คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : BASILISK - RASCAL :: ผมเกลียดความพ่ายแพ้
[Loading…100%]
- EPS 02 -
ผมเกลียดความพ่ายแพ้
ช่วงนี้ผมแม่-ไม่รู้เป็นเห้-ไร?...
มองไปทางไหนก็รู้สึกทุกอย่างดูขวางหูรกตาไปซะหมด
ยกตัวอย่างเช่นวันนี้สนามแข่งรถมหา’ลัย A ที่ผมดำรงหัวหน้าแก๊งค์อยู่ ถูกจัดขึ้นและได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนจากสนามแข่งใหญ่ๆ ในแถบนี้ ขนาดที่ว่ากว่าจะรู้ผลว่าใครได้เป็นคนจัดงานนี้ไปก็แทบจะฟาดฟันแย่งชิงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่ไม่รู้สิ…
ผมก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงรู้สึกว่ามันโคตรจะแสนน่าเบื่อ!
ไม่มีอะไรใหม่ๆ ให้สนุกตื่นเต้นเอาซะเลย
เท่าที่เห็นพอจัดงานแข่งรถกันทีไรก็มีแต่เหตุการณ์แบบเดิมๆ จำเจซ้ำซาก
ฝ่ายชนะได้ของรางวัลที่เดิมพัน!
ฝ่ายที่แพ้ต้องเสียรถ เสียเงิน และเสียผู้หญิง!
หรือแม้กระทั่งยอมยกคู่นอนของตัวเองไปปรนเปรอฝ่ายตรงข้ามแบบฟรีๆ และสุดท้ายก็ไม่วายถูกลากให้จบลงด้วยเรื่องอย่างว่า แม้บางครั้งเหยื่อเดิมพันจะไม่เต็มใจเลยก็ตาม
ผมบอกได้แค่ว่าไม่มีอะไรใหม่ๆ ที่จะสามารถกระตุ้นเร้าให้ผมรู้สึกสนใจได้เลย
ผมรู้สึกเหมือนถูกความเฉื่อยชากลืนกิน... และค่อยๆ ถูกกัดแทะจนเว้าแหว่งภายใต้ความมืดมิดโฉดชั่วอันเป็นอุปนิสัยของตัวเอง
ผมไม่อยากแม้แต่จะเอ่ยปากเสวนาพูดคุยกับใคร ดูอย่างขนาดการจัดแข่งสี่ห้ารายการในวันนี้ที่ต้องลง ผมก็โยนให้ไอ้คีรินน้องชายตัวอันตรายจัดการไปทั้งหมด และเหมือนมันจะรู้นิสัยแย่ๆ ของผมดี มันถึงได้ไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายตอแยเฉียดใกล้ผมเลย
ผมอธิบายไม่ถูกว่าตัวเองกำลังรออะไรอยู่กันแน่?
แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้งานจบแล้ว...
รถทุกคันค่อยๆ ทะยานออกจากสนามและหลงเหลือเพียงท้องฟ้ามืดครึ้มที่ดูเกรี้ยวกราดเสียจนคิดจะลงทัณฑ์ใครสักคน
...และที่ผมสัมผัสได้อย่างชัดเจนคือความว่างเปล่าที่ถูกรายล้อมภายใต้ความมืดมิดอันจืดชืด
ผมยืนพิงผนังตึกสีขาวใหม่เอี่ยมซึ่งเป็นฐานที่มั่นของคนผู้เป็นระดับหัวหน้าแก๊งค์ในสนามของมหา’ลัย A ด้วยสีหน้าเฉยชาขณะยกบุหรี่ขึ้นสูบและพ่นควันสีขาวเทาออกมาด้วยท่าทางขุ่นมัว
ทุกอย่างแม่-โคตรน่าเบื่อเห้-ๆ!
