ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CHENtasy

    ลำดับตอนที่ #3 : Series I : Love @drama:Baby

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 57








     

     

    First Love



     

    ข้าชื่อเฉิน ข้าเป็นลูกของจ้าวสมุทรไตตัน ข้ามีพี่น้องอีกหกคน พี่ลู่ห่าน พี่เลย์ พี่แบค น้องดีโอ น้องทาโอ และน้องเซฮุน
     

    ข้าถูกท่านพ่อตั้งความหวังไว้มากมายเหตุเพียงเพราะท่านลุงโปรดข้า ซูส เทพเจ้าแห่งสายฟ้า โปรดข้าจนประทานเศษเสี้ยวอาวุธของท่าน สายฟ้า มอบให้ข้าเป็นของขวัญเมื่อข้าลืมตาดูโลกนี้ ข้าอยู่แต่ในนครบาดาล ฝึกร้องเพลง เสียงข้าไพเราะกว่าเงือกตนใดในบาดาล ฝึกการใช้อาวุธ พลัง เพราะท่านพ่อหวังว่าจะให้ข้าครองบัลลังก์ต่อ
     

    แต่ว่าข้านะชอบเมืองมนุษย์ ข้ามักที่จะแอบหนีท่านพ่อขึ้นไปบนผิวน้ำเสมอ ที่เรืออับปางมีสิ่งของของพวกมนุษย์มากมาย ข้าอัศจรรย์ใจเสมอที่ได้เห็นของพวกนั้น เขาคิดและประดิษฐ์มันได้อย่างไรกัน ข้าไม่เข้าใจพวกเขาจะโหดร้ายอย่างที่ท่านพ่อบอกได้อย่างไร
     

    วันนั้นข้าแอบท่านพ่อมาบนผิวน้ำตามเคย ข้าเห็นเรือลำหนึ่งแล่นมา ได้ยินเสียงเพลงเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน พวกเขามีงานเลี้ยงกันหรือไง ข้าแอบมองดูพวกเขา ทันใดนั้นข้าเห็นชายผู้หนึ่ง โอ้ เทพพระเจ้า เหตุใดท่านจึงสรรสร้างสิ่งที่สวยงามเช่นนี้ ดวงตาของเขาสีเงินสวย ผมสีทองงาม โอ้ดูเหมือนว่าข้าจะเห็นว่าหูของเขานั้นแหลมเล็กๆ เขาเป็นเอลฟ์หรือนี้
     

    ข้าหลงรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ข้ารู้ตัวทันที ข้าได้ยินชายคนหนึ่งตัวอวบเล็กๆเรียกเขาว่าเจ้าชายคริสเตียน พวกเขาพูดคุยกันเรื่องเจ้าหญิงแห่งพราย โกเวอเฮเฟน
     

    โอ้ นี่เขามีคนรักแล้วหรือ แต่ผู้ชายอีกคนที่ผิวขาวราวน้ำนมก็พูดออกมาว่า คริสคงต้องทนฟังซิ่วหมินบ่นไปอีกนาน เพราะเขาหักหน้าซิ่วหมินด้วยการยกเลิกงานแต่งของเขากับเจ้าหญิงแห่งพราย 
     

    ข้าดีใจจริงๆที่เขายังไม่มีคนรัก เขาไม่ได้แต่งงานกับนาง ข้ายิ้มอย่างดีใจ แต่ข้าก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมาสำรวจข้าอยู่ แต่ข้าไม่สน เขาคงมีสายเลือดแห่งพรายหรือไม่ก็ภูติน้ำถึงได้มองเห็นข้าได้เพราะปกติข้าจะกำบังตนเสมอ
     

    ข้าเฝ้ามองคริสด้วยสายที่เต็มไปด้วยความรัก โชคร้ายที่วันนั้นเฮอริเคนเข้าถล่มเรือพวกเขา ต้องมีใครสักคนขัดใจเซฮุนน้องข้าแน่ๆ เฮอริเคนถึงได้เกิด เรือของพวกเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆ  เขากระโดดลงจากเรือ ผู้ชายคนที่เห็นข้ากำลังช่วยเขาอยู่ แต่อยู่ดีๆเขาก็หมดสติ จมน้ำลงไป ข้ารีบเข้าไปช่วยเหลือ พยุงคริสว่ายน้ำกลับฝั่ง ข้าเป็นห่วงเขาเหลือเกิน เขาจะตายไหม สกัตเติล นกนางนวลเพื่อนของข้าบอกว่าไม่ได้ยินเสียงหัวใจเขา ข้ากังวลเหลือเกิน
     

    แต่เทพพระเจ้ายังปรานีข้า เขาหายใจแล้ว เขาเริ่มได้สติแล้ว ข้าร้องเพลงอย่างมีความสุข
     

    “ควรทำอย่างไงจะได้เพียงมาเจอ เป็นดั่งเงาเธอเสมอทั่วทุกแห่งหน เต็มใจยอมทำจะได้ยล รอยยิ้มสดใส จะพากันเดิน วิ่งเพลินอุรา สุขใจในแสงตะวันใต้ฟ้าใกล้ สองเราคู่ใจ ขอเพียงเคียงใกล้ อยู่ในโลกเธอ”
     

     ข้าอยากอยู่นานมากกว่านั้น แต่มีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งขนปุกปุยที่ตอนหลังข้าได้รู้ว่ามันคือสุนัขกับคนที่ชื่อว่าซิ่วหมิน กำลังเดินมาพอดี ข้ารีบลงน้ำไปซ่อนตัวแล้วรีบว่ายน้ำกลับใต้ท้องทะเล
     

