ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate Diary (บันทึกพลิกโลก) By Dr.Pop

    ลำดับตอนที่ #3 : 3

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 58







    3

     

     

     

    มันคือดินแดนซึ่งผืนหญ้าถูกตัดแต่งเป็นรูปคีย์บอร์ดเปียโนสีขาวดำสุดลูกหูลูกตา

    ท้องฟ้าสีขาวประดับประดาด้วยตัวโน้ตสีแดงน้อยใหญ่หลากรูปแบบ  สุดเขตแดนซ้ายขวามีน้ำตกแกะสลักรูปไวโอลินสีเงินสูงเสียดฟ้าที่หันหน้าเข้าหากัน  สายธารใสแจ๋วจากน้ำตกยักษ์ทั้งสองไหลมาบรรจบกันที่เกาะกลางน้ำอันเป็นที่ตั้งของ “ห้องสมุดขนาดยักษ์” – มีชั้นหนังสือสีดำสูงลิ่วนับร้อยชั้นเรียงล้อมไปตลอดเส้นรอบวงของเกาะ  ทุกชั้นอัดแน่นไปด้วยหนังสือที่โชว์สันหลากสี อาจมีเป็นพัน เป็นหมื่น หรือมากกว่านั้น

    ใครบางคนกำลังนั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่กลางห้องสมุด

    เรือนผมสีบลอนด์ของเขาตั้งเด่เสริมโครงหน้าหล่อเหลาแบบตะวันตกให้ดูเย่อหยิ่ง เรือนร่างบึกบึนฟิตเปรี๊ยะของหนุ่มวัยสิบแปดซ่อนอยู่ใต้เสื้อยืดสีดำ  เขาสวมยีนขาเดฟดำซีดประดับโซ่ มือขวาของเขาจับหนังสือในระดับสายตา ขณะที่มือซ้ายกอดอก รอบ ๆ ตัวเขาคือกองหนังสือนับร้อยซึ่งถูกทิ้งเกลื่อนกลาด หลายเล่มกางออกปล่อยให้สายลมโลมเลียหน้ากระดาษอย่างไร้การใส่ใจ เขาเป็นคนประเภทที่แค่คุณสบตาก็รู้สึกได้ถึงหัวใจบีบรัดเหมือนถูกมัดแล้วจับขังในกล่องเหล็ก คุณสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายและภัยคุกคามที่แผ่รังสีออกจากทุกอณูของเขา เขาทำให้โลกที่งดงามแห่งนี้ดูหนืดเหนียวและแคบลงได้อย่างประหลาด  

    บัดนี้ดวงตาสีฟ้าสุกสกาวกำลังจับจ้องแอนดี้อย่างนิ่งขรึม

    ทุกสิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง  แอนดี้ถูกติดตรึงด้วยความผวา

    ฮึ”  เด็กหนุ่มเจ้าของห้องทำลายความเงียบด้วยเสียงเย้ยหยัน  “ใครบางคนโง่จนอ่านคำเตือนไม่ออก หรือไม่ก็สติบกพร่องจนลืมมารยาท” 

    สุ้มเสียงอันราบเรียบสะกดทุกคนจนก้าวขาไม่ออก  น่าแปลกใจที่เขาพูดไทยได้ชัดทั้งที่โครงหน้าไม่มีเค้าความเป็นไทยเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มปริศนาเหลือบมองทุกคนผ่าน ๆ และก้มลงอ่านหนังสือต่อ

    “ลูกชายฉันอยู่ไหน”  บางสิ่งสั่งให้แอนดี้รักษาน้ำเสียงอย่างระวังภัย แต่เขาไม่อาจห้ามหน้าตาที่บึ้งตึงได้

    เด็กหนุ่มเหลือบมองเขา รอยยิ้มมุมปากแฝงความฉลาดล้ำลึก

    “เต้?”

    “ใช่”

    “ฮึ”  ท่าทีรังเกียจของเด็กหนุ่มทำแอนดี้ไม่พอใจ  “ไกลแสนไกล”

    “ที่ไหน”  แอนดี้ถาม

    “ไกลแสนไกล” 

    “ประมาณว่าตรงไหนล่ะ”  แอนดี้พยายามอดทน

    “ไกล – แสน – ไกล” 

    “ที่ไหนเล่าไอ้งั่ง!

