คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2
บทที่2
“มีแต่เสื้อผ้าแบบนี้เหรอคะ”
คริสเทนทำตาปริบๆมองดูชุดที่ขวัญแก้วใส่หลังจากร้องขอให้เด็กหนุ่มเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ออกมาถึงสามครั้ง
ตอนนี้ตรงหน้าคริสเทน ขวัญแก้วใส่เสื้อยืดลายมิคุกับกางเกงยีนสีซีด โชคยังดีที่มีแจ็กเก็ตหนึ่งตัวสวมทับด้านนอกจึงดูไม่ตลกอะไรมากนัก
แย่หน่อยที่ตั้งแต่ตัดสินใจเปลี่ยนบุคลิกเขาได้ถลำลึกเข้าสู่วงการการ์ตูนจนแทบจะกลายเป็นโอตาคุหนุ่มไปแล้ว แต่ใช่ว่าเขาจะเป็นพวกแสดงออกและชอบใส่ชุดลายอนิเมะอะไรพวกนี้เพียงแต่รู้สึกว่า ถ้าใส่ของแบบนี้คนทั่วไปที่ไม่ได้มีรสนิยมเดียวกันจะมองผ่านตัวเขาไปอย่างแน่นอน
โดยพาะอย่างยิ่งถ้าคิดว่าต้องออกเดตกับผุ้ชายที่ใส่ชุดลายการ์ตูนทุกถานะการณ์ ใครๆก็คงรู้สึกกระดาก
ยกเว้นพวกเธอจะเป็นโอตาคุสาว
“แต่ก็ช่างเถอะจะแต่งตัวยังไงถ้าคนใส่หน้าตาดีก้ไม่มีปัญหาหรอก”
คริสเทนพูดพร้อมกับควงแขนขญแก้วเดินลงมาที่ชั้นล่างพอปะหน้าเข้ากับมาจอรีย์ปุ๊บเธอก็ขอบัตรเครดิตจากคนเป้นแม่ทันที โดยอ้างว่าต้องจัดการกับเสื้อผ้าที่ใช้ไม่ได้ของขวัยแก้วเสียใหม่
เด็กหนุ่มลนลานปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
“ซื้อก้ดีแล้วนี่จ๊ะ ตามที่คริสเทนบอกเกลมีแต่เสื้อบางๆทั้งนั้นที่นี่อากาสหนาวนะเสื้อแจ็กเก็ตตัวเดียวไม่พอใช้หรอกนะ”
มาจอรีย์ยิ้มกว้างก่อนจะยื่นบัตรเครดิตการ์ดให้คริสเทนรับไป
“ไปเถอะ”
คริสเทนพูด
ตลอดการเดินทางในย่านการค้าของเมืองเด็กาวเดินควงแขนและคลอเคลียเขาไปตลอดทางราวกับเป็นคู่รัก
ขวัยแก้วรู้สึกกระดากอายสุดๆเมื่อถูกคนรอบข้างเมียงมองและซุบซิบพูดถึงตนกับคริสเทนไปตลอดทาง
“ใครๆก้คงคิดว่าเราเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันนะว่าไหม”
คริสเทนพูดขณะซบใบหน้าลงบนแขนของขวัญแก้วที่เธอเดินควงอยู่’
“อ๊ะร้านนี้ด้วย”
เด็กสาวโพล่งขึ้นเมื่อเดินผ่านร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่งคริสเทนลากขวัยแก้วที่เดินถือของพะรุงพะรังหลังจากวื้อมาจนเยอะมากทีเดียว
“รู้สึกว่ามันเยอะเกินไปนะ”
ขวัยแก้วพูดหลังจากคริสเทนซื้อคาร์ดิแกนให้เป็นตัวที่สามก่อนจะพาเขาไปที่ร้านแว่นตาอย่างอิดออดเนื่องจากเธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่วื้อมายังไม่เพียงพอสำหรับขวัญแก้ว
“ทำไมตอ้งใส่แว่นตาทั้งๆที่ไม่ได้สายตาสั้นล่ะคะเกล”
คริสเทนมองดูขวัญแก้วที่ตอนนี้ใส่แว่นตาทรงคุณปู่ด้วยความสงสัย ขณะพากันเดินทอดน่องจตามร้านรวงริมถนนในช่วงค่ำ
“ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยนะเวลาถูกเห็นหน้าตอนไม่ใส่แว่น”
ขวัญแก้วตอบอย่างไม่ลังเลถึงแม้จะพยายามคัดกรองคำพูดของตนแล้วก็ตาม
“ทั้งที่คุณเป้นคนสวยขนาดนี้น่ะนะ คุณควรจะภูมิใจสิเหมือนฉัน”
คริสเทนสะบัดผมบ๊อบแล้วเชิดหน้าขึ้นนิดๆเมื่อรู้สึกถึงสายตาจากคนรอบข้างที่มองมาที่เธอด้วยความสนใจ
“คุณดูสิแววตาที่มองมาทั้งชื่นชมทั้งอิจฉาคุณไม่รู้สึกดีบ้างเหรอ”