    ข้ามีความสุขจริงๆ ข้าอยากเจอเขาอีก ทั้งสัปดาห์นั้นข้าพึมพำเพลงตลอดเวลาทำไงได้ก็ข้ามีความสุขนิ ฟลาวเวอร์ เพื่อนปลาการ์ตูนของข้าพาข้าไปที่ถ้ำเก็บของที่ข้าเอามาจากเรืออับปาง ในนั้นมีรูปปั้นเหมือนเขาที่ตกลงมาจากเรือ รูปปั้นนั้นช่างเหมือนเขาจริงๆ
     

    แต่อยู่ดีๆท่านพ่อก็เข้ามา ท่านพ่อรู้ได้อย่างไง เซบาสเตียน เซบาสเตียนไปบอกท่านพ่อ เขาบอกพ่อ ท่านพ่อไม่พอใจทำลายข้าวของของข้าจนหมดสิ้น ข้าเผลอพลั้งปากบอกท่านพ่อไปว่าข้ารักเขา เจ้าชายเอลฟ์คนนั้น ท่านพ่อยิ่งโมโหทำลายรูปปั้นนั้นละเอียด
     

    ข้าเสียใจยิ่งนัก ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าอยากเป็นมนุษย์ ข้าอยากเจอเขา อยากแต่งงานกับเขา ข้าตัดสินใจไปหาพ่อมดไคซูร่า เขาเป็นจอมเวทมนตร์รองจากท่านพ่อในท้องทะเลนี้ ข้าไปขอต่อรองกับไคซูร่า ทำให้ข้าเป็นมนุษย์ เขาขอเสียงของข้าเป็นข้อแลกเปลี่ยน ข้าตกลง และข้าก็ได้เป็นคนสมใจไปตลอดกาล
     

    ข้าเกือบจมน้ำ เพราะตอนนี้ข้าไม่มีหางแล้วมีแต่ขา ฟลาวเวอร์และเซบาสเตียนช่วยให้ข้าขึ้นสู่บนบก โชคดีที่สกัตเติลบินผ่านมาพอดี เขาให้ข้าใช้ผ้าที่ตกอยู่แถวๆนั้นห่อร่างกายที่เปลือยเปล่า ข้ากำลังหัดเดิน ทันใดนั้นเจ้าตัวขนปุกปุยนั้นก็ส่งเสียงออกมา ข้าตกใจล้มลงบนชายหาด แล้วผู้ชายที่มีสายเลือดแห่งภูติก็ตามมา
     

    เขาถามข้าว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าจึงตอบไปว่าข้ากลายเป็นมนุษย์แล้ว แต่โอ้อนิจจา ไม่มีเสียงใดออกจากปากข้าเลย ข้ากลายเป็นใบ้แล้ว แต่จริงสิ เขามีสายเลือดภูติ ข้าน่าจะติดต่อเขาผ่านทางจิตได้นะ ข้าเลยลองส่งกระแสจิตไป
     

    ท่านผู้มีสายเลือดแห่งภูติ ท่านได้ยินเสียงจิตของข้าไหม
     

    เขาถามข้า ว่าข้าเรียกเขาใช่ไหม ข้าทำได้อย่างไร
     

    หากเป็นท่านผู้มีสายเลืยดแห่งภูติทั้งเจ็ดผู้ที่เคยเป็นข้าบริวารของแม่ข้า ท่านย่อมได้ยิน ข้าสื่อสารกับท่านทางจิต เราคุยกันทางจิตได้ เพ่งจิตท่านดูสิ
     

    คุณ คุณได้ยินผมใช่ไหม คุณคือเงือกที่ช่วยเจ้าชายใช่ไหม
     

    ใช่ คือเราเอง เราช่วยเขาเอง ท่านช่วยพาเราไปพบเขาได้ไหม
     

    คุณ คุณชื่ออะไร
     

    เราชื่อเฉิน ท่าน เราขอร้อง ได้โปรดช่วยนำเราไปหาเจ้าชายด้วย
     

    ผมชื่อซูโฮ ผมคงพาคุณไปหาเจ้าชายตอนนี้ไม่ได้ ผมว่าคุณน่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มันดูดีกว่านี้นะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านผมก่อนเถอะ แล้วผมจะช่วยคุณ ข้าหน้าแดงขึ้นทันทีที่ก้มลงมองตัวเองใช่ตอนนี้ข้ามีเพียงแค่ผ้าผืนเดียวห่อหุ้มกาย หากไปสภาพนี้คงไม่ดีแน่
     

    ขอบคุณ ท่านผู้มีพระคุณหากแต่เมื่อข้าพยายามเดินกลับโซเซจนล้มลง เขาพยุงช่วยข้าเดินไม่เช่นนั้นคงไม่ถึงบ้านเขาง่ายๆแน่
     

    ไหนบอกว่าบ้านนี่มันปราสาทชัดๆ ปราสาทริมทะเล เห็นได้ชัดว่าคนสร้างต้องรักทะเลและชาวเงือกแน่ๆ ภายในตกแต่งด้วยรูปใต้ท้องทะเล เงือก ภูติน้ำ คนสร้างคงเป็นคนที่แต่งงานกับภูติน้ำแน่ๆ
     

         

    เขาพาข้าไปที่ห้องๆหนึ่ง หาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ข้า แปลกๆดีนะ เสื้อผ้าของมนุษย์นะ ข้ารู้สึกอัดอัดอยู่บ้างนะ ก็มันยังไม่ชินนิ เขามองข้าด้วยสายตาอย่างนั้นอีกแล้ว สายตาแบบที่ข้ามองคริส ข้าไม่รู้ว่าเขาจะพาข้าไปหาเจ้าชายเมื่อไหร่ข้าจึงถามเขาไป
     

