ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic naruto] Desert & Sky

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 ตัวเล็ก(เช็คคำผิด 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 58


    บทที่ 3 ตัวเล็ก

     

                    บรรยากาศใกล้รุ่งเย็นสบายชวนให้หลับใหล เสียงนกน้อยร้องกู่หวานชวนฝัน หากแต่มันคงใช้ไม่ได้กับหญิงสาวที่นั่งแข็งค้างในท่าเดิมมาประมาณสองชั่วโมง แน่นอนคนที่ยืมหัวไหล่เธอพิงหลับนั้นก็ยังคงหลับสนิทอยู่ท่าเดิม หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ต้องทรหดที่สุดในชีวิต หญิงสาวก็ได้รับรู้ว่าเธอกำลังถูกพามาที่แห่งหนึ่งที่มันแบบว่า...โอ้แม่เจ้า!

                    หากเป็นคนปกติก็คงร้องอุทานไปแล้ว แต่สำหรับหญิงสาวเธอนั่งนิ่ง นั่งอึ้ง และนั่งเอ๋อไปอยู่หลายวินาที เธอไม่เคยเหยียบบ้านคนรวยมาก่อนและนี้ก็คือครั้งแรกที่ได้เหยียบ!

                    แค่เจ้าสิ่งที่เรียกว่าประตูรั้วหน้าบ้านที่ทำเอาเธอก็ถึงกับอุทานด้วยความตกใจ หรูราเกินบรรยายแค่รั้วก็น่าจะราคาแพงก็ว่าบ้านหลังเล็กของเธอเสียอีก ระยะจากหน้าประตูรั้วถึงตัวบ้าน เรียกได้ว่าเอาบ้านของเธอสองหลังติดกันมาวางก็คงยังมีพื้นที่ไม่เท่า สระน้ำสวยงานและรูปปั้นประดับประดาพองามหากแต่รับรู้ได้ถึงความหรูหรา

                    บ้านหลังสีขาวสะอาดตา มันดูไม่ได้ใหญ่โตโออ่าเท่าสวนในบ้าน แต่ก็เรียกได้ว่าดูหรูไม่ยอก เธออดกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ไม่ได้....นี้สินะที่เรียกว่ารวยล้นฟ้า

                    "กาอาระ ถึงแล้ว"เสียงทุ้มของคนที่ขับรถให้กาอาระดังขึ้น ใบหน้าดุดันแลดูคล้ายกับใบหน้าของกาอาระอยู่หลายส่วน...หรือว่าจะเป็นพี่น้อง

                    "นี้เธอ ปลุกเจ้ากาอาระที่สิ"เจ้าของใบหน้าดุเอ่ยบอกกับเธอคล้ายๆกับสั่ง เธอรู้สึกขัดใจซะเหลือเกิน นอกจากเธอจะไม่ได้นอนแล้วยังจะถูกสั่งแล้วสั่งอีก

                    เธอหันไปมองกาอาระด้วยสายตาไม่พอใจเช่นเคย เธอใช้มือดันใบหน้าของร่างสูงที่ซบไหล่เธอเป็นเชิงปลุกให้อีก่ฝ่ายรู้สึกตัว

                    "อืม.."ร่างสูงครางเบาๆ เขาค่อยๆยืนตัวตรงเมื่อรู้สึกได้แรงผลักจากใครสักคน เขามองไปรอบๆก่อนจะเห็นฟ้าสีขุ่นพร้อมกับพระอาทิตย์ลูกโตสีไข่เป็ดที่กำลังค่อยลอยขึ้นฟ้า

                    "ถึงแล้วสิะ"ร่างสูงกล่าวด้วยสีหน้าที่ยังอ่อนเพลียอยู่บ้างก่อนจะเดินลงจากรถ เขารีบคว้าเจ้าเหมียวในอ้อมแขนของหญิงสาวลงไปด้วยอย่างไร้สาเหตุ

                    "นั้นจะทำอะไรเจ้าตัวเล็ก""หญิงสาวกล่าวถามอย่างร้อนรน เธอรีบกุลีกุจรลงจากรถและตรงดิ่งไปหา'เจ้าตัวเล็ก' ทันที

                    "เปล่า"กล่าวเสร็จเขาก็คืนเจ้าตัวเล็กที่ว่าให้กับหญิงสาว เธอทำหน้างงเล็กน้อยไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะหิ้วเจ้าแมวลงมาทำไมเพราะยังไงเธอก็....

                    "!!"โซราเมะตบหน้าผากตัวเองอย่างแรง เขาหยิบเจ้าตัวเล็กลงมาก็เพื่อล่อเธอให้ลงมาจากรถ เขารู้ว่าเธอจะไม่ยอมลงมาและเมื่อเธอรู้ตัวรถสีดำที่เธอนั่งมาก็วิ่งกลับเข้าโรงรถไปเสียแล้ว

                    "เธอนะ ไม่ง่วงรึไง?"

                    "ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอยะ"เธอเถียงพลางแลบลิ้นใส่โดยในมือยังกอดเจ้าแมวไว้แน่น

                    "แต่ฉันว่ามันน่าจะง่วง...แล้วก็หิวด้วย"กาอาระกล่าวพลางชี้ไปที่เจ้าแมวจรจัดผู้โชคดี นอกจากจะได้รับการรักษาแผลแล้ววันนี้แหละคือวันแรกที่มันจะได้กินของหรู

                    โซราเมะเบ้ปากอย่างไม่พอใจ แต่เธอก็ต้องยอมเดินตามหลังกาอาระไปอย่างช่วยไม่ได้ เธอเห็นใจเจ้าแมวน้อยตัวนี้มากกว่าร่างกายของตัวเอง

     

    โครม!

     

                    ขาเจ้ากรรมผู้ไม่รักดี  ไม่สิต้องบอกว่าสายตาเจ้ากรรมต่างหาก เพราะไม่มีแว่นสาวเจ้าจึงไม่เห็นพื้นต่างละดับที่ยกขึ้นสูง เธอเดินข้ามไม่พ้นและล้มหน้าคะมำอย่างแรง

                    "เจ็บบบ!"ร่างบางร้องลั่น หน้าผากเกลี้ยงเกลาปรากฏรอยช้ำบวมเท่าลูกมะนาว สาวเจ้าน้ำตาเล็ดรู้สึกหน้าผากร้อนฉ่าและเจ็บแสบยิ่งกว่าแขนที่ถูกกระสุนเฉี่ยวเสียอีก ที่เธอเอาหัวลงเพราะห่วงเจ้าแมวในแขน แน่นอนว่าก่อนเธอล้มมันกระโดดหนีไปเรียบร้อยแล้ว จึงมีแต่เธอที่เจ็บตัว

                    "ยัยซุ่มซ่าม"เนตรสีหยกมองยัยขี้โวยวายจอมซุ่มซ่ามอย่างนึกขำ ร่างสูงหันกลับไปช่วยประคองให้ร่างเล็กลุกขึ้น แต่กลับถูกเธอแยกเขี้ยวใส่เสียซะอย่างงั้น

