ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Doctor’s Order [KrisHan]

    ลำดับตอนที่ #3 : 3. ตื่นสิคริส ตื่นนนน

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 57


    Doctor’s Order

    ตอน....  ตื่นสิคริส ตื่นนนน

                             Twitter: Tag #ฟิกหมอหล่อ

                                        © www.krishanmate.co.nr

     

     

     

     

    ขอแท็กกกกกกกก  #ฟิกหมอ  ด้วยนะจ๊ะ  ฮือออออออออออ

     

     

     

     

     

     

    “ลู่หานอ่า..... ไม่ไปกินข้าวด้วยกันจริงๆเหรอ”  พอออกจาก OR ได้ อี้ฝานก็ปรี่เข้าไปยืนข้างๆทันที

    ลู่ห่านไม่หันมามองหน้าตามเคย ตั้งหน้าตั้งตามองลิฟท์ที่กำลังวิ่งขึ้นมา ด้วยหวังว่ามันจะกระโชกโฮกฮากขึ้นมาเร็วกว่าปกติ 

     

    “หานๆเป็นใบ้เอ่ออ ตอบฝานๆหน่อยดิ” ไอ้ท่าทางงุ้งงิ้งนี่อะไร ลู่หานสุดจะเพลีย เบื่อมากกกก เหนื่อยมากก และเซ็งมาก

    ออกไปยืนไกลๆหน่อยได้มั้ย รำคาญ!

     

    “หานๆ ไม่พูดจะปล้ำแล้วนะ” ไม่ว่าเปล่าทำท่าจะกระโจนเข้าใส่

    “เฮ้ย!” ลู่ห่านอุทานเสียงดัง ก่อนรีบถอยห่างในทันที

    ส่วนอี้ฝานได้แต่หัวเราะอย่างพอใจ

     

    “ฮ่าๆ  กลัวเหรอ? ไม่ต้องกลัวหรอก  อี้ฝานไม่ปล้ำลู่หานหรอก หมายถึงแค่ตอนนี้อะนะ”ยิ้มหวานตบท้ายคำพูด

     

    “ไอ้!     ฮึ้ย!” ลู่หานที่คิดคำด่าไม่ออก  ได้แต่สบถอย่างหงุดหงิด  พอลิฟท์ลงถึงชั้นหนึ่งก็จ้ำอ้าวออกไปทันที

    แต่อี้ฝานไม่เห็นจะแคร์ ลู่หานรีบขนาดไหนก็ทันครับ  ความสูงมันต่างกัน

     

    “หานๆแวะมินิมาร์ทก่อน” ไม่พูดเฉยๆยังส่งมือไปคว้าแขนลู่หานไว้  ตอนแรกลู่หานกะจะสวดใส่เต็มที่ แต่พอเห็นว่าในร้านมีบรรดาคุณแพทย์ทั้งหลายที่อยู่เวรดึก มาหาซื้อของกินก็ต้องงับปากลง  รักษาภาพจน์ที่ไม่ค่อยจะมีนิดนึง

     

    “บอกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องลาก” เมื่อพูดเสียงดังไม่ได้ ลู่หานก็หันไปบ่นเบาๆให้อี้ฝานได้ยินคนเดียว  

     

    “ถ้าบอกแล้วก็ไม่หยุดหรอกเชื่อดิ อย่างลู่ห่านต้องใช้กำลัง”

     

    “พูดงี้หมายความว่าไง” หันไปหวีดใส่อีกฝ่าย    แต่อี้ฝานกลับหันไปเปิดตู้แช่แล้วหยิบเอาข้าวกล่องออกมา

    ก่อนหันมาทางลู่หาน

     

    “ก็ตามที่พูดแหละครับ  ว่าแต่ลู่หานกินอะไร เดี๋ยวผมเอาไปให้พนักงานเวฟให้”

     

    “ไม่หิว ไม่กิน” ตอบแบบไม่ต้องคิด ก่อนทำท่าจะเดินหนีอีก จนอี้ฝานต้องดึงแขนอีกฝ่ายไว้

     