และคิดว่าถ้ามีอะไรที่ผ่านเข้ามาให้ดูขวางหูรกตาในตอนนี้ มันก็น่าจะถูกทำลายทิ้งไปเสีย
ผมว่าความคิดของผมถูกต้องนะ เพราะแม้กระทั่งท้องฟ้าก็ยังส่งเสียงกรีดร้องเห็นด้วยกับความคิดของผม พร้อมทั้งยืนยันด้วยการส่งฝนห่าใหญ่ให้ซัดสาดลงมา
ชั่วขณะที่ผมกำลังเหม่อและใช้ความคิดอยู่เพลินๆ
สัญชาตญาณในตัวผมพากันกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น เส้นเลือดและประสาทอันคมกริบเหมือนถูกปลุกเร้าให้ตื่นขึ้น
ผมเพ่งมองสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เผลอหลุดเข้ามาในขอบเขตวงโคจรอันตรายภายใต้สายตาอันคมกริบ
ผมว่าตอนนี้ผมได้เจอกับสิ่งที่สามารถปลุกปั่นสัญชาตญาณอันดิบเถื่อนดุร้ายในตัวผมขึ้นแล้ว…
ทันทีที่สบเข้ากับเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเทาเฉดทองกลมโตโฉบเฉี่ยวของเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน่าจะไล่เลี่ยพอๆ กับน้องชายผมอย่างไอ้คีริน รอยยิ้มอันเย็นชืดเฉยชาของผมก็หยัดโค้งขึ้นทันที
เด็กหนุ่มร่างสูงระหงราวร้อยแปดสิบ ดูสวยสมบูรณ์แบบไปด้วยกล้ามเนื้อเพรียวสมส่วน สายตาคมกริบของผมละสายตาจากใบหน้าสวยเฉียบเปลี่ยนมาจ้องตรึงตรงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกลู่แนบเนื้อลำตัว โดยเฉพาะยอดอกที่ผลิดันจนดูยั่วน้ำลายให้ลิ้มลอง
แม่- ผู้ชายบ้าอะไรวะเนี่ยโคตรน่าจับฟัดทำเมียชิบ!
แม้อีกฝ่ายจะดูเป็นผู้ชายสูงเท่ไม่เฉียดกรายความหน้าหวานตัวเล็กๆ น่าทะนุถนอมเลยก็ตาม แต่ไอ้หน้าใบหยิ่งยโสโฉบเฉี่ยวที่ดูตอบรับกับเอวคอดบางนั่นกลับสามารถปลุกปั่นอารมณ์ร้อนแรงของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
เนื้อกายท่อนล่างของผมแตกตื่นสั่นระริกโดยไม่ทันได้ลงมือปลุกเร้า อย่างที่ผู้ชายผู้หญิงหรือคู่นอนคนไหนไม่เคยสามารถทำได้มาก่อนจนแม้แต่ผมเองก็ต้องตกใจ
ผมว่าร่างสูงระหงเบื้องหน้าต้องเป็นคู่นอนที่เผ็ดร้อนดุเดือดและรับอารมณ์ดิบเถื่อนอันโรคจิตรุนแรงของผมได้มากกว่าใครแน่ๆ
แววตาสีเทาอมม่วงคมกริบของผมคงเผลอจ้องมองฝ่ายตรงข้ามมากไปหน่อย อีกฝ่ายถึงได้เผลอชักสีหน้าด้วยความอึดอัด
หึๆ แต่ใครจะสน ในเมื่อผมนึกสนุกขึ้นมาแล้วตอนนี้
“หืมส์ อะไรกัน...มองฉันด้วยสายตาแบบนั้น กำลังนึกด่าฉันอยู่ในใจหรือไง?”
