ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก ป่วนใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : [2]___________She's Geek 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 58



                     
                       She's Geek!








     
                




                    นี่เรียกว่า แห้ว ได้รึเปล่า? หลังจากแยกกันสาวิกาไปกับธาวิน ส่วนมุ่ยก็ต้องมากับผม ตอนแรกเธอยืนกรานจะกลับคนเดียวแต่ทั้งผมและสาวิกาต่างรบเร้าให้เธอกลับพร้อมผมจนเธอยอมในที่สุด
                    แต่จนแล้วจนรอดนั่งออกมาซักพัก ไม่พูดไม่จาซักคำ เธอก็ขอลงบอกว่าจะต้องแยกกันแล้วเธอจะต่อรถไปเอง ผมจะนั่งรถไปส่งแต่เธอบอกไม่อยากรบกวนเพราะใกล้จะถึงแล้วพอถามว่าเธอพักที่ไหนกลับไม่ยอมตอบ ดูท่าเธอคงจะไม่ชอบขี้หน้าผมซึ่งตรงข้ามกับผมลิบลับ
                    นั่งมองแพนด้ากระดาษในมือก็อดยิ้มไม่ได้ ไม่รู้สิ ผมก็อธิบายไม่ถูกทำไมถึงสนใจผู้หญิงคนนี้นัก ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะคิดว่าจากนี้คงไม่ได้เจอเธออีกแล้ว แต่...ผมคิดผิด


                    หลังจากวันปาร์ตี้ผ่านมาได้อาทิตย์หนึ่ง ผมทำงานเพลินไปเลยจนกระทั่งธาวินโทรมาเตือนว่าวันนี้ผมต้องมาลองชุดเพื่อนเจ้าบ่าว (ลืมบอกว่าบ้านธาวินกับครอบครัวสาวิกานั้นรวยอย่าบอกใครคนหนึ่งเจ้าของธุรกิจส่งออกอาหารกระป๋องฝ่ายเจ้าสาวก็เป็นลูกสาวคนใหญ่คนโต แอบอิจฉาไอ้วินมันนิดๆเหมือนกัน) โชคดีที่วันนี้ประชุมช่วงบ่ายได้ข้อสรุปเร็วกว่าที่คิด ผมเลยมีแผนออกมาเดินเล่นที่ห้างใกล้ๆกับร้านที่ธาวินให้แผนที่ไว้รอเวลา ช่วงบ่ายอากาศร้อนจัดนั่งดื่มกาแฟในร้านหรูเล็กๆ ทำให้สดชื่นขึ้นมาก
                    คิดว่าจะได้เจอมุ่ยอีกผมก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กๆขึ้นมา ปกติผมไม่ใช่คนเงียบหรือขรึมอะไรแบบนั้น ผมอยากคุยกับเธอแต่พอรู้สึกว่าเธอเกร็งๆไม่ค่อยอยากจะคุยกะผม ผมเลยไม่รู้จะคุยอะไร ถ้าเจอเธอผมจะคุยอะไรกับเธอดี...


                    เหมือนพระเจ้าเล่นตลก ผมหยุดหายใจไปสองวินาทีที่หันไปเจอคนที่เปิดเพิ่งประตูเดินเข้ามาสั่งกาแฟ มุ่ยนั่นเองวันนี้เธอมาในชุดเสื้อแขนกุดคอเต่าสีส้มและกระโปรงครึ่งแข้งสีน้ำเงินทั้งที่มันสุดแสนจะขัดกันแต่กลับลงตัวน่ามองเมื่อมาอยู่บนร่างเล็กๆ ผิวขาวจัดของเธอบวกกับทรงผมโปเต้ที่วันนี้ถูกรวบไว้ครึ่งหนึ่งอวดผิวหน้าใส เพียงไม่นานมุ่ยรับถ้วยและจานขนมของเธอหันมาเพื่อหาที่นั่งและเธอก็มองเห็นผมที่กำลังมองเธอเป็นตาเดียว ในอกผมกระตุกเล็กน้อยแต่ไม่ได้หุบยิ้มหรือเก้อเขินเหมือนหนุ่มวัยรุ่นที่ใจฝ่อเวลาเจอสาวที่แอบปลื้ม แหงล่ะ ผมแก่กว่าเธอนี่ มากเสียด้วยทำไมผมจะต้องตื่นเต้นแสดงอาการแบบนั้น
                   
