ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ]Pet Story ผมต้องการ 'แมว' [hanchul]

    ลำดับตอนที่ #3 : Pet Story HC 03 ครอบครัวเดียวกัน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 61


    Pet Story HC 03 ครอบครัวเดียวกัน


    เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กผู้ชายทั้ง 3 คน ดังขึ้นเป็นระลอกสลับเสียงหัวเราะผสมปนเปไปกับเสียงลูกแมวอายุราวๆปีกว่า ภายในห้องนั่งเล่นบ้านเด็กน้อยจองซู ก่อนจะถูกขัดด้วยเสียงของใครบางคน

    ฮันเกิง  ฮันเกิงเสียงตะโกนเสียงฮันเกิงดังมาจากบ้านข้างๆซึ่งก็คือบ้านของฮันเกิงเอง

    คุณแทกุกเรียกแล้ว ฮันเกิงเดี๋ยวพี่เดินไปส่งหน้าบ้านนะ เดี๋ยวค่อยกลับมาเล่นกับเจ้าเหมียวใหม่นะจองซูบอกก่อนจะอุ้มแมวไปวางไว้บนโซฟานั่งเล่น

    ทำไมไม่แวะไปบ้านฮันเกิงสักหน่อยล่ะ เราจะยังไม่เคยไปกันเลยนี่คุณจองซูซีวอนเสนอแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปหน้าบ้านก่อนคนแรก อีกสองคนก็ได้แต่มองหน้ากันก่อนส่ายหัวเบาๆแล้วลุกขึ้นเดินตาม

    คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบนะอย่าใส่ใจเลยฮันเกิง

    ครับพี่จองซูฮันเกิงตอบแล้วยิ้มกว้าง

    อ่าว คุณหนูซีวอน อยู่บ้านนี้ด้วยหรอครับ?” แทกุกถามอย่างประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นบุตรชายของผู้เป็นเจ้านายมาอยู่บ้านข้างๆ แถมยังเดินอยู่กับ ลูกชายของลูกน้องหุ้นส่วนอย่างฮันเกิง ไม่คาดคิดว่าเด็กพวกนี้จะคุยเล่นกัน ตอนแรกที่เหลินฉินบอกให้เขาเดินมาตามฮันเกิงที่บ้านหลังนี้ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมมาอยู่ที่บ้านหลังข้างๆ

    ก็มาเรียนพิเศษกับคุณจองซูเป็นปกตินะครับ

    จองซูลูกชายของเลขาท่านประธานคุณโบอาสินะครับ?”

    ใช่ครับ นั่นแม่ผมเองจองซูที่เดินตามมาทีหลังเป็นฝ่ายตอบเสียเอง

    ฮ่าๆ ยินดีที่ดีได้รู้จักนะ ดูดีเหมือนแม่ไม่มีผิดเลย

    เอ่อ...คุณแทกุกเรียกฮันเกิงทำไมหรอครับ

    อ่า ใช่ลืมไปเลย เหลินฉินให้มาตามไปกินข้าวนะ จองซูกับคุณซีวอนก็เข้ามาทานด้วยกันนะครับ ทานหลายๆคนจะได้อร่อย”  แทกุกว่าพร้อมกับเดินเปิดประตูให้กับเด็กทั้ง3คน คว้าข้อมือฮันเกิงแล้วพาทุกคนเดินเข้าไปในบ้าน

    อ่าว เด็กๆมากันครบเลยเหลินฉินพูดเมื่อเห็นทุกคนเดินเข้าไปในครัว ขณะนี้เขากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมโต๊ะอาหารอยู่

    คุณทำเองหมดนี่เลยหรอครับ?” จองซูถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะปริมาณอาหารที่วางเรียงรายอยู่เบื้องหน้านั้นหลายอย่างมาก ไม่เหมือนปริมาณอาหารที่กินกัน 2-3 คนเลย

    ไม่หรอกคุณแทกุกช่วยทำด้วยนะ

    น่าแปลกนะครับ คุณแทกุกผู้ช่วยของคุณพ่อที่งานยุ่งจนแทบไม่ค่อยได้เฉียดเข้าบริษัทมาทำอะไรแถวนี้?” จู่ๆซีวอนที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยขึ้น จนทุกสายตาหันไปมองที่แทกุกคนเดียวอย่างอัตโนมัติ

    แปลกตรงไหนครับ ตอนนี้ผมต้องมาช่วยประสานงานกับคุณเหลินฉินจนกว่างานทั้งหมดจะเข้าที่เข้าทางแทกุกตอบอย่างไปไม่ใส่ใจก่อนจะเดินไปช่วยเหลินฉินเตรียมโต๊ะอาหาร

    คุณจองซูคิดว่ายังไงดีครับซีวอนหันมากระซิบกระซาบกับจองซูโดยที่สายตาไม่ละจากผู้ใหญ่2คนเบื้องหน้า

    เรื่องแบบนี้คงให้คำตอบไม่ได้หรอกครับ มันไม่ใช่เรื่องของพวกเราแล้วมันก็ออกจะเร็วไปสักหน่อยที่พวกเราจะมาสนใจเรื่องพวกนี้นะครับคุณซีวอน

    ไม่เห็นต้องเคร่งขนาดนั้นก็ได้นี่ครับคุณจองซู จริงไหม? ฮันเกิงซีวอนหันไปหาฮันเกิงที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อหวังจะหาแนวร่วม

    ห๊ะ อะไรนะครับพี่ซีวอน?”

