับส่งนักเรียนและบุคลากรไปยังที่ต่างๆภายในเกาะแห่งนี้ เด็กสาวสองคนที่ยืนคุยกันระหว่างรอรถไฟ พวกเธอพูดคุยกันเรื่องปิดเทอมที่ผ่านมากันซึ่งเป้นปิดเทอมที่วุ่นวายเพราะผอ.โรงเรียนกันเป็นอย่างมาก 

    " อ่ะ? อรุณสวัสดิ์ริโอะ และก็รุ่นพี่เคียวโกะด้วย "

    " อรุณสวัสดิ์ค่ะ / จ้ะ " 

     ทั้งสองกล่าวทักทายกับคนที่เดินมาทักทายพวกเธอก่อน นั้นคือหนึ่งในเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆห้องอย่างคุโมสึยะ นัทสึคิ เด็กหนุ่มผู้อ่อนโยนและสุขุม เขาเป็นเพื่อนสนิทของริโอะมาตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ มีเขาคนเดียวเท่านั้นที่มักจะตามความคิดและการกระทำของริโอะได้เสมอ แม้จะไม่ทุกครั้งไป

    " ทำไมวันนี้ถึงไปโรงเรียนช้าจังล่ะนัทสึคิ? ปกติมักจะไปก่อนพวกเราหน่อยนินา? " เคียวโกะเอยถาม

    " อ่อ พอดีลืมของไว้น่ะครับ เลยแวะกลับไปเอา "

    " เห้? นึกว่าจะมีงานทำจนโต้รุ่งซะอีกนะ " ริโอะยกมือป้องปากก่อนจะยิ้มอ่อนๆแซว

    " เปล่านะ ว่าแต่แล้วเด็กๆเธอล่ะ? " นัทสึคิตอบกลับไปก่อนจะเอยถามถึงแมวน้อยสองตัวของริโอะที่เธอมักจะนำไปไหนมาไหนด้วยเสมอ

    " หลับอยู่น่ะ เดี๋ยวก็คงตื่นเองนั้นแหละ ถ้าไปถึงโรงเรียนแล้วน่ะ " 

    " นี่ๆ ตอนนี้น่ะอย่าเพิ่งคุยกันเลยรีบๆขึ้นรถไฟได้แล้วเดี๋ยวก็สายหรอก "

      เคียวโกะเอยแทรกขึ้นมาทำให้ทั้ังสองหันไปมองประตูรถไฟฟ้าที่เปิดออกกว้างเพื่อรอรับนักเรียนและบุคลากรทุกคน ก่อนจะมีคนรีบเดินขึ้นจำนวนไม่น้อยซึ่งถ้าหากไม่รีบๆขึ้นไปล่ะก็ต้องรออีก15นาทีเป็นแน่ พวกเขาทั้งสามเลยหยุดบทสนทนาไว้ก่อนแล้วรีบเดินขึ้นรถไฟทันที

     

    .............................

     

     ในห้องเรียนที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งระดับชั้นม.ต้นห้อง 4 ยังคงครึกครืนไม่ต่างเช่นปีก่อนเลยสักนิด ในขณะชายหนุ่มผมสีเขียวเข้มกำลังเดินหาที่นั่งประจำของตนอยู่นั้น ด้วยความที่ว่าเขานั้นไม่ได้ระวัง เขาดันชนเข้ากับหญิงสาวร่างบางคนหนึ่งเข้าเต็มๆจนเธอล้มลงกับพื้น ส่วนตนนั้นแค่เซถอยหลังแล้วยันโต๊ะยาวที่ยู่ข้างๆเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปกับพื้น

     " ขะ----ขอโทษครับ! คุณ....อา เป็นอะไรหรือเปล่า? " หยาง มู่หลง เอยถามอย่างเป็นห่วงแม้ตนจะยังทรงตัวเองยังไม่อยู่จนต้องเกาะโต๊ะเรียนข้างๆช่วยในการทรงตัวอยู่ก็ตาม เขาช่วยเธอลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยการจับมือของเธอไว้แล้วดึงเธอขึ้นมา ดวงตาสีไพลินงามเงยขึ้นสบกับดวงตาสีน้ำทะเลนั้นด้วยแววตางุนงง  หลังจากที่เธอโดนพยุงขึ้นมาได้ไม่นานก็พูดตอบกลับไปทันที

     " ไม่เป็นไรค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ "

    " อะ....อา ครับ " เขาพยักหน้าให้เล็กน้อย ไม่นานเธอก็เดินจากไปในทันที เหม่อมองแผ่นหลังบางที่ถูกเส้นผมสีขาวบริสุทธิ์ที่เพิ่งถูกปัดขึ้นมาให้ปรกไปทางด้านหลังของเธอ