                    ผมยิ้มให้เธออย่างเปิดเผย เห็นมุ่ยหลุบตาลงแวบหนึ่งก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา แน่ล่ะเธอไม่ใช่ผู้หญิงเย็นชาไร้มารยาท ถึงจะเพิ่งรู้จักกัน แม้เธอไม่อยากคุยกับผมแต่ก็คงจะเกรงใจผมอยู่ดีที่จะทำเหมือนเดินเลยผ่านไปเหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน


     
                      "สวัสดีค่ะ พี่กึ้งมารอลองชุดหรอคะ"



                      "ครับ นั่งก่อนสิ" ผมชวนเมื่อเห็นว่าเธอเข้ามาทักแต่ไม่มีท่าทีจะวางถาดเครื่องดื่มลง เธอดูตื่นๆ และอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยอมวางถาดเครื่องดื่มลงบนโต๊ะและทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
                    

                      "เลิกงานแล้วเหรอ" ผมเป็นฝ่ายเปิดการสนทนาก่อนในขณะที่เธอดูตั้งใจกินบราวนี่ตรงหน้าเสียเหลือเกินไม่พูดไม่จาจนผมแอบขำ



                      "ค่ะ ปกติมุ่ยไม่ค่อยได้อยู่ออฟฟิศประจำอยู่แล้ว เพราะต้องออกมาหาข้อมูลไปเขียนคอลัมม์ วันนี้ส่งงานบก.เสร็จเลยออกมาหาอะไรทานน่ะค่ะ....พี่กึ้งมาร้านนี้บ่อยหรอคะ" เธอถามกลับบ้าง ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าเธอดูผ่อนคลายขึ้นกว่าตอนเจอกันคราวก่อน



                      "ไม่หรอกครับ ไม่กี่ครั้ง เคยนัดเจอลูกค้าแถวๆนี้เลยรู้ว่ามีที่นี่อยู่ มุ่ยล่ะ มาบ่อยใช่ไหม" เขาลองเดาจากการสั่งกาแฟเมื่อครู่เธอดูสนิทสนมกับพนักงานของร้าน น่าจะมาประจำ



                      "ค่ะ มุ่ยมารอซื้อของแถวนี้บ่อยเลยมาประจำ"



                      "วันนี้ด้วยเหรอ" เธอพยักหน้า แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ...






                  
                      ธนพรรู้สึกเกร็งมากที่ต้องทานอาหารกับคนที่พึ่งรู้จัก ถึงมันจะไม่ใช่อาหารหนักแต่เธอกลับรู้สึกประหม่าแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้จ้องมองเวลาเธอทาน แถมยังพยายามชวนคุยไม่ให้บรรยากาศอึดอัด แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จู่ๆก็เจอเขาที่นี่ ความรู้สึกบิดมวนแบบนี้เพราะสาวิกาคนเดียวที่พูดไซโครเธอตั้งแต่วันนั้นว่าฤทธาอาจจะสนใจเธออยู่ ทั้งที่เขาชวนคุยทักทายไปตามมารยาทเท่านั้น
                      บรรยากาศกลับมาเงียบกริบอีกครั้ง เธอรู้สึกได้ถึงสายตาจากคนฝั่งตรงข้าม ตอนนี้เธอทานขนมและกาแฟเกือบหมดแล้วในที่สุดเขาก็พูดขึ้น



                      "ใกล้ถึงเวลาแล้ว มุ่ยจะไปเลยไหม ไปพร้อมกันรึเปล่า" ในเวลาแบบนี้เธอควรตอบอย่างไรดี เธอมารอซื้อฟิกเกอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่สั่งจองไว้ เป็นร้านประจำและสนิทกันดีอยู่ในห้างนี้ ของจะปล่อยตอนช่วงบ่ายสามโมงหากรอหรือทิ้งเวลานานจะเสียสิทธิ์จองทันที คล้ายๆถ้าจองไม่มาแล้วมีคนมาซื้อสดไปก่อนเธอโดนตัดหน้าแน่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด เธอรอฟิกเกอร์รุ่นนี้มากว่าสองปีเชียวตามแผนเธฮจึงรีบมาก่อนเวลา รับของแล้วค่อยไปร้าน



                      "คือมุ่ยจะต้องไปรับของที่จองไว้แล้วค่อยไปลองชุด พอดีมุ่ยขับรถมา พี่กึ้งเอารถมาด้วยรึเปล่าคะ"


                      "เปล่าครับ" เขาไม่ได้เอารถมา แบบนี้คงจะไม่สะดวกเธอควรให้เขาไปด้วยตอบแทนความมีน้ำใจที่คราวก่อนนั่งรถกลับเป็นเพื่อนเธอ แต่เธอต้องพาเขาไปร้านฮีโร่มาเนียด้วย แบบนั้นจะดีหรือ? มันอาจดีก็ได้คราวนี้จะได้รู้กันไปเลย เธอจะได้เลิกประหม่าเกิดอาการไม่ปกติแบบนี้พิสูจน์ว่าที่สาวิกาพูดนี้ไม่จริง หากฤทธาสนใจเธอจริงพอรู้แบบนี้เขาอาจจะรู้ว่าเธอไม่เหมาะกับเขาสักนิด ผู้หญิงอายุยี่สิบแปดกับหุ่นโมเดล....



