ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยมฑูตปีศาจ&ธิดาแห่งโลกา

    ลำดับตอนที่ #3 : bone 2Emperor

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 56


    Emperor

              ตึกสีขาวตั้งตระง่านอยู่ริมผา มีกำแพงอิฐสีหม่นๆก่อตั้งล้อมรอบ ในนั้นมีอาคารน้อยใหญ่ทาสีต่างๆไว้

    ...นี่น่ะเธอโรงเรียนเอ็มเพอร์เรอร์ จะใหญ่ไปไหนเนี่ย สร้างเป็นสิบปีเลยมั้งเนี่ย...ครั้งแรกที่เธอได้ยินชื่อโรงเรียนแห่งนี้ก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่อย่างไรชอบกล ทันทีที่ถูกถามถึงโรงเรียนชื่อที่นี่ก็เด้งเข้ามา ทั้งที่เคยได้ยินเมื่อนานมาแล้วเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่รัฐเชียกอ รัฐที่เป็นกลาง มีองค์คาที่เป็นร่างเทพปกครอง

                เจสเดินช้าๆมาที่ประตูขนาดยักษ์ เธอยื่นใบสมัครที่เขียนข้อมูลปลอมๆลงไปให้ชายที่กล้ามเป็นมัดๆผมสีทองตัดเกรียนตาข้างซ้ายมีรอยบากพาดยาว ตาขวาสีเขียวหน้าบึ้งตึง

    “เจ้าน่ะอายุเท่าไร”ชายร่างยักษ์ที่หน้าประตูที่สูงเป็นสิบเมตรอันเป็นทางเข้าทางเดียวของกำแพง

    “สิบเจ็ด”โกหก... เผอิญตัวโต แบบว่าอยู่บ้านเลี้ยงดี

    “เจ้าอายุสิบเจ็ดเหรอ”ชายร่างยักษ์ถาม

    “ใช่ ทำไมเหรอ”เธอกอดอกถาม

    “โรงเรียนนี้เปิดรับตั้งแต่อายุสิบห้า”

    “แล้วอายุสิบเจ็ดไม่รับรึไง”ชายคนนั้นส่ายหน้า

    “ไอ้พวกอายุเกินส่วนใหญ่ กระจอกกว่ารุ่นเดียวกัน จนต้องมาสอบหลังคนอื่น”คำพูดของเขาทำเอาเธอคิ้วกระตุก เธอเลยดึงคอเสื้อยักษ์นั่นลงมา ต่ำและพูดเสียงเย็นว่า

    “เสียใจ ที่ข้าไม่ใช่ไอ้พวกนั้น แม่ข้าป่วย เพิ่งเสียไปเดือนก่อน”แหลน่า แม่หายไปนานแล้ว ไอ้ยักษ์นี่กระตุกเส้นโหดเองนะ ฉันไม่เกี่ยว(เอ๊ะ ยังไง)

                ชายยักษ์นิ่งเงียบก่อนจะดึงคอตัวเองออกจากเงื้อมมือมัจจุราช(?)  และพูด

    “เข้าไป”เจสยิ้มยักไหล่และเดินเข้าไปภายในประตู

    ...

    ....

    “ไงครับ ชาร์ค ปีนี้มีใครน่าสนมั่งป่าว”ชายร่างสูงโปร่งสวมชุดองครักษ์สีเงิน ใส่ผ้าโพกหัวแต่ผมสีดำปิดหน้าไว้ส่วนหนึ่งชาร์ค ชายร่างยักษ์ที่นั่งเฝ้าประตู

    “อ้าว เพนิส อืมมม ปีนี้เห็นแววคนนึง เป็นคนห้าวๆ ดูท่าทางมีมารยาทอยู่หรอก แต่พอจี้จุดเท่านั้นแหละ เดือด! แต่ฝีมือคงพอมีให้ฉันกลัวอยู่หรอกมั้ง”