    “อย่าดื้อดิ ถ้าดื้อมากๆจูบโชว์กลางร้านนี่แหละ  ไม่ขู่ด้วย ลู่หานก็รู้ว่าเราทำจริง”  พูดพลางส่งสายตาแสดงถึงความจริงจังที่จัดการอีกฝ่ายอย่างแน่นอน ถ้าไม่ยอมทำตาม 

    ลู่หานมองหน้าอี้ฝานก่อนสบถใส่เบาๆอย่างไม่พอใจ    แต่สุดท้ายก็ต้องยอมลงให้

     

     

    “ตามใจคุณเลย อยากซื้ออะไรก็ซื้อเลย เงินคุณนิ่”  เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ประชดแทน  แต่อี้ฝานก็หาได้สะทกสะท้านไม่

    หยิบข้าวกล่องแล้วเดินอาดๆไปให้พนักงานเวฟให้ ก่อนเดินกลับมายิ้มแป้นให้ลู่หานที่ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าตู้แช่

     

    “กินนมมั้ย? ลู่หานชอบกินรสไหน”

     

    “แล้วแต่คุณ ก็เงินคุณ” ยังย้ำคำเดิม โดยไม่สนใจที่จะแสดงความคิดเห็นสักนิด   อี้ฝานเงยหน้าขึ้นมามองลู่หาน

    ก่อนพูดต่อ

     

    “ลู่หานตามใจทุกคนแบบนี้ปะครับ” 

     

    “ถามทำไม”

     

    “ก็ถ้าตามใจผมคนเดียวแบบนี้  ผมก็ได้ใจแย่เลยนะ  ลู่หานจะลำบากเอานะ” ยิ้มกรุ่มกริ่มประกอบคำพูดได้อย่างน่าหมั่นไส้  จนลู่หานอดไม่ได้ที่จะสบถใส่

     

    “พูดมาก รีบๆเลือกได้มั้ย ผมง่วงแล้ว” ตัดบทไปดื้อๆ ก่อนพาตัวเองไปเดินที่มุมขนม  ก็รู้อยู่อะนะว่าร้านมันแคบ

    จะเดินไปมุมไหนสายตาของอี้ฝานก็มองมาเห็นเขาอยู่ดี  แต่ก็ดีกว่าไปยืนใกล้ๆคนพรรคนั้นในเวลาแบบนี้

    มันชวนหงุดหงิดจริงๆเหอะให้ตาย

    .....

    ...

    .

    .

     

     

     

     

     

     

     

    “พี่คริส.........ยาฮูววว พี่คริสสสส     พี่คริสสส  โทรศัพท์ดังคร๊าบบ  มันดังเป็นชั่วโมงแล้ววว............ เฮ้อออออ”  เมื่อเรียกให้ตาย เขย่ายังไงรุ่นพี่ร่วมห้องก็ยังนอนอุตุท่ามกลางเหล่าตุ๊กตาแสนรัก  ก็ไม่มีท่าทีที่จะตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในมือถือแม้แต่น้อย

    จนต้องเดือดร้อนจางอี้ชิงที่กำลังหลับฝันดีตื่นขึ้นมาปลุกแทน

     

     

    “วันหยุดแท้ๆ  ทำไมต้องรีบตื่นวะ   เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนยังต้องมาตื่นแต่เช้าอีก” บ่นงึมงำสไตล์อี้ชิง แต่สุดท้ายก็ต้องลุกเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟันจนได้

    ………

     

     ..WOW FANTASTIC BABY
    DANCE I WANNA DAN DAN DAN DAN DANCE FANTASTIC BABY
    BOOMSHAKALAKA x3 DAN DAN DAN DAN DANCE

     

    “โอ้ยยย มันจะอะไรนักหนา”  ไม่ทันที่อี้ชิงจะก้าวพ้นประตูห้องน้ำก็ได้ยินริงโทนบาดแก้วหูดังสนั่นในทันที  ไม่ใช่มือถือใครที่ไหนก็พี่เมทตัวดีของเขาที่นอนหลับไปรู้เรื่องตามเคย  จะนอนดีไปไหนคร๊าบบบ ตื่นเว้ยย ตื่นนนนน