     ซูโฮ เมื่อไหร่ท่านจะพาข้าไปหาเจ้าชาย
     

    ทานอาหารเย็นก่อนนะ แล้วผมจะพาไป
     

    ท่านพูดจริงนะ ท่านสัญญาแล้ว
     

    สัญญา
     

    เขาเงียบไปสักพักแล้วพูดขึ้นมาใหม่ ข้าเห็นแววตาที่อิจฉาของเขาแวบหนึ่งแล้วก็หายไป
     

    เฉิน ผมมีเรื่องจะบอก คุณทำใจดีๆนะ
     

    เรื่องอะไรเหรอซูโฮ
     

    คริส กำลังจะแต่งงาน พรุ่งนี้ที่มหาวิหารไม่จริง ข้าไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ ซูโฮอาจแค่โกหก เพราะว่าเขาอิจฉาคริส ไม่จริง
     

    ไม่จริง ท่านโกหกเรา เราได้ยินพวกท่านคุยกันที่เรือนั่น คริสยกเลิกงานแต่งระหว่างเขากับเจ้าหญิงโกเวอเฮเฟนแล้ว
     

    เฉิน ฟังผมพูดก่อน คริสกำลังจะแต่งงานจริงๆ ไม่ใช่กับเจ้าหญิงโกเวอเฮเฟน แต่เป็นคนที่เขารัก รักมานานแล้ว ชานยอล คู่หมั้นที่พึ่งหมั้นกันเมื่อสามวันก่อนอะไรนะเจ้าชายมีคนที่เขารักอยู่แล้ว ไม่จริง ไม่จริง ข้าจะไปถามเขา ข้าจะไปหาเขา
     

    ไม่จริง ฮึก ไม่จริง ข้าจะไปถามเขา ซูโฮพาข้าไปพบเจ้าชายที ข้าจะไปถามเขา ฮึก ฮือๆ
     

     ผมจะพาไปตอนนี้เลย แต่ได้โปรดเช็ดน้ำตาก่อนได้ไหม อย่าร้องไห้เลย อย่าร้องเลย คุณไม่เหมาะกับน้ำตาเลย
     

    เขากำลังปลอบข้า นี่เขากำลังปลอบข้าอยู่หรือนี่ แต่ก่อนที่เขาจะพาข้าไปหาคริส พ่อบ้านของเขาก็รายงานมาว่าคริสและคู่หมั้นขอเข้าพบเขา เขาเลยให้ข้าไปล้างหน้าก่อนที่จะไปหาคริสที่ห้องนั่งเล่น คริสนั่งบนเก้าอี้ ข้างๆเขามีผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างสูง และข้าก็เห็นว่าหูของเขาแหลมนิดๆ เอลฟ์เหรอแต่ทำไมพลังไม่เข้มข้นเลย หรือจะเป็นลูกครึ่งเอลฟ์ พวกเขานั่งข้างกัน ข้าอยากนั่งที่ตรงนั้นเหลือเกิน ข้าอยากอยู่ที่ตรงนั่น
     

    “นายมีอะไรหรอคริส ถึงได้มาหาฉัน วันพรุ่งนี้จะแต่งแล้ว นายน่าจะอยู่คุมงานนะ”
     

    “ฉันจะมาขอยืมใช้ท่าเรือของนาย ยอลบอกว่าอยากล่องเรือในมหาสมุทรดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ แล้วนั่น ใครนะ เพื่อนใหม่นายหรือไง”
     

    ท่านจำข้าไม่ได้หรือที่รักของข้า ท่านจำข้าไม่ได้
     

    “ใช่ เพื่อนใหม่ เขาคือคนที่ช่วยชีวิตนายตอนที่เรือแตกไง”
     

    “ว่าแต่คุณชื่ออะไร”
     

    “เฉิน เขาชื่อเฉิน”
     

    “เอ๊ะ ซูโฮ ฉันถามเขานะ นายตอบแทนทำไมเนี่ย”
     

    “เขาพูดไม่ได้”
     

    “เอ๊ะ ถ้าจะไม่ใช่แล้วมั้งซูโฮ คนที่ช่วยฉัน เขาพูดได้นะ ร้องเพลงเพราะด้วย”
     

    ท่านจำข้าไม่ได้จริงๆ ท่านไม่เชื่อข้า
     

    “พอดีเขาพึ่งเจอเหตุการณ์เลวร้ายนะ เลยช็อค พูดไม่ได้ชั่วคราว แต่เขาคือคนที่ช่วยนายไว้จริงๆ ฉันเห็นเขาชัดกว่านายนะ”
     

    “งั้นต้องขอโทษที่พูดไปอย่างนั้น ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้คุณผมต้องตายแน่ๆ คงไม่ได้รอดกลับมาหาคนรัก”
     

    “ต้องขอบคุณจริงๆนะครับที่ชีวิตคริสเอาไว้”ชานยอลกับคริสกุมมือกันไว้
     

    เศร้า เศร้าเหลือเกิน อยากร้องไห้ อยากร้องไห้เหลือเกิน มือนั้นข้าอยากกุมมัน แม้แต่คำขอโทษท่านยังพูดมันไปส่งๆ เพราะเกรงใจเพื่อนท่าน
     

    “พวกนายสองคนมากันแค่นี้ใช่ไหม เอาเถอะ ฉันอนุญาต  ไปพักผ่อนกันได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่สวยไม่หล่อกันนะ”
     