                      "ไปรับของแล้วจะไปร้านเลย เอ่อ ถ้าพี่กึ้งไม่รังเกียจไปกับมุ่ยไหมคะ"


           



                      ธนพรพาฤทธามาที่ฮีโร่มาเนีย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปถึงวัยชราต่างมาต่อแถวกันเพื่อซื้อสินค้าที่ราวๆสองสามปีจะผลิตออกมาและมีจำนวนจำกัดตามฤดูกาลที่หนังเรื่องนั้นๆฉาย โชคดีที่ทั้งสองมาตอนที่ประตูร้านเพิ่งเปิด หญิงสาวร่างเล็กรีบพุ่งเข้าไปต่อแถวตามสัญชาติญาณทิ้งคนตัวสูงไว้เบื้องหลังแบบไม่หันกลับมามองเลยทีเดียว
                      ขณะกำลังต่อแถวเธอก็ได้สติลืมไปเลยว่าเธอไม่ได้มาคนเดียว ธนพรหันกลับไปดูพบว่าฤทธายืนงงๆอยู่ เขาถูกเหล่าสาวกซุปเปอร์ฮีโร่ที่วิ่งมาต่อแถวชนซ้ายขวาด้วยท่าทีเงอะงะทำอะไรไม่ถูกจนเธอขำ เขาคงไม่มีวันเข้าใจพวกเธอที่ีพยายามแช่งชิงสิ่งที่มีค่ามาไว้ในครอบครอง งานนี้หากฤทธาจะแหยงจนต้องถอยห่างหนีกลับไปก่อน เธอจะไม่โกรธเขาสักนิด



                     "เฮียซ้งแต่มุ่ยเป็นลูกค้าประจำ ขายแยกให้มุ่ยไม่ได้เหรอ บ๊อกซ์เซ็ทนี้มุ่ยมีแล้วนี่นาแต่ชุดเสริมมันเข้ากับฟิกเกอร์มุ่ยพอดี น้าๆ เฮียจะคิดแพงหน่อยก็ได้แต่อย่าให้ซื้อชุดนี้เลยนะ"



                    "ไม่ได้หรอกมุ่ย ถ้าเฮียขายชุดเสริมไปแล้วบ๊อกเซ็ทก็ขายไม่ได้น่ะสิ ยังไงก็ต้องซื้อคู่กัน" สิ่งที่ได้ยินจากซ้งทำให้เธอหัวใจอ่อนยวบแสนเสียดาย ฟิกเกอร์รุ่นนี้ที่ได้มาก็เกือบจะเงินเดือนทั้งเดือนของเธออยู่แล้ว แต่เธออยากได้อุปกรณ์เสริมที่เข้ากับชุดของซุปเปอร์ฮี่โร่รุ่นใหม่ที่เธอเพิ่งได้มา ติดอยู่แค่ต้องซื้อบ๊อกเซ็ทดีวีดี  6 แผ่น คอลเล็กเล็คชั่นของเรื่องที่มีราคาเกือบสี่พัน รวมสองอย่างมันก็หมื่นกว่าแล้ว แต่เธออยากได้มากจริงๆ
                     ธนพรกระวนกระวายมีคนรอต่อแถวจากเธออีกหลายคน หากมัวรีรอหรือช้าไปกว่านี้ชุดนี้ต้องหมดในวันนี้แน่ ถ้าเธอซื้อบ๊อกเซ็ทมาซ้ำที่มีอยู่แล้วจะเอาไปทำอะไรกัน ไม่น่ารีบซื้อแยกไว้ก่อนเลย หญิงสาวน้ำตาปริ่มๆแทบขาดใจเมื่อต้องเลือก ทันใดนั้นเธอก็หันไปเห็น...ไม่ไกลนัก ฤทธาถือบ็อกเซ็ทชุดนั้นเขายืนพิจารณามันอยู่แล้วหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี !    



                    "พี่กึ้งชอบฟิกเกอร์ไหมคะ?"

                 






                    


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×