    เสียงตะโกนของผู้กองกู่ก้องไปไกลในดินแดนมหัศจรรย์

     ความเงียบบุกเข้ายึดทุกพื้นที่  พวกเก่งชัยตัวแข็งทื่อ

    “ฮึ”  เจ้าของห้องลดหนังสือลงมองแอนดี้  “ตอนอายุสิบหกคุณเคยแอบสูบบุหรี่ในห้องนอน  พ่อเคาะเรียกคุณอยู่นานแต่คุณไม่ตอบ พ่อเลยพังประตูเข้ามา แล้วคุณก็ถูกหวดด้วยเข็มขัดยกใหญ่  ปมด้อยที่ฝังในรากเหง้านิสัย  พ่อเป็นไงลูกก็เป็นงั้น” 

    แอนดี้อึ้ง  “แกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง”

     “ผมรู้ทุกอย่างที่อยากรู้ และรู้ทุกอย่างที่คนอื่นไม่อยากให้ผมรู้  พอลูกคุณอายุสิบหกก็โดนคุณตบจนหนีออกจากบ้านไป เจอตัวอีกทีก็กลายเป็นซากเน่ารอวันตาย”  เขาพูดไปพลิกหน้ากระดาษหนังสือไป “โหลยโท่ยทั้งตระกูล”  เด็กหนุ่มชุดดำเหลือบมองผู้กองอย่างเย็นชา

    แรงโทสะถีบแอนดี้ให้พุ่งเข้าหาไอ้ปากดี!

    ฝีเท้าที่เหยียบย่ำผืนหญ้าตัวโน้ตอย่างเร็วรี่ก่อเกิดเป็นบทเพลงที่สับสนและผิดเพี้ยนชวนขนหัวลุก 

    เด็กหนุ่มชุดดำส่งเสียง ฮึ แล้วปิดหนังสือ

    คมดาบสีขาวนับสิบปรากฏขึ้นล้อมแอนดี้ในทันใด!

    เพชฌฆาตผู้ถือดาบทุกคนคือเด็กหนุ่ม ม. ปลาย ผมดกดำ ในชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงิน

    “ตะเต้ แอนดี้ละล่ำละลักเมื่อประจันหน้าลูกชาย – ความสับสน หวาดกลัวและความปลื้มปิติท่วมท้นจนเกินจะเปล่งเสียงได้  ผู้กองหนุ่มยกสองมือทั้งดวงตาสั่นไหวโหยหาจะสัมผัสลูก

    ฝูงนักฆ่าพลันจี้คมดาบชิดคอหอยเขา  แอนดี้หายใจกระตุก

    “เต้ นะนี่ พ่อเองลูก”  แอนดี้เปล่งวาจาอย่างยากลำบากและฝืนยิ้มทั้งปากสั่น

    ชายชุดดำส่งเสียง ฮึ – แล้วเต้ทั้งหมดก็กลายสภาพเป็นผีไม่มีหน้า

    “ลูกข้าอยู่ไหน!!”  ผู้กองแผดเสียงลั่น

    “พูดเพราะ ๆ สิ”  ชายเจ้าของห้องกอดอกเท้าคางกวนประสาท

    “ไอ้ชั่ว ลูกข้าลูกไหน!!!!

    เสียงฉัวะ!ดังแหวกอากาศ – แอนดี้ร้องเสียงหลงเมื่อขาขวาถูกฟันจนเลือดพุ่ง! – เก่งชัยกับพรรคพวกวิ่งเข้าไปช่วย

    กำแพงเวทมนตร์สีดำปรากฏขึ้นขังพวกเขาทันใด

    “ฮึ”  ชายปริศนาฮึมฮัมอย่างมีชัย

    เมื่อเขายืน หนังสือนับร้อยก็ลอยขึ้นมาหมุนรอบตัวเขาอย่างตระการตา!

    เสียงหวือ ๆ พั่บ ๆ เมื่อมันเสียดสีกับสายลมดังหลอนไปทั่วพสุธาเหมือนฝูงนกคลั่ง!

