คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หยอดครั้งที่ 2 : คนๆนั้นเป็นคนรักของเขา เเต่เขาไม่ได้เป็นคนรักของคนๆนั้น
หยอดครั้งที่ 2
‘คนๆนั้นเป็นคนรักของเขา เเต่เขาไม่ได้เป็นคนรักของคนๆนั้น’
ปาร์คชานยอล เป็นทั้งเดือนมหาลัยเเละเดือนคณะดุริยางค์ เรียนเอกกลองมีความสามารถทางดนตรีที่โดดเด่นอีกทั้งยังมีหน้าตาเป็นจุดขายมีค่ายเพลงหลายค่ายที่ติดต่อมาหา เเต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธเเละยืนยันว่าจะเรียนให้จบก่อน ด้วยความที่มีหุ่นที่ค่อนข้างดีเลยมีงานถ่ายเเบบบ้างเล็กน้อยเเต่ปาร์คชานยอลก็เเค่ทำเหมือนมันเป็นงานอดิเรกเพียงอย่างนึงไม่คิดจะเอามาทำเป็นอาชีพจริงๆจังๆ มีก็เเต่ทำวงเล่นตามร้านอาหารบ้างเเต่ที่ทำก็เเค่อยากสนุกกับเพื่อนๆเท่านั้น
นอกจากหน้าตาที่เป็นจุดขายยังมีนิสัยที่ใครๆก็ต้องหลงรัก ทั้งเฟรนด์ลี่ เป็นกันเอง ไม่ถือตัวเเละไม่หยิ่ง เเถมยังปากหวานเเละขยันปล่อยมุกเเป้กๆอีกต่างหากจึงทำให้เป็นที่รักของทั้งเพื่อนๆเเละอาจารย์
"ไหนละวะข้อเสีย!!" ร่างเล็กๆจ้องหน้าจอโน๊ตบุ๊คลูกรักจนตาเเทบถลนเมื่อเปิดหาดูประวัติมัน พอเสิร์ชปุ๊ปก็มียาวเป็นหางว่าวเเถมมันยังมีกลุ่มเเฟนคลับอีกต่างหาก เเต่ยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิด
ข้อเสียมันอยู่หนใด!!!!!
ที่ต้องมานั่งปวดหัวอยู่เเบบนี้ก็เพราะว่าตอนนี้มันก็ผ่านมาอาทิตย์นึงเเล้วตามที่ไอเเพนด้าบอกเเต่เรื่องของปาร์คชานยอลยังคงดังมากระทบโสตประสาทผมอยู่บ่อยครั้ง
โอเค..มันเป็นถึงเดือนมหาลัยที่มีเเฟนคลับจะมีคนพูดถึงคงไม่แปลก..
เเต่เเม่งมีชื่อผมอยู่ในประโยคด้วยไงประเด็น!!
"ไอจื่อเทา...กูไม่อยากไปมหาลัยเลย.."ผมฟุบหน้าลงไปบนที่กับหมอนเเบบที่ชอบทำพูดเสียงอู้อี้ให้คนที่นั่งพิมพ์รายงานอยู่อีกเตียง
"ทำไมล่ะ"
"มึงยังจะถามอีกหรอ.."ผมพูดเสียงเหนื่อยหน่ายเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว
"เรื่องที่ปาร์คชานยอลมาดักรอมึงหน้าคณะทุกวันอ่ะหรอ"
"เออสิ! เเล้วงี้กี่ปีกี่ชาติเรื่องกูจะเงียบซักทีละว้า.."ร่างเล็กว่าน้ำเสียงเศร้าๆตาคมของเพื่อนสนิทเหลือบมองคนที่พลิกตัวขึ้นมานอนก่ายหน้าผากมองเพดาน
ฟึ่บ
เเรงยุบของเตียงเเถวๆปลายเท้าทำให้ผมรู้ว่าอีกคนย้ายตัวมานั่งที่นี่เเล้ว มันเอามือเกาตรงฝ่าเท้าผมเบาๆจนผมต้องชักหนี
"เล่นไรของมึงเนี่ย!"ผมเอ็ดมัน คิ้วก็ยังคงขมวดมุ่นถึงเเม้ผมจะดูเป็นคนไม่คิดมากเเต่จริงๆเเล้วเป็นคนที่ค่อนข้างเเคร์กับเสียงของคนรอบตัวเสมอเเม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม
"ไอจื่อเทา!!"ผมท้วงมันอีกรอบเด้งตัวขึนมานั่ง จ้องตาดำๆของมันนิ่งตอนนี้ผมเเม่งหงุดหงิดเเม่งทุกอย่าง
"เหวี่ยงกูสิ"
ผมชะงักเท้าที่กำลังจะชักหนีมือมัน ดวงตาคมจ้องเข้ามาในตาผม ปากบางๆของมันขยับยิ้มอ่อน
"เหวี่ยงกูสิเเบคฮยอน"
"กู.."