    อะไรกันฮันเกิงนี่นายไม่ได้ฟังที่พวกเราพูดกันเลยงั้นหรอ?” ซีวอนหลี่ตามองฮันเกิง แต่ฮันเกิงกลับเอาแต่มองไปข้างนอกหน้าต่าง

    มองอะไรงั้นหรอฮันเกิงจองซูถามฮันเกิงอย่างสงสัย

    ผมเห็นแมวตรงต้นไม้หลังหน้าต่างนะฮะ เดี๋ยวผมมานะว่าแล้วร่างเล็กๆของฮันเกิงก็วิ่งออกประตูหลังบ้านไป วิ่งตรงไปที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าต่าง ส่วนซีวอนกับจองซูแค่มองตามหลังแต่ไม่ได้เดินตามไปเลือกที่จะนั่งลงตรงโต๊ะอาหาร

    อ่าว ไปซะล่ะลูกชายคนนี้เห็นแมวเป็นไม่ได้เลยเหลินฉินบ่นพึมพำเบาๆแต่ทุกคนก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน

    ฮันเกิงชอบแมวมากขนาดนั้นเลยหรอครับ?” จองซูถามอย่างข้องใจ

    มากๆเลยล่ะ เมื่อตอนที่อยู่จีนจะมีแมวจรจัดเดินผ่านแถวที่พักของผมบ่อยๆ ฮันเกิงก็จะวิ่งไปเล่นกับแมวพวกนั้นตลอด บางตัวก็เล่นด้วยบางตัวก็วิ่งหนี เคยมีวิ่งตามจนตัวเองหกล้มเลยก็มีนะครับเหลินฉินเล่าพร้อมกับนึกถึงภาพเมื่อตอนที่ฮันเกิงเพิ่งจะหัดวิ่งได้ไม่นาน วิ่งตามลูกแมวจนตัวเองหกล้มแต่กลับไม่ร้องไห้เลยแม้แต่นิดเดียวกลับพยายามจะลุกขึ้นวิ่งตามลูกแมวต่ออีกเสียด้วยซ้ำ

    ฮ่าๆ เชื่อเลยครับว่าชอบแมวจริงๆ ไม่แปลกใจเลยล่ะครับทำไมถึงเรียบร้อยใจดีแบบนี้จองซูว่า

    เด็กๆชมกันเองซะแล้ว ทานข้าวกันเลยเถอะครับ เดี๋ยวฮันเกิงก็คงมาแทกุกว่าพร้อมตักข้าวให้กับทุกๆคนรวมถึงของฮันเกิงที่ยังไม่กลับมาด้วย

    ~ Pet Story HC ~

    ทางด้านฮันเกิงที่วิ่งออกมานอกบ้านก็ปีนขึ้นต้นไม้เพื่อตามหาลูกแมวทันที ก็พบลูกแมวตัวสีขาวสะอาดยืนเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ยิ่งฮันเกิงขยับตัวไปใกล้เจ้าลูกแมวก็ดูเหมือนว่าทำท่าจะร่วงอยู่ตลอดเวลา

    อยู่นิ่งๆนะเจ้าแมวน้อยฮันเกิงบอกกับลูกแมว แต่ดูเหมือนจะทำให้ลูกแมวตกใจเสียจนเกือบตกลงไปด้านล่าง โชคดีที่ลูกแมวตกลงมาบนตักของฮันเกิงเสียก่อน

    แง๊วววววลูกแมวขู่ฟ่อใส่ฮันเกิงพร้อมกับตะปบข่วนมือไม่หยุด

    อย่าสิเจ้าเหมียวนี่ เดี่ยวตกต้นไม้ทั้งคนทั้งแมวพอดีฮันเกิงคว้าท้องแมวเหมียวไว้แน่นก่อนจะค่อยๆปีนลงต้นไม้ด้วยมือข้างเดียว ถึงปกติจะเป็นคนเรียบร้อยแต่เรื่องปีนป่ายต้นไม้นั้นฮันเกิงถนัดมาก แล้วร่างเล็กของฮันเกิงก็วิ่งดุ๊กๆเข้าบ้านไปพร้อมกับลูกแมวในมือ

    ได้แมวกลับมาจนได้นะเรา ไปกอดซะแน่นขนาดนั้นแล้วมันหายจะใจออกไหมเนี่ยหืม?” เหลินฉินหันไปบอกกับฮันเกิงที่วิ่งเข้ามาพร้อมลูกแมว

    ก็มันดิ้นนี่ฮะพ่อ เดี๋ยวมันหนีฮันเกิงว่าพร้อมกับวิ่งเอาลูกแมวขึ้นห้องนอน

    แล้วจะไม่กินข้าวหรอฮันเกิงห่วงแต่แมวจนลืมพวกเราแล้วนะจองซูแกล้งแซวน้องเล็กของกลุ่มอย่างเอ็นดู

    เดี๋ยวฮันเกิงเอาเข้าเหมียวสีขาวนี่ไปไว้บนห้องก่อน แล้วจะกลับมากินข้าวฮะพี่จองซู

    ถ้านายมาช้าฉันจะกินข้าวของนายให้หมดแน่ฮันเกิงซีวอนก็ร่วมวงแกล้งฮันเกิงอีกคนด้วย

    คุณทั้งสองคนนี่ไปแกล้งน้อง เล่นอะไรแบบเด็กๆกับเขาก็เป็นด้วยหรอครับสองคนนี้แทกุกถามจองซูกับซีวอน