    “โฮ้! ปีนี่มีหนุ่มไหนมาเข้าตาหัวหน้าทหารองครักษ์น้า”เพนิสพูดอย่างอารมณ์ดีที่ปีนี้จะมีคนเก่งๆเข้าโรงเรียนบ้าง...ไม่ใช่ที่ผ่านมาไม่เก่ง แต่ว่าฝีมือโดดเด่นมีน้อยเท่านั้นเอง

    “ไม่หรอก ชื่อ...เจลอสก้า แอน ทีโบน เด็กสาวอายุสิบเจ็ด จากประเทศเทียร่า”

    “เด็กสาวจากเทียร่าเหรอ อืมมม เหอ! เฮ้ยย เด็กสาว! ผู้หญิงเหรอ!”เพนิสพูดเนื่อยๆ ก่อนจะขึ้นเสียงในประโยคหลัง

    “อื่อฮึ! เด็กสาวที่กล้ากระชากคอเสื้อข้าลงไปขู่”ชาร์คร่วมใบสมัครทั้งหมดเป็นปึกเดียวกับ เพราะเลยเวลารับสมัครแล้ว

    “ว่าเจ้าเถอะ เพนิส มาไงเนี่ย”

    “อ๋อ เบื่อเครียเดอรัสน่ะ”เพนิสกล่าวหน่ายๆ

    “เครียเดอรัส? อ๋อศาสตราจารย์วิชาพยากรณ์น่ะเหรอ”

    “ครับ คนนั้นเลย เห็นพูดพึมพำๆมาแต่เช้าแล้วว่าปีนี้มีธิดาแห่งความสุขมาเยือนๆ”

    “ข้าว่าเขาพูดจริง”ชาร์คเอ่ยเสียงเครียด ภาพในอดีต...หวนกลับมาในความทรงจำ

    “ธิดาแห่งความสุขที่ว่ากันว่าเป็นธิดาแห่งปฐพีน่ะเหรอ ท่านจะมาเยือนโรงเรียนไม่ได้มาตรฐานแบบนี้ทำไม” จริงดังว่า โรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้อยู่ในแดนใด แต่ตั้งอยู่ในชายแดนทุกภพ จึงมีคนจากทุกภพ ไม่ว่าจะเป็น สวรรค์ นรก มนุษย์ ภูต ชาววิญญาณมาเรียนกันให้ควัก และเนื่องจากบางภพไม่ถูกกันมาแต่ภพชาติใดไม่อาจรู้ เจอเป็นไม่ได้มีต่อยตลอด  ธิดาแห่งความสุขไม่มีทางมาเยือนที่แบบนี้แน่ๆ

    “ไอ้ที่ ท้าตีท้าต่อยแบบนี้ หาความสุขสงบไม่เจอหรอก”เพนิสพูดขำและได้รับการเป็นด้วยชาร์คทันที แต่เขาก็ยังรู้สึกขัดๆบางอย่าง

                สนามกีฬาที่อัดคนได้เป็นแสน(ทั้งที่ความจริงมันจุคนได้แค่หกหมื่น แต่พอเอาเข้าจริงไม่รู้อัดมาได้ไงเกือบครึ่ง) บัดนี้มีนักเรียนว่าที่ปีสองปีสามปีสี่หรือแม้กระทั่งนักเรียนที่จบไปแล้วแต่ใช้อภิสิทธิ์มานั่งดูการรับน้องอย่างคึกคัก สนามด้านล่างมีน้องๆที่สมัครเข้ามากำลังยืนแถวรอฟังกล่าวเปิดพิธีจากอาจารย์ใหญ่ และเริ่มสอบกันอยู่ ซักพักก็มีปีสองวิ่งขึ้นมาบอกว่าท่านเตรียมบทพูดอยู่ ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงจากกำหนดการในที่สุดก็มีชายชราเดินกุมไม้เท้าเดินต๊อกๆขึ้นเวที บางคนที่นั่งยองๆรอเวลา พอเห็นปุ๊บนั่งแหมะลงพื้นทันที ประมาณว่าอาศัยประสบการณ์ที่บ้านทำให้รู้ว่าแก่ๆแบบเนี้ยพูดยาว และพอมาที่มาที่ไมค์ก็จัดนู่นจัดนี่อีกสิบกว่านาที จนคนเกือบทั้งหมดทนไม่ไหวนั่งลงกับพื้น แต่พอดีเธอเป็นคนมีความอดทนทางร่างกายสูงผิดกับจิตใจที่มีความอดทนต่ำมาก เจสเองก็นับคนที่เหลือที่ยังยืนอยู่เพียงแต่เธออยู่หลังสุด จึงแค่กวาดตามองก็เห็นทั่ว คนที่ยืนอยู่รวมเธอก็ห้าคนพอดี และนอกจากเธอก็ยังมีผู้หญิงอีกคนนึง ชายชรานิ่งไปซักนิดนึงและเอ่ยเสียงกังวาน