ผมอดพูดแหย่อีกฝ่ายไม่ได้ ขณะที่ตัวเองยืนปักหลั่นพิงผนังอยู่ไม่ไกลมากนัก และแทบหลุดเสียงหัวเราะขบขันอย่างที่ไม่นึกว่าตัวเองจะมี เมื่อร่างบางระหงเผลอแสดงสีหน้าตกใจราวกับคนร้อนตัวที่ถูกจับผิด
ผมปล่อยให้พวกเราทั่งคู่ตกอยู่ภายใต้บรรยากาศของฝนที่ตกโหมกระหน่ำ
กระทั่งท้องฟ้าส่งเสียงครืนๆ พร้อมกับสายฟ้าแลบปราดเป็นเส้นสีเงิน แต่ทันทีที่ร่างระหงเผลอหลุดสะดุ้ง อารมณ์พลุ่งพล่านที่เย็นไปแล้วเมื่อครู่ ก็ปลุกปั่นให้ผมเริ่มบ้าคลั่งขึ้นมาอีกรอบอย่างควบคุมไม่อยู่
แล้วแม่-ไอ้ความรู้สึกอยากฟัดไอ้คนตัวผอมๆ ตรงหน้านั้นก็มีมากเสียจนแทบเก็บอาการนิ่งๆ ไว้ไม่ไหว มือไม้ที่ถือบุหรี่ในมือเริ่มสั่นเทาระริกเหมือนคนอยากยาขึ้นมาเสียดื้อๆ
ผมโยนบุหรี่ทิ้งลงพื้นแล้วใช้ปลายเท้าบดขยี้ ก่อนจะยืดกายเต็มความสูงและขยับก้าวเดินตามร่างระหงที่เดินเข้าไปหลบฝนด้านใน
สายตาคมกริบของผมจ้องมองสีผิวขาวจ้าที่ตัดกับแสงสะท้อนลางๆ จนแทบทะลุ
ยิ่งมองใกล้ๆ ได้เห็นเนื้อผ้าแนบลู่ลำตัวขับเน้นยอดอกอย่างเร้าอารมณ์มากขึ้นไม่รู้กี่เท่า
อารมณ์ในกายของผมปั่นป่วนพลุ่งพล่านจนแทบฉุดไม่อยู่ กว่าจะรู้ตัวเท้าของผมขยับเข้าไปยืนประชิดตัวอีกฝ่ายเสียแล้ว จนเจ้าของร่างระหงขมวดคิ้วและเงยหน้ามองผมด้วยความสงสัย
นัยน์ตาคมกริบของผมจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งด้วยแววตาหื่นกระหายที่พยายามซุกซ่อนไว้จนมิด และสุดท้ายก็อดใจไม่ไหวจนต้องเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแทบทุ้มเย็นๆ
“ไหนๆ ฉันกับนายก็ต่างอยู่ว่างๆ ด้วยกันทั้งคู่ อย่างนั้นลองหาอะไรสนุกๆ ฆ่าเวลาก่อนฝนจะหยุดดีไหม”
พอสิ้นคำพูดของผมเท่านั้นอีกฝ่ายก็เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง จนทำให้รอยยิ้มตรงมุมปากของผมเหยียดขึ้น พร้อมกับกวาดไล่สายตาไปทั่วร่างด้วยแววตาจาบจ้วง
ช่วงเวลานี้บอกตรงๆ เลยว่าผมโคตรอยากผสมพันธุ์กับคนตรงหน้าเป็นที่สุด
ถ้าแม่-ไม่เกรงใจที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายเต็มตัวและน่าจะรุกแต่ผู้หญิงมาตลอดโดยเฉพาะ ผมเอาแม่-คาผนังตรงนี้ให้เดินลากขาไปแล้ว
ผมอธิบายได้แต่เพียงว่า ร่างสูงระหงในตอนนี้โคตรน่าเอาชิบหายวายวอด
“ไอ้โรคจิต! แม่- ในหัวมึงเนี่ยคิดอะไรไม่ได้แล้วนอกจากเรื่องชั่วๆ ใช่ไหม!?”