    แอนดี้ถูกภาพนั้นสะกดจนตัวแข็งทื่อ คำถามที่พุ่งขึ้นมารอบกายเขาคือ ไอ้นี่มันตัวอะไรกันแน่!!’

    “ไหนพูดซิ  ลูกผมอยู่ไหนครับ”  ชายชุดดำเดินนวยนาดลงบันได ดวงตาสีฟ้าใสจับจ้องแอนดี้อย่างเย่อหยิ่ง มือซ้ายล้วงกระเป๋า มือขวาถือหนังสือ กิริยาอาการโดยรวมบ่งบอกว่า ฉันกลัวไม่เป็น

    “แกมันไอ้ปีศาจ!” 

    “ฮึ”  เสียง ฉัวะ ดังชัด

    ผู้กองร้องโหยหวนเมื่อริมฝีปากถูกเฉือนจนเลือดสาด!

    เด็กหนุ่มชุดดำย่างสามขุมเข้ามาใกล้

    แหวนบนนิ้วนางขวาของแอนดี้เปล่งแสงวาบ!!

    “เฮีย!!”  ภาคย์ร้องเสียขวัญ

    “ฮึ” 

    คมดาบแทงทะลุสองมือของแอนดี้ทันใด!

    เลือดแดงฉานไหลทะลักจากมือผู้กองดั่งท่อประปาแตก ปากที่แหกกว้างแผดเสียงร้องเผยให้เห็นฟันขาวชุ่มเลือด  พิษบาดแผลฉกรรจ์ฉุดผู้กองหนุ่มให้ทรุดอย่างศิโรราบ  เงาทะมึนของไอ้ตัวแสบทอดทับกายเขาในอึดใจ  ภาพของหนังสือนับร้อยที่หมุนรอบตัวมันอย่างเกรี้ยวกราดทำให้ร่างนั้นดูน่าเกรงขามดุจแม่ทัพปีศาจผู้หยิ่งยโส  เสียงพั่บ ๆ ของหน้ากระดาษเปรียบดั่งเสียงกระพือปีกของค้างคาวอสูรที่หลอนประสาทให้ศัตรูปราชัย

    แอนดี้หมดเรี่ยวแรงจะต่อกรแล้ว เขาสู้ไม่ได้จริง ๆ

    “ละ...ลูกผม อยู่ไหนครับ”  ผู้กองเค้นคำพูดทั้งหอบแฮ่ก

    ไอ้ตัวแสบยิ้มมุมปากเหยียดหยาม

    ทันใดนั้นเหล่าผีไร้หน้าและฝูงหนังสือบินก็สลายไป!

    ชายชุดดำคว้าช็อกโกแลตแท่งออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าก่อนจะใช้เท้าเขี่ยแอนดี้ให้นอนคว่ำแล้วหย่อนก้นนั่งบนร่างนั้น  ผู้กองส่งเสียงโอดครวญชวนเวทนา แต่ก็รู้ว่าหมดหนทางขัดขืน ไอ้ตัวแสบกินช็อกโกแลตไปใช้มือละเลงผมแอนดี้ไปอย่างสำราญใจ

    เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเห่อลูกสุนัขตัวใหม่

    “อยากรู้ใช่ไหมว่าเต้อยู่ไหน” 

    “คะ...ครับ”  แอนดี้เสียงอ่อน

    “อยากรู้มากไหม”

    “มากครับ”

    “จริงอ่ะ”

    “ครับ”

    “ฮึ น่ารัก”  ชายชุดดำก้มลงจุ๊บหัวแอนดี้เบา ๆ

    พลันนั้นบาดแผลทั้งหมดของผู้กองก็หายเป็นปลิดทิ้ง

    “รอไปก่อน”