ขวัญแก้วยิ้มนิดๆให้กับความคิดของคริสเทน
ทำไมเขาจะไม่รู้สึกดีล่ะเขาเองก้เคยอยู่ตรงจุดนั้น ถูกห้อมลอ้มพะเน้าพะนอจวบจนรู้ว่าความใคร่เปลี่ยนให้คนเรากลายเป็นอะไรที่น่ากลัวได้มากแค่ไหนเขาก้เลิกทำตัวเฉิดฉายอย่างภาคภูมิใจในทันที
“ผมยอมเป้นคนธรรมดาดีกว่าเป็นจุดสนใจแฮะ”
ขวัญแก้วหัวเราะแฮะๆ เขาเกาหัวแกรกๆแก้เก้อก่อนจะสังเกตุเห็นคนตัวบางสองคนกำลังกอดจูบกันที่ริมทางเดินในตอนค่ำอย่างไม่สนใจใคร
คนหนึ่งเป้นหญิงสาวเปรี้ยวปรี๊ดผมแดงในชุดรัดรูป อกอวบอิ่มแทบจะล้นทะลักออกมาจากเกราะอกของหล่อน
ส่วนอีกคนที่กำลังกอดจูบอยู่ด้วยนั้นหากไม่ใช่โดมินิกขวัญแก้วคงไม่หยุดมองแล้วอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ประเจิดประเจ้อ”
คริสเทนจิกกัดโดมินิกทั้งที่ยังหัวเราะน้อยๆ
จากท่าทางของเด็กสาวแล้วขวัญแก้วรู้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตกใจหรทอรู้สึกว่าการกระทำของโดมินิกเป้นเรื่องที่ผิดปกติอะไร
หากแต่กับขวัยแก้วการที่เด็กสาวสองคนกำลังจูบกันทำเอาเขาช็อกตาตั้งไปเลย
เด็กหนุ่มเคยอ่านการ์ตูนแนวยูริมาบ้างแต่พอมาเห้นสาวๆจูบแลกลิ้นนัวเนียกันของจริงทำให้เขารู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก
โดมินิกเป็นเลสเบี้ยนเหรอนี่
แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกวูบโหวงแบบแปลกๆคล้ายๆกับกำลังผิดหวังด้วยนะ
พับผ่าสิหรือว่าเขากำลังรู้สึกเสียดาบให้ชายแท้ทั้งโลกที่ยังไม่มีแฟนเพราะสาวสวยส่วนใหญ่พากันเล่นเพื่อนไปเสียหมด
“คุณแม่เหลือไก่งวงไว้ให้นายแนะโดมินิก”
คริสเทนพูด
เด็กสาวมองดูคู่ขาสาวผมแดงของโดมินิกตั้งแต่หัวจรดเท้า
“คนนี้ใช้ได้นี่วันนี้จะกลับบ้านหรือค้างล่ะ”
คำพูดของคริสเทนดังสะท้อนไปมาในหัวของขวัยแก้ว
จะกลับหรือจะค้างไม่ได้หมายความว่าโดมินิกกับสาวผมแดงจะไปทำเรื่องอย่างว่ากันหรอกใช่ไหให้ตายสินี่เขากำลังอยู่ในโลกแฟนตาซีหรือไร
“หน้าแดงก่ำเชียวนะ”
ขวัญแก้วสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกโดมินิกทัก
โดมินิกตอนนี้ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เขาที่กำลังหน้าแดงไปจนถึงหู พอถูกทักแบบนี้ทั้งคริสเทนทั้งสาวผมแดงก้พากันสนใจในตัวเขา
สองสาวพากันหัวเราะเสียงเจื้อยแจ้วทำเอาเขาอยากจะมุดรูหนีความอายถ้ามีรูให้มุด
“ฉันอาจจะกลับดึกหน่อยแต่จะกลับแน่นอนบอกคุณแม่ด้วยว่าไม่ต้องรอ”
โดมินิกพูดเหมือนเรื่องปกติหากแต่ขวัญแก้วนั้นจินตนาการไปไกลถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปแบบเดียวกับการ์ตูนสายยูริที่เขาเคยอ่าน
โดมินิกมองดูเขาด้วยรอยยิ้มแล้วหัวเราะขึ้นจมูก
“ไปเถอะเจสซี่”
สาวผมแดงหรือเจสซี่รีบเดินตามโดมินิกทันทีหลังจากถูกเรียกทิ้งให้ขวัญแก้วยืนหน้าแดงโดยมีคริสเทนยิ้มมองดูเขาอยู่ข้างๆ
“คุณนี่น่ารักจัง”
“ครับ”
ขวัญแก้วที่หลุดจากผวังขานรับ
“ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์แท้ๆทำไมต้องหน้าแดงด้วยแค่มีse….”