     

    อี้ชิงที่ทนไม่ไหวกับริงโทนเสียงดังสนั่น เดินไปหยิบมือถือของพี่ชายขี้เซา  ซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าใครโทรมา

    เพลงนี้มีคนเดียวเท่านั้นแหละ

     

    -ไอ้แพนบ้า-  นี่ไง  ไอ้น้องบ้าจื่อเทานั่นเอง   

     

     

    “ไอ้พี่คริสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส”  เสียงแปดหลอดตะโกนเหมือนข้ามฟากสนามฟุตบอลมา แต่มันดันกรอกเสีย

    งใส่โทรศัพท์   จนอี้ชิงหูดับไปช่วง   โอ้ยยย นี่มันเวรกรรมอะไรของกูวะ อยากจะบ้าตาย

     

    “พี่ๆๆๆ นี่มันกี่โมงแล้ว ไหนว่าจะเสนอหน้ามา*Roundแต่เช้า นี่พี่รู้มั้ยว่า...”   ยังไม่ทันที่จื่อเทาจะได้ร่ายยาวกว่านี้

    อี้ชิงต้องแหกปากเพื่อเบรก ต้องเบรกมันไม่งั้นแก้วหูขาดได้ไปให้หมอหูส่องหูเล่นแน่ๆ

     

    “หยุดหยุดเดี่ยวนี้จื่อเทา นี่พี่อี้ชิงไม่ใช่อี้ฝาน!!”  พยายามตะเบ็งเสียงตะแหง่วของตัวเองให้ดังเท่าที่จะสามารถทำได้

    จนอีกฝ่ายที่รัวยาวหยุดชะงักในทันที

     

    “อ้าว... โทษพี่ นึกว่าพี่คริสผมเลยใส่ซะยาวเลย” เอ่ยขอโทษเสียงอ่อยๆ

     

    “ก็เอ้อดิ  พี่แกหลับแบบหลับอะเข้าใจมั้ย  หลับแบบไม่ได้ยินเสียงห่าอะไรเลย ถ้าระเบิดลงคงตายแบบไม่ต้องสงสัย”

    อี้ชิงที่ดูอึดอัดระบายยาวใส่จื่อเทาที่ตอนนี้ต้องงับปากเป็นผู้ฟังที่ดี

     

    “เฮ้ย จริงดิ  โถ่เอ้ยยย ไหนบอกเราว่าจะรีบมา*Roundด้วย ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ และเนี่ยก็กำลังจะเริ่มกันแล้วด้วย พี่คริสแม่งไม่จริงจังวะ  รู้งี้ไม่เชียร์หรอก” เปลี่ยนเป็นจื่อเทาบ่นยาวแทน  อี้ชิงที่รับฟังก็พยักหน้ารับงึกงัก แต่สุดท้ายก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ 

     

    “แกอยู่ศัลย์ทำไมพี่คริสต้องไปRound ด้วยละ”  อี้ชิงที่เป็นเดนท์หมอเด็กก็ได้แต่ถามอย่างสงสัย ถึงเขาจะไม่รู้เรื่องศัลย์มาก

    แต่ก็ไม่คิดว่าศัลย์กับออโธจะRound ร่วมกันหรอกนะ

     

    “ก็เพราะพี่ลู่หานน่ะสิ”  อ๋อววววววว   รู้ละ   อี้ชิงเข้าใจแจ่มแจ้งละ  แม้แต่คนที่มุดอยู่ในกะลาก็ต้องรู้ว่าพี่คริสเดนท์สุดหล่อจากออโธตามขายขนมจีบพี่ลู่หานมานานนนนนเหลือเกิน  แถมจีบแบบไม่อายที่ใครจะเอาไปนินทาว่าเป็นตุ๊ดเป็นเกย์  ก็   เคยถามนะว่าเปิดเผยงี้ไม่อายเหรอ  พี่แกก็ตอบซะหล่อเลย  อายทำไม ก็ใจมันชอบอะ จะให้ปฏิเสธมันทำไม่ได้หรอก’  วันนั้นแค่วันเดียวเลยที่เห็นว่าพี่แกหล่อมากๆ  แต่วันนี้ขอทีเถอะ ขอถีบสักทีได้มั้ยคร๊าบบบ