    เขาจบประโยคห้วน ๆ แล้วเดินจากไปพร้อมเปิดหนังสืออ่าน

    แอนดี้หน้าหลาพลางสำราวจร่างกายที่คืนสภาพ

    ทุกอย่างจบลงง่าย ๆ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

    เราบินได้

    “คุณว่าไงนะ”  แอนดี้รีบผุดลุกขึ้นอย่างกังขา 

    “เรา – บิน – ได้”  ไอ้ตัวแสบย้ำช้า ๆ ชัด ๆ แล้วกัดช็อกโกแลตอีกคำ

    “แต่ลูกผม…”  แอนดี้พยายามต่อรอง

    “ชู่ว์”  ชายชุดดำชูนิ้วชี้ทำนองว่าฉันจะไม่พูดซ้ำละนะ

    ความโกรธล้นปรี่ขึ้นในดวงตาแอนดี้อีกครา  

    เอาวะ ถ้ามันไม่ยินดีจะพูด เขาจะบังคับให้มันพูดเอง!

     บอกความจริงมาว่าลูกชายผม…” 

    ผู้กองสะดุ้งโหยงเมื่อชายชุดดำปรากฏกายตรงหน้าเขาราวกับโฉบออกมาจากสายลม – สองมือหยาบกร้านนั้นโอบหน้าเขาไปประกบชิดกับใบหน้ามันในเสี้ยววิ  แอนดี้สั่นเป็นเจ้าเข้าเมื่อสัมผัสถึงความอำมหิตจากแววตาคู่นั้นที่กรีดแทงลงลึกถึงขั้วหัวใจ  

    “สิ่งที่คุณอับอายที่สุดก็คือการฉี่รดที่นอนในกองร้อยสินะ”

    แอนดี้ช็อก

     “ฮึ” 

    ทันใดนั้นร่างแอนดี้ก็ถูกชูขึ้นด้วยมือเดียว!  มือซ้ายอันทรงพลังบีบคอเขาไว้แน่น  แอนดี้หน้าแดงก่ำ หลอดลมของเขาหดเกร็งต่อต้านการหายใจ  “คุณล้วงความจริงคนได้ ผมก็ทำได้ และถ้าแหวนนั่นทำให้คุณควบคุมสสารได้”

    เสียง ครืน ดังสนั่น  พื้นสีขาวสลับดำสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น

    ทันใดนั้นผืนหญ้าก็ผุดขึ้นมาเป็นเทือกเขาล้อมพวกเขา!!

    “ผมก็ทำได้”  ชายชุดดำเลิกคิ้วดูถูก  “ผมทำได้ทุกอย่างที่คนอื่นทำได้ และทำได้ทุกอย่างที่คนอื่นทำไม่ได้”

    พลันนั้นเทือกเขาก็แตกสลายดังโครม! ตัวโน้ตสีดำจาง ๆ พรั่งพรูออกมาจากเศษดินเศษหญ้าแล้วปลิวไปในอากาศดุจเกสรแห่งบทกวี

    เสียง เปรี้ยง ดังสนั่นเมื่อสายอสุนีบาตผ่าฟาด!

    แล้วเสียงโหยหวนอึงคะนึงก็ดังมาจากฟากฟ้า

    ปรากฏจุดสีดำมากมายกระจายทั่วนภาดั่งหยดหมึกบนกระดาษยักษ์ – ทุกสายตาจับจ้องไปยังความพิศวงอันมหึมาที่ขยายใหญ่ขึ้น ๆ  เสียงร้องหลอนหูดังตามมาและค่อย ๆ ดังขึ้นจนกระหึ่มดั่งลำโพงอเวจีถูกเร่งเสียงถึงขีดสุด

    และแล้วภาพแห่งฝันร้ายก็ซัดทุกความรู้สึกจนขาดสะบั้น

               มันคือห่าฝนมนุษย์ที่ร่วงโปรยลงมาดุจตุ๊กตาผ้า!!

             เสียงโหยหวนดั่งนรกแตกดังมาจากร่างนับพันที่ตะเกียกตะกายในเวหา  เพียงพริบตาเสียง ตุบ! และเสียง กร๊อบ! ก็ดังไปทั่วดินแดน ร่างแล้วร่างเล่าพุ่งกระแทกพสุธาจนแหลกเละระเนระนาด 

    แอนดี้อ้าปากค้างตกตะลึง – ศพเหล่านั้นคือเต้!