                    "หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ"เธอกล่าวพลางถูหน้าผากของตัวเองไปด้วย เจ็บจี้ดจนอยากได้ยาทาซะเหลือเกินแต่เธอไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชายที่ฆ่าพ่อของเธอหรอกนะ

                    "อวดดี"ร่างสูงมองแม่สาวฤทธิ์เยอะตรงหน้าด้วยความพูดท้าทาย เธอจ้องเขม็งเขาไม่เลิก....เหมือนลูกแมวเลยแหะ

                    ในที่สุดกว่าจะลากยัยคนขี้โวยวายเขาบ้านได้ร่างสูงก็แทบหอบ ร่างบางขุ่นเคืองอีกฝ่ายไม่เลิกแต่เธอก็ต้องเลิกทำหน้าแบบนั้นเมื่อเจอกับความอลังการภายในตัวบ้านสไตล์โมเดิร์น ทุกอย่างดูหรูหราลงตัวและมีกลิ่นหอม

                    "กลิ่นซากุระ"เธอเปรยขึ้นเบาๆถึงกลิ่นหวานที่ลอยอยู่ทั่วบ้าน เธอคิดถึงภาพในความทรงจำของตัวเองภาพของชายวัยกลางคนร่างสูงที่พาเธอไปชมดอกซากุระตอนสมัยเธอยังเด็ก....กลิ่นแบบนี้เลย

                    "คุณผู้ชาย ท่านกลับมาแล้ว!"เสียงหอบแหบของชายชราดังขึ้น  ร่างสูงกำลังหอบสังขารไม่เที่ยงเดินตรงมาหาเจ้านายของตนเองพร้อมกับเหล่าบอร์ดี้การ์ดและแม่บ้านอีกสามคน

                    "ผมเป็นห่วงแทบแย่"ชายชรากล่าวด้วยความห่วงใย เขาคือหัวหน้าพ่อบ้านที่ทำงานอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้มาหลายชั่วอายุคน เขาเป็นรุ่นที่ห้า เช่นเดียวกับรุ่นของเจ้าของบ้าน ซาบาคุโนะ รุ่นที่ห้า

                    "ผมว่าท่านรีบไปทำแผลเถอะครับ"เพราะเลือดสีสดที่เด่นหลามาแต่ไกลทำให้พ่อบ้านชราอดห่วงไม่ได้ ถึงเขาจะแปลกใจนิดหน่อยก็ตามกับสีเสื้อที่เขาใส่...ชะ ชมพู? ลายคิตตี้ด้วย?

                    "ไม่เป็นไร ให้ยัยนี้จัดการ"

                    "หา!? นี้คุณอย่ามาพูดเล่นๆนะ ฉันจะไม่ทำแผลให้คุณอีกแล้ว อย่าลืมสิฉันเป็นหมอหมานะ...อ้าว! นั้นคุณจะเอาเจ้าตัวเล็กไปไหน"กาอาระนึกขำกับท่าทีของเธอ แค่เขาหยิบเจ้าแมวสีดอกเล้ามาอุ้ม เธอก็เดินตามเขาต่อยๆพร้อมกับโวยวายจะเอาเจ้าตัวเล็กคืนให้ได้

     

    บางทีแมวตัวนี้อาจจะนำโชคมาให้เขาก็ได้

     

                    "เอากล่องพยาบาลไปไว้ที่ห้องฉัน"ร่างสูงกล่าวกับพ่อบ้านก่อนจะเดินตัวลอยโดยมีสาวเจ้าเดินตามต่อยๆ พ่อบ้านอายุมากเขาดูจะแปลกใจไม่น้อยกับผู้ติดตามคนใหม่ของกาอาระ

                    ร่างบางที่เอาแต่โวยวายจะเอาแมวคืน กว่าจะรู้ตัวเธอก็เดินมาหยุดอยู่ที่ห้องนอนแห่งหนึ่ง กว้างขวางกว่าห้องนอนของเธอถึงสามเท่า ผนังถูกท่าด้วยสีครีมอ่อนดูสบายตา หน้าต่างปานใหญ่และผ้ามันสีแดงเข้ม บรรยากาศชวนให้รู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูกเธอใช้สาวตากวาดมองไปทั่วอย่างประหม่า...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าห้องใคร

                    "นี้ยัยเซ่อ"ร่างบางหันควับทันทีที่ถูกอีกฝ่ายเรียก เธอแยกเขี้ยวใส่เขาทันที

                    "ฉันไม่ใช่ยัยเซ่อ ฉันชื่อโซราเมะยะ"เธอเถียงกลับอย่างไม่พอใจพร้อมกับจ้องเขม็งใส่เจ้าตัวต้นเหตุอย่างเอาเรื่อง

                    "โซราเมะ?"กาอาระเอ่ยทวนชื่อของอีกฝ่าย เขาจำได้ว่าบนบัตรประชาชนของเธอไม่ได้ใช่ชื่อนี้นิ

                    "คันจิโซระ ที่หมายถึงท้องฟ้า กับเมะที่แปลกว่าตา"เธอกล่าวอธิบายอีกรอบก่อนที่ข้างหลังเธอจะปรากฏพ่อบ้านชายชราคนเดิมที่กำลังยกกล่องพยาบาลมาให้อีกฝ่าย เขาเอากล่องมาวางไว้ในห้องก่อนจะเดินออกไป

                    "แล้วทำไมคุณไม่โทรตามหมอมาทำให้ละ คุณน่าจะมีหมอประจำตัวอยู่แล้วนิ"ร่างบางเอ่ยถามอย่างสงสัย เธอมองร่างสูงที่กำลังพยายามถอดเสื้อออก แต่เพราะบาดแผลทั้งสองข้างทั้งที่มือและหัวไหล่ ทำให้ทุกอย่างมันดูยากเย็นกว่าเดิม

                    "ฉันไม่ต้องการ เธอนะมาช่วยฉันถอดเสื้อหน่อยสิ"หญิงสาวคิ้วกระตุกอย่างขัดใจ เจ้าทานูกิสั่งเธออีกแล้ว นี้เขาไม่ได้เข้าใจอะไรเลยใช่ไหมว่าเธอแค้นเขาอยู่นะ...แค้นอาฆาตนะรู้จักไหม!?