     

    “แล้วเอาไงต่อ” 

     

    “พี่ปลุกให้หน่อยดิ เดี๋ยวหาว่าผมไม่ตามอีก”

     

    “แล้วถ้าพี่ปลุกแล้วไม่ตื่นละ”

     

    “ก็บอกไปว่า พี่ลู่หานเดินแก้ผ้าเข้ามาในห้อง เดี๋ยวก็ตื่นเองเชื่อดิ  ฮ่าๆ”  เวลานี้มันยังมาหัวเราะ เดี๋ยวจะหัวเราะไม่ออกถ้าพี่ลู่หานมาได้ยิน

     

    “ขำมากปะสัด เอาดีๆ”

     

    “โหยยย  ผมล้อเล่นน่ะ  แค่พี่เอ่ยชื่อพี่ลู่หานเดี๋ยวเฮียแกก็ตื่นแล้ว   เฮียแกเซนส์กับชื่อนี้ เชื่อผม” เชื่อได้เหรอ?

    หน้าตาแกนี่โคตรจะไม่น่าเชื่อถือเลย  หน้าตาตัวโกงมากๆ

     

    “พี่ลู่หาน...”  อี้ชิงเอ่ยชื่อเบาๆ ด้วยโทนเสียงธรรมดาเลย  ให้พาไปสาบานกี่ที่ก็ได้ว่าเขาไม่ได้พูดเสียงดังแต่ประกาศใด   แต่!!!   ไอ้พี่เมทครับ!   ไอ้พี่ชายที่นอนหลับอืดเป็นศพอยู่ เมื่อกี้จู่ๆก็เปิดเปลือกตาขึ้น แล้วกระเด้งขึ้นมานั่งเฉยเลย

     

    “ลู่หานอะไร?”   โอ้ยยยยยยยยย ไปบอกใครใครเขาจะเชื่อ ถึงมีคนมาบอกเขาเองก็ยังไม่เชื่อถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง

    พลังรักนี่แม่งสุดยอดจริงๆ  จะสุดยอดกว่านี้ถ้าไอ้พี่เมทตรงหน้ารักเดียวใจเดียวมาตลอด แล้วไม่เคยม่อใครนอกจากพี่ลู่หานเลย แต่แม่งไม่ใช่วะ นี่มันม่อได้ม่อ จีบได้จีบ เอาได้เอา  คือแบบ....  เกือบหล่อแล้วไอ้พี่บ้า  ก็แค่เกือบละวะ

     

    “นี่มึงเป็นเหี้ยไรอี้ชิง มึงแอบด่ากูในใจเหรอ  แล้วลู่หานอะไร ทำไมมึงไม่ตอบกู” ตื่นมาก็หัวเสียในทันที ซึ่งคนจะหัวเสียควรเป็นผมปะคร๊าบบ ไม่ใช่เฮีย

     

    “จื่อเทาโทรมาตามพี่ไปRound” 

     

    “ตามกูไปRound?”  มีการทวนคำด้วยใบหน้าสงสัย   สงสัยทำแป๊ะไร พี่ไม่ได้ตกลงไว้กับมันเหรอ

     

    “กับพี่ลู่หาน”  จบคำเท่านั้นแหละ อี้ฝานกระเด้งจากเตียงอย่างรวดเร็วเพื่อวิ่งเข้าในห้องน้ำ

     

    “ไอ้สัดทำไมไม่พูดให้เร็วกว่านี้”    

     

    กูผิด?  อี้ชิงได้แต่ชี้นิ้วใส่ตัวเองอย่างรันทดชีวิต   เอ้อใช่สิวะ กูไม่ได้ชื่อลู่หานนิ่ ผิดแม่งทุกอย่าง โถ่เอ้ย!

    บ่นพึมพำไปมา ก่อนทรุดตัวลงบนเตียงนอนแล้วกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างคับแค้นใจ..........

    ..........

