คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : #03 ซักผ้า ซองยา และ นามบัตร
#03 ซักผ้า ซองยา และ นามบัตร
เช้าวันที่ห้าแล้วที่ผมตื่นมาพบใบหน้าของมันอยู่บนเตียงชั้นล่างผมแปลกใจนิดๆว่ามันเข้ามานอนตอนไหน เพราะเมื่อคืนกว่าผมจะนอนก็ล่อไปห้าทุ่มกว่าแล้ว
อีกเรื่องคือ พอผมตื่นมันก็ตื่นตาม จริงๆนะครับช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาผมแกล้งตื่นสายบ้าง ตื่นก่อนไก่ขันบ้าง แต่พอผมขยับตัว มันก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ(ไม่เคยแย่งเข้าห้องน้ำทันเลย เตียงมันอยู่ข้างล่างครับ)
ช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์ที่ผ่านมา ผมหาทางแกล้งสารพัดแล้วครับ ขโมยรองเท้า ทำเสื้อนร.มันเปื้อน ทำสมุดการบ้านมันหายบ้างและ แต่ประติกิริยาที่เป็นฟีดแบ็คกลับมาก็มีเพียงแค่สีหน้านิ่งๆของมันและท่าที่เฉยๆไม่เป็นเดือดเป็นร้อน ผมรู้ว่ามันรู้ว่าผมแกล้ง แต่ทำไมถึงยังนิ่งเฉยได้ขนาดนั้น ถ้าเป็นผม โดนแกล้งแบบนี้ก็รับรองครับว่ามีมวยแน่นอน!!!
วันนี้วันเสาร์...ปกติแล้วผมจะตื่นสายมากๆแต่เสาร์นี้ไม่ปกติสักเท่าไหร่เพราะมีกาฝากแบบมัน ผมตัดสินใจลุกจากที่นอน เขี่ยๆที่นอนเข้าๆไปสุมกันไว้ที่หัวนอนตามเดิม แน่นอนว่าพอผมตื่นมันก็ตื่น ผมเพิ่งสังเกตว่ามันดูสะลึมสะลือนิดๆ ตาคู่เรียวของมันก็ดูเหนื่อยๆชอบกล
ก็เรื่องของมันไม่ใช่เหรอวะ...
ผมสะบัดหน้าสองสามที่ ก่อนจะเดินหาตะกร้าผ้าไล่เก็บกางเกงในที่ถอดไว้มั่วซั้วกับพวกเสื้อผ้าที่กองไว้เรี่ยราดไปทั่วในห้องก็อย่างที่บอก ผมมันเด็กผู้ชายนี้หว้า ห้องรกนี้เรื่องธรรมดามากครับ
ผมเดินเก็บได้สักพักก็เห็นตะกร้าผ้าของมันวางอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ น่าแปลกทีเสื้อผ้ามันดูสกปรกๆแต่มันกับแยกและจัดการอย่างเป็นระเบียบกับกองเสื่อผ้าร่วมทั้งข้าวของเครื่องใช้ของตัวเอง
ไม่ทันไรคนถูก(คิด)พาดพิงก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
มันยังคงทำตัวเป็นปกติเหมือนทุกๆวัน ผ้าขนหนูพันเอวไว้หลวมๆเพียงแต่วันนี้ตามันยังคงปิดๆเปิดๆแม้จะเพิ่งผ่านการอาบน้ำมาก็ตาม
"ฝากซักด้วย"
มันพูดพร้อมชี้ไปที่ตะกร้าผ้าหน้าห้องน้ำ ผมเบ๊ปากก่อนจะตอบ
“ทำเองดิ ของตัวเองก็จัดการเอง”
ชิ เรื่องอะไรผมจะต้องเอาไปซักให้มันด้วยครับ ไม่ใช่ญาติซะหน่อยถึงตอนนี้จะมีศักดิ์เป็นญาติก็เถอะ แต่ถ้าผมไม่นับใครจะทำไม ?(อย่าถามนะว่าผมกับมันใครพี่ใครน้องเพราะผมเองไม่รู้วันเกิดมันและไม่คิดจะรู้ด้วย!!!)
มันยืนบื้อๆนิ่งๆของมัน ก่อนจะเดินถือตะกร้าผ้าเดินตามผมไปทางเครื่องซักผ้าหลังบ้าน เนื่องจากบริเวณโดยรอบของบ้านผมคล้ายๆอยู่ในสวนครับ ข้างหลังมีลำธารเล็กๆไหลผ่าน (ก็อยู่ในซอยลึกพอดูนิ) บ้านของผมตั้งเครื่องซักผ้าไว้หลังบ้านครับแล้วต่อสายน้ำทิ้งไปที่ท่อระบายน้ำหน้าบ้านแทน ยุ่งยากหน่อยแต่เพื่อสมดุลระยะยาวพ่อเลยยอมทำ(โดยมีผมช่วยด้วยนั้นแหละ)
เพียงแต่ ...ปกติแล้วเครื่องซักผ้าของผมมันก็ทำงานด้วยดี
.....แล้วไหงมันมาเสียวันนี้ว่ะ!!!!