    “เริ่มการสอบได้”และเดินต๊อกๆไปพร้อมกับคนประคองสองคน ประมาณว่าไอ้ที่พูดไปเมื่อกี๊ทำให้แกเหนื่อยมากๆ

    !!! เครื่องหมายอันนี้เด้งอยู่บนหัวทุกคน ถ้าจะพูดแค่นี้จะเตรียมบทพูดตั้งครึ่งชั่วโมงจัดนู่นจัดนี่อีกสิบนาทีทำไมฟะ! ทุกคนมีอาการเหวอไม่เว้นเจสที่คิ้วกระตุกหน่อยๆแต่ยังคงมาดเข้มสมเป็นแม่ทัพแม้จะไม่มีใครรู้ก็ตามเพราะเธอขอให้น้าปิดไว้ บวกกับเธอที่ไม่ค่อยเผยโฉมนักและไม่เคยบอกชื่อใครจึงไม่มีใครทราบว่าที่ยืนตรงนี้เป็นใคร หลังจากชายชราเดินจากไป ทุกคนที่มีอาการเอ๋อมากๆก็ได้ยินเสียงรุ่นพี่หัวเราะลั่นสนั่น พร้อมเป่าปากวี้ดวิ้วไปทั่ว ราวกับรอจังหวะนี้อยู่ ทำให้รู้ตัวกันว่าโดนเล่นซะแล้ว นี่ตกลงมาสอบเข้าโรงเรียนหรือมาโชว์ปาหี่กันเนี่ย!

    “เอ้าๆ เลิกเล่นๆ เตรียมตัวเดี๋ยวจะสอบกันแล้ว”ชาร์คพูดเสียงดัง แม้มุมปากจะกระตุกก็ตาม   เจสกดหว่างคิ้ว อยากบอกเหลือเกินว่าเธอไม่ได้เต็มใจเล่นแม้แต่น้อย

    “กฎการสอบก็ง่ายมาก”ชาร์คยิ้มเย็นให้สะดุ้งเฮือกเป็นแถว และชูมือขึ้น ในมือคือเหรียญหนึ่งเหรียญ เหรียญในกล่องด้านหลังลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้าผู้เข้าสอบทุกคน

    “เหรียญนี้สลักตราใบอิกซีดรากอน ตราประจำโรงเรียนเอาไว้ สิ่งที่ต้องทำคือ “เก็บ”มันมาจากคนอื่นๆ ที่แรกเหรียญจะเป็นสีเงิน แต่พอมีห้าเหรียญมารวมกัน มันจะเปลี่ยนเป็นสีทอง และจะต้องหามาได้สิบเหรียญ พูดง่ายๆ พวกนายจะต้องหามาให้ได้ห้าสิบเหรียญเงิน ส่วนจะหามาไง...ไม่จำกัด”ชาร์คพูดยิ้มเหี้ยม “ถึงเหรียญของตัวเองจะถูกแย่ง แต่ก็สามารถแย่งคืนได้”