    “งั้นพวกเราคงต้องขอตัว เชิญด้วยนะครับคุณเฉิน หวังว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันได้ง่ายๆ”ชานยอลจับมือข้าอย่างคนที่เป็นมิตรเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือ ข้าเห็นแววตาของเขาช่างมีความสุขเหลือเกิน มิตรภาพที่เขายื่นมาช่างบริสุทธิ์ ข้าอยากรับ แต่ข้าเองก็เจ็บปวดกับมันเช่นกัน  ครั้นพอคริสและชานยอลอกจากห้องไป น้ำตาของข้าที่พยายามกลั้นมันเอาไว้ตลอดการสนทนาก็ไหลออกเป็นข้าไม่เข้าใจ ข้าไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจ ข้ายอมทุ่มเท เสียสละทุกอย่างเพื่อเป็นมนุษย์ เพื่อเขา แต่เขาจำข้าไม่ได้ และไม่เห็นค่ามันเลย ซูโฮ เข้ามากอดและปลอบข้า ตอนนี้ข้าเป็นคนและมีเพียงแต่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยเหลือข้า ข้าไม่เหลืออะไรแล้ว สูญสิ้นทุกอย่าง
     

    ซูโฮ เราไม่เหลือใครแล้ว เราไม่เหลือใครเลยนอกจากท่าน ท่านอย่าทิ้งเรานะ อย่าทิ้งเรา เราไม่เหลือใครแล้วจริงๆฮึก ฮือ
     

    ผมจะอยู่กับคุณ ผมสัญญา ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณไป ได้โปรดหยุดร้องไห้เถอะนะ อย่าเสียน้ำตาให้เขาอีกเลย น้ำตาของคุณมันไม่มีค่าสำหรับเขาหรอก ได้โปรดอย่าร้อง ผมเจ็บปวดใจเกินทนที่เห็นน้ำตาของคุณ ได้โปรดหันกลับมามองผมได้ไหม มองมาที่ผมได้ไหม
     

    โอ้ นี่เขากำลังบอกว่าเขารักข้าใช่ไหม ทำไม ทำไมที่คนที่ข้าไม่เคยสนใจ ไม่เคยทำอะไรให้เลยเขากลับรักข้าอย่างนี้ แล้วกลับคนที่ข้ารักจนหมดใจทำไมถึงทำกับข้าได้อย่างนี้ ถ้าเขาทิ้งข้าไปอีกคนข้าจะทำอย่างไร ข้าคงอยู่ไม่ได้เลยสินะ ข้าไม่มีที่ให้พึ่งพิงเลยสินะ
     

    ฮึก ฮือๆ เราขอโทษ แต่เรารักเขา รักเหลือเกิน รักจนทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา ยอมเสียยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อที่จะได้เป็นคนเพื่อพบเจอเขา เพื่อหวังว่าจะได้แต่งงานกับเขา แต่เขากลับกำลังแต่งงานกับคนอื่น เราทำใจไม่ได้ ฮือ เราสูญเสียพ่อ พี่น้อง พลังอำนาจ บัลลังก์ และเสียงของเรา เพื่อเขา ฮือ ถ้าเราต้องเสียท่านอีก เราคงอยู่ไม่ได้ ท่านอย่าทิ้งเรา อย่าทิ้งเราเหมือนกับเขา
     

     สัญญา ผมสัญญาด้วยพลังของผมทั้งหมดและความรักที่ผมมี แต่ตอนนี้ได้โปรด โปรดหยุดร้องไห้เถอะ คืนนี้ ได้โปรด หยุดร้องไห้เถอะ หลับ ไปหลับกันเถอะนะ พรุ่งนี้คุณจะตื่นจากฝันร้ายนี้ จุ๊บเขาจูบข้า จูบซับน้ำตาข้า ข้าตกใจเหลือเกิน ข้ารู้สึกเหนื่อย อยากหลับแล้วตื่นขึ้นมาให้หายจากฝันร้ายนี้เสียที


     

     

    Last Love

     

             วันนี้เป็นวันแต่งงานของคริส ยังไงข้าก็ยังทำใจไม่ได้ ข้าไปดูเขาแต่งงานกับคนอื่นไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้าตัวคนเดียว พี่น้องข้าไม่มีแล้ว ข้าลงไปที่ท่าน้ำ เซบาสเตียนและฟลาวเวอร์อยู่ที่นั้น ถามว่าข้าได้เจอเจ้าชายแล้วหรือยัง ข้าเล่าเรื่องทุกอย่าง ข้าเล่าไปร้องไห้ไป
     

    เซบาสเตียนและฟลาวเวอร์ตกใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาบอกว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพวกพี่น้องข้า ข้าจึงห้ามไว้ เมื่อข้าตัดขาดจากพวกเขาแล้ว ข้าก็ไม่อยากให้เรื่องพวกนี้ถึงหูพวกเขาเลย พวกเขาต้องพยายามช่วยข้าแน่ๆ
     

    เขารีบวิ่งมาหาข้า เข้ากอดและสำรวจข้าไปทั่วทั้งตัว ผู้ชายคนนี้เป็นห่วงข้าขนาดนี้เชียวหรือ ข้าร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายเขา ตอนนี้ข้ายังเจ็บปวดกับความจริง ข้ายังทำใจไม่ได้ เขาเป็นห่วงข้ามากจึงตัดสินใจยกเลิกเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้คริสทันที
     

    เขาพาข้าไปเที่ยวในตัวเมือง ข้าได้เห็นสิ่งต่างๆมากมายที่ข้าไม่เคยเห็นในนครบาดาล มันทำให้ข้าลืมเรื่องราวของคริสไปชั่วขณะนั้น  เขาพาข้าไปกินอาหารใต้แสงเทียน ข้าลองเอามือไปสัมผัสเปลวไฟดู ร้อนจัง เขาตกใจ รีบเอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำมาเช็ดที่นิ้วให้ข้า เราเต้นรำกันด้วย ข้าล้มลงในอ้อมกอดเขาด้วย เพราะขนาดแค่เดินข้ายังเดินไม่ค่อยตรงเท่าไหร่เลย ยังต้องให้เขาช่วยพยุง น่าแปลกอ้อมกอดของเขาทำไมอุ่นจัง เหมือนอ้อมกอดของท่านพ่อ 
     