ผมยืนหัวเสียอยู่ด้านหน้าเครื่องซักผ้า เคาะก็แล้ว ด่าก็แล้ว ทุบก็แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือความเงียบสงบจากเครื่องซักผ้าที่ดังตอบกลับมา เหรี้ยเอ๊ยมาเสียอะไรวันนี้ว่ะ แล้ววันจันทร์กูจะเอาผ้าขี้ริ้วที่ไหนห่อหุ้มตัวป๊ายยยยย
“มีแปรงซักผ้าไหม ?” ผมสะดุ้งหน่อยๆกับเสียงที่ดังขึ้นข้างตัว ลืมไปเลยเหมือนกันว่ามันเดินตามด้วย
“ตกลงว่าแปรงนะ มีไหม ?” มันถามย้ำเมื่อผมยังยืนนิ่ง(สงสัยติดนิ่งจากแมร่งล่ะครับ)
“มี”
“กระละมังใบใหญ่ๆมีไหม” รอบนี้ผมพยักหน้าแทนคำตอบ
“ไปเอามา”
“มึงจะทำอะไรว่ะ ?”
“เอากะละมังกับแปรงมาผัดข้าวมั่ง ถามได้” คนข้างๆผมเล่นมุขหน้าตาย ก่อนผมจะรู้สึกว่าเถียงมันไปก็คงแพ้อยู่ดีเลยยอมแพ้เดินไปหาของตามที่มันว่าออกมา
ใช้เวลาหานิดหน่อยเพราะตั้งแต่มีเครื่องซักผ้าผมก็แทบไม่ได้สัมผัสของพวกนี้ด้วยซ้ำ ผมหยิบทุกอย่างที่มันต้องการใส่ลงไปในกะละมังก่อนจะยกมาให้มัน มันรับกะละมังเสร็จก็เดินไปหยุดตรงมุมก๊อกน้ำเล็กๆข้างกำแพง
“เห้ย แยกผ้าสีกับผ้าขาวด้วย” มันท้วงติงหลังผมเทเสื้อผ้าทั้งหมดลงไปในกะละมังเดี่ยว
“ยุ่งยากวะ ซักๆไปเหอะ”
“ไม่ได้ เดี่ยวผ้าขาวสีตกใส่ เลอะตายพอดี” พูดไม่พูดเปล่า มันเดินมาหยิบกะละมังของผมเขยื้อนไปก่อนจะแยกผ้าขาวและผ้าสีร่วมกับของมัน
“เห้ย รวมทำไมว่ะ”
“รวมๆไปเหอะ กะละมังไม่พอ” มันเงยหน้ามองผมในขณะที่มือก็เทไฮเตอร์ลงไปในกะละมังเสื้อนร. สรุปแล้วตอนนี้เสื้อผ้าผมกับมันก็ไปแช่ร่วมกันในกะละมังเดี่ยวกัน ส่วนผ้าสีก็แช่แยกไปในอีกกะละมังหนึ่ง สรุปคือยังไงๆผมก็ต้องช่วยมันซักสินะ
“ช่วยกูซัก”
มันว่าก่อนจะใช้ตีนเขี่ยๆเก้าอี้ตัวเล็กๆอีกตัวให้ผมนั่ง ไม่ได้อยากจะช่วยนะครับ แต่ยังไงๆในนั้นมันก็มีผ้าผมนิครับ สุดท้ายก็เลยตามเลยนั่งลงช่วยมันซักอยู่ดี
“ซักผ้าขาวก่อน ผ้าสีไว้ที่หลัง”
“เออ” สุ่มหยิบเสื้อตัวแรกผมก็หยิบได้ของตัวเอง ส่วนมันหยิบได้เสื้อผม
สี่มือสองแรงช่วยกันขยี้ผ้า ก่อนเสื้อนร.ตัวแล้วตัวเล่าจะผ่านมือผมกับมันไป พอหมดเสื้อของผม ผมก็ช่วยมันซักเสื้อของมันต่อ
ถึงจะไม่ชอบหน้ามันแต่ยังไงผมก็ไม่ใช่พวกไม่รู้คุณคนนะครับเพราะมันเองก็ช่วยซักเสื้้อของผมนิ ผมออกแรงขยี้ๆเสื้อมันเป็นการระบายอารมณ์ไปในตัวก่อนผมจะสังเกตเห็นบางสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของมัน
ซองยาเก่าๆซีดๆสีชาถูกหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ ผมยี่ตาลงอ่านอักษรหวัดๆจางๆตรงถุงยาที่ละตัว บางตัวก็จางมากเกินไปจนผมอ่านไม่ออกว่าเป็นตัวอะไรกันแน่
‘A...m......o...…..p….i’
ผมไม่ทันจะอ่านชื่อตัวยาจบ ไอ้ปกป้องก็ดึงซองยาเก่าๆนั้นออกจากมือผมแล้ว อะไรองมันวะ?!?!
