คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ฮัลโหล :) มายรูมเมต
บทที่ 2
ฮัลโหล J มายรูมเมต
-คฤหาสน์ภัทรทวีกูล-
“พ่อขา แม่ขา หนูกลับมาแล้ว ;)” ฉันเดินไปหอมแก้มพ่อ กับแม่คนละฟอดที่ห้องรับแขก ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆท่าน
“พินบี...พ่อกับแม่ต้องไปฮ่องกงสักเดือนนึงนะ อาการคุณย่าทรุดลงอีกแล้ว เราต้องไปดูแลท่าน”
“หนูขอไปด้วยนะคะ”ฉันอ้อนแม่ ฉันเป็นลูกครึ่งฮ่องกง – ไทย พ่อฉันเป็นคนฮ่องกง แม่ฉันเป็นคนไทย
“ไม่ได้หรอกจ้ะ โรงเรียนลูกก็เพิ่งเปิดนะ”แม่อธิบายฉัน
“แต่หนูเป็นห่วงคุณย่านะคะ” คุณย่าอาการไม่ดีตั้งแต่ต้นปี นั่นเป็นเพราะท่านอายุมากแล้ว
“ถ้าลูกเป็นห่วงคุณย่า ลูกก็ต้องตั้งใจเรียน”พ่อช่วยสนับสนุน
“แต่.. พ่อคะ”
“พ่อจะให้ลูกไปอยู่คอนโดใกล้โรงเรียน ถ้าอยู่ที่คฤหาสน์ มันอันตรายเกินไป” ฉันก้มหน้า รับฟังสิ่งที่พ่อพูด ซึ่งมันก็ถูก การประกอบธุรกิจห้าง มีการแก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่นกันมากมาย ยิ่งฉันเป็นทายาทคนเดียวของภัทรทวีกูล หลายคนย่อมหมายปองชีวิต T^T เกิดเป็นฉันนี่รันทดจริงๆ
“คะ พ่อ” ฉันเลยต้องรับปากพ่ออย่างเสียไม่ได้
“พ่อจะให้ลูกเพื่อนพ่อดูแลลูกระหว่างลูกอยู่ที่นั่น ลูกต้องเชื่อฟังพี่เขานะ”พ่อฉันกำชับ
“คะ พ่อ T^T พ่อจะไปวันไหนค่ะ”
“พรุ่งนี้เช้า พรุ่งนี้วันเสาร์ ลูกไม่ไปโรงเรียนหรอกใช่ไหม”พ่อถามฉัน
“ใช่คะ”
“โอเค งั้นดีเลย คืนนี้ลูกเก็บของได้เลยนะ”
“แล้วพี่เขาชื่ออะไรหรอคะ พ่อ”
“ไต้ฝุ่นจ้ะ..พี่เขาชื่อ ไต้ฝุ่น” เป็นแม่ที่ตอบแทนพ่อ ส่วนพ่อก็แค่ยิ้มให้ฉัน แต่ชื่อที่ได้ยินนั้น ทำให้ฉันยิ้มแทบไม่ออก เพราะมัวแต่อึ้ง !
-วันรุ่งขึ้น-
ฉันมายืนอยู่หน้าห้อง 900 ซึ่งเป็นห้องบนสุด และใหญ่สุดของคอนโดนี้
กริ๊ง!!!! ฉันกดออดหน้าห้อง ชั้นเก้าเป็นชั้นที่มีพื้นที่มากที่สุด เพราะมีแค่ห้องเดียว ! ส่วนชั้น 2-8 แต่ละชั้น จะมีชั้นละ 3 ห้อง ซึ่งถ้าไม่รวยจริง ไม่มีวันได้เข้ามาเหยียบที่นี่แน่
“ห้องของเธออยู่ทางซ้ายมือ”หลังจากที่พี่ไต้ฝุ่นเดินมาเปิดประตูให้ฉันเข้าไป เขาก็แนะนำห้องของฉัน
“คะ” ฉันเอาของไปเก็บที่ห้อง ส่วนพี่ไต้ฝุ่นเดินเข้าไปในครัว
“ว้าว!” ทันทีที่ฉันเปิดห้องเข้ามา ก็ต้องประหลาดใจ ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูเตียง ผ้าม่าน ผ้าห่ม หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ล้วนตกแต่งด้วยสีครีม สีโปรดของฉัน และทุกอย่างทำให้ฉันดูเหมือนเจ้าหญิงมากๆ >< ฉันรักที่นี่ (ยัยใจง่าย ==!) หลังจากที่ฉันเอาของไปเก็บ และเดินสำรวจห้องเรียบร้อยแล้ว ฉันก็เดินไปหาพี่ไต้ฝุ่นที่ห้องครัว
“พี่ทำอะไรคะ” ฉันทักพี่ไต้ฝุ่น เมื่อเห็นเขากำลังหั่นผักให้เป็นชิ้นเล็กๆ