     ก็สมกับเป็นโรงเรียนของคนที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่โรงเรียนทหารดี แต่ดูๆไปเหมือนโรงเรียนโจรแฮะ  เจสนึกในใจ

    “จำนวนคนสอบปีนี้มีสี่พันเจ็ดร้อยห้าสิบคน หมายความว่าจะมีคนผ่านไม่ถึงร้อยเท่านั้น หึๆ เริ่มได้”เมื่อสัญญาณดังขึ้น คนจำนวนเกือบห้าพันรีบแยกกันออกไปทั่วๆสนาม และทันทีที่สบตา...ก็เกิดการซัดเละ(?) เอ่อ..แค่สู้กันเท่านั้นแหละ เธอเองก็มีคนมาซุ่มๆมองๆอยู่ เธอปรายตานิดเดียวก็รู้แล้ว ไอ้แบบเนี่ยมีแต่แรง ไม่ค่อยมีสมอง

    น่าเบื่อเกินไปมั้ย เธอหาวหวอด หน้านิ่งแสดงความหน่ายนิดหน่อย แต่ตัดสินใจใช้มือใช้เท้าลุ่นๆนี้แหละ ชายคนแรกที่พุ่งมาเป็นชายแก่(แก่ปูนนี้ยังมาเรียนอีก)... เธอก็ไม่ค่อยมีสัมมาคารวะซะด้วยสิ เลยซัดมือเรียวๆแรงๆเข้ากลางหน้าผาก..สลบคาที่ กระดิกมือนิดนึงเหรียญก็ลอยมาเข้ามือและหายไปด้วยเวท ชายคนที่สองเป็นเด็กอ้วนๆ เธอก็ซัดไปกลางพุงกะทิเล่นเอากระเพื่อมไปทั้งตัว แล้วก็หงายหลังไปเลย เวทสายหนึ่งพุ่งมา เธอโดดขึ้นกลางอากาศ พอลงมาที่พื้น ก็เห็นคนถือไม้เท้าเวทหลายคนเล็งมาที่เธอ แบบว่ารุมเก็บคนเก่งกว่าก่อนแล้วค่อยเล่นตรงๆกับระดับเดียวกัน เจสก็ไม่ว่าอะไร เพราะเขาก็บอกเองนะว่าวิธีไหนก็ได้นี่ เธอเลยกระทืบเท้าลงพื้น วงเวทสีเขียวปรากฏบนพื้นคลุมเธอและนักเวทหลายคนเอาไว้ มีมือแห้งๆหลายสิบมือโผล่ขึ้นมาจากวงเวท จากนั้นก็...กรอบๆ แกรบๆ อ๊ากกกกกก โอ๊ยๆๆ ยอมแพ้ๆ ขอโทษ กลัวแล้ว(ไม่ขอบรรยาย มันโหดร้ายเกินไป) หลังจากวงเวทหายไป เสียงครวญครางดังระงมไปทั่วบริเวณ เลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่ว กลิ่นสนิมคะคลุ้งไปหมด เลือดบางส่วนกระเด็นมาติดเธอ สายตาเย็นชา ดวงหน้านิ่งเฉยทำให้เธอดูยมทูตที่มองเห็นความตายจนชาชิน

              คนทั่วบริเวณขยับห่างออกไปอีกนิด และไม่มีใครเข้ามาหาเธออีก ประมาณว่าสวยน่ากลัวที่กระทืบเท้าครั้งเดียวตาย(ไม่ตายนะ แค่สาหัส)แบบเนี่ย  พวกเขาไม่จีบเด็ดขาด แต่แน่นอนว่ามันยังไม่ครบห้าสิบคน เธอยังต้องหาเพิ่ม เจสเดินไปหาชายคนนึงที่ยังไม่มีคู่ต่อสู้ เธอเดินเข้าไปหา แต่ทันทีเขาเห็นว่าเธอเล็งเขาเอาไว้ก็รีบยื่นเหรียญให้ทันที