อีกฝ่ายตวาดด่าทอผมเสียงดังลั่นจนมุมปากของผมขยับรอยยิ้มเย็นตาม และอดที่จะละสายตาออกจากริมฝีปากสีแดงจัดชวนลิ้มลองที่ขยับส่งเสียงด่าทอปาวๆ นั้นไม่ได้
ท่าทางหื่นกระหายที่เหมือนจะขย้ำเหยื่อของผมที่มากเป็นพิเศษนั้น เผลอทำให้อีกฝ่ายผงะถอยหลังหนีด้วยความตื่นกลัว และผมรับรู้ได้ในทันทีตอนนี้เองว่า
ไม่ว่ายังไงในวันนี้... ร่างระหงเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเทาเฉดทองคนนี้ต้องตกเป็นเหยื่อของผม!
และความคิดนี้ก็นับว่าเป็นความท้าทายที่ยั่วยวนใจมากที่สุดในรอบปี
แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วเหยื่อทุกรายของผม...
จะถูกทิ้งหลังจากใช้แค่ครั้งเดียวก็เถอะ!
ผมแสยะรอยยิ้มร้ายกาจคล้ายจะยั่วยุอีกฝ่ายเพื่อลงมือเริ่มเล่นเกม
“บังเอิญว่าเรื่องชั่วๆ ในหัวฉันมันมากเสียด้วย แล้วนายสนใจอยากลองทำดูสักอย่างสองอย่างมั้ยล่ะ?”
เริ่มต้นแค่ประโยคเดียวก็นับว่าได้ผลโดยชะงัด เมื่ออีกฝ่ายถูกยั่วยุไปตามเกมที่ผมคาดการณ์ไว้โดยทันที และไม่ผิดจากที่ผมเดา ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเทาเฉดทองที่ทอประกายกล้าอันแสนสวยนั้นเต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้
“หึ มึงมันไอ้โรคจิตวิปริต! นี่มึงบ้าไปแล้วใช่ไหมที่ใช้ถามแบบนี้กับคนไม่รู้จัก!”
อีกฝ่ายตวาดใส่หน้าผมดังลั่นด้วยความโมโห
หึ แต่เวลานี้ใครจะสน!
“ฉันก็กำลังเริ่มทำความรู้จักในแบบของฉันอยู่ไง” ผมเอ่ยยั่วยุด้วยน้ำแหบทุ้มที่สะกดกลั้นความกระหายหื่นไว้มิดชิด
เป็นอีกฝ่ายที่โต้ตอบด้วยน้ำเสียงลอดไร
“คนที่อยากทำความรู้จักกันเขามีแต่ถามชื่อ ไม่ใช่แสดงการกระทำต่ำช้าอย่างนี้หรอกแม่-!”
ตอนนี้ในหัวผมไม่ได้สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพล่ามเลยสักนิด เพราะสายตาของผมมันเริ่มวกกลับไปกวาดมองแทะโลมรุกไล้ผิวเนื้อที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกบางจนแนบลู่นั่นอีกครั้ง
และความรู้สึกกระหายปั่นป่วนรุนแรงของปีศาจร้ายในหัวก็ยั่วยุเป็นการใหญ่ จนทำให้ผมห้ามใจตัวเองไม่อยู่
“หึ ฉันถือว่านายตอบรับคำชวนฉันแล้วนะ หลักฐานคือสายตาท้าทายของนายไง” ผมเอ่ยพร้อมกับก้าวเท้าคุกคามเข้าใกล้
และไวเท่าความคิด ริมฝีปากร้อนจัดของผมก็บดเบียดขยี้รุกเร้าจาบจ้วงริมฝีปากบางเฉียบของอีกฝ่ายลงไป
ลิ้นร้อนเบียดแทรกตวัดรัดเกี่ยวผลักดันให้อีกฝ่ายโอนอ่อนตาม ซึ่งเป็นงานถนัดที่ใช้พังทลายปราการอันหยิ่งยโส แต่ที่น่าตกใจกลับกลายเป็นคนรุกเร้าอย่างผมซะเองที่ร่ำร้องถึงความต้องการ
ผมว่านะ ผมแม่-ต้องได้ผู้ชายคนนี้เดี๋ยวนี้!!!