    มันก็ต้องมีบ้างนะครับ ผมก็อายุแค่ 13 ปีเรียนแค่เกรด 7 เองจริงไหมคุณจองซู

    ไม่ต้องถ่อมตัวขนาดนั้นก็ได้ครับ คุณซีวอนเริ่มเข้าไปช่วยบริษัทตั้งอายุ 7 ขวบแล้วนี่ก็ผ่านมาตั้ง 6 ปีแล้วนะครับ คุณไม่เหมือนเด็กทั่วๆไป

    แต่เด็กยังไงก็เป็นเด็กนะครับ ไม่ว่าจะเรียนรู้อะไรมากแค่ไหนยังก็มีส่วนที่เป็นเด็กอยู่ อย่าลืมสิครับ

    ผมไม่เถียงกับคุณซีวอนต่อล่ะ เถียงไปมีแต่แพ้กับแพ้แทกุกว่าอย่างขำๆไม่ได้จริงจังอะไร แล้วหันไปกินข้าวของตัวเองต่อมีบ้างครั้งที่ตักกับข้าวให้เหลินฉินบ้าง

    มาแล้วครับ คุยอะไรกันอยู่รึเปล่า?” ฮันเกิงวิ่งลงมาจากห้องนอนตรงลงมาที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งเก้าอี้หน้าถ้วยข้าวตามตำแหน่งที่เหลือไว้ให้ทันที

    แค่บอกว่าถ้านายยังไม่มากินข้าวอีกฉันกับคุณจองซูจะหนีกลับบ้านแล้วนะสิซีวอนยังคงแกล้งน้องไม่เลิก

    โถ่ อะไรกันครับจะรีบกลับไปไหน อุตส่าห์ได้มากินข้าวด้วยกันทั้งทีเป็นไงฝีมือทำกับข้าวพ่อผมอร่อยใช่ไหม?”

    อร่อยสิ นายรีบกินเถอะเดี๋ยวโตไม่ทันพวกเรานะจองซูว่าพร้อมกับตักกับข้าวเต็มจานฮันเกิงเลย แต่เป็นผักเสียส่วนใหญ่

    ทำไมมันมีแต่ผักล่ะครับพี่จองซูฮันเกิงถามแต่ก็ตักกินโดยไม่มีเลือกกินแม้แต่น้อย

    อ่าว ถ้ากินเนื้อก็ตักเองสิฮันเกิง มาใช้พี่แบบนี้ไม่ได้นะหันไปว่าฮันเกิงแล้วจองซูก็ตักเนื้อเข้าปากตัวเองกินอย่างเอร็ดอร่อย

    คุณจองซูไปตักผักที่ตัวเองไม่ชอบให้ฮันเกิงกินแบบนี้มันไม่ดีนะครับซีวอนพูดแล้วยิ้มขำๆก่อนจะกินของตัวเองต่อ

    แล้วฮันเกิงไปปล่อยน้องแมวไว้ยังไงเนี่ยหืม?” แทกุกถามขึ้นมาบ้าง

    อ๋อ เจ้าเหมียวหลับไปแล้วล่ะครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ฮันเกิงปิดประตูหน้าต่างแน่นสนิทไม่มีทางหนีแน่นอนครับ

    ทำแบบนั้นมันขโมยแล้วรึเปล่าฮันเกิง แมวนั้นอาจมีเจ้าของก็ได้เหลินฉินว่า

    ไม่น่านะครับ ถ้ามีเจ้าของอย่างน้อยก็ต้องมีปอกคอ แต่เจ้านี่ไม่มีเลยนะครับ

    ถูกใจล่ะสิ จะเอาตัวนี้หรอ?”

    ไม่ได้หรอครับเป็นการตอบคำถามด้วยคำถามที่คนเป็นพ่อต้องหยุดคิด

    ก็เลี้ยงสิฮันเกิง หมู่บ้านนี้เลี้ยงสัตว์ได้ไม่ต้องห่วงว่าจะผิดกฎซีวอนบอกเหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอกปรายๆ

    แน่ใจหรอว่าตัวเองจะดูแลแมวได้ฮันเกิงถึงเขาจะคิดไว้อยู่แล้วว่าจะหาแมวมาให้ฮันเกิงเลี้ยงสักตัวในตอนแรก แต่ตอนนี้เขายังไม่แน่ใจเพราะว่าตอนนี้ฮันเกิงจะต้องไปโรงเรียนเกือบทุกวัน

    ได้ครับ ให้ผมเลี้ยงเถอะครับ เจ้าเหมียวมันดูน่าสงสารเหมือนจะป่วยเลย

    อ่า เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วเราไปซื้อของใช้สำหรับเจ้าเหมียวกัน

    เอางี้เดี๋ยวฉันพาไปซื้อแล้วกันฮันเกิงแทกุกอาสาเป็นคนพาไป เนื่องจากเหลินฉินยังไม่ได้รับรถยนต์ส่วนตัวจากบริษัท ซึ่งในตอนแรกประธานชเวจะซื้อให้กับเหลินฉินแล้วแต่เขายั้งไว้ก่อนเพราะบางทีทางบริษัทต้นสังกัดของเหลินฉินอาจจะซื้อให้ถ้าทำแบบนั้นอาจจะเป็นการก้าวก่ายจนเกินไป แต่นี่ผ่านมา 2 สัปดาห์กว่าแล้วก็ยังไม่เห็นทางบริษัทที่จีนจะติดต่อมาถึงสวัสดิการตรงส่วนนี้เลย