    “ เธอคนนั้นอยู่ห้องเดียวกันสินะ... “

     เขาพูดกับตัวเองอย่างแผ่วเบาก่อนจะก้มเก็บบางอย่างที่เหมือนจะเป็นสมุดเย็บลวดเล่มบางๆสีปีกกาที่มีลายมือที่ถูกเขียนไว้ว่า ‘ Nami Shiyobi’ แต่เขาดันไม่รู้จัก...พอลองเปิดดูเพียงหน้าแรกดูว่ามันเป็นสมุดอะไร ก็เห็นว่ามีแต่ลายเส้นดินสอที่วาดหญิงสาวผมทวินเทลสูงกำลังฉีกยิ้มร่าอย่างน่ารักน่าชังเอาไว้พร้อมกำกับด้วยลายเซ็นของเจ้าตัว

    ...สวยจังแหะ คนที่ชื่อนามิ...ชิโยบิเนี่ยวาดรูปสวยขนาดนี้เชียวเหรอ?

     มู่หลงดูสมุดได้ไม่นานก่อนจะปิดมันลง มันคงแย่หากไปเปิดดูอะไรซีซั่วหากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ มันจะใช่ของหญิงสาวเมื่อครู่หรือเปล่านะ?  หากใช่คงต้องรีบนำไปคืนเสียแล้วแต่หากไม่เขาคงต้องหาคนที่เดินผ่านโต๊ะนี้เสียแล้ว แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวต่อเสียงสัญญาณเริ่มเรียนก็ดังขึ้น พร้อมๆกับอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามาภาพในห้องแล้วเสียด้วย

     เมื่อเป้นเช่นนั้นเขาจึงต้องเก็บสมุดสีปีกกานั้นลงกระเป๋าตนก่อนจะรีบวิ่งหาที่นั่งของตนให้วุ่นจนในที่สุดก็หาเจอจนได้ เสียงเอกสารที่มัดไว้หลายฉบับเคาะลงบนโต๊ะพื่อหวังจะให้จัดเรียงให้เอกสารเข้าทาง อาจารย์หนุ่มแย้มรอยยิ้มบางๆให้เล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงดังเพื่อให้ฟัง

    “ เอาล่ะนักเรียนห้อง 4 ทุกคน... วันนี้ครูจะเริ่มแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักนะ !

    ……………….

     

     หลังความวุ่นวายภายในห้องเรียนจบลงพร้อมกับการแนะนำตัวของรุ่นน้องปี1 ครูก็ปล่อยคาบให้ทำอะไรก็ได้ทันที จะเรียกว่าไงดีเหมือนกับโรงเรียนนี้ปล่อยให้เรียนด้วยตัวเองเสียมากกว่า ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถาม แล้วจะสอนต่อเมื่อนักเรียนในระดับชั้นนั้นๆเริ่มถามคำถามเดิมมากๆ  ก็จะเปลี่ยนมาเข้าสู่โหมดสอนบนกระดานทันที หากปีอื่นที่คิดว่าเก่งแล้วหรือไม่อยากฟัง ก็สามารถทำแบบฝึกต่อได้โดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาฟัง ระบบการสอนแบบนี้จะเป็นเฉพาะรายวิชาคณิตศาสตร์  และภาษาอังกฤษ ส่วนวิชาพละสุขศึกษา ดนตรี การงานอาชีพ และพวกภาษาประเทศต่างๆ จะใช้ระบบสอนร่วมกันทั้งระดับ  ส่วนวิชาอื่นๆอาจจะเป็นการแยกไปเรียนตามระดับบ้างก็มี  ทุกๆวันจะมีคาบอยู่สองคาบสุดท้ายเท่านั้นที่จะเป็นคาบส่งเสริมอาชีพของเหล่านักเรียนและส่งกิจเรรมต่างๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะเรียกเป็น ชมรม  ล่ะนะ

     

       การเลือกลงชมรมของพวกเขาก็มักจะถูกให้กรอกคราวๆในแผ่นกระดาษแข็งใบเล็กๆสองแผ่นที่ให้มา  แผ่นหนึ่งเป็นสีเหลืองไว้สำหรับเลือกชมรมได้เสร็จก็ต้องเอาไปให้อาจาย์ที่ปรึกษาชมรมนั้นๆรับไว้ ส่วนใบสีชมพูนั้นไว้สำหรับให้หัวหน้าแผนกและชมรมเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนอีกครั้ง

     

     แน่นอนว่ากว่าจะหาชมรมที่ตรงกันกับความชอบและความสามารถของตนเองได้ต้องมีอาการลังเลอยู่ไม่มากก็น้อยเช่นกัน

     

     มิคาเอล เวสต์ เลือกที่จะไม่สนใจแผ่นกระดาษสองแผ่นที่หัวหน้าห้องเขาแจกให้มาเลยแม้แต่น้อย คิดแค่ว่าคงจะลงพวกกีฬาเหมือนปีก่อนเหมือนเดิมนั้นแหละ หรือไม่ก็อาจจะเปลี่ยนไปชมรมบาสหรือว่ายน้ำบ้างก็ดีเช่นกัน