    ระหว่างทางกลับไปยังปราสาท ข้าถามว่าเขามีความฝันไหม เขาบอกว่าความฝันเขาเป็นจริงแล้ว เขาอยากเห็นเงือก ตอนนี้เขาได้เห็นแล้ว ทำไมข้าฟังแล้วรู้สึกใจมันเต้นเร็วๆชอบกล ข้าเลยถามเขาใหม่ ข้าหมายถึงความฝันสูงสุดของเขา สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุด
     

    เขาบอกข้าว่า เขาอย่างล่องเรือไปให้ทั่วทุกน่านน้ำ เขาอยากเจอเงือก อยากรู้ว่าเงือกจะงดงามเหมือนภาพวาดไหม เสียงจะไพเพราะมาแค่ไหน และอยากดูแลเมืองแห่งนี้ให้ดีที่สุด เพราะเมืองนี้คือเมืองที่ตาของเขาสร้างและดูแลเพื่อยายของเขาที่เป็นภูติน้ำ
     

    ตอนนี้เขาทำเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง คือการได้พบข้าและได้ยินเสียงข้า นี่ข้ายังมีประโยชน์อยู่ใช้ไหม ข้าตัดสินใจจะอยู่กับเขา จะช่วยเขาทำความฝันให้ได้ แม้จะเป็นใบ้แต่ข้าก็จะช่วยเขาให้ได้ อย่างน้อยข้าก็ยังเป็นกำลังใจให้เขาได้ใช่ไหม ข้ารู้สึกตัวเองยังประโยชน์จริงๆ โชคชะตา ท่านยังปรานีข้าอยู่ใช่ไหม
     

    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป เราไปเที่ยวด้วยกันทุกวัน ข้ายิ้มได้มากขึ้น ข้าหยุดร้องไห้แล้ว  เพราะใครนะหรอ ก็เพราะเขาช่างทำให้ข้าอยากจะหัวเราะและยิ้มทุกวัน เขาเอาใจข้าทุกอย่าง ข้าขออะไรไม่มีอะไรที่ข้าจะไม่ได้ แม้แต่เรื่องของอาหาร
     

    ข้าไม่อยากกินพวกพ้องในทะเลและรู้สึกทานเนื้อสัตว์ใดๆไม่ลงจริง เขาก็สั่งไม่ให้พ่อครัวทำ คนปราสาททุกคนต่างยอมรับข้า ข้าพยายามเรียนรู้วิถีชีวิตของมนุษย์ให้มากที่สุด แปลกจริงตอนนี้ข้าไม่รู้สึกอะไรกับคริสเลยแม้แต่นิดเดียว
     

    ชานยอลมักจะมาหาข้าทุกวันเพราะคริสมักจะทำงานหนักเสมอไม่ค่อยอยู่ด้วยกันเท่าไหร่ ด้วยนิสัยที่เข้ากับคนได้ง่ายเหมือนกัน ทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ยอลบอกว่าหากเขามีลูก ลูกคนแรกเขาจะให้ข้าตั้งชื่อให้ ข้าดีใจจริงๆ ดีใจที่เขาไม่รู้เรื่องพวกนั้น เพราะมันทำให้เราสนิทกันได้ง่าย ดีใจที่ได้มีเพื่อน
     

    วันหนึ่งข้าไปที่ท่าน้ำเพราะตามซูโฮไปดูเรือของเขา ข้าก็ได้เจอเซบาสเตียนและฟลาวเวอร์อีกครั้ง ทั้งสองบอกว่ามีวิธีที่จะทำให้ข้าเป็นเงือกเหมือนเดิมแล้ว แต่ขอให้ข้ามาที่นี่ในวันพรุ่งนี้อีกในตอนรุ่งสาง เพราะเป็นพี่ๆน้องๆข้าที่จะมาบอกแม้แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
     

    ข้าดีใจเหลือเกินจะได้กลับเป็นเงือกอีกครั้ง พวกพี่ๆน้องๆยังรักและเป็นห่วงข้า วันรุ่งขึ้นข้ารีบไปท่าน้ำด้วยความดีใจ แต่พอไปถึงข้ากลับตกใจยิ่งนักทำไมพี่น้องข้าถึงได้เป็นอย่างนี้ ดวงตาแต่ละคนทำไมถึงได้แห้งผาก ราวกับคนที่ร้องไห้อย่างหนัก
     

    ทุกคนกอดข้า และมอบมีดเล่มหนึ่งให้แก่ข้าบอกว่า เอามีดเล่มนี้ฆ่าเจ้าชายเอลฟ์ซะแล้วข้าจะได้กลับไปเป็นเงือกเหมือนเดิมไปอยู่กับพวกเขาและท่านพ่อ และต้องทำภายในสามวันไม่เช่นนั้นข้าจะตายกลายเป็นฟองน้ำ ท่านพ่อคิดถึงข้ามาก และยังโทษตัวเองว่าเป็นตนเหตุทำให้ข้าต้องหายตัวไป
     

    ท่านพ่อ ลูกขอโทษ ลูกไม่ดีเอง พวกพี่น้องเอาน้ำตาของตัวเองไปเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับพ่อมดไคซูร่า น้ำตา น้ำตาของเงือกมีค่านัก แต่พวกพี่น้องของข้ากับยอมเสียมันเพื่อข้า ข้าจะทำอย่างไร จะทำอย่างไง
     