"กูไม่ชอบเวลามึงคิดมากเลย.."
"คือกู.."ร่างบางทำท่าอึกอักจนอีกคนที่นั่งอยู่เอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้เเน่นก่อนจะบีบเบาๆราวกับจะบอกว่า
กูยังอยู่ข้างมึงนะ..
"มึงไม่ต้องไปสนใจเสียงคนอื่นหรอก ไม่เป็นเพลย์บอยก็ไม่เป็นไร ถึงจะถูกมองว่ามีผัวไปเเล้วก็ไม่เป็นไร ขนาดมึงเป็นควายในร่างคนกูยังรับได้เลย"
"คือกู.."
"มึงไม่ต้องห่วงนะ เรื่องปาร์คชานยอลเดี๋ยวจื่อเทาคนนี้ไปจัดการให้"
"ไอเทา.."น้ำตาผมเเทบไหลไม่คิดว่ามันจะรักเพื่อนขนาดนี้
"หืม..ว่าไง"
"ขอบควยมากไอเพื่อนรัก"
พลั่ก!
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่จื่อเทาได้ยินก่อนที่ร่างกายจะเคว้งอยู่ในอากาศโดยเเรงบาทาของเพื่อนรักตัวเล็กที่เเรงไม่เล็กตามตัว เเละอีกไม่กี่วิต่อมาตัวก็ตกกระทบลงกับพื้นระหว่างเตียงหัวก็โขกขอบโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องดังโป้ก
เรื่องนี้สอนให้จื่อเทารู้ว่า...
ไม่ควรไปเเหย่เเบคฮยอนตอนโกรธเล่น
อาเมน..
แปลก..
วันนี้ทั้งวันไม่เห็นเเม้เเต่เงาของปาร์คชานยอล คือจะว่าดีมันก็ดีเเต่มันก็แปลกอยู่ดีนั่นเเหละ
"ไอจื่อเทา"ผมใช้เท้าสะกิดมันเบาๆ
"หืม?"
"มึง..เอ่อ..ได้ไปคุยอะไรกับไอชานยอลรึเปล่า?"ไอจื่อเทาวางหนังสือลงก่อนจะถามกลับ
"ทำไมถึงคิดอย่างนั้น"
กูไม่ได้ถามเพื่อให้มึงถามกูกลับนะ..
"ก็วันนั้นมึงบอกกูว่ามึงจะไปจัดการเรื่องปาร์คชานยอลให้ไง"ผมพูดด้วยท่าทีเป็นกังวล ไอคำว่าจัดการของจื่อเทาเนี่ยต้องไม่พ้นการใช้กำลังวูซูอะไรของมันเเน่ๆ
"เออ กูเเค่บอกว่าไม่ให้มายุ่งกับมึงก็เเค่นั้น"
"เเค่นั้นเเน่นะ?"ร่างเล็กถามย้ำ จื่อเทาไม่ตอบเพียงเเค่พยักหน้าให้เป็นการยืนยัน
เเบคฮยอนถึงกับโล่งอก ตอนเเรกคิดไปไกลว่ามันโดนไอจื่อเทาซ้อมตายห่าไปแล้ว
"กูไปก่อนนะ วันนี้กูต้องไปทำโปรเจคกับเพื่อน"จู่ๆไอจื่อเทาก็พูดขึ้น ผมพยักหน้าอย่างมึนๆ ร่างสูงของมันก็ลุกขึ้นโบกมือให้ผมเล็กน้อยเเล้วเดินออกไป
มันไปมีโปรเจคตอนไหนวะ?