     

     

     

     

     

     

     

    ...

     

    ตึกๆ.........    ทันนนนนนนนนนนน

     

    แม่งต้องทัน!

     

     

    ตึกๆ  ....... 

     

    เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นหินอ่อนดังเป็นจังหวะอย่างเร็ว  โชคดีที่เป็นเช้าตรู่ของวันหยุด คนที่รพ.เลยน้อยเป็นพิเศษ

    มีเพียงแต่เจ้าหน้าที่รพ.ที่แหกขี้ตามาทำงานแต่เช้า ไม่ก็เดินสะโหล่สะเหลลงเวรมา อี้ฝานที่ตั้งอกตั้งใจวิ่งเร็วประหนึ่งวิ่งราว

    (จริงๆก็รีบไปราวแหละวะ) ไม่สนใจทักใครทายหน้าไหนทั้งสิ้น ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียวจนมาถึงหน้าตึกเป้าหมาย

    เบรกเอี๊ยดในทันที นี่ถ้ามีเอฟเฟคประกอบคงมีควันโขมงตามมาแน่นอน  ก่อนเดินฉับๆเข้าไปในกลุ่มก้อนหมอราว4-5คนที่ยืนหน้าง่วงๆกันอยู่ ยกเว้นก็อยู่คนแหละตาแป๋วเชียว น่าร๊ากกกกกกกกก

     

    “ลู่หานอ่า....  อรุณสวัสดิ์” พยายามจัดผมเผ้าที่กระเซิงให้เข้าที่  แล้วทักทายขวัญใจเสียงหวาน  เรียกสีหน้าสยองขวัญจากบรรดาหมอน้องทั้งหลายได้  แต่..ก็อีกนั่นแหละก็ยังมีมารผจญอีกคนที่ยืนจ้องเขาตาเขียวปั๊ด  เออ..กูไปเหยียบตาปลามึงเหรอฟาคคค  ไอ้หูกาง!

     

    “มาทำไม” ลู่หานถามเสียงเรียบโดยไม่มองหน้าอี้ฝานแม้แต่น้อย  เรียกเสียงหัวเราะเบาๆอย่างพอใจจากผู้ชายตัวสูงอีกคน

    ปาร์คชานยอลถึงแม้จะเป็นรุ่นน้อง แต่ก็ดูไม่ค่อยจะให้ความเคารพอี้ฝานเท่าไหร่นัก

     

    “ก็มาทวงความเป็นธรรมไง เมื่อคืนลู่หานทำอะไรเราไปทำไมไม่รับผิดชอบ” พูดเสียงกระเง้ากระงอดได้ชวนเท้าสั่นระริกยิ่งนัก   ลู่หานสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามระงับโทสะที่พุ่งพล่านอย่างน่าหวาดหวั่น   

     

    “อู๋อี้ฝาน  ผมก็โมโหเป็นนะ”  ตึ้ดดดดดดด  สัญณาณเตือนอันตราย อี้ฝานรู้ตัวในทันทีว่ามุขแม่งแป็กแบบช่วยไมได้

    แถมไปยั่วโมโหเขาอีกจึงพยักหน้ารับอย่างหงอยๆ ก่อนกระดื้บไปยืนข้างน้องรัก

     

    “จื่อเทาอ่า.....  ช่วยเฮียด้วย” เกาะแขนน้องแน่น ก่อนสาวเท้าเดินตามทีมลู่หานเข้าไปในตึกคนไข้ช้าๆ 

    จื่อเทาพยายามแกะแขนพี่ชายที่แทบจะขย้ำกระดูกแขนเขาให้แหลก

     

    “ให้ผมช่วยตัวเองก่อนได้ปะละ  ปล่อยดิพี่  เดี๋ยวผมต้องไปตอบคำถามพี่สะใภ้แล้ว” พยายามแกะปลิงออก

    ก่อนหยอดให้อี้ฝานเคลิ้มแล้วไหวตัวไป  ซึ่งก็ได้ผลอี้ฝานหลงเคลิ้มไปชั่วครู่ ก่อนตั้งสติเดินตามทีมเขาไปอย่างหวาดๆ