    “เห็นชัดไหม”  ชายชุดดำชูร่างผู้กองให้สูงขึ้น

    ภาพของทุ่งสังหารเล่นงานแอนดี้จนสติแตก

    บางศพหน้าเละบิดเบี้ยว บางศพร่างแหลกเครื่องในกระจาย บางศพตาค้างมือยังกระตุกไม่หยุด  มีทั้งศพเต้ในชุดนอน ชุดไปรเวท แม้แต่ในชุดผู้ป่วย สีแดงของเลือดอาบชุ่มไปทั่วทั้งดินแดนดั่งสีทาบ้านที่ถูกละเลงด้วยจิตกรคลั่ง – หัวใจผู้กองเต้นข้ามจังหวะเมื่อความสะพรึงฉีดพล่านไปถึงสมอง!

    “พะพ่อ”

    เสียงครวญครางแหบพร่าดังขึ้น  แอนดี้ใจแทบแหลกเมื่อเห็นเต้ในชุดนักเรียนใบหน้าเละไปครึ่งหนึ่ง

    ร่างนั้นกำลังคลานมาหาเขา ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา

    “เต้!”  เขาแผดเสียงเรียกลูกปานใจสลาย!  สองขาที่ลอยอยู่ออกแรงกวัดแกว่งเพื่อปลดเปลื้องตัวเองจากพันธนาการ  เด็กหนุ่มคลานต้วมเตี้ยมไปตามสุสานทั้งครางเรียกเขา  เสียงตุ้บ ๆ ดังไม่ขาดสาย ความตายแต่งแต้มพสุธาไม่รามือ – ชายปริศนาบีบคอแอนดี้แรงขึ้น ผู้กองส่งเสียงคอก ๆ แคก ๆ แต่ยังฝืนแรงเหยียดแขนออกไป  เขาตั้งปณิธานกับตัวเองว่าต้องช่วยลูกชายให้ได้!

    “พะ พะ พ่อครับ”  ลูกชายเอื้อมไขว่ขว้าเขาทั้งสะอึกสะอื้นร้องไห้

    “อีกนิดเดียวลูกรัก”  แอนดี้ยิ้มให้ร่างนั้นอย่างมีความหวังทั้งเจ็บปวดปางตาย  

    ลูกใกล้จะถึงตัวเขาแล้ว อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียว...

    “เก่งมากลูก”  ผู้กองเหยียดมือสุดเส้นเอ็นเพื่อร่นทางให้ลูก

    เสียง เผละ ดังสนั่น

    เต้ตรงหน้าเขาถูกอีกร่างร่วงลงมาทับตายคาที่

    น้ำตาของแอนดี้รินไหล ดวงตาค้างเติ่ง ดั่งสติหลุดลอยไปแสนไกล

    บัดนี้ทั่วทุกแห่งถูกห่มด้วยซากศพนับพันที่แหลกเละ  เสียงสะอื้นดังขึ้นในคอพ่อผู้เหม่อมองทะเลแห่งความตายสุดลูกหูลูกตา  ร่างของลูกเขากระจายเกลื่อนกลาดดั่งซากปลาที่ถูกเทลงถมกันอย่างไร้ค่า

    “ม่ายยยยยยยยยยยยยยย” 

    แอนดี้แผดเสียงร้องฟูมฟายเป็นคนบ้า ชายชุดดำทอดสายตามองเขาอย่างนิ่งขรึม  พวกพัทธ์ในกำแพงเวทพากันสลดแต่ก็ไร้หนทางช่วย

    ในที่สุดจอมมารก็ปลดปล่อยนายตำรวจจากพันธนาการ  แอนดี้ทำได้แค่ทิ้งตัวนอนไปกับพื้นอย่างใจสลาย  เขาเหม่อมองศีรษะของลูกชายที่แน่นิ่งอยู่ใกล้สุดแล้วร้องห่มร้องไห้ ผิวกายลูกช่างซีดเผือดและชุ่มโชกด้วยโลหิต ไม่มีแม้เศษเสี้ยวของกระแสชีวิตหลงเหลืออยู่ในร่างนั้น  