“สปาร์เก็ตตี้ เธอคงยังไม่ได้กินอะไรมา”
“ฉันช่วยนะคะ” ฉันเดินตรงไปหาพี่ไต้ฝุ่น
“หั่นผักตรงนี้” พี่ไต้ฝุ่นบอกให้ฉันหั่นผักที่เขายังทำไม่เสร็จ ส่วนเขาไปลวกเส้นสปาร์เก็ตตี้
“คะ” ฉันรับคำพี่ไต้ฝุ่น แม้จะไม่เคยเข้าครัวเลย แงๆๆ Y^Y เอาไงดีเนี่ย ซวยแล้ว ฉันจับมีดอย่างเก้ๆกังๆ แล้วค่อยๆหั่นผัก แต่เพราะฉันไม่เคยทำ เลยไม่รู้ว่าต้องหั่นแบบไหน ฉันเลยหั่นโดนนิ้วตัวเองไปเลย T^T
“โอ้ย!!” ฉันร้องด้วยความตกใจ และเจ็บนิ้ว
“ทำไม่เป็นทำไมไม่บอก” พี่ไต้ฝุ่นจับมือฉัน และพลิกดูนิ้วที่โดนเลือดออก >< ไม่รู้ว่าทำไม ฉันชอบมองผมสีน้ำตาลเข็มที่มาปรกหน้าพี่เขาจัง ฉันกำลังต้องมนต์หรอเนี่ย O_o
“ฉันคิดว่า.... พี่รู้” น้ำเสียงฉันเบาลง
“เอ๊ะ?” พี่ไต้ฝุ่นเลิกคิ้วนิดหน่อย ก่อนจะยิ้มมุมปากนิดๆ แค่นิดเดียวจริงๆ แต่มันก็มีเสน่มากมายที่ทำให้ใจของฉันเต้นแรง และรัวได้ขนาดนี้ >///<
“ไปนั่งที่โซฟาก่อน” พี่ไต้ฝุ่นบอกฉัน ซึ่งฉันก็ทำตามคำบอก ส่วนพี่เขาไปเอากล่องปฐมพยาบาล พี่ไต้ฝุ่นเดินมานั่งข้างๆฉัน และดึงมือฉันไปทำแผล ฉันว่าแอร์ในห้องก็ไม่ได้ร้อนนะ แต่ไม่รู้ทำไม ฉันรู้สึกเหมือนอุณหภูมิภายในร่างกายของฉันร้อนไปหมด หน้าของฉันกับพี่ไต้ฝุ่นห่างกันแค่คืบเดียว แต่นั่นก็ทำให้ฉันร้อนหน้าผ่าวเหมือนจะหายใจไม่ออก นี่ถ้าพี่ไต้ฝุ่นสบตาฉันด้วยละก็ ฉันคงเป็นลมแน่ๆ แต่โชคดีที่พี่เขามัวแต่ทำแผลให้ฉัน
“คราวหน้าก็ระวังหน่อย”พี่ไต้ฝุ่นลุกเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บ “อ้อ ฉันคิดว่า ฉันทำอาหารเองได้” พี่เขาหันมาบอกฉัน ก่อนจะเดินเข้าห้องครัวไปอีกรอบ ทิ้งให้ฉันที่นั่งอยู่บนโซฟามองดูปาสเตอร์ยาที่พี่ไต้ฝุ่นติดให้ แล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
-ตกเย็น-
“ฉันต้องไปหาเพื่อน ล็อกห้องด้วย”พี่ไต้ฝุ่นบอกฉัน
“อ้อคะ”
“ฉันทำอาหารไว้ให้แล้ว อยู่บนโต๊ะ”
“ขอบคุณคะ”
“อืม” พูดจบพี่ไต้ฝุ่นก็เดินออกไป
เฮ้อ จะหนึ่งวันเต็มๆแล้วสินะ ที่ฉันมาอยู่กับชายแปลกหน้า พ่อกับแม่กล้าให้ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะ ==^ ไม่หวงลูกสาวบ้างเลย ถ้าฉันเผลอไปปล้ำใครขึ้นมา จะทำไงเนี่ย -0- เอ๊ะ ! นั่นห้องพี่ไต้ฝุ่นนี่ >//<
“ยังไงพี่ไต้ฝุ่นก็ไม่อยู่ พินขอเข้าไปสำรวจหน่อยน้า >3<” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะถือวิสาสะย่องเข้าไปในห้องพี่ไต้ฝุ่น ห้องของพี่ไต้ฝุ่นตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา และแพงหูฉี่เอาการเลยทีเดียว ภายในห้องสะอาดมากกกก สีที่ใช้ตกแต่งส่วนใหญ่เป็นพวกสีโทนมืดๆ แบบพวกสีน้ำเงิน และสีม่วงเป็นหลัก ผ้าปูที่นอนก็สีม่วงเข้ม แต่สายตาของฉันไปสะดุดกับรูปถ่ายใครบางคนที่โต๊ะเขียนหนังสือ เป็นรูปผู้หญิงหน้าตาสละสลวยเอาการ บุคลิกท่าทางเป็นคนอ่อนหวาน ผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวประบ่า ดวงตากลมโต ริมฝีปากอวบอิ่ม เป็นกระจับ แต่นัยน์ตาดูเศร้าๆ