"แบคฮยอน"เสียงเรียกที่ไม่ดังมานักดังมาจากด้านหลัง พร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆ ผมหันขวับไปมอง
ตัวโย่งๆผมเทาๆหูกางๆตาโปนๆ
โอ้โห ชัดเจน
ผมลุกขึ้นทันที เเต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาไปไหนไกลก็ถูกมือกร้านจากการเล่นดนตรีคว้าหมับเข้าที่เเขนเสัยก่อน ผมที่กำลังจะหันไปอ้าปากด่ากลับต้องชะงักค้างกลางอากาศเมื่อได้มองหน้ามันชัดๆ
ใบหน้าที่ใครๆก็บอกว่ามันดูดีนักหนาเต็มไปด้วยแผลฟกช้ำ มีทั้งม่วงๆเขียวๆดูน่ากลัว
"มึงไปโดนอะไรมาวะ?"ความคิดที่จะด่าถูกถีบกระเด็นออกไปจากหัวเเล้วถูกเเทนที่ด้วยความสงสัย
ชานยอลส่ายหน้าไปมาก่อนจะยิ้มโชว์ฟันดึงคนที่ยืนขมวดคิ้วให้ลงมานั่งข้างๆกัน
"เเค่ไปมีเรื่องนิดหน่อยเอง เเล้วนายกินอะไรมารึยัง?"เขาว่าอย่างไม่ทุกข์ร้อน เเถมยังยิ้มไปพูดไปอีกต่างหาก
"มึงยังจะยิ้มอีกหรอวะ!"ผมเริ่มตวาดมันเสียงดัง ถ้าหน้ามันเบี้ยวขึ้นมาอนาคตมันอาจดับได้เลยนะเว้ย มันยังจะยิ้มเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีก เเค่รอยสิวกูยังเครียดเลย
"หรือว่า.."รอยยิ้มกว้างของมันถูกหุบลงเเต่กลับเเทนด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มเเทน
"หรือว่าอะไร"
"เป็นห่วงผมล่ะสิ"มันว่าเเล้วยิ้มล้อ
เป็นห่วง..?
"ห่วงพ่อมึงสิปาร์คชานยอลลลล!!"
"ทำไมกูต้องมากับมึงด้วยวะเนี่ย!"ผมพูดไปก็ปวดหัวไป หนีมันอีท่าไหนไม่รู้กลายเป็นโดนมันลากมาห้าง พามากินข้าวเเถมตอนนี้กำลังจะถูกพาไปดูหนังอีกต่างหาก
ปาร์คชานยอลมันร้าย!
เห็นผมเป็นคนคล้อยตามคนอื่นง่ายหน่อยไม่ได้ พอหาเรื่องจะพาตัวเองกลับมันก็ชวนเข้าเรื่องอื่นพาผมออกทะเลไปด้วย ไปๆมาๆมาโผล่นี้ซะเฉยๆ
เอาจริงๆมันก็ไม่ได้เเย่อะไร รสนิยมของพ่อค้าหมี่เกี๊ยวก็ไม่ได้เเย่อะไรมากมายด้วย จริงๆเเล้วทุกอย่างมันก็ถามผมหมดถามจนเริ่มรำคาญ
"เเบคฮยอนชอบป็อปคอร์นรสไหนครับ?"
"ชีส"
"เเล้วหวานละ"
"ก็กินได้"
"เค็มล่ะ"
"ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่"
"อืมๆ"เขาพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสั่งป็อปคอร์นกับพนักงาน
ตอนเเรกก็กะจะชิ่งหนีมันนะ เเต่พอเห็นมันพยาย๊ามพยายามลากผมมา เห็นเเก่มันหน่อยจะอยู่ดูเป็นเพื่อนซักวันละกัน..
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาค่ำๆ จริงๆเเล้วผมไม่ได้ขายหมี่เกี๊ยวเป็นอาชีพหรอกครับ เพียงเเต่วันนั้นเป็นวันหยุดด้วยความเป็นลูกกตัญญูเลยไปช่วยพ่อเเม่ทำงาน ครอบครัวผมก็ไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่เห็น ผมเคยบอกให้พวกท่านพักงานเพราะผมก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่พอให้พวกท่านใช้ได้สบายๆ เเต่พวกท่านก็ยังยืนกรานที่จะทำต่อไปและจะไม่รับเงินผมจนกว่าผมจะเรียนจบ นั่นเป็นเหตุผลที่ตอนนี้ผมมุ่งเรียนอย่างเดียว
"เข้าเรื่องเลยนะปาร์คชานยอล"ฮวังจื่อเทา เพื่อนสนิทของเเบคฮยอนคนที่ผมตามจีบอยู่ ผมจำเเม่นเลยเเหละยิ่งถุงใต้ตาดำที่เหมือนหมีเเพนด้านั่น
"ครับ?"ผมรับคำเขาอย่างงงๆ
พลั่ก!