ผมเผลอส่งเสียงแทบทุ้มคำรามราวกับสัตว์ป่าเมื่อได้ลิ้มรสชาติความหวานอย่างที่ไม่เคยพบเจอ จนอดไม่ได้ที่จะเบียดลำตัวแกร่งกำยำแนบสัมผัสสนิทชิดเชื้อปลุกเร้าความซาบซ่านและดำเนินการขั้นต่อไปอย่างอดใจรอช้าไม่ได้อีก
วินาทีนี้สัญชาตญาณอันดิบเถื่อนดุร้ายของผมแผดร้องดังลั่นว่า รีบขมขื่นแม่-ตอนนี้เลย!
รอยยิ้มชั่วร้ายแสยะขึ้นอย่างที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้เห็น และผมเริ่มลงมือเล่นเกมอันโฉดชั่วในแบบฉบับของตัวเองด้วยการส่งยานอนหลับกล่อมประสาทให้อีกฝ่ายทันที!!
และประโยคสุดท้ายที่อีกฝ่ายตอบโต้กลับมาก็คือ
“แม่-! ไอ้สารเลว!”
บอกได้คำเดียวว่าน้ำเสียงลอดไรฟันอาฆาตและสายตาไม่ยอมแพ้นั่นโคตรเซ็กซี่อย่างถึงที่สุด
และอีกฝ่ายได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์เข้าแล้ว...
ที่ทำให้ผมเกิดถูกใจ!
• ผักขม •
ผมว่าเราวกกลับเข้ามายังเหตุการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นกันดีกว่า
ผมขอโวยวายบ้างเถอะ ก็ในเมื่อแม่-ตอนนี้ร่างของผมถูกผมคร่อมทับอยู่ภายใต้ร่างแกร่งกำยำของไอ้คนวิปริตโรคจิต โดยที่ผมกำลังปัดป่ายผลักดันแผ่นอกกว้างให้ออกไปห่างๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย
ไอ้เวรนี่แม่-คิดจะปล้ำผม แล้วคิดว่าผมอย่างผมจะยอมทนอยู่เฉยๆ อย่างนั้นเหรอ?
ผมดิ้นพล่านไม่หยุด กระทั่งอีกฝ่ายขยับยิ้มมุมปากพร้อมทิ้งน้ำหนักตัวกดทับผมอย่างจงใจมากขึ้นไปอีก ผมเลยตะโกนด่าทอมันด้วยความโมโหคลุ้มคลั่ง
“แม่- ไอ้โรคจิต! ลุกไปสิวะ!!”
ผมตะโกนด่าทอไอ้ร่างยักษ์ด้านบนไม่หยุดปาก เมื่อรับรู้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ชักจะเลยเถิดเกินไปใหญ่
โอ้ย ผมว่าไอ้เวรนี่มันต้องหูตึงหรือไม่ก็โรคจิตเต็มขั้นแน่ๆ อ่ะ!
ผมแสดงตัวว่าไม่เต็มใจขนาดนี้ยังจะทำเฉยหน้าด้านไม่รับรู้อะไรอยู่ได้อีก
ผมพยายามดิ้นรนออกจากร่างกักขฬะหนาๆ ที่คร่อมอยู่ พร้อมทั้งเสยหมัดใส่หน้าฝ่ายตรงข้ามเต็มแรงด้วยความเกรี้ยวกราด แต่เหมือนอีกฝ่ายรู้ทันถึงได้คว้าหมับและบีบแขนผมแน่นจนแขนแทบแตก
และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกโมโหจนแทบบ้านั่นก็คือน้ำเสียงหัวเราะแหบทุ้มที่คุกกรุ่นด้วยอารมณ์รุนแรงเหมือนคนโรคจิตที่เล่นสนุกอยู่กับเหยื่อ
“หึๆ ตอนแรกฉันให้โอกาสนายหนีไปไกลๆ แล้ว แต่นายไม่ทำเอง พอมาถึงตอนนี้คิดจะเปลี่ยนใจ ไม่คิดว่ามันง่ายไปหน่อยเหรอ” อีกฝ่ายว่า
“อย่ามามั่วไอ้สั-! กูไม่เห็นว่ามึงพูดอะไรออกมาสักคำ! แล้วนี่มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ ถึงได้ทำตัวใหญ่โตเหมือนพระเจ้าเที่ยวตัดสินความคิดแทนคนเค้าอื่นหา!!”