“เดี่ยวกูเอาไปทิ้งเอง ซองวิตามินนะ“ มันพูดเสียงเรียบ แต่ไม่รู้เพราะอะไร...
ผมรู้สึกว่าเสียงมันสั่นแปลกๆ
ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจอีก แล้วลงมือขยี้ผ้าต่อไป เพียงแต่พอขยี้ตัวใหม่ผมก็เห็นว่ามันมีกระดาษแข็งสีเหลี่ยมเล็กๆคล้ายๆพวกนามบัตรอยู่ในกระเป๋าเสื้อของมัน(อีกแล้ว รอบหน้าถ้ากูเจอขอให้เจอแบงค์ยี่สิบนะ ช่วงนี้กูช็อต- -)
‘เชิดยุทธ กีต้าร์โปร่งและเครื่องดนตรีทุกชนิด’
นามบัตรร้านค้าเก่าๆใบนี้ไม่ได้โดนดึงเหมือนซองยาสีชา คนซักผ้าข้างๆผมแค่มองแล้วก็ลงมือขยี้ต่อไป ผมเองก็ไม่ได้คิดจะเซ้าซี้หรืออยากรู้อะไรหรอกว่าในกระเป๋าเสื้อมันมีนามบัตรเก่าๆของร้านขายเครื่องดนตรีได้ยังไง ต่างคนเลยต่างซักกันต่อไป จนในที่สุดเสื้อผ้านร.พวกผมกับมันก็ขาวสะอาดสดใสทุกตัว
มันดึงสายยางก่อนจะเปิดน้ำก๊อกลงไปในกะละมังสะอาด รอจนน้ำเต็มแล้วเราทั้งคู่ก็ค่อยๆใส่เสื้อนร.ลงไปที่ละตัวสองตัว ก่อนจะช่วยกันบิดให้มันหมาดๆแล้วใส่ตะกร้ารอเอาไว้ค่อยเอาไปตากพร้อมผ้าที่เหลื่อครับ ขี้เกลียดลุกไปลุกมา ผมกับมันย้อนกลับกันมาที่กะละมั่งน้ำแฟ่บเดิมอีกรอบ ก่อนผมจะเร่งขยี้ผ้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพราะเริ่มรู้สึกหิวนิดๆแล้วครับ ตอนผมตื่นมันเก้าโมงกว่าๆพอดี
เพราะงั้นตอนนี้คงซักเกือบๆสิบโมงเห็นจะได้
แต่เพราะไอ้ความรีบเนี้ยแหละทำให้น้ำแฟ่บกระเด็นเข้าตาผมเอง
“เชรี้ยเอ๊ย แสบตาว่ะ” ผมหยุดมือลงก่อนจะยกมือเตรียมขยี้ตาแต่ไอ้ปกป้องจับมือผมเอาไว้ก่อน
“มือมึงมีแต่แฟ้บเดี่ยวก็แสบเพิ่มหรอก อยู่เฉยๆกูล้างมือแปป”
เพราะหลับตาอยู่ผมเลยไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร รู้แต่ว่าตัวเองพยักหน้าให้มันเต็มที่เพราะเริ่มจะแสบตาจนจะทนไม่ไหวแล้ว ไอ้ป้องก็เหมือนกันแค่ล้างมือแค่นี้ทำไมนานจังว่ะ
เหมือนมันจะได้ยินเสียงบ่นเงียบๆในใจของผม มือของมันสัมผัสกับบริเวณดวงตาผมเบาๆ ก่อนจะปาดออกช้าๆแล้วเอาผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตรงแถวๆดวงตาให้
“หายแสบตายัง”
“น่าจะมั่งนะ” ผมค่อยๆลืมตาก่อนจะรู้สึกว่าไม่แสบตาแล้วเพียงแต่...
ใกล้...ชิบหาย
หน้าของมัน....กับผม
ลมหายใจของมัน แทบจะรดจมูกผมอยู่ล่อมร่อด้วยซ้ำ!!!
หน้าของมัน ไม่ได้สวย ไม่ได้น่ารัก ใบหน้าก็จืดๆธรรมดา ไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะ มีหนวดขึ้นนิดๆ เพียงแต่มันมีลักยิ้มสองข้าง ฟันแม้จะไม่ได้เป็นระเบียบแบบพวกพระเอกแต่ก็ถืออยู่ในเกณฑ์ดี ขาว สะอาด
ริมฝีปากซีดๆนั้นเม้นเป็นเส้นตรงมองจ้องกลับผมตอบแบบไม่หลบสายตา
เดี่ยวนะ...
ผมจ้องหน้ามันทำไมว่ะ....
“ซักผ้าต่อดิ มองอะไร”
รอบนี้เป็นมันเองที่ยอมแพ้ด้วยการหลบสายตาออกไป เสียงของมันเรียกสติผมกลับคืนมา ก่อนต่างฝ่ายจะเริ่มขยี้ผ้าต่อไปเรื่อยๆ
แต่แปลกดีแหะ...
กลิ่นลมหายใจของไอ้คนข้างๆ
มันยังติดจมูกผมอยู่เลย....
ความคิดเห็น