คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2
บทที่ 2
“เฮ้ ริว พักนี้นายดูท่าทางมีความสุขดีนะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” พี่ชายของริวถามน้องชายตัวเองด้วยความสงสัย
“เปล่าหรอกพี่ แค่วันนี้ได้เจอเรื่องแปลกนิดหน่อยน่ะ”เขาตอบกลับด้วยหน้าเรียบเฉยตามเดิม
“หรอ..”ที่พี่ชายไม่ถามว่าเรื่องอะไรเพราะเขารู้ว่าถึงถามไปน้องชายเขาก็ไม่มีวันตอบแน่
ทานข้าวเสร็จ ริวจึงเดินกลับเข้าห้องตัวเองแล้วนั่งครุ่นคิด ไม่นานนักโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมา
“ฮัลโหล ครับไม่ทราบว่าใครหรือครับ” ริวถามด้วยน้ำเสียงที่สงสัยอย่างเต็มที่
ปลายสายจึงตอบว่า”นี่ J นะ”
กลับมาที่ นาโอะ
หลังจากที่เธอเดินไปรอบๆป่า สักพักใหญ่ ก็ไม่เจออะไรแปลกประหลาด เธอจึงล้มตัวลงนอนบนหญ้าสีเขียวสดเนื่องจากเดินมานานมากแล้ว ตามองไปที่ทองฟ้าสีฟ้าสดใส พลางนึกถึงคนประหลาดที่เคยกันตอนที่เธอยังเด็กนัก เขาได้พูดกับเธอว่า
“นี่หนูน้อย เธอบอกว่าทุกอย่างไม่ใช่ความบังเอิญใช่ไหม และการที่ฉันกับเธอมาเจอกันและพูดคุยกันอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเพราะถูกกำหนดมาแล้วใช่รึเปล่าละ” ชายแปลกหน้าคนนี้สวมแว่นดำทำให้ไม่เห็นใบหน้าแท้จริง แต่ดูก็รู้ว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีมากคนหนึ่ง...เอ๊ะ ทำไมอยู่ๆฉันถึงนึกเรื่องแบบนี้ออกล่ะ ทั้งที่ผ่านมาตั้งนานแล้วจนฉันยังลืมไปเลย ว่าแต่เขาพูดว่าไงต่อนะ...
“ถ้าอย่างนั้นรอให้เธอโตขึ้นอีกสักนิดหนึ่ง แล้วอนาคตเราต้องได้พบกันอีกแน่ เพราะฉันจะเป็นคนไปหาเธอเอง แล้วก็นะวันนี้ที่เธอเจอฉันเนี่ยไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆอย่างที่เธอว่าล่ะ แต่ฉันเป็นคนตั้งใจมาหาเธอเองเพราะฉันรู้สึกสนใจในสิ่งที่เธอมีไงล่ะ”ชายแปลกประหลาด พูดกับเด็กน้อย
“มันคืออะไรหรอคะ พี่ชาย” เด็กน้อยถาม
“….You No need to know now, just wait …when the time pass everything will clear”ชายคนนั้นตอบกลับมาด้วยภาษาอังกฤษตอนนั้นฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดแต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว....แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้หรือเปล่านะ...?
พอเธอนึกย้อนเสร็จทันใดนั้นร่างกายก็กลับมาที่ซื้อข้าวเย็นพอดี เวลาเดิมด้วยแต่พอเธอหันไปด้านหลังก็เจอกับริวที่กำลังโบกมือให้อยู่พอดี คราวนี้เขาเริ่มยิ้มมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“สายัณห์สวัสดิ์ครับคุณนาโอะ” เขาทักทายฉันด้วยคำว่าสายัณห์สวัสดิ์แฮะเดี๋ยวนี้ยังมีคนใช้อยู่ด้วยแฮะ?
“อ่า สายัณห์สวัสดิ์ นายมาได้ประจวบเหมาะดีจริงๆ” ฉันบ้าจี้ทักตามแบบเดียวกับเขาไปด้วย พอทักกลับฉันก็เหลือบมองเห็นเขาขำอย่างคนขี้แกล้ง ฉันเลยเขินนิดหน่อย
“ทำไมถึงเหมาะล่ะ” เขาถามกลับด้วยสีหน้าจริงจัง เปลี่ยนสีหน้าได้เร็วดีจัง...