                    "นี้คุณจำที่ฉันพูดไม่ได้รึไง? ฉันแค้นคุณอยู่นะ"เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังเลือดที่หางคิ้วแห้งกรังจนเป็นก้อนเธอจับมันเบาๆเมื่อรู้สึกเจ็บน้อยๆ

                    "แล้วยังไง เธอแค้นฉันจริงก็เอาสิ นี้เป็นโอกาสแล้ว อยากฆ่าก็ฆ่า"เขาไม่ได้สนใจเลยว่าโซราเมะจะคิดยังไง แต่บอกได้คำเดียวเขาเปิดโอกาสให้แล้วเธออยากจะทำอะไรก็ทำ

                    "คะ คุณว่าอะไรนะ"

                    "อยากฆ่าก็ทำ ฉันจะไม่ดิ้นไม่ร้อง ถ้าทำให้เธอเลิกงี่เง่าเสียที"คราวนี้กาอาระขึ้นเสียงบ้าง แววตาดุดันของเขามันทำให้เธอผวาได้อีก แต่เธอก็กล้ำกลืนความกลัวลงคอเธอตอบกลับอย่างเดือดดาล

                    "พ่อฉันตายมันไม่ใช่เหตุผลงี่เงานะ!"

                    "ใช่...เขานะตายไปแล้วและก็ไม่มีวันกลับมาอีกด้วย"เจ้าของคำตอบนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเบา แววตาของเขาแม้จะว่างเปล่าแต่ก็หลบซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ไม่มิดจนหญิงสาวไม่อาจจะเข้าใจ

                    "เอาสิ จะทำก็ทำ เร็ว!"หากแค่เพียงชั่ววูบ ร่างสูงกลายร่างกับเป็นกาอาระคนเดิม เขาใช้น้ำเสียงเย็นยะเยือกกับเธออีกครั้งทั้งตวาดทั้งสั่ง เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจก่อจะเหลือบมองแผลที่หัวไหล่อีกครั้ง...แผลฉีกอีกแล้ว

                    "เฮ้ย..."เธอถอนหายใจอย่างหงุดหงิด หากเป็นปกติเธออาจจะไม่คิดว่าแล้วรีบหยิบกรรไกรที่อยู่ในกล่องพยาบาลมาแทงเขาแล้วก็ได้ แต่นี้ไม่ เธอไม่แน่ใจในแววตาเมื่อครู่ของเขา....แววตานั้นมันหมายความว่ายังไง

                    หญิงสาวเดินไปหยิบกรรไกรที่อยู่ในกล่องพยาบาลมันออกมาก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้ากาอาระ ใจอ่อนยวบกับบาดแผลของอีกฝ่ายแล้วก็แววตาที่ซ่อนอะไรบางอย่างไว้

                    "ทำสิ!"น้ำเสียงแข็งกระด้างและดุดันยังคงสั่งเธออีกครั้ง เขาแน่ใจว่าเธอจะต้องแทงมันแน่ ร่างลงหลับตาลงรอรอรับชะตากรรม....มันอาจจะเป็นการสมควรแล้วก็ได้

                    "....งือออ"เสียงครางร้องไห้ของคนเบื้องหน้าดังขึ้น เธอยืนตัวสั่นน้ำตาท่วม มือที่ถือกรรไกรก็สั่นตาม ร่างสูงลืมตาขึ้นเตรียมที่จะดุเธออีกครั้งโทษฐานมาทำตัวอ่อนแอน่ารำคาญต่อหน้าเขา

                    "เธอจะ...."มาร้องไห้หาพระแสงอะไร เขาตั้งใจจะพูดอย่างนี้แต่กลับถูกเธอพูดขัดขึ้นมา

                    "งือออ นี้มันเสื้อตัวโปรดสมัยฉันเรียกมหาลัยเลยนะ แถมยังแพงอีกต่างหาก"ร่างสูงถึงกับตะลึงงัด งุนงงกับเสียงร้องของเธอ นี้เธอร้องไห้เพราะเสื้อที่เข้าใส่??

                    ไม่ทันได้คิดเพิ่มร่างบางก็จัดการตัดเสื้อ เพื่อให้เสื้อหลุดออกมาโดยที่ร่างสูงไม่ต้องขยับตัวใดๆ เธอค่อยตัดมันออกอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้โดนเนื้อของอีกฝ่าย

                    "นี้เธอร้องเพราะเสียดายเสื้อ?"เขาถามย่ำขณะที่เธอพยักหน้าตอบรัวๆและตัดเสื้ออกจนหมดก่อนจะซดน้ำมูกอีกรอบ

                    "ก็พ่อฉันซื้อให้นิน่า.."เจ้าของเนตรสีครามกล่าวทั้งน้ำตา เมื่อไม่มีเสื้อสีชมพูนั้น ก็ทำให้เธอได้เห็นร่างกายที่สมบูรณ์แบบนี้อีกครั้ง มันเขรอะเปื้อนคราบเลือดเต็มไปหมด เธอมองบาดแผลที่ฉีกเปิดอีกครั้ง เธอต้องเพ่งสายตานิดหน่อยเพราะไม่มีแว่นตาอันหนาอีกต่อไปแล้ว

                    เธอรีบเช็ดน้ำตาออกเพราะมันกำลังบดบังทัศนียภาพต่างๆ ทั้งคู่นั่งลงบนโซฟาในห้องนอนสุดหรูนี้ก่อนที่ร่างบางจะทำแผลให้เขาอีกครั้งด้วยจมูกแดงๆ

                    “เธอไม่อยากฆ่าฉันแล้วรึไง?”เขาขมวดคิ้วมองหญิงสาวที่กำลังตั้งสมาธิแก้ผ้าพันแผลเก่าออก ร่างสูงเกิดคำถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเธอถึงไม่ทำ ถ้าเหตุการณ์เมื่อกี้เกิดขึ้นกับเขา เขาคงไม่ลังเลที่จะฆ่าอีกฝ่ายแน่ๆ

                     “อยากสิ แต่ฉันทำไม่ลงหรอกคะ ฉันเป็นหมอแล้วคุณก็เป็นคนไข้ อีกอย่าง ฉันรู้สึกว่าคุณปิดซ่อนอะไรบางอย่างไว้ จนกว่าจะรู้ความลับนั้น ฉันจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรคุณ ก็แค่นั้นแหละ”ร่างสูงเบิกตากว่าอย่างตกตะลึงอีกครั้ง

                    ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอทำให้เขาแปลกใจ ครั้งนี้เองก็เช่นกัน ทำไมเธอถึงมองออกว่ามันมีบางอย่างซ่อนอยู่หรือเขาเผลอแสดงมันออกมานะ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกได้ยังไงแต่สำหรับเขา มันราวกับว่านี้คือโอกาสที่เขาจะได้แก้ไขความผิดทุกๆอย่างในอดีต เขาจะชดเชยทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเธอ...ให้กับชายคนคนนั้นที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

                    กาอาระต้องตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง เนตรสีหยกมองดวงหน้าหวานที่กำลังทำแผลให้เขาอย่างตั้งใจก่อนที่เจ้าตัวเล็กกระโดดขึ้นโซฟาบางก่อนจะนอนซุกเบียดกับขาแกร่งของเขา ร่างสูงหันไปให้ความสนใจที่เจ้าตัวเล็กแทนก่อนจะใช้หลังมือลูบมันเบาๆ มือขวาขวาเขาก็มีบาดแผลอยู่จึงไม่สามารแตะต้องเจ้าแมวได้

                    "พอจะมีผ้าสะอาดๆไหม? ฉันต้องเช็ดแผลให้คุณก่อน"

                    "อยู่นี้ครับ"

                    "ขอ เอ้ย!"ร่างบางสะดุ้งอยู่ๆคนที่ควรจะเดินจากไปแล้วกลับปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งโดยในมือถือผ้าชุบน้ำหมาดๆไว้ เธอมองอย่างแปลกใจเพราะเธอไม่เห็นจะได้ยินเสียงประตูเลยสักนิด หรือเขาเดินเข้ามาตอนเธอกำลังร้องไห้กันนะ

                    "ขอบคุณคะ"เธอกล่าวอีกครั้งเมื่อเริ่มหายตกใจ มือเล็กลงมือเช็ดบาดแผลให้อีกฝ่าย เนื้อตัวส่วนที่โดนเลือดจนแห้งกรังเธอก็จัดการเช็ดให้หมดก่อนจะเริ่มทำการตัดไหมออกเพื่อทำการเย็บบาดแผลให้ใหม่

                    เมื่อจัดการทำแผลให้เสร็จ เธอก็ย้ายที่นั่งไปอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อทำแผลที่มือขวาของอีกฝ่าย....เธอเป็นหมอหมาจริงๆนะ ไม่ใช่หมอคน แต่ก็ต้องรักษาแผลให้คนตรงหน้าอย่างจำใจ

                    มือบางจัดการถึงเอาผ้าเช็ดหน้าพื้นเล็กออกก่อนจะทำการเช็ดมือที่เต็มไปด้วยคราบเลือด ร่างสูงมองคนตัวเล็กที่กำลังเพ่งสายตามองบาดแผล ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าคนตรงหน้านั้นช่างมีดวงหน้าหวานและริมฝีปากสีสวยมากกว่าที่เขารู้สึกได้ในครั้งแรก แต่เพราะสายตาสั้นจึงต้องใส่แว่นหน้าเตอะ นี้ละหรอลูกสาวของชายคนนั้น


    ผู้มีพระคุณของเขา


                    ร่างบางจับมือหยาบกร้านนั้นอย่างเบามือ เธอกลัวจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บโดยไม่ตั้งใจ เธอค่อยๆทำอย่างระมัดระวัง โชคดีที่กระสุนมันเฉียดผ่านไปเท่านั้น จึงไม่ได้ฝังตัวลงไป

                    โซราเมะใช้แอลกอร์ฮอลเช็ดแผลอย่างเบามือที่สุดโดยไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าเนตรสีหยกกำลังจับจ้องมาที่เธอ มองดวงตาคู่สีฟ้าครามนั้นด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา

     

    โซราเมะ...ช่างเป็นชื่อที่เหมาะสมจริงๆ

     

                    "อะ เสร็จแล้ว"ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเวลาใกล้รุ่ง ท้องฟ้ากำลังสว่างและเสียงนกร้องดังขึ้น กาอาระมองฝีมือการทำแผลของคนตัวเองอย่างพอใจ หมอหมาทำแผลเก่งกว่าที่คิดแหะ

                    "ให้ตายสิ เช้าจนได้"หญิงสาวอดบ่นกระปอดกระแปดไม่ได้ เธอเห็นนาฬิกาที่อยู่บนหัวเตียงนอนใกล้ๆ...หกโมงเช้าแล้ว อีกกสามชั่วโมงเธอต้องเข้างานแล้ว

                    "ระหว่างนี้ให้กินยาแก้ปวดกับยาแก้อักเสบหลังอาหารนะ แล้วก็อย่าให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด ประมาณสักอาทิตย์นึง โอเคนะฉันกลับละ"

                    "เดี๋ยว"เพราะสูงรีบรั้งคนตัวบางเอาไว้ มือขวาที่เจ็บคว้าข้อมือของคนตัวเล็กไว้ โซราเมะมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง

                    "อะไรของคุณ?"กาอาระก็อย่างจะถามตัวเองอยู่เหมือนกัน...อะไรของเขา ทำไมต้องรั้งเธอไว้อีกละ

                    "จะกลับไปไหน?"

                    "กลับบ้านนะสิ"

                    "บ้านที่โดนถล่มเละอะนะ"เขาถามย้ำโดยที่ฝ่ามือของเขาไม่ได้ปล่อยออกจากข้อมือคนตัวบางเลย แถมเธอก็ไม่ได้ดิ้นสะบัดให้หลุด...แน่ละดิ้นตอนนี้แผลเขาก็ฉีกแล้วเธอก็ต้องทำแผลให้ใหม่อีก เสียเวลา

                    "มันเละเพราะใครกันละ"เธอถลึงตาใส่อีกฝ่าย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาแล้วมันเพราะใคร บ้านเธอถึงได้เละเป็นรูพรุนซะขนาดนั้น พูดกันตามตรงตอนนี้เธอแทบไม่รู้กลัวเขาเลย เธอมีแต่ความรู้สึกสงสัยและหมั่นไส้ล้วนๆ

                    "เธอนะ อยู่ที่นี้แหละ"

                    "หา/หา?"เสียงร้องดังขึ้นพร้อมกัน อันหนึ่งจากโซราเมะอีกอันหนึ่งจากพ่อบ้าน กาอาระตวัดสายตาดุมาให้คนเป็นลูกน้องที่ต้องไอกระแอ้มปกปิดความไร้มารยาทของตัวเอง

                    "นี้คุณจะบ้ารึไง? ให้ฉันอยู่นี้เนี่ยนะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณสักหน่อย แล้วก็อีกอย่าง ฉันมีงานต้องทำตอนเก้าโมงด้วย"เธอยังคงโวยวายไม่เลิก โซราเมะช่างจ้อมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจและพยายามแกะมือกาวของเขาออก...จะจับอะไรกันนักกันหนานะ

                    "เธอบอกให้ฉันสัญญาเองว่าจะซ่อมบ้านให้เธอ ฉันก็จะทำให้ แต่ระหว่างนี้เธออยู่ที่นี้ไปก่อน ที่นั้นอันตรายเกินไป ต่อให้ไม่มีฉันอยู่แต่พวกมันก็คงจำหน้าเธอได้ และเธออาจจะถูกฆ่าเอาได้ง่ายๆ"เหตุผลของร่างสูงนั้นช่างชวนให้ร่างบางขนลุกเป็นที่สุด

                    "ฉันจะโดนตามฆ่าด้วยหรอ?"เธอย้ำเป็นเชิงถามด้วยความตกใจ นี้มันปีชงของเธอรึไง ทำไมเธอถึงต้องโดนตามฆ่าทั้งที่แค่กลับไปนอนที่บ้านด้วย โอ้ย อยากจะบ้าตาย!

                    "ก็ถ้าเธอกลับบ้านละก็นะ" กาอาระกล่าวย้ำพลางยักไหล่ราวกับไม่ยี่หระ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าซึ่งหน้าได้ยากยิ่งจากชายที่ได้ฉายาว่าปีศาจทะเลทราย

                    โซราเมะลูบหน้าตัวเองอย่างตึงเครียดแต่ก็เหนื่อยล้า เธอยังไม่อยากรับข้อเสนอของอีกฝ่ายนัก ถึงจะรู้สึกสงสัยในหลายๆอย่างแต่ก็ใช่ว่าจะทำให้เธออยากจะใกล้ชิดเขา

                    "งั้นฉันจะไปหาห้องเช่าชั่วคราวข้างนอก คงไม่รบกวนคุณไปมากกว่านี้แล้ว"เนตรสีครามกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอควรอยู่ห่างจากเขาให้มากที่สุดเรื่องจะได้จบๆ ส่วนสิ่งที่สงสัยเธอจะค่อยตามสืบที่หลัง

                    "อวดดี"เป็นอีกครั้งที่กาอาระว่าเธอ เธอขึงตาใส่อย่างไม่พอใจ ท่าทางราวกับแมวน้อยขู่ฟ้อๆของเธอทำให้เขารู้สึกชอบใจอย่างบอกไม่ถูก

                    "นี้คุณว่าฉันอีกแล้ว"

                    "ทานากะ พาเธอไปส่งที่ห้อง อ๋อเอาเจ้าตัวเล็กไปด้วยละ"พูดจบเขาก็อุ้มเอาเจ้าแมวน้อยยืนให้พ่อบ้านก่อนจะสั่งการเสร็จสรรพไม่ปล่อยให้เธอได้พูดอะไรอีก...เผด็จการ!

                    "เดี๋ยวสิ ฉันต้องเข้างานตอนเก้าโมงนะ"แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจเสียงของเธอสักเท่าไหร่ โซราเมะถูกพ่อบ้านแก่ชราไล่ต้อนจนมาถึงห้องพักชั่วคราว

                    ห้องสีขาวสะอาดตา หน้าต่างบานใหญ่ที่หันด้านมาทางที่สวนพอดี กลิ่นซากุระอ่อนยังคงลอยตลบไปทั่ว เธอรู้สึกผ่อนคลาย แม้จะไม่พอใจก็ตามที

                    "เมี้ยว~"เสียงของเจ้าตัวเองดังขึ้นพร้อมกับเสียงครางในลำคอของมัน มันกำลังเอาตัวเองมาถูกับขาของเธออย่างออดอ้อน

                    "...เออ คุณพ่อบ้านคะ"

                    "ครับ?"

                    "รบกวนช่วยหาอะไรให้มันกินหน่อยได้ไหมคะ"เธอกล่าวราวกับลองเชิงอย่างไม่แน่ใจว่าคำขอของเธอจะสำฤทธิ์ผลไหม

                    "ได้ครับ เดี๋ยวผมจะพามันไปในครัว"ร่างสูงกล่าวอย่างนอบน้อมก่อนจะอุ้มมันขึ้นและเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงหญิงสาวที่กำลังทิ้งตัวลงบนเตียงใหญ่และกำลังจมอยู่กับห้วงความคิดของตัวเอง

     

    ซาบาคุโนะ กาอาระทำไมคุณถึงมีแววตาที่เจ็บปวดแบบนั้น...ทำไมแววตานั้นมันเหมือนกับฉัน

    คุณเป็นคนฆ่าเขาเองไม่ใช่หรอ แล้วทำไม....เขาถึงได้แลดูเจ็บปวด

     

                    "คุณทำอะไรไว้กันแน่"เธอเปรยคำถามขึ้นอย่างไร้คำตอบ เธอยังคงนึกถึงใบหน้าหล่อเหลานั้นอยู่เรื่อยๆ คำถามมากมายยังคงลอยอยู่ในหัว เธอปรือตาลงด้วยความเหนื่อยล้าก่อนที่จะหลับสนิทโดยไม่รู้ตัว

     

     

    ++++++++++++++++++++

     

                    เวลาผ่านไปเนิ่นนานและรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดเดา ร่างบางลืมตาตื่นอย่างงัวเงีย เธอหาวปากกว้างอย่างไม่เกรงใจใคร ก็แน่สิในห้องนี้ไม่มี....คนอยู่

                    "ว้าย!"จากที่กำลังงัวเงียสติยังไม่อยู่ครบดี ร่างบางก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อในระยะใกล้ สายตาของเธอก็ได้ปะทะเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาและเนตรสีหยกที่กำลังนั่งมองเธออยู่

                    "ตื่นซะทีนะ ยัยขี้เซ้า"เจ้าของใบหน้าดุเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงออกจะติดสบายอารมณ์เลยด้วยซ้ำ เขาอยู่ในชุดสูทเรียบง่ายหล่อหรู เส้นผมสีแดงเข้มดูเข้ากันดีที่เชิ้ตสีแดงเลือดนก ใบหน้าเกลี้ยงเกลากำลังเท้าคางมองเธอที่อยู่ในสภาพไม่ค่อยจะน่ารักซะเท่าไหร่

                    ทั้งหัวที่ฟูฟ่องเป็นรังนก ใบหน้ายังคงเปื้อนเคอะคราบเลือดและแผลตรงหางคิ้วที่กำลังแห้งสนิท แขนที่เธอได้รับบาดเจ็บ อยู่ยังไงก็อยู่อย่างนั้น นี้เธอไม่คิดจะจัดการตัวเองก่อนเข้านอนเลยรึไง

                    "นี้คุณเข้ามาได้ยังไง!?"

                    "ก็นี้มันบ้านฉัน"ร่างสูงเถียงกลับ แน่นอนว่าโซราเมะนั่งนิ่ง นั้นสิเธอถามคำถามแบบนั้นออกไปได้ยังไงกันนะ เธอเผลอส่ายหน้าให้กับความโง่งมของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

                    "ว่าแต่นี้กี่โมงแล้ว"แต่ไม่ทันจะได้คำตอบดวงตาคู่หวานก็หันไปมองนาฬิกาบนหัวเตียงอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะร้องลั่นด้วยความตกใจ

                    "บะ บ่ายสาม!"เธอหน้าซีดเผือกกับช่วงเวลาที่นอนยาว เธอไม่เคยเพลียจัดขนาดนอนลืมโลกแบบนี้มาก่อน เธอนึกถึงใบหน้าเดือดบูดๆของป้าซึนาเดะที่อาจจะฆ่าเธอได้ทุกเมื่อโทษฐานโดดงานตั้งแต่เปิดคลินิกวันแรก

                    "ฉันโทรไปลางานให้เธอแล้ว"ราวกับอ่านความคิดได้ กาอาระกล่าวถึงเรื่องการลางานนั้นทำให้เธอดูจะโล่งใจขึ้นก่อนจะหันควับไปมองเขาอย่างสงสัย

                    "คุณรู้ได้ไงว่าฉันทำงานที่ไหน?"พูดจบเธอก็เห็นหลักฐานคามืออีกฝ่าย...กระเป๋าตังของเธอ

                    "นี้คุณแอบรื้อกระเป่าฉันอีกแล้วหรอ?"เธอค้อนใส่ร่างสูง นี้เขาจะทำตัวเป็นผู้ดีตามภาพลักษณ์ของตัวเองได้ไหม?

                    "เธอนี้เซ้าซี้จริง ไปอาบน้ำได้แล้ว"ตื่นมาก็พูดมากถามมากใส่เขา กาอาระเลือกที่จะตัดบทพูดแล้วไล่เธอไปอาบน้ำ ซึ่งแน่นอนเธอเห็นด้วย...เธอตัวเน่ามาตั้งคืนหนึ่งแล้ว

                    "แต่ฉันไม่มีชุดเปลี่ยน"

                    "ไปอาบน้ำเถอะน่า"

    “ไม่เอาอะ ไม่มีชุดเปลี่ยน”สาวน้อยก็ยังคงเถียงเขาและดื้อรั้นเหมือนเช่นทุกที เธอทำท่าเหมือนจะดมกลิ่นตามเสื้อผ้าของตัวเองราวกับหมา เธอแสดงสีหน้าพอใจเมื่อตามตัวเธอกลิ่นไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด

    “ฉันบอกว่า ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”เมื่อคนร่างบางชอบเถียง คนตัวใหญ่จ้องต้องใช้น้ำเสียงดุสั่งจนเขาต้องขึงตาใส่เธอแทน เธอช่างขัดใจเขาซะเหลือเกิน คำสั่งของเขามันเข้าใจยากนักรึไง

                    "ชิ"โซราเมะส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจก่อนจะย่นจมูกใส่อย่างอดไม่ได้ ทำไมอีตานี้ชอบสั่งเธอจัง เธอไม่ใช่เบ้เขาสักหน่อย เธอบ่นในใจแต่ก็ไม่นาน เมื่อถูกสายตาดุถลึงใส่ เธอจึงรีบจรลีเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

    “อีตาเผด็จการเอ้ย!

                    ร่างบางบ่นเสียงดังให้เจ้าของจอมเผด็จการได้ยิน พูดไปพลางถอดเสื้อผ้าไปพลาง เธอมองห้องน้ำหรูหราด้วยความตื่นเต้น ทั้งอ่างอาบน้ำฝักบัวสีเงิน แล้วกระเบื้องสวยหรู เรียกได้เลยว่าสวรรค์ของลูกผู้หญิงก็ว่าได้

                    เธอจัดการอาบน้ำด้วยฝักบัว กระแสน้ำอุ่นช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเช็ดคราบเลือดให้ตามร่างกายออก เธอมองแผลที่แขนอย่างไม่ใส่ใจนักเพราะเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร ครีมอาบน้ำราคาแพงแค่กลิ่นก็รัญจวนใจแล้ว เธอฟอกสบู่อย่างสบายอารมณ์ แชมพู ครีมนวดทุกอย่างเธอใช้กะเอาให้คุ้มเพราะเธอตั้งใจว่าจะไม่อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ตามคำชวนของกาอาระ

                    เมื่อเคลียร์ตัวเองจนเสร็จ เธอเป่าปากอย่างสบายอารมณ์ก่อนจะต้องมากังวลเรื่องถัดไป...แล้วชุดละ

                    "ยัยขี้เซ้า เธออาบน้ำหรือเข้าไปจำศีลนะ"เสียงตะโกนของคนข้างนอกดังขึ้น เธอปากเบ้ นึกคันปากอย่างจะสวนกลับถ้าไม่ติดว่าตัวเธอในตอนนี้โป้อยู่ละก็ ร่างบางยืนคิดอยู่สักครู่ก็ต้องถอนหายใจเธอปัดๆเศษฝุ่นเศษไม้ออกจากเสื้อผ้าก่อนจะจำใจใส่ชุดตัวเก่า....ทนไปอีกสักพักละกันเดี๋ยวค่อยไปเปลี่ยนที่บ้าน

                    ไม่นานเกินรอสาวเจ้าก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งด้วยสุดเสื้อยืดกางเกงยืนขายาวตัวเก่ง สภาพเก่าๆเน่าๆแม้จะอาบน้ำมาแล้วก็ตามเล่นทำเอาคนยืนรอถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

                    "ทำไมเธอยังใส่ชุดเดิม?"

                    "ก็ไม่ให้ใส่ชุดนี้แล้วจะให้ใส่ชุดไหน?"เธอเถียงกลับก่อนที่เธอจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังตัวหดลงเมื่อร่างสูงย่างสามขุมตรงมาที่เธอ เขาผลักเธอกลับเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะหยิบชุดที่แขวนอยู่ออกมายื่นให้เธอ

                    ชุดเดรสสีขาวปักลายสีน้ำเงินแขนสามสวนและกระโปรงยาวเหนือเข่า เธอมองชุดน่ารักๆนี้อย่างสงสัยพลางชี้นิ้วเป็นเชิงถาม....สรุปไอ้ตัวที่แขวนอยู่ในห้องน้ำนี้มัน ของเธอหรอ?

                    ร่างสูงก็พยักหน้าให้เป็นคำตอบ เธอเอื้อมมือไปจับชุดตัวสวยอย่างพิจารณา ผ้าเนื้อดีปักลายวิจิตสวยอย่างที่คนอย่างเธอยากจะได้ใส่ เธอกระพริบตาปริบอย่างไม่เข้าใจว่า ทำไมเธอต้องใส่ชุดตัวนี้

                    "ท่าทางมันน่าจะแพงอะ เอาชุดคุณคืนไปเถอะเกิดฉันทำเปื้อนขึ้นมาฉันไม่มีเงินจ่ายให้คุณหรอก"ร่างบางกล่าวอย่างใสซื่อ เธอคิดอย่างนั้นจริงๆนะ

                    เจ้าพ่อแก็งมาเฟียถึงกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนซื่อบื้อได้เท่าเธอมาก่อน ปกติสาวๆควรจะดีใจดี้ด้าที่ได้ใส่ชุดสวยไม่ใช่รึไง?...หรือมุกนี้กับเธอมันใช้ไม่ได้ผลกันนะ

                    "ใส่ซะ ฉันยังไม่อยากได้แมวข้างถนนมาเดินคู่กับฉัน"ร่างสูงสั่งเธอพร้อมกับบ่นพึมพำอย่างขัดใจ สาวสวยตรงหน้าเขาช่างซื่อบื้อกว่าที่คิด

                    "อะไรนะ?"

                    "ฉันบอกให้เธอใส่!"กาอาระจอมเผด็จการกลับมาอีกครั้ง เขาตวาดร่างบางซะเธอขนหัวตั้ง เธอผวาจนต้องกลืนน้ำลายลงคอ

                    "ขะ เข้าใจแล้ว งั้นคุณก็ออกไปสิ!"พูดจบเธอก็รีบไล่เขาออกไป ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าดังลั่น กาอาระกระตุกยิ้มขำๆในท่าที่ขี้กลัวของเธอ นี้มันใช้ใจแม่สาวบ้าระห่ำเมื่อคืนจริงๆนะหรอ? ถ้าไม่เห็นกับตาเขาคงไม่เชื่อแน่ๆ

     

    ชักถูกใจ ขึ้นมาเรื่อยๆซะแล้วสิ...

     

                    เพียงไม่นานร่างบางก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดที่เธอถูกสั่งให้ใส่ เดรสสีขาวสวยขัดกับลายปีกสีน้ำเงินที่ทำให้ร่างบางดูขาวผุดผ่อง ทั้งยังร่างบางอ้อนแอ้นพร้อมกับความสมบูรณ์ที่ลูกผู้หญิงควรมีอย่างเพียบพร้อม ขาเรียวยาวสวยเข้ากับรองเท้าส้นสูงสีขาว เธอทำหน้าเหยเก้พลางสำรวจตัวเองอีกรอบพร้อมกับจิกปลายกระโปรงขึ้นอย่างขัดใจ...นี้มันไม่ได้เรียกว่าสั้นเหนือเข่านะ นี้มันสั้นเสมอหูเลยต่างหาก

                    ร่างบางมัวแต่สำรวจร่างกายตัวเองจนไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าของเจ้าพ่อมาเฟียที่กำลังเผลอตะลึงค้างกับร่างบางตรงหน้า

     

    สวย

     

                    นี้คือคำนิยามใหม่ที่เขาได้มอบให้กับเธอ ร่างบางดูงดงามเพียบพร้อมและดูล้ำค่า นี้นะหรือคนที่เขาสัญญากับชายคนนั้นไว้ว่าจะดูแลไปชั่วชีวิต...บางที่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ที่เขาจะทำให้ตัวเองตกหลุมรักเธอ

                    "เอาจริงหรอ นี้มันสั้นมากเลยนะ"เสียงหวานใสกำลังโวยวายอย่างขะเขิน เธอหมุนตัวราวกับลูกหมากำลังหาที่นอน กาอาระชันคางพิจารณาอีกฝ่ายอย่างพอใจถึงตัวเดรสจะดูเล็กเกินไปสำหรับคนตรงหน้าแต่ก็ทำให้เธอดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก

                    "ว่าแต่จะให้ฉันไปไหน ทำไมฉันต้องใส่ชุดนี้ด้วย?"เธอถามอย่างรู้ทัน เขาต้องการให้เธอไปไหนสักทีแน่ๆไม่อย่างนั้นคงไม่บังคับสั่งให้ใส่ชุดสวยแบบนี้แน่ๆ

                    "ก็ฉลาดนี้  แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกเพราะเธอยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย"เจ้าของเนตรสีหยกเอ่ยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ก่อนจะเรียกให้แม่บ้านทั้งสามคนที่ยืนอยู่หน้าห้องเข้ามา

                    "ฉันฝากที่เหลือด้วย"เมื่อคำสั่งดังขึ้นสามแม่บ้านคนเก่งของเขาก็ลากสาวเจ้าจอมโวยวายไปที่โต๊ะเครื่องแป้งทันที เธอทำสีหน้าเหรอหราปฏิเสธไม่ออก จากโต๊ะเครื่องแป้งที่ว่างเปล่าก็ปรากฏเครื่องสำอางมากมายนับไม่ทั่ว ร่างบางตัวเกร็งเมื่อถูกจับปัดแต่งใบหน้าอย่างคล่องแคล่ว เส้นผมสีขี้เท้าถูกม้วนลอนจัดทรงเสียใหม่ ใส่ที่คาดผมรูปเปียสีเดียวกับผมของเธอ ต่างหูและสร้อยคอเครื่องเพชรราคาแพงหูฉีกก็ทำให้ร่างบางดูงดงามอย่างถึงที่สุด บาดแผลที่แขนถูกปิดไว้อย่างมิดชิดใต้แขนเสื้อสามส่วนสีขาวปักลายสีน้ำเงิน ส่วนที่หางคิ้วนั้นด้วยความชำชองของเหล่าแม่บ้าน ทำให้เธอแทบไม่เห็นแผลของตัวเองบนกระจก

                    ไม่กี่นาทีต่อมา ร่างบางก็ถูกแปลงโฉมเสียใหม่ เธอมองตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งถูกจ้องด้วยสายตาของศัตรูผู้น่าสงสัยที่เธอยอมใจอ่อนด้วยแล้ว มันยิ่งเขินเข้าไปใหญ่

                    "ใช้ได้"ร่างสูงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางชันคางขึ้นเพื่อสำรวจความเรียบร้อย ทั้งๆที่ในใจของเขากำลังฟองโตขึ้นอย่างน่าประหลาด....เธอสวยกว่าที่เขาคิดไว้มาก

                    "นี้สรุปจะพาฉันไปไหน?"โซราเมะกล่าวถามอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจนัก ไม่ว่าจะเพราะลุคใหม่ที่ไม่เคยป็นหรือกระโปรงที่สั้นกุด กระทั้งเครื่องประดับระยิบระยับที่ทำให้เธอรู้สึกประหม่ามากขึ้น

                    "เดี๋วเธอก็รู้เอง"เขาเอ่ยพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างมีเล่ห์ไหนอีกครั้ง สาวเจ้าผู้ใส่ซื่อ(บื้อ) เธอไม่เข้าใจความหมายของรอยยิ้มนั้นเสียสักเท่าไหร่ ชักเริ่มไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่

                    "แล้วเจ้าตัวเล็กละ?"

                    "มันนอนอยู่ชั้นล่าง จะลงไปดูไหมละ?"เมื่อได้คำรับอนุญาต หญิงสาวไม่รอช้ารีบเดินลงไปชั้นลงของตัวบ้าน โดยไม่สนสายตาของตัวเองเลยว่ามันสั้นและมัวแค่ไหน

                    "ว้าย!"เพราะรีบเกินไปขาเจ้ากรรมจึงได้สุดพรมปูบันใด ร้อนถึงคนที่เดินตามหลังมาเขารีบคว้าเอวบางไว้แน่นจนทำให้ทั้งคู่เหมือนอยู่ในท่ากอดกัน

                    "ระวังหน่อยสิ"ร่างสูงดุเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ความอ่อนโยนระบายขึ้นมาจากน้ำเสียงนั้น ร่างบางยังคงชักสีหน้าสงสัยอย่างไม่รู้ความ เธอจึงเถียงกลับไป

                    "ก็ฉันมองไม่เห็นนิน่า"เมื่อได้รู้สาเหตุจากริมฝีปากสีระเรื่อ มันทำให้กาอาระรู้สึกเหมือนพลาดไป นั้นสิ ตอนที่เขาเจอเธอครั้งแรกก็ใส่แว่นเสียซะหนาเชียว มันจึงไม่แปลกพอเธอแว่นหลุด จะทำให้เขาลืมมันไปเสียสนิท

                    "ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าระหว่างไปกับฉัน เธอก็เกาะฉันไว้ก็แล้วกัน"เขากล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งและเกินจะคาดเอา ร่างบางยังคงขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับจุดประสงค์ของอีกฝ่าย แต่เธอก็ยอมทำตามที่โดยดี

                    ร่างบางเกาะแขนของคนตัวสูงกว่าไว้เพราะกลัวตกบันไดในขณะที่มือหนาก็โอบเอวเธอไว้เช่นกัน เหล่าข้ารับใช้ต่างก็ยืนจ้องกันด้วยความสงสัยกับท่าที่ถะนุถนอมของผู้เป็นนาย แต่พวกเขาก็ได้แต่ยืนนิ่งเงียบ

                    กว่าจะลงมาถึงบันไดได้ก็แทบแย่ สาวเจ้าเป่าปากโล่งอกอย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องล้มหัวคว่ำไปอีกรอบ เธอจัดการแกะมือกาวที่โอบรอบเอวเธอออกอย่างนึกเคืองเล็กๆ.....ให้เธอเกาะคนเดียวก็พอเขาไม่ต้องมาเกาะเธอหรอก

                    "เมี้ยว~"ในที่สุดเธอก็ได้เจอเจ้าตัวเล็ก มันดูจะพอใจไม่น้อยกับอาหารของที่นี้ มันเดินมาหาเธออย่างรู้ความก่อนจะใช้ตัวเสียดสีที่ขาของเธอและกาอาระ

                    "เธอควรตั้งชื่อให้มันนะ"

                    "ฉันไม่ได้กะเอามันมาเลี้ยงฉันแค่จะทำแผลแล้วก็ประกาศหาคนเลี้ยงเท่านั้นเอง"ร่างบางกล่าวอีกครั้ง นั้นทำให้กาอาระเกิดความคิดอะไรบางอย่าง

                    "...อย่างนั้นฉันจะรับเลี้ยงมัน เธอก็ตั้งชื่อให้มันสิ"ร่างสูงเอ่ยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับเอ่ยไอเดียวของตัวเองโดยไม่สนใจสีหน้างุนงงของเธอสักเท่าไหร่ เธอชักสงสัยคนตรงหน้าขึ้นเรื่องๆ....สัตว์เลี้ยงตัวเองทำไมไม่ตั้งชื่อให้เองละ?

                    "แล้วทำไมคุณไม่ตั้งให้มันละ ถ้าคุณจะรับเลี้ยงมันนะ"เธอถามกล่าวอย่างสงสัยจนทำกาอาระถอนหายใจกับความขี้สงสัยของเธอ ช่างถามช่างเถียงซะจริงๆ

                    "...งั้นก็ชื่อ 'ตัวเล็ก'ก็แล้วกัน"ร่างสูงเอ่ยชื้อสิ้นคิดออกมา แน่นอนว่าชื่อของมัน ก็ได้มาจากที่โซราเมะเรียกนั้นแหละ

                    "ตัวเล็กหรอชื่อสิ้นคิดจัง"ราวกับถูกอ่านใจได้ว่ามันเป็นชื่อสิ้นคิด ร่างบางหรี่ตาลงอย่างขบขัน ตั้งชื่อได้ซะจนเธออยากหัวเราะโดยหารู้ไหมว่าเจ้าของที่มาก็คือเธอนั้นแหละ

                    "เรื่องมาก"พอถูกคนตัวบางหัวเราะเยาะ กาอาระรู้สึกเหมือนตัวเองเสียหน้าจนเขาเผลอสวนกลับด้วยเสียงห้วนๆ น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน จนโซราเมะต้องตามง้ออย่างลืมตัว

                    "โอ่ๆ ไม่งอนน่า ฉันแซวคุณเล่น"เธอกล่าวอย่างอารมณ์ดีที่ได้แหย่คนชอบเก็บงำความลับ เธอไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำกับบรรยากาศรอบตัวนั้นเป็นยังไง เธอลืมที่จะกลัวใบหน้าดุๆของเขาแล้วด้วยซ้ำ ลืมกระทั้งไปว่าเขาเป็นสาเหตุของความทุกข์ใจหลายๆอย่าง...คงเพราะความใจอ่อนและความสงสัยในแววตาคู่นั้น มันทำให้เธอเลือกที่จะไม่สนใจ เธอเพียงแค่ต้องหาคำตอบให้เจอเท่านั้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง

                    "นี้ง้อฉันหรอ?"กาอาระอดจะแปลกใจอีกรอบไม่ได้ เพราะเธอกำลังง้อเขา มันทำให้เขาต้องกลับไปคิดใหม่...เมื่อกี้ที่เขารู้สึกอย่างนั้นมันเรียกว่างอนหรอกหรือ? พึ่งจะเคยเป็นเลยแฮะ

                    "อ้าวก็ฉันไม่คิดว่าคุณจะเรียกมันตามที่ฉันเรียกนิน่า"เธอก็เลยตามง้อ รู้ตัวดีว่าเจ้าของชื่อเรียกมันมากจากตัวเธอเอง สาวเจ้าเริ่มเบ้ปาก แหย่นิดแหย่หน่อยก็ไม่ได้ เจ้าผู้ชายขี้งอน

                    เมื่อสาวเจ้าทั้งท่าจะงอนเขากลับร่างสูงได้แต่ถอนหายใจเพื่อระบายอารมณ์ออกมา เขารู้สึกใจเย็นมากขึ้นเมื่อต้องมาตั้งท่าต่อกรกับเธออย่างจำใจ ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยต้องมารับทั้งท่าต่อกรกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน...ยกเว้นพี่สาวเขาเองละก็นะ

                    "ขี้โวยวายก็แล้วขี้บ่นก็แล้ว เธออย่ามาขี้งอนตอนนี้จะได้ไหม"เขาถามอย่างอ่อนใจราวกับเป็นคำขอ ที่แฝงมาพร้อมกับด่าเล็กๆ ....สารพัดขี้กันเลยทีเดียว

                    "คุณ!"เพราะรู้ตัวว่าถูกโดนเหนบแนม ร่างสูงไม่สนเสียงโวยวายของเธอ เขาโอบเอวเธอก่อนจะดันให้เธอเดินไปข้างหน้า

                    "หึ"กาอาระหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางสายตาของคนของเขาเอง ที่ยังคงยืนอึ้งไม่หาย....สาวเจ้าที่กล้ายืนเถียง ยืนงอนเจ้านายพวกเขากับเจ้านายจอมเผด็จการที่วันนี้กำลังต่อกรกับเธอโดยอารมณ์ที่ผิดแปลกไปจากคนอื่น...มันเกิดอะไรขึ้น!?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×