    “ลูกพ่อ” แอนดี้พร่ำเพ้อ ทั้งน้ำหูน้ำตาไหล  เขารวบรวมแรงที่เหลืออยู่ยื่นมืออันสั่นระริกออกไปหวังจะกอดจะหอมลูกแนบใจ

    ทันใดนั้นร่างของเต้ทั้งหมดก็หายไป

    … … …

    แอนดี้ยกมือค้างในอากาศและนิ่งสนิทดั่งหลงทางในห้วงจิต

    ทั้งดินแดนเงียบกริบ ไม่มีแม้เสียงลมหายใจ

    “ผมชื่อเพกาซัส เจมส์ คริสมาสต์”  ชายชุดดำมองแอนดี้ผ่านไหล่  “เรา – บิน - ได้

    แล้วเพกาซัสก็เดินจากไป

    แอนดี้จมดิ่งสู่มหาสมุทรแห่งความอัปยศอันหมดหนทางงมซากใจที่แหลกสลาย  กำแพงเวทซึ่งกักขังพวกเก่งชัยจางหาย – รอยยิ้มแห่งความโหยหาพลันสว่างวาบขึ้นบนหน้าภาคย์

    “เฮีย กินข้าวกันครับ”  ภาคย์ดูตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อยเห็นซานตาคลอส

    “ไม่” เพกาซัสตอบห้วน ๆ แล้วโยนหนังสือทิ้งผ่านไหล่

    ความสุขบนหน้าภาคย์ดับวูบ

    “ได้เวลา”  เพกาซัสเดินผ่านภาคย์ไปอย่างไร้ตัวตน

    “ครับ”  พัทธ์รับคำอย่างเข้าใจ

    “ผมไปด้วยนะเฮีย”  ภาคย์รีบเดินตามด้วยรอยยิ้ม

    “ไม่”  เพกาซัสพูดสั้น ๆ แล้วออกจากห้องไป

               ภาคย์นิ่งสนิท เป็นใบ้
               พี่ชายไม่มีทีท่าจะหันกลับมามองเขาเลย 

    “รีบตามเขาไปเถอะ ทางนี้ผมจัดการเอง”  เก่งชัยเสนอตัว

    “ขอบคุณครับ”  พัทธ์ไหว้ลาคุณหมอแล้วเดินตามเพกาซัสไป  เก่งชัยวางมือไหล่ภาคย์อย่างให้กำลังใจ ก่อนจะหันกลับไปมองแอนดี้ที่นั่งคุกเข่าเหม่อมองฟ้าอย่างใจสลาย

    “คุณจะบอกผู้กองเรื่องนั้นไหม”  ช็อกโกแลตถาม

    “จะเร็วหรือช้าเขาก็ต้องรู้”  เก่งชัยเฝ้ามองแอนดี้อย่างเวทนา

    หากนายตำรวจหนุ่มคิดว่าสิ่งที่เขารู้วันนี้มันเจ็บปวดสุด ๆ แล้ว

     เขาคิดผิด

     

     

     

     

     

     

     








     

    ติดตามตอนต่อไปในเล่ม




    ขอบคุณทุกการตอบรับที่อบอุ่นเกินคาดที่ส่งให้ Fate Diary สร้างสถิติระดับประเทศ
     

    *No. 1 หนังสือขายดีทั่วประเทศตั้งแต่ 10 ชั่วโมงแรกที่วางแผง
    *No. 1 หนังสือขายดีราย 7 วันทั่วประเทศใน 3 วันแรกที่วางแผง
    *No. 1 วรรณกรรมประเทศไทย
    *No. 1 นิยายไทยที่เปิดตัวสูงสุดของนานมีบุ๊คส์ในรอบ 23 ปี

    ขอบคุณที่เปิดใจและให้โอกาสผมมาตลอด 13 ปีในวงการครับ heart emoticon


    ร่วมใช้ #Fatediary บน Social network ของคุณ
    เพื่อแสดงความเห็นของคุณเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้กันครับ


     


    Dr.Pop Facebook : www.facebook.com/drpopworld
    Dr.Pop Twitter : http://twitter.com/drpoppop
    Dr.Pop Instagram : @drpoppop

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×