“อ่า...เปล่า..หรอก” ฉันตอบไปแบบตะกุกตะกักเพราะลืมไปว่าเขาไม่รู้ว่าฉันไปไหนมานี่นา
“หรอ..ว่าแต่เธอเชื่อในเรื่องโชคชะตารึเปล่า...ครับ” แหมนายคนนี้ติดตลกนะเนี่ย มีการเติมครับท้ายประโยคด้วยแฮะ จนถึงเมื่อกี้ยังไม่มีเลย
“ไม่นะ” ฉันตอบกลับไปด้วยใบหน้าจริงจังแต่ไม่ได้อธิบายเหตุผล
“หรอครับ” เขาตอบกลับมาห้วนๆคราวนี้เริ่มใส่ครับละ
“งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ” ฉันโบกมือลา พร้อมยิ้มให้เช่นเคย
“ขอผมไปกินข้าวด้วยคนสิ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร” ริวถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หะ?....ทำไมล่ะ” ฉันตกใจจริงๆนะเนี่ย อยู่ๆมีผู้ชายจะมาเข้าห้องฉัน...
“ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
สุดท้ายฉันก็พาเขามาที่บ้านจนได้
“นายนั่งรอตรงโต๊ะตัวนั้นสักครู่นะ ฉันไปเตรียมชามก่อน” ฉันบอกเขาพร้อมกับเตรียมนำกับข้าวที่ซื้อมาใส่ชาม
“ว่าแต่คุณอยู่คนเดียวหรือ…ครับ?” เขาถามพลางมองไปรอบๆห้องกินข้าว
“ตอนนี้ใช่แต่เมื่อก่อนพ่อแม่ก็อยู่ด้วย ไม่งั้นห้องคงไม่ใหญ่ขนาดนี้หรอก” ฉันตอบแล้วจึงเดินมาที่โต๊ะ วางกับข้าวที่เตรียมเสร็จแล้วพร้อมกิน
“นายจะคุยเรื่องอะไร ถ้าคิดจะทำอะไรไม่ดีล่ะก็ ต้องขอบอกว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” ฉันตอบด้วยความมั่นใจเพราะฉันมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนที่ดวงแข็งจริงๆ
“แหมไม่คิดว่าคุณนาโอะจะเป็นคนพูดตรงขนาดนี้นะเนี่ย...ครับ” จังหวะการลงครับของเขาแหม่งๆชอบกลแฮะ
“เป็นบางครั้งน่ะ..” ฉันเป็นคนที่เขินง่ายต่างหาก เมื่อกี้ที่พูดไปยังเขินอยู่เลย....
“อ่า...ที่ผมมาหาคุณในวันนี้เนี่ย ไม่ใช่เรื่องที่ผมเพิ่งนึกได้ตอนเจอคุณเมื่อกี้นะ แต่เป็นเพราะผมทำงานอยู่กับคนๆหนึ่งและเขาก็รู้จักคุณ… อ้อ งานที่ว่านี่เป็นงานพาร์ทไทม์น่ะ แล้วเขาก็ฝากผมมาทักทายคุณครับ” การลงท้ายครับของเขาแหม่งๆจริงด้วย เดี๋ยวก็ไม่ลงท้ายครับเดี๋ยวก็ลงท้าย ประเด็นไม่ได้อยู่รงนี้....เขาพูดจบพร้อมกับยื่นกล่องบางอย่างมาให้ฉันข้างในนั้นมีสร้อยเส้นหนึ่งสวยทีเดียวมีจี้เป็นเหยือกน้ำทำมาจากแก้วใสข้างในมีน้ำใสสีฟ้าอยู่จริงๆ ตัวสร้อยที่ใช้ร้อยเป็นสีดำ ช่างเป็นสร้อยรูปทรงแปลกจริงๆ ฉันเดิมตามห้างหรือตามตลาดยังไม่เคยเห็นจี้และสร้อยรูปแบบนี้เลย
“ฝากขอบคุณเขาด้วยนะ แล้วบอกว่าสร้อยนี่รูปทรงแปลกจริงๆฉันไม่เคยเห็นมาก่อนแถมยังสวยและดึงดูดสายตาฉันดีจริงๆ”
“ครับ ผมจะไปบอกให้นะครับ งั้นเรามารับประทานอาหารกันดีกว่า” เขารีบพูดตัดบทเหมือนรู้ว่าฉันกำลังจะถามอะไรต่อไป...
ความคิดเห็น