     

      ไม่นึกว่าเปิดเทอมใหม่มานี้พวกเด็กๆปี1จะเยอะขนาดนี้ล่ะนะ  แต่เดี๋ยวก็เหมือนกับปีก่อนอยู่ดีที่ก็มีคนออกจากโรงเรียนกลางคั่นบ้างล่ะ โดนพักการเรียนกลางเทอมบ้างล่ะ ดูยังไงถึงแม้โรงเรียนนี้จะดูแปลกแต่ก็คงไม่แปลกเกินกว่าโรงเรียนปกติหรอกน่า

     

     ...ละมั้งนะ

     

      ความคิดส่วนนึงถูกลบออกไปในทันทีโดยเฉพาะกับคำว่า ปกติ ! เขาอาจจะยังมองโลกในแง่ดีอยู่ก็ได้หากไม่พบเจอกับเด็กสาวผมสองสีที่เหมือนจะเห็นลางๆว่าอยู่ห้องเดียวกับเขาในปีนี้ เธอแต่งตัวประหลาดและแปลกตา เครื่องแบบนักเรียนที่เคยเป็นแบบธรรมดาถูกปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะกระโปรงลายสก็อตที่ฟูฟองกว่าปกติ บริเวณใต้ตาซ้ายมีอะไรสักอย่างสีแดงๆ บนศีรษะของเด็กสาวมีเครื่องประดับเล็กๆนั้นคือมงกุฎเล็กๆที่เอามากระดับไว้

      เธอดูโดดเด่นกว่าใครพอดูคราวๆเปรียบเหมือนราชินีที่หลุดมาจากโลกแฟนตาซีแล้วมาอยู่โรงเรียนนี้ยังไงอย่างงั้น บุคลิกของเธอดูราวกับคุณหนูตะกุลผู้ดีโดยสมบูรณ์ หากแต่งนิสัยหลงตัวเองนิดๆหน่อยๆกับคำพูดชวนหมั่นไส้นิดๆจนเหมือนกับว่าเธอกำลังอินกับการเป็นราชินีจริงๆยังไงอย่างงั้น

     

      โดยปกติเขาก็มักจะทำเมินกับเธอบ่อยๆในตอนที่อยู่ในห้องก็ตาม ยอมรับว่าเธอคือตัวสร้างสีสันและระดับความคิดเกี่ยวกับโรงเรียนของเขาเปลี่ยนผันไปโดยสิ้นเชิงทันที

     

     ตอนนี้เขาพบเธอที่โต๊ะยาวในโรงอาหารซึ่งเธอกำลังอยู่กับรุ่นน้องม.ต้นคนหนึ่งกำลังพูดคุยเรื่องอะไรสักอย่าง อย่างสนุกสนานจนฝ่ายราชินียิ้มร่า ถึงขั้นลุกขึ้นพรวดพราดแล้วชี้นิ้วไปทางรุ่นน้องจนถูกเป็นเป้าสายตาจากหลายๆคนในที่นั้นเป็นอย่างมาก

     

    ....จะว่าโรงเรียนแปลกมันก็ไม่เชิงแต่ นักเรียน นี่ท่าจะหนักกว่า.....

     

    …………………………..

     

       (รีไรท์ 40%)


    TALK

     ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจัดกลุ่มให้เด็กๆค่ะ จะจัดว่าใครสนิทกับใครดีล่ะค่ะ55555+ มันอาจจะสั้นไปสักหน่อยนะคะเพราะกำลังเกิดอาการลังเลนิสัยหน่อยๆคะ

    บางคนที่ยังไม่มีบทก็จะเป็นพวกคลาสที่2กับคลาสอื่นๆ  ซึ่งอาจจะตามมาหลัง 60 %ที่เหลือค่ะ! อย่าเสียใจไปนะคะ

    โอเคจะขอเวลาไปปั่นอีก 60% ที่เหลือก่อนนะคะYvY หากเจอคำผิด / พิมพ์ตกหล่นไป สามารถทักได้นะคะ!




    [ เพิ่มเติม ]

    อันนี้คือส่วนชุดนักเรียนคราวๆเผื่อใครนึกชุดไม่ออกนะคะ

    จะมีตราโรงเรียนเป็นสัญลักษณ์อยู่ด้านซ้าย

    ผู้ชายจะแค่เปลี่ยนจากโบเป็นเนคไท / เปลี่ยนกระโปรงเป็นกางเกง

    โบ/เนคไทจะเป็นสีตามระดับ

    ม.ต้น              ม.ปลาย

    ปี1 สีฟ้า           สีแดง           

    ปี2 สีส้ม           สีเขียว

    ปี3 สีน้ำเงิน       สีน้ำตาลแดง

          /หรือม่วง

     


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×