    ขอบคุณครับคุณแทกุก

    บอกหลายทีแล้วไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ เรียกน้าจะดีกว่านะดูไม่ห่างเหินดีแทกุกบอกพลางยิ้มให้ฮันเกิง

    แหมทีกับพวกผมไม่เห็นมีแบบนี้เลยนะครับจองซูมีแอบแซวแทกุกเล็กน้อย

    กับพวกคุณผมไม่ค่อยได้เจอเลยนี่ครับ เจอกันทีก็ไม่กี่นาที

    แต่กับฮันเกิงจะเจอบ๊อยบ่อยเลยสินะครับซีวอนพูดต่อจากแทกุก

    ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ครับคุณซีวอน เดี๋ยวเถอะ

    อะไรกันครับแค่นี้ทำเป็นดุหรอครับคุณแทกุกซีวอนยังคงไม่เลิกแกล้งแทกุก

    แล้วมันหมายถึงอะไรหรอครับน้าแทกุกฮันเกิงหันไปถามแทกุกด้วยความสงสัย

    ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณซีวอนเขาก็แกล้งไปเรื่อยเปื่อยนะครับ

    คุณซีวอนนี่เป็นเด็กที่ขี้แกล้งสินะครับเหลินฉินที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น

    ก็แบบนี้แหละครับไม่มีอะไรหรอก ผมยังโดนแกล้งอยู่บ่อยๆเลยจองซูพูดขึ้น

    งั้นทำไมพี่จองซูกับพี่ซีวอนไม่ไปซื้อของใช้แมวด้วยกันล่ะครับ เอาไปให้ตัวที่อยู่ที่บ้านพี่จองซูด้วย

    อ่านั่นสิ แล้วแมวตัวนั้นตกลงจะเอาไว้กับจองซูใช่ไหม?” เหลินฉินหันไปถามจองซู เขาก็ลืมไปเลยว่า 3 วันมานี้มีแมวที่บาดเจ็บอยู่อีกตัวหนึ่งซึ่งจองซูกับฮันเกิงผลัดกันดูแลอยู่คนละวัน

    ก็คงต้องเป็นแบบนั้นล่ะครับ เพราะดูเหมือนฮันเกิงของพวกเราจะชอบแมวตัวขาวๆเสียมากกว่าจองซูตอบพร้อมยิ้มขำๆส่งให้ฮันเกิง

    งั้นเด็กๆก็รีบทานข้าวให้เสร็จได้แล้วนะครับ เดี๋ยวไปซื้อของด้วยกันแทกุกว่าพร้อมกับยกถ้วยข้าวของตนเองไปล้างเพราะกินอิ่มแล้ว

    นั่นนะสิ นานๆออกไปเดินเที่ยวเล่นบ้างคงไม่เป็นอะไรหรอก

    ครับๆ อยากไปก็ไปครับ เดี๋ยวผมจะโทรไปบอกคุณพ่อของคุณซีวอนก่อนนะครับแล้วจองซูก็ลุกออกที่นั่งทำท่าจะเดินกลับบ้าน

    อ่าว ไม่ทานให้อิ่มก่อนล่ะจองซู เดี๋ยวค่อยโทรไปบอกก็ได้เหลินฉินว่า เพราะจองซูกินเข้าไปยังไม่เยอะเท่าไหร่ ถึงส่วนใหญ่ที่จองซูกินจะเป็นเนื้อก็ตามที

    อ้อ ผมอิ่มแล้วครับ พอดีผมกินไม่เยอะ

    กระเพาะอาหารคุณจองซูเขาเล็กนะครับซีวอนต่อให้จองซูพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    ครับ ใครจะไปกระเพาะยักษ์เหมือนคุณล่ะครับจองซูประชดใส่ซีวอนก่อนจะวิ่งกลับไปบ้านออกโทรศัพท์

    พี่ซีวอนไปแกล้งพี่จองซูเขาทำไมล่ะนั่น เดี๋ยวโดนโกรธหรอก

    ไม่ต้องห่วง อย่างคุณจองซูโกรธได้ไม่เกิน 5 นาทีหรอกเดี๋ยวก็ลืม เรามากินให้อิ่มกันก่อนดีกว่า

    หลังจากที่ทุกคนกินข้าวเสร็จแล้วก็ขึ้นรถยนต์ของแทกุกเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองเพื่อซื้อของใช้สำหรับแมว โดยที่แทกุกเป็นคนขับ เหลินฉินนั่งข้างๆ และเด็กอีก 3 คนนั่งอยู่ด้านหลัง นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กทั้ง 3 คนออกมาข้างนอกด้วยกัน ทำเอาฮันเกิงผู้เป็นน้องเล็กสุกอดตื่นเต้นไปไม่ได้

    ฮันเกิงนายจะเอาหัวมุดออกไปนอกจะกระจกแล้วนะจองซูพูดอย่างขำๆเมื่อเห็นผู้เป็นน้องนั่งเกาะกระจกรถยนต์สายตาพยายามกลาดจ้องมองทุกสิ่งอย่างที่รถขับผ่าน