    “...”เจสรับเหรียญไว้งงๆ แววตาแสดงความดูถูกไม่ปิดบัง

    “ฉันมีแค่นี้จริงๆนะ”เขาพูดและรีบวิ่งหนี จากนั้นกลายเป็นว่าไม่ว่าเธอเดินไปหาใครก็ไม่มีใครยอมสู้ด้วยซักคนจนเธอเริ่มหงุดหงิด

    ปอดกันจริง มีแต่พวกขี้ขลาดทั้งนั้น เวลานี้เธอมีเหรียญทองครบสิบเหรียญแล้ว และนั่งแบบไม่มีใครหาเรื่องอยู่ข้างสนาม แม้จะมีมองมาเรื่อยๆ ก็ตาม เธอเห็นบางคนมีฝีมือสูงแต่ก็ไม่ได้เข้ามาท้า อาจเพราะเห็นเธอเป็นผู้หญิงเลยให้เกียรติก็ได้ เธอเลยนั่งว่างๆ มองคนอื่นซัดกันเละ แต่นิสัยขี้แกล้ง(อย่างรุนแรง)จึงออกมาทำงานแทนการเก๊กนิ่งๆเป็นทหารที่ถูกฝึกมาดี หรือเป็นมารสาวจอมเหี้ยมก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เธอเริ่มการว่างอักขระเวททีละตัว หน้าเริ่มแสดงยิ้มขี้แกล้งอย่างร้ายกาจ ไม่นานก็ปรากฏอักษรสีดำรอบสนาม มันเจือแสงสีดำออกมาแวบนึงและหายไป แต่ในสนามกลับมีมือที่มองไม่เห็นมาดึงเหรียญเงินห้าเหรียญไปรวมกันกลายเป็นเหรียญทอง บรรดาเจ้าของเหรียญทั้งห้าเหรียญจึงต้องเบนเข็มมาซัดกันทีเดียวห้าคนแทน

                หากจะมีใครว่างซักนิดก็จะเห็นเด็กสาวดวงตาสีเพอริดอต และผมสีอะเก็ตคนนึงไม่ถูกมนต์อันนี้ และนั่งทำหน้าเดวิลอยู่ริมสนาม แม้จะมีคนสงสัยเรื่องมนตรา แต่ก็คิดว่าคงเป็นคนที่ชมอยู่อยากทำให้การแข่งสนุกขึ้น

    คิดถูกแฮะที่ทำงี้ สนุกกว่าจริงๆ งั้นต่อไปไม่เก๊กแล้วดีกว่า เพราะเก๊กไปก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี เจลอสก้า แอน ทีโบนคิดในใจ หากมีใครได้ยินต้องหัวใจวายตายแหงๆ เจสยิ้มเดวิลมองคนที่ตอนนี้เหลือเก้าสิบห้าเด๊ะๆ

    “ครบจำนวนแล้ว ขอต้อนรับเข้าสู่โรงเรียน พรุ่งนี้จะมีพิธีเลือกห้อง ห้องไดมอนต์ ห้องรูบี้ ห้องเอเมอรัน ห้องแบล็กเพรียล และห้องสุดท้ายห้องอ็อบซิเดียน”ชาร์คพูดอยู่บริเวณหน้ามุข และเห็นว่าทั้งหมดตั้งใจฟังดีก็พูดต่อ

    “ทุกห้องจะแบ่งกันตามความเก่ง กลับไปพักผ่อนซะพรุ่งนี้พร้อมกัน สิบโมง”ชาร์คพูดจบก็หายไป รุ่นพี่ที่นั่งชมส่งเสียงเฮกันดังสนั่นกว่าที่ส่งมาตลอดเวลา เจสยิ้มเย็น และเดินออกกสนามโดยไม่มีคนเบียด(จริงๆคือม่มีใครเฉียดใกล้ต่างหาก)แต่หากมีสายตาคู่หนึ่งมองอยู่

    ปีนี้มีคนน่าสนใจด้วยแฮะ ว่างๆแวะไปเล่นด้วยดีกว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×