ขวัญแก้วเอามือปิดปากคริสเทนก่อนที่เด็กสาวจะพูดจบประโยค เขามองดูรอบตัวด้วยความตื่นตระหนก
“เข้าว่าเรื่องปกติ แต่พวกเธอเป็นเด็กผู้หญิงอายุแค่สิบห้าเองนะ”
ขวัญแก้วทำเสียงขรึมหากแต่คริสเทนกลับไม่ใส่ใจเธอหัวเราะคิกคักแล้วจูงมือพาขวัญแก้วขึ้นรถกลับบ้านอย่างร่าเริง
พอลงจากรถคริสเทนก้ถูกทักทันที ขวัญแก้วมองไปตามเสียงเรียกก็พบเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ท่าทางทะมัดทะแมง
หากแต่ใบหน้าเรียบเฉยจนจับอารมณ์ไม่ได้กับท่าทางพูดน้อยทำให้ขวัญแก้วรู้สึกสนใจ
“นี่คือญาติที่ย้ายมาใหม่เหรอ”
เด็กหนุ่มผมดำเอ่ยถาม
“ใช่นี่เกล”
คริสเทนแนะนำขวัญแก้วก่อนจะแนะนำอีกฝ่ายให้ขวัญแก้วรู้จัก
“นี่เอียนเป็นญาติห่างๆของเรา”
“ยินดีที่ได้รู้จัก”
เอียนพูดพลางจับมือขวัญแก้วเขย่าเบาๆก่อนจะหันไปพูดกับคริสเทนด้วยท่าทีสุขุม
“พวกเดียวกันสินะ”
“ลูกครึ่งที่เกิดจากแม่ที่เป็นคนปกติ”
คริสเทนพูดยิ้มๆ
“อ่อ”
เอียนเอ่ยคำสั้นๆก่อนจะดบกมือลาเดินจากไปทิ้งความสงสัยมากมายให้ขวัญแก้ว
อยากจะถามว่าเมื่อกี้ที่พูดกันหมายถึงอะไรแต่เด็กหนุ่มก้คร้านที่จะถามจึงปล่อยเลยตามเลยและกลับเข้าบ้าน
นำของที่ซื้อมาใหม่จัดเข้าตู้แล้วเข้านอนในเตียงที่อบอุ่นก่อนจะตื่นขึ้นมาในตอนดึกเพื่อมาเข้าห้องน้ำเพราะปวดเบาและเดินไปดื่มน้ำในห้องครัวหลังจากปลดทุกข์เสร็จ
“นอนไม่หลับแฮะ”
ขวัยแก้วพึมพำก่อนจะตัดสินใจออกไปเดินเล่นทั้งชุดนอน พอจะเปิดประตูบ้านก้ได้ยินเสียงกุกกัก
เด็กหนุ่มหยุดชะงักแล้วทำตัวให้เงียบที่สุดแอบชะโงกมองดูทางช่องหน้าต่างที่ด้านข้างด้วยความระแวง
ที่ตรงหน้าปรากฏเด็กหนุ่มผมแดงที่น่าจะสูงกว่าเขาประมาณหกซ.มกำลังกอดจูบกับคนร่างเล็กกว่าที่เขาจะไม่ตกใจเลยถ้าคนถูกจูบจะไม่ใช่โดมินิก
“อยากให้นายเปลี่ยนเป็นผู้หญิงเพื่อฉันจัง”
เด็กหนุ่มผมแดงกระซิบออดอ้อนหลังจากถอนจูบจากโดมินิก
ขวัญแก้วรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นใบหน้างดงามนั้นยังคงเฉยชาและเยือกเย็นไม่ได้หอบครางหรือเคลิ้มฝันอย่างที่เขาจินตนาการ
หากแต่คำพูดคำจาของทั้งคู่ทำให้เขาตงิด
“ถ้านายมีสเน่หืกว่านี้บางทีฉันอาจจะยอมเปลี่ยนเป็นผู้หญิงเพื่อนายก็ได้”
โดมินิกเอ่ยเสียงเย็นพร้อมผละตัวออกจากอ้อมกอดของคนตรงหน้า
“นายควรจะเลือกได้แล้วมันเลยเวลามามากและเป็นผลเสียกับร่างกายนายก็น่าจะรู้”
ยิ่งฟังยิ่งแปลก
ขวัญแก้วคิด
บางทีเขาควรจะกลับไปบนห้องก่อนที่ทั้งคู่จะรู้ตัว
หากแต่ขวัญแก้วกลับเหยียบบันไดพลาดจนเกือบล้มแล้วอุทานเสียงดังทำให้คนที่ด้านนอกเปิดประตูเข้ามาดูอย่างพร้อมเพียง
“นายเป็นใคร”
เด็กหนุ่มผมแดงถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ใจเย็นก่อนลอเรน” โดมินิกห้าม
“มาทำอะไรกลางดึกแอบฟังเหรอ”
โดมินิกถามใบหน้างดงามนั้นถึงไม่ได้แสดงออกถึงความกรุ่นโกรธแต่รู้สึกได้ถึงแววตาคุกคามของอีกฝ่าย
“ไม่ได้แอบฟังครับ ฉันขอโทษ ขอตัวก่อนนะครับ”
ขวัญแก้วพูดรัวเร็วด้วยความตื่นกลัวก่อนจะลุกขึ้นวิ่งหนีกลับห้องโดยไม่สนใจเสียงโวยวายตามหลังของลอเนรท่ชั้นล่าง
ความคิดเห็น