“เธอไม่ควรจะเข้าห้องคนอื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต”เสียงใครบางคนที่ดังอยู่เบื้องหลัง ทำให้ฉันอดตกใจอย่างเสียไม่ได้
“เปาโล...” ฉันเอ่ยชื่อเปาโลด้วยความตกใจ
“ออกมา!!”เปาโลตรงเข้ามากระชากแขนฉันออกจากห้องพี่ไต้ฝุ่น พร้อมทั้งปิดประตูดังโครม !!
“ฉัน....”ฉันพูดอึกอักเหมือนเด็กที่ทำอะไรผิดสักอย่าง แล้วโดนผู้ใหญ่จับได้
“เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่นะ ..หึ ยัยโรคจิต!!”
“นี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ” ฉันยังเถียงหัวชนฝาไม่เลิก
“จะบอกว่า เธอเดินละเมอไปห้องพี่ฝุ่นเองงั้นสิ ! ยัยบ้าเอ๊ย” เปาโลพูดพร้อมกับเดินมาบีบต้นแขนฉันอย่างแรง
“โอ้ย !! จะฆ่ากันเลยรึไง”ฉันต้องแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะแขนที่เปาโลบีบอยู่ มันเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว
“เหอะ!” เปาโลปล่อยมือที่บีบต้นแขนฉัน ก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์ที่ตู้เย็น ==^ กินให้ตายๆไปเลย ชิ!!
“อายุแค่ 16 ปี ริอาจดื่มเบียร์เลยหรอ หึ!” ฉันแสยะยิ้มใส่เปาโลที่เดินกระดกเบียร์มานั่งลงบนโซฟาข้างๆฉัน
“เรื่องของฉัน”เปาโลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นั่นสินะ... น่ายินดีด้วยซ้ำ นายจะได้ตายไวๆ =)” ฉันแสยะยิ้มชั่วร้ายให้เปาโล ซึ่งดูท่าทางเขาจะรำคาญฉันมากๆ
“เลิกทำตัวเป็นแม่พระ เลิกทำให้ฉันหงุดหงิดสักที่!”เค้าตะคอกใส่ฉันเสียงดัง ก่อนจะบีบกระป๋องเบียร์ที่อยู่ในมือบู้บี้ เสียรูปทรงไปหมด
“ใครบอก ฉันกำลังทำตัวเป็นแม่มดต่างหาก” ฉันพูดพลางไขว่ห้าง ทำท่าทางสบายๆเหมือนไม่เกรงกลัวเปาโลเลยสักนิด หารู้ไม่ ในใจฉันนี่ กังวลไปหมดแล้วอะ
“เหอะ ถ้าเธอเป็นแม่มด ฉันคงต้องเป็นซาตานแล้วล่ะ ^^” เปาโลพูดพลางแสยะยิ้มชั่วร้ายให้ฉัน ที่ไม่ว่าใครเห็น เป็นต้องเกลียดร้อยยิ้มนี้
“นายควรทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ทำตัวเป็นนักเลง มันดีนักรึไง” ฉันลองอ่อนข้อให้เปาโลดูบ้าง เผื่อหมอนี่จะใจดีกับฉันบ้าง ==^
“ถึงฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เคยอ่อยใคร” เปาโลพูดตะคอกใส่ฉัน อยู่ใกล้กันขนาดนี้ จะตะคอกทำไมไม่ทราบ -_-
“เหอะ ทำตัวเป็นนักเลงอันธพาล มันใช้ได้ที่ไหน รังแกคนอื่นไปวันๆ มีความสุขมากนะรึไง!!” ฉันเริ่มของขึ้นบ้างแล้ว ในเมื่อพูดดีๆไม่ชอบ ก็ทะเลาะ ให้ตายกันไปข้างนึงนี่แหละ!