     

    ลู่หานพาทีมเดินRound คนไข้ทั่วตึก พูดคุยทักทายคนไข้ซักถามอาการ ก่อนเขียนออเดอร์เพื่อสั่งการรักษา  โดยที่จื่อเทาเดนท์หนึ่งประจำตึกต้องเป็นผู้รายงานแล้วตอบคำถามทุกอย่างที่ต้องการรู้  และดูท่าวันนี้จื่อเทาจะโดนรักมากเป็นพิเศษ

    เพราะลู่หานถามทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆแบบไม่มีอ่อนข้อ ไม่มียกเว้น จนจื่อเทาแทบอยากจะเอาหน้าหมุดลงไปใต้เตียงคนไข้ให้มันรู้แล้วรู้รอด

     

    “สวัสดีป๋ายเซียน”  และแล้วก็ราวมาถึงตัวปัญหาของเมื่อคืนนี้  เด็กหนุ่มที่โดนผ่าไส้ติ่งออกไป มองหน้าคุณหมอที่ตัวเองชมว่าน่ารักแบบเบลอๆ  เพราะเมื่อคืนป๋ายเซียนงอแงมากไปหน่อยเลยโดนจัดยาแก้ปวดจนหลับสบายแบบไม่มีการสะดุ้งตื่น

     

    “อ่า....ดีครับพี่หมอตาหวาน” พยายามยันตัวขึ้นมานั่ง แต่เพราะตึงแผลเลยลุกอย่างทุลักทุเล  

     

    “ค่อยๆนั่ง  แผลมันยังตึงๆอยู่ใช่มั้ยละ   ชานยอลไปช่วยพยุงป๋ายเซียนหน่อยสิ”  ลู่หานหันไปสั่งน้องตัวสูงข้างๆ

    ชานยอลได้แต่ทำหน้าประมาณว่าทำไมต้องเป็นผม  แต่สุดท้ายก็ต้องไปประคองป๋ายเซียนอยู่ดี ซึ่งเจ้าตัวพอเห็นคนที่มาประคองก็เบ้ปากคว่ำทันที

     

    “ขอเป็นพี่หมอหล่อคนนั้นแทนได้มั้ยเนี่ย”  แม้จะเบลอๆแต่ก็ไม่สิ้นฤทธิ์ ตาเรียวเล็กจ้องไปทางอี้ฝานอย่างเจาะจง 

    ชานยอลที่ไม่เต็มใจอยู่แล้วได้แต่บ่นพึมพำ

     

    “มีคนช่วยก็ดีแล้ว อย่ามาเรื่องมากสิครับ”  อยู่ต่อหน้าผู้คน  แถมตอนนี้ตัวเองยังมีศักดิ์เป็นแพทย์ผู้ให้การรักษา จึงจำเป็นต้องอดทน  นี่ขนาดอดทนแล้วนะยังพูดได้ขนาดนี้

     

    “โอ้ย!!!  เจ็บ  ผมเจ็บแผลจังเลยครับ”  ไอ้แผลเนี่ยไม่เจ็บเลยสักติ๊ด จะมีแค่ตึงๆคันๆ แต่ขอสักหน่อยเหอะ หมั่นไส้จัง

    เมื่อได้โอกาสก็ขอสักทีเถอะ

     

    “ป๋ายเซียนเป็นไงบ้าง  ไหวมั้ย”  ลู่หานรีบปรี่เข้าประคองอีกคน   ป๋ายเซียนเลยได้ทีทิ้งน้ำหนักไปทางลู่หาน

     

     

    “ไหวครับๆ ป๋านเซียนทนได้    .... คนหมออี้ฝานสุดหล่อดึงป๋ายเซียนขึ้นนั่งได้มั้ยครับ” ไม่ว่าเปล่ายื่นมือไปตรงหน้าที่อี้ฝานยืนอยู่   อี้ฝานยิ้มบางๆก่อนยื่นมือไปฉุดอีกฝ่ายขึ้นมานั่ง ซึ่งง่ายดายเหลือเกิน ไร้ความเจ็บปวด  จนลู่หานต้องขมวดคิ้วมอง