เวรเอ้ย! พอถึงเวลาเข้าจริงๆ ผมเริ่มรู้สึกไม่อยากเล่นเกมบ้าๆ นี้แล้ว
พอเห็นไอ้บ้านี่แสดงสีหน้าโรคจิตเต็มขั้นจนแทบจะกลืนกินผมไม่ให้เหลือ ผมก็อยากจะล้มเลิกความคิดท้าทายบ้าๆ พวกนั้นเสียตอนนี้เลย เพราะที่คิดไว้ในหัวผมตอนแรกมันแค่เกมการท้าทายเชือดเฉือนเอาชนะชิงไหวชิงพริบที่พยายามปั่นหัวให้อีกฝ่ายลุ่มหลง ซึ่งอย่างมากก็แค่จูบหรือการปลดเปลื้องภายนอก
ไม่ได้เกินขอบเขตอันตรายอย่างที่ผมสัมผัสได้อย่างตอนนี้!
“รู้มั้ยว่าฉันอยากจะจัดการนายเสียตั้งแต่ตรงผนังตึกด้านล่างนั่นแล้ว แต่ฉันเลือกที่จะทำให้ครั้งแรกระหว่างเรารู้สึกดี”
ผมอ้าปากค้างเบิกตาโตกับคำพูดของไอ้เห้-นี่!
“ไอ้สั-! มึงพูดมั่วอะไร!”
รู้สึกดีบ้านพ่อมึงนะสิ!
พอได้ยินที่มันพูดยั่วด้วยน้ำเสียงทุ้มพร่าเท่านั้น ผมก็แทบจนแทบขาดสติ
ริมฝีปากบางของผมกัดเม้มแน่นแล้วส่งเสียงคำรามพร้อมกับง้างหมัดอีกข้างที่ว่างอยู่ตวัดชกต่อยใส่หน้ามันรัวๆ แต่กำปั้มผมเหมือนจะเล็กไปเสียถนัดเมื่อถูกมันรวบไว้ในฝ่ามือหนา
อีกฝ่ายรวบข้อมือทั้งสองข้างของผมไว้เหนือศีรษะไว้ด้วยมือเดียว มันดูง่ายดายจนน่าโมโห ยิ่งผมต่อต้านมากเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ออกแรงกดจนร่างผมอ่อนยวบลงกับที่นอนมากขึ้น
เมื่อการตอบโต้เป็นไปอย่างทุลักทุเลและไม่ได้ผล ผมก็เริ่มหยุดดิ้นเพื่อรอจังหวะให้ไอ้เวรนี่ลดแรงและตายใจลงก่อน
------CUT------
*ลงใหม่ 23/10/2557 : 02:05น.
ถึงคนอ่านที่รัก
ปล.แจ้งคนอ่านที่รอครึ่งหลัง พอดีคนแต่งแล้วลบแก้ใหม่ๆ แบบมันไม่ถูกใจเลยยังไม่เสร็จจ้า ขออภัยมากๆ จ้า
100per. 22/9/57 ตี3.47น.
หายไปหลายวันกว่าจะลง ต้องขออภัยด้วยนะจ้า พอดีช่วงนี้งานเยอะจัด การอัพเลยไม่เป็นไปตามตารางที่ตั้ง ส่วนที่เหลือจะแจ้งอัพเดทบอก ยังไงอย่าลืมไปทักทาย แฟนเพจ นะจ้า แม้คนแต่งจะไม่ค่อยได้ตอบก็เถอะ (ตุ่บตั่บๆ เสียงโดนบาทากระทืบ T__T)
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจและแอดแฟบเวอร์เรท รักคนอ่านที่ซู๊ดดด จุ๊บๆๆ
ความคิดเห็น