    ข้าบอกพวกเขาไปว่าข้าฆ่าคริสไม่ลง พรุ่งนี้ขอให้พวกเขามาพบข้าอีกครั้งได้ไหมแล้วข้าจะให้คำตอบ พวกเขาจึงลากลับไป ข้าเดินขึ้นห้องไปยังไงข้าไม่รู้เลย ข้าเอาแต่ร้องไห้ทั้งวัน หากข้าไม่อยู่ ซูโฮจะเป็นอย่างไง หากข้าตายไป เขาจะอยู่อย่างไง
     

    ทำไมข้าจะไม่รู้ว่าเขารักข้ามากแค่ไหน ทำไมจะไม่รู้ว่าเขาจะขาดข้าได้ไหม ข้ารู้ดี ข้ารู้ดี แต่ข้าก็ฆ่าคริสไม่ได้เช่นกัน ข้าไม่อยากให้ยอลเสียใจ ยอลเป็นเพื่อน เป็นน้องที่ข้ารัก
     

    ซูโฮเข้ามาให้ห้องของข้าเขาเห็นมีดและรีบหยิบมันออกไป เขาถามว่าข้าเอามันมาทำไม เอามาได้อย่างไง
     

                พวกพี่ๆและน้องๆเอามีดมาให้ฉัน พี่เลย์บอกให้เอาฆ่าคริสภายในสามวันไม่เช่นนั้นจะเป็นเราเองที่ต้องตาย พวกพี่น้องอยากให้เรากลับเป็นเงือก เราอยากกลับเป็นเงือก แต่เราฆ่าคริสไม่ได้ และเราไม่อยากจากซูโฮไป
     

                “งั้นให้ผมฆ่าเขาให้คุณสิเฉิน ผมไม่อาจเสียคุณไปได้ ต่อให้คุณเป็นเงือก เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่เรายังเจอกันได้อยู่นะ คุณฆ่าคริสไม่ได้ ผมจะไปฆ่าเอง”
     

              โอ้ ไม่ข้าไม่อยากให้เขาต้องฆ่าเพื่อนตัวเอง
     

    “ไม่ อย่านะซูโฮ เราไม่อยากให้ท่านฆ่าเขา เขาเป็นเพื่อนท่าน อีกอย่างเงื่อนไขหนึ่งในนั้นคือเราต้องฆ่าเอง ห้ามให้ใครฆ่าให้ หากเราทำ คริสจะตาย เราสงสารยอล ยอลเป็นเพื่อนเรา “
     

    “แต่คุณจะตาย กลายเป็นฟอง ผมทนไม่ได้ ทนไม่ได้!!
     

    มันต้องมีทางแก้มากกว่านั้นสิ พรุ่งนี้พวกพี่ๆจะมาหาฉันที่ท่าน้ำอีกตอนเช้า ฉันจะลองถามพวกเขาใหม่ มันต้องมีหนทางที่ดีกว่านี้
     

    เอาเป็นว่าผมจะไปกับคุณด้วย รอผมด้วยนะครับ
     

    อื้อ ข้ารับปากก่อนที่จะเก็บมีดเอาไว้ ข้าห้ามเด็ดขาดไม่ให้เขาหยิบมีดเล่มนั้น ข้ารู้ เขาเชื่อข้า ทำตามคำสั่งของข้าทุกอย่าง
     

    เช้าวันต่อมาข้ารีบไปที่ท่าน้ำกับซูโฮ พวกพี่น้องของข้ามารอที่นี้นานแล้ว
     

    คนนี้นะเหรอที่ช่วยน้อง สายเลือดแห่งภูติน้ำจริงสินะ
     

    ครับ ท่านพี่ลู่ห่าน
     

    นี้ก็เหลืออีกแค่สองวันแล้ว พี่ต้องตัดใจฆ่าเจ้าชายเอลฟ์คนนั้นได้แล้ว ไม่เช่นนั้นพี่จะต้องตาย หากพี่ตายนครบาดาลเราจะเป็นอย่างไง พี่ย่อมรู้ดี
     

    ทาโอ พี่ขอโทษแต่พี่ไม่อาจฆ่าเขาได้ ไม่ใช่พี่ว่ายังรักเขา แต่หากพี่ทำ ยอลจะเสียใจ ยอลเป็นเพื่อนพี่
     

    แต่ก็เป็นคนที่ทำร้ายหัวใจน้องเหมือนกัน
     

    ยอลไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกพี่แบค
     

    แล้วพี่จะทำอย่างไง พวกเราชาวนครบาดาล และท่านพ่อต้องการท่าน
     

    ดีโอ น้องเองก็มีพลังไม่ด้อยกว่าพี่ หากเป็นน้อง ทาโอและเซฮุนย่อมดูแลนครบาดาลได้เป็นอย่างดี พี่ลู่ห่านเองก็เป็นกำลังสำคัญ ขาดพี่ไปเสียคนไม่ก่อให้เกิดผลอะไรมากหรอก แค่อาจไร้สายฟ้ายามที่ลมพายุมาเท่านั้นเอง
     

    ไม่ขำนะครับพี่เฉิน
     

    พี่ก็ไม่ได้ล้อเล่น เซฮุน
     

    พี่จะไปเรียกพ่อมดไคซูร่ามา เขาน่าจะช่วยหาทางออกให้เราได้
     

    แล้วคราวนี้เราจะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนหละครับพี่เลย์ แค่ทุกคนยอมเสียน้ำตาเพื่อให้ได้มีดเล่มนั้นมา ผมก็รู้สึกเสียใจและโทษตนเองมากแล้ว
     