    ส่วนชานยอลน่ะเหรอ อยากจะดีดหน้าผากป๋ายเซียนด้วยความหมั่นไส้สุดๆ

     

    “ผมว่าป๋ายเซียนคงเจ็บหนักมากนะครับพี่ลู่หาน  เรางดน้ำงดอาหารต่ออีกวันดีกว่าครับ”ชานยอลพูดด้วยเสียงดังฟังชัด

    จนป๋ายเซียนหันขวับในทันที

     

    “ไม่ได้นะ!   ผมหิวแล้ว” พูดเสียงดังใส่ไม่แพ้กัน

     

    “แต่ว่าอาการป๋ายเซียนยังไม่ดีเลยนะ ยังเจ็บอยู่มากๆใช่มั้ยละ วันนี้ลงเดินไม่ได้ กินไปจะท้องอืดแล้วลำบากเปล่าๆ

    งดไปอีกวันน่าจะดีกว่านะ”  ชานยอลที่หาเหตุผลที่คนทั่วๆไปอาจตอบตกลงเพราะเชื่อในคำแนะนำ ซึ่งจะทำให้การรักษาได้ผลดีที่สุด   แต่กับป๋ายเซียนแล้วนี่มันแกล้งกันชัดๆ  เห็นๆเลยกำลังโดนแกล้ง

     

    “ไม่นะพี่หมอตาหวาน ป๋ายเซียนหิวแล้วจริงๆ แสบท้องไปหมดแล้ว” พยายามหันไปร้องขอหาความเห็นใจจากลู่หาน

    แต่ยังไม่ทันที่ลู่หานจะได้ตอบ  ชานยอลก็ชิงพูดขึ้นก่อน

     

    “แสบก็ท้องก็ฉีดยาลดกรดช่วยได้  เดี๋ยวอาการก็ดีขึ้นเอง”  ถ้าอยู่ข้างนอกป๋ายเซียนจะร้องใส่หน้า แล้วชกให้หน้าหงายเลย  แต่นี่อยู่ในชุดคนไข้แถมยังไม่ค่อยมีแรงอีก  ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พี่หมอหูกาง!

     

     

    “ไม่นะครับ  ป๋ายเซียนหิว... ป๋ายเซียนเดินได้เองแน่ๆวันนี้  ป๋ายเซียนทำได้นะครับพี่หมอตาหวาน  พี่หมออี้ฝานสุดหล่อ”

    พอได้ยินคำว่าสุดหล่อคนบ้ายออย่างอี้ฝานก็ยิ้มกว้างทันที

     

    “เรียกพี่หมอคริสก็ได้รับ” ยิ้มหล่อใส่เต็มที  จนป๋ายเซียนยิ้มหวานตอบ

     

    “ครับพี่หมอคริสหล่อสุด”  ก่อนที่สองคนจะสร้างโลกเรามีเพียงสองมากไปกว่านี้ ลู่หานก็กระแอมขึ้นขัด

     

    “ตกลงว่าให้ป๋ายเซียนกินตาม Step Diet * ได้นะ  จื่อเทาออเดอร์ด้วย ชานยอลก็อยู่ช่วยน้องๆนะ พี่ไปละ” สั่งๆเสร็จก็เดินดุ่มๆออกจากทีมไปในทันทีจนอี้ฝานต้องรีบวิ่งตามไป    โดยมีชานยอลที่กำลังจะสาวเท้าตามไป แต่โดนจื่อเทารั้งแขนไว้ก่อน

     

    “พี่จะไปไหนครับ” ถามเสียงเรียบ แต่ชานยอลหันมามองอย่างไม่พอใจ ก่อนตอบเสียงแข็ง

     

    “ก็ตามพี่ลู่หานไปสิวะ”

     

    “แล้วพี่จะตามไปทำไมครับ  ไม่ได้ยินเหรอว่าพี่ลู่หานสั่งอะไรไว้”  พอจบคำชานยอลก็ได้แต่สบถเบาๆอย่างไม่พอใจ

     