“หึ ว่าแต่คนอื่น เธออ่อยใส่พี่ไต้ฝุ่น ก็ลองอ่อยใส่ฉันบ้างสิ อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าผู้หญิงอย่างเธอมีปัญญาสักแค่ไหน” เปาโลเริ่มพูดจาใส่ฉันด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกมากกว่าเดิม ก็ดี! ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ฉันคงตบเขา แต่ตอนนี้ในเมื่อเขาท้าฉันนัก ฉันจะทำให้ดูว่าอ่อยจรอิงๆนะ เป็นยังไง
“งั้นเหรอ”ฉันลุกขึ้น เดินไปนั่งข้างๆเปาโล แล้วใช้มือข้างหนึ่งรั้งต้นคอเขาไว้ให้โน้มมาใกล้ๆ ส่วนอีกข้างก็ไล้ไปบนหน้าท้องแบนราบของเขา ตอนแรกเปาโลดูจะตกใจมาก แต่สักพัก เขาก็ยิ้มมุมปากแทน นั่นทำให้ฉันรู้ว่า ฉันกำลังตกอยู่ในความซวยที่ตัวเองก่อขึ้นมาซะแล้ว T^T แงๆๆ
“ยั่วได้เก่งนี่”ในจังหวะที่ฉันกำลังคิดหาวิธีเอาตัวรอด เปาโลกดแขนฉันลงบนโซฟา แล้วขึ้นคร่อมตัวฉัน ลมหายใจร้อนๆที่สัมผัสอยู่บนต้นคอฉัน ทำให้ฉันถึงกับชะงัก
“ปล่อย!”ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการที่เปาโลสร้างไว้ แต่เหมือนยิ่งดิ้น ฉันจะยิ่งเจ็บตัวฟรี และเปาโลก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
“เหอะ! ยั่วกันขนาดนี้ คิดว่าฉันจะปล่อยไปง่ายๆงั้นหรอ” เปาโลจงใจลากเสียงยาวเป็นเชิงยียวน ถึงแม้เขาจะหล่อเกินห้ามใจ และสัมผัสจากตัวเขาอยู่ห่างจากฉันไม่เกินหนึ่งนิ้ว แต่ฉันไม่ใช่คนใจง่ายอย่างนั้นนะ T^T กลิ่นตัวของเปาโลทำให้ฉันปั่นป่วนไปหมด
หมับ!! คอเสื้อของเปาโลถูกกระชากทางด้านหลัง ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร
“พี่ไต้ฝุ่น”เปาโลครางเสียงพี่ชายตัวเองอย่างแผ่วเบา
“ถ้าแกเมา ก็ควรจะกลับบ้านไปซะ”พี่ไต้ฝุ่นออกปากไล่น้องชายตัวเองอย่างเฉยชา
“ผมจะอยู่ที่นี่”เปาโลคัดค้านขึ้น
“แต่..”พี่ไต้ฝุ่นจะพูดขัดขึ้นมา แต่คำพูดของเปาโลในวินาทีต่อมาทำให้พี่ไต้ฝุ่นต้องยอม
“ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ในห้องเดียวกัน คิดว่าคนอื่นจะมองยังไงครับ^^”
“.......” ฉันกับพี่ไต้ฝุ่นถึงกับเงียบ เมื่อเปาโลพูดถึงความจริงในข้อนี้
“แล้วถ้าพี่ละ..”
“แกควรเลือกว่า จะไปนอนห้องฉัน หรือนอนบนโซฟานี่” เปาโลยังไม่ทันจะพูดจบ พี่ไต้ฝุ่นก็พูดขัดซะก่อน -_-
“ก็แค่นั้นแหละครับ”เปาโลผิวปากอย่างสบายอารมณ์
“แต่แกห้ามทำอะไรพินบีอีกเป็นอันขาด ฉันรับปากคุณพ่อแล้ว ว่าจะดูแลพินบีให้ดีที่สุด”พี่ไต้ฝุ่นพูดกับเปาโลเป็นเชิงคำสั่ง เปาโลทำหน้าเซ็ง ก่อนจะตกปากรับคำ
“ครับ”
ความคิดเห็น