    มีใครเรียกหาพ่อหมอไม่ทราบ
     

    ท่านไคซูร่าทุกคนประสานเสียงเรียกคนที่อยู่ด้านหลังข้าและซูโฮ
     

    “ท่านมาในรูปแบบนี้ได้อย่างไงเซฮุนถามท่านไคซูร่า
     

    ลืมแล้วหรือไงคนนี้คือใคร พ่อมดไคซูร่าเชียวนะ ข้ารู้ ข้าเห็น พลังข้ามีเยอะ
     

    นอกจากฆ่าเจ้าชายเอลฟ์แล้วยังมีทางอื่นอีกไหมที่จะทำให้น้องข้ากลับเป็นเงือก
     

    มีอยู่หนทางหนึ่ง นั่นก็คือ หาผู้ชายที่รักน้องของท่านจนหมดสุดหัวใจ แล้วให้เขาใช้มีดนั้นปลิดชีพมอบชีวิต จิตวิญญาณให้น้องท่าน หนึ่งชีวิตต่ออีกหนึ่งชีวิต หนึ่งจิตวิญญาณความรักต่อหนึ่งดวงจิตของผู้เป็นที่รัก
     

     ผมเอง ผมรักเฉินจนหมดหัวใจ ผมทำได้ เฉินเอามีดเล่มนั้นให้ผม ไม่ข้าไม่ยอมให้ซูโฮทำอย่างนั้นหรอกนะ
     

    อย่าทำ ซูโฮ เราไม่ให้ท่านทำ ท่านทำให้เรามากแล้ว หากท่านทำ เราจะแทงหัวใจตัวเราเอง ท่านพี่ น้องทั้งหลาย ซูโฮ ขอเราคุยกับท่านไคซูร่าเป็นการส่วนตัวจะได้ไหมข้าจะให้ซูโฮทำอย่างนั้นไม่ได้ ตอนนี้ข้ารู้ใจของข้าชัดเจนแล้ว ที่ข้ายอมไม่ได้เพราะข้ารักเขาไง ข้ารักซูโฮ ความจริงที่ตัวของข้าเองก็พึ่งรู้ ซูโฮจะมาตายแทนข้าไม่ได้ เขายังมีความฝันที่ต้องทำ มีหน้าที่ที่ต้องทำให้สำเร็จ ข้าจะให้เขาตายไม่ได้
     

    ข้าเสนอกับไคซูร่าผู้เป็นดั่งอาจารย์ของข้าอีกคนหนึ่ง ขอให้ข้ากลับเป็นเงือกอีกครั้งก่อนตายได้ไหม ให้ข้าได้ตายอย่างสมเกียรติของข้า สิ่งแลกเปลี่ยนคือพลังที่เหลือของข้า สายฟ้าที่จะทำให้เขายิ่งใหญ่ แต่เขาจะต้องไม่ใช้ทำร้ายผู้อื่น ข้ารู้จักนิสัยของเขา เขาไม่ใช่คนโลภมากขนาดปานนั้น และชีวิตของข้าเอง
     

    ข้าบอกแผนของเขาให้เขาบอกแก่เหล่าพี่น้องข้า ข้าคืนมีดให้แก่เขา เปล่าประโยชน์ที่จะใช้มันแล้ว ข้ากลับมารวมกลุ่มอีกครั้ง ก่อนที่จะบอกลาทุกๆคน  ข้าพยายามทำตัวให้ร่าเริง พยายามชวนซูโฮไปเที่ยวเล่น และข้าทำทำมื้อเย็นให้เขาทาน
     

    เขาบอกข้าว่า มื้อเย็นมื้อนี้อร่อยมาก อร่อยที่สุดในชีวิตของเขา ข้าอยากกอดเขาเป็นครั้งสุดท้ายเหลือเกิน   ก่อนนอนข้าขอนอนกับเขา เขาดูตกใจและประหลาดใจแต่ก็ยอมให้ข้านอนกับเขา ข้ามอบจุมพิตแรกของข้าให้แก่เขา จูบแรกของพวกเรา และมันอาจเป็นจูบสุดท้ายเหมือนกัน
     

    ข้านอนกอดเขาก่อนที่จะหลับไปอ้อมกอดของเขาเช่นกัน ข้าแอบวางยาในอาหารของเขา ดังนั้นวันนี้กว่าเขาจะตื่นก็คงจะประมาณเที่ยงวันละมั้ง เพื่อไม่ให้เขาห้ามข้า และตามข้าไปในนครบาดาล

     

    ข้ารีบไปที่ท่าน้ำ กริมสปี้ พ่อบ้านของเขาถามว่าเขายังไม่ตื่นอีกหรือ และข้าจะไปที่ท่าน้ำอีกแล้วใช่ไหม ข้าพยักหน้ารับ ข้าเสียใจเหลือเกินทีต้องจากทุกคนในปราสาทนี้ไป พวกเขาดูแลข้าได้ดีมาก
     

    เมื่อไปถึงไคซูร่าร่ายมนต์ทำให้ข้าได้เป็นเงือกอีกครั้ง และคืนเสียงให้แก่ข้า พวกพี่น้องต่างอยู่ในอารมณ์ที่โศกเศร้าแต่ก็ยอมรับการตัดสินใจของข้า ข้าขอร้องให้ทาโอน้องคนรองสุดท้องของเราคอยอยู่ที่นี้ เฝ้าและห้ามไม่ให้ซูโฮ ตามข้ามาได้ พร้อมกับบอก ให้เขาใช้นาฬิกาของเขาหมุนย้อนมาดูทุกเหตุการณ์ด้วย เพราะเขาคือผู้เฝ้ามอง คือผู้บันทึกเหตุการณ์
     