    “คิดจะอู้งานละสิท่า” ไม่ใช่เสียงใครทีไหน ก็เสียงคนไข้ตัวแสบของลู่หานนั่นเอง   จากตอนแรกชานยอลไม่ได้สนใจที่จื่อเทารั้งไว้หรอก แต่พอเจอคำพูดของป๋ายเซียนก็เลยไม่คิดจะตามไปแล้ว  เพราะคำของป๋ายเซียนโคตรจะสบประมาณเดนท์ศัลย์คนขยันอย่างเขา   คนอย่างเขาไม่เคยอู้ ไม่อย่างงั้นไม่กล้าเรียนศัลย์หรอก

     

    “ผมไม่เคยอู้งาน ไม่เคยเป็นตัวถ่วงใคร แล้วผมก็ไม่ได้แสแสร้งแบบใครบางคนด้วย” ตบท้ายด้วยความเหน็บแบบตรงๆ

    ต่อหน้าป๋ายเซียนที่มองชานยอลตาเขียว

     

    “ขอให้ดีอย่างปากว่าละกันนะครับ”   ถ้าเป็นการ์ตูนคงมีเสียงเปรี๊ยะๆดังขึ้น พร้อมมีเปลวไฟพุ่งออกมาจากสองร่าง   ทุกคนได้แต่ถอยออกมาจากสองคนนั้น ก่อนหลบเข้าเคาท์เตอร์อย่างเนียนๆ

    ..

    .

    ..

     

     

    END 3

    ..

    .

     

    *Round (Round) ward – คือการที่แพทย์เข้าไปตรวจอาการผู้ป่วยในตึก(ward) แล้วสอบถามอาการ เขียนคำสั่งการรักษาอะไรประมาณนี้เน้อ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเช้าหรือช่วงเย็นก็แล้วแต่แพทย์แต่ละคน   ซึ่งส่วนมากแพทย์มักจะราวตอนเช้า และถ้าเป็นโรงพยาบาลมหาลัยมักจะไปกันเป็นทีมซึ่งอาจรวมอาจารย์ด้วย  ซึ่งอาจารย์และพี่ๆจะไปช่วยน้องเดนท์หนึ่งดูว่าให้การรักษาถูกต้องหรือเปล่า เป็นการสอนไปในตัว 

    *Step diet –  ในเรื่องคนไข้หลังผ่าตัดจะให้งดอาหารไว้ก่อน  พอหมอเห็นว่าคนไข้อาการดีขึ้น สามารถกินข้าวได้

    ก็เริ่มสั่งให้กิน  แต่การกินจะเป็นไปตามลำดับเพื่อให้ร่างกายปรับตัว ก็จะเป็น จิบน้ำเปล่า-อาหารเหลว เช่นน้ำหวาน- อาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก และสุดท้ายก็อาหารธรรมดา   แต่ถ้าใครเคยมีญาติหรือตัวเองผ่าตัดช่องท้อง บางครั้งจะการกินอาการเหลวจะให้กินนม โอวัลตินได้  ซึ่งจริงๆแล้ว นมไม่ใช่อาหารเหลว เขาจัดเป็นอาหารอ่อน แต่ก็นะ ตำรากับความจริงก็หยวนๆกันมั้ง  หุหุ

     

     

     

    -คำธิบายยาวเหยียดมากกก เหมาะสำหรับคนที่อยากรู้เรื่องและพร้อมจะอ่าน 55555 

    หายหัวไปนานเนอะ  ก็เค้างานยุ่งอะ ยุ่งมากๆ เพราะหยุดก็นอนตายสมองเลยตายตามไปด้วย 5555

    กลับมาละนะ จะหายหัวอีกหรือเปล่าไม่รับปาก แต่อยากบอกว่าเค้าคิดพล็อตไว้หลายตอนเลยนะ  รอแค่สภาพอำนวยจะใส่ๆ แต่ตุนไว้2-3 ตอนเลยแหละ  อิอิ    อ่านแล้วเมนต์ด้วยนะ  รักทุกคนนนนนนนนนน

    นี่ทวิตเรา เผื่อใครอยากคุยด้วย  @Ryuxxs 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×