    ก็ตั้งแต่มาที่นี่ฮันเกิงยังไม่เคยไปเที่ยวไหนเลยนี่ครับ

    อย่ามาโม้หน่อยเลย นายไปโรงเรียนมา2-3วันแล้วจองซูว่าอย่างขำๆ

    มันไม่เหมือนกันนี่ครับ ก็รถโรงเรียนมันมองข้างทางแบบนี้ไม่ได้ฮันเกิงหันไปทำหน้ามุ่ยใส่จองซูก่อนจะหันกลับไปเกาะกระจกต่อ

    ฮ่าๆ เถียงเด็กแพ้นะครับคุณจองซู

    ไม่ได้เถียงกันครับ แค่แกล้งเด็กเล่นเฉยๆ

    และตลอดการเดินทางฮันเกิงก็คอยหันมาถามนู่นถามนี่กับซีวอนและจองซูอยู่บ่อยๆว่าไอ่นี้คืออะไร ไอ่นั่นคืออะไร โดยมีแทกุกกับเหลินฉินหันมามองบ้างเป็นระยะจนถึงห้างสรรพสินค้า

    ~ Pet Story HC ~

    ที่บ้านของฮันเกิงแมวสีขาวที่นอนหายใจรวยรินก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้น เดินสำรวจรอบๆห้อง พร้อมกับพึมพำอะไรสักอย่าง

    ทำไมถึงกลับร่างไม่ได้เนี่ย ย๊ากกเสียงแมวน้อยพูดบอกมาด้วยภาษาคนพร้อมกับวิ่งพล่านไปทั่วห้อง

    พยายามนึกย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เขาเข้ามาในหมู่บ้านของพวกมนุษย์และกำลังปีนต้นไม้เพื่อตามหาจุนซาขึ้นๆลงๆต้นไม้อยู่หลายต้นจนชักไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นแมวหรือเป็นลิงกันแน่? ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆจู่ๆก็ได้ยินเสียงของเด็กมนุษย์ทำให้เขาสะดุ้งจนเกือบตกต้นไม้ แต่เด็กนั่นก็จับตัวเขาไว้ กลิ่นกายของเด็กคนนั้นทำให้เขามึนหัวอย่างมากจนสลบไป

    คิดสิคิด คิมฮีชอลจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง จะกลับร่างเดิมก็ไม่ได้เจ้าแมวน้อยพึมพำพร้อมกับเดินวนไปวนมาภายในห้องอย่างหงุดหงิด ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็มีกลิ่นของเด็กชายคนนั้นหลงเหลืออยู่ในทุกที่ของห้อง

    ข้าเกลียดกลิ่นนี้จริงๆ มันทำให้ข้าไม่มีแรงฮีชอลยังบ่นพึมพำไม่เลิกพร้อมกับเอาร่างแมวน้อยข่วนตามหมอน ผ้าห่มที่มีกลิ่นของฮันเกิงติดอยู่อย่างหงุดหงิด ก่อนจะผล็อยหลับไปบนหมอน

    ~ Pet Story HC ~

    อ่าวจังมีเจ้ามาเดินวนไปวนมาอะไรหน้าถ้ำ ไม่ไปดูแลพวกลูกๆของเจ้ารึ?” เสียงแมวหนุ่มดังขึ้นทำให้แมวแม่ลูกอ่อนที่กำลังเดินวนไปมาหน้าถ้ำด้วยความกระวนกระวายหันไปมองด้วยความตื่นตะลึง

    เจ้าปลอดภัย? แล้วฮีชอลล่ะ เขาออกไปตามเจ้าไม่เจอกันหรอกรึ?”

    ห๊ะ?อะไรนะ เจ้าแมวบ้านั่นแจ้นออกไปไหน?” หากแต่ใช่เสียงจุนซาตอบแต่อย่างใดกลับเป็นเสียงของปีศาจหมาป่าคยูฮยอนเสียนี่ ที่มาตอนไหนก็ไม่มีแมวตัวไหนสังเกตเห็นเลย

    ออกไปหมู่บ้านของพวกมนุษย์เขาตั้งใจจะไปตามหาจุนซาเพราะจุนซาหายไปหลายวันจังมีตอบเพราะนางจำได้ป่าปีศาจหมาป่าตัวนี้มักจะมาหาฮีชอลอยู่บ่อยๆ ถึงจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆก็ตามทีแต่ก็ไม่ใช่ปีศาจที่เลวร้ายอะไร

    มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าตั้งใจจะไปหาเสบียงมาเพิ่มแต่ระหว่างที่ไปหมู่บ้านของมนุษย์นั้น ข้าพบกับพวกแมวที่ออกจากฝูงไปหากินหลายตัวจึงไปสืบข้อมูลบางอย่างมาจากแมวพวกนั้น กว่าจะหลบไม่ให้พวกมนุษย์เห็นและกลับมาได้เลยกินเวลาเสียหลายวัน

    พวกเจ้านี่น้า ทำไมไม่ห้ามไว้

    ข้าห้ามไว้ไม่ทันจริงๆจังมีตอบพลางก้มหน้าเลียเท่าหน้า

    เฮ้อ..อ ไอ้แมวไม่เจียมสังขารตัวเองติดคำสาปนั้นอยู่ยังจะออกไปอยู่ใกล้ๆพวกมนุษย์อีก ลำบากข้าต้องไปลากสังขารแมวบ้าๆกลับป่าอีกใช่ไหมเนี่ยเสียงหมาป่าถอนหายใจอย่างยาวเหยียดด้วยความเดือดดาล

    คำสาปอะไรหรอครับ คยูฮยอนพอจะบอกข้าได้ไหม?” จุนซาถามอย่างเกรงๆเนื่องจากตัวเองก็เป็นเพียงแมวป่าธรรมดาเท่านั้นบางครั้งบางเรื่องก็ไม่อาจจะเข้าใจพวกปีศาจที่อยู่กับพวกตนได้ทั้งหมด

    เรื่องมันก็หลายร้อยปีแล้วนะ  ปีศาจที่ลงคำสาปก็ตายจนเกิดใหม่แล้วด้วย คำสาปนั้นมันยังไม่สมบูรณ์ดีหรอกนะ แต่ถ้าเจอคนๆนั้น ปีศาจที่กลับชาติมาเกิดใหม่นะ ถ้าโดนสัมผัสที่หางเมื่อไหร่คำสาปมันจะสมบูรณ์ทันที

    ในเมื่อเขาตายแล้วเกิดใหม่ ทำไมมันยังจะมีผลอยู่ล่ะครับ

    มันเป็นคำสาปที่ผูกเข้ากับดวงจิตนะ ถึงเกิดใหม่แต่ดวงจิตก็ยังคงเป็นดวงเดิม

    แล้วคุณคยูฮยอนรู้หรอครับว่าหน้าตาเป็นยังไง

    เรื่องมันไม่ใช่เรื่องยากหรอก ต่อให้เกิดใหม่สักกี่ร้อยชาติพันชาติดวงเดิมก็หน้าตาเหมือนเดิม ปัญหาคือข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้าคนที่ลงคำสาปไว้นะสิ

    อ่าว ทำไมงั้นล่ะครับท่าน แล้วท่านรู้ได้ยังไง?”

    อ่า เรื่องมันยาวมากเลยล่ะ ตอนนี้ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะเล่าให้พวกเจ้าฟังเสียด้วยสิ ข้าต้องรีบไปตามหาฮีชอลเสียก่อน เจ้าแมวนั่นยิ่งไม่ค่อยระวังตัวอยู่ด้วย ส่วนพวกเจ้าก็อยู่นี่แหละ เดี๋ยวคาดกันอีก

    แต่ว่า...

    ไม่แต่จุนซาอยู่เฝ้าฝูงซะนั่นคือหน้าที่เจ้า

    แต่ข้าพอจะรู้ทางหนีในหมู่บ้านของพวกมนุษย์นั่นเป็นอย่างดีเลยนะท่าน

    ไม่ต้องมาห่วงข้า ข้าเอาตัวรอดของข้าได้ เจ้าอยู่เฝ้าที่นี่ไปเถอะ

    ว่าแล้วคยูฮยอนก็กลับร่างหมาป่าแล้วกับวิ่งลุยป่าไปยังหมู่บ้านของมนุษย์ ในใจก็ได้แต่หวังว่าฮีชอลจะไม่เป็นอะไร

    เอ๊ะ..เดี๋ยวสิ ข้าต้องไปอีกที่ก่อนสิจู่ๆคยูฮยอนก็พึมพำกับตัวเองพร้อมกับเปลี่ยนทิศทางการเดินทางไปยังสถานที่อีกที่ เขาเดินหน้าเข้าไปยังป่าที่ลึกกว่าเดิมจากที่พวกเขาอยู่อาศัยมากนัก ไปยังหนองน้ำที่มีถ้ำอยู่ใกล้ๆ

    เจ้ามาทำอะไร ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆปีศาจหมาป่าอย่างเจ้าจะมายุ่งย่ามเสียงเต่าบกอายุราวพันปีที่เฝ้าอยู่หน้าปากประตูถ้ำ แล้วร่างของเต่าก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นชายชราที่ถือไม้เท้าหันมามองที่คยูฮยอนอย่างดุดัน

    ข้าต้องคุยกับท่านเจ้าวังมังกรเรื่องคำสาปของฮีชอล

    ~ Pet Story HC ~

    เหลินฉิน กับแทกุกที่พาเด็กๆมาซื้อของสำหรับลูกแมว เสร็จแล้วก็พากันกลับบ้านทันทีด้วยเหตุผลที่ฮันเกิงบ่นว่าเป็นห่วงเจ้าแมวน้อยตลอดทาง

    แหม เดี๋ยวนี้เขามีแมวของตัวเองแล้วไม่สนใจพวกเราเลยจองซูแกล้งว่าเมื่อเห็นฮันเกิงรีบวิ่งเข้าบ้านไปคนแรกทันทีที่ลงจากรถได้

    ใช่เวลามาแซวคนอื่นไหมครับคุณจองซู เตรียมตัวไปทำธุระของเราต่อเถอะ อีกครึ่งชม.เราต้องไปถึงบริษัทแล้วนะครับ เห็นไหมพ่อผมส่งคนมารับแล้ว

    อ่า..งานอีกแล้วหรอ เลขานี่มีวันหยุดไหมครับ?”

    สำหรับคุณจองซูได้หยุดวันละ 4ชม.เวลานอนก็พอแล้ว รีบมาเถอะซีวอนว่าก่อนจะเดินนำกลับไปบ้านจองซูที่มีรถของบริษัทจอดรออยู่ภายในรั้วบ้านของจองซู

    ไปก่อนนะครับจองซูหันไปก้มหัวให้กับแทกุกและเหลินฉินก่อนจะเดินตามซีวอนไป ส่วนแทกุกก็ช่วยเหลินฉินขนอุปกรณ์ต่างๆสำหรับแมวเข้าบ้าน

    อ่าว พอถึงบ้านก็รีบจนลืมเอาของเจ้าที่เจ็บไปด้วยล่ะจองซูแทกุกบ่นอย่างเหนื่อยอ่อน เด็กหนอเด็ก แปปเดียวก็ไปอย่างอื่นซะล่ะ

    เอาน่า เดี๋ยวก็คงมาเอาเองแหละครับ ท่าทางพวกเขาจะมีงานต่อนะครับ เด็กพวกนั้นเหลินฉินหันมาบอกกับแทกุกพร้อมกับยกถุงทรายแมวขนาด 10 กิโลกรัม2ถุงเพียงคนเดียว

    ครับๆ ว่าแต่คุณเหลินฉินนี่แข็งแรงจังเลยนะครับ ยกไหวด้วย

    ก็ไม่ได้หนักมากมายอะไรนี่ครับ

    ในขณะที่เหลินฉินกับแทกุกกำลังยุ่งกับการจัดการเก็บข้าวของของแมวอยู่นั้น ฮันเกิงก็กำลังยุ่งอยู่กับแมวตัวน้อย

    เจ้าเหมียวนี่แก รื้อข้าวของฉันยุ่งหมดเลยฮันเกิงบ่นแมวพึมพำพร้อมกับข้าวของจากร่องรอยการข่วนของแมว ส่วนใหญ่ที่โดนก็จะเป็นของพวกผ้าเสียส่วนใหญ่จึงไม่มีอะไรเสียหายมากมาย สายตาก็คอยมองเจ้าแมวตัวน้อยที่นอนหลับสนิทอยู่บนหมอนที่ตัวเองหนุนนอน พอเก็บข้าวของเสร็จก็เดินไปอุ้มลูกแมวมานอนตักตัวเอง

    เหมี๊ยววดูเหมือนลูกแมวจะรู้สึกตัวพอดี

    ตื่นแล้วหรอหิวไหม?” ฮันเกิงถามลูกแมวอย่างเอ็นดู

    ปล่อยฉันนะเจ้าเด็กบ้า ออกไปฉันเกลียดกลิ่นนายฮีชอลขู่ฟ่อใส่ฮันเกิงพร้อมกับร้องโวยวายใส่ลั่น เขาคิดว่าเขาจะสามารถใช้ภาษามนุษย์ได้เหมือนทุกที แต่เปล่าเลยเสียงที่ออกมากลับเป็นเสียงลูกแมวธรรมดาเสียนี่ แทนที่จะน่ากลัวกลับดูน่ารักไปถนัดตาเลย

    หิวอย่างนั้นหรอ?” ฮันเกิงถามย้ำเพราะไม่เข้าใจภาษาแมว

    หิวบ้านนายนะสิ เอาฉันออกไปจากห้องนี้นะเสียงแมวร้องก็ยังคงเป็นเสียงแมวเสียงเด็กชายฮันเกิงมิอาจเข้าใจได้

    ฉันพาแกไปกินนมข้างนอกนะ กินในห้องนี้ไม่ได้เดี๋ยวมันหกฮันตัดสินใจตามความคิดของตัวเองอุ้มลูกแมวออกจากห้องไปยังห้องครัว

    อ่าว เป็นอะไรล่ะนั่น ทำไมเจ้าเหมียวข่วนมือฮันเกิงใหญ่เลยแทกุกที่กำลังเอานมแพะสำหรับให้ลูกแมวกินใส่ตู้เย็นอยู่หันมาถามฮันเกิงที่กำลังอุ้มลูกแมวเดินเข้ามา

    ท่าทางจะโมโหหิวนะครับ

    งั้นฮันเกิงอุ้มลูกแมวไว้นะ เดี๋ยวน้าจะเอานมใส่ถ้วยให้

    ปล่อยเราสิ เราไม่กินของที่พวกเจ้าเอามาหรอกนะ ปล่อยฮีชอลก็ยังคงร้องโวยวายโดยไม่มีใครเข้าใจต่อไป แม้ร่างกายจะเพลียจากกลิ่นตัวฮันเกิงก็ตามที แต่ความอยากชนะมันมีมากกว่า

    อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวก็ได้กินแล้วนะฮันเกิงพร้อมลูบ

    ไม่กินเสียงแมวยังคงขู่ฟ่อใส่ ภาพเด็กชายอายุ 7 ขวบนั่งอุ้มลูกแมวที่กำลังดิ้นๆอยู่ในอ้อมแขนโดยที่เด็กชายก็พยายามกอดไว้แน่นไม่ให้หลุด

    ซนน่าดูเลย จะเลี้ยงไหวหรอฮันเกิงเหลินฉินที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆเสร็จเดินเข้ามาดูเหตุการณ์ในครัวว่าพลางพร้อมยิ้มขำๆส่งให้ลูกชายตัวน้อย

    ไหวครับ เจ้าเหมียวอาจจะแค่ยังไม่ชินกับคน

    ใครชื่อเจ้าเหมียวฉันชื่อฮีชอลเว้ย อย่ามาเรียกมั่วๆนะเจ้าเด็กบ้าดูเหมือนฮีชอลจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตัวเองเท่าที่ควรว่าไม่มีใครเข้าใจภาษาแมว แล้วตัวเองก็ไม่สามารถใช้ภาษามนุษย์ในร่างสัตว์ได้เมื่ออยู่นอกป่า ไม่สิน่าจะบอกว่าเพราะกลิ่นของฮันเกิงเสียมากกว่า

    เอ น้าว่าเราน่าจะตั้งชื่อให้มันนะแทกุกเดินกลับมาพร้อมถ้วยที่มีนมแพะวางไว้ตรงหน้าฮันเกิง

    ชื่อหรอฮะ....ฮันเกิงพูดพลางทำท่าทางนึกตาม

    ใช่ น้าว่าเจ้าแมวน้อยคงอาจจะไม่ชอบให้พวกเราเรียกว่าเจ้าเหมียวสักเท่าไหร่หรอก

    งั้น...ฮีชอลจู่ๆชื่อนี้ก็เข้ามาในหัวฮันเกิงและพึมพำออกมาอย่างลืมตัว

    ความหมายดีนะ งั้นเอาชื่อนี้ล่ะ มากินนมกันฮีชอลแทกุกบอกพร้อมกับลูบหัวแมวเบาๆ ส่วนฮีชอลนั่นก็นิ่งไปด้วยความแปลกใจว่าทำไมเด็กผู้ชายที่ชื่อฮันเกิงคนนี้พูดราวกับเหมือนรู้ชื่อของตัวเอง

    ฮีชอลกินนมนะฮันเกิงเอาฮีชอลวางบนโต๊ะอาหารเพื่อให้กินนมได้ถนัด

    เหอะ เราเป็นปีศาจเราไม่สนใจของพวกนี้หรอกฮีชอลสะบัดหน้าออกจากหนีออกจากถ้วยแต่กลิ่นหอมของนมภายในถ้วยกลับทำให้แมวน้อยฮีชอลท้องร้องขึ้นมาเสียอย่างนั้น

    หิวแล้วก็กินซะนะฮันเกิงจับฮีชอลหมุนหาถ้วยนมอีกรอบ

    'หึ เราจะยอมกินก็ได้ ไม่ใช่เพราะเราจะกินของจากพวกมนุษย์หรอก เป็นเพราะเราไม่มีแรงเฉยๆหรอก' ฮีชอลคิดในใจก่อนจะก้มลงเลียนมในถ้วย

    ยอมกินนมแล้ว ดีมากจะได้โตไวๆฮันเกิงพูดพลางมองยิ้มให้กับฮีชอล

    ท่าทางไม่น่าจะมีปัญหาแล้วนะครับคุณเหลินฉิน

    คงจะอย่างนั้นแหละครับ ขอบคุณมากนะครับที่พาไปซื้อข้าวของวันนี้

    ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกครับคนกัน ผมว่าผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า

    อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนสิ เดี๋ยวค่อยกลับ

    แต่ว่า...มันจะดีหรอครับ วันนี้ก็รบกวนไปมื้อหนึ่งแล้ว

    ไม่เห็นต้องเกรงใจเลยครับวันนี้ก็พาพวกเราไปซื้อของมา

    ถ้าอย่างนั้นฝากท้องอีกมื้อหนึ่งแล้วกันนะ

    ด้วยความยินดีครับแล้วเหลินฉินก็หันไปเตรียมอาหารเย็นทันที เหลินฉินมักจะทำโน่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา อยู่ว่างๆไม่ได้ เนื่องจากชีวิตที่ผ่านมาเขาทำงานมาตลอดจนติดเป็นนิสัย

    อิ่มไหม?” ฮันเกิงก็คอยนั่งเฝ้านั่งมองฮีชอลกินนมจนหมดถ้วย พอหมดถ้วยก็เหมือนฮีชอลจะเพลียจนหลับไปอีกรอบ

    อ่าว หลับอีกแล้วแมวน้อย ฮันเกิงอุ้มแมวไปนอนในห้องเถอะเดี๋ยวน้าเก็บถ้วยให้เอง

    ครับฮันเกิงรับครับแล้วค่อยๆอุ้มแมวน้อยฮีชอลกลับเข้าห้องตัวเอง ค่อยๆวางลงบนที่นอนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองซื้อบ้านแมวหลังเล็กๆสำหรับให้แมวนอน จึงเดินลงไปข้างล่าง ซึ่งเหลินฉินได้วางไว้อย่างเป็นระเบียบในห้องนั่งเล่น

    ฮันเกิงจะเอาบ้านแมวไปไหน?” แทกุกที่เก็บถ้วยนมแมวเสร็จแล้วก็กำลังนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นเพื่อเป็นการฆ่าเวลา เพราะมื้อเย็นเหลินฉินบอกว่าเขาอยากจะทำเองคนเดียว

    เอาไปไว้บนห้องครับ ผมว่าฮีชอลคงจะชอบที่เงียบๆมากกว่า

    อ่า ดีแล้ว ดูแลดีๆล่ะ ระวังฮีชอลฉี่ใส่ที่นอนด้วย

    รับทราบครับผมฮันเกิงก็ค่อยๆเดินขึ้นห้อง เดินอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวฮีชอลตื่น จัดแจงเอาที่นอนไปวางไว้ข้างๆเตียงแล้วก็ค่อยอุ้มฮีชอลไปนอนไว้ในบ้านแมว ในใจก็คิดดีใจที่ได้พบกับลูกแมว และรู้สึกรักไม่อยากจะเสียไป

    มาเป็นครอบครัวเดียวกันนะฮีชอลฮันเกิงพูดกับแมวน้อยที่หลับอยู่เบาๆก่อนจะกลับไปทบทวนหนังสือเรียนของตัวเองต่อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×