    ข้าว่ายกลับไปที่วังบาดาล ท่านพ่อรอข้าอยู่ที่นั้น ข้าเห็นน้ำตาของท่านพ่อ ข้ามันเลว เป็นลูกที่ไม่ดีจริงๆ ข้าเข้าไปกอดท่านพ่อ ท่านพ่อพูดแต่ว่าขอโทษ ท่านพ่อขอโทษข้า ฮึก
     

    “ท่านพ่อ ข้าขอโทษ  ท่านพ่อครับ ได้โปรดอย่าคิดว่าซูโฮเป็นต้นเหตุให้ผมตาย เขาเก่งนะครับ เขามีสายเลือดของท่านเวนารีน ภูติรับใช้คนสำคัญของท่านแม่ที่ตายไป ฉลาด หัวไว มีความรับผิดชอบสูง ต่อไปเขาจะช่วยท่านได้มาก ในอนาคต ท่านอย่าได้ขัดขวางการตัดสินใจของทาโอหรือแบคฮยอนเลย พี่ลู่ห่าน ดีโอ ทาโอ และเซฮุนจะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลนครบาดาล สายฟ้าของผม ผมมอบให้ท่านไคซูร่า ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าเชื่อ ท่านไคซูร่าจะไม่กบฏท่าน ท่านพ่อโปรดรับการคำนับครั้งสุดท้ายจากลูกที่ไม่ได้ความคนนี้ด้วย” ข้าคำนับพ่อของข้าอย่างงดงามที่สุด ก่อนที่จะร้องเพลงสรรเสริญท่านเป็นครั้งสุดท้ายด้วยจิตที่เคารพสูงสุด ท่านร้องไห้ด้วยความเศร้า ข้าเจ็บยิ่งนัก
     

    ด้วยสายเลือดของนักทำนายที่ได้จากท่านแม่ ทำให้ข้าที่ใกล้จะตายแล้วเห็นเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้นี้ ข้าขอให้พี่ลู่ห่านเอาไข่มุกเม็ดที่ข้ารักที่สุด เอาให้ทาโอ บอกเขาให้เอาให้คนที่เขารักที่สุด สมบัติทุกอย่างของข้า ขอให้มอบคืนให้แก่ท่านพ่อทุกชิ้น  ตรีศูลของข้า ข้ามอบให้พี่ลู่ห่าน ขอให้พี่ลู่ห่านเป็นราชาแห่งเงือกองค์ต่อไปจากท่านพ่อ
     

    ข้าเริ่มหลั่งน้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าให้กลายเป็นไข่มุกรัติกาล สมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้าย เพื่อมอบให้แก่คนที่ข้ารักมากที่สุด ข้าร้องเพลงแห่งความทรงจำจรดลึกบันทึกเอาไว้ในมุกเม็ดนั้น บันทึกคำขอของข้าเป็นครั้งสุดท้ายให้ซูโฮ ฝากให้พี่เลย์เอาให้เขา ให้เขาทำตามทุกอย่างอย่างไม่มีข้อยกเว้น
     

    ตะวันใกล้ตกดิน ข้าขอให้เหล่าพี่น้องขอข้า พาข้าไปที่ผิวน้ำเพื่อเจอซูโฮเป็นครั้งสุดท้าย ท่านพ่อไม่ยอมมาด้วย ท่านยังทำใจไม่ได้ ข้าอ่อนแรงเหลือเกิน
     

     “เฉิน อย่าร้องไห้ อย่าร้อง อย่าร้องอีกเลย ผมขอร้อง มีด มีดอยู่ไหน ได้โปรดฆ่าผม ฆ่าผมด้วยมือของคุณ ฆ่าผมเถอะนะ”
     

    “ซูโฮ อย่าตายตามฉันนะ นายต้องมีชีวิตอยู่ต่อ คอยดูแลเมืองนี้ คอยดูแลที่แห่งนี้ที่ๆมีความทรงจำของเรา อย่าลืมฉัน สัญญา สัญญาสิ สัญญาจะมองฉัน รักฉันเพียงแค่คนเดียว สัญญาได้ไหม”
     

     “สัญญา สัญญา ผมจะมองแค่คุณ จะรักคุณคนเดียว เฉิน อย่าไป อย่า หยุด หยุดร้องไห้เสียเถอะ หยุดร้องเถอะนะ น้ำตาของคุณ มันไม่สวยเลย”
     

    “กะ เก็บมันเอาไว้ที่รักของฉัน ฉันจะอยู่กับนายตลอดไปตราบเท่าที่ลมหายใจนายยังอยู่ จุมพิตฉัน เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม” เขาจูบข้าอย่างอ่อนโยน ความรักทั้งหมดที่มี เขาถ่ายทอดทุกความรู้สึกให้ข้าได้รับรู้
     

    เมื่อเขาผละออกมา ข้าเริ่มร้องเพลง เพลงที่จะมอบให้เขาคนเดียว ข้ายิ้มหวานให้เขา อาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า โอ้ ทำไมตาของข้าพล่าเลือน ทำไมหัวใจของข้าเต้นอย่างบ้าคลั่งแบบนี้ ข้ากำลังจะหมดลมหายใจใช่ไหม ลาก่อนที่รักของข้า ข้ารักท่านเสมอนะซูโฮ


     

    แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าพร้อมกับร่างอันหมดลมหายใจของผู้ควบคุมทะเล พายุคลื่นโหมกระหน่ำราวกับว่าร้องไห้ให้บุคคลที่จากไป น้ำทะเลที่แตะกายพาพัดร่างนั้นให้กายเป็นฟองน้ำล่องลอยทั่วมหาสมุทรใหญ่ บุตรแห่งท้องทะเลกลับมาแล้ว และจะอยู่เพื่อเฝ้ามองทุกคนตลอดไป

     
     

    - Ending -

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×