จื่อเทาปล่อยหมัดลุ่นๆใส่หน้าอีกฝ่ายเป็นให้เป็นคำตอบ ร่างสูงของหนุ่มนักดนตรีล้มลงไปกับพื้น เเต่ยังไม่ทันที่จะอ้าปากท้วงอะไรจื่อเทาก็ตามขึ้นไปทับคว้าคอเสื้อขึ้นมาก่อนจะปล่อยหมัดไปอีกหลายครั้ง
ตอนนี้ชานยอลทั้งมึนเเละงง ภาพข้างหน้าเริ่มเลือนลางลงทุกที ได้เเต่ยกเเขนขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวอย่างที่สัญชาตญาณสั่งให้ทำ รสคาวเลือดเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆในโพลงปาก
"เห้ย! ทำอะไรน่ะ!!!"
"ชิ! จำไว้นะปาร์คชานยอล! อย่ามายุ่งกับเเบคฮยอนอีก!!"จื่อเทามองหน้าผู้มาใหม่อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะทิ้งท้ายไว้เเค่นั้นเเล้วลุกขึ้นวิ่งออกไป
"เห้! ชานยอล! ชานยอล!"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับเงาใครคนนึง ตากลมพยายามกระพริบตาเพื่อมองหน้าอีกฝ่ายให้ชัดๆเเต่เพียงเเค่ขยับนิดเดียวก็ระบมไปทั้งหน้าเเล้ว
จนสุดท้ายสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ดับลง รู้สึกได้ว่าเหมือนมีใครคนนึงอุ้มเขาไปที่ไหนซักเเห่ง
"อืม.."
"ตื่นเเล้วหรอ ลุกไหวไหม"เสียงทุ้มต่ำที่เหมือนก่อนหน้านี้ดังขึ้น ผมค่อยๆยันตัวขึ้นนั่งไม่ได้มีอาการปวดหัวอะไรมีเเต่ความรู้สึกปวดหนึบๆบนโหนกเเก้ม
"รุ่นพี่.."ผมพูดชื่อเขาเบาๆ เขายิ้มอ่อนก่อนจะเดินมานั่งปลายเตียง
พี่คริส..
"พี่เอง เเล้วเราไปทำอีท่าไหนถึงโดนไอเหี้ยนั่นกระทืบได้ล่ะเนี่ย"ปาร์คชานยอลทำท่านึกถึงเหตุการ์ณก่อนหน้านี้เเต่ก็ต้องส่ายหัวให้อีกฝ่าย
"คงเป็นเพราะผมไปยุ่งกับคนรักของเขาละมั้งครับ"
"ชานยอลเนี่ยนะ?"คริสทวนคำพูดอย่างไม่เชื่อหู
"แหะๆ ผมคงไม่ดูให้ดีๆเองเเหละ"คนเจ็บได้เเต่เกาหัวเเกร็กๆเเล้วส่งยิ้มเเห้งๆไปให้คนเป็นรุ่นพี่ที่มำหน้าดุอยู่
"เเล้วจะเอายังไงต่อ"
"ก็คงเดินหน้าจีบมั้งครับ"ชานยอลยิ้มโชว์ฟัน คำตอบนั่นทำให้คิ้วเข้มของคนฟังกดลงอย่างหงุดหงิด
"ไหนบอกเขาเป็นคนรักกันไง"ชานยอลไม่ใช่คนที่ชอบไปแย่งของๆคนอื่นอยู่เเล้วอย่างน้อยคริสเชื่ออย่างนั้น
"ก็คนๆนั้นเป็นคนรักของเขา เเต่เขาไม่ได้เป็นคนรักของคนๆนั้นนี่ครับ"ร่างสูงพูดด้วยท่าทีสบายๆก่อนจะลุกขึ้นยืนจากเตียงเดินไปเช็คแผลบนหน้าในกระจกซักหน่อย
"เเล้วผมก็ไม่คิดว่าผมจะเเพ้เขาหรอกนะพี่"ร่างสูงพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ โบกมือลารุ่นพี่เล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูออกไป
คริสได้เเต่นั่งมองแผ่นหลังที่เดินลับออกไปจากห้องด้วยเเววตาว่างเปล่า เเต่ก็ต้องชะงักเมื่อประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง
"เอ้อพี่คริส!!"ตาโตเบิกกว้างเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้
"ขอบคุณนะครับ"
หรือเขาควรพอใจกับสิ่งที่ตัวเองได้รับเเล้วดี..
---------
อะเฮื้อ เม้นขึ้น T